การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก ของมิตรจากต่างพิภพ และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก

pakung · 14 มีนาคม 2010

นาซ่าอาจจะมีแผนการรองรับไว้แล้ว ติดต่อนาซ่าเลย 55 พูดจริงนะเนี่ย

dalink · 14 มีนาคม 2010

โอ้ มีบทความแปลจากจารไก่ด้วย

น่าสนใจไม่แพ้กัน

ดาร์ลิ้งตามมาให้กำลังใจด้วย

อนุโมทนาด้วยค่ะ

:z2

สู้ สู้ เย้ เย่ นักรบแห่งแสงสว่าง

____________________________

คุณมีแสงสว่างในใจหรือเปล่าคะ

แม่นายมล · 14 มีนาคม 2010

เรียน คุณชยุต

ตอนที่ 3 ไม่มี
มิทราบด้วยเหตุผลใด
จะลืม หรือ ละเอาไว้

zipper · 14 มีนาคม 2010

sutatip_b said: ↑

กลุ่ม ผู้ยึดครองไม่ต้องการให้มนุษย์ผู้อยู่อาศัยบนโลกรู้ว่าได้เกิดอะไรขึ้น เผ่าพันธุ์ที่ไม่มีข้อมูลจะถูกควบคุมได้ง่ายกว่า แสงสว่างคือข้อมูล ในขณะที่ความมืดมิดคือความไม่รู้ (รึจะหมายถึงวิชชา อวิชชา ผู้แปล) กลุ่มเหล่านี้จึงขับไล่แสงสว่างออกไป (โดยการสร้างมลพิษขึ้นในบรรยากาศโลกแสงจากจักรวาลจึงส่องเข้ามาไม่ได้ ผู้แปล มาจากวิดีโอถัดไป) โลกจึงกลายเป็นดินแดนในอาณัติปกครองของท่านเหล่านั้น ผู้ที่ได้เข้ามาบนโลกเมื่อ ๓๐๐,๐๐๐ ปีก่อน และเป็นผู้ที่ถูกกล่าวถึงในคัมภีร์ไบเบิ้ล โดยชาวบาบิโลเนี่ยน และชาวสุมาเรี่ยน และอักขระอื่นๆ ทั่วโลก (ด้วยความยกย่อง แปลว่าเราหลงไปสวามิภักดิ์ฝ่ายอธรรมที่แปลงมาโดยไม่รู้ตัวหรือ ผู้แปล) ท่านเหล่านี้เปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอของมนุษย์ทำให้มนุษย์ส่งคลื่นในความถี่ช่วง หนึ่งๆที่เป็นพลังให้แก่ท่านเหล่านั้น และทำให้ท่านเหล่านั้นดำรงอำนาจอยู่ได้ (หรือที่หลอกให้อีฟกินแอปเปิ้ล ผู้แปล)

มนุษย์ดั้งเดิมมีความล้ำเลิศ มีดีเอ็นเอสิบสองสายที่ได้รับการถ่ายทอดจากอารยธรรมจักรวาลหลายเผ่าพันธุ์ เมื่อนายใหม่ (เจ้าของจากการยึดครอง) มาถึงท่านเหล่านั้นได้ทำการทดลองในห้องปฏิบัติการและสร้างมนุษย์ที่มีความ แตกต่าง เหลือดีเอ็นเอเพียงสองเส้นพอให้สามารถใช้ชีวิตรอดเท่านั้น ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการอยู่รอดและรหัสให้ข้อมูล (วิชชา) อื่นๆถูกจับแยกและถอดถอนจากสายใยพันธุกรรมจนสิ้น (เหมือนถอดปลั๊ก) แต่ทิ้งไว้ในเซลล์มนุษย์ดุจเดิม

ภายในเซลล์มนุษย์มีเส้นใยห่อหุ้ม ด้วยแสงสว่าง เส้นใยพลังงานที่บรรจุข้อมูล เมื่อใยละเอียดเหลี้ทำงานร่วมกันจะเหมือนเส้นใยไฟเบอร์ออปติก จะรวมเป็นสารพันธุกรรมดีเอ็นเอของมนุษย์ที่สมบูรณ์ (เหมือนเส้นใยหางเปียในอวตารกระมัง มันสื่อข้อมูลกับต้นไม้แห่งจักรวาลจำได้ไหม ผู้แปล) มนุษย์ปัจจุบันจึงเหลือดีเอ็นเอทำงานได้แค่สองสาย ล็อกมนุษย์ไว้ในความถี่ที่เจ้านายควบคุมได้

เราชาวดาวลูกไก่ ได้ย้อนเวลากลับมาบนเส้นทางของเรา
Click to expand...

อ่านแล้วนึกถึงเรื่องที่ว่านักวิทยาศาสตร์พบว่า DNA ของมนุษย์ส่วนมากแล้วเป็นส่วนที่ไม่เกี่ยวอะไรกับการทำงานของร่างกายมนุษย์เลยหรือที่เรียกว่า DNA ขยะ จะมีแค่ 3% เท่านั้นที่มีผลต่อการทำงานของมนุษย์ DNA ขยะที่ไม่รู้ว่าทำงานอะไรนั้นอาจจะเป็น DNA ส่วนที่ถูก disabled โดยมนุษย์ต่างดาวกลุ่มนั้นก็ได้

และก็มีการทดลองที่ให้เห็นว่า DNA ของมนุษย์เราสามารถดูดกลืนแสงได้ ส่วนที่ทำให้เป็นอย่างนี้ก็อาจจะเป็น "เส้นใยห่อหุ้มด้วยแสงสว่าง" ที่พูดถึงก็ได้

LadyOfLight · 14 มีนาคม 2010

มาซึมซับค่ะ ขอบคุณสิ่งดีๆที่ทุกท่านมอบให้ค่ะ

เรื่อง DNA ครายออนก็กล่าวไว้ค่ะ กำลังอยู่ในขึ้นตอนการแปลแบบงูๆปลาๆของหมวยเอง
เลยช้ามาก
เหมือนจะถูก disabled ไว้จริงๆค่ะ อีก 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ที่เหลือ
เพราะเป็นส่วนเชื่อมต่อทุกๆอย่างระหว่างกันค่ะ

sutatip_b · 14 มีนาคม 2010

หลักการเบื้องต้น

เรามาเริ่มที่หลักการเบื้องต้นดีกว่า เธอไม่ได้มองหาคำสอนที่ได้รับการยอมรับและสืบทอดกันมา เธอไม่ได้มองหาผู้ทำนาย เธอกำลังก้าวออกจากความเชื่อในมิติที่สาม ออกจากการตามผู้อื่นที่มีความเชื่ออยู่ในกล่องเหมือนๆกัน และเธอกำลังเสี่ยงที่จะคิดว่าคิดว่าพระผู้สร้างยิ่งใหญ่กว่าอะไรทั้งหมดที่มีคนเคยบอกเธอมา เธอกำลังค้นหาว่าเธอมาที่นี่ทำไม และหลักการที่ว่าการแสวงหาจะไม่เพียงแต่เปิดเผยเส้นทางให้กับเธอ แต่จะเปิดเผยว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของระบบอันยิ่งใหญ่ มันเป็นระบบระหว่างมิติอันหลากหลาย (interdimensional system) ของวิถีแห่งการดำเนินไปแห่งสรรพสิ่ง มันเป็นไปของมันเช่นนั้นและใช้ร่วมกันกับทุกสรรพชีวิตในมหจักรวาล มันถูกสร้างผสานมากับเซลล์มนุษย์ มันเป็นความงดงามเกินพรรณนา และจะแสดงให้เห็นพระผู้สร้างที่สถิตย์อยู่ภายใน ทำให้เธอเป็นผู้ทำนายได้ด้วยตนเอง เป็นนายแห่งตน เปิดเผยความศักดิ์สิทธิ์ภายในความดำรงไว้ซึ่งเป็นนิรันดร์ของเธอ (ใช้ภาษามิติที่สามนี้คลุมความหมายได้แค่กระผีกริ้นจริงๆ ผู้แปล) มันจะทำให้เธอสำเหนียกได้ว่าเธอเคยมีชีวิตอยู่มาก่อนแล้ว และนี้คือส่วนสำคัญที่แท้จริงของระบบ ไม่ใช่ความแปลก นอกคอก หรือพิศดาร แต่เป็นความเห็นที่ถูกต้องอย่างที่ได้ใช้ปัญญาพิเคราะห์ แล้วว่าทุกอย่างเกิดความลงตัว สิ่งนี้จะอยู่เหนือความเชื่อและตำนานแบบสามมิติของผู้อื่น ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากผู้ที่มีชีวิตอยู่ในภาวะที่มืดมนของความถี่ที่ต่ำกว่านี้บนโลกมนุษย์

อย่าตำหนิตัวเองถ้าเธอไม่ดำเนินรอยตามคำสอนที่เธอได้รับมาจากบุคคลหรือองค์กรที่เขาว่ามันถูกต้องและดีงามสำหรับจิตวิญญาณของพวกเขา เพราะว่าความจริงสำหรับพวกเขามันต่างไปจากความจริงของเธอ การแสวงหาพระผู้สร้างของเขาเป็นหนทางที่ต่างจากของเธอ เราขออำนวยพรให้แก่มนุษย์ทุกผู้ที่แสวงหาพระผู้สร้างไม่ว่าในหนทางใดก็ตาม ขออำนวยพรให้กับมนุษย์ผู้เตรียมพร้อม เฝ้ารอ และร้องขอว่า "ข้าแต่พระผู้สร้าง กรุณาบอกข้าด้วยว่าข้าต้องรู้อะไร ข้าต้องการทำลายกำแพง ทำลายทวิภาวะ (the duality) ที่กั้นระหว่างสภาวะสามมิติและสภาวะหลากมิติ ข้าต้องการทลายกำแพงเพื่อให้ได้พบกับความงามอันยิ่งใหญ่ที่แท้จริงของข้า ข้ารู้ว่ามันมีอยู่ภายใน ได้โปรดชี้ทางให้ข้าได้พบกับการเปิดเผย (revelation) ดังกล่าวของข้า"

เมื่อมนุษย์เดินทางตามหาความจริง เขาจะได้พบความรักของพระผู้สร้าง มันเป็นเส้นทางการค้นพบเฉพาะตนเพื่อพบกับพระผู้สร้างในชีวิตบุคคลผู้นั้น นั่นคือความจริงแท้ มันมีความหลากหลายเพราะมนุษย์ต่างมีเส้นทางที่ต่างกัน มนุษย์แต่ละคนมีความแตกต่างทางจิตวิญญาณเป็นของตนเอง คนหนึ่งค้นหาเรื่องความอุดมมั่งคั่ง คนหนึ่งจัดการกับสุขภาพ คนหนึ่งรบกับคุณค่าของตนเอง ในขณะที่อีกคนต้องกำจัดความกลัว เส้นทางหลายหลากเหล่านี้เป็นผลมาจากประสพการณ์ในอดีตของมนุษย์บนโลกในการเกิดแต่ละครั้ง ก่อใให้เกิดเป็นบุคลิกที่หลากหลายในชีวิตนี้ หลากจุดแข็ง หลากความหวาดกลัว และหลากพรสวรรค์ เธอจะเห็นได้ว่าจะไม่มีกรอบจิตวิญญาณใดที่สามารถบรรจุคนเหล่านี้รวมไว้ในกรอบเดียวกันได้

LadyOfLight · 14 มีนาคม 2010

<EMBED src=http://www.youtube.com/v/jVbkz_3lO3c&hl=en_US&fs=1&color1=0xcc2550&color2=0xe87a9f width=425 height=344 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true">

เอาเพลงมาฝากค่ะ น่าจะเข้ากันได้ดี *-*
</EMBED>

sutatip_b · 14 มีนาคม 2010

ใช่เลยค่ะน้องโซ่...

sutatip_b · 14 มีนาคม 2010

ใช่เลยจ้าโซ่

Chayutt · 14 มีนาคม 2010

Chayutt said: ↑

Disclosure Updates and Transcript of Coast Announcement, 10/6!

ที่มา: http://divinecosmos.com/index.php/start-here/davids-blog/518-coast-disclosure-announcement-updates?start=1

โดย: นาย David Wilcock

ตอนที่ 3: สรุปคร่าวๆ เกี่ยวกับโครงสร้างและบทบาทหน้าที่ของรูปธรรมชีวิตในมิติต่างๆ<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style>

มิติที่ 5 (FIFTH DENSITY)

หลังจากนั้น เมื่อใดจิตวิญญาณที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักแบบไม่มีเงื่อนไขของมิติที่ 4 ถูกรับรู้ได้ด้วย “ภูมิปัญญา”
ของมิติที่ 5 แล้ว ซึ่งจิตวิญญาณส่วนใหญ่จะต้องใช้เวลานานแสนนาน เพื่อที่จะค่อยๆวิวัฒน์ขึ้นไปสู่มิติที่ 5 นี้
แต่ก็มีบ้างเหมือนกัน ที่ใช้เวลาไม่นานนัก เช่นกรณีของท่าน “รา” เป็นต้น

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมในสนามพลังงานของร่างกายมนุษย์ มิติที่ 5 จึงมีความเกี่ยวข้องกับ “สีฟ้า” แห่งจักระที่ 5

ในมิติที่ 5 นี้ คุณจะได้ทำการทดลอง,
ได้เรียนรู้เรื่องราวอันน่าพิศวงต่างๆ เกี่ยวกับกลไกการทำงานจริงๆของจักรวาล,
ได้เรียนรู้ที่จะค้นพบและใช้งานพลังแห่งความตั้งใจหรือพลังเนรมิต (willpower) ของตนเอง,
ได้เรียนรู้ที่จะค้นพบและใช้งานพลังแห่งการติดต่อสื่อสาร และ เสียงที่แท้จริง,
ได้ดำรงมั่นอยู่ในกฎแห่งความซื่อสัตย์,
และได้อยู่ในสภาวะที่มีการกระตุ้น และการพัฒนาด้านภูมิปัญญาอยู่ตลอดเวลา

แน่นอนว่า บนดาวเคราะห์โลกใบนี้ เราก็สามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่อย่างมีสติสัมปชัญญะ
ดุจเดียวกับสภาวะของมิติที่ 5 ได้ด้วย ถึงแม้ว่าจะปราศจากเทคโนโลยี
และความสามารถอันน่าอัศจรรย์ทั้งหลายเหล่านั้นก็ตาม

รูปธรรมชีวิตในมิติที่ 5 นี้ อาจจะทำหน้าที่คอยดูแลและช่วยเหลือรูปธรรมชีวิตในมิติที่ 4 อยู่
หรืออาจจะกำลังทำงานกับดาวเคราะห์บางดวงที่อยู่ในมิติที่ 3 อย่างของเราในตอนนี้ก็ได้
ตามความสามารถของพวกเขาแต่ละรูปธรรม (เช่น โดยการติดต่อสื่อสาร และให้ความช่วยเหลือ กับผู้ปฏิบัติธรรม
และผู้ที่กำลังค้นหาสัจธรรมของชีวิตทั้งหลายอยู่ หรือโดยการให้ความช่วยเหลือในการกำหนดหลักเกณฑ์
ของภาษาพูดต่างๆ และช่วยเผยแพร่มันออกไป, นอกจากนี้ยังมีโดยการให้ความช่วยเหลือด้านวิชาคณิตศาสตร์
และอื่นๆ เป็นต้น) ควบคู่ไปกับ การเพิ่มพูนระดับภูมิปัญญาและความรู้แห่งจักรวาลของพวกเขาด้วย

เหล่าผู้ที่กำลังเพิ่มพูนระดับภูมิปัญญาของตนเองเหล่านี้ ปกติแล้วจะดำเนินชีวิตอยู่บนวิถีของใครของมันเพียงลำพัง
และดูเหมือนพวกเขาจะทรงภูมิปัญญา และ แยกกันอยู่มากกว่าเหล่ารูปธรรมชีวิตที่เปิดหัวใจแล้ว
และมีความรักให้แก่ทุกคนทั้งหลายที่อยู่ในมิติที่ 4 เสียอีก

การสำเร็จการศึกษา จะยังไม่เกิดขึ้น ตราบใดที่คุณยังไม่ได้นำสิ่งที่คุณได้เรียนรู้มาทั้งหมด
มาใช้เพื่ออุทิศชีวิตของคุณเอง แด่การให้ความช่วยเหลือผู้อื่น
รูปธรรมชีวิตในมิติที่ 5 บางรูปธรรม ก็ได้ฝึกฝนตนเอง ให้สามารถท่องไปในจักรวาล
โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องยนต์กลไกใดๆทั้งสิ้นได้แล้ว แต่ว่ามันก็ยังเป็นเรื่องที่ยากอยู่

พวกเขาส่วนใหญ่ สามารถที่จะสื่อสารทางโทรจิตไปถึงกลุ่มของผู้คนจำนวนมากในเวลาเดียวกันได้
รูปธรรมชีวิตในมิติที่ 4 บางรูปธรรม ก็สามารถทำเช่นนี้ได้เช่นเดียวกัน แต่ว่าในมิติที่ 5 นี้ มันจะละเอียดประณีตมากกว่า

ในมิติที่ 5 คุณจะยังมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับของมนุษย์บนโลกนี้อยู่ และตามที่มีกล่าวไว้ในหนังสือชุด
“Law of One” คุณจะเนรมิต “น้ำซุปแห่งแสงสว่างของแสงสีทอง” (Liquid light broth of a golden hue)
ขึ้นมารับประทานเอง ซึ่งมันจะเป็นการรับประทานที่สุขสรร และ เปี่ยมไปด้วยโภชนาการมากๆ เมื่อรับประทานกันเป็นกลุ่ม

ข้อความสื่อสารมาจากรูปธรรมในมิติที่ 5 ที่สะอาดบริสุทธ์ที่สุด เท่าที่ผมเคยพบมา ก็คือในหนังสือชุด “The Seth”
โดยเฉพาะเรื่อง “The Seth Material” ซึ่งเป็นบทนำของหนังสือชุดนี้, “Seth Speaks” ซึ่งเป็นหนังสือหลักของชุดนี้,

“The Nature of Personal Reality” ซึ่งเป็นหนังสือที่ขยายความประเด็นที่สำคัญต่างๆเกี่ยวกับ
“การสร้างสรรค์โลกแห่งความเป็นจริงของคุณเอง”

แต่หนังสือเหล่านี้ จำเป็นต้องซื้อเอง ยังไม่มีขายออนไลน์ในตอนนี้ แต่ว่าคุณสามารถหาซื้อได้จาก
เวปไซท์ Amazon.com หรือในที่อื่นๆ ในราคาที่ไม่แพงเลย
หนังสือชื่อ “Seth Speaks” คือหัวใจสำคัญหลัก ที่ช่วยให้ผมสามารถเปิดใช้งานความสามารถ
ในการสื่อสารทางโทรจิต และรับรู้ข้อมูลจากสัญชาตญาณของตัวเองได้ รองจากหนังสือชุด “the Law of One”
เพราะว่ามันมีข้อมูลที่จำเป็น ที่ช่วยเติมเต็มศิลปะที่ขาดหายไปในหนังสือชุด “the Law of One” ให้สมบูรณ์แบบขึ้นมาได้

(ยังมีต่อครับ)
...................................<o></o>
Click to expand...

นี่ไงครับตอนที่ 3

คุณแม่ยายมน..เอ๊ย..แม่นายมน

..............................

Chayutt · 14 มีนาคม 2010

วันนี้ข้อมูลอาจารย์ไก่เพียบเลยนะครับ

เพราะฉะนั้น วันนี้ผมเลยยังจะไม่โพสต์อะไรเพิ่มอีกนะครับ

เดี๋ยวคนอ่านเห็นข้อมูลเยอะๆ จะหน้ามืดตาลายกันไปก่อนพอดี

ขอขอบคุณอาจารย์ไก่มากๆนะครับ ที่มาแชร์ความรู้ให้กันอ่าน
..................................................

ข้อมูลช่วงต่อไปของผม มีกล่าวถึงปรากฏการณ์ Synchronicity
ที่ผู้คนมากมายทั่วโลก เห็น เลข

11:11

12:12

3:33

4:44

และอื่นๆ จากหน้าปัดนาฬิกา, ป้ายทะเบียนรถ และอื่นๆด้วยนะครับ

เพราะว่ามันเป็นปรากฏการณ์ Synchronicity อย่างที่ว่านั่นแหละ

ดังนั้น มันจึงเกิดขึ้นไปทั่วโลก สำหรับคนที่ "เหมาะสม"

และมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับเฉพาะคนของเขากะลาหรอกนะครับ

ดังนั้น ใครที่เคยหาว่าคนของเขากะลาบ้าไปแล้วนั่น

ก็ลองคิดดูใหม่นะครับ..

..........................................

arichi · 14 มีนาคม 2010

Chayutt said: ↑

วันนี้ข้อมูลอาจารย์ไก่เพียบเลยนะครับ

เพราะฉะนั้น วันนี้ผมเลยยังจะไม่โพสต์อะไรเพิ่มอีกนะครับ

เดี๋ยวคนอ่านเห็นข้อมูลเยอะๆ จะหน้ามืดตาลายกันไปก่อนพอดี

ขอขอบคุณอาจารย์ไก่มากๆนะครับ ที่มาแชร์ความรู้ให้กันอ่าน
..................................................

ข้อมูลช่วงต่อไปของผม มีกล่าวถึงปรากฏการณ์ Synchronicity
ที่ผู้คนมากมายทั่วโลก เห็น เลข

11:11

12:12

3:33

4:44

และอื่นๆ จากหน้าปัดนาฬิกา, ป้ายทะเบียนรถ และอื่นๆด้วยนะครับ

เพราะว่ามันเป็นปรากฏการณ์ Synchronicity อย่างที่ว่านั่นแหละ

ดังนั้น มันจึงเกิดขึ้นไปทั่วโลก สำหรับคนที่ "เหมาะสม"

และมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับเฉพาะคนของเขากะลาหรอกนะครับ

ดังนั้น ใครที่เคยหาว่าคนของเขากะลาบ้าไปแล้วนั่น

ก็ลองคิดดูใหม่นะครับ..

..........................................
Click to expand...

อ่ะจ๊ากกกกกกกกกก!!!

เชื่อมั้ยว่าหนูเห็นเลข 44 ตามนาฬิกาที่คอมเนี้ยแหละ
เรียกได้ว่าเล่นคอมวันไหน เห็นวันนั้น(เล่นทุกวันก็เห็นทุกวัน)
คือหันไป ก็เห็นปุ๊ป เลข 44 นิเห็นบ่อยสุด รองลงมาก็ 22 33 11 =[]="
มีวันหนุ่งยังงงตัวเองอยู่เลย ไม่รู้คิดมากหรือเปล่า
เล่นคอมตั้งแต่บ่าย 1 - 1 ทุ่ม ก็เห็น บ่าย 1.44 14.44 15.44 ..ไปจนถึง 17.44 น.... - -"

แถมไม่กี่วันก่อนก็ไปขับรถมอเตอร์ไซค์ชนรถกะบะทะเบียน 4477 อีก
แต่ดีที่ไม่เป็นไรมาก T^T ประมาทและไม่มีสติเกินไป (สำนึกแล้วค่า) 55+

เมื่อวานเกิดข้อข้องใจกับเลข 44 มาก จึงแอบพูดออกมาว่า(กับอธิษฐาน)
ว่าใครก็ได้บอกความหมายของเลข 44 ให้หน่อย อยากรู้มาก ทนไม่ไหวแล้ววว
ตอนแรกว่าจะไปโพสถามกลุ่มเขากะลา แต่ของเขากะลามันเลข 11 ไม่ใช่รึ?
เลยเก็บไว้ในใจก่อน....

แล้ววันนี้ก็มาเจอข้อความของคุณชยุท!!
ว๊าว!! อเมซิ่งมาก

ติดตามต่อค่ะ ^^ รอมาอัพตอนต่อไปค่ะ (อันเก่าๆก็ยังอ่านไม่จบด้วย)
วันนี้ข้อมูลเยอะดีเนอะค่ะ(ยังไม่ได้อ่านเลย อ่านลัดหน้านี้ก่อนค่ะ) ขอบคุณคุณชยุทกับอาจารย์ไก่และทุกคนสำหรับข้อมูลค่า

Nemian · 14 มีนาคม 2010

Chayutt said: ↑

วันนี้ข้อมูลอาจารย์ไก่เพียบเลยนะครับ

เพราะฉะนั้น วันนี้ผมเลยยังจะไม่โพสต์อะไรเพิ่มอีกนะครับ

เดี๋ยวคนอ่านเห็นข้อมูลเยอะๆ จะหน้ามืดตาลายกันไปก่อนพอดี

ขอขอบคุณอาจารย์ไก่มากๆนะครับ ที่มาแชร์ความรู้ให้กันอ่าน
..................................................

ข้อมูลช่วงต่อไปของผม มีกล่าวถึงปรากฏการณ์ Synchronicity
ที่ผู้คนมากมายทั่วโลก เห็น เลข

11:11

12:12

3:33

4:44

และอื่นๆ จากหน้าปัดนาฬิกา, ป้ายทะเบียนรถ และอื่นๆด้วยนะครับ

เพราะว่ามันเป็นปรากฏการณ์ Synchronicity อย่างที่ว่านั่นแหละ

ดังนั้น มันจึงเกิดขึ้นไปทั่วโลก สำหรับคนที่ "เหมาะสม"

และมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับเฉพาะคนของเขากะลาหรอกนะครับ

ดังนั้น ใครที่เคยหาว่าคนของเขากะลาบ้าไปแล้วนั่น

ก็ลองคิดดูใหม่นะครับ..

..........................................
Click to expand...

เคยเห็นบ่อยๆ นะค่ะ แล้วก็อยากรู้ว่า ปรากฏการณ์ Synchronicity มันคืออะไรค่ะ

zipper · 14 มีนาคม 2010

การตีความเลขต่างๆ เช่นเลข 11 ทางฝรั่งก็มีศัพท์เรียกศาสตร์นี้เหมือนกัน เรียกว่า Numerology

ส่วนเรื่อง Synchronicity ก็เป็นศัพท์เรียกเหตุบังเอิญที่มันคล้องจองกันอย่างเหลือเชื่อ เช่น ค้นหาหนังสือเล่มนึงในร้านหนังสือแล้วหนังสือเล่มนั้นก็หล่นลงมาพอดี อันนี้เป็นกระทู้ที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ http://palungjit.org/threads/synchronicity-ความบังเอิญอันเหลือเชื่อ.1073/ เข้าไปอ่านเล่นๆ รอโพสจากคุณชยุตไปก่อนก็ได้

แม่นายมล · 15 มีนาคม 2010

Chayutt said: ↑

นี่ไงครับตอนที่ 3

คุณแม่ยายมน..เอ๊ย..แม่นายมน

..............................
Click to expand...

แหมๆๆ เรียกแม่ยายเลยนะ
เกิดเรื่่องประหลาด เราก็อบไปพิมพ์อ่านมันเป็นตอนที่ 2 จริง จริ้ง..
ไม่มีตอนที่ 3 โดยใช้ Safari พอลองเข้า Firefox ดันมีตอนที่ 3 โผล่มา
ลองดูรูปที่แนบมาซิ มียังงี้ด้วยเหรอ โง้ง งง

อันแรก Safari เป็น Fifth Density ตอนที่ 2
อันต่อมาเป็น Firefox ตอนที่ 2 มิติที่ 4 ซึ่งเป็นอันที่ถูกต้อง
ไม่ได้เมานะเนี่ยะ! ใครเล่นซ่อนหาว๊า...(ping-love
วันเวลาที่โพสต์อันเดียวกันด้วย
11-03-2010 03.54 PM

แม่นายมล · 15 มีนาคม 2010

ยังไม่จบ มีเล่าต่อ
ใน Safari เป็นข้อความที่ 811 ตอนที่ 2 มิติที่ 5
ข้อความที่ 812 หายไป
แต่ตอนจะอ้างอิงคำตอบ คุณชยุต
ดันปรากฎ...
เป็นข้อความที่ 812 คือ ตอนที่ 3 มิติที่ 5 ขึ้นมา
ที่หน้าแสดงผลข้้อความก่อนส่ง
กลายเป็นเรื่องมิติที่ซ้อนกันอยู่ในข้อความที่ 811
ตอนที่ 2 กับ ตอนที่ 3
งง งง
น่าคิดนะ....

Chayutt · 15 มีนาคม 2010

แม่นายมล said: ↑

ยังไม่จบ มีเล่าต่อ
ใน Safari เป็นข้อความที่ 811 ตอนที่ 2 มิติที่ 5
ข้อความที่ 812 หายไป
แต่ตอนจะอ้างอิงคำตอบ คุณชยุต
ดันปรากฎ...
เป็นข้อความที่ 812 คือ ตอนที่ 3 มิติที่ 5 ขึ้นมา
ที่หน้าแสดงผลข้้อความก่อนส่ง
กลายเป็นเรื่องมิติที่ซ้อนกันอยู่ในข้อความที่ 811
ตอนที่ 2 กับ ตอนที่ 3
งง งง
น่าคิดนะ....
Click to expand...

812 = 8+1+2 = 11

เอ่อ..หรือว่า Synchronicity หว่า

..................................

Chayutt · 20 มีนาคม 2010

ตอนที่ 16:

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> บางส่วนของบทสัมภาษณ์ออกอากาศทางรายการวิทยุ Coast to Coast AM
ของนายเดวิด วิวค็อค (David Wilcock) โดยนาย จอร์จ นูรี่ (George Noory)
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2009

ที่มา: Disclosure Updates and Transcript of Coast Announcement, 10/6!

รูปธรรมชีวิตในมิติที่ 6 บางรูป เพิ่งลงมาที่โลกเมื่อเร็วๆนี้
แล้วก็ได้ลืมไปแล้วว่าพวกเขาเป็นใคร

มนุษย์ทุกคนมี “ตัวตนที่สูงส่งกว่า” ของตัวเองอยู่อีก 1 ตัวตน แต่สำหรับชาวโลกบางคน
การจะวิวัฒน์ขึ้นไปถึงจุดนั้นได้ อาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายล้านปีในอนาคต

“ผู้พเนจร” (Wanderer) ในอีกความหมายหนึ่ง ก็คือรูปธรรมชีวิตในมิติที่ 6 ที่อาสาลงมาเกิดในร่างมนุษย์เมื่อเร็วๆนี้
เพื่อมาช่วยโลกโดยเฉพาะ เนื่องจากว่า สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นกับโลก ไม่เป็นไปอย่างที่พวกเราคาดหวัง

ในหนังสือชุด “The Law of One” ได้เปิดเผยว่าในช่วงปี 1981 มี “ผู้พเนจร” ลงมาเกิดบนโลกมนุษย์แล้ว
ประมาณ 65 ล้านชีวิต และจากข้อมูลที่ผมเพิ่งได้รับมา จากการสื่อสารทางโทรจิตที่ชัดเจนมากๆของผมเมื่อเร็วๆนี้
บอกว่า ตอนนี้มีประมาณ 245 ล้านชีวิตแล้ว

พวกคุณหลายคนที่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่ ก็อาจจะเป็นหนึ่งใน “ผู้พเนจร” ด้วยก็ได้
ซึ่งลักษณะเฉพาะที่คุณอาจจะพอจับสังเกตได้ ก็เช่น คุณจะมีปัญหาเกี่ยวกับความมีมารยาสาไถแบบชาวโลก
เพราะว่าคุณเพิ่งลงมาถึงโลก เพราะฉะนั้น คุณจะยังใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ คุณจะยังไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับการหลอกลวง,
กลอุบาย และการโป้ปดมดเท็จของชาวโลก

คุณอาจจะกลายเป็นศัตรูตัวร้ายกาจของตัวคุณเอง เพราะการมีพฤติกรรมที่ต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่น
หรือขึ้นอยู่กับผู้อื่นตลอดเวลา ซึ่งมันจะทำให้คุณปรารถนาที่จะได้พบกับใครสักคนหนึ่ง
ที่จะมาเป็นคู่หูหรือเป็นคู่ครองของคุณ ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับตัวตนที่สูงส่งของคุณเอง
ใครบางคนที่คุณจะสามารถเชื่อใจได้ ปฏิบัติตามได้และเชื่อฟังได้อย่างสนิทใจ
ใครบางคนที่คุณสามารถขอความช่วยเหลือได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม

ไม่มีเรื่องไหนในชีวิตผมที่ทำให้ผมต้องพบกับความยากลำบากมากเท่ากับเรื่องนี้เลย
แม้ว่าผมจะมีสติปัญญาที่ดี แต่ผมก็ยังต้องเจ็บปวดและเป็นทุกข์เพราะมันมาตั้งหลายปี
แต่เมื่อผมได้ผ่านพ้นมันมาได้แล้ว และค้นพบวิธีที่จะรักตัวผมเองได้จริงๆแล้ว เพียงแค่นั้น
ผมก็ค้นพบความสามารถของตัวเอง เหมือนอย่างที่ผมเขียนไว้ในหนังสือชื่อ

“การตื่นของเหล่าผู้พเนจร” (Wanderer Awakening)…

...........................................

Chayutt · 15 มีนาคม 2010

ตอนที่ 17:

ที่มา: Disclosure Updates and Transcript of Coast Announcement, 10/6!

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style>
มิติที่ 7 (SEVENTH DENSITY)

เป็นมิติสุดท้ายที่เหลืออยู่สำหรับรูปธรรมชีวิตในมิติที่ 6 ก่อนที่จะกลับไปรวมกับพระผู้สร้าง

และการที่จะมาอยู่ในมิติที่ 7 นี้ได้ คุณจะต้องมีความตระหนักรู้ถึงธรรมชาติที่ศักดิ์สิทธิ์ในทุกสิ่งทุกอย่าง
ซึ่งหมายความว่า คุณจะต้องอยู่เหนือความเป็นขั้วทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นระหว่างความดีกับความชั่วก็ตาม

ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องถูกยอมรับทั้งหมด เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่พระผู้สร้างสร้างสรรค์ขึ้นมา
และสนับสนุนให้มีวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณด้วยกันทั้งสิ้น

หากยังมีความเข้าใจที่ไม่เพียงพอ เช่น ยังมองเห็นว่าผู้อื่นอ่อนแอกว่าตัวเอง, โง่เขลากว่าตัวเอง, น่ารังเกียจกว่าตัวเอง,
ด้อยคุณค่ากว่าตัวเอง หรือ อื่นๆ คุณก็ยังมิอาจที่จะมาอยู่ในมิตินี้ได้

มีคนวงในที่เป็นฝ่ายอธรรมจำนวนมากมายกล่าวว่า “พวกเขาได้ข้ามพ้นขอบเขตของความดีและความชั่วมาแล้ว”

แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่คำพูดเฉยๆ เพราะว่าตราบใดที่พวกเขายังดูหมิ่นดูแคลนผู้อื่น, มองผู้อื่นว่าต่ำต้อยด้อยค่า
หรือ เป็นพวกปลายแถวอยู่ นั่นก็แสดงว่า พวกเขายังไปไม่ถึงระดับนั้นหรอก

นักปรัชญาของลัทธิอิลลูมินาติที่เป็นคนวงในส่วนใหญ่ในปัจจุบัน มักจะแปลความหมายของคำว่า “บรรลุ”
ผิดไปอย่างมหันต์เลย แล้วพวกเขาก็โชว์ความไม่ฉลาดของตนเองเกี่ยวกับเรื่องจิตสำนึกของจักรวาลออกมา

คนวงในของลัทธิอิลลูมินาติบางคน ซึ่งอาจจะได้มาอ่านข้อความนี้ ได้เคยบอกกับผมว่า

“พวกเขาอยู่เหนือความดีและความชั่วทั้งปวงแล้ว”

แต่ด้วยความเคารพนะครับท่าน ถ้ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ งั้นคุณก็น่าจะเลิกให้ความสำคัญกับเรื่อง “สายเลือดชั้นหนึ่ง”
(The royal bloodlines) รวมถึงความคิดที่ว่า “พลังอำนาจทางจิตวิญญาณ, พลังอำนาจทางการเงิน,
หรือพลังอำนาจทางสังคม ทำให้พวกคุณกลายเป็นกลุ่มคนที่มีอภิสิทธิ์เหนือกว่าคนอื่น
ทั้งด้านภาพลักษณ์, คุณค่า และความสำคัญ” ซะทีสิ

ผู้ที่มีสายเลือดชั้นหนึ่งทุกคน ล้วนสืบเชื้อสายมาจากรูปธรรมชีวิตต่างพิภพด้วยกันทั้งนั้น
และในตอนนี้กระบวนการทางพลังงาน กำลังผลักดันให้ดาวเคราะห์โลกเลื่อนระดับขึ้นไปสู่มิติที่ 4 อยู่
และกำลังทำให้ DNA ของมนุษย์ทุกคนบนโลกเปลี่ยนรูปแบบไปอยู่

เพราะฉะนั้น DNA ของผู้คนในยุคปัจจุบันนี้ จึงกำลังจะมีพลังอำนาจเหนือกว่าเผ่าพันธุ์ต้นตระกูลดั้งเดิมของโลกซะอีก

เพราะฉะนั้น สายเลือดที่สืบทอดมา จึงไม่มีความสำคัญต่อไปอีกแล้ว เพราะว่าตอนนี้โลกกำลังมีการเปลี่ยนระดับ
ด้านพลังงานเกิดขึ้นอยู่

คำว่า “จิตสำนึกที่เป็นหนึ่งเดียว” (Unity consciousness) จึงหมายถึง “ฉันไม่ได้เหนือกว่าใคร และก็ไม่ด้อยกว่าใคร”
จิตสำนึกของรูปธรรมในมิติที่ 7 ที่มองเห็นอย่างสมบูรณ์แบบว่า ทุกสิ่งทุกอย่างคือหนึ่งเดียวกัน

พวกเขาจะตระหนักรู้ว่า จักรวาลเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความสุขอย่างแท้จริง

พวกเขาจะตระหนักรู้ว่าความเป็นขั้วทั้งหมด ล้วนมีความศักดิ์สิทธิ์เสมอเหมือนกันทั้งสิ้น

พวกเขาจึงให้ความช่วยเหลือกับทั้งสองขั้ว ด้วยความเคารพและความเมตตาสูงสุด

เพราะว่าทั้งสองขั้วนี้ ล้วนแล้วแต่มีความสมบูรณ์แบบอย่างที่พวกมันเป็นอยู่

................................<o></o>

Chayutt · 15 มีนาคม 2010

ตอนที่ 18:

ที่มา: Disclosure Updates and Transcript of Coast Announcement, 10/6!

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> ความสมบูรณ์แบบ ยากยิ่งจะเข้าใจ

ทัศนคติแบบมองภาพรวมของมิติที่ 7 นี้ อาจจะยากที่จะเข้าใจได้ สำหรับรูปธรรมชีวิตที่อ่อนไหว
และมีความเมตตากรุณาอย่างรูปธรรมชีวิตในมิติที่ 6…

...รูปธรรมชีวิตในมิติที่ 7 จะไม่ปฏิบัติงานร่วมกับรูปธรรมชีวิตในมิติอื่น ยกเว้นในมิติที่ 6

ยกเว้นในกรณีที่ใกล้จะมาถึงจุดสิ้นสุดของแต่ละวัฏจักรแบบนี้ เพื่อเป็นการรับประกันว่าทุกๆชีวิต
จะได้ไปในที่ๆพวกเขาจำเป็นต้องไป ไม่ว่าพวกเขาจะต้องเดินเป๋ออกไปนอกเส้นทางไกลเท่าไหร่ก็ตาม

พวกเขาจะทำหน้าที่ให้คำแนะนำแก่รูปธรรมชีวิตในมิติที่ 6 ตามความสามารถของพวกเขา
ก่อนที่พวกเขาจะกลับคืนสู่พระผู้สร้าง เพื่อกลับเข้าไปรวมเป็นหนึ่งเดียวกับความทรงภูมิปัญญาอันเป็นนิรันดร์

การตัดสินใจครั้งใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับดาวเคราะห์โลก เช่น
เรื่องที่จะส่งคุรุอย่างพระเยซูคริสต์ลงมาเกิดเพื่อทำภารกิจหรือไม่?

เรื่องแบบนี้จะถูกตัดสินใจโดยรูปธรรมชีวิตในมิติที่ 7 ซึ่งทำหน้าที่เสมือนเป็นครูบาอาจารย์
และที่ปรึกษาของรูปธรรมชีวิตในมิติที่ 6

รูปธรรมชีวิตในมิติที่ 5 และ 4 ตามลำดับ ก็จะเคารพเชื่อฟังคำแนะนำ และข้อตกลงต่างๆ
ที่ถ่ายทอดลงมาจากรูปธรรมชีวิตในมิติที่ 6 ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริหาร

ทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วนั้น เป็นการสรุปย่อๆเกี่ยวกับแต่ละมิติ แต่ด้วยความรู้อันนี้ คุณก็จะสามารถมองออกว่า
รูปธรรมชีวิตต่างมิติ/ต่างพิภพ ที่เรากำลังมีความเกี่ยวข้องอยู่ด้วยนี้

มันมีมากมายกว่าแค่พวกมนุษย์ต่างดาวตัวเล็กๆสีเขียวๆที่ขี่จานบินร่อนไปมา ที่เรากล่าวขวัญถึงบ่อยๆเท่านั้น

ตอนนี้ผมอยากจะนำคุณกลับไปสู่ประเด็นที่เรากำลังสนทนากันอยู่ต่อ เกี่ยวกับเรื่องราวของความหายนะ
และโศกนาฏกรรมต่างๆ ที่คุณเคยอ่านเจอในอินเตอร์เน็ต ว่าทำไมมันถึงจะไม่มีวันเกิดขึ้นเป็นอันขาด

...........................

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

pakung เป็นที่รู้จักกันดี

dalink เป็นที่รู้จักกันดี

แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

zipper เป็นที่รู้จักกันดี

LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

arichi Active Member

Nemian Active Member

zipper เป็นที่รู้จักกันดี

แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

ไฟล์ที่แนบมา:

Safari.jpg

Firefox.jpg

แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

ไฟล์ที่แนบมา:

Safari1.jpg

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

แชร์หน้านี้

แชร์หน้านี้

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ไฟล์ที่แนบมา:

Safari.jpg

Firefox.jpg

ไฟล์ที่แนบมา:

Safari1.jpg

แชร์หน้านี้

การค้นหาที่มีประโยชน์

ติดต่อเรา