11111111111111* 11111111111111* แบ่งให้บูชาพระเครื่องหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(ฤาษีลิงดำ)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย พรแม่ศรี, 13 พฤษภาคม 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. baimin

    baimin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,933
    ค่าพลัง:
    +14,580

    [​IMG]


    งอน งอน งอน ก๊ากๆๆๆๆๆ ๆๆๆๆ ๆๆๆๆๆๆ
     
  2. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ พรแม่ศรี [​IMG]
    พระหางหมาก รุ่นพิเศษ ด้านหน้าเป็นรูปสมเด็จองค์ปฐม ด้านหลังมียันต์เกราะเพชร องค์พระสวย ๆ เดิม ๆ รุ่นนี้สร้างน้อย หายาก (หน้า 962#19232)
    บูชา 1,200บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999
    นายทศพล ศรีสุข ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาบ้านฉาง ออมทรัพย์ 7762142467

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ว้าว..ขออนุโมทนาด้วยนะครับ สุดดยอดครับเสี่ย เสร็จแล้วนำภาพพระมาให้ชมกันบ้างนะครับ:cool:
     
  3. จารุ

    จารุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    23,747
    ค่าพลัง:
    +236,438
    พี่ทศครับ ไม่รู้ว่าผมแก่หรือเปล่า ผมว่ารูปพระที่พี่ถ่ายมันมืดไปหน่อยอะครับ คนแก่ก็อย่างงี้อะครับ หูตาฝ้าฟาง
     
  4. หูกาง

    หูกาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    4,330
    ค่าพลัง:
    +5,449
    ขอบคุณมากครับ

    ได้ความรู้เพิ่มอีกแล้ว ขอถามอีกหน่อยนะครับ
    พระคำข้าวรุ่น 1 แต่ไม่มีจุดมีไหมครับ จะสังเกตยังไงครับ
     
  5. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    พระคำข้าว รุ่น 1 มี 2 พิมพ์นะครับ ดังนี้
    -พิมพ์ 2 จุด พิมพ์นี้ที่แขนขององค์พระจะมีจุด 1 จุด และที่กลับบัวอีก 1 จุด
    -พิมพ์แขนจุดบัวหลายจุด พิมพ์นี้องค์พระจะมีจุดที่แขน 1 จุด และที่บัวทุกกลีบจะมีจุด นะครับ

    ทั้ง 2 พิมพ์ ก็มีในพระคำข้าวรุ่น 2 วิธีการ เราต้องสังเกตุที่ด้านหลังองค์พระนะครับ
     
  6. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    อ๋อ....กล้องผมไม่ค่อยดีนะครับ เวลาเปิดไฟจ้าไปพระก็สว่าง เวลาไฟน้อยไปก้มืด บางทีกล้องโฟกัสไม่ได้ กว่าจะถ่ายได้แต่ละรูป เฮ่อ....นาน
     
  7. baimin

    baimin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,933
    ค่าพลัง:
    +14,580
    [​IMG]
     
  8. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    [​IMG] นอนหลับฝันดีนะครับพี่
     
  9. หูกาง

    หูกาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    4,330
    ค่าพลัง:
    +5,449
    ขอบคุณมากครับ

    ขอไปศึกษาอีกสักหน่อยถ้ามีปัญหา ผมมาถามพี่นะครับ
     
  10. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    ยินดีครับผ้ม
     
  11. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    ***รายการวัตถุมงคลของ คุณพรแม่ศรี ที่ยังไม่ปิดรายการ มีดังนี้***


    เหรียญพระเจ้าพรหม ทรงช้างประกายแก้ว(p.213#4244)

    บูชา 700 ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999
    [​IMG] [​IMG]
    พระกลีบบัวรูปเหมือนหลวงพ่อ (กลีบบัวเล็ก) สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2527 แจกเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์ พระสุธรรมยานเถระ เดือนมีนาคม 2528(หน้า384#7672)
    บูชา 4,500 ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    พระ บูชาท่านแม่ศรีระจิตร (แก้วใส) สมัยหลวงพ่อ สวย ๆ เดิม ๆ สีเหลืองทอง เงางาม (สีน้ำผึ้ง) พื้นใต้ฐานติดผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงิน หลวงพ่อท่านบอกว่าให้บูชาท่านแม่ศรีด้วยดอกมะลิสด แล้วจะมีลาภมาก *องค์พระสูงประมาณ 15.5 นิ้ว

    pm. หรือ โทร 089-4035999 *ค่าจัดส่ง 150 บาท
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    พระรอดกริ่งผสมว่าน 108 (เนื้อแดง) เสก 27 ก.พ. 2525 การปลุกเสกพระรอดนี้ได้ทำพร้อมกับแก้วมณีรัตนะและแหนบทอง องค์พระมีเส้นขาว ๆ ขึ้นตามองค์พระมากมาย (p.585#11698)
    บูชา 750 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999
    [​IMG] [​IMG]
    ล็อคเก็ตดาว ที่ระลึกงานเป่ายันต์เกราะเพชร ครั้งที่ 5 องค์พระสวย ๆเดิม ๆ (p.597#11940)
    บูชา 1,300 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    <!-- google_ad_section_end -->
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    เหรียญที่ระลึกผูกพัทธสีมา สร้าง 23 เม.ย.2520 ใช้กันโรคระบาดและอันตรายทุกอย่าง สวย ๆ เดิม ๆ (หน้า 675#13488)
    บูชา 750 บาท ค่าส่ง 50 บาท (เบา ๆ)
    โทร 089-4035999

    [​IMG] [​IMG]
    <!-- google_ad_section_end -->
    พระสีวลี วัดโขงขาว ที่ระลึกกฐินปี 2535 (ทันหลวงพ่อ) องค์พระสวย ๆ เดิม ๆ (หน้า 694#13875)
    บูชาองค์ละ 1,400 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    เหรียญที่ระลึกงานเป่ายันต์เกราะเพชร สร้างเป็นที่ระลึกงานเป่ายันต์เกราะเพชร 7 ม.ค.2527 องค์พระสวย ๆ เดิม ๆ (p.695#13890)
    บูชา 500 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999
    [​IMG] [​IMG]
    เหรียญพระยืน 30 ศอก (หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา) สร้างเมื่อ พ.ศ.2533 องค์พระสวย ๆ เดิม ๆ (หน้า 709#14178)
    บูชา 1500 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999
    [​IMG] [​IMG]
    ยันต์กันไฟ ที่ระลึกงานทอดกฐิน 25 ต.ค.2530 วัดโขงขาว อ.หางดง จ.เชียงใหม่ (รุ่นนี้ทันหลวงพ่อฤาษ๊ลิงดำเสก)<!-- google_ad_section_end --> รุ่นนี้นิยมบูชาติดรถ ติดบ้าน สำหรับยันต์ชุดนี้ภายหลังทางวัดได้นำมาแจกอีกวาระหนึ่งในงานวางศิลาฤกษ์ 28 มี.ค.2536 (หน้า 710#14186)
    บูชาชุดละ 1,600 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->


    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    เหรียญรูปในหลวง ร.9 สร้างเป็นที่ระลึกโดยเสด็จพระราชกุศล งานผูกพัทธสีมา 24 เม.ย.2520 องค์พระสวย ๆ เดิม ๆ (หน้า 722#14425)
    บูชา 370 บาท ค่าส่ง 50 บาท ปรับลดราคา 260 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999
    [​IMG] [​IMG]
    พระเนื้อผง ฤาษีท่องสวรรค์ ด้านหน้าบรรจุเม็ดแร่ข้าวตอกพระร่วงด้านหลังเขียนว่า "สุขสันต์ มั่นคง" สร้างเมื่อ พ.ศ. 2531 องค์พระสวย ๆ เดิม ๆ
    (หน้า 732#14636)
    บูชา 2200 บาท ค่าส่ง 50 บาท ปรับลดราคา 1900 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999
    [​IMG][​IMG]

    พระวิสุทธิเทพด้านหลังมียันต์เกราะเพชร สุดยอดแห่งมวลสารที่สำคัญ ๆ ของหลวงพ่อ สร้างประมาณ ปี 253..กว่า ๆ ก่อนพระคำข้าว องค์พระสวย ๆ เดิม ๆ (หน้า 747#14932)
    บูชา 999 ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999
    [​IMG][​IMG]
    เหรียญทำน้ำมนต์ สร้าง 17 ต.ค. 2532 เหรียญนี้เลี่ยมกรอบพลาสติกเดิม ๆ จากวัด และเป็นเหรียญเดียวที่หลวงพ่อท่านบอกว่าสามารถตัดกรรมได้ (หน้า 765#15290)
    pm.หรือโทร 089-4035999

    [​IMG] [​IMG]
    ผ้ายันต์มหาพิชัยสงคราม,เหรียญสามัคคีมีสุข องค์พระเลี่ยมอัดกรอบพลาสติก เดิม ๆ จากวัด (หน้า 772#15427)
    บูชา 800บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999
    นายทศพล ศรีสุข ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาบ้านฉาง ออมทรัพย์ 7762142467
    <!-- google_ad_section_end -->
    [​IMG] [​IMG]
    พระคำข้าว รุ่นพิเศษ (รูปเหมือนหลวงพ่อ)ด้านหลังบรรจุผงพระคำข้าว ปลุกเสกในงานเป่ายันต์เกราะเพชร 8 ก.พ.2535 องค์พระสวย ๆ เดิม ๆ พร้อมเลี่ยมพลาสติกกันน้ำ (หน้า 781#15613)
    บูชาองค์ละ 1,300 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999
    นายทศพล ศรีสุข ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาบ้านฉาง ออมทรัพย์ 7762142467<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    [​IMG] [​IMG]
    รูปหล่อลอยองค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน รุ่น 4 เนื้อทองเหลืองรมดำ (ทันหลวงพ่อ) สร้าง พ.ศ.2533 องค์พระสวย ๆ เดิม ๆ พร้อมเลี่ยมกรอบกันน้ำอย่างดี (p.787#15734)
    บูชา 3800 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999
    [​IMG] [​IMG]
    เหรียญดาวยันต์เกราะเพชรลงยา องค์พระสวย ๆ เดิม ๆ (หน้า 815#16299)
    บูชาองค์ละ 1,200 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    ปรับลดราคา 1100 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999

    [​IMG] [​IMG]
    พระบูชาแก้วใส พิมพ์สุโขทัยหน้าตัก 5 นิ้ว องค์พระสวยสมบูรณ์ 100 % (หน้า#)
    pm.หรือโทร 089-4035999
    นายทศพล ศรีสุข ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาบ้านฉาง ออมทรัพย์ 7762142467<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    [​IMG] [​IMG]
    เหรียญรูปเหมือนใบโพธิ์ พุทธาภิเษกในงานเป่ายันต์เกราะเพชร วันที่ 8 ก.พ.2535 จำนวน 30000 องค์ พระองค์นี้สวย ๆ เดิม ๆ (หน้า 904#18068)
    บูชา 790บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999
    นายทศพล ศรีสุข ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาบ้านฉาง ออมทรัพย์ 7762142467
    <!-- google_ad_section_end -->[​IMG] [​IMG]
    พระวิสุทธิเทพทรงประทับ ณ.จุฬามณี หลังยันต์เกราะเพชร รุ่นนี้หายาก สร้างน้อย เต็มเปี่ยมไปด้วยมวลสารที่สำคัญ ๆ มากมายของหลวงพ่อ องค์พระสวย ๆ เดิม ๆ (หน้า 919#18367)
    บูชา 1200 ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999
    นายทศพล ศรีสุข ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาบ้านฉาง ออมทรัพย์ 7762142467<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    [​IMG] [​IMG]

    พระคำข้าว รุ่นปืนแตก พิมพ์ตัวหนังสือโค้ง ปลุกเสกเมื่อ 18 พ.ค. 2535 ในงานเป่ายันต์เกราะเพชร จำนวน 100000 องค์ องค์พระสวย ๆ เดิม ๆ (p. 946#18909)
    บูชา 950 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999
    นายทศพล ศรีสุข ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาบ้านฉาง ออมทรัพย์ 7762142467<!-- google_ad_section_end -->


    [​IMG] [​IMG]

    เหรียญของขวัญวันเกิด รุ่น 3 ติดโบว์ยันต์บารมี 30 ทัศองค์พระสวยกริ๊บ ๆ (หน้า 949#18966)
    หลวงพ่อพูดถึงอานุภาพใว้ดังนี้
    ๑.ป้องกันอันตราย
    ๒.ผู้ทำคุณไสยมาจะย้อนกลับไปหาเจ้าของ
    ๓.ศัตรูทำอันตรายยาก
    ๔.เมื่อปลุกเสกเสมอ อย่าแช่งคนอื่น เพราะจะเป็นไปตามนั้น
    ๕.ทำน้ำมนต์ กินคลอดบุตรง่าย และรักษาโรค
    ๖.ติดตัวไว้จะไม่มีอันตรายจากยาพิษ เมื่อบังเอิญกินยาพิษเข้าไป จะมีอาการมึนงงราว 1 ชั่วโมง แล้วจะหายไปเอง
    เมตตามหานิยม
    ๗.กันรังสีต่าง ๆ
    ๘.กันโรคระบาดถ้ามีโรคระบาดเกิดขึ้นให้ใส่บาตรอุทิศกุศลให้ท่านท้าวมหาชมภูแล้วจะพ้นภัย เหรียญนี้ ๑ องค์คุ้มกันได้ทั้งบ้าน

    <O>:p</O>:pวิธีทำน้ำมนต์ ให้เอาเหรียญวางไว้ใกล้ขันน้ำ แล้วอาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระอิรยสงฆ์ ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย สืบ ๆ กันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เป็นที่สุด แล้วอธิษฐานตามต้องการ เสร็จแล้วเอาพระจุ่มน้ำแล้วเอาขึ้น
    บูชาองค์ละ 1700 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999
    นายทศพล ศรีสุข ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาบ้านฉาง ออมทรัพย์ 7762142467<!-- google_ad_section_end -->
    [​IMG] [​IMG]
    ล็อคเก็ตดาว ที่ระลึกงานเป่ายันต์เกราะเพชร ครั้งที่ 7 องค์พระสวย ๆ เดิม ๆ (960#19200)
    บูชา 650 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999
    นายทศพล ศรีสุข ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาบ้านฉาง ออมทรัพย์ 7762142467<!-- google_ad_section_end -->
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    พระคำข้าว รุ่น 2 ,พระหางหมาก ปิดทอง หลวงพ่อท่านปรารภว่าพระคำข้าวนั้น สมเด็จองค์ปฐมเสด็จมาเป็นประธานในพิธี และจะเน้นหนักไปในทางลาภ ส่วนพระหางหมากนั้น จะหนักไปในทางป้องกัน ท่านจึงแนะนำให้แขวนบูชาคู่กันเลย (เบาๆ) (หน้า 961#19202)
    บูชาคู่ละ 1,000บาท ค่าส่ง 50 บาท

    โทร 089-4035999
    นายทศพล ศรีสุข ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาบ้านฉาง ออมทรัพย์ 7762142467
    <!-- google_ad_section_end -->
    [​IMG] [​IMG]
    มงกุฎเพชร รุ่นพระสุธรรม อานุภาพ ประการแรก ป้องกันโรคระบาด
    ประการที่สอง ถ้าต้องการความปลอดภัยท่านท้าวเวสสุวรรณอธิบายว่า อำนาจพุทธานุภาพ "พุทธโธ อัปปมาโณ " คุณของพระพุทธเจ้าหาประมาณมิได้ "ธัมโม อัปปมาโณ " คุณของพระธรรมหาประมาณมิได้ " สังโฆ อัปปมาโณ " คุณพระสงฆ์หาประมาณมิได้

    ถ้าหากว่าไม่การให้ของหาย ให้อธิฐานว่า "ขอผู้ร้ายจงอย่าเห็นบ้าน จงอย่าเห็นประตู หรือศัตรูอย่าเห็นตัว" และเรื่องต่อไปลาภสักการะอะไรต่าง ๆ ธรรมดา * อ้างอิงจากหนังสือสมบัติพ่อให้ (เล่มเก่า) (หน้า 961#19210)
    บูชา 590 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    โทร 089-4035999
    นายทศพล ศรีสุข ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาบ้านฉาง ออมทรัพย์ 7762142467
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->[​IMG] [​IMG] [​IMG]








    คุณ ทศพล ศรีสุข


    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา บ้านฉาง


    หมายเลขบัญชี 7762142467<!-- google_ad_section_end -->


    โทร. 089-4035999



    ;aa51...;aa51...;aa51...;aa51...;aa51​
     
  12. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    1111111111111111111111111111111111111111111111111111

    ราตรีสวัสดิ์ครับผ้ม
     
  13. sonthya

    sonthya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,489
    ค่าพลัง:
    +8,797
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sonthya*, panchita </TD></TR></TBODY></TABLE>
    น้องพัณณ์ หลับบ้านนี้แย้ว 555555555555555555555555+


    [​IMG]


    ...........................อืมมมมมมมมมม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2010
  14. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    111111111111111111111111111111111111111111111111111111

    วันนี้ไม่อยู่นะครับ
     
  15. ลูกคนที่ 62

    ลูกคนที่ 62 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,533
    ค่าพลัง:
    +21,538
    ไปเที่ยวไหนอีกล่ะครับเฮีย...เที่ยวให้สนุกนะครับ...หากทำธุระก็ขอให้สำเร็จตามความประสงค์ เอิ๊ก ๆ
     
  16. ณ แปดริ้ว

    ณ แปดริ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,701
    ค่าพลัง:
    +54,174
    สวัสดียามเช้าจ้า...........วันนี้ไปทำงานอีกแล้ว...........ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆเาียดาย...อดเล่นเวบเลย.........ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


    .
     
  17. baimin

    baimin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,933
    ค่าพลัง:
    +14,580
    ขออนุญาติแทรกธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำครับ พี่ทศพล
    ขออนุโมทนากับทุกท่านที่อ่านธรรมะครับ
    (ขออภัยหากเป็นการรบกวน)
    ขอบพระคุณครับ...baimin

    [​IMG]

    สุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขมสุขเวทนา

    สำหรับวันนี้ เป็นการศึกษามหาสติปัฏฐานสูตร ในบรรพที่เรียกว่า เวทนานุปัสสนามหาสติปัฏฐาน คำเวทนานี้แปลว่า การเสวยอารมณ์ พระพุทธเจ้าท่านว่าไว้ ปุน จปรํ ภิกฺขเว ภิกฺขุ เสยฺย ปสฺเสยฺย สีวถิกาย ฉฑฺทิตํ วฏฺฐิกานิ นี่มันไม่ใช่นี่ ดันเปิดผิดเข้าไปแล้ว นี่แปลว่า นวสี ๙ นี่ อ่านบาลีแล้วไม่ใช่นี่
    ในเวทนาบรรพ ท่านบอกว่า กถญฺจ ภิกฺขเวภิกฺขุ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งอื่นยังมีอยู่ เวทฺนาสุ เวทฺนานุปสฺสี วิหรติ ย่อมพิจารณาเห็นเวทนา คำว่าเวทนานี้ ท่านแปลว่าอย่างนั้น ท่านว่าแปลว่า ความเสวยอารมณ์ ถ้าพูดกันแบบไทย ๆ ไอ้คำว่าเสวยนี่ ก็แปลว่ากิน คนก็เลยกินอาหารเข้าไป ไม่ต้องกินข้าวแล้ว คำว่าเสวยอารมณ์ ก็หมายความว่า อารมณ์ที่เกิดกับใจเรา มันมีอยู่เป็นปกติ ท่านบอก บอกว่าย่อมพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาเนือง ๆ คือว่าพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนา ท่านบอกยังไง ดูตามของท่านไป ว่าดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ เมื่อเสวยสุขเวทนาก็รู้ชัดอยู่ ว่าบัดนี้เราเสวยสุขเวทนา เมื่อเสวยทุกขเวทนาก็รู้ชัดอยู่ ว่าบัดนี้เราเสวยทุกขเวทนา เมื่อเสวย อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวทิยมาโน เพื่อนก็เลยแปลบอกว่า เมื่อเสวย อทุกขมสุขเวทนา เป็นอันว่า เมื่อเราไม่ได้เสวยทุกข์หรือเสวยสุขเวทนา อันเป็นอุเบกขา คืออารมณ์เฉยเราก็รู้ชัดอยู่ว่าเวลานี้อารมณ์ของเราเฉย ๆ ไม่มีสุข หรือมีทุกข์ใด ๆ
    ต่อไป เมื่อเสวยสุขเวทนา ที่มีอามิส คำว่าอามิสแปลว่าสิ่งของ คือมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้ามาเจือ เช่น กามคุณ ก็รู้ชัดว่า เวลานี้เราเสวยสุขเวทนาที่มีอามิส หรือว่าสุขเวทนาที่ไม่มีอามิส ก็รู้ชัดว่า เวลานี้เราเสวยสุขเวทนาที่ไม่มีอามิส หรือว่าเมื่อเสวยทุกขเวทนาที่มีอามิส ก็รู้ชัดอยู่ว่าเราเสวยทุกขเวทนาที่มีอามิส หรือเมื่อเสวย อทุกขมสุขเวทนาก็หมายความว่า จิตใจมันเฉย ๆ ไม่มีสุขหรือไม่มีทุกข์ เพราะมีอามิสหรือว่าไม่มีอามิส ก็รู้อยู่ว่า เวลานี้เราเสวยความสุข ความสุขที่เจือปนด้วยอามิส ท่านว่าอย่างงั้น
    ดังนี้ ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาภายในบ้าง ย่อมพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาภายนอกบ้าง ย่อมพิจารณาเห็นเวทนาทั้งภายในและภายนอกบ้าง ย่อมพิจารณาเห็นธรรมดา คือความเกิดขึ้นในเวทนาบ้าง นี่พอบอกว่าเห็นเวทนาเป็นธรรมดา นี่จัดว่าเป็น จัดเป็นวิปัสสนาญาณ ตอนต้นเป็นสมถะ อันนี้มหาสติปัฏฐาน นี่พระพุทธเจ้าควบวิปัสสนาญาณอยู่ตลอดเวลา ย่อมพิจารณาเห็นธรรมดาคือความเสื่อมไปบ้าง ย่อมพิจารณาเห็นธรรมดาทั้งความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปบ้าง ก็หรือว่าสติมีเวทนา มีอยู่ ก็ไปตั้งอยู่ย่อมไม่ยึดถืออะไร ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาเนือง ๆ นี้แล้ว คือตามใจความตามมหาสติปัฏฐานสูตรในเวทนาปัสสนานี้ พระพุทธเจ้าให้ทรงพิจารณาว่า เวลานี้จิตของเรามีความสุขหรือมีความทุกข์ เวทนาก็คืออารมณ์ ตามบาลีท่านแปลว่า ความเสวยอารมณ์ คำว่าเสวยอารมณ์นี่มันฟังไม่ชัด นี้คำว่าอารมณ์ หมายถึงอะไร คำว่าอารมณ์ นี่ก็หมายถึงว่า ความรู้สึกของใจ คือความรู้สึกของเรานี้ มันมีความสุข หรือมีความทุกข์ ถามว่าเวลานี้ใจของเราหดหู่ประกอบไปด้วยความทุกข์ หมายความว่า มีความปรารถนาไม่สมหวังบ้าง สิ่งที่ตั้งใจไว้ไม่ปรากฏบ้าง สิ่งที่ตั้งใจไว้ไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจบ้าง อย่างนี้เป็นอาการของความทุกข์ อย่างนี้เรียกกันว่า ทุกขเวทนา
    ทีนี้ในมหาสติปัฏฐานสูตร ท่านบอกชัดไว้ว่ามหาสติปัฏฐาน คือ ให้พยายามเอาจิตของเราเข้าไปตั้งในสติสัมปชัญญะตลอดเวลา นี้เรียกว่า ตามนึกอารมณ์ จงรู้อารมณ์ของเราว่าเวลานี้อารมณ์เป็นสุขหรือเป็นทุกข์ ถ้าอารมณ์มีความสุขก็รู้อยู่ว่า อารมณ์เรามีความสุขเพราะมีอามิสเป็นปัจจัย คำว่าอามิส หมายว่าสิ่งของ เราจะเรียกกันว่าวัตถุก็ได้จะเป็นสิ่งที่มีชีวิตก็ตาม หรือว่าไม่มีชีวิตก็ตาม ถ้ามันมีสิ่งใดปรากฏขึ้น เป็นอะไรก็ตามเป็นเครื่องปรากฏเฉพาะหน้า และเป็นเหตุให้เราได้สุข เราได้ทุกข์ อย่างนี้เราเรียกว่าอามิส อย่างพบคนที่ไม่ชอบใจ ใจมันก็เริ่มไม่สบาย นี้ถือว่าเป็นอามิส เป็นเหตุให้เราเกิดความทุกข์ เพราะไม่สบายแปลว่าทุกข์ ความไม่สบายกายก็ดี ความไม่สบายใจก็ดี จัดเป็นทุกข์ อันนี้เราต้องรู้ตัวทุกข์ด้วยนะ หรือว่าพบสิ่งของสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ตามที่เป็นที่ไม่ชอบใจของเรา จิตมันเป็นทุกข์ หรือว่าพบคนที่น่าตา ไม่เกลียด ไม่โกรธ ไม่เป็นศัตรูแต่กลับมาพูดในสิ่งที่เราไม่ปรารถนา เราไม่ต้องการจะฟัง ใจเราไม่ชอบ อย่างนี้ก็ทุกข์ เรียกว่าทุกขเวทนา ทีนี้พระพุทธเจ้าให้พิจารณาจิตของตนว่าเวลานี้จิตของเรามีอารมณ์เป็นอย่างไร มีอารมณ์เป็นสุขหรือทุกข์ มาอีกตอนหนึ่งท่านพูดถึงสุขเวทนา เวลานี้จิตของเราเป็นสุข มันเป็นสุขเพราะว่าอะไร เป็นสุขเพราะว่ามีสิ่งหนึ่งสิ่งใดมากระทบ หรือว่าเป็นสุขอยู่เฉย ๆ ไม่มีสิ่งอื่นเข้ามากระทบ คำว่าสิ่งอื่นก็คืออามิส จะเป็นคนหรือว่าเป็นวัตถุก็ตาม หรือว่าหาคนไม่ได้ หาวัตถุไม่ได้ แต่ปรากฏเป็นเสียงหรือแสง ถ้าเป็นแสงก็เป็นวัตถุ ถ้าเป็นเสียงก็เป็นวัตถุเหมือนกัน จัดเป็นกาย แต่ว่าเป็นอนุปาทายรูป ทีนี้เรากระทบกับเสียง กระทบกับแสง กระทบวัตถุ กระทบกับคน ทำให้เราเกิดความสุขหรือว่าความทุกข์
    แต่ความสุขหรือความทุกข์นี้ พระพุทธเจ้าท่านขมวดท้ายไว้ว่า เนื่องด้วยกามารมณ์ ไอ้คำว่ากามารมณ์นี่ไม่ใช่ อามรณ์อยากมีผัว มีเมีย เฉย ๆ ตีความแบบนั้นไม่ถูก คือกามารมณ์ กามะแปลว่า ความใคร่ อารมณ์ สระอา ตัวนี้ก็เป็นตัว " อ " เรียกว่า อารมณ์ อารมณ์คือความรู้สึกของเราเกิดความใคร่อยากจะได้สิ่งนั้น อยากจะได้สิ่งนี้ หรือว่าเราไม่อยากได้สิ่งนั้น ไม่อยากได้สิ่งนี้ เพราะเราไม่ชอบใจ สิ่งที่เราอยากได้เป็นอาการของความชอบใจ อารมณ์ที่เกิดขึ้นอย่างนี้ท่านเรียกว่า กามารมณ์ คืออารมณ์ที่มีความอยากเกิดขึ้น นี้อารมณ์ที่มีความอยากเกิดขึ้นมันเป็นอารมณ์ที่ทำให้เราสุขใจ หรือว่าทุกข์ใจ อันนี้พระพุทธเจ้าให้ใช้สติคิดไว้เสมอ สิ่งเหล่านี้มันมีอยู่เป็นธรรมดา แต่เรามานั่งคิดดูว่าพระพุทธเจ้านี่มานั่งสอนเราทำไม ไอ้เรื่องนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาของใจ แต่ความจริงที่พระพุทธเจ้าทรงสอนเราก็เพราะว่า พวกเราลืมคิด ไม่ได้ใช้สติเข้าไปควบคุมอารมณ์เราปล่อยไปตามเรื่อง มันจะสุขหรือมันจะทุกข์ก็ไม่ได้หาเหตุ ไม่ได้หาผล ไม่ได้ค้นคว้าตามความเป็นจริง ทีนี้การที่พระพุทธเจ้าให้รู้อารมณ์ของเรา ว่าอารมณ์เรานี่มันเป็นสุขหรือว่ามันเป็นทุกข์ เวลาที่มันมีความสุขหรือว่ามีความทุกข์ มีอะไรเป็นเหตุ เป็นปัจจัยหรือเปล่า คือมีอามิส วัตถุ หรือบุคคลเป็นเหตุหรือเปล่า หรือว่าไม่มีอามิส วัตถุ หรือบุคคล เป็นเหตุ จึงเกิดความสุขหรือความทุกข์ ให้ใคร่ครวญ อย่างนี้เรียกว่า พิจารณาเวทนาในเวทนา กำหนดรู้เวทนาในเวทนา หมายความว่า อารมณ์ความสุข หรือความทุกข์น่ะเป็นเวทนา ถ้าตัวสุขเป็นสุขเวทนา ที่เราชอบใจนะ ความทุกข์เป็นทุกขเวทนา เป็นเวทนาตัวนอก ตอนนี้เราก็ไปหาเวทนาในเวทนาอีกทีหนึ่ง คืออารมณ์ในอารมณ์อีกทีหนึ่งว่าอะไรนี่มันสร้างความสุขความทุกข์ใจให้เกิดแก่เรา เมื่อเราคิดไปเราก็คิดได้ว่า นี่เราไม่สบายใจ นี่เมื่อสักครู่เจ้าหนี้เขามาทวงสตางค์
    นี่แสดงว่าท่านหาเหตุ หาผล มีความสุข และความทุกข์ เพราะอะไร ท่านให้คิดแบบนี้ทำไม จะได้รู้ว่าแม้แต่อารมณ์ใจของเรานี่ที่เราเกิดมานี่ ความจริงความสุขความทุกข์มันก็จากกายก็จริง แต่ทว่าไอ้ทุกข์จริง ๆ ใจเป็นตัวรับ จะว่ากายมันเกิด แล้วมันแก่ มันเจ็บ มันตาย และไอ้เจ้าใจนี่ล่ะ กายเกิดมาแล้วมันเกิดแก่ลงมา เราไม่ชอบแก่ มันเกิดป่วยไข้ไม่สบาย เราไม่ชอบป่วยไข้ไม่สบาย มันตายเราไม่ปรารถนาให้มันตาย เรานึกว่ากายเป็นทุกข์ แต่ความจริงกายไม่ได้เป็นทุกข์ ใจมันทุกข์ เพราะกายมันมีสภาพเป็นปกติ ถ้ามันทุกข์จริง ๆ มันก็ไม่แก่ อย่างตาเรานี่ถ้ามันรู้ว่ามองอะไรไม่ถนัด ก็จะต้องซื้อแว่นมาใส่ ถ้ามันรู้มันจะต้องเป็นทุกข์อย่างนี้ มันไม่ฝ้า มันไม่ฟาง นี่ความจริงอาการของตามันไม่รู้เรื่อง มันถือว่ากฎธรรมดาของมัน เมื่ออายุมากเข้าแล้วประสาทมันก็เสื่อมโทรมลงไป ไอ้การต้องการในการมองเห็น การต้องการในการได้ยินจากหู เห็นจากตา รับการสัมผัสจากกาย ได้กลิ่นจากจมูก รู้รสจากกลิ่น อย่างนี้เป็นต้น นี่มันเป็นเรื่องของใจ ไอ้ความสุขความทุกข์นี่มันอยู่ที่ใจ ความจริงมันไม่มีอยู่ในกาย ตามลำพังกายอย่างเดียวตัวนั้นไม่ได้สุข มันไม่ได้ทุกข์ เราจะเห็นว่าคนถ้าตายแล้วนี่ ใครจะเอาไปเผา จะเอามีดไปสับไปฟันก็ไม่เคยโกรธ แต่ทว่าที่ยังไม่ตาย อย่าว่าแต่เอามีดมาฟันเลย เอาแค่เล็บมาสะกิดนิดเดียว บอกว่าเจ็บฉันไม่ชอบใจ ที่เป็นอย่างนี้เพราะอะไร เพราะใจมันเป็นเครื่องรับรู้ นี้ถ้ากายเราเจ็บเพราะเล็บจิก ไอ้อย่างนี้เรียกว่า ทุกขเวทนา เกิดจากอามิส อามิสคือของ ของคือเล็บที่มาหยิกเรา หรือว่าวัตถุอะไรเข้ามากระทบ ตานี้ความสุขที่เกิดขึ้นมา กำลังใจ อยากได้ขนม อยากกินขนม อยากนี่ได้ขนมแบบนี้เรามีความสุข เราชอบใจ หรือว่าต้องการวัตถุแบบนี้ เราชอบใจ เกิดความสุข อย่างนี้เขาก็เรียกว่าเกิดความสุขเกิดจากอามิสเหมือนกัน นี่พระพุทธเจ้าให้พิจารณาว่า กำลังใจของเรานี่ ความจริงมันไม่ใช่แม้แต่อารมณ์ ไม่ใช่กาย เพราะอารมณ์นี่ก็ไม่มีสภาพคงที่ มันก็เป็นสุขเป็นทุกข์เหมือนกัน
    ทีนี้มาอีกบทหนึ่งท่านบอกว่า หรือว่ามีความรู้สึกว่าอทุกขมสุข หรือว่าจิตของเราเสวยอารมณ์ที่ไม่มีสุข และไม่มีทุกข์ ไอ้การที่ไม่มีสุขหรือไม่มีทุกข์มันอาศัยอามิสเป็นต้นเหตุ หรือว่าไม่มีอามิส เป็นต้นเหตุ คำว่าอามิสเป็นต้นเหตุ ก็สมมติว่าเราไปนั่งดูพระพุทธรูป เห็นพระพุทธรูปมีความสดสวยงาม ยิ้มอยู่ตลอดเวลา ลักษณะท่าทางของท่านน่าเคารพนับถือ น่าไหว้ น่าบูชา แล้วก็พิจารณาไว้ พระพุทธรูปนี้ ความจริงเป็นรูปเปรียบของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงมีความดีมาก เวลานี้องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคทรงเสด็จดับขันธ์เข้าสู่พระปรินิพพานไปแล้ว ความจริงองค์สมเด็จพระประทีปแก้วมีพระองค์เดียว แต่เมื่อพระองค์ทรงนิพพานไปแล้ว กลับหล่อรูปขึ้นมามากทั้งนี้เพราะอะไร เพราะความดีของพระองค์ ความดีสูงสุดที่พระองค์ทรงมีก็คืออะไร คือ พระองค์สามารถตัดกิเลส เป็นสมุจเฉทปหาน ในเมื่อองค์สมเด็จพระพิชิตมารพระองค์ทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ทรงสอนเรา โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อย ความยาก ความลำบากอะไรทั้งสิ้น จะต้องนอนกลางดินกินกลางทราย นอนกลางเขา กลางป่า เปียกปอนไปด้วยฝนและน้ำค้าง ฝ่าอันตรายทุกอย่าง ความจริงพระองค์เป็นลูกของพระมหากษัตริย์ และก็จะทรงเป็นพระเจ้าจักรพรรดิภายใน ๗ วัน แต่ถึงกระนั้น องค์สมเด็จพระทรงธรรมก็ยังทรงสละความสุขมาสอนพวกเรา เมื่อเห็นรูปของพระพุทธเจ้า ท่านมีพระมหากรุณาธิคุณ ทรงยิ้มแย้มแจ่มใส ก็คิดในใจ ว่าการทำใจให้มีจิตสงบอย่างนี้เป็นของดี รูปขององค์สมเด็จพระชินสีห์นี่ ใครจะจับไปโยนน้ำ ไปเผาไฟ ไปจมดิน จมทราย สักเท่าใดก็ตาม เมื่อกลับขึ้นมา ก็ปรากฏว่าหน้าของพระองค์นี้ยิ้มอยู่ตลอดเวลา น่าชื่นใจ ทีนี้อารมณ์ใจเห็นพระพุทธเจ้าก็นึกถึงความดีของพระองค์ นึกถึงพระมหากรุณาของพระองค์ ความสุขเกิดขึ้น เหล่านี้เรียกว่าสุขเวทนา เกิดจากอามิส
    ตอนนี้เราก็คิดต่อไปว่า องค์สมเด็จพระจอมไตร เดิมทีพระองค์มีชีวิตอย่างเรา แต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงยึดถือในโลกธรรมทั้ง ๘ ประการ ใครจะนินทา ใครจะด่า จะว่า จะสรรเสริญ เป็นประการใด จะมีลาภสักการมากน้อยเพียงใด ลาภไม่เพียงใดพระองค์ไม่เคยวิตก เรื่องยศบรรดาศักดิ์เพียงใดพระองค์ไม่เคยปรารถนา เป็นอันว่าองค์สมเด็จพระบรมศาสดามีขนตกอยู่เสมอ คำว่าขนตก ถ้าไปอ่านในบาลีจะมี ขนตกอยู่เสมอ เป็นอันว่าไม่มีขนลุก ขนชัน ไปไหนก็มีจิตใจเป็นปกติ ไม่มีอาการหวาดหวั่นหรือยินดียินร้ายอะไร เราก็ชอบทำแบบพระพุทธรูปเสียบ้าง เมื่อมีใจก็ทำเหมือนคนไม่มีใจ มีความรู้สึกก็แกล้งทำเหมือนคนไม่มีความรู้สึก มันจะหนาว มันจะร้อน มันจะหิว มันจะกระหาย มันจะมีทุกขเวทนา จะมีสุขเวทนา อย่างไรก็ตาม ถือว่าช่างมัน มันไม่ปรารถนา ชื่อว่าร่างกายไม่มีความสำคัญ ร่างกายนี้มีแล้วก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่โทษอย่างเดียว ใจก็เกิดอารมณ์สบาย ไม่ยึดถือวัตถุ หรือว่าอามิส เรียกว่า สี เสียง แสง ใด ๆ ทั้งหมด ทำจิตตกมีอารมณ์ปลอดโปร่ง เพราะว่ามีสุขที่ไม่จริง อามิส หรือว่าไม่มีสุข ไม่มีทุกข์ คำว่าไม่มีทั้งสุขและก็ไม่มีทั้งทุกข์ คำว่าสุขกายเพราะอาศัยกามคุณ คือว่าวัตถุที่เราพึงปรารถนาหรือว่าอารมณ์ที่เราพึงปรารถนา อย่าคิดว่านี่เป็นพระนี่ได้เปรียบนะ ไม่ต้องทำมาหากินอะไรมาก เช้าก็ถือหม้อออกจากวัดชาวบ้านก็ใส่มาให้ กลับมาแล้วก็สบาย กินแล้วก็นอน นี่คิดอย่างนี้พระนรกนะ ไม่ใช่พระสวรรค์ แต่คิดอย่างนี้ ใจเกิดสบายขึ้นมา อย่างนี้กล่าวว่าจิตตกอยู่มีความสุข เพราะอาศัยกามคุณ คืออารมณ์มีความใคร่ ความทุกข์ใจเพราะอาศัยวัตถุก็เหมือนกัน
    ทีนี้ความสุขใจที่ไม่ประกอบด้วยวัตถุก็เหมือนกัน ทีนี้ความสุขใจที่ไม่ประกอบด้วยวัตถุหรือไม่ประกอบด้วยอารมณ์อื่นมันเกิดมีความแช่มชื่น มีอารมณ์โปร่งเฉย ๆ อะไรจะไป อะไรจะมาก็มีความรู้สึกอย่างเดียวว่า ช่างมัน ใครเขาจะด่า ใครเขาจะว่าก็ช่างมัน เราดีของเราเอง เราไม่ได้ดี หรือเราไม่ได้ชั่วเพราะวาจาของเขาพูด มันจะมีของใช้มาก มันจะมีของใช้น้อย ก็ช่างมัน มีมากก็ใช้มาก มีน้อยก็ใช้น้อย ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะเราไม่สนใจกับมัน มันก็ไม่มีประโยชน์ ร่างกายของเรามันจะสวยไม่สวยก็ช่างมัน เสียงจะเพราะหรือไม่เพราะก็ช่างมัน มันจะแก่หรือมันจะป่วยอะไรก็ช่างหัวมัน เพราะธรรมดาของมันเป็นอย่างนั้น ในที่สุดถึงแม้ว่ามันจะตายก็ช่างมัน เรียกว่าไม่ยอมยึดทั้งอารมณ์ซ้ายและอารมณ์ขวา อารมณ์ความสุข หรืออารมณ์ความทุกข์ เราไม่ยึด ปล่อยใจสบาย อย่างนี้ท่านเรียกว่า อทุกขมสุข คือจิตทรงอุเบกขา นี่ที่องค์สมเด็จพระบรมศาสดาให้กำหนดไว้อย่างนี้เพื่อให้รอารมณ์ของเราเวลานี้มีความสุขหรือมีความทุกข์ ถ้ามีความสุขเราก็รู้อยู่ว่ามีความสุข มีความทุกข์เราก็รู้อยู่ว่ามีความทุกข์ มีความสุขเพราะว่าอาศัยสิ่งอื่นเป็นปัจจัย หรือไม่ได้อาศัยสิ่งอื่นเป็นปัจจัยเราก็รู้อยู่ อาการของความทุกข์ก็เหมือนกัน ตานี้อาการวางเฉยก็เหมือนกัน วางเฉยเพราะว่าเราห้ามสิ่งนั้นเราห้ามสิ่งนี้ไม่ได้ เมื่อห้ามมันไม่ได้ก็เลยไม่ห้าม ปล่อยตามใจมัน อันนี้วางเฉยเพราะมีอามิส หรือว่าวางเฉยเพราะไม่มีอามิส เฉยขึ้นมาเฉย ๆ หรือว่าวางเฉยเพราะจิตตั้งอยู่ในอุเบกขา คือกฎธรรมดาเป็นสำคัญ นี่องค์สมเด็จพระทรงธรรมให้รู้ตอนนี้เป็นอารมณ์ของสมถภาวนา นี่รู้ไว้ด้วยนะ ว่าตอนนี้เป็นอารมณ์ของสมถภาวนา รู้ทำไม การตั้งสติเข้าไว้ การรู้ตัวเข้าไว้มันจะได้รู้ว่า เวลานี้มีสุขหรือว่ามีทุกข์ จะได้รู้ชัดว่าคนเราเกิดมานี่ไม่ใช่ว่าจะอยู่เฉย ๆ ได้ มันจะต้องมีสุขและจะต้องมีทุกข์ และมีอารมณ์เฉย ๆ ในบางขณะ เป็นอันว่าแม้แต่อารมณ์ก็หาความแน่นอนไม่ได้
    ในตอนท้ายองค์สมเด็จพระจอมไตรให้ถือว่า ความสุขหรือความทุกข์นี่เป็นธรรมดา ธรรมดาของคนที่เกิดมา เราจะไม่ยอมยึดถือมันเพื่อประโยชน์อะไร อารมณ์ใจที่มีความสุขก็ดี อารมณ์ใจที่มีความทุกข์ก็ดี มันไม่มีสภาวะที่ทรงความแน่นอนได้เลย เราจะมาสุขจริง ๆ ก็ไม่ได้ เดี๋ยวมันก็กลับทุกข์ เวลามันทุกข์คิดว่าจะหาความสุขไม่ได้ มันก็ไม่แน่นอนเดี๋ยวมันก็กลับมาหาความสุขใหม่ เป็นอันว่าเอาอะไรแน่นอนไม่ได้ เหตุฉะนั้น องค์สมเด็จพระจอมไตรจึงเตือนว่า เมื่อเราพิจารณาแล้ว จงพิจารณาสักแต่เพียงว่ารู้ ที่เรารู้แล้ว คำว่ารู้แล้วนี่ สักแต่เพียงว่ารู้ ก็เพียงว่ารู้แล้ว จงอย่ายึดถือว่านี่เป็นความสุข หรือว่านี่เป็นความทุกข์ ที่เราควรจะยึดถือเข้าไว้ แล้วเธอทั้งหลายจงเห็นอาการเหล่านี้ว่าเป็นเรื่องธรรมดาของบุคคลที่เกิดมาแล้วย่อมมีอารมณ์อย่างนี้ เมื่อมันหาสภาวะความแน่นอนไม่ได้อย่างนี้ เราก็ไม่ควรยึดถือมันไวเลย คำว่าไม่ยึดถือมันไว้เลยก็หมายความว่าไม่ควรจะยึดถือว่าเราจะทรงมันไว้ต่อไป และเมื่อไม่ยึดถืออารมณ์ แล้วท่านก็เลยสั่งต่อไปว่า ไม่ว่าอะไรทั้งหมดในโลกจงอย่ายึดถือเอง จงอย่าถือแม้แต่อารมณ์นี้ว่ามันเป็นเราเป็นของเรา เรามีในอารมณ์ อารมณ์มีในเรา ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะอารมณ์ทั้งหลายเหล่านี้มันมีแล้วไม่นานเพียงไม่สักกี่วัน มันก็ถึงอาการดับชีพของมัน คือความตายของ ร่างกาย เมื่อร่างกายตายเมื่อไรแล้ว อารมณ์เหล่านี้มันก็สลายตัวไป นี่เป็นอันว่าการเจริญเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐานสูตร องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าให้ใช้สติสัมปชัญญะเข้าคุมอารมณ์ ความจริงมันต้องใช้อารมณ์เอาสติสัมปชัญญะหนักหน่อยนะ ที่หนักก็ไม่เห็นว่าเป็นของแปลก มันเป็นสิ่งที่เราควรจะรู้ ถ้าเราคุมอารมณ์ของเราได้ โดยใช้สติสัมปชัญญะควบคุมอารมณ์ของเราตลอดเวลา เป็นอันว่า ชาตินี้พวกเราทุกองค์ มีหวังได้ ในฐานะความเป็นอรหัตผล เพราะอะไรเพราะพระอริยบุคคลขั้นพระอรหันต์นี่ไม่มีอารมณ์เผลอในเรื่องขันธ์ ๕ เป็นอันว่าการพูดเรื่องเวทนาก็ขอยุติไว้เพียงเท่านี้.

    จาก หนังสือ ธรรมะปกิณกะ ๒
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2010
  18. lektantan

    lektantan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    2,624
    ค่าพลัง:
    +22,640
    พี่ทศจ้า
    ขอจองรายการนี้เพิ่มอีกรายการครับ
    พระวิสุทธิเทพทรงประทับ ณ.จุฬามณี หลังยันต์เกราะเพชร รุ่นนี้หายาก สร้างน้อย เต็มเปี่ยมไปด้วยมวลสารที่สำคัญ ๆ มากมายของหลวงพ่อ องค์พระสวย ๆ เดิม ๆ (หน้า 919#18367)
    บูชา 1200 บาท
    ขอบคุณครับ
     
  19. จารุ

    จารุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    23,747
    ค่าพลัง:
    +236,438
    พี่แจกอยากได้เยอะๆเดี๋ยวแจกให้ครับ5555555555555
     
  20. baimin

    baimin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,933
    ค่าพลัง:
    +14,580
    เชิญดื่มกาแฟกันนะครับ

    [​IMG]
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...