แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 15 พฤษภาคม 2010.

  1. โอ ท่าซุง

    โอ ท่าซุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,291
    ค่าพลัง:
    +8,435
    ผม copy สำนักปฏิบัติธรรมที่พี่หนุ่มฯแนะนำไว้ ๔๐ แห่งตามที่แนบน่ะครับ แต่ไม่มีแถวนครนายกหรือปราจีนบุรีบ้างเหรอครับพี่หนุ่มฯ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. 2zani

    2zani เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +5,549
    สวัสดียามเช้าพี่ๆทุกท่านครับ
     
  3. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    สวัสดีค่ะ ยามเช้า...ทุกท่านค่ะ
    ขอให้ดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาท มีสติ...
    ชีวิตต้องอดทนเพื่อครอบครัวที่มีความสุข......ไม่ทำผิด...รักษาศีล

    ขอบคุณ...คุณ2zani....ภาพนรกน่ากลัวมากเลย..
     
  4. chanayut

    chanayut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    384
    ค่าพลัง:
    +1,671
    ผมเคยไปปฏิบัติธรรมที่บ้านแสงสุขครับ หลวงพ่อจำเนียร วัดเขา้ำถ้ำเสือ สอนปฏิบัติกรรมฐาน เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่นั่งสมาธิแล้วสุขสงบนิ่ง ความรู้สึกว่าเหนือศีรษะเราโปร่งสบายมีแสงสีฟ้าอ่อนๆคลุมเราอยู่ จนรู้สึกว่าไม่อยากคลายจากความรู้สึกนั้น แต่พอกลับมาปฏิบัติที่บ้านก็ไม่เคยได้ความรู้สึกนั้นกลับมาอีกเลย มีแต่ความรู้สึกตัวพอง ตัวยืดสูงขึ้นๆ ไม่ก็รู้สึกตัวเอนไปเอนมา เป็นเพราะไม่มีครูบาอาจารย์คอยคุมสติเรารึเปล่าครับ รบกวนพี่หนุ่มแนะนำผมด้วยครับ
    http://www.baansangsuk.com/ ต้องลงชื่อจองในเวปครับ มีหลายคอร์สให้เลือก 3 วัน 5 วัน กินน้อยนอนน้อยปฏิบัติมาก
     
  5. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,341
    สวัสดีตอนเช้าครับ กว่าจะปล้ำคอมให้ดีได้ ตามอ่านหลายหน้าเลย
     
  6. ลูกวัด

    ลูกวัด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,071
    ค่าพลัง:
    +5,194
    สวัสดียามเช้าทุกท่านครับ ท่าน 2zani นำบทความธรรมะดีๆมาให้อ่านกันอีกแล้วขอบคุณครับท่าน:cool::cool::cool:
     
  7. ลูกวัด

    ลูกวัด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,071
    ค่าพลัง:
    +5,194
    ท่าน CheKuvara ซ่อมเองเลยหรือครับ :cool:
     
  8. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    สวัสดีครับทุกคน อากาศดีแต่เช้าเลย ขอให้สุขกาย สบายใจนะครับ
    วันนี้ต้องออกไปดูsite งานครับ เลยเอาเรื่องมาลงยาวๆไว้ก่อน
     
  9. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    [FONT=&quot]เรียกวิญญาณ

    [/FONT] [FONT=&quot]เมื่อประมาณปี 2520-2544 [FONT=&quot]ที่อำเภอบ่อทอง ชลบุรี มีการฆ่ากันตายอย่างโหดเหี้ยม โดยขบวนการแย่งชิงประโยชน์ในการขุดแร่พลวงทอง ที่โยงใยและสลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากมาย ตามเรื่องที่ผม คัดลอกตำนานเลือด มาด้านล่างนี้ครับ

    [/FONT]
    [/FONT] [FONT=&quot]“หากย้อนอดีตราวปี [/FONT][FONT=&quot]2,510 เป็นต้นมาได้มีการเปรียบเทียบว่า "ชลบุรี" ว่าเป็น "เมืองอิทธิพลแดนเถื่อน" การฆ่ากันด้วยอาวุธสงครามถือเป็นเรื่องธรรมดาเนื่องจากหาซื้อได้ง่ายยิ่งกว่าไปซื้อขนมตามร้านค้าเนื่องจากสภาพของจ. ชลบุรีติดต่อมีอาณาเขตกับแนวชายแดนทางด้านทิศตะวันออก
    อาวุธสงครามนานาชนิดทะลักเข้ามาด้วยราคาถูกแสนถูก อาทิอาก้าเอ็ม 16 ระเบิดมือรวมทั้งลูก สนนราคาเพียง 2,000-2,500 บาทก็ได้ปืนเอ็ม 16 แล้ว หรืออาก้ามาครอบครองในย่านห่างไกลความเจริญตามป่าเขาลำเนาไพรโดยเฉพาะ "หลงจู๊" ไร่อ้อยไร่มันสำปะหลังแทบจะมีทุกหลักคาเรือน

    การครองตัวเพื่อความอยู่รอดของเหล่าหลงจู๊เหล่านั้น จะต้องสร้างอิทธิพลด้วยการเลี้ยงลูกน้องไว้คอยดูแลเก็บเกี่ยวผลประโยชน์รวมทั้งคุ้มครองป้องกันตนเองหรือเรียกง่ายๆว่า "มือปืน" เนื่องจากผลประโยชน์อาจจะกระทบกระทั่งจากฝ่ายตรงข้ามได้ง่าย และหากขยายผลออกไปก็จะกลายเป็นความขัดแย้งการที่จะอยู่รอดในยุทธจักรผู้มีอิทธิพลได้จะต้องหูตากว้างไกลประสานมิตรมากกว่าศัตรูการครองตัวต้องระมัดระวังตลอดเวลาหากพลาดเพียงก้าวเดียวชีวิตอาจสู่ยมโลกง่ายดายได้อย่าง

    หากพลิกตำนานของต้นตระกูลโหดเลวดีจะพบว่าส่วนใหญ่จะเกิดจากอาถรรพ์ "แร่พลวง" ซึ่งอยู่ในพื้นที่ต. บ่อทองอ. พนัสนิคมจ. ชลบุรี (ในสมัยนั้นต. บ่อทองขึ้นกับอ. พนัสนิคม) การฆ่ากันตายคล้ายดังผักปลาเกิดจากการแย่งชิงผลประโยชน์ในพื้นที่ต. บ่อทองกันอย่างมากหากไม่พอใจก็ใช้อาวุธปืนยิงกันให้ดับดิ้น แล้วถีบลงหลุมแร่ทำการฝังกลบให้เรียบร้อย

    ในปี 2512 จากการตรวจสอบของกรมทรัพยากรธรณีพบว่า มีสายแร่พลวงซึ่งเป็นสายแร่ขนาดใหญ่มีพื้นที่ติดกันหลายจังหวัดคือชลบุรีระยองจันทบุรีและฉะเชิงเทราจึงทำให้ผู้มีอิทธิพลในสมัยนั้นได้เข้ามากอบโกยผลประโยชน์กันอย่างมากมายพร้อมกับเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะๆชีวิตผู้คนที่ล้มหายตายจากลงเป็นจำนวนมาก

    ประเดิมศพแรกคือนายประจักษ์ สุรกิจบวร กำนันตำบลบ่อทองอดีตพ่อค้าสังเวยด้วยคมกระสุนปืนจากการขัดแย้งผลประโยชน์ในพื้นที่แร่พลวงหลังจากนั้นได้มีนายกวยพันธุ์สนิทนายสุชาติสุขพันธุ์ถาวรหรือผู้ใหญ่ย้งได้เข้ามากว้านซื้อที่ดินในพื้นที่ต. บ่อทองเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากแร่พลวง พร้อมกับการก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าพ่อบ่อทอง ของนายเกียง จึงประเสริฐหรือหลงจู๊เกียง ซึ่งทำธุรกิจจำนวนมากมายทั้งโรงสีโรงเรื่อยในขณะนั้นมีความสนิทสนมกับจอมพลประภาส จารุเสถียร การสร้างอิทธิพลจึงทำได้ง่ายประกอบกับในสมัยนั้นจะเป็นเจ้าพ่อหรือผู้มีอิทธิพลต้องพึ่งบารมีทางด้านสายทหารถึงจะก้าวมาเป็นใหญ่ได้

    <!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
    <!--[endif]-->[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2010
  10. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    [FONT=&quot]ช่วงนั้นเสี่ยจิว หรือนายจุมพล สุขภารังษี คนดังในตัวเมืองชลบุรีได้เริ่มเข้าไปมีบทบาทในการทำเหมืองแร่พลวงและเริ่มกว้างซื้อที่ดินด้วยเช่นกันโดยมีนายปาน บุตรชายเสี่ยจิวเข้าไปคุมกิจการ พร้อมกับมีเรื่องระหองระแหงในกลุ่มของหลงจู๊เกียงมาตลอด จนถึงขั้นต้องเคลียร์กันหลงจู๊เกียงจึงหลีกทางให้เพื่อความสงบสุขในพื้นที่ต. บ่อทอง[/FONT][FONT=&quot]

    ต่อมาไม่นานหลงจู๊เกียง ไม่สามารถเบ่งบารมีได้เต็มที่เนื่องจากประสบอุบัติเหตุขณะขับรถเบ็นซ์มาตามถนนสายเก่าชลบุรี - กรุงเทพฯช่วงบางปูเพื่อกลับ จ. ชลบุรีคนขับหลับในโดยหลงจู๊เกียงได้นั่งด้านหน้าซ้ายพุ่งชนรถจี๊บ 6 ล้อที่จอดอยู่ข้างทางเสียชีวิตที่โรงพยาบาลและทิ้งทายาทไว้ 2 คนคือนายประเสริฐ จึงประเสริฐ และนายนคร จึงประเสริฐ

    หลังจากนั้นนายนครได้ลาออกจากปลัดอำเภอแม่ฮ่องสอน แล้วลงมาดูแลกิจการของพ่อเกือบทั้งหมดและได้แรงสนับสนุนจากกลุ่มมือปืนในซุ้มป่าแดง และทุ่งเหียงในการสร้างอำนาจบารมีพร้อมทั้งจับมือกับนายสุชาติ สุขพันธุ์ถาวร นายเฉลิมชัย เจริญสุขหรือเอี๊ยก นายแสวง จันทรวงษ์หรือเสือแหวง สานต่อการทำแร่พลวงด้วยการเร่งขอสัมปทานกับกลุ่มประชาชนในพื้นที่ ด้วยการขอตั้งบริษัทสหบ่อทองพัฒนาจำกัด

    แล้วเหตุการณ์ไม่คาดขวัญก็เกิด เมื่อปลัดนครได้เดินทางมาติดต่อราชการที่ศาลากลางจังหวัดชลบุรีขณะนั้น นายสมพร ธนสถิตย์ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีกำลังประชุมรักษาความสงบเรียบร้อยของจังหวัด ช่วงใกล้เที่ยงปลัดนครเดินมาที่หลังศาลากลางจังหวัดชลบุรีไ ด้มีคนร้ายเข้าประกบประชิดตัวพร้อมทั้งใช้อาวุธปืนยิงเข้าใต้ตาซ้ายล้มทั้งยืนเสียชีวิต ในที่เกิดเหตุทันที พร้อมทั้งข่าวคราวแพร่กระจายถึงความโหดเหี้ยมของมือปืนที่ลงมืออุกอาจทั้งที่เป็นสถานที่ราชการกระแสข่าวระบุว่า ชัยดำ มีส่วนรู้เห็นในการลงมือของคนร้ายในครั้งนี้จึงทำให้คนในตระกูลจึงประเสริฐ ขัดแย้งกับเสี่ยจิวอย่างรุนแรงท่ามกลางความเคลื่อนไหวของกลุ่มมือปืนในซุ้มป่าแดง ที่ต้องการล้างแค้นให้กับลูกพี่ก็กระพือความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

    หลังจากการเสียชีวิตของปลัดนคร กระแสการแย่งชิงพื้นที่เพื่อเข้าไปทำผลประโยชน์เกี่ยวกับแร่พลวงก็ระอุขึ้นอีก มีการยิงกันตายเป็นว่าเล่นระหว่าง 2 กลุ่มที่มีความขัดแย้งสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอย่างมากมาย หลังจากนั้นนายประเสริฐ จึงประเสริฐได้ถูกมือปืนดักถล่มกลางดึกที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าการุณย์นิเวศ ต. ห้วยกะปิ อ. เมืองชลบุรี ขณะกลับจากการเที่ยวบาร์โรมิโอในช่วง 100 วัน ของศพปลัดนครพร้อมกระแสข่าวชัยขาวและชัยดำ เป็นผู้รู้เห็นเช่นเดิม

    ทางด้านตัวเมืองชลบุรี ก็เริ่มมีความรุนแรงในเรื่องการขัดแย้งในผลประโยชน์คดีเขย่าขวัญคนเมืองชล จึงเริ่มขึ้นเมื่อนายเจตน์ ศรีรุ่งสุขจินดาหรือเสี่ยง้ำ หัวคะแนนใหญ่ของพล.ต. ศิริ สิริโยธิน ถูกกลุ่มคนร้ายถล่มด้วยอาวุธนานาชนิดทั้งอาก้าเอ็ม 16 ขณะนั่งรับโทรศัพท์อยู่ที่คิวรถคอนซูล (ซึ่งเป็นรถเก๋งวิ่งระหว่างกรุงเทพฯ - ชลบุรี) ในเขตตัวเมืองชลบุรี โดยขาดสมุนคู่ใจดูแลเนื่องจากไปเที่ยวงานประจำปี ที่วัดเนินสุทธาวาส พรุนไปทั้งร่างเสียชีวิตคาที ส่วนนายเต็ก เซ็งแซ่จึงพ่อตาเสี่ยง้ำขาขาดท่ามกลางความตกตะลึงของคนทั้งเมืองชล
    <!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
    <!--[endif]-->[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2010
  11. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    [FONT=&quot]หลังจากนั้น พ.ต.ต. อนันต์ เสนาขันธ์เจ้าของหนังสือพิมพ์ "ชนวน" ได้เดินทางมาอภิปรายเพื่อแฉอิทธิพลในจ. ชลบุรี รวมทั้งการทุจริตคอรัปชั่นครั้งแรก ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี ส่งผลให้ถูกกลุ่มต่อต้านรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ แต่พ.ต.ต. อนันต์ ไม่ย่อท้อพยายามเปิดการอภิปรายอีกครั้งที่เทศบาลเมืองชลบุรี ไม่ประสบผลสำเร็จเช่นเคยโดน[/FONT][FONT=&quot] "อึ" ขว้างจึงได้ล้มเลิกการอภิปรายไป

    ย้อนเข้าเขตพื้นที่บ่อทอง การลักลอบขุดแร่เถื่อนเริ่มมีการขยายตัว พร้อมทั้งสร้างอิทธิพลมีการเข่นฆ่ากันตายเป็นเบือ หลังจากนั้นทางกรมทรัพยากรธรณีจึงได้เปิดโอกาสให้ประชาชน ยื่นขอสัมปทานเหมืองแร่มีผู้สนใจเข้าร่วมประมาณ 29 ราย อาทิบริษัทเขาชะอางค์ช่วยคนยากจำกัด ของนางชุติมาวรรณ ภรรยาของนายทรงชัย เบญจศิริวรรณ หรือเท่งซ้ง เจ้าพ่อวงการค้าไม้ (ต่อมาถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตที่เวทีมวยราชดำเนิน) บริษัทเหมืองชลจำกัด ของนายประโยชน์ เนื่องจำนงค์ คนดังบ้านบึง (อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม) นอกจากนี้ทางด้านประชาชนในบ่อทองเริ่มเรียกร้องพร้อมทั้งเดินขบวนให้ทางภาครัฐอนุมัติให้บริษัทสหบ่อทองพัฒนาจำกัด ได้รับการอนุมัติสัมปทานแต่นายสมหวัง จูตะกานนท์รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีในสมัยนั้น ได้มาระงับเหตุพร้อมทั้งสลายตัวการชุมนุมของประชาชนได้ แต่ปัญหาการลักลอบขุนแร่พลวงก็ทวีความรุนแรงในช่วงรัฐบาลของพล.อ. เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ จึงได้ให้พลตรีสุดสาย หัสดิน ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการอนุญาโตตุลาการพิจารณากรณีข้อพิพาทเหมืองแร่ทั่วประเทศ เดินทางมาที่กิ่งอ. บ่อทอง ช่วงนั้นนายประกิต อุตตะโมตเป็นผู้ว่าราชการชลบุรีจังหวัด

    พลตรีสุดสาย ได้พยายามตีสนิทกับคณะกรรมการบริหารของบริษัทสหบ่อทองพัฒนาจำกัด พร้อมทั้งพักพิงที่บ้านของผู้ใหญ่ย้ง หรือนายสุชาติ สุขพันธุ์ถาวร ในที่สุดผลการพิจารณาบริษัทสหบ่อทองพัฒนาจำกัดเป็นผู้รับสัมปทาน สำหรับผู้บริหารประกอบไปด้วยนายสุชาติ สุขพันธุ์ถาวรกรรมการผู้จัดการ นายเฉลิม เจริญสุขชัย (ผู้ใหญ่เอี๊ยก) กำนันหลี ประสมทรัพย์ นายประสิทธิ์ กาญจนบัตร นายเชาว์ บุญรอดผล การประกอบการปรากฏว่าประสบความล้มเหลว เพราะต่างฝ่ายต่างกอบโกยผลประโยชน์ให้ตนเองกับ

    แววแห่งการนองเลือดเริ่มเกิดขึ้น เมื่อมีการลักลอบค้าแร่พลวงเถื่อนเกิดขึ้น ทำให้คณะกรรมการของบริษัทสหบ่อทองพัฒนาจำกัดเริ่มเกิดรอยร้าวส่งผลให้นายเฉลิม เจริญสุขชัย (ผู้ใหญ่เอี๊ยก) ถูกลุ่มคนร้ายถล่มด้วยอาวุธนานาชนิด ที่บริเวณถนนทางเข้ากิ่งอ. บ่อทองในสมัยนั้น ได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องหนีไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯทำให้มือปืนเริ่มมีความเคลื่อนไหวในกิ่งอ. บ่อทองกันอย่างคึกคัก ทางกองบังคับการตำรวจภูธรเขต 2 ต้องส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงมาระงับเหตุ พร้อมทั้งตรวจค้นยึดอาวุธและกระสุนได้จำนวนมากมาย

    <!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
    <!--[endif]-->[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2010
  12. คชสารบูรพา

    คชสารบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +1,107
    สวัสดียามเช้าครับ นาน ๆ จะเข้ามาเขียนซะที แต่ก็ติดตามอ่านมาตลอดครับ
    ชอบเรื่องราวที่คุณหนุ่มเขียนเรื่องการเข้าป่า ลึกลับดี อ่านแล้วสนุกตื่นเต้นและได้ความรู้รวมทั้งอยากทราบเรื่องขุมทองที่เมืองกาญด้วย และขอบคุณสำหรับทุกเรื่องที่ ทุกท่านช่วยกันเขียน ช่วยให้คนที่ไม่ค่อยจะมีประสบการณ์อย่างผมได้รับรู้
     
  13. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    [FONT=&quot]หลังจากนั้นเสี่ยจิว หรือนายจุมพล สุขภารังษี ได้เริ่มเข้าไปมีบทบาทโดยประสานงานกับนายสุชาติ สุขพันธุ์ถาวร เพื่อเตรียมยื่นเรื่องขอสัมปทานบัตรต่อจากบริษัทสหบ่อทองพัฒนาจำกัด ซึ่งกำลังจะหมดอายุและยืดอายุสัมปทานการทำเหมืองแร่ โดยมีนายเฉลิมชัย เจริญสุข นายเชาว์ บุญรอด นายประสิทธิ์ กาญจนบัตรและนายบรรทม เจริญสุข ช่วยกันประสานงานจนประสบความสำเร็จในการต่อสัมปทานในราคา[/FONT][FONT=&quot] 10 ล้านบาท

    ต่อมานายเชาว์ บุญรอด ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตที่หน้าบริษัทสหบ่อทองพัฒนาจำกัด หลังจากนั้นมาไม่นานนายประสิทธิ์ กาญจนบัตรขณะนั้นได้สัมปทานจำหน่ายสุราในพื้นที่อ. พนัสนิคม ได้พยายามประกาศตัวเพื่อลงสมัครส.ส. ปรากฏว่าถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตไปอีกท่ามกลางความไม่พอใจของเสี่ยจิว นายบรรทม เจริญสุข ถูกคนร้ายยิงได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน

    ทางด้านนายสุชาติ สุขพันธุ์ถาวรในช่วงปี 2524 ก่อนทำบุญขึ้นบ้านใหม่ 7 วันได้ถูกคนร้ายยิงด้วยอาวุธสงครามถนนสายบ่อทอง - หนองเกตุ แต่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมมาด้วยจึงปลอดภัยและในปีเดียวกันนั้นเองช่วงปลายปีกลุ่มคนร้ายประมาณ 10 คนใช้รถบรรทุกพาหนะพร้อมอาวุธสงครามครบมือทั้งปืนเอ็ม 16 อาก้า จรวจต่อสู้รถถัง รวมทั้งปืนเอ็ม 79 บุกห้างหุ้นส่วนเจริญวัฒนาเอเย่นต์สุราและเบียร์เลขที่ 460/19 ตลาดกิ่งอ. บ่อทองขณะที่กำนันย้งกำลังทำงานที่โต๊ะบัญชีกลุ่มคนร้ายได้ยิงจรวดตู่สู้รถถังใส่โต๊ะบัญชี เผอิญกำนันย้งได้ทำบังเกอร์หลบภัยไว้ใต้โต๊ะจึงรอดจากอาวุธสงครามนานาชนิดที่ยิงถล่ม และในปี 2531 ถูกคนร้ายดักยิงด้วยอาวุธสงครามขณะเปิดประตูบ้านเสียลูกอัณฑะไป 1 ข้าง

    ย้อนกลับมาในอ. เมืองชลบุรีได้เกิดเหตุการณ์ช็อกความรู้สึกของคนทั้งจ. ชลบุรีเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 25 มิถุนายน 2,524 เมื่อกลุ่มมือปืนใช้อาวุธสงครามนานาชนิดถล่มนายจุมพล สุขภารังษี เสียชีวิตในรถเบ็นซ์สีเขียว 280 เอสหมายเลขทะเบียน 8888 ชลบุรีขณะกลับจากดูที่ดินบริเวณถนนบายพาส ต. หนองไม้แดง อ. เมืองชลบุรี เพื่อสร้างศูนย์ประชุมขนาดใหญ่เพื่อรองรับนักการเมืองทั่วประเทศ พร้อมกับนายเฉลิม ฉันทภักดีคนขับ นายสมศักดิ์ มิตรเกตุ คนสนิทที่ถนนสายบายพาสขณะจะเดินทางกลับบ้านพัก โดยตำรวจมุ่งประเด็นการค้าแร่พลวงและการขัดแย้งการค้าหมูเถื่อน ใน อ. เมืองชลบุรี ก่อนหน้านี้ได้มีการการแย้งกันอย่างรุนแรง ทำให้เจ้าของเขียงหมูรวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องถูกยิงกันแทบไม่เว้นสัปดาห์ พร้อมทั้งการประกาศล้างแค้นของนายปาน บุตรชาย หลังจากนั้นความโดดเด่นของกำนันเป๊าะ และเสี่ยฮวด นักธุรกิจชื่อดังในอ. บ้านบึง เริ่มแข่งรัศมีเพื่อจะก้าวมาเป็นผู้มีอิทธิพลในจ. ชลบุรี

    19 กุมภาพันธ์ 2527 นายปาน สุขภารังษี ได้ขับรถเบ็นซ์คันที่เสี่ยจิวถูกยิงเสียชีวิตมุ่งหน้าไปทางพัทยา ถูกคนร้ายใช้อาวุธนานาชนิดปะกบยิงจนนายปาน เสียชีวิต ส่วนนางปัทมาภรรยาและลูกๆได้สาหัสรับบาดเจ็บ

    <!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
    <!--[endif]-->[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2010
  14. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    [FONT=&quot]สภาพของเมืองชลบุรีชลบุรี คล้ายกับว่าสงบนิ่งแต่ว่าสถานการณ์ภายในกลับเริ่มทวีความรุนแรง เนื่องจากเสี่ยฮวดเริ่มเข้ามามีบทบาทในการทำธุรกิจพร้อมทั้งมีการขัดแย้งตลอดเวลา จึงทำให้เสี่ยฮวดรู้ตัวว่ามีคนจะลอบทำร้ายจึงได้ระวังตัวตลอดเวลาแต่แล้วก็ไปไม่รอด[/FONT][FONT=&quot]

    ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนจ้าวันที่ 5 เมษายน 2532 ช่วงเทศกาลเช็งเม้ง เสียงปืนนานาชนิดแผดเสียงขึ้นนับไม่ถ้วนจากมือปืนล่าสังหารนับสิบคนที่รายล้อมรถเบ็นซ์สีครีมรุ่น 300 อีทะเบียน 8 ฉ -1034 กทม. ที่บริเวณถนนสายเศรษฐกิจ (ชลบุรี - บ้านบึง). ที่ 3 ตกม. หนองรีอ. เมืองจ. ชลบุรี

    ภายหลังจากเสียงปืนสงบ กลิ่นควันปืนจางหายภายในรถพบร่างของนายพิพัฒน์ โรจนวนิชชากรหรือเสี่ยฮวดคนดังอ. บ้านบึง และเป็นผู้กว้างขวางในภาคตะวันออก ซึ่งกุมธุรกิจนับล้านพันในขณะนั้น ถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณลำตัวและใบหน้าหลายแห่งนอนเสียชีวิตภายในที่นั่งหลังรถด้านซ้ายพร้อมกับ ร.ต.อ. อุทัย ปักษานนท์อายุ 37 ปีรองสว.สภ.อ. ปลวดแดง จ. ระยอง นายตำรวจคุ้มกัน และนายธงชัยหรือไฮ้ คนขับรถ ขณะกลับจากคาราวะสุสานบรรพบุรุษที่สุสานหงษ์ซัวต. หนองรีอ. เมืองชลบุรี

    จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบปลอกกระสุนปืนอาก้าและปืนเอ็ม 16 จำนวนกว่า 50 นัดตกในที่เกิดเหตุ สร้างความตกตะลึงให้กับวงการนักเลง เนื่องจากเสี่ยฮวดได้พยายามไต่เต้าขึ้นมาดำรงตำแหน่งเจ้าพ่อภาคตะวันออกในขณะเกิดช่องว่างขาดผู้นำทางวงการนักเลง

    ในสมัยนั้นพล.ต.อ. แสวง ธีระสวัสดิ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจได้สั่งการให้ พล.ต.ต. ชลอ เกิดเทศตั้งทีมสอบสวนเฉพาะกิจขึ้นเพื่อคลีคลายคดีซึ่งประกอบไปด้วยพล.ต. ต . ธรรมนิตย์ ปิตะนีละบุตร ผกก.ภ. 2 พ.ต.อ. พงศ์สันต์ วัชราธรผกก. ชลบุรี พ.ต.ท. ราเมศร์ สุริยะโชติสวญ.สภ.อ. ชลบุรีและพ.ต.อ. มนตรี ผดุงสิทธิ์ผกก .4 ป.

    ในชั้นสอบสวนเบื้องต้นพบว่า เสี่ยฮวดเคยเป็นนายทุนในการทำแร่พลวงที่อ. บ่อทองการประมูล ซื้อขายที่ดินในพื้นที่ภาคตะวันออกหลายสิบล้านบาทรวมทั้งการกว้านซื้อที่ดิน ทำให้ขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จ . ชลบุรี จุดสำคัญคือโครงการสร้างศูนย์การค้าขนาดใหญ่ "ศรีราชาคอมเพล็กซ์" ปัจจุบัน คือศูนย์การค้าโรบินสันศรีราชาและการขัดแย้งกับนายตำรวจในขณะนั้น

    ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกขอหมายจับ นายปรีชา สถาวรหรือแดงสิงห์ป่าซุง และนายเอนก หรือเด๋อไม่ทราบนามสกุลหลังจากนั้นจึงเข้ามอบตัวที่กองบัญชาการศึกษา ถ. วิภาวดีรังสิตกรุงเทพฯ พร้อมทั้งขอสู้คดีว่าไม่ได้ร่วมสังหารเสี่ยฮวดแต่มีการซัดทอดว่าในการวางแผนสังหารนั้นมีนายตำรวจร่วมอยู่ด้วย

    หลังจากนั้นจึงมีหมายจับของตำรวจ 10 คนประกอบไปด้วยร.ต.อ. ไชยันต์ วิชัยดิษฐ หน.นปพ.กก.ภ. ชลบุรี ร.ต.อ. จักรกริช ทรงศิริ หน.สภ. ต. บ้านขอด อ. สัตหีบจ. ชลบุรี ส.ต.ต. สมยศ ชุ่มเต ส.ต.ต. สุพจน์ วงศ์จำปา ส.ต.ต. เอกธนะ ธีระพงษ์ นายสุพจน์ ธนาวรรณ นายดำ อ่างศิลา นายยุทธบางแสน นายห้างและไม่ทราบชื่ออีก 1 คน นอกจากนี้ยังมีสิบโทสมเกียรติ หรือโน้ตน้อยเล็ก ถูกตั้งข้อหาร่วมลงมือสังหารเสี่ยฮวดด้วยซึ่งต่อมาถูกลวงไปฆ่าทิ้งที่จ. สระบุรี

    โดยมีการระบุในการสอบสวนว่า ร.ต.อ. ไชยันต์ ทำหน้าที่ดูต้นทางที่สุสานหงษ์ซัวส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆได้มีการตระเตรียมในเรื่องอาวุธพร้อมทั้งลงมือสังหาร ซึ่งต่อมาอัยการจังหวัดชลบุรีได้ส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คน แต่ศาลชั้นต้นได้มีการยกฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด โดยไม่มีการอุทธรณ์แต่อย่างใดสร้างความฮือฮาในหมู่นักเลงเป็นอย่างมาก

    จึงทำให้ผู้ต้องหาทั้งหมด พ้นมลทินในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถกลับเข้ามารับราชการรวมทั้งร.ต.อ. ไชยันต ซึ่งได้ไต่ตำแหน่งในชีวิตราชการตำรวจมาจนกระทั่งได้ตำแหน่งสุดท้ายเป็นพ.ต.ท. ไชยันต์ วิชัยดิษฐรองผกก .5 บก.อก.ภ. 2 ก่อนได้ถูกนายโยธิน สิทธิโชติและนายเลิศชายการะกิจหรือผู้ใหญ่อ้น ใช้ปืนขนาด 11 มม. สาดเข้าประตูข้างรถจนถึงกระจกด้านหน้าทั้งหมด 5 นัด มีเพียงนัดเดียวเท่านั้นที่เจาะเข้าต้นแขนขวาทะลุปอดฝังในปลิดชีวิตพ.ต.ท. ไชยันต์ โดยไม่สามารถเยียวยาได้ขณะติดตามลูกชายคือนายฐานพัฒน วิชัยดิษฐ์ ที่ออกไปก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับกลุ่มวัยรุ่นที่บริเวณถนนลงชายหาดบางแสน เยื้องกับผับเบอร์ด็อกเทศบาลเมืองแสนสุขอ. เมืองจ. ชลบุรีเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2545

    ส่วนทางด้านแดงสิงห์ป่าซุง หรือนายปรีชา สถาวรมือปืนระดับพระกาฬของภาคตะวันออก ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งในการฆ่าเสี่ยฮวดก็ถูกกลุ่มคนร้ายดักยิงด้วยอาวุธสงครามพรุนทั้งร่าง ขณะนั่งรถกระบะโตโยต้าสีเปลือกมังคุดหมายเลขทะเบียนบ -7870 อุบลราชธานีเสียชีวิตพร้อมกับพวกอีก 2 คนคือนายปรีชา รอดดีอายุ 33 ปี นายปรีชา โชติรัตน์ที่บริเวณถนนสายลูกรังพนัสนิคม - ทุ่งเหียงหมู่ที่ 3 ต. หมอนนางอ. พนัสนิคมจ. ชลบุรีเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2,533 พร้อมทิ้งศพปริศนาของนายนิคม ชาญวิทย์ธรรม สารวัตรกำนันหมอนนาง อ. พนัสนิคมถูกฝังอยู่ที่สุสานเม่งเอ็งหมู่ 4 ต. หมอนนาง ซึ่งถูกยิงที่หน้าอกด้านซ้ายด้วยปืนขนาด 9 มมจำนวน 2. นัดเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าอาจจะถูกกลุ่มของแดงสิงห์ป่าซุง ยิงต่อสู้แล้วเสียชีวิตหรือไม่ก็ถูกฆ่าปิดปาก

    ความขัดแย้งในจ. ชลบุรี เริ่มมีความรุนแรงอีกครั้งเมื่อกลุ่มมือปืนได้ใช้อาวุธปืนยิงนายสังคม พิณรังสฤษดิ์สมาชิกสภาเทศบาลตำบลบ้านบึง คนสนิทของพล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ เสียชีวิตพร้อมกับอีกพวก 2 คนคือนายชาญชัย สาคร นายบรรเจิด แววรวีวงศ์ ส่วนนายพิชัย พิรัตติกุลชัยได้รับบาดเจ็บกลางดึกวันที่ 26 มิถุนายน 2,535 โดยตำรวจได้พุ่งเป้าไปที่นายสุชัย ธนาวรรณ (ขาวชัย) อดีตมือขวาของเสี่ยจิว นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านบึงที่มีความขัดแย้งในเรื่องการเมืองท้องถิ่น สมัยนั้นพ.ต.อ. วีระ อนันตกูลเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรชลบุรี ได้ลั่นวาจาจะต้องคลี่คลายคดีนี้ภายใน 1 เดือน

    แล้วประกาศิตก็เป็นจริงเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2535 ท่ามกลางฝนโปรยปรายลงมาบางๆขณะนี้ นายสุชัย ธนาวรรณได้ขับรถเก๋งฮอนด้าพรีลูด สีบรอนซ์ตะกั่วทะเบียนป้ายแดงก -9,898 กทม. ขณะติดไฟแดงถนนสายเศรษฐกิจหมู่ที่ 6 ต. บ้านสวนอ. เมืองจ. ชลบุรีกลุ่มคนร้ายได้ใช้รถกระบะสีเทาดำโดยมือสังหารได้นั่งอยู่กระบะหลังรถ ได้ใช้อาวุธสงครามนานาชนิดถล่มจนศีรษะหายไปแถบหนึ่งเสียชีวิตคารถเก๋งคันดังกล่าว

    <!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
    <!--[endif]-->[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2010
  15. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    [FONT=&quot]เหตุการณ์ในจ. ชลบุรีได้เงียบสงบมาจนกระทั่งปี [FONT=&quot]2536 คนร้าย 2 คนใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้ปืนโตกาแล็บดักยิงนายกำพล คุปตะวณิชย์เจริญหรือเสี่ยเก๊า คนดังเมืองพัทยาและคนสนิทของนายสมชาย คุณปลื้ม ขณะออกกำลังในช่วงเช้าเสียชีวิตโดยตำรวจได้มุ่งประเด็นการขัดแย้งที่ดินหาดทรายทอง อ. สัตหีบพร้อมทั้งได้จับกุมนายประมวล นาสวนไชยหรือไอ้ตาแดง ซึ่งเป็นมือขวาของจ่าสิบตำรวจสมัย วงศ์ชัยคนลงมือและนายสมบูรณ์มีอบ คนขี่รถจักรยานยนต์ต่อมาจ่าสิบตำรวจสมัย ได้ถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธสงครามถล่มเสียชีวิตในพื้นที่ จ. ฉะเชิงเทรา หลังจากที่เดินทางมาเป็นพยานเกี่ยวกับคดีกล่าวที่ศาลจังหวัดชลบุรี

    ผ่านมาอีก 2 ปีเมื่อเช้าวันที่ 5 ตุลาคม 2538 ช่วงที่บรรยากาศกำลังมืดครึ้ม นายสุชาติ สุขพันธุ์ถาวรหรือกำนันย้ง นายกสมาคมเพื่อเกษตรกรภาคตะวันออกได้เดินทางไปดูการประมูลงานที่บ้านทับสูงหมู่ที่ 6 ตใน . บ่อทองอ. บ่อทองจ. ชลบุรีด้วยรถอีซูซุกระบะแวนสีเลือดหมู หมายเลขทะเบียนย -3486 ชลบุรี ไปเพียงลำพังได้ถูกคนร้ายดักถล่มด้วยอาวุธสงครามเอ็ม 16 และลูกซองจนสิ้นใจคารถรถกระบะคันดังกล่าว พร้อมทิ้งข้อสงสัยในกรณีดับนายสุรพล พรวัฒนา เจ้าพ่อแร่พลวงที่กำลังจะเดินทางเข้าไปทำเหมืองแร่ หลังจากถูกปล่อยทิ้งไว้นานถูกยิงเสียชีวิตในตลาดบ่อทองพร้อมด้วยลูกน้องคนสนิทและเด็กกระเป๋ารถรวมทั้งสิ้น 4 คน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เจ้าพ่อบ่อทองถูกยิงเสียชีวิต

    วันที่ 13 กันยายน 2544 ได้มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 4 คน ใช้รถเก๋งสีดำไม่ทราบหมายเลขทะเบียนและยี่ห้อมาจอดที่บริเวณหน้าบ้านฟาร์มกุ้ง 1 / 4 ซอย 2 หมู่ที่ 3 ถ. เทศบาลพัฒนา ต. เหมืองอ. เมืองจ. ชลบุรี หลังจากนั้นคนร้าย 2 คนได้เดินลงจากรถโดยมีคนร้ายถือปืนเอ็ม 16 ยืนคุ้มกัน 1 คนส่วนอีกคนหนึ่งได้เดินมาหานายนุช บุญทนาวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต. เหมืองอ. เมืองจ . ชลบุรี 1 ใน 10 ผู้มีอิทธิพลที่กระทรวงมหาดไทยขนานนามให้ คนขับรถของนายสมชาย คุณปลื้มหรือกำนันเป๊าะ ซึ่งกำลังนั่งดื่มสุรากับเพื่อนบ้านที่บริเวณโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านหลังดังกล่าวพร้อมใช้อาวุธปืน 11 มม. ยิงเข้าที่บริเวณท้ายทอยทะลุหน้าผาก 1 นัดและบริเวณหน้าอก 2 นัด และตามลำตัวอีก 3 นัดล้มคว่ำเสียชีวิตทันทีหลังจากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป ปัจจุบันยังหาตัวคนร้ายไม่ได้

    นายวิสุทธิ์ ทองระอาหรือทิศแอ๋ คนสนิทของกำนันเป๊าะเสียชีวิตด้วยมะเร็งในลำไส้เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2547 นี่คือเส้นทางคนดังในพื้นที่จ. ชลบุรีหรือ ที่มีผู้ขนานนามว่า "ผู้มีอิทธิพล"<o></o>[/FONT]
    [/FONT] [FONT=&quot]เมื่อมองย้อนอดีตเมื่อครั้ง "เสี่ยจิว" นายจุมพล สุขภารังสี ผู้ยิ่งใหญ่แห่งภาคตะวันออกยังเรืองอำนาจ สร้างบารมีขึ้นมาจนชาวชลบุรียกให้เป็น[/FONT] "เจ้าพ่อหมายเลข 1" จากเด็กถือกระเป๋าให้นายธรรมนุญ เทียนเงิน อดีตนักเลงเก้ายอด สส.กรุงเทพฯ และผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพฯ
    "เสี่ยจิว" ผงาดยิ่งใหญ่ เมื่อนายเกียง จึงประเสริฐ หรือ "หลงจู๊เกียง" เจ้าพ่อเมืองชลบุรีผุ้มีความสนิทสนมกับจอมพลประภาส จารุเสถียร ในสมัยนั้นเสียชีวิตลง และสร้างฐานะด้วยการทำธุรกิจทั้งถูกและผิดกฏหมายจนร่ำรวย เดินทางไปไหนมาไหนมีสมุนบริวารติดตามคุ้มกันนับ 10 คน
    ที่ใดมีผลประโยชน์ เี่สี่ยจิว" มักจะเสนอตัวเข้ามามีเอี่ยวหรือกุมผลประโยชน์ด้วยเสมอ แต่ถ้าหากเกิดความขัดแย้งขึ้น เหตุการณ์นองเลือดก็จะตามมาเสมอ
    "เหมืองแร่พลวง" ที่บ่อทองสมัยนั้นยังขึ้นอยู่กับ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ถูกค้นพบเมื่อประมาณปี 2503-2504 ขณะที่นายประโยชน์ เนื่องจำนงค์ สส.ชลบุรียุคนั้น เข้าไปทำไม้บริเวณดังกล่าว และพบแหล่งแร่พลวงมูลค่ามหาศาล
    เมื่อข่าวแพร่ออกไป ประชาชนแห่มาขุดแร่กันเป็นจำนวนมาก จนมีบริษัทเอกชน เข้ามาขอรับทำสัมปทานจากกรมทรัพยากรธรณีถึง 28 บริษัท แต่ชาวบ้านไม่ยอมและรวมตัวกันก่อตั้ง บริษัทสหบ่อทองพัฒนาขึ้น เพื่อรับซื้อแร่จากชาวบ้านและนำออกจำหน่าย โดยมีคณะกรรมการบริหารของบริษัทที่ถูกตั้งขึ้นมาควบคุมดูแลกิจการ ต่อมาคณะกรรมการบริษัท เกิดขัดแย้งกันอย่างรุนแรง โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งกลุ่มแรกนำโดย นายสุชาติ สุขพันธ์ถาวร หรือ "ผู้ใหญ่ย้ง" อีกกลุ่มหนึ่ง นำโดย นายเฉลิมชัย เจริญสุข หรือ "ผู้ใหญ่เอี๊ยก" เมื่อความขัดแย้งรุนแรงเข้มข้น "เสี่ยจิว" ที่จ้องรอโอกาส สอดตัวเข้ามาหาผลประโยชน์จากแหล่งแร่ทันที โดยร่วมมือตักตวงจากแร่พลวงมหาศาล ซึ่งร่วมมือกับผู้ใหญ่ย้ง

    ความแตกหักก็มาถึง เมื่อนายเชาว์ บุญรอด กรรมการบริษัทสหบ่อทองพัฒนา น้องเมียผู้ใหญ่เอี๊ยก ถูกยิงเสียชีวิตหน้าบริษัท ตามมาด้วยการสังหารโหด นายประสิทธิ์ กาญจนบัตร กรรมการบริษัทคนสนิทผู้ใหญ่เอี๊ยกอีกราย "ผู้ใหญ่ย้ง" ถูกมือปืนบุกยิงได้รับบาดเจ็บในอีกไม่กี่วันต่อมา และเชื่อว่าเป็นปมขัดแย้งในการแย่งรับซื้อแร่ ประจวบกับช่วงนัน "ผู้ใหญ่เอี๊ยก" กับ "ผู้ใหญ่ย้ง" ปีนเกลียวทับเงาซึ่งกันและกัน ในเรื่องจะลงสมัครรับเลือกตั้งกำนันตำบลบ่อทอง

    จากนั้น "ผู้ใหญ่เอี๊ยก" ถูกกราดยิงด้วยเอ็ม-16 จนกลายเป็นอัมพาต หนึ่งในมือปืนที่ลอบสังหารคือนายวินัย สุขแสวง มือปืนประจำตัวนายปาน สุขภารังสี ลูกชายคนเล็กของ "เสี่ยจิว" ชื่อของ ไส่ยจิว" จึงเข้ามาเกี่ยวพันกับความขัดแย้ง ในฐานะ "คนบงการ" ธุรกิจการขนถ่ายแร่พลวงไปต่างประเทศของ "เสี่ยจิว" รุ่งโรจน์ ทำกำไรอย่างงาม เพราะมีเรื่องส่วนตัว นำไปขายยังประเทศสิงคโปร์ "คนมีสี" ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเสี่ยจิว และผู้ใหญ่ย้งเห็นผลประโยชน์มหาศาลจึงเกิดความไม่พอใจ จึงขอเข้ามามีเอี่ยว แต่เสี่ยจิวปฏิเสธ กลิ่นอายมหากาฬจึงเริ่มคุกรุ่นรุนแรงขึ้น
    "เสี่ยจิว" เริ่มรู้ถึงชะตากรรมของตนเองว่าจะถูกเก็บในไม่ช้า เริ่มสะสมมือปืน และระวังตัวมากขึ้น ! แต่เมื่อ "เสี่ยจิว" ถูกลบไปจากบัญชีเจ้าพ่อ ชื่อของ "นายสมชาย คุณปลื้ม" หรือ "กำนันเป๊าะ" ก็ฉายประกายโดดเด่น จนถูกยกให้เป็นเจ้าพ่อภาคตะวันออกคนใหม่ พร้อมผลักดัน นายสุชาติ สุขพันธ์ถาวร ก้าวชึ้นสู่ตำแหน่ง "กำนันตำบลบ่อทอง" อย่างเต็มตัว เพื่อควบคุมพื้นที่บ่อทอง ทำธุรกิจเหมืองแร่พลวง จนเรื่องราวเงียบสงบลงชั่วคราว
    เหตุการณ์นองเลือดยังไม่หยุด เมื่อนาย "พิพัฒน์ โรจน์วานิชชากร" หรือ "เสี่ยฮวด" คนดังบ้านบึง พยายามก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในดินแดนตะวันออก ถูกคนร้ายถล่มด้วยอาก้าและเอ็ม-16 ร่างพรุนตายบนถนนสายเศรษฐกิจ บ้านบึง-ชลบุรี เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2532
    สืบสาวราวเรื่องปรากกว่า "นายปรีชา สถาวร" หรือ "แดง สิงห์ป่าซุง" เป็นผู้ลงมือสังหารโหด แต่ด้วยพยานหลักฐานอ่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ประกันตัวออกไป ทำให้ "แดง สิงห์ป่าซุง" ต้องกลายเป็นศพ เมื่อ 1 พฤษภาคม 2533 !!!
    เช้าตรุ่วันที่ 25 มิถุนายน 2524 "เสี่ยจิว" เจ้าพ่อตะวันออก ก็เหลือเพียงชื่อและตำนาน ! ” <o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2010
  16. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,341
    ซ่อมเองครับ พอทำได้บ้างนิดหน่อย
     
  17. namo_2009

    namo_2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,432
    ค่าพลัง:
    +10,228
    คาถาเงินล้านครับ อ้างอิงจาก
    http://palungjit.org/threads/คาถาเงินล้าน.248322/

    นาสังสิโม
    พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ

    พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภวันตุ เม
    มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุเม
    มิเตพาหุหะติ
    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ
    วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี
    วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ
    พุทธัสสะ สวาโหม
    สัมปะฏิจฉามิ

    ขอบคุณครับ
     
  18. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    [FONT=&quot]การตามล้างตามเช็ดย้อนรอยขุดรากถอนโคนในยุคนั้น เขาคลำทางกันโดยการเรียกวิญญาณ คนที่ตายลงไปมาหาข้อมูลเป็นแนวทางในการสืบหาคนลงมือและผู้เกี่ยวข้อง และที่บ้านบึงและพนัสนิคมมีคนทรงที่มีชื่อเสียงมากมาย เขาได้ข้อมูลเบื้องต้นจากวิญญาณเหล่านี้ และได้เอามารวมกับการหาเบาะแสจากคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ทำให้สามารถได้ข้อมูลที่ถูกต้องทั้งสิ้น แม้แต่ตำรวจมือปราบชื่อดังในยุคนี้ก็ยังใช้วิธีนี้ในการคลี่คลายคดีฆาตกรรมดังๆได้หลายราย จนเราอาจเคยได้ยินว่าเมื่อฆาตกรได้ฆ่าเหยื่อแล้ว จะทำพิธีสะกดวิญญาณไม่ให้เปิดปากบอกอะไรได้กับการทำพิธีเรียกวิญาณมาถามเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น แม้เทคโนโลยี่และวิวัฒนาการของโลกจะก้าวหน้าไปไกลแล้ว แต่หลายเรื่องยังเกี่ยวพันกับสิ่งลี้ลับ และสามารถประยุกต์ใช้ได้จริง[/FONT]<o></o>
     
  19. นำทาง

    นำทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,181
    ค่าพลัง:
    +7,865
    สวัสดีตอนเช้า...สายๆๆแล้วครับทุกท่าน
     
  20. นำทาง

    นำทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,181
    ค่าพลัง:
    +7,865
    ....................................
    อย่างนี้นี่เอง เข้าใจแล้วครับ จุดคลายแมคของเรื่องนี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...