สามเณรวิ่งเล่นหายลึกลับป่าช้า โผล่อีกทีตอนเช้า

สามเณรวิ่งเล่นหายลึกลับป่าช้า โผล่อีกทีตอนเช้าเผยซุกโพรงต้นกระบก อ้างหญิงแต่งชุดขาวจูงแขนพาไป












พบแล้วสามเณรวัย 14 ปี หายตัวลึกลับในป่าช้าฝังศพ เผยถูกซุกอยู่ในโพรงต้นกระบกปลอดภัยดี ยังมีอาการหวาดผวา อ้างถูกหญิงแต่งชุดขาวจูงแขนเข้าไปพาไปเลี้ยงอาหารอย่างดี เจ้าอาวาสเร่งทำพิธีขอขมาเทวดา เชื่อสามเณรอาจลบหลู่ ส่วนชาวบ้านเชื่อเป็นฝีมือผีบังบดที่ออกมาตักเตือนเท่านั้น

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>[/FONT]
[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]จากกรณีที่ สามเณรสุธี ศรีโสดา อายุ 14 ปี หรือ สามเณรกีต้า วัดประชานิมิตร ตำบลนาจารย์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ หายตัวไปอย่างลึกลับไปในป่าช้าฝังศพท้ายวัด ระหว่างกำลังวิ่งเล่นกับเพื่อนสามเณรด้วยกัน ซึ่งเจ้าอาวาสและลูกบ้านได้ช่วยกันตามหาก็ไม่พบ จนเชื่อว่าถูกผีบังบดอำพรางตัวออกไปตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น[/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น . วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ต.ท.โสณกุญช์ ทรัพย์สมบัติ รอง ผกก.สืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจากทางวัดประชานิมิตรว่า ได้พบตัว สามเณรสุธีแล้ว จึงเข้าทำการตรวจสอบภายในวัดพบชาวบ้านหลายร้อยคนพากันจับกลุ่มวิพากวิจารณ์ กันไปต่างๆ นานา โดย สามเณรสุธี อยู่ภายในกุฎิทั้งข้อมือซ้ายและขวามีสายสิญจน์ที่ชาวบ้านพากันสู่ขวัญให้ แต่ยังอยู่ในอาการตื่นตระหนก ตาลอยใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว[/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]พระนพดล ทิพวรรณโส พระพี่เลี้ยง กล่าวว่า อาตมาเป็นองค์แรกที่เห็น สามเณรสุธี โดยเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ก่อนภัตตาหารเช้า เห็น สามเณรสุธี เดินออกมาจากป่าด้านทิศใต้ จึงได้รีบบอก เจ้าอาวาสและชาวบ้านที่มาติดตามข่าว และจากการสอบถาม สามเณรสุธี เล่าว่า ในช่วงก่อนที่จะหายไป(เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม เวลาประมาณ 17.30 น.) ได้วิ่งเล่นกับ สามเณรเอ็ม ในวัดตามปกติ โดยได้วิ่งไปตามโบถส์ ที่ฝังศพ แต่แล้วจู่ๆ ก็ไม่รู้ว่าตนเองเกิดอะไรขึ้น เหมือนมีคนมาวิ่งนำหน้า จากนั้นก็พาตนวิ่งเข้าไปในป่าช้า จากนั้นก็ไม่รู้สึกตัว จนไปรู้ตัวอีกทีก็วันที่มีคนตามหาไม่ว่าจะเป็นนักข่าวหรือตำรวจ เห็นหมดซึ่งขณะนั้น สามเณรสุธีบอกว่าอยู่ในโพรงของต้นกระบก แต่ไม่สามารถ ที่จะส่งเสียงร้องหรือขยับตัวได้ อีกทั้งคนที่เดินผ่านไปมาก็มองไม่เห็นตัวเอง[/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]สามเณรสุธี เล่าต่อว่า ตลอดทั้ง 48 ชั่วโมง 2 วันที่หายไปอยู่ที่ต้นกระบก จะมีหญิงสาวแต่งชุดขวา นำอาหารข้าวปลาไปเลี้ยงเป็นอย่างดี จนเมื่อเช้าของวันที่ 15 พฤษภาคม จึงได้ปล่อยออกมา ในความรู้สึกก็ตกใจและกลัวมากๆและไม่กล้าที่จะเดินไปเล่นที่ไหนแล้ว[/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ต่อมาพระครูมงคล พุทธิคุณ เจ้าคณะตำบลนาจารย์ เจ้าอาวาสวัดประชานิมิตร ได้นำพาชาวบ้าน พระลูกวัดพร้อมด้วยสามเณรภายในวัด ได้ทำพิธีขอขมาเทวดาฟ้าดิน เนื่องจากเมื่อคืนนี้ ที่วัดมีการทำพิธีติดต่อกับวิญญาณและทราบว่า สามเณรสุธี ไปทำผิดไม่เคารพสถานที่จึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ซึ่งการขอขมา ได้แต่งขัน 5 พร้อมทั้งน้ำและขนมทำการกราบไหว้บูชาที่บริเวณต้นจิก ที่ด้านหน้าพระอุโบสถ[/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]พระครูมงคล พุทธิคุณ เจ้าคณะตำบลนาจารย์ เจ้าอาวาสวัดประชานิมิตร กล่าวว่า เหตุการณ์ เกิดจากอิทธิฤทธิ์ของ ผีสางเทวดาแน่นอน เพราะการติดตามหาตั้งแต่วันเกิดเหตุ ก็มีการตามหาตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใหญ่ หนองน้ำมีการติดตามหาก็ไม่เห็น จนเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางวัดได้ทำพิธีติดต่อทางไสยศาสตร์และทราบว่าปลอดภัย และจะมีการนำสามเณรมาคืนในรุ่งเช้า จึงได้เตรียมการที่จะทำการขอขมา ประกอบกับเมื่อพบ สามเณรสุธีแล้ว แถมยังมีสุขภาพแข็งแรงปลอดภัย ก็เชื่อว่าเป็นฝีมือของผีสางเทวดาแน่นอน ทั้งนี้ก็ได้กำชับให้ สามาเณร และพระรวมถึงชาวบ้าน เมื่อเข้ามาภายในวัดจะต้องคิดดีทำดี ก็จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้[/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ด้านนายบุญชื่น คำยุธา อายุ 57 ปี สมาชิกเทศบาลตำบลนาจารย์ กล่าวว่า ในเรื่องนี้เชื่อว่าเป็นฝีมือของผีบังบด เพราะในลักษณะนี้เท่าที่จำได้เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน เหตุการณ์ในลักษณะนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วเหมือนกัน ซึ่งในช่วงนั้นเกิดขึ้นกับฝูงควาย ได้หายไปเป็นตัวๆ แต่แล้วประมาณ 2-3 วันก็กลับมา แต่เมื่อก่อนขึ้นกับสามเณร ก็คงจะต้องระวัง แต่ในส่วนตัวไม่กลัวแต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เหนือธรรมชาติ กับความเชื่อจึงไม่ควรที่จะลบหลู่[/FONT]


http://www.matichon.co.th/news_detai...grpid=01&catid=

 

ถูกบังตา....

 

อuโมทuาค่ะ ^ ^

_____________________

"สุขใดเหมือนแม้นการไม่เกิดไม่มี" "จะไม่ละความเพียรถ้ายังไม่ถึงซึ่งนิพพาน"
"สุขใดในโลกล้วนไม่ยั่งยืน ผู้ใดปล่อยวางพิจารณาในความทุกข์เห็นโทษของความสุขผู้นั้นชื่อได้ว่าพบความสุขอันยิ่งใหญ่"<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

บังตาแน่นอนคงจะไปทำอะไรที่ไม่เข้าก็เลยมาบัง

 

ไปที่ไหนเราก็ควรไหว้เจ้าที่เจ้าทางและบอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เพื่อเป็นการเเสดงความเคารพและไม่ลบหลู่ดูหมิ่นท่านนะคะ

 

ไปไหนควรเคารพสถานที่กับเจ้าของสถานที่เป็นดีที่สุดครับ

เพราะบางสถานที่ ก็มีเจ้าของสถานที่ ที่เรามองไม่เห็น

 

นอกจากพระพุทธเจ้าแล้ว พระเณรยังเคารพกราบไหว้ผีสางเทวดาด้วยหรือแล้วอย่างนี้ชาวพุทธจะเหลืออะไร

 

ไม่ใช่ให้กราบไหว้ผีสางเทวดาแต่ให้ระลึกไว้เสมอว่าพวกเค้าเหล่านั้นมีทั้งฝ่ายสุคติแระทุคติคือฝ่ายดีกับไม่ดีฝ่ายส่วนใหญ่จะมาแนวๆที่ว่ามาลองใจดูว่าจิตท่านนั้นเข้มแข็งพอที่จะธุดงหรือจะไปทำอะไรหรือไมแล้วก็คอยดูแลเพราะสำหรับสามเณรแล้วยังไม่บรรลุนิติภาวะก็จริงแต่บางองค์ทั้งก็สามารถที่จะธุดงจนได้บรรลุก็เคยมีฝ่ายดีจึงเหมือนผู้ดูแลเพราะถ้าเป็นพระผู้ใหญ่แล้วจิตจะมั่นคงขึ้นเรื่อยๆเพราะฝึกฝนสมาติมานานกว่าส่วนฝ่ายทุคตินั้นตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงทำร้ายได้ทุกวิธีทางที่ตนสามารถทำได้แต่ส่วนใหญ่จะแพ้ความดีที่พระเณรแต่ล่ะรูปปฎิบัติมามากกว่าเพราะถึงจะถึงขั้นที่พวกมารกลัวว่าพระเณรเหล่าใดจะสามารถมาปราบตนได้นั้นพระเณรองค์นั้นหรือรูปนั้นก็คงปฎิบัติมาไม่น้อยเช่นกัน.....ส่วนคนธรรมดาสามัญพระพุทธท่านทรงอนุญาติให้ทำเทวตาพลีได้คือการระลึกถึงคุณของเทวดาที่ท่านช่วยคุ้มครองเราเวลามีอันตรายช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาด้วยเหตุนี้จึงทรงอนุญาติให้ทำเทวตาพลีส่วนประวัติเรื่องนี้นั้นบางท่านก็อาจจะเคยผ่านตากันมาบ้างแล้ว

 

นอกจากพระพุทธเจ้าแล้ว พระเณรยังเคารพกราบไหว้ผีสางเทวดาด้วยหรือแล้วอย่างนี้ชาวพุทธจะเหลืออะไร<!-- google_ad_section_end -->
ตอบ....
การเคารพผู้ใหญ่ ผู้อาวุโส ก็เป็นเรื่องอันควรกระทำ ย่อมมีอยู่ในคำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่จำเป็นว่า เป็นผีสางเทวดาแล้ว จะลบหลู่ได้ ยิ่งเทวดา ย่อมเป็นจิตวิญญานที่ดี แม้จะเป็นผีสางก็ใช่ว่า จะไปทำผิดกับพวกเขาได้ ศาสนาไม่ได้สอนนะจ๊ะ
เณรน้อยก็ยังเป็นเด็ก ย่อมซนตามประสาเด็ก เขามาบังตา แต่เขาก็เมตตาเอาอาหารการกินมาให้ ไม่ได้เอาไปทำทารุณ น่าจะมีเมตตาอยู่ไม่น้อย เพียงแต่อยากจะสอนให้รู้ระวังเท่านั้น
อนุโมทนา สาธุ

 

บางท่านอาจจะคิดว่า ทำไมสามเณร ยังถูก ผีสางเทวดา เล่นงานเอาได้
ต้องเข้าใจว่า เป็นพื้นที่ของท่านครับ
ฉะนั้น ท่านทำได้

หากเทวดานั้นเป็นพระโสดาบันล่ะ ก็สูงกว่า ครับ
ฉะนั้น ไปไหนมาไหน คนโบราณจึงให้มีความอ่อนน้อมถ่อมตนครับ
ไปไหนเคารพเจ้าที่เจ้าทาง ไว้เป็นดีครับ

ทั้งผู้ที่เป็นใหญ่ ณ ที่นั้น
หรือทางวิญญาณก็ตามที

มีอาจารย์ท่านเปรียบไว้ว่า เช่นครูใหญ่ เป็นใหญ่ในโรงเรียน แต่ถ้าครูใหญ่จะเข้าไปหา ครูน้อยที่กำลังสอนอยู่ ครูใหญ่ก็ต้องขออนุญาตครูน้อยก่อนเข้า
หรือ หัวหน้าภาควิชา จะไปค้นหนังสือห้องสมุด ก็ต้องเงียบตามกฎห้องสมุด ซึ่งมีบรรณารักษ์ เป็นผู้ดูแล ฉะนั้น

 

คนสมัยใหม่หลายๆคนไม่เชื่อไม่พอบางครั้งไม่มีสัมมาคารวะ
เรื่องของเณรเป็นตัวอย่างที่คนสมัยใหม่บางคนไม่ยอมรับ
คำคนโบราณพูดต้องฟังบ้าง

 

เรื่องทำนองนี้ สมัยติงยังเป็นเด็ก...ไปวัด...ผู้เฒ่าผู้แก่ เล่าให้ฟังบ่อยค่ะ
ติงเชื่อว่าเป็นไปได้จริง พระอาจารย์ของติงก็เมตตาเล่าเรื่องบังบด ให้ฟังบ่อยๆ
​

 

วิ่งเล่นเพลิน ตกหลุม แล้วสลบไป

 

เรื่องลึบลับแบบนี้เคยเกิดกับเพื่่อนสนิทคะ คือเล่นซ่อนหากันตอนเย็นพลบค่ำ
ปรากฏว่าเธอหายไป พ่อแม่่และคนที่บ้านพักเดินหาเธอ ผ่านไปมาตรงโต๊ะที่เธอ
นั่งอยู่ แต่ไม่มีใครมองเห็น เธอบอกเรีียกใครก้อไม่มีใครได้้ยิน จนคุณแม่่เธอ
ต้องจุดธูปถึงได้เจอ

 

เรื่องนี้อาจมีมูลความจริงครับ
เพราะคนแก่เขาก็เคยบอกเด็กว่าห้ามเล่นซ้อนหาตอนกลางคืนเดี๋ยวผีจะพาไปแอบ
และเรื่องของคุณ simking น่ากลัวมากครับ

 

เคยได้ยินเรื่องนี้จากอาจารย์ท่านนึง ตอนที่จิดาเรียนมัธยมอยู่เลย เกิดขึ้นกับลูกของท่าน โดนบังทั้งที่อยู่ในบ้านแท้ๆ เล่นซ่อนแอบตอนกลางคืน น่ากลัวมากๆ บรื๊อออ
สามเณรยังโชคดี ที่ท่านเมตตานำอาหารมาให้ด้วย แค่อ่านก็น่ากลัวจะแย่ค่ะ นึกสภาพถ้าเป็นตัวเอง โอ๊ยยย

 

น่ากลัวจังค่ะ
อย่างนี้ต้องระวังเป็นอย่างมากเลย เรื่องการเคารพสถานที่

 

ไปไหนมาไหนในสถานที่ใดก็ตาม ควรยึดคุณพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ เป็นที่พึ่งจะปลอดภัยทุกประการ ..... อนุโมทนาสาธุ....._/\_.....

 

จริงหรือเนี่ย น่ากลัว

 

อนุโมทนาค่ะ เห็นด้วยค่ะ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ควรจะเคารพสถานที่ไว้เป็นดีนะคะ





ขอนอบน้อมแด่องค์พระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์