เมื่อพุทธภูมิกลายเป็นนางแก้ว..นางแก้วมาเป็นพุทธภูมิแทน

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย rose2009, 18 พฤษภาคม 2010.

  1. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    คำว่า ปรมัตถบารมี จะแบ่งเป็น 3 ลำดับเช่นกัน คือ ต้น กลาง และปลายครับ

    ดังนั้นความละเอียดในแต่ละขั้นจะแตกต่างกันครับ

    โมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2010
  2. rose2009

    rose2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +653
    สาธุขอบคุณที่แนะนำนะคะ...พอดีอ่านมาน้อย คิดว่าตอนพระโพธิสัตว์ยกลุกให้เป็นทาน นางแก้วก็ยังมีฟูมฟาย อาลัยอาวรณ์อยู่ แต่ที่สุดก็อนุโมทนาตามสามี...
    แต่จิตที่พูดถึงหมายถึง การบริจาคด้วยตนเอง...ไม่ใช่ใครชักนำ คือ มีจิตเกิดขึ้นเอง ริเริ่มจาคะเอง ไม่ใช่จาคะเพราะจำยอมหรือทำตามใครเพราะศรัทธาในการกระทำของคนๆนั้น จึงมีกุศลจิตอนุโมทนา...เป็นจาคะที่เกิดจากจิตที่ไม่มีใครชี้นำ...แนวๆนี้แหละค่ะ

    คนที่เป็นพุทธภูมิน่าจะรู้จิตตัวเองดีนะคะว่า...คนอื่นชี้นำได้ยาก ถ้าไม่เห็นแจ้งด้วยตนเองแล้วยากที่จะเชื่อหรือทำตามใครได้...อาจเป็นผู้ฟังที่ดีแต่ไม่เชื่อในสิ่งที่ฟังมา จนกว่าจะเห็นแจ้งด้วยตนเอง...แต่ก็ไม่เป็นสาวกของใคร...แค่ยอมรับว่า"ใช่...จริง"

    จิตที่เกิดจากเมตตาอย่างไร้การปรุงแต่ง เวลามันเกิดจริงๆ ศรัตรูยืนตรงหน้าหันดาบมาฆ่าเรา เรายังอภัยได้
    เพราะเกิดความสงสารจับจิตเพราะเห็นเขาหลงผิดจนกลั้นหลั่่งน้ำตาไม่ได้เลย
    ...แต่จิตไม่เที่ยง เกิดแล้วก็ดับ...ไม่คงที่ มีเมตตาจิตสูงสุด....แล้วก็กลับมาดังเดิม (เป็นวัน เป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือน) ...ขึ้นๆลงๆ...เป็นไปตามธรรมชาติ.
    บางวันอาจตายเพื่อผู้อื่นได้ บางวันก็เบื่อหน่าย...ปล่อยไปตามกรรม กรรมใครกรรมมัน...
    ไม่ทราบจริงๆค่ะ เพราะไมเคยปรุงจิตแต่ต้นว่าเป็นอะไร ... หากต้องตายก็ไม่ได้คาดหวังว่าการตายนั้นสร้างบารมีเพียงใด...แต่ตายเพราะจิตเห็นสมควรแก่เหตุและวาระนั้นแล้ว

    ขอบคุณอีกครั้งและอนุโมทนาด้วยเช่นกันนะคะ ^^
     
  3. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ครับผม
    แต่ที่อ่านเจอมาในพระไตรปิฏก​

    อัครมหาสาวกดูย้อนแค่ของตัวเองได้ ๑ อสงไขยกับเศษ ๑๐๐,๐๐๐ กัปป์ ไม่สามารถดูของใครได้นิครับ
    มหาสาวกดูย้อนของตัวเองได้ ๑๐๐,๐๐๐ กัปป์ ไม่สามารถดูของใครได้
    ส่วนเรื่อง อัครมหาสาวกและมหาสาวก ดูอนาคตไม่มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฏกเลยนิครับ
    มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่รู้เรื่องราวของเวไนยทั้งหลายทั้งในอดีตนานแสนนาน และอนาคตแบบไม่มีที่สิ้นสุด
    ยังงัยก็ขออภัยด้วยนะครับ
     
  4. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ครับผม
    ผมเองก็เข้าใจแบบที่ท่านเขียนมานั้นล่ะครับ ว่าต้องมีที่ท่านกล่าวมาเสมอกันนะครับ
    แต่ที่ผมถามท่านน้ำใส คือ " " ประเภทศรัทธาธิกะ และวิริยาธิกะ หาใช่เพียงการอนุโมทนาบุญไม่ การบำเพ็ญบารมีนั้น ยากพอ ๆ กับเหล่าพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ต้องใช้ชีวิตเป็นเดิมพันกันทีเดียวจึงจะผ่าน. " "
    ที่ท่านน้ำใสกล่าวมานี้ มีที่มาไหมผมจะไปอ่าน ????
     
  5. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    พระนางมัทรียินดีในทาน และยินดีในการยกบุตรเป็นทานของพระเวสสันดรโพธิสัตว์ครับ
    พระนางมัทรีเข้าใจมาตลอดเวลาครับ และพระนางก็ไม่เคยเสียใจเลย
    พระนางจะกราบอนุโมทนาตลอด
    ไม่งั้นพระนางคงไม่ตามพระเวสสันดรมาอยู่เขาวงกตหรอกครับ
     
  6. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    อนุโมทนาครับ ผมขอเติมนิดนะครับ
    " ครั้งแรกพระเวสสันดรยังไม่ให้คำตอบพระนาง เพราะเกรงว่า ความพลัดพรากระหว่างมารดากับลูกนั้น อาจทำให้นางต้องสลบหรือตรอมใจตายในขณะนั้น จึงทำเป็นกล่าวโทษพระนางว่ากลับมามืดคํ่า ไม่เป็นห่วงเป็นใยพระองค์ และบุตรธิดาที่รอคอยอยู่ พระนางมัทรีได้สดับพระราชดำรัสเช่นนั้น จึงทูลเล่าเรื่องเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น

    พระเวสสันดรทรงเปิดเผยว่า บัดนี้พระองค์ได้บริจาคกัณหาชาลีให้กับพราหมณ์ชูชกไปแล้ว ขอพระนางจงอนุโมทนาในปิยปุตตทานอันประเสริฐนี้เถิด พระนางมัทรีตกพระทัยจนถึงแก่วิสัญญีภาพสลบล้มลง เพราะความโศกที่บุตรทั้งสองต้องพรากจากไป

    ด้วยอาการตกพระทัยว่าพระนางคงสิ้นพระชนม์ พระเวสสันดรจึงเข้าไปประคองนางไว้ที่ตัก รีบแก้ไขให้พระนางฟื้น เอาน้ำลูบหน้าให้หายจากอาการสลบไสล สักครู่พระนางมัทรีก็ได้สติรู้สึกตัวขึ้น ทรงเกิดหิริโอตตัปปะ รีบลุกขึ้นกราบขอขมาพระโพธิสัตว์ พลางทูลว่า "ข้าแต่สมมติเทพ หม่อมฉันขออนุโมทนาปิยปุตตทานอันอุดมของพระองค์ พระองค์ทรงบริจาคทานแล้ว จงยังพระหฤทัยให้เลื่อมใส ขอจงทรงบำเพ็ญทานให้ยิ่งๆ ขึ้นไปเถิด" ทันทีที่พระนางมัทรีพูดจบ ปฐพีก็บันลือลั่น เสียงสาธุการ ได้ก้องไปถึงสวรรค์ชั้นฟ้า"
     
  7. rose2009

    rose2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +653
    ขอบคุณและขออนุโมทนาด้วยเช่นกันค่ะ
    งั้นแสดงว่า...จิตจาคะระดับนี้...นางแก้วจะยึดแบบตามใครสักคนงั้นเหรอ?
    ส่วนนิสัยพุทธภูมิ ต้องเป็นฝ่ายริเริ่ม เป็นผู้นำในการจาคะ ไม่จาคะเพราะทำตามใคร หรือยึดใครเป็นแม่แบบ ...
    จิตเห็นควรจึงทำ มิมีใครมาบอกหรือชี้นำจิตได้ (ถึงมาบอกก็ไม่ทำ...ถ้ามิใช่จากจิตเห็นแจ้งและปรารถนาเอง)
    ส่วนคนที่ไม่รู้สึกผูกพันกับใครหรือผู้ใด..ก็อาจเคยอธิษฐานลาแล้วกระมัง

    (ขออภัย...มิได้ต้องการถกเถียงให้เป็นประเด็น...ต้องการรู้จริงๆ เพราะร่างกายภายนอกมิอาจได้แยกว่า...น่าจะเป็นแบบนั้น แบบนี้...และต้องขอบคุณทุกท่านที่ช่วยตอบ
    ส่วนที่หลงเข้ามาแบบบังเอิญไม่ได้ประโยชน์อะไรจากกระทู้ ก็ขออภัยเป็นอย่างยิ่งที่ทำให้เสียเวลาอ่าน ^^)
     
  8. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,171
    ค่าพลัง:
    +7,815
    พักอ่านเรื่องขำๆก่อนนะจ๊ะ พี่น้องเอ๋ย


    ตามลิงค์นี้เลยจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่า

    พระศรีอริยะเมตไตรยปรากฏตัวแล้วจริงหรือ ผู้แอบอ้างเป็นพระศรีฯคือคุณ "rawiphan"

    ผู้ใดอ่านแล้วเกิดศรัทธาขึ้นมาก็มีตะกรุดทำเองไว้ให้เช่าบูชาด้วยน๊า

    http://palungjit.org/threads/%E0%B...8C.123222/


    สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ ผู้ใช้ username rawiphan และ sriaraya5 เป็นคนๆเดียวกันนะจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่า<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  9. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    อนุโมทนาครับ
    ขอตอบมั้งครับ แซงทางโค้งก่อนพี่ต้นละ ก่อนอิอิ
    พระนางมัทรีไม่ได้ยึดแบบตามใครครับ เพราะพระนางมัทรีทรงมี " ศีลเสมอกัน ปัญญาเสมอกัน จาคาเสมอกัน และศรัทธาเสมอกัน " เหมือนๆๆๆกันกับพระเวสสันดรครับ และที่สำคัญพระนางจะทรงเกื้อหนุนพระโพธิสัตว์เวสสันดรตลอดไป ครับ
    องค์พระทศพลทีปังกรทรงตรัส " ดูกร ท่านสุเมธดาบส ตัวท่านอย่าห้ามความปรารถนาของกุมารีน้อยผู้นี้เลย เพราะในอนาคตภายหน้านางจะเป็นที่พึ่งของท่านในขณะที่ตัวท่านบำเพ็ญบารมีเพื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า "


    ส่วนประโยคนี้ "ส่วนนิสัยพุทธภูมิ ต้องเป็นฝ่ายริเริ่ม เป็นผู้นำในการจาคะ ไม่จาคะเพราะทำตามใคร หรือยึดใครเป็นแม่แบบ ..." เพราะ...
    พระเวสสันดรทรงตรัสว่า " ลูกสองคนนั้นจะเป็นที่เกลียดชังของเราก็หาไม่พระนางมัททรีจะเป็นที่เกลียดชังก็หาไม่. สัพพัญญุตญาณเป็นที่รักของเรา เราจึงให้ของรัก (เพื่อสิ่งที่เรารัก) .. "
     
  10. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    เรื่องอนาคตังสญาณมีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกครับ

    เรื่องนี้เป็นเรื่องของเณร ที่พระอัครสาวกองค์หนึ่ง เห็นว่า เณรน้อยต้องตายในอีก 7 วัน เลยปล่อยให้กลับบ้าน ระหว่างทาง เณรน้อยได้ช่วยปลาที่อยู่ในแอ่งน้ำที่กำลังจะแห้ง และนำไปปล่อยในแม่น้ำ

    เมื่อครบ 7 วัน เณรน้อยก็กลับมา พระอัครสาวกจึงสงสัยว่า ทำไมเณรถึงไม่ตาย และได้ถามเณรว่าไปทำไรมาหรือเปล่า เณรเลยบอกปล่อยปลาครับ

    ดังนั้นอนาคตังสญาณมีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกแน่นอนครับ

    โมทนา
     
  11. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    เรื่องของศรัทธาเป็นเรื่องที่สำคัญมากครับ ดังนั้นจึงมีพระพุทธเจ้าที่บำเพ็ญบารมีแบบศรัทธาธิกะครับ

    สำหรับเรื่องที่นางแก้วร้องไห้ฟูมฟายนั้น ก็เป็นเรื่องปกติครับ เพราะขณะนั้นกำลังใจยังไม่เท่าพระโพธิสัตว์ครับ แต่สุดท้ายนางแก้วจะวางกำลังใจของตนเองได้ถูกต้อง ซึ่งเท่ากับเป็นการเร่งบารมีครับ

    สำหรับจาคะที่เกิดจากจิตที่ไม่มีใครชี่นำก็มีครับ เช่น พระศรีสุริโยทัย ที่พระองค์ปลอมตัวเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์และออกศึกสู้กับพม่าครับ

    แต่ส่วนใหญ่นางแก้วจะทำตามและเป็นกำลังสนับสนุนพระโพธิสัตว์มากกว่าครับ เพราะบทบาทของนางแก้วจะเน้นในเรื่องนี้เป็นหลัก ส่วนที่ริเริ่มใหม่และทำโดยไม่มีใครชี้นำ ส่วนใหญ่จะเป็นพุทธภูมิมากกว่าครับ

    ก็โมทนาในการวางกำลังใจในจิตที่ไม่ปรุงแต่งนะครับ
     
  12. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    การดูอดีตของใครนั้น จะดูได้เฉพาะคนที่เนื่องกันมาครับ
    ถ้าไม่เนื่องกันมาจะเกินวิสัยที่จะรู้ได้ครับ ยกเว้นพระพุทธเจ้าที่รู้หมดครับ

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยบอกว่า พระอรหันต์ ปฏิสัมภิทาญาน รู้ทุกเรื่อง ที่ควรรู้ครับ แต่ไม่ได้รู้เรื่องทั้งหมด เพราะคนที่รู้เรื่องทั้งหมดมีเพียงพระพุทธเจ้าเท่านั้นครับ เช่นกันครับ พระอรหันต์ สุขวิปัสโก ท่านไปนิพพานได้เหมือนกัน แต่ท่านอาจจะไม่เห็นเทวดาครับ

    โมทนา
     
  13. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    เรื่องนี้สามารถรู้ได้นะครับ
    อนาคตังสญาณ( ของสาวก) ขอที่มาครับ จะไปอ่าน ??
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 พฤษภาคม 2010
  14. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ครับผม
    ก็อย่างที่บอกนั้นล่ะครับ ดูย้อนได้แค่ของตัวเองนะครับ
    ตัวอย่างท่าน มหาปันถกเถระ กับท่านจูฬปันถก( ทั้ง ๒ ท่านเป็นอสีติมหาสาวก ) เกี่ยวเนื่องกันมายังไม่สามารถดูย้อนได้เลย ครับ
     
  15. ไหน่ฮวย

    ไหน่ฮวย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +237


    แล้วการที่บุคคลหนึ่งจะรู้ว่าอีกคนบำเพ็ญบารมีมากี่อสงไขยเป็นไปได้ไหมคะ
     
  16. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ไม่ได้ครับ น้องไหน่
    มีพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวครับ
     
  17. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    รู้ได้ครับ โดยใช้วิธี "ถามพระ" ให้พระท่านสงเคราะห์ครับ (ถามในกรรมฐานนะครับ) วิธีนี้ถ้าคนทั่วไปใช้มีโอกาสผิดพลาดสูง เพราะอาจเกิดอุปาทานได้

    ผมยกตัวอย่างของ พระอรหันต์ให้ดีกว่าครับ จะได้เข้าใจได้ง่ายขึ้น โดยขอยกตัวอย่างที่เห็นชัดเจน คือ
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านพยากรณ์ในหลวงว่าจะเกิดอีกแค่ 4 ชาติ (ถ้าจำไม่ผิด) แล้วจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าครับ

    พูดง่าย ๆ คือคนที่ภูมิธรรมต่ำกว่า จะไม่สามารถเห็นของคนที่สูงกว่าได้ครับ หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านบรรลุพระอรหันต์แล้ว

    ท่านเลยทราบเรื่องของในหลวงซึ่งเป็นพระมหาโพธิสัตว์ครับ

    เทียบง่าย ๆ ว่า อยากรู้ว่าพระองค์ไหนเป็นพระอรหันต์ ก็ต้องไปถามพระอรหันต์ด้วยกันครับ ท่านจะทราบ

    นอกนั้นไม่มีทางครับครับ

    โมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2010
  18. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ย้อนดูของคนอื่นก็ได้ครับ พระอริยสงฆ์ส่วนใหญ่ท่านย้อนดูของคนอื่นที่เนื่องกันมาได้ครับ แต่ส่วนใหญ่ท่านไม่ทำ ยกเว้นบางครั้งที่ท่านสงเคราะห์ให้ครับ

    บางท่านที่ไม่ย้อนดู อาจเพราะเห็นว่าไม่มีประโยชน์ท่านเลยไม่ย้อนครับ บางท่านเป็นพระอรหันต์ แบบสุขวิปัสโก ท่านก็จะไม่มีความสามารถในการย้อนอดีตครับ เพราะท่านปฏิบัติแบบเห็นแล้ววางครับ

    พระจุลปันถกเถระ ท่านเป็นพระอรหันต์ ปฏิสัมภิทาญานครับ ท่านย้อนดูอดีตได้ครับ

    http://www.dharma-gateway.com/monk/great_monk/pra-chula-puntaka.htm

    อธิบายเพิ่มนะครับว่า พระอรหันต์ทีได้วิชชาสามขึ้นไป (เตวิชโช ฉฬภิญโญ ปฏิสัมภิทาญาณ ) จะมีความสามารถในการย้อนดูอดีตได้ครับ

    โมทนา

    ลองอ่านดูที่นี่ครับ หลวงพ่อฤาษีท่านเคยพูดไว้

    www.praruttanatri.com/meditation_club/samadhi/samp2.htm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2010
  19. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    มีเยอะแยะครับคุณต้นละ

    วิชามโนมยิทธิ ก็สามารถใช้อนาคตังสญาณได้ครับ รู้เหตุที่จะเกิดในอนาคตครับ

    คุณต้นละเป็นศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำเหมือนกัน น่าจะรู้เรื่องพวกนี้นะครับ
    ในพระไตรปิฎกก็มีเยอะแยะครับ

    ค้นเรื่องพระสารีบุตรใช้อนาคตังสญาณดูว่าเณรจะต้องตายใน 7 วันก็ได้ครับ

    โมทนา

    ลองอ่านดูครับ

    www.praruttanatri.com/meditation_club/samadhi/samp2.htm
     
  20. ไหน่ฮวย

    ไหน่ฮวย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +237

    มีคนเค้าบอกมาค่ะ แต่ไม่รู้จริงไหม ตอนนี้ก็พยายามพิสูจน์แต่ยังไม่สำเร็จ
     

แชร์หน้านี้

Loading...