สงสัยเรื่องตัวเลขบนนาฬิกา แปลกหมายถึงอะไร

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย nathaphak, 26 กรกฎาคม 2010.

  1. nathaphak

    nathaphak สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +11
    สอบถามผู้รู้หรือผู้ที่มีประสบการณ์ทุกท่านครับ
    ผมสังเกตมาหลายครั้งในรอบระยะเวลาเกือบสองปีที่ผ่านมานี้
    เวลามองนาฬิกา หรือโทรศัพท์ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มีตัวเลข โดยไม่ได้ตั้งใจจะเห็นเลขเป็นเลขซ้ำกันเสมอ เช่น 9:11, 3:33, 11:22, 7:11, แบบนี้ครับ แต่เวลาตั้งใจจะไม่มีอะไร เหมือนมีใครต้องการจะบอกอะไรเราหรือป่าว แต่ไม่แน่ใจครับว่าหมายความว่ายังไง มีครั้งนึงไปบ้านเพื่อนฝรั่ง ผมไม่ได้อยู่เมืองไทยครับ ไปบ้านเค้าตาก็หันไปเจอมิตเตอร์ไฟบ้านเค้าพอดีแบบบังเอิญครับ เป็นเลข 9999 หมดเลยยังเรียกให้เพื่อนดู แต่ฝรั่งเฉยๆ ไม่ได้สนใจอะไร แต่ผมคิดว่ามันแปลกๆ สำหรับตัวผม แต่ไม่รู้หมายความว่ายังไง เพื่อนๆ คิดว่าหมายถึงอะไรหร๋อครับ หรือใครพยายามจะบอกอะไร มีใครมีความรู้ หรือคิดว่ายังไงช่วยแนะนำหน่อย
     
  2. pvatt

    pvatt Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +52
    คิดมาก.....................
     
  3. Pelagia

    Pelagia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,198
    ไปหาคำว่า numerology และ 11:11 ไปเจอที่วิกิเขียนไว้ว่าอย่างนี้ง่ะ

    This article is about numerological beliefs regarding the time 11:11. For other uses, see 11:11.

    Numerologists believe that events linked to the time 11:11 appear more often than chance or coincidence.<SUP id=cite_ref-0 class=reference>[1]</SUP> This belief is related to the concept of synchronicity.<SUP id=cite_ref-1 class=reference>[2]</SUP> Other authors believe it is an auspicious sign,<SUP id=cite_ref-2 class=reference>[3]</SUP> and others that it signals a spirit presence.<SUP id=cite_ref-3 class=reference>[4]</SUP><SUP id=cite_ref-4 class=reference>[5]</SUP> The belief that it has mystical powers has been adopted by believers in New Age philosophies.<SUP id=cite_ref-5 class=reference>[6]</SUP> However, skeptics say that Uri Geller's examples of 11:11 phenomenon in world events are examples of post-hoc reasoning<SUP id=cite_ref-6 class=reference>[7]</SUP> and confirmation bias.<SUP id=cite_ref-7 class=reference>[8]</SUP>
    <SUP></SUP>
    11:11 (numerology) - Wikipedia, the free encyclopedia
     
  4. O๐.AnGle.๐O

    O๐.AnGle.๐O เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +861
    เคยมีคน มาถามนะ แบบนี้อ่ะ

    มีคนตอบไว้แล้วด้วย

    นานละ

    กระทู้หล่นไปเยอะละละ
     
  5. Jera

    Jera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,001
    ค่าพลัง:
    +2,040
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1>Chayutt
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ลองไปอ่านกระทู้ของคุณChayutt ผมเหมือนเคยเห็น ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขที่บอกมาครับ
     
  6. rnuir

    rnuir เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    198
    ค่าพลัง:
    +218

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • photo (2).jpg
      photo (2).jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.2 KB
      เปิดดู:
      93
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2010
  7. sZerETleK

    sZerETleK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2007
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +126
    ไม่ได้คิดมากหรอกครับ เราก็เห็นบ่อยเหมือนกัน เป็นมานานแล้ว แต่เพิ่งมาหนักในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ เห็นบ่อยมาก ยิ่งสองสามวันมานี่ เจอแทบทุกครั้งที่มองนาฬิกาเลย แล้วจะเห็นในช่วงที่วินาทีอยู่ที่ประมาณ 40 วิกว่าๆๆ คือพอเห็นก็เห็นได้อีกนานเลยกว่าจะเปลี่ยนอ่ะครับ เคยลองหาในกูเกิ้ลก็มีคนเห็นแบบนี้เยอะเหมือนกัน แต่ัยังไม่รู้ว่าทำไม
     
  8. patonghot

    patonghot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +127
    เรื่องแบบนี้หลายกระทู้ละ
     
  9. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035
    คิดมาก.....

    ถ้าคิดก็แปลก ไม่คิดก็ไม่แปลก


    ทำไมผมต้องลืมตาตอน 05.30ทุกวัน

    ทำไมผมต้องท้องร้องตอน 11.30 ทุกวัน

    และจะต้องรู้สึก ต้องพักตอน 15.00 ทุกที

    มันแปลกมั๊ย
     
  10. Jera

    Jera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,001
    ค่าพลัง:
    +2,040
    มันเป็นวิวัฒนาการของมนุษย์ เปล่าครับ
     
  11. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
    สาเหตุของการเห็นตัวเลขบนนาฬิกา

    1.เพราะใช้บริการมาตรบอกเวลาระบบ Digital
    2.เพราะมองมาตรบอกเวลาระบบ Digial (ถ้าไม่มองก็ไม่เห็น)
    3.เพราะมีลูกนัยน์ตาที่มองเห็นได้
    4.เพราะมีตังค์ซื้อนาฬิกา



    คงไม่ได้เห็นเฉพาะเลขซ้ำทุกครั้งที่ดูนาฬิกาหรือว่าเห็นตัวเลขมั๊ง...
    แบบที่ไม่ซ้ำก็เห็นเหมือนกัน มากกว่าแบบที่ซ้ำด้วย
    แต่แบบที่ซ้ำๆมันจำง่าย แบบที่ไม่ซ้ำมันก็เลยดูผ่านๆไป ไม่ใส่ใจจำ
    แต่ครั้งไหนที่เห็นเลขซ้ำ ใจมันก็จะสะดุด แล้วเกิดอุปาทานไปตามเรื่องราวและหรือเงื่อนไชต่างๆ

    ไม่มีอะไรพิเศษหรอก... มันเป็นปกติวิสัยทั่วๆไป

    สิ่งพิเศษต่างๆคงไม่เลือกเฉพาะคนที่...
    1.ใช้บริการมาตรบอกเวลาระบบ Digital
    2.มองมาตรบอกเวลาระบบ Digial
    3.มีลูกนัยน์ตาที่มองเห็นได้
    4.มีตังค์ซื้อนาฬิกา


    นาฬิกาทราย นาฬิกาควอทซ์ นาฬิกาน้ำ นาฬิกาแดด... เปลี่ยนรสชาติดูบ้างก็ได้นะ


    นาฬิการะบบ Digital ... ถ้าไม่ใส่ถ่าน ไม่มีกระแสไฟฟ้าในระบบ มันก็เดี้ยง
    เพราะมันเป็นอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิคส์

    ท่านที่กำลังวนเวียนกับเรื่องเลขซ้ำของระบบ Digit-All มากเกินไป ระวังจะกลายเป็นมนุษย์อิเล็คทรอนิคส์แบบสมบูรณ์แบนะจ๊ะเธอว์ทั้งหลาย... เป็นทาสอิเล็คทรอนิคส์
    ระบบอิเล็คทรอนิคส์มีผลกับกิจกรรมในการตำรงค์ชีวิตต่างๆ
    แม้กระทั่งเริ่มเข้ามามีผลกับพื้นที่ความคิดของสมองในแต่ละวัน

    น่าจะลองคำนวณกันดูบ้างนะว่า... เสียเวลาทางความคิดไปให้ระบบอิเล็กทรอนิคส์ที่มีการแสดงผลเป็นตัวเลขซ้ำๆกัน ไปกี่มากน้อยแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 กรกฎาคม 2010
  12. rnuir

    rnuir เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    198
    ค่าพลัง:
    +218
    มันมีผู้รู้คอยบอกทางครับ
     
  13. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    มันเกิดขึ้นกับคนเพียงบางคนครับ

    โดยประมาณคือ 1: 30 คน

    คือทุกๆ 30 คนจะมีอยู่ 1 คน ที่จะเจอเหตุการณ์แบบนี้

    แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจำนวนคนทั้งหมดที่จะเจอ
    ได้ "พร้อม" ที่จะเจอแล้วหรอกนะครับ
    เพราะว่าพวกคุณต้อง "ตื่น" หรือเข้าสู่กระบวนการ "ตื่น" ซะก่อน

    ตัวอย่างตามที่หลายท่านกล่าวถึงกระทู้ที่เคยผ่านๆตามานั้น
    ก็จะเห็นว่าบางคน เพิ่งไปปฏิบัติธรรมมา ก็ถึงได้เริ่มเป็น
    ส่วนคนอื่นๆ ก็ต้องมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการ "ตื่น" นั่นแหละถึงจะเริ่มเป็นครับ

    นี่ก็เป็นข้อมูลอีกแง่มุมหนึ่ง ที่ทิ้งเอาไว้ให้ท่านคิดกันหนะนะครับ
    คิดเอาเอง ใช้วิจารณญาณเอาเอง ว่ามันเป็นแค่เรื่องธรรมดาๆ ที่ใครๆก็เจอ
    หรือว่ามันเป็นอะไรที่พอจะมีความหมาย ทำให้เอะใจได้อยู่บ้าง

    ตัวคุณเองนั่นแหละ คือผู้ที่จะรู้สึกได้ด้วยตนเอง และตอบคำถามนี้ได้ด้วยตนเอง
    เพราะฉะนั้นคุณควรจะเชื่อตัวคุณเอง หรือว่าจะเชื่อที่คนอื่นบอก ว่ามันไม่มีอะไรหรอก
    ทั้งๆที่คุณเองกำลังรู้สึกถึงมันด้วยตัวเองอยู่ทนโท่แบบนี้หละครับ

    บางคนพวกเขาก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาบ้างเลย และก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย
    เพราะฉะนั้น ก็เป็นธรรมดา ที่พวกเขาก็มิอาจจะตอบอะไรคุณได้ ลองคิดเอาเองนะครับ

    และก็..มันมีข้อมูลทำนองนี้อยู่ทั่วโลกหนะแหละครับ
    อยู่ที่ว่าท่านจะใฝ่ที่จะรู้หรือเปล่า ขยันอ่าน ขยันค้นหาหรือเปล่า

    ถ้ามีภาษาอื่นๆ ภาษาไหนที่ท่านอ่านออกอีก นอกจากภาษาไทยแล้ว
    ก็ลองค้นดูภาษานั้นนะครับ แล้วโลกของท่านก็จะกว้างขึ้นไปอีก

    .................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2010
  14. somsannannom

    somsannannom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +1,626
    [​IMG]

    เกิดขึ้นกับทุกคน บางช่วงเวลา แค่คำนวนเอาตามค่าเฉลี่ยก็ต้องมีกันทุกคนแต่จะสังเกตุ หรือไม่สนใจ ก็แค่ 1 วินาทีเล็กๆก็เก็บไป เพ้อ จนเผือ ทำให้นำไปสู้การเพี้ยนถาวร
    ชอบกันจังไอ้แบบที่ชักจูงคนให้เขว สมัยก่อนที่ไม่มีตัวเลข ไม่มีนาฬิกา คนประเภทนี้มันเพ้อถึงอะไรกันว้า...หลอดอยากรู้จริง
    โอว์ ดูนั่นสิ เจอกองขี้หมาเป็นรู้ดอกไม้อีกแล้ว หมายความว่าอย่างไรหนอ ท่าน (จอมไม่เห็นด้วยอันดับ1 ถ้ามีการบันทึก)
     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    "ไปบ้านเค้าตาก็หันไปเจอมิตเตอร์ไฟบ้านเค้าพอดีแบบบังเอิญครับ เป็นเลข 9999 หมดเลยยังเรียกให้เพื่อนดู แต่ฝรั่งเฉยๆ ไม่ได้สนใจอะไร แต่ผมคิดว่ามันแปลกๆ สำหรับตัวผม แต่ไม่รู้หมายความว่ายังไง เพื่อนๆ คิดว่าหมายถึงอะไรหร๋อครับ หรือใครพยายามจะบอกอะไร มีใครมีความรู้ หรือคิดว่ายังไงช่วยแนะนำหน่อย<!-- google_ad_section_end --> "

    ขอแสดงความเห็นตามที่ได้ศึกษามาบ้างนะ
    ในทางพระ ท่านให้รู้เท่าทันตัวเอง รู้ก็สักว่ารู้ เห็นก็สักว่าเห็น ถ้าไปหลงตามสิ่งที่รู้ที่รู้ที่เห็น
    เกินกว่าความเป็นธรรมดา ก็ เข้าข่าย หลง ไปแล้ว อะ คิดว่าตัวเราเป็นคนพิเศษไป คิดว่า
    เราจะไม่ธรรมดา มีเกินกว่าคนอื่นๆ มีอัตตาเพิ่มขึ้นมา มีความหลงเพิ่มขึ้นมา ก็จะทำให้เริ่ม
    เห็นผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงๆ ไอ้อัตตาที่เพิ่มขึ้นมามันจะพาให้เห็นผิด หลงมากยิ่งขึ้น
    ทุกที ตามปริมาณอัตตาที่เพิ่มขึ้น ถ้าขาดสติโดยสมบูรณ์ก็จะเริ่มเข้าสู่โหมด วิปลาสคลาด
    เคลื่อนโดยถาวร เริ่มจะเห็นว่าตัวเองไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาแล้ว บางทีก็เข้าสู่โหมดความฝัน
    เต็มตัว ละทิ้งโลกของความเป็นจริงไป แล้วปลายทางจะไปไหนต่อ อันนี้เราก็ไม่รู้นะ
    ส่วนเพื่อนคุณที่เป็นฝรั่งเขาเฉยๆ ไม่ได้สนใจอะไร อัตตาพิเศษเขาก็ไม่เกิด เขาก็มองโลก
    ได้ชัดตามความเป็นจริง สติเขาก็ยังเป็นปกติในแบบมนุษย์ปุถุชนพึงมี ถ้ามีเหตุการณ์อะไร
    เกิดกับเขา เขาก็ยังมีสติปัญญาเห็นตามจริงและตัดสินใจแก้ปัญหาได้ตามสติปัญญาของ
    เขาได้ระดับหนึ่ง และเดินทางไปในโลกความจริงได้อยู่ เราให้คะแนนฝรั่งเพื่อนคุณนะ ว่า
    ไม่หลงกับสิ่งที่มาล่อหลอกง่ายๆ ถ้ามีคนให้ความรู้ทางธรรมคนพวกนี้จะเข้าใจตามจริงได้
    ง่ายกว่าคนที่มีอัตตาหลงผิดเพี้ยนไปแล้ว
    คนเราฝักใฝ่ความหลง ก็ได้ความหลงเป็นสมบัติติดตัว
    ถ้าคนไหนฝักใฝ่อยู่ในความจริง ก็ได้ความจริงเป็นสมบัติติดตัว
    แต่เท่าที่เห็นจะมีแต่คนอยากได้เรื่องพิเศษผิดธรรมดามากกว่านะ
    ก็จะหลงไปเข้าโหมดฝันกันหนักขึ้น กว่าจะรู้ความจริงได้ก็โดนอัตตากำมะลอกินสติจนหมด
    ตัวแล้วล่ะ เราก็เห็นต่างกับคนอื่นอะนะ ก็ถือว่าเราแสดงความเห็นในมุมตรงข้ามกับผู้รัก
    ความพิเศษที่ไม่ธรรมดาก็แล้วกันนะ ไม่ใช่ว่าเราต่อต้านความไม่ธรรมดานะ เพียงแต่เรา
    เห็นว่ามันเป็นทางที่ทำให้หลงขาดสติหนักขึ้นเท่านั้น เอาเวลาไปสนใจดูความเป็นจริง
    ยังมีประโยชน์กว่าเช่น ดูตัวเองว่ามันเริ่มจะไม่ธรรมดาเพราะมีใครมาล่อลวงเราให้หลง
    ความไม่ธรรมดาอีกแระ แค่ตัวเลขซ้ำๆซากๆ ก็ดึงความสนใจให้เราหลงไปจากความจริง
    ได้แล้วมันก็ไม่ธรรมดาใช่ปะ คนที่เห็นเรื่องไม่ธรรมดาเป็นเรื่องธรรมดาได้ เราว่าพวกนี้
    เจ๋งกว่าอีกนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2010
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เรื่องจิตใจคน มันก็มีเรื่องแปลกพิศดารอยู่นะ บางเรื่องมันก็เกินคาดคิด
    เช่นบางคนก็สั่งตัวเองได้ บอกให้ตื่นกี่โมงก็ได้ บอกให้ตัวเองหลับก็ได้
    บางคนตั้งใจบอกตัวเองครั้งเดียวก็ได้แล้ว บางคนต้องท่องซ้ำๆซากๆเพื่อย้ำคิดย้ำทำ
    ให้ตัวเองทำได้อย่างที่ต้องการ ทีนี้บางคนพอไปอ่านเรื่องโน้นเรื่องนี้ เรื่องตัวเลขแปลกๆ
    มันก็อาจติดติดค้างอยู่ในใจก็ได้ แล้วก็เกิดเป็นคำสั่งให้กายมันทำแล้วเราก็ไปเห็นเป็นเรื่อง
    ซ้ำๆซากๆได้ แล้วก็มาคิดซ้ำไปอีกว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ มันพันอยู่อย่างนั้นแหละ
    จิต-ใจ-กาย มีแต่เราจะมีสติปัญญา รู้ทัน จิต-ใจ-กาย ของเราได้ตามจริง หรือว่าโดนหลอก
    ซ้ำซากอยู่ในมายาของจิตใจของตัวเอง แล้วก็เกิดเป็น หลงกาย หลงใจ ซ้ำเข้าไปอีก
    ไปสร้างเป็นอัตตามาครอบงำตัวเองจนไม่ธรรมดาเข้าไปอีก ก็กลายเป็นเสือหลงป่าหา
    ทางออกไม่ได้ก็มี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2010
  17. เฌ

    เฌ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2009
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +415
    ผมเห็นทะเบียนรถผม เป็นเลข 318 ทุกครั้งเลย ... คือมองทีไรก็เห็นเป็นเลขนี้ทุกที

    แปลกจัง
     
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    คนส่วนใหญ่ ยินดีในความหลง ในความไม่ธรรมดา เป็นปกติกันอยู่แล้ว
    มีส่วนน้อยที่ยันความหลงไว้ได้ ก็เลือกเอาละกัน ชอบความธรรมดา หรือชอบความไม่ธรรมดา

    ความไม่ธรรมดามันก็มักจะมาพร้อมกับกิเลสตัวบิ๊กเบิ้ม
    คนที่ไม่ธรรมดา ก็ต้องเจริญสติให้มากให้เท่าทันไอ้ตัวกิเลสที่บิ๊กบึ้ม
    มันถึงจะไม่โดนกิเลสนั้นครอบงำเอาได้
    แต่คนส่วนใหญ่ โดนกิเลสครอบงำแล้วก็ไม่รู้ตัว ก็เลือกเอากิเลสเป็นสรณะของตนแทนสติ
    ก็มีถมเถไป เหมือนวัวทั้งตัวมีขนมากมายแต่มีเขาเพียง1คู่
     
  19. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    "บางคนเพิ่งไปปฎิบัติธรรมมา ถึงได้เริ่มเป็น ส่วนคนอื่นๆก็ต้องมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการ"ตื่น"นั้นแหละถึงจะเริ่มเป็น ตัวคุณเองนั้นแหละ คือผู้ที่จะรู้สึกได้ด้วยตนเอง และตอบคำถามนี้ได้ด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นคุณควรจะเชื่อตัวคุณเองหรือว่าจะเชื่อที่คนอื่นบอกว่ามันไม่มีอะไรหรอก ทั้งๆที่คุณเองกำลังรู้สึกถึงมันด้วยตัวเองอยู่ทนโท่อย่างนั้นหรือ?
    "บางคนไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนและไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย ฉะนั้น"ก็เป็นธรรมดา" ที่พวกเขามิอาจจะตอบอะไรคุณได้ ลองคิดดุเถอะ
    "ข้อมูลเหล่านี้มีอยู่ทั่วโลก ถ้ามีภาษาอื่นๆภาษาไหนที่ท่านอ่านออกอีก นอกจากภาษาไทยแล้ว ก็ลองค้นดูภาษานั้นเถอะ แล้วโลกของท่านก็จะกว้างขึ้นไปอีก"

    คำพูดของคุณ"ชยุต" ข้างบนนี้มันเกิดขึ้นกับตัวเองทุกอย่าง พูดไปก็ไม่มีใครเข้าใจ จนบางคนหาว่าเราเสพข้อมูลของคุณจนเกิดอาการ"เพี้ยน" มันไร้ประโยชน์ที่จะอธิบายให้กับใครๆเข้าใจได้ ทุกคนต้องยอมรับถึงคำว่า"ฐานจิตที่แตกต่าง" มันต้องเป็นเช่นนั้นจริงๆ
     
  20. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
    Body clock หรือ Biological Clock ก็คือนาฬิกาชีวิต ค่ะ
    ในร่างกายเราจะมีต่อมเล็กๆในสมองของมนุษย์คือ จุดควบคุมจังหวะคอยสั่งการให้ร่างกายเคลื่อนไหวเป็นไปในลักษณะต่างๆ ทั้งกลางวันและ กลางคืน มีฮอร์โมนหลั่งออกมาจากต่อม เป็นศูนย์รวมบัญชาการ
    สิ่งเหล่านี้ คือเครื่องชี้นำที่เรามีความสุขหรือเป็นทุกข์กังวลได้ เป็นความจริงที่ควรรับทราบเพราะหากรู้ธรรมชาติตรงนี้ดีแล้ว จะได้แบ่งดูแลควบคุมพฤติกรรมในแต่ละวันของตนได้ เหมือนกับ
    มีนาฬิกาภายในร่างกายคอยชี้บอกให้ทราบว่าช่วงนี้ จังหวะร่างกายจะมีสภาพอย่างไร

    ศาสตร์ในเรื่องพฤติกรรมตรงนี้ นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า โครโนไบโอโลยี ถ้าหากเรารู้จังหวะ รู้จักระมัดระวังชีวิต ก็จะอยู่ในวิสัยที่ควบคุมได้ไม่ยากค่ะ

    แพทย์และนักวิจัยจาก Stanford และ Wisconsin University ได้ร่วมกันทำวิจัยเพื่อหาสาเหตุว่า ทำไมคนแต่ละคนถึงมีเวลาในการทำกิจกรรมต่างๆ ที่แตกต่างกัน ซึ่งหลังจากทำการสำรวจจากผู้เข้าร่วม กว่า 400 คน โดยนำข้อมูลและยีนของแต่ละคนมาทำการวิจัยแล้ว พบว่ามียีนที่ชื่อ Clock Gene หรือนาฬิกาพันธุกรรม ซึ่งเป็นตัวกำหนดความแตกต่างของการเดินของนาฬิกาชีวิตของแต่ละบุคคล

    ถึงแม้จะมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่การเดินของนาฬิกาต่ออวัยวะและส่วนต่างๆ ของร่างกายของเราใน แต่ละช่วงเวลานั้นไม่เหมือนกัน เช่น คนทั่วไปอาจจะมีไอเดียบรรเจิดในช่วงเช้า แต่บางคน จะเกิดไอเดียในช่วงเวลาใกล้ค่ำ ซึ่งการที่เรารู้จังหวะการเดินของนาฬิกาชีวิตของตัวเองนั้น จะทำให้รู้ว่าศักยภาพของเรานั้น สามารถนำออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในช่วงเวลาใด แล้วยังได้รู้อีกว่าควรที่จะพักผ่อน และดูแลสุขภาพของตัวเอง อย่างไรด้วยค่ะ

    ช่างซ่อมนาฬิกาชีวิต อาจหาคำตอบได้จากแพทย์ไคโรแพรคติคก็เป็นได้ค่ะ
    ที่มา:

    http://www.jobpub.com/articles/showarticle.asp?id=3
     

แชร์หน้านี้

Loading...