พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    จากกระทู้ ประชาสัมพันธ์งานบุญ"งานบุญคุณแผ่นดิน"จัดขึ้นวันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม 2549 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาชื่อบัญชี "บุญคุณแผ่นดิน" สาขาตลาดเจ้าพรหม บมจ.ธ.กรุงศรีอยุธยา สาขาอยุธยา บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 059-1-88984-9 http://www.boonkunpandin.com

    [​IMG]
     
  2. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,789
    ค่าพลัง:
    +16,101
    นึกแล้วหวาดเสียว เมื่อคืนวันอาทิตย์ เวลา ประมาณ 19.00 น.ขับรถกลับมาบ้าน ลงจากรถแล้วปัดกวาดรถต่อวนอยู่บ้างรถหลายรอบ ปรากฏว่างูเห่าสีดำมะเมื่อมเลื้อยไปเลื้อยมาอยู่ข้างเท้า น้องชายแฟนได้ยินเสียงแกรกๆ จึงสงสัยเอาไฟฉายส่องดู ไอ๊หยา พี่เดินเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาได้งัย งูห่างจากเท้าไม่ถึงฟุต เห็นแล้วเสียววาบ วันนั้น แขวนวัดระฆังเพดานโบสถ์เลี่ยมเจาะรูองค์เดียว กับในรถมีพระขรรค์อีก 1 ด้าม สาธุหลวงปู่ฯ จะด้วยอะไรก็แล้วแต่สงสัยเหมือนกันทำไมไม่งับสักทีวนล่อเป้าตั้งหลายรอบ ทั้งที่ น้องแฟนเอาไม้แหย่เบาๆ ทีเดียวยังแผ่แม่เบี้ยใส่ ขู่ใส่เลย เลยโดนน้องแฟนทุบหัวไปเกิดใหม่แล้ว รอทำบุญอีกครั้งจะแผ่นส่วนกุศลไปให้ ขนยังลุกไม่หายเลยคุณหนุ่ม
     
  3. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    <TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">“โป๊ยกัก” แก้หวัดนก [6 ต.ค. 49 - 15:13]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]การ คิดค้นหาวิธีผลิตยาหรือวัคซีนเพื่อป้องกันโรคไข้หวัดนกเท่าที่ทำได้เพียงแค่ระดับหนึ่ง หาความชัดเจนหรือเด็ดขาดยังไม่ได้ ในทางสมุนไพรเองก็มีอยู่ หลายสูตร ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็ไม่เด็ดขาดเช่นกัน แต่ “โป๊ยกัก” ถือว่าเป็นสมุนไพรตัวที่ดีที่สุด ใช้แล้วได้ผลดีในเวลานี้ มีขั้นตอนเอาไปให้ไก่กินแบบง่ายๆคือ
    เอา “โป๊ยกัก” ชนิดแห้ง มีขายตามร้านยาจีน ทั่วไป บดเป็นผงแล้วผสมกับอาหารที่จะให้ไก่กินในอัตราส่วน “โป๊ยกัก” บดสำเร็จ 2 ช้อนโต๊ะพูนๆ ต่ออาหารไก่ น้ำหนัก 22 กิโลกรัม ซึ่งใน “โป๊ยกัก” จะมีสารชนิดหนึ่ง เมื่อไก่กินแล้วจะช่วยป้องกันไม่ให้ไก่เป็นโรคไข้หวัดนกได้ แต่ต้องให้กินอย่างต่อเนื่องไม่ขาดระยะ ในประเทศแถบยุโรป ทราบว่าเอา “โป๊ยกัก” ไปวิจัยพร้อมกับทำเป็นตัวยาให้ มนุษย์รับประทานเพื่อต้านโรคไข้หวัดนกได้ มีการจดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว
    อย่างไร ก็ตาม ถ้า “โป๊ยกัก” มีสรรพคุณแก้ไข้หวัดนกได้จริง ผู้ที่เกี่ยว ข้องกับการป้องกันโรคไข้หวัดนกควรนำไปเผยแพร่ให้เกษตรกรที่มีอาชีพเลี้ยงไก่ หรือสัตว์ปีกได้ทราบโดยทั่วกัน จะได้นำเอา “โป๊ยกัก” ไปใช้ประโยชน์ตามที่กล่าวข้างต้นได้
    สำหรับ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ของ “โป๊ยกัก” มีผู้รู้ที่เป็นเพื่อน “นายเกษตร” เช่น “คุณกิจจา อ่อนอำไพ” ยืนยันว่า เป็นดอกและผลของต้น “อบเชย” ซึ่งเปลือกต้นใช้ต้มพะโล้ ส่วนดอกและผลเรียกว่า “โป๊ยกัก” ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น จริงก็พอจะนำข้อมูลเกี่ยวกับต้น “อบเชย” พร้อมสรรพคุณแนะนำให้รู้จักได้
    อบเชย หรือ CINNAMOMUM- TAMMALA (RATA NIGEANTU)(TALISH PATIRI) อยู่ในวงศ์ LAURACEAE เป็นไม้ ยืนต้น สูง 4-10 เมตร เปลือกต้นและใบมีกลิ่นหอม ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรง กันข้าม รูปวงรีแกมรูปขอบขนาน มีเส้นใบหลัก 3 เส้น เห็นชัดเจน สีเขียวสด
    ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อย สีเหลืองอ่อนขนาดเล็กจำนวนมาก “ผล” รูปกลมรี เป็นผลสด มี 8 พู หรือ 8 แฉก คล้ายดาว เมื่อแห้งเป็นสีน้ำตาลแดง มีกลิ่นหอม มีเมล็ดเล็ก ซึ่งตามร้านขายยาจีนเรียกส่วนนี้ว่า “โป๊ยกัก” มีหลายสายพันธุ์คือ อบเชยจีน อบเชยญวน และ อบเชยไทย ทั้ง 3 สายพันธุ์มีสรรพคุณเหมือนกันหมด ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและตอนกิ่ง มีต้นขายที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ ประดับ สวนจตุจักร โครงการ 9 แผง “คุณมนูญ” หรือโครงการ 21 แผง “คุณพร้อมพันธุ์” ราคาสอบถามกันเอง สรรพคุณทาง ยา เฉพาะเปลือกต้น ปรุงผสมกับยาหอม และยานัตถุ์ทำให้สดชื่น แก้อ่อนเพลีย แก้จุกเสียด แน่นท้องเด็ดขาดครับ.
    “นายเกษตร”​

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    การเดินรังสีจิตในพระเครื่อง หรือ ศิลปการใช้พระเครื่อง ตอนที่ 5<O:p</O:p

    ปรัศนี ประชากร (เขียนเมื่อ ปี พ.ศ. 2525)<O:p</O:p
    ลิขสิทธิ์ ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    นิทานเรื่องนี้ ถ้าจะกล่าวต่อไปก็นับเป็นพัน ๆ รายและยังมีอยู่ทุกวันและจะมีต่อไปไม่สิ้นสุด เป็นที่น่าเศร้าใจเพราะคบคนผิดคิดว่าเขาเป็นผู้รอบรู้เชี่ยวชาญ ที่แท้คบเอาเถรส่องบาทเข้าเต็มเปา ผมจึงค้นคิดวีธีการใช้พระเครื่องไว้ดังนี้<O:p</O:p
    1. การเลี่ยมพระควรเปิดหน้า และจำเป็นต้องตรวจพลังภายในก่อนที่จะใช้ในการคุ้มครองป้องกันชีวิต ถ้าเป็นเหรียญรูปพระคณาจารย์ซึ่งมีราคาค่างวดสูงต่ำกว่ากันตามค่านิยม ชนิดราคาเรือนพันเรือนหมื่นควรเป็นตลับทองคำเจาะตรงพระพักตร์ให้เป็นรูกว้างเท่ากับปลายเข็มหมุด เพื่อการแผ่พุ่งของรังสี ถ้าเหรียญราคาไม่แพงให้เลี่ยมด้วยพลาสติกสีเปิดหน้าหลังยกขอบกันสึกเพื่อเป็นการอนุรักษ์ให้ถาวรทนทานถ้าเป็นพระชินตะกั่วสนิมแดงหรือพระเนื้อผงไม่จำเป็นต้องเปิดหลัง คนสมัยก่อนนิยมเลี่ยมเปิดหลังเรียกว่าพระเจ้าเปิดโลก เพื่ออาศัยการสัมผัสจากธาตุสี่ในการตัวขับดันรังสีพระ ความจริงนั้นเพียงรังสีขององค์ท่านก็เป็นการเพียงพอแล้ว การเจาะที่ก้นรังสีไม่ออกชัดเจน ใครจะรักพระหรือรักชีวิตเลือกพิจารณาดูเอง<O:p</O:p

    2. ถ้าเลี่ยมเปิดหมดจะต้องยกขอบให้เกินองค์พระไว้ เพื่อป้องกันการเสียดสีถ้าเลี่ยมแบบไม่ใช้ตลับเจาะหน้าก็ได้แต่มีจุดบกพร่องเพราะฝุ่นจะเข้าเกาะในองค์พระและดูไม่งามยากแก่การทำความสะอาด ถ้าเลี่ยมแบบตลับนาน ๆ ถอดออกทำความสะอาดได้<O:p</O:p

    3. ผู้ที่นิยมแขวนพระมากองค์จะเลี่ยมปิดทั้งหมดก็ได้ แต่ควรเลือกองค์ใดองค์หนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงและสุนทรียภาพค่อนข้างต่ำเปิดกันเลยองค์เดียวก็พอ อย่าเลี่ยมปิดหมดทั้งชุด และควรใช้พระในอัตราคี่ เช่น 1 องค์ 3 องค์ 5 องค์ (บางคนถือเคล็ดไม่ยอมใช้พระอัตราคู่)<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร สงวนลิขสิทธิ์
    (เป็นความเชื่อ
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    อย่าลืมทำบุญนะครับ

    .
     
  6. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ผมมีรูปมาให้ดูครับ ดูแล้วเก็บไว้คิดคนเดียวนะครับว่า ท่านคิดอย่างไร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    รูปที่สอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    รูปที่สาม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Rc.jpg
      Rc.jpg
      ขนาดไฟล์:
      14.8 KB
      เปิดดู:
      144
  9. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    รูปที่สี่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .
    [​IMG]

    [​IMG]

    ผมขอแสดงความคิดเห็นครับ

    เห็นแล้วรู้สึกได้ทันทีว่า เราโชคดีมากที่เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทย มีข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์ มีในหลวงที่พระองค์ทรงห่วงใยลูกหลานท่านทุกคน ได้พบได้เจอพระพุทธศาสนา เราควรจะตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน อย่าลืมร่วมบุญงาน ประชาสัมพันธ์งานบุญ"งานบุญคุณแผ่นดิน"จัดขึ้นวันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม 2549 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาชื่อบัญชี "บุญคุณแผ่นดิน" สาขาตลาดเจ้าพรหม บมจ.ธ.กรุงศรีอยุธยา สาขาอยุธยา บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 059-1-88984-9 http://www.boonkunpandin.com นะครับ

    [​IMG]

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ


    .
     
  11. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    เรียนถามคุณ Sithiphong

    ไม่ทราบว่าจะมีคำถามคำตอบให้ทายปัญหาอีกเมื่อไรครับ
     
  12. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ผมมีเวบหนึ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่จะติดต่อราชการไทยครับ

    ชื่อเวบ http://www.eppo.go.th/index_thaigov-T-old.html
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    กระทู้ เรื่องราววัดภูเหล่าเงินฮาง จ.อุบล กับการสร้างองค์ปฐม สมปราถนาได้ทันใจ&กฐิน14-15 ตค.49 ชื่อบัญชี พระอ่อนสา ฐิติคุโณ ธนาคาร กรุงเทพฯ จำกัด สาขา กิโลศูนย์ เลขบัญชี 340-4-11629-9


    ยังมีพระพิมพ์ให้บูชาอีกนะครับ

    จากกระทู้เรื่องราววัดภูเหล่าเงินฮาง จ.อุบล กับการสร้างองค์ปฐม สมปราถนาได้ทันใจ

    มีพระของหลวงปู่เทพโลกอุดรให้บูชาด้วยครับ

    พระสมเด็จเนื้อผงยาจินดามณีคะแนนร้อย แบบขอบชิดซุ้ม (สีดำ) 17 องค์ๆละ 2,200 บาท (เฉพาะพระพิมพ์นี้ คุณนักเดินทางจะเป็นผู้จัดส่ง โดยแจ้งความประสงค์ผ่านทางกระทู้ได้)
    [​IMG]

    พระสมเด็จเนื้อผงยาวาสนา 8 องค์ๆละ 2,000 บาท
    [​IMG]



    พระพิมพ์ไกเซอร์เล็ก 2 องค์ๆละ 500 บาท
    [​IMG]

    มีแจกพระบรมสารีริกธาตุให้กับผู้ทำบุญกับวัดภูเหล่าเงินฮางทุกท่าน ท่านละ 15 องค์
    [​IMG]


    ขออนุโมทนาบุญทุกท่านด้วยครับ

    .<!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --><!-- sig --><!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --><!-- sig -->__________________
    คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
    พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้... & ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิต พระเณร & มหากฐินสามัคคีวัดบ่อเงินบ่อทอง วันที่29 ตุลาคม 2549 & ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างกุฏิดินถวายวัดบ่อเงินบ่อทอง บัญชีของ โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญบ่อเงินบ่อทอง ปริยัติศึกษา บัญชีออมทรัพย์ 203-0-06304-5 ชื่อบัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาพนมสารคาม
    เรื่องราววัดภูเหล่าเงินฮาง จ.อุบล กับการสร้างองค์ปฐม สมปราถนาได้ทันใจ&กฐิน14-15 ตค.49 ชื่อบัญชี พระอ่อนสา ฐิติคุโณ ธนาคาร กรุงเทพฯ จำกัด สาขา กิโลศูนย์ เลขบัญชี 340-4-11629-9
    ประชาสัมพันธ์งานบุญ"งานบุญคุณแผ่นดิน"จัดขึ้นวันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม 2549 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชื่อบัญชี "บุญคุณแผ่นดิน" สาขาตลาดเจ้าพรหม บมจ.ธ.กรุงศรีอยุธยา สาขาอยุธยา บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 059-1-88984-9http://www.boonkunpandin.com

    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    จากกระทู้ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างกุฏิดินถวายวัดบ่อเงินบ่อทองบัญชีของ โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญบ่อเงินบ่อทอง ปริยัติศึกษา บัญชีออมทรัพย์ 203-0-06304-5 ชื่อบัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาพนมสารคาม


    พระพิมพ์ยังคงมีให้บูชาอยู่นะครับ
    เงินที่ทุกๆท่านบูชาพระพิมพ์ไปนั้น จะไปช่วยเหลืองานสร้างกุฎิดิน หากเหลือจากงานสร้างกุฎิดินแล้ว ขออนุญาตินำไปใช้เป็นค่าน้ำและค่าไฟของวัดครับ


    2. พระพิมพ์สมเด็จวังหน้า เนื้อพระธาตุ อายุประมาณ 130 กว่าปี ขนาดประมาณ 2.4 x 3.7 ซม มวลสารผสมกับเครื่องหอมอย่างดี ทำให้ยังมีกลิ่นหอม
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
    พระสมเด็จเนื้อพระธาตุนั้น นอกจากมีพระธาตุพระสาวก(ซึ่งมีฤทธิ์พอๆกับพระโมคลานะในพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ในพระพุทธเจ้าองค์ที่ 2 ของกัปล์นี้

    ซึ่งพระพุทธเจ้าในกัล์ปปัจจุบันมี 5 พระองค์คือ
    1. พระกกุสันธะ
    2. โกนาคมนะ
    3. กัสสปะ
    4. โคตมะ(องค์ปัจจุบัน)
    5. อาริยเมตไตรยะ(องค์ต่อไป)


    ยังมีพระธาตุของสาวกองค์อื่นๆด้วยแต่ไม่ทราบว่าพระสาวกท่านชื่ออะไร เพราะท่านไม่บอกชื่อครับ

    ข้อควรระวัง
    1.ให้ระวังพระธาตุหลุดจากองค์พระแล้วหล่นลงพื้น ผู้ที่ทำหล่นแล้วไม่ทราบว่าทำหล่น เกิดมีผู้ไปเหยียบ ผู้ที่ทำหล่นและผู้เหยียบ จะเป็นกรรมหนักนะครับ
    2.ห้ามเข้าสถานที่อโคจรโดยเด็ดขาด

    ในพระสมเด็จเนื้อพระธาตุนั้น หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร) ท่านมาเสกให้ด้วยครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]
    เหลือจำนวน 17 องค์ องค์ละ 2,500 บาท
    (บริจาคโดย คุณ sithiphong จำนวน 20 องค์)




    3. พระพิมพ์สมเด็จวังหน้าเนื้อผงยาวาสนา อายุประมาณ 130 กว่าปี ขนาดประมาณ 2.4 x 3.7 ซม มวลสารเป็นผงยาวาสนาทั้งองค์ คราบสีขาวเกิดจากตัวยาในเนื้อพระคลายตัวออกมา

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ พันวฤทธิ์
    ถีงคุณสิทธิพงษ์ และพี่น้องบ่อเงินบ่อทอง
    ช่วยเก็บพระเนื้อผงยาสีน้ำตาลที่คุณสิทธิพงษ์นำออกมาให้บูชา ไว้ให้เป็นสมบัติของลูกหลานด้วย นำพระของ อ.ประถมให้ฌาณลาภีบุคคลท่านนึงตรวจเรียงความแรงได้ดังนี้ (กระแสความแรงจากน้อยไปมาก)
    1.พระเนื้อกระเบื้องสีน้ำตาลที่มอบให้วัดบ่อเงินบ่อทอง
    2.พระวัดระฆัง เพดานโบสถ์วัดพระแก้ว
    3.พระเนื้อผงยา

    โดยผู้ตรวจ เมื่อตรวจพระองค์ที่ 3 ถึงกับสะดุ้ง อุทานว่า พระอะไรแรงยังงี้ วางที่ฝ่ามือ กระแสวิ่งปรู๊ด ถึงหน้าผากทันที เมื่อตรวจ กระแส พบว่าเป็นสี ม่วง คราม น้ำเงิน แดง ทอง ครบ แต่องค์ที่ 1 สีแดงอย่างเดียวแต่มีแรงกระแสต่อเนื่องมาเหมือนเข็มทิ่มมือตลอด (สงสัยต้องไปเอาที่ท่าน อ.แผนเพิ่มสำหรับแจกหลานๆ อีกหลายองค์) องค์ที่ 2 ก็ยังแปลกใจว่าทำไมรังสีเป็นสีทอง ทำไมไม่เป็นสีแดง เพราะองค์ผู้เสกคือเจ้าประคุณสมเด็จฯ องค์เดียว สงสัยถ้าเจอ อ.ประถมคราวนี้ ต้องถามว่าพระสกุลบุนนาคชุดนี้ หลวงปู่องค์ที่ 1 ได้ร่วมเสกหรือเปล่า เพระเป็นรังสีสีทอง กลบสีแดงหมด ส่วนเนื้อผงยา ต้องถามคุณสิทธิพงษ์ว่า น่าจะเสกครบทั้ง 5 องค์มั๊ง เพราะคนตรวจยืนยันว่า รังสีครบ (ตอนตรวจ ผมนั่งเฉย ขอฟังอย่างเดียว กับตรวจรังสีได้ตรงกับรังสีประจำตัวของหลวงปู่ และเจ้าประคุณสมเด็จฯ จริงแฮะ หรือคุณสิทธิพงษ์ ว่าไงครับ)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
    พระสมเด็จเนื้อยงยาวาสนานั้น ชุดที่ผมนำมาให้ร่วมทำบุญนั้น หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 องค์ (1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร) 4.หลวงปู่พระณาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน) ร่วมกันเสกครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    [​IMG]
    เหลือจำนวน 17 องค์ องค์ละ 2,000 บาท
    (บริจาคโดย คุณ sithiphong 5 องค์, คุณ guawn 15 องค์, นักเดินทาง 10 องค์)


    <เพิ่มเติม 30 ส.ค. 49>

    4. พระพิมพ์สมเด็จวังหน้าเนื้อผงยาวาสนาคะแนนร้อยแบบธรรมดา คำว่าคะแนนร้อยหมายความว่าองค์ที่ 100 คือเมื่อช่างกดพิมพ์ถึงองค์ที่ 100 จะใช้พิมพ์ที่ด้านบนมน เพื่อใช้ในการนับจำนวนพระ นั่นก็คือพระคะแนนจะมีน้อยกว่าแบบธรรมดา 1:99 อย่างอื่นเหมือนพิมพ์ธรรมดาทุกประการ
    [​IMG]
    เหลือจำนวน 5 องค์ องค์ละ 2,200 บาท

    5. พระพิมพ์สมเด็จวังหน้าเนื้อผงยาวาสนาคะแนนร้อยแบบขอบชิดซุ้ม คำว่าคะแนนร้อยหมายความว่าองค์ที่ 100 คือเมื่อช่างกดพิมพ์ถึงองค์ที่ 100 จะใช้พิมพ์ที่ด้านบนมน เพื่อใช้ในการนับจำนวนพระ นั่นก็คือพระคะแนนจะมีน้อยกว่าแบบธรรมดา 1:99 อย่างอื่นเหมือนพิมพ์ธรรมดาทุกประการ
    [​IMG]
    เหลือจำนวน 5 องค์ องค์ละ 2,200 บาท


    การบริจาค
    บริจาคโดยโอนเงินเข้าบัญชีต่อไปนี้

    หมายเลขบัญชีเพื่อรับบริจาค
    พระมหาแผน ฐิติธัมโม 01-9408541
    สำนักสงฆ์บ่อเงินบ่อทอง
    ประเภทบัญชี : ออมทรัพย์
    หมายเลขบัญชี : 203-0-06304-5
    ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม
    ชื่อบัญชี : ร.ร.ปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง





    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ

    .
     
  15. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    นั่นแสดงว่าพระเครื่องที่ท่านเจ้าฯได้สร้างไว้คือช่วงปีพ.ศ.2412-2428 เท่านั้น ประมาณ 16 ปี เมื่อนำช่วงเวลาที่เสด็จพ่อในหลวงรัชกาลที่ 5 ขึ้นครองราชย์ เมื่อ 1 ต.ค. 2411(ขณะนั้นพระชนม์ 15 พรรษา) ผมขอแยกเป็นจุดๆนะครับ

    จุดที่ 1 การสร้างควรจะสร้างหลัง 1 ต.ค.2411 เพราะวัตถุประสงค์การจัดสร้างเพื่อเฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์ของในหลวงร.5 และสืบทอดพระศาสนา แต่ผมก็อดแปลกใจไม่ได้นะครับว่า คงจะไม่ได้สร้างเพื่อฉลองการครองราชย์ตลอดช่วง 16 ปีนี้ การสร้างเพื่อเฉลิมฉลองน่าจะมีช่วงเวลา ไม่น่าคิดจะสร้างเมื่อไหร่ก็สร้าง ส่วนมากน่าจะเป็นการสร้างเพื่อสืบทอดพระศาสนา คุณหนุ่มเห็นว่ายังไงตรงจุดนี้นะครับ...

    จุดที่ 2 เจ้าประคุณสมเด็จโตท่านสิ้นหลังจากเสด็จพ่อในหลวงร.5 ขึ้นครองราชย์ได้ 4 ปี นั่นคือปีพ.ศ 2415 ช่วง 1 ต.ค.2411-2415 พระชุดนี้น่าจะปลุกเสกโดยเจ้าประคุณสมเด็จโต หากไม่มีตราครุฑคือพระของวังหน้า หากมีตราครุฑนั่นคือของวังหลวง พระที่สร้างหลังปีพ.ศ. 2415 น่าจะเป็นพระที่ปลุกเสกโดยหลวงปู่เทพโลกอุดร และแยกมีตราครุฑ หรือไม่มีตราครุฑเป็นของวังหลวง และวังหน้าตามลำดับเช่นเดิม แบบนี้ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกหรือไม่ครับ...
     
  16. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949

    ผมขอตอบเป็นประเด็นไปนะครับ พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า เริ่มสร้างหลังจากที่ท่านเจ้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ) ท่านมีพระบัณฑูรย์ให้ท่านเจ้าคุณกรมท่า(ท้วม บุญนาค) หลังจากที่เดินเรือไปค้าขายกับประเทศจีนในปี พ.ศ.2412 ครับ เนื่องจากได้นำปูนเพชรมาเป็นมวลสารหลักในการสร้างพระสมเด็จ แต่ว่าพระพิมพ์ที่ท่านเจ้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ) ท่านมีพระบัณฑูรย์ให้สร้างขึ้นนั้น เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2400 เป็นต้นมา แต่พระราชพิธีพุทธาภิเษกนั้น มีพิธีใหญ่ๆ ในรัชสมัยที่ท่านเจ้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ) ยังมิได้ทิวงคตนั้น มี 2 พระราชพิธีคือ พระราชพิธีพุทธาภิเษกในปี พ.ศ.2408 และปี พ.ศ. 2411 ครับ แต่ว่าไม่ใช่ว่ามีแค่ 2 พระราชพิธีนี้เท่านั้น ยังมีพระราชพิธีพุทธาภิเษกอีกหลายๆครั้ง และทุกๆพระราชพิธีจะไปพุทธาภิเษกที่วัดบวรสถานสุทธาวาส

    หลังจากท่านเจ้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ)ท่านทิวงคต(เรื่องที่ท่านเจ้าทิวงคตนั้น เป็นการทิวงคตในหลักฐานตามประวัติศาสตร์) จะมีการพุทธาภิเษกในพระอุโบสถวัดพระแก้วครับ พิธีใหญ่ๆนั้น มีอยู่เพียงพิธีเดียวก็คือ พระราชพิธีพุทธาภิเษก ฉลองรัชกาลที่ 5 ครองราชครบ 40 ปีและฉลองพระบรมรูปทรงม้า นอกนั้นเป็นการพุทธาภิเษกธรรมดา แต่แค่พิธีพุทธาภิเษกธรรมดาๆนั้น ก็ยังดีกว่าการพุทธาภิเษกในปัจจุบันมาก แค่ทำพิธีในวัดพระแก้ว โดยมีคณาจารย์ในสมัยนั้นปลุกเสก ก็เยี่ยมอยู่แล้วครับ

    การสร้างพระพิมพ์นั้น การสร้างเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2400 จวบจนปลายรัชสมัยรัชการที่ 6 มีการสร้างกันอยู่เรื่อยๆ มีการพุทธาภิเษกกันอยู่เรื่อยๆ เป็นการสร้างเพื่อไว้สืบทอดพระพุทธศาสนาด้วย เพื่อการเฉลิมฉลองในวาระสำคัญๆด้วย

    พระพิมพ์ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2400 จนถึง ปี พ.ศ.2415 บางพิมพ์สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีท่านก็ถูกนิมนต์มาเป็นประธานการเสก บางพิมพ์จะเป็นพระเถระมาเสก แต่ว่าในพระพิมพ์เหล่านี้ บางรุ่นบางพิมพ์ท่านเจ้าก็เชิญหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรมาเสก ผมเองมีสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีเสกองค์เดียวก็มี หรือที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรท่านมาเสกให้ก็มี หรือทั้งหลวงปุ่บรมครูเทพโลกอุดรและสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีเสกก็มีครับ

    เรื่องมีตราครุฑนั้น พระพิมพ์ที่มีตราครุฑเริ่มสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2415 หลังจากสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีท่านมรณภาพแล้ว โดยรัชกาลที่ 5 ท่านมีพระราชดำรัสให้มีตราครุฑ เนื่องจากว่าให้แยกว่าเป็นพระพิมพ์ของวังหน้าหรือวังหลวง พระพิมพ์ที่มีตราครุฑอยู่ด้านหลัง ก็ไม่จำเป็นเสมอไปว่าหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรท่านเสกให้หรือไม่ เนื่องจากว่าถ้าสร้างพระพิมพ์ขึ้นหลังปี พ.ศ.2428 อันเป็นปีที่ท่านเจ้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ)ทิวงคต หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ท่านก็ไม่ได้มาเสกให้ครับ

    จากพระพิมพ์ที่มีตราครุฑ ยังมีตราสิงห์ ,ตราเสมา พระพิมพ์เหล่านี้จะเป็นการสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองที่รัชการที่ 5 ครองราชครบ 40 ปี คือในปี พ.ศ.2451 ครับ

    ยังมีพระพิมพ์ที่มีตราสมออีก พระพิมพ์ที่มีตราสมอนั้น ก็มีการสร้างขึ้นในสมัยที่ท่านเจ้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ) ท่านยังมีพระชนม์ชีพอยู่ มีการสร้างจนกระทั่งปี พ.ศ.2451 ครับ พระพิมพ์ที่มีตราสมออยู่ด้านหลังจึงมีทั้งหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรท่านเสก กับพระคณาจารย์ในยุคนั้นเสกครับ

    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ผมเองได้ความรู้ต่างๆมากมายจากท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร และอีกท่านหนึ่งก็คือท่านเป็นนายทหาร นายทหารท่านนี้ท่านเองศึกษาพระวังหน้าและวังหลวงมาเป็นระยะเวลา 30 ปี และสะสมพระของวังหน้าและวังหลวงไว้เป็นจำนวนมาก แต่ท่านชอบไปแจกฟรีให้กับเพื่อนๆของท่านและงานบุญที่ท่านเข้าไปช่วยเหลือครับ

    ผมขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ประถม อาจสาครและท่านนายทหารมากครับ

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2006
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  20. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ขืนช้า เดี๋ยวงั้นผมตั้งคำถามแทนนะครับ ใครตอบถูกให้ไปรับพระจากคุณ Sithiphong ผมไม่เกี่ยว
     

แชร์หน้านี้

Loading...