อุทาหรณ์สอนใจ....พระเครื่องรุ่น " ขุนแผนโคโยตี้ " แบบนี้ก็มีด้วย

อุทาหรณ์สอนใจ ภัยจากผู้อำนวยการสร้าง พระเกจิโปรดระวัง...

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>หลังจากที่มีพระเครื่องรุ่น "ขุนแผนโคโยตี้" เผยแพร่กันมากในเว็บไซต์พระเครื่อง มีด้วยกันหลายรุ่นหลายสี โดยล่าสุดมีรุ่นใหม่พื้นสีแดงมีสาวโคโยตี้เปลือยกายร ายล้อมอยู่รอบขุนแผน ด้านหลังหญิงสาวเปลือยนั่งหันหลังจับปลัดขิก มีการระบุว่าปลุกเสกโดยพระ อาจารย์สุเทพ สุทธสีโล หรือ "หลวงพ่ออึ่ง" วัดเซิงหวาย หลังจากที่รุ่นเนื้อทรายที่ออกมาก่อนมีคนสนใจเช่าไปบ ูชาเป็นจำนวนมาก​

ขณะเดียวกันมี Forward mail. ที่ระบุว่าเป็นเครื่องรางของขลังที่ไม่เหมาะสมและไม่ เห็นด้วยกันกับการองค์ประกอบของ"ขุนแผนโคโยตี้"​

พระอาจารย์สุเทพ สุทธสีโล ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ว่า ตอนที่ลูกศิษย์นำมาให้ปลุกเสกก็ไม่ได้เปิดดูเพราะอยู่ในกล่องจึงไม่รู้ว่าในนั้นมีพระอะไร

ออนไลน์ ขอบคุณภาพและข่าว

 

มึจริงๆเหรอครับ

 

เพิ่งจะดูข่าวทีวีสีช่อง 7 เมื่อเย็นนี้เหมือนกัน

 

ก็คิดซ่ะว่าเขาสร้างเวรกรรมใหม่ให้กับตัวเองแล้วครับตอนนี้ ส่วนเราอย่าไปติกรรมเขาครับ สมเด็จองค์ปฐมท่านเคยสอนไว้ วางใจเป็นอุเบกขาครับ สาธุ

 

ทำไปด้ายยยยยยย

 

บอร์ดพระเครื่องหลายๆ ที่ ก็ไม่เห็นด้วยครับ นำมาให้ชมสักแห่ง สังคมต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาและต่อต้านวัตถุอัปมงคลเหล่านี้ครับ ใครทำอะไรไว้บาปนั้นก็ติดตัวเค้าไป
(เมื่อสักครู่ออกช่อง 3 รุ่นแรกหลวงพ่อไม่รู้ แต่รุ่นสองหลวงพ่อสร้างเอง)

 

“มส”สวดยับไม่เหมาะสม “ขุนแผนโคโยตี้”

วันนี้( 3 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเรื่องราวฮือฮาให้กับผู้นิยมชมชอบท่องโลกอินเทอร์เน็ต ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องราวของเครื่องรางของขลัง ในการหาของดีมาคล้องคอ เพื่อความเป็นสิริมงคล และไว้คุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย และเท่าที่ตรวจสอบข้อมูลถึงกับอึ้งไปตาม ๆ กัน เนื่องจากพระเครื่องหรือเครื่องรางที่ว่านั้น กลับกลายเป็นภาพสาวสวย ในชุดนุ่งน้อยห่มน้อย ใส่จีสติงส์ สีแดงสดใส ในท่านั่งขัดสมาธิอยู่ในซุ้มเรือนแก้ว มีลักษณะทรวดทรงองค์เอว หรือท่าทางคล้ายกับสาวโคโยตี้ ทำให้บรรดานักท่องโลกอินเทอร์เนต เรียกขานว่า “ขุนแผนโคโยตี้”

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวจ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งว่ามีประชาชนได้รับการส่งต่อเมล์ เป็นรูปพระขุนแผนโคโยตี้ ซึ่งเป็นภาพที่ไม่เหมาะสมกันจำนวนมาก จึงเข้าไปตรวจสอบค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์พระเครื่องต่างๆ พบว่ามีการนำเสนอให้เช่าบูชาพระขุนแผนโคโยตี้ ที่มีลักษณะเป็นพระผงรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ด้านหน้าเป็นรูปขุนแผนนั่งขัดสมาธิ มือซ้ายมือซ้ายถือกุมาร มือขวากำอยู่ที่หน้าอก รอบ ๆ จะเป็นซุ้มเรือนแก้ว

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบว่า พระขุนแผนโคโยตี้ มีด้วยกันหลายรุ่นหลายสี บางชิ้นเป็นรูปหญิงสาวยืนเกาะเสาโรมัน สภาพเปลือยเปล่า เน้นรูปร่างสัดส่วนชัดเจน ใต้ฐานมีหญิงสาวในท่านั่ง ไม่สวมใส่เสื้อผ้า ส่วนด้านหลังเป็นหญิงสาวเปลือยกายเห็นหลัง กำลังกอดปลัดขิก ทั้งนี้มีการระบุว่าปลุกเสกโดยพระอาจารย์สุเทพ สุทธสีโล หรือหลวงพ่ออึ่ง วัดเซิงหวาย แขวง-เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ โดยมีการเสนอราคาเช่าบูชา องค์ละ 500 บาท และจัดสร้างเพียง 500 องค์เท่านั้น

ด้าน ส.อ.จรุงศักดิ์ สุนทร สุข อายุ 53 ปี เจ้าของร้านสุริโยทัยพระเครื่อง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เคยเห็นพระในรูปแบบลักษณะนี้มาเหมือนกัน ส่วนใหญ่จะมีพระเกจิอาจารย์ทางภาคเหนือนิยมสร้างกัน เป็นรูปคนเสพสุขกับม้า หรือรูปคนเสพสุขกัน และได้รับความนิยมในกลุ่มคนบางกลุ่มรวมทั้งประชาชน ที่มีอาชีพติดต่อค้าขาย จะนิยมเช่าบูชามาเก็บไว้ในที่เก็บเงิน แต่ยังไม่เคยพบเห็นนำมาคล้องคอ อย่างไรก็ดี เซียนพระจะไม่มีใครนิยมกัน เพราะถือว่าไม่ใช่สิ่งที่จะนำมาบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล

“ส่วนตัวมองว่า พระเครื่องจะต้องเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ไม่น่าจะนำรูปลักษณะการสมสู่หรือภาพเปลือยของหญิงสาวมาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เพราะเป็นภาพที่ไม่เหมาะสมอย่างมาก จึงวรู้สึกหดหู่ใจที่ยังมีการสร้าง และพัฒนารูปแบบจนมากเกินไป ปัจจุบันมักมีการสร้างวัตถุมงคลกันในรูปแบบต่าง ๆ ที่ไม่เหมาะสมออกมามาก แต่ยังไม่มีการควบคุม ทำให้ภาพของพุทธศาสนามัวหมอง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งตรวจสอบ” ส.อ.จรุงศักดิ์ กล่าว

ขณะที่ นายอำนาจ บัวศิริ ผอ.สำนักงานเลขาธิการมหาเถระสมาคม (มส.) กล่าวว่า การกระทำดังกล่าว ถือว่าไม่เหมาะสม โดยเฉพาะการนำภาพผู้หญิงมาไว้คู่กับพระ เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอยู่แล้ว และยิ่งเป็นภาพโคโยตี้ จึงสื่อความหมายในทางที่ไม่เหมาะสมมากขึ้นไปอีก ทั้งนี้การจะสร้างวัตถุมงคลหรือการหล่อพระพุทธรูปทางคณะสงฆ์ ไม่เคยสนับสนุนให้สร้าง และการสร้างวัตถุมงคลไม่มีกฎหมายเข้าไปควบคุมดูแล เพราะถือเป็นความศรัทธาของแต่ละบุคคล ที่ไม่สามารถห้ามปรามได้ และไม่มีความผิด

นายอำนาจ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีคนที่มีความคิดแปลก ๆ โดยการนำความโลกีย์ของสังคมมาผสมผสานกับความเชื่อของคนไทย เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ที่สำคัญมีการอวดอ้างสรรพคุณต่างๆ จึงคิดว่าการจัดสร้างวัตถุมงคลในลักษณะดังกล่าว คงไม่มีใครอยากไปเช่าซื้อหรือครอบครอง เพราะไม่ได้สร้างจากความศรัทธา และไม่ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา

นายอำนาจ กล่าวด้วยว่า ในการประชุมมส.ทุกครั้ง ได้มีการหารือไม่ให้มีการสนับสนุนหรือส่งเสริมการสร้างวัตถุมงคล แต่ให้ผ่อนปรนจัดสร้างได้ตามความจำเป็นเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมส.ได้กำชับไปยังเจ้าคณะผู้ปกครองให้ตักเตือนหรือห้ามปราม หากพระสงฆ์หรือมีบุคคลมาขอให้จัดสร้างวัตถุมงคล ในลักษณะที่ไม่เหมาะสม สำหรับกรณีนี้หากมีการร้องเรียน จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีเหตุผลอะไรในการจัดสร้าง และถึงมีความคิดแบบนั้น

“การสร้างพระขุนแผนโคโยตี้ และนำรูปผู้หญิงมาใส่คู่กับพระพุทธรูป จะมีใครต้องการเช่าหรือไม่ หรือยกเว้นผู้มีความคิดอยากจะเช่าตามกระแส ดังนั้น อยากฝากไปยังประชาชน ควรมีวิจารณญาณ และวิเคราะห์ให้ดีก่อน จะเช่าหรือจัดสร้างพระ เพราะหากทำขึ้นแล้ว จะส่งผลกระทบต่อพระพุทธศาสนา”นายอำนาจ กล่าว

ด้าน พระรัตนเมธี เจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้าจุฬามณี และเจ้าคณะเขตบางซื่อ กล่าวว่า ได้เรียกนายสมศักดิ์ ว่องไว ไวยาวัจกร วัดเซิงหวาย มาสอบถามถึงเรื่องที่พระอาจารย์อึ่ง จัดสร้างและปลุกเสก พระขุนแผน รุ่นโคโยตี้ โดยไวยาวัจกร เล่าให้ว่า เมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา มีญาติโยมเป็นชายมาจากท่าพระจันทร์ นำกล่อง 4 กล่อง ภายในบรรจุพระเครื่อง 500 องค์ รวมทั้งหมด 2,000 องค์ มาให้พระอาจารย์อึ่งปลุกเสก โดยไม่ทันได้เปิดกล่องดูว่า ข้างในเป็นอะไร รู้แต่เพียงว่า เป็นวัตถุมงคล และหลังจากปลุกเสก แล้วโยมได้ถวายให้ 1,000 องค์ และเมื่อพระอาจารย์เห็นก็ตกใจ และบอกให้ลูกศิษย์นำไปแจกให้หมด

“จากกรณีนี้ไม่ถือว่า ผิดพระวินัยสงฆ์ เนื่องจากพระอาจารย์อึ่ง ไม่ได้จัดสร้างเอง เพียงแต่มีโยมนำมาให้ปลุกเสกให้เท่านั้น และหลังจากนี้ จะเรียกพระอาจารย์อึ่ง มาสอบถามอีกครั้ง ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า มีความเป็นมาอย่างไร” เจ้าคณะเขตบางซื่อ กล่าว

ขณะที่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พระอาจารย์อึ่ง ไม่รู้มาก่อนว่า ผู้ที่นำพระมาให้ปลุกเสก นำพระลักษณะใดมาให้ปลุกเสก แต่พระอาจารย์อึ่ง มาทราบทีหลัง รู้สึกไม่สบายใจ จึงบอกให้ลูกศิษย์ นำไปแจกจ่ายให้แก่ลูกศิษย์
และเท่าที่ทราบว่าชายคนดังกล่าวนำพระที่รับการปลุกเสกจากพระอาจารย์ ไปจำหน่ายยังประเทศสิงคโปร์ และขณะนี้พระขุนแผน รุ่น โคโยตี้ เป็นที่ต้องการของพ่อค้าแม่ค้าอย่างมาก เพราะเช่ากันเป็นพันบาทแล้ว

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปกุฏิพระอาจารย์อึ่ง ที่วัดเซิงหวาย พบลูกศิษย์จับกลุ่มสนทนากันอยู่เต็มหน้ากุฎิ แต่ไม่พบพระอาจารย์อึ่ง โดยลูกศิษย์ บอกว่า พระอาจารย์อึ่ง ติดกิจนิมนต์ ยังไม่กลับวัด และพระอาจารย์อึ่งไม่ได้สร้างพระขุนแผนรุ่นนี้.


ที่มาเดลินิวส์ออนไลน์

 

แสดงให้เห็นว่า
เดี๋ยวนี้สมองคนถูกควบคุมด้วยอวัยวะเพศ

 

ไม่เหมาะเลย

 

ง่า กรรม = ="

 

โค.....โยตี้อีกละ ขาวๆ เนียนๆ กรรมจริงๆ

 

ไม่น่าทำเลยอ่ะ แย่มาก

 

...................เฮ้อ.

 

ทำไปได้ ไม่น่าเลย

 

ออกมาซักพักใหญ่ๆๆแล้วครับ...แรกออกมามีคนเช่าหากันพอสมควร

 

เครื่องราง ไม่ใช่พระ

 

ทำไปได้งัย...เนี่ย โห คนเรา .... ชาวพุทธแท้ คงไม่คิดอะไรพิเรน แบบนี้หรอก...
อย่างบ้าเลย...รับไม่ได้ว่ะ.....
คนทำนี่ คงโดนไม่น้อยนะ...ผมว่า....
วัตถุมงคลหรือพระเครื่องสร้างขึ้นมาเพื่อให้น้อมระลึกนึกถึง คุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์.....เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ....
แล้วแบบนี้ มันระลึกถึงอะไรของมันวะ.... สัปดน จริง ๆ

 

คนในศาสนาคงไม่กล้าทำ นอกจากคนนอกศาสนาที่คิดจะทำลายพุทธศาสนา..

thaiput007@hotmail.com

 

มองต่างมุมอีกทีครับ

จากที่ได้เห็นมาเป็นพักใหญ่แล้วดูเหมือนว่าจะไม่เหมาะสมนะครับแต่การสร้างขุนแผน อ่านดีๆ นะครับ ขุนแผน กับพระขุนแผน คนล่ะอย่าง พระขุนแผนจะเด่นไปในทางมีเมตตา มหาเสหน่ห์ใช่ไหมครับ แต่นี่ ขุนแผนครับไม่ใช่พระ รูปลักษณ์ที่สร้างออกมานั้นมีตรงไหนที่บ่งบอกว่าเป็นพระมั่งครับไม่มีเลยต่างกับพระขุนแผน อย่างสินเชิง ขุนแผนที่เขาสร้างมานี้คงจะเอามาจากวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผนเนื่องมาจากขุนแผนเป็นคนเจ้าชู้มีเมียหลายคนใครเห็นใครรักแบบนั้นกระมั้ง ถ้ามองดูอีกทีถ้าเจตนาสร้างเป็นเครื่องรางของคลังก็ไม่น่าจะผิดตรงไหน คนไทยเอาคำว่าขุนแผนกับพระขุนแผนไป+เข้าด้วยกัน
มันเลยกลายเป็นว่าคนที่ทำมานั้นไม่เหมาะสม ถ้ามองว่าไม่ใช่พระก็ไม่ผิด เพราะจริงๆขุนแผนไม่ใช่พระ แล้วแต่คนจะคิดนะครับ อย่าเอาคำว่าพระไปยึดติดกับวรรณคดีเพราะสิ่งที่สร้างไม่ใช่พระ แต่เป็นเครื่องราง อีกอย่างเครื่องรางขุนแผนที่ออกแนวนี้มีออกเยอะมากเป็นผู้หญิงมานังกอด3-4คนก็มีการสร้างมานานแล้วแต่ไม่มีไครเอามาพูด ในเว็ปก็มีออกขายกันมาหลายปี แล้วแต่พอขุนแผนโคโยตี้ออกมามันแรงหน่อยตรงนี้ก็เข้าใจแต่มองเป็นเครื่องรางสิครับว่าผิดไหมขุนแผนก็ทหารคนหนึ่งที่มีวิชาอาคมมากแล้วทำไมต้องเอาไป+เป็นพระขุนแผนด้วย ถ้าคนสร้างเขาสร้างมาในรูปพระพุทธรูปเลยแล้วมีผู้ ญ มายืนเหมือนอย่างที่ว่า โคโยตี้ อันนี้ก็ไม่เหมาะสมแต่ในรูปไม่ใช่พระนะครับและก็ไม่ควรไปคิดให้รกสมองเพราะว่าไม่ใช่พระ ไม่ต้องไปร้อนตัวแทน แยกเครื่องรางกับพระให้ออกตอนแรกผมมองก็ตกใจว่าไม่เหมาะแต่พอตีความหมายออกก็จบ อย่าคิดนะครับว่าเครื่องรางที่ห้อยคอจะต้องเป็นพระเสมอไป

 

ขอเสริมอีกนิดครับ มองยังไงเป็นพระพุทธรูปครับเห็นไหมลองกดดูที่รูปมีดาบสะพายไว้ด้านหลังชุดที่ใส่ก็เป็นชุดแบบโบราณไม่ได้ห่มผ้าเหลือง และยืนยันนอนยันได้เลยว่าสร้างเป็นขุนแผนที่เป็นคนตามใจวรรณคดีเพราะพกทั่งดาบและมีกุมารทองด้วยพระพุทธรูปมีสะพายดายอุ้มกุมารหรอ จริงไม่จริงไปศึกษาขุนช้างขุนแผนและจะเข้าใจเองครับสมัยก่อนทำยิ่งกว่านี้มามานั่งล้อมกอดเลยเป็นเครื่องรางมหาเสน่ห์ ถ้ามองว่าอัปมงคล แบบนี้ต้องไปไล่บี้พระเกจิ ทำปลัดขิก อีเป๋อ จิ้งจก2หางและอื่น ถ้าเอาจริงๆสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่กิจของสงฆ์อย่างสิ้นเชิง รวมทั่งรวมไปถึงการทำกุมารทองด้วย ถ้าจะตีให้แตกมันสะเทือนไปหมดนะครับ อีกอย่างสมัยนี้เครื่องรางอีกชนิด ชูชก นักขอ เท่าที่ทราบว่าชูชกคือพระเทวทัตซึ่งตกนรกอเวจีกันอยู่ ณ ตอนนี้ ทำไมยังมากราบไหว้สร้าง ชูชก ซึ่ง ในชาติสุดท้ายเป็นพระเทวทัตด้วยล่ะครับ แบบนี้ไม่เข้าข่ายผิดคุณธรรมหรอครับ อีกอย่างคุณกราบพระเทวทัตลงหรอครับ ถึงแม้นจะได้รับพยากรณ์ว่าในอนาคตจะได้บรรลุเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า แต่เวลานี้อยุ่ในนรกครับ แบบนี้ไม่ต้อง มานั่งกราบไหว้สัตว์นรกให้วุ่นกันเลยหรอ ถ้าไครคิดว่านั้นพระพุทธรูป ก็คิดไปครับ มองให้ลึกคนส้รางมาให้พระปลุกเสกจะไม่ผิดด้วยซ้ำเจตนา ไม่ได้ทำเป็นพระพุทธรูป แต่คนที่ไม่เข้าใจยัดเยียดให้เป็นพระ คุณลองมองสิว่านั้นพระหรือคน แค่ชื่อ ขุนแผน กับพระขุนแผนเหมือนกัน ตีความหมายผิดแล้วให้สังคมประนามว่าคนทำมานั้นเลว จริงหรือไม่แล้วแต่จะคิด สำหรับผมไม่มีส่วนได้เสียอะไรกะคนสร้างพระ แต่ตรงนี้มองด้วยปัญญาอันน้อยนิดก็ดูออกว่าไม่ใช่พระ