เรื่องการเพ่งกสิณนะค่ะ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย plokm, 22 มีนาคม 2010.

  1. plokm

    plokm สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +19
    คือ การเพ่งกสิณ ภาพนิมิตรที่กล่าวถึงกัน

    เราจะต้องมองภาพไปเรื่อยๆๆ จนกว่าจะจำได้
    เมื่อหลับตา ภาพจะปรากฎ เอง หรือเราต้องนึกในใจ

    ถ้าหลับตาแล้วเราไม่เห็นอะไรเลย เห็นแต่ความมืด

    ถ้านึกเอา ก็เหมือนพอจะรู้ว่าภาพเป็นแบบไหนแต่ภาพไม่ปรากฎ

    ต้องฝึกยังไงให้เห็นภาพ อะค่ะ แล้วใช้เวลานานไหมค่ะกว่าภาพจะปรากฏ
     
  2. fujiayu

    fujiayu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,001
    "ถ้าหลับตาแล้วเราไม่เห็นอะไรเลย เห็นแต่ความมืด" เป็นเรื่องปรกติคนเราหลับตาก็ต้องมืด
    "ถ้านึกเอา ก็เหมือนพอจะรู้ว่าภาพเป็นแบบไหนแต่ภาพไม่ปรากฎ" ก็จริงอย่างที่กล่าวไว้
    "ต้องฝึกยังไงให้เห็นภาพ อะค่ะ แล้วใช้เวลานานไหมค่ะกว่าภาพจะปรากฏ" ใครช่วยตอบด้วยครับ....
     
  3. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166

    ภาพกสิณ อันเป็นอุคคหนิมิตร ปฏิภาคนิมิตร เมื่อหลับตาแล้ว
    เรากำหนดเห็นด้วยใจ เพราะตาเนื้อได้หมดหน้าที่ในการเห็นแล้วตั้งแต่เราหลับตา

    นึกภาพคน สถานที่ ที่รักที่ชอบได้เมื่อหลับตา อย่างไรก็อย่างนั้น


    เจริญพร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2010
  4. arrin123

    arrin123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,759
    ภาพกสิณเราไม่ควรจะเพ่งนะ

    ถ้าสมมุติว่าเราเพ่งภาพนั้นก่อนแล้วหลับตานึกภาพนั้นน่ะได้

    แต่ถ้สมุติว่าเราตั้งใจนั่งสมาธิแล้วภาพนิมิตลอยมาเองอย่าพยายามนึกถึงเพราะจะทำให้สมาธิเราดับวูบไปเลย

    พอเห็นภาพนิมิตก็ทำเหมือนไม่เห็นพอภาพนิมิตไปก็ตั้งอยู่ในอารมณ์สมาธิตอไปเมื่อนั้น
    เราจะมีสมาธิเป็นแน่วแน่ค่ะ

    อย่าไปยึดติดกับนิมิตเลยยิ่งอยากเห็นเราจะยิ่งไม่เห็นเพราะใจเราก็เริ่มคิดแล้วว่า เอ๊ทำไมไม่เห็นนิมิต แค่นั้นแหละสมาธิหลุด ก็เช่นว่า มีสมาธิมาตลอดแล้วช่วงนั้นใกล้จะถึงขั้นแล้วพอคิดเรื่องที่อยากให้นิมิตเกิดปุ๊บก็เหมือบมันหล่งลงมาเริ่มต้นใหม่ค่ะ
     
  5. plokm

    plokm สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +19
    ไม่ค่อยเข้าใจเลยค่ะ คือเรามองภาพเพื่ออะไรค่ะ
    แล้วที่บอกว่าพอภาพเลือนหายไปค่อยลืมตามองดูภาพอีกครั้ง
    ภาพยังไม่เกิดแล้วจะเลือนได้ยังไง
    ถ้านึกใจ มันก็เหมือนเป็นความทรงจำน่ะค่ะ
    แม้แต่ตอนนี้ก็ต้องนึกออกว่า อืมภาพวันนั้นที่เราเคยเป็นเพ่ง
    เป็นวงกลมสีนี้น่ะ มันก็นึกได้อยู่แล้วนิค่ะ แล้วมันจะเลือนหายได้ยังไง
    ตอนนี้ยังสงสัยการเพ่งกสิณ ก็เลยไม่ได้เพ่งค่ะได้แต่นั่งสมาธิ
    ช่วยแนะให้ด้วยนะค่ะ
     
  6. fujiayu

    fujiayu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,001
    1. "แล้วที่บอกว่าพอภาพเลือนหายไปค่อยลืมตามองดูภาพอีกครั้ง
    ภาพยังไม่เกิดแล้วจะเลือนได้ยังไง" นั่นนะซิ ถามได้ดีมาก
    2. "ถ้านึกใจ มันก็เหมือนเป็นความทรงจำน่ะค่ะ" ถูกต้องคร้าบ
    3. "เป็นวงกลมสีนี้น่ะ มันก็นึกได้อยู่แล้วนิค่ะ แล้วมันจะเลือนหายได้ยังไง" ตอบได้ดีมาก
    สงสัยก็ตั้งคำถามที่ควรถาม ซึ่งถามได้ดีจริงๆ
    เคยบอกตั้งแต่ต้นแล้วว่า คนส่วนมากยังคงไม่เข้าใจว่า การเพ่งแล้วนึกภาพเป็นอย่างไร
    เช่น การมองแผ่นกสิณ สักพักแล้วหลับตา (จะเห็นเงากสิณเป็นสีตรงข้าม) หรือจำภาพดวงกลมสีแล้วนึกในใจ หรือทำทั้งสองอย่าง ทำไปแล้วก็ยังไม่มีนิมิตซะที ก็ต้องกลังไปอ่านข้อแรกใหม่
    เราควรฝึกอย่างไรถึงจะได้ผลจริงๆ........
     
  7. fujiayu

    fujiayu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,001
    คุณ plokm ลองเข้าไปอ่านตามข้างล่างนี้
     
  8. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    ภาพกสิณ มีแบบยาก กับแบบง่ายๆ

    ถ้าอยากฝึกง่ายๆ เวลาฝึก ให้นึกถึงภาพที่เราจะฝึก

    เหมือนตอนที่เรานึกถึงหน้าพ่อแม่ หรือคนที่เรารู้จัก

    นึกได้แล้ว ให้จิตทรงภาพนั้นไว้ เน้นใจสบาย
     
  9. NICKAZ

    NICKAZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +812
    เพ่งกสิณอย่ารีบร้อน ยึดทางสายกลางเข้าไว้

    คือ การเพ่งกสิณ ภาพนิมิตรที่กล่าวถึงกัน

    เราจะต้องมองภาพไปเรื่อยๆๆ จนกว่าจะจำได้
    เมื่อหลับตา ภาพจะปรากฎ เอง หรือเราต้องนึกในใจ

    ต้องนึกภาพขึ้นในใจเอาเองครับ วิธีการคือ เอาสิ่งที่ต้องการเพ่งมาวางไว้ข้างหน้า มองดูจนจดจำให้ได้ แล้วหลับตาลง พยายามนึก คิด สร้างภาพของของสิ่งนั้นขึ้นมาในใจให้ได้ ตอนนี้ต้องอาศัยจินตนาการของเราช่วยด้วย ถ้านึกภาพไม่ออก ก็ให้ลืมตาขึ้น แล้วมองดู จดจำภาพของวัตถูนั้นให้ขึ้นใจอีกครั้ง แล้วหลับตาลง นึกสร้างภาพของของสิ่งนั้นในใจอีก ทำไม่ได้ให้ลืมตามองใหม่ ทำไปกี่ครั้งก็ได้ นับพัน นับหมื่นครั้ง ไม่จำกัด จนกว่าจะสร้างภาพขึ้นมาในใจได้ครับ

    ถ้าหลับตาแล้วเราไม่เห็นอะไรเลย เห็นแต่ความมืด

    เห็นแต่ความมืด ใช่แล้วครับ ความมืดที่เห็นนั้น เพราะตาเราถูกปิดโดยหนังตา การเพ่งกสิณ ไม่ได้ใช้ดวงตาในการเพ่งนะครับ แต่ใช้การนึกคิด สร้างภาพขึ้นมาในใจต่างหาก ภาพที่เห็น จึงเห็นได้ด้วยความรู้สึกนึกคิด ไม่ใช่เห็นจากดวงตานะครับ เหมือนกับที่เรานอนหลับแล้วฝันไป เราก็ไม่ได้ลืมตามองอะไรใช่ไหมครับ แต่ได้เห็นภาพ สีแสง ต่างๆสารพัด ตามความฝันของเรา นั่นล่ะครับ เรียกว่าไม่ได้เห็นด้วยดวงตา แต่เป็นการเห็นด้วยความรู้สึกนึกคิดนั่นเอง

    ถ้านึกเอา ก็เหมือนพอจะรู้ว่าภาพเป็นแบบไหนแต่ภาพไม่ปรากฎ

    การฝึกกสิณ ถ้าจะเอาภาพแบบชัดแจ๋ว คมกริบ เหมือนตาเห็น จะต้องอาศัยกำลังของสมาธิที่สูงมาก (จิตมีสมาธิ นิมิตจึงเกิด จิตละจากสมาธิ นิมิตก็คลายตัวหายไป) ตอนแรกเอาความรู้สึกก็น่าจะเพียงพอครับ ว่าเป็นภาพอะไรแบบไหน แล้วพยายามหมั่นฝึกให้สมาธิคงตัวมากขึ้น การคงภาพนิมิตก็จะชำนาญไปตามลำดับเองครับ

    ต้องฝึกยังไงให้เห็นภาพ อะค่ะ แล้วใช้เวลานานไหมค่ะกว่าภาพจะปรากฏ

    การฝึกสมาธิ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ต้องอาศัยการรักษาศีล 5 เป็นพื้นฐานครับ ควบคุม กาย ใจ ให้อยู่กับสิ่งที่เป็นกุศล เมื่อศีลมั่นคงดีแล้ว ก็จะเป็นฐานให้การฝึกสมาธิบังเกิดผลได้ดีขึ้น ส่วนการฝึกอย่างไรให้เห็นภาพ ก็ย้อนไปอ่านตอนแรกครับ หลับตานึกถึงภาพ นึกไม่ออกลืมตาดูใหม่ ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ไม่จำกัด เป็นพัน หมื่น ครั้งก็ได้ ถ้าถามว่านานไหมกว่าภาพจะปรากฎ อันนี้แล้วแต่คนครับ บางท่านได้เร็ว ได้ช้า แตกต่างกันไป เรื่องอย่างนี้ จะไปกำหนด กฏเกณฑ์อะไรเห็นจะไม่ได้ครับ

    ขอถามเจ้าของกระทู้เล็กน้อยครับว่า ทำไมถึงสนใจเรื่องการเพ่งกสิณครับ หรือว่ามีใครแนะนำมาหรือเปล่า? แต่ผมเคยได้ยินมานะว่า อันกรรมฐานทุกอย่างทั้ง 40 กองนั้น อานาปนสติกรรมฐาน ถือเป็นแม่บทพื้นฐานของกรรมฐานทุกกอง ผู้ที่จะฝึกหวังผลในกรรมฐานกองใด ล้วนต้องผ่านอานาปนสติกรรมฐานมาก่อนทั้งสิ้น เมื่อช่ำชองในอานาปนสติกรรมฐานแล้ว การฝึกกรรมฐานกองอื่นๆ ก็เป็นเรื่องง่าย โดยเฉพาะการฝึกกสิณ โดยเนื้อแท้แล้ว อานาปนสติกรรมฐานสามารถคุมกำลังใจให้ถึงณาน 4 ได้ เช่นเดียวกับกสิณ ดังนั้นถ้าไม่รีบร้อนมากเกินไป อยากจะเสนอแนะให้ลองจับอานาปนสติกรรมฐานก่อนการเริ่มกสิณ เมื่อช่ำชองดีแล้ว ไปจับกสิณต่อ จะพบว่าการสร้างนิมิต การควบคุมจิตใจให้เป็นสมาธิจะทำได้ดีมากครับ
     
  10. fujiayu

    fujiayu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,001
    อย่างที่เคยบอก มองแผ่นกสิณ ไม่กี่ครั้งก็จำได้แล้ว "กลมกับสี"
    ที่บอกว่า นึกภาพของสิ่งนั้นขึ้นมาในใจ นึกได้ทุกคน จุดสำคัญมันอยู่ที่ว่า
    ทำไมภาพไม่มี แต่มันเป็นการนึกจากความจำ เหมือนอย่างที่คุณ plokm พูด
    อย่างเช่นนั่งพิมพ์คอมอยู่ ในขณะเดีวยกันก็นึกถึงภาพ แผ่นกสิณสี นึกได้ครับ
    แต่ ภาพไม่ได้ปรากฎขึ้นมา มันเป็นภาพจากความจำ..... นึกจากความจำๆๆๆๆ
    ภาพที่ปรากฎนี่ก็เป็นภาพจากความรู้สึกนึกคิด ซึ่งทุกคนทำได้อยู่ได้
    มันเหมือนกับว่า ทำอย่างไรให้เห็นภาพเหมือนกับฝัน แต่ไม่ได้ฝัน
    ภาพที่ฝันเป็นภาพที่เหมือนเราดูหนัง แต่ภาพจากการนั่งเพ่ง เป็นแค่ภาพ
    แผ่นกสิณ ซึ่งมีแค่ กลมกับสี และเป็นภาพนิ่ง
    คนที่ฝึกได้นี่ไม่ธรรมดานะครับ.......

     
  11. SONICx

    SONICx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +225
    อาณาปาณสติ เป็นบาทฐานสำคัญของกสิณ

    ตอบได้ดีครับ
     
  12. SONICx

    SONICx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +225
    ภาพนิมิต ที่เห็นจริงเหมือนตาเนื้อ

    ลอง พิจารณาดูครับ จะเล่าให้ฟังว่า การฝึกกสิณนี้ ทำไมมันหลับตาแล้วจึงเห็นภาพเหมือนลืมตาดู

    เวลาที่เราเพ่งกสิณนี้ จุดมุ่งหมายสำคัญคือความตั่งมั่นแห่งสมาธิ โดยมีกสิณเป็นเครื่องผูกจิต
    แน่นอนว่า หากท่านผู้ใดเคยฝึกสมาธิแบบอาณาปาณสติ แล้วจิตตั้งมั่นจนถึงสมาธฺขั้นกลางหรืออุปจาระสมาธิ สิ่งที่จะปรากฏให้เห็นคือภาพนิมิตต่างๆ เกิดขึ้นมามากมาย เห็นนั่นแว๊ป เห็นนี่แว๊ป ภาพกสิณที่ว่าก็คืออาการที่เกิดขึ้นลักษณะเช่นนี้แหละ
    แต่ ภาพกสิณนี้ เราเพ่งจนจำภาพได้ และนำมาเป็นเครื่องผูกจิตตั้งแต่ตอนแรก เมื่อสมาธิตั่งมั่นขึ้นเป็นลำดับและเริ่มที่จะเข้าสมาธิขั้นกลาง หรืออุปจาระสมาธิ ภาพนิมิตกสิณจะปรากฏชัดเหมือนกับภาพที่เราเพ่งตั้งแต่ตอนแรกๆ เขาเรียกว่าได้อุคหนิมิต ถ้าเพียรพยายามไม่ลดละ สมาธิตั้งมั่นแห่งเอกัคคตาจิต มีอารมณ์แห่งอุเบกขาเกิดขึ้น ภาพนิมิตก็จะสว่างจ้าออกไปทุกทิศทุกทาง ใสดั่งแก้ว เขาเรียกได้ปฏิภาคนิมิต นิมิตขั้นนี้ถึงเอาไปใช้งานได้


    เพราะฉะนั้น หากสมาธิไม่ตั้งมั่นถึงขั้นกลางหรืออุปจาระสมาธิ หลับตามันก็มืดตื๊ดตื๋อ เท่านั้นแหละ ไม่เห็นอะไรหรอก
     
  13. fujiayu

    fujiayu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,001
    อยากให้ไปอ่านที่นี่ แล้วทำตัวแบบไม่รู้อะไรเลย ขั้นของสมาธิก็ไม่รู้ ไม่รู้อะไรทั้งนั้น
    อ่านตั้งแต่ต้นจนจบหน้า...... แล้วจะได้คำตอบบางอย่าง
     
  14. plokm

    plokm สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +19
    เคยอ่านเจอจากไหนก็ไม่จำค่อยได้แต่ก็เจอหลายที่เหมือนกัน
    บอกว่ากสิณเป็นกรรมฐานที่ง่ายที่สุด ถึงได้ฝึก
    ตอนนี้พอจะเข้าใจบ้างแล้วค่ะ ขอบคุณทุกๆท่าน
    แต่เคยฝึกแค่ไม่อีก2-3ครั้งเอง แผ่นมันยับพังหมดแล้วค่ะ -*-

    ตอนนี้พึ่งมีโอกาส คิดว่าพรุ่งนี้จะเริ่มฝึกอีกครั้งค่ะ
    คิดจะว่าฝึกควบคู่ไปกับ อานาปาสติ
     
  15. manussanun

    manussanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +202
    ผมก็ฝึกเพ่งกสินอยู่เหมือนกันครับ
    คิดในใจอยู่ว่าจะฝึกดูลมหายใจเข้าออกตลอดเวลา
    แล้วก็หาเวลาว่างไปฝึกเพ่งกสิน

    ตัวเรา ถ้าพยายามให้มากๆเลยน่าจะทำได้
     
  16. siwapongg

    siwapongg สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +9
    การเพ่งกสิณ

    ผมเพ่งกสิณครั้งแรกก็เห็นภาพเลยครับ ตอนเห็นครั้งแรกก็ตกใจรีบลืมตาทันที ไม่นึกว่าเราหลับตาจู่ๆจะมีภาพผุดขึ้นมา ผมเพ่งกสิณสีเขียวครับ ภาพที่เห็นเป็นสีน้ำเงิน ชัด สีสดมาก เหมือนเราลืมตาดู ผมเพ่งกสิณในจอคอมพิวเตอร์ครับ ได้สักพักผมก็ไปซื้อกระดาษสีเขียวมาแปะข้างฝาเอาไว้ฝึกเอง ปรากฏว่า ภาพไม่สดเหมือนเพ่งในจอคอม ผมว่าอยากให้คุณลองฝึกบนจอคอมเหมือนผมลองดูครับ อาจได้ผล เพราะแสงสีจากจอคอมจะส่งเข้าตาเราโดยตรง ทุกวันนี้อยู่ที่ไหนๆ หลับตาก็เห็นครับ โดยที่ไม่ได้ตั้งสมาธิอะไรมากมาย แต่ภาพที่เห็นอาจไม่ชัดเหมือนกับได้เพ่งจริงก่อนหลับตา ผมเพิ่งฝึกได้ 2-3 วันนะครับ ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเมื่อไหร่ แต่ก็ทำไปด้วยความไม่สงสัยและลังเลครับ ไม่งั้นอาจเกิดกิเลศได้ ขอบคุณครับ
     
  17. ศุภกร_ไชยนา

    ศุภกร_ไชยนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    627
    ค่าพลัง:
    +1,122
    ขออธิบายจากประสบการณ์ที่เคยฝึกนะครับ

    1. เป็นธรรมดาถ้าจ้องอะไรที่มีแสงสว่างซักพัก พอหลับตาจะเห็น ภาพนั้นปรากฏให้เห็นโดยตาเนื้อ แต่สีจะตรงกันข้าม ( ลองมองตะวันตอนเย็นไกล้ตกดินซักพัก แล้วหลับตา ไม่ต้องภาวนาก็ได้ ) จะเห็นครับ แบบนี้คือภาพติดตา

    เคยฝึกมองแบบภาพติดตาระยะหนึ่ง กับเปลวเทียน ภาพนั้นจะปรากฏบนเปลือกตา พอภาพนั้นหายไปแล้วลืมตาดูใหม่ ถ้าสมาธิดีๆ เคยปรากฏเห็นภาพไฟ ลอยอยู่บนอากาศ แต่ไม่เหมือนไฟจริง คือรูปเปลี่ยวไฟเฉยๆ แต่ภาพนั้นควบคุมไม่ได้ ผมได้แค่นี้ ในภาพติดตา (ภาวนาไปด้วยนะครับไม่ได้มองเฉยๆ )

    2. ภาพติดใจ ภาพลักษณะนี้จะคล้ายกับเรานึกถึง หน้าบ้าน หลังบ้าน พ่อ แม่ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ต้องพบเจออยู่ประจำ ลองนึกดูครับว่าเห็นไหม ภาพลักษณะนี้อย่าคิดให้เห็น ต้องใช้ใจนึกเอา ถ้ายิ่งคิดปรุงแต่งว่าจะเป็นแบบนั้นแบบนี้ จะเห็นไม่ชัด สำหรับผมไม่เห็นเลย แต่ถ้าใจสบายๆ จะมองเห็นได้

    ที่นี้ผมเคยตั้งกระทู้ไว้แล้วในเรื่องนี้

    http://palungjit.org/threads/ภาพกสิน-แท้จริงควรยึดติดตา-หรือ-ติดใจ.340856/

    ลองอ่านดูครับมีคนมาแลกเปลี่ยนกันอยู่

    จากประสบการณ์ที่เคยทำมาทั้งสองแบบ จากคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์ และจากผู้ที่เคยมีประสบการณ์ ต่างบอกว่า ควรยึดภาพติดใจครับ

    แต่สำหรับมือใหม่อย่างเรา ให้มองภาพนั้นแล้วภาวนาไปเรื่อยๆ พอหลับตาก็นึกถึง ถ้านึกไม่ออกหรือภาพหายก็ลืมตาดูใหม่

    อย่าใช้ใจปรุงแต่งว่าเป็นแบบนั้นแบบนี้ ให้ใช้ใจนึกถึงภาพนั้น


    แต่ตอนนี้ผมไม่ได้จับกสิน กรรมฐานที่ทำอยู่ก็คือ อาณาปาณสติครับ (เพราะว่ารู้สึกจริตมาทางอาณาปาณสติดูลมหายใจเฉยๆมากกว่าครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2012
  18. แสนสวาท

    แสนสวาท ชมรมสุวรรณภูมิธรรม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2007
    โพสต์:
    2,399
    ค่าพลัง:
    +2,488
    กสิณสีเขียวเหมาะกับคนที่มีโทสะจริต เพ่งได้ดี
    ติดตามที่กระทู้จริต ๖ เพื่อพระกรรมฐานที่เหมาะสม
    นอกจากสีเขียวแล้วยังมีสีแดง สีเหลือง สีขาว อีด้วย
    สนใจจะฝึกกสิณสี่ มหาภูตรูปสี่ กคือกสิณดิน กสิณน้ำ กสิณไฟ กสิณลม
    ก็ไปฝึกได้ วันเดียวสำหรับกสิณ คือ วันอาทิตย์ที่ ๑ กรกฏาคม ๒๕๕๕
    ส่วนท่านที่ต้องการฝึกวิปัสสนาก็ไปได้ตั้งแต่วันเสาร์ที ๓๐ มิย. ได้เลย
    คลิก ตรงนี้ เพื่อดูรายละเอียด หรือโทร 0892150588
     
  19. แสนสวาท

    แสนสวาท ชมรมสุวรรณภูมิธรรม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2007
    โพสต์:
    2,399
    ค่าพลัง:
    +2,488
    จะเริ่มฝึกอะไรดี

    อันนี้แหละปัญหาใหญ่ของแต่ละคน
    ไม่ได้เริ่มต้นได้จากที่เดียวกันทุกคน
    อันนี้ คนมักไม่เข้าใจ
    บางคนบอกว่า ทำสมาธิมาสิบปี ไม่ได้อะไรเลย
    ไม่ถูกทาง และ ไม่รู้ชัดในการปฏิบัติกรรมฐานกองนั้น ๆ

    หากกสิณไม่ใช่ทางเดิน พระพุทธองค์คงไม่บัญญัติไว้ในกรรมฐาน ๔๐
    ฝึกกสิณนะ อย่าเพี้ยนไปเพ่งหน้าคนเข้า หรือเพ่งมั่ว เพราะมั่วเลยไม่ได้อะไร
     
  20. แสนสวาท

    แสนสวาท ชมรมสุวรรณภูมิธรรม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2007
    โพสต์:
    2,399
    ค่าพลัง:
    +2,488
    กสิณเป็นทางสู่ ฌาน ๔ ไม่ได้น้อยหน้าอานาปานสติเลย
    เมื่อได้ฌาน ๔ จิตก็เข็มแข็งดี แล้วค่อยไปเจริญสติ อย่างนี้ก็ไปนิพพานไม่ยาก
    (หลวงพ่อฤาษีลิงดำกล่าวไว้มากมาย)

    อานาปานสติ ช่วยลดความฟุ้งของจิตได้เป็นอย่างดี
    จะเริ่มกรรมฐานกองไหน ให้เริ่มที่อานาฯ ก่อนแล้วค่อยเข้าสู่กรรมฐานที่ตั้งจิต
     

แชร์หน้านี้

Loading...