เรื่องเล่าสลัมดอค. มิลเลี่ยนแนร์ slum doc. milionaire

ในห้อง 'ลงประกาศ ซื้อ-ขาย หรือทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย ดด, 30 กรกฎาคม 2010.

  1. ดด

    ดด สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +4
    จุดประสงค์เรื่องเล่าสลัมดอค. มิลเลี่ยนแนร์ slum doc. milionaire นี้เพื่อให้ผู้อ่านสนุกเป็นสุขใจ ได้ประสบการณ์ตรงโดยไม่ต้องลงท้องที่จริงด้วยตนเอง หากลงท้องที่จะได้เตรียมกายเตรียมใจอย่างถูกต้อง

    สลัมดอค. มิลเลี่ยนแนร์ ถึงแม้นจะเป็นการนำคำพ้องมาตั้งชื่อเรื่องเพื่อให้เกิดความน่าสนใจ แต่เนื้อเรื่องยังสัมพันธ์อยู่กับการให้ทานกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง เป็นประสบการณ์จริงของผมเอง

    ต่อเนื่องหลายตอนบ้าง จบในตอนบ้าง แล้วแต่โอกาสจะพาไป อ่านแบบไม่เอาสาระน่าจะดี

    doc. ดอค. ในที่นี้หมายถึงผมก็ด้วย ผมไม่ใช่หมอ แต่ในตัวละครที่เป็นเภสัชปริญญาก็ใช่ ดอค. แพทย์ปริญญาหลายท่านก็เป็นดอค. ในเรื่องนี้ด้วย ดอค. จึงหมายถึงหมอผู้เยียวยาจิตใจของผู้รับทาน อีกทั้งผู้ให้ทานก็ได้รับการเยียวยาไม่แพ้กัน

    ผมไม่หวังอะไร อ่านเล่นสนุก จะได้นอนหลับฝันดีครับ
     
  2. ดด

    ดด สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +4
    เรื่องแรกชื่อ " ปู่สาด "

    เพื่อเป็นการให้เกียรติแด่ปู่สาดผู้ล่วงลับ และดอค. เภสัชกรใจบุญแห่งสลัมดงทุ่งเสือใหญ่
     
  3. ดด

    ดด สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +4
    ป่าไม้เบญจพันธ์ทอดแนวยาวตามป่าเขาลำเนาไพรไกลสุดสายตา รอยบุ๋มของแผ่นดินเป็นแนวยาวที่เชิงเขาลูกหนึ่งมาบรรจบกับเชิงเขาอีกลูกหนึ่ง บนรอยบุ๋มเป็นแนวยาวนี้ พอฤดูฝนน้ำในลำธารสูงขึ้นตามความแรงของฝนที่ตก พอหน้าแล้งลำธารก็เหือดแห้ง ไม้เต็งยืนต้นตลอดสองข้างลำธารทุกสาย มองสูงจากแนวลำธารตามความสูงของเขาขึ้นไป ไม้รังยึดพื้นที่ตอนกลางของเขาสูงตลอดแนวเช่นกัน

    ณ ที่ดินเวิ้งว้างว่างเปล่าแห่งหนึ่งทางทิศเหนือของกรุงเทพมหานครก็เช่นกัน คลองน้ำเน่าเส้นหนึ่งที่ขุดลอกมาตั้งแต่สมัยสร้างบางกอกใหม่ ๆ บัดนี้สองข้างฝั่งคลองเต็มไปด้วยดงสลัมเหนือตลิ่งริมน้ำเน่าเหม็นนั้น ชายคาบ้านสังกะสีบ้าง กระเบื้องบ้าง เหลื่อมเยื้องทะแยงเกยกันบ้าง ซ้อนกันบ้าง จนแทบจะไม่เห็นแสงพระอาทิตย์และแสงพระจันทร์ตรงทางเดินเข้ากระท่อมแต่ละหลัง แต่ใครล่ะจะอยากได้แสงเดือนแสงตะวันในเมื่อเขาเหล่านั้นต้องทำงานกลางแจ้งจนผิวเนื้อดำเป็นมันถาวร สิ่งที่ไม่อยากได้กลับได้ ภายในกระท่อมเมื่อเข้าไป จะเห็นหลังคาสังกะสีบ้าง กระเบื้องบ้าง ทะลุเป็นรูเล็ก รูน้อย ใหญ่บ้างเล็กบ้าง ผ่านการใช้งานมาอย่างหนัก เพราะตอนสร้างกระต๋อบเหล่านี้ ผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นไม่มีเงินพอจะซื้อสังกะสีใหม่ สังกะสีเก่าใช้แล้วราคาถูกมากกว่าครึ่งมีขายอยู่ตามร้านขายของเก่าในสลัมดงใกล้ ๆ กันนั้นนั่นเอง กลุ่มที่อาศัยอยู่ริมสองข้างลำคลองนี้ผมเปรียบเหมือนไม้เต็งที่ยึดพื้นที่ริมน้ำ ซึ่งผู้ที่อาศัยอยู่สองข้างคลองก็ถือตนว่า เป็นกลุ่มที่ไม่เหมือนกลุ่มอื่น เนื่องจากมีการย้ายกระต๋อบน้อยมาก ในที่สุดก็ได้ทะเบียนบ้านจากกรุงเทพมหานคร ได้รับสิทธิในการรักษาบัตรทอง เป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่งเช่นเดียวกับเรา ๆ ท่าน ๆ ทุกคน

    ถอยร่นขึ้นฝั่งมาทั้งสองข้างเพียงไม่กี่เมตร บางแห่งเพียงทางเดินเมตรเดียว อีกฟากก็มีกระท่อมเรียงรายรุกล้ำที่ดินส่วนบุคคลที่ยังขายไม่ออก เจ้าของที่ดินแต่ละผืนที่มีขนาดไม่เท่ากัน บางรายก็ใจดี มีเมตตา ปล่อยให้การรุกล้ำเป็นไปตามยถากรรม บางรายก็ล้อมรั้วลวดหนาม ห้ามรุกล้ำเด็ดขาด เพราะกลัวเรื่องการครอบครองปรปักษ์ บางรายหารายได้จากการให้เช่าหน้าดิน ถึงแม้จะเดือนละไม่มาก แต่ก็เป็นรายได้และป้องกันการครอบครองปรปักษ์ที่ได้ผลอย่างหนึ่ง เหล่าไม้รัง หรือกลุ่มคนหนึ่งที่มีอาชีพต่าง ๆ เช่นร้อยพวงมาลัยบ้าง ขายขวดเก่าบ้าง ต้องอาศัยพื้นที่มากกว่ากระท่อมขนาดเล็กที่อยู่ริมคลอง คนเหล่านี้ต้องการพื้นที่ครอบครัวละ 10 ตารางวาบ้าง 15 ตารางวาบ้าง แต่ที่ดินแต่ละผืนมีขนาดตั้งแต่ 80 ตารางวาขึ้นไป คนกลุ่มนี้จึงต้องรวมตัวกันหลาย ๆ ราย รวมกันมาเช่าที่ดิน ย้ายกระต๋อบมาจากแหล่งเดิม เพราะเหตุนี้ หลังคาและไม้ฝา รวมทั้งเสาบ้านจึงเห็นว่ากรำศึกหนักมาหลายครั้งจนเก่าคร่ำคร่า พอกิจการไปไม่ได้ในเขตนั้น ก็ย้ายไปหาที่เช่าที่ใหม่ต่อไป ย้ายกระต๋อบไป ไม้รังกลุ่มนี้ก็จะถือว่า ตนเองเป็นกลุ่มที่มีอาชีพที่ทำรายได้ดีกว่าคนริมคลองที่มักเป็นคนทำงานกินเงินเดือนทั่ว ๆ ไป
     
  4. ดด

    ดด สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +4
    ขึ้นท่าเรือมาบนฝั่ง เดินมาถึงสี่แยกมีตลาดสดแบบดั้งเดิม พ่อค้าแม่ขายในตลาดไม่ติดเครื่องปรับอากาศ เขียงขายหมู ขายปลาช่อน ใครเดินผ่านไปมาถ้าหยุดยืนอยู่สักพักก็จะได้ยินเสียงไม้ทุบหัวปลาช่อนดังโป๊ก เป็นตลาดที่เคยพลุกพล่านในอดีต แต่ปัจจุบันคนเข้าห้างใหญ่ ๆ กันเกือบหมด เดินจากสี่แยกตลาดไปตามถนนสี่เลน ไปถึงอีกสี่แยกหนึ่ง เป็นแยกที่มีถนนซอยสองเลนตัดใหม่ ตัดพาดผ่านใจกลางดงสลัม ทำให้แยกออกเป็นสองฝั่งที่ดิน เดินข้ามแยกเข้ามาตามถนนได้เพียงไม่นาน สพานข้ามลำคลองเป็นทางที่ผู้เล่าเลือกข้ามไป ลงจากสพานมีซอยแคบ ๆ ขนาดสองคนเดินสวนกันแทบไม่ได้ให้เลี้ยวเข้า ซึ่งก็คือคนกลุ่มไม้เต็งนั่นเอง ผู้เล่าพาเดินไปอีกไม่นานผ่านโรงเลี้ยงเด็กในชุมชน ทั้งสองข้างทางมีซอยเข้าไปอีก ซอยต่าง ๆ เหล่านี้มีดงสลัมอีกสามชนิด ชนิดหนึ่งเป็นกลุ่มคนที่ยึดที่ว่างที่เจ้าของที่ดินไม่เคยมาดูที่ดิน ต่างคนต่างยึดพื้นที่ ใครมาก่อนยึดก่อน ไม่มีกฏมีเกณฑ์อะไร บางหลังเล็กขนาดกว้างสองสามเมตรยาวสามสี่เมตรก็ถือว่าเป็นกระท่อมหลังหนึ่งแล้วก็มี คนกลุ่มนี้ส่วนมากมีอาชีพรับจ้าง ไม่ว่าจะรับจ้างอะไร เป็นแม่ครัวตามบ้านบ้าง ตามร้านค้าบ้าง หรือแม้แต่ในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของกรุงเทพมหานคร หรือบางคนมีฝีมือทำอาหารออกขาย มีรถเข็นเล็ก ๆ คันหนึ่ง ทำอาหารใส่รถเข็นไปขายครึ่งค่อนวันก็กลับ และอาชีพยอดนิยมคือเก็บขวดขาย กลุ่มดงต่าง ๆ เหล่านี้แยกกระจัดกระจายมีไปทั่ว

    นาน ๆ จะเห็นบ้านเดี่ยวขนาดเล็กประมาณ 25 ตารางวาบ้าง 35 ตารางวาบ้าง ก่ออิฐถือปูนบ้าง ใช้ไม้ที่ดีกว่าไม้ช้ำรั่วทั่วไปบ้าง กลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่มาซื้อที่ดินไว้เมื่อหลายสิบปีก่อน บางคนเมื่อเห็นว่าเป็นดงสลัมก็ไม่มาปลูกบ้านเลย แต่บางคนก็เลือกที่จะอยู่กับชาวสลัมซึ่งมากด้วยน้ำใจ เจ้าของบ้านเดี่ยวหลายแห่งเป็นคนมีเมตตา รับฟังความเดือดร้อนของชาวสลัมและให้ความช่วยเหลือตามมีตามเกิดก็มี แต่ตามคำโบราณว่า " เตี้ยอุ้มคร่อม " การช่วยเหลือเมื่อถึงจุด ๆ หนึ่งก็คงต้องสิ้นสุดลงเมื่อมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดแก่ผู้ให้ บางครั้งก็เกิดขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ บางครั้งเขาจากไปไม่ร่ำลา ผู้ให้บางท่านก็ถือโกรธ และเลือกที่จะพาลไม่ช่วยเหลือต่อใครเลยแม้แต่คนเดียวต่อไป

    ริมซอยที่ถนนสองเลนเข้าได้ นาน ๆ จะพบอาคารหลังคาสูง 5 เมตรบนที่ดินประมาณ 100 ตารางวา กลุ่มนี้จะเป็นเจ้าของกิจการรับซื้อของเก่าทุกชนิด หรือเป็นแหล่งแยกธาตุ รับซื้อแอร์เก่ามาแยกคอมเพรสเซ่อร์ ตัดคอมเพรสเซ่อร์ออกเอาลวดทองแดงของมอเตอร์ในคอมฯ กลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มคนพอมีเงินทีเดียว เพราะกำไรจากการแยกธาตุ หรือรับซื้อของเก่าแล้วแยกประเภท ทองแดงไปทาง เหล็กไปทาง อลูมีเนียมไปทางพวกนี้กำไรดีมาก
     
  5. lowprofile

    lowprofile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +6,023
    ดีครับ ได้ประโยชน์หลายอย่างนะครับ
    ขอบคุณท่าน จขกท ด้วยครับ
    1 ได้ทราบเรื่องการทำความดีของผู้อื่น โดยเฉพาะการทำความดีที่ต้องใช้กำลังใจ
    ความเพียรอย่างสูงในการตั้งใจ เป้นตัวอย่างที่ดีแก่คนอื่นต่อไป
    2 ผู้อ่านได้มีโอกาส อนุโมทนาในกุศลของผู้ทำกุศล ความดีด้วย
    3 เป้นการลอกเล่าบันทึกประวัติไว้ สู่ชนร่นหลัง

    อย่าลืมมาต่อนะครับ ๆๆๆ
     
  6. ดด

    ดด สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +4
    ถนนหนทางเป็นซอยเล็กซอยน้อยตัดกันไม่เป็นระเบียบ ปูนบ้าง ดินเลน หรือหินก้อนใหญ่ สลับปะปนกันไปในเขตที่พ้นสายตาห่างถนนสองเลนเข้าไปได้ไม่กี่สิบเมตร ผู้เล่าขับรถเข้าไปลึกพอสมควร จอดรถถามผู้คนแถวนั้นว่า แถวนี้มีแม่ลูกอ่อนที่ต้องการนมผงบ้างหรือเปล่า ? คำตอบจากชาวบ้านแถวนั้นรีบตอบอย่างเร็ว " เดินเข้าไปหลังตรอกนี้เป็นโรงเรือนยาวทั้งสองฟาก ไปเคาะตามประตูถามได้เลย มีเยอะค่า " ผมต้องม้วนชายกางเกงขึ้นมาสองสามทบ เพราะดินแถบนั้นมีหลุมน้ำและเลนเลอะเทอะ พอเดินเข้าเขตตรอกโรงเรือนยาว เห็นหนุ่มกางเกงขาสั้น เสื้อแขนสั้น เปิดกระดุม นอนหงายอยู่บนแคร่เล็ก ๆ ในตาเบิกโพรงร่องลอยไปในอากาศ ผมก็รู้ได้ทันทีด้วยสัญชาติญาณว่า ไม่ควรเข้าใกล้ เพราะเขาสูดดมกาวหรืออะไรสักอย่างที่ทำให้เขามีความสุข ลืมความทุกข์จากการเกิดมามีครอบครัวที่ไม่อบอุ่น ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกตามที่คนทั่ว ๆ ไปควรมีควรได้ แม้แต่เพื่อน ๆ วัยเดียวกันกับหนุ่มพวกนี้ในโรงเรียน ก็ไม่ค่อยมีใครยากจน หาเช้ากินค่ำเหมือนครอบครัวเรา นี่คือสิ่งที่เด็กหนุ่มบางคนคิดน้อยใจในโชคชะตาของตนเอง ผมเดินไปทำเสียงกระแอมกระไอดังไปเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆ และหยุดตรงแยกที่มีทางเดินเล็ก ๆ แยกเข้าไปอีก ทั้งสองข้างทางเป็นเรือนสังกะสียาวเข้าไป ทั้งสองฟากมีประตูสังกะสีบ้าง ประตูไม้บ้าง เปิดแง้มไว้บ้าง ปิดบ้าง ผมเริ่มกระแอมให้ดังขึ้นอีกเป็นหลายเท่าตัว ผู้หญิงวัยยี่สิบเศษอุ้มลูกแนบเอวเดินออกจากกระท่อมเรือนแถว ผมเห็นว่าท่าทางในตาไม่มีวี่แววของอาการพี้ยาแต่อย่างไร จึงถามขึ้นว่า แถวนี้มีใครต้องการนมผงเลี้ยงทารกไม่เกินสองขวบบ้าง หญิงคนนั้นรีบพูดขึ้นทันที " ก็หนูไงคะ มาแจกนมผงหรือคะ บริษัทอะไร ? " ผมบอกว่า ไม่ใช่บริษัทมาแจกนม มีคนต้องการแจกนมผงให้คนแถวนี้ ผมมาสำรวจดูก่อน หญิงนั้นรีบบอกว่า " รอเดี๋ยวเดียวค่ะ เดี๋ยวไปเรียกออกมาให้ค่ะ " จากนั้นเธอก็หันหลังอุ้มลูกเดินเข้าไปในตรอกเล็ก ๆ ที่ผมเองก็ไม่กล้าเข้า เพราะไม่แน่ใจในความปลอดภัย หากกำลังมีคนในเรือนแถวยาวกำลังทำผิดกฏหมายอะไรซึ่งเราไม่มีทางทราบ เขาจะมีปฏิกิริยาออกมาในทางไหน หญิงคนนั้นตะโกนด้วยเสียงอันดัง " แม่อีดำเอ้ย ออกมาพบเพิ่นหน่อย เพิ่นสิมาแจกนม อีแป้น อีปราณี เจ้สุ อุ้มลูกพวกแกออกมาข้างนอกหน่อย มีคนมาแจกนม ฯลฯ ...... " ทันทีที่หญิงคนนั้นตะโกนก็มีเสียงตอบรับดังลั่นออกมาจากผู้หญิงอีกหลายคน " เออ ๆ ออกไปเดี๋ยวนี้แหละ " เดี๋ยวเดียวผู้หญิงหกเจ็ดคนกะเตงลูกน้อยมายืนอยู่ต่อหน้าผม พรั่งพรูออกมาด้วยคำถามมากมาย " บริษัทอีหยังเกาะมาแจกนม ? " " ลูกหนูอายุขวบครึ่งสิยังรับได้บ้อ ? " " นมยี่ห้ออะไร ? " " นมผงหมดอายุแล้วหรือเปล่า ? " ผมปล่อยให้พวกเธอถามจนครบคนก่อน เมื่อเห็นว่าสมควรจะพูดได้ผมก็บอกว่า มีคนต้องการแจกนมผงให้เด็กไม่เกินสองขวบ ยี่ห้ออะไรก็ได้แล้วแต่คนเป็นแม่ต้องการ หรือที่ใช้เลี้ยงอยู่ ไม่ต้องเปลี่ยนยี่ห้อ วันนี้มาสำรวจพร้อมกับจดก่อนว่า คนไหนต้องการยี่ห้ออะไร แล้วจะไปจัดหาซื้อที่ห้างใหญ่ ซื้อของใหม่ ๆ มาให้ ไม่เอาของหมดอายุมาให้หรอกครับ จากนั้นผมก็หยิบปากกาและสมุดที่เตรียมไว้ขึ้นมาจด หญิงแม่ลูกอ่อนแต่ละคนก็บอกชื่อและยี่ห้อนมให้จด บางคนบอกว่า " แล้วแจกคนละกี่กระป๋องล่ะ " ผมบอกขึ้นว่า ครั้งนี้มีคนส่งเงินมาจากเมืองนอกให้แจกสองหมื่นกว่าบาท ใครจดก่อนก็ได้ก่อน เอาคนละกระป๋องใหญ่ก็แล้วกัน ไม่ว่ากันนะ บางคนพูดขึ้นว่า " หนูขอสองกระป๋องได้ไหมคะ ? " ได้สิ เดี๋ยวจดให้พิเศษเลย ว่าแต่ว่าใช้ยี่ห้ออะไรเลี้ยงลูกอยู่ล่ะ ? " ... ค่ะ " ใช้แบบกระป๋องหรือแบบถุงเติมล่ะ " แบบกระป๋องเหล็กมันแพง หนูใช้ถุงเติมค่ะ " ถ้างั้นจะซื้อแบบกระป๋องมาให้สักกระป๋องนึง เก็บกระป๋องไว้ใช้นาน ๆ นะ นอกนั้นก็จะใช้ถุงเติมเอา " อู๋ย ขอบคุณหลาย ๆ เด้อ ขอให้เจริญ ๆ อ้าว แล้วเพิ่นมาตรงนี้ที่เดียวหรือจะแจกหลายที่ ? " ผมตอบว่า ถ้าหมดงบก็ที่เดียวเลยก็ดี จะได้ไม่ต้องไปหลายที่ ผู้หญิงคนนั้นบอกว่า " ถ้างั้นเดี๋ยวเดินตามหนูมาเลยค่ะ ตรอกหลังโรงเรือนนี่ยังมีแม่ลูกอ่อนอีกหลาย " หลังจากที่ผมจดของแม่ลูกอ่อนกลุ่มแรกเสร็จ ผมก็เดินตามผู้หญิงคนนั้นเข้าไปหลังโรงเรือน ทะลุหลังโรงเรือนซึ่งทางเดินแคบมาก เดินต่อไปอีกชั่วอึดใจ ผู้หญิงคนนั้นช่างมีเมตตาต่อเพื่อนร่วมทุกข์ ร่วมเกิด ร่วมเจ็บ ร่วมแก่ และร่วมไม่มีเงินเลี้ยงลูกด้วยกัน ผู้หญิงคนนั้นเรียกชาวบ้านแถวนั้นที่อยู่ในกระต๋อบใครกระต๋อบเขา เดี๋ยวเดียวก็มาเป็นกลุ่มใหญ่ วันนั้นวันเดียวผมจดไว้มากเลย

    วันรุ่งขึ้นก็ถึงขบวนการไปสืบเสาะราคาในเทสโก้ ในคาร์ฟูร์ และที่อื่น ๆ ในที่สุดก็ลงที่เทสโก้ เพราะน่าจะถูกที่สุดแล้ว ซื้อตามที่จดไว้ทั้งหมดยังเหลือเงินอีกหลายพันบาท ผมคิดว่า เราพกเงินไปด้วย หากพบคนเดือดร้อน ก็จะได้ช่วยเขาได้ แต่ถ้าไม่พบ ก็จะนำกลับ

    วันถัดไปผมบรรทุกนมผงไปเต็มท้ายรถกับเต็มเบาะที่นั่งหลัง ผมให้คนรับใช้ที่บ้านผมไปด้วย เพราะคนนี้เขาเก่งเรื่องคนในสลัมด้วย พอรถไปจอดที่เดิม ยังไม่ทันจะพูดอะไร คนที่รออยู่เขาตะโกนกันออกไป เร็ว ๆ ไปเรียกแม่อีดำ อีสุ อีณี ให้ทุกคนออกมารับนมกันเร็ว ๆ ผมนำสมุดออกมาก่อน ยังไม่รีบเปิดท้ายหรือเปิดประตูหลัง รอนิดนึงก่อน พอคนมาค่อนข้างครบแล้วผมจึงขออนุญาตเช็คชื่อและรายการทีละคน แต่ละคนพอได้รับแล้วก็ให้ศีลให้พร " ขอให้เจริญ ๆ เถอะพ่อคูณ " จนกระทั่งของหมดรถ มีหญิงวัยประมาณสี่สิบคนหนึ่งมายืนรอ ต่อมาทราบชื่อว่าแม่ฟ้า แม่ฟ้ามาดักรอเพื่อขอเงินสดให้กับลูกสะใภ้อายุแค่สิบห้าที่ลูกชายไปได้เสียจนท้องแก่แล้ว ไปตรวจที่โรงพยาบาลมา เขาว่าแม่เด็กเป็นทาลัสซิเมีย อาจเป็นอันตรายกับเด็กและแม่เด็กได้ ผมบอกแม่ฟ้าไปว่า คนเมืองนอกเขาให้งบเป็นค่านมผง ไม่มีจุดประสงค์อย่างอื่น แม่ฟ้าก็พูดขอร้อง ขอให้ไปดูเด็กท้องแก่กัน ผมถามเด็กรับใช้ผม เธอบอกว่า แล้วแต่เจ้านาย แม่ฟ้าขับรถซาเล้งเก็บของเก่านำผมไป ถนนเข้าบ้านแม่ฟ้าเป็นถนนดีพอสมควร ถึงแม้จะเล็ก แต่ก็เทด้วยคอนกรีตเกือบตลอดสาย บ้านแม่ฟ้าเป็นบ้านเดี่ยวขนาดสี่สิบตารางวา ชั้นล่างเป็นปูนชั้นบนเป็นไม้ เมื่อถึงบ้าน แม่ฟ้าเรียกลูกสะใภ้ออกมาพร้อมบอกกับผมว่า " หนูเก็บของเก่าอยู่แถวนี้มานาน เจ้าของบ้านหรือก็คือสามีหนู เมียเขาตาย ลูกเขาไม่ได้อยู่บ้านนี้ หนูมีลูกเก่าของหนูหลายคน ได้เข้ามาอยู่บ้านนี้ แค่นี้ก็บุญแล้วค่ะ ไอ้ชายลูกหนูมันยังไปก่อปัญหา ไปทำผู้หญิงเด็กล้างจานร้านก๊วยเตี๋ยวใต้คอนโดท้องตั้งนานแล้วไม่บอก มาบอกตอนที่ท้องมันโตจนทำงานไม่ได้แล้ว ตอนนี้เลยมาอยู่บ้านนี้ เพราะเจ้านายมันไล่ออก บ้านมันก็อยู่ต่างจังหวัด ทางโรงพยาบาลที่ไปฝากท้องเขาบอกว่า ลูกสะใภ้หนูมันเป็นทาลัสซิเมีย อาจเป็นอันตรายทั้งแม่ทั้งลูก ช่วยค่าหมอให้มันด้วยเถอะค่ะ " ผมเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ ลูกสะใภ้แม่ฟ้านำใบของโรงพยาบาลออกมา ในใบนั้นเขียนอะไรผมจำไม่ได้แล้ว ทำนองว่าพบความผิดปกติของเลือดหรืออะไรทำนองนั้น แม่ฟ้าพูดขึ้น " ลูกชายหนูไปเก็บของเก่าอยู่ เย็น ๆ ค่อยกลับ พวกเราหาเช้ากินค่ำ ไม่มีเงินค่าใช้จ่ายแม้กระทั่งค่ารถไปหาหมอ ค่ากินอยู่ก็ยังไม่ค่อยจะมีอยู่แล้ว ส่วนเจ้าของบ้านเขาให้เราซุกหัวนอน แค่นี้ก็ถือเป็นบุญคุณใหญ่หลวงแล้ว แกไม่สุงสิงกับใครค่ะ หนูก็ได้แต่หวังความเมตตาของคุณนี่แหละ " ผมตัดใจให้เงินทั้งหมดไปกับแม่ฟ้า โดยสั่งต่อหน้าลูกสะใภ้ว่า จะใช้อะไรก็เบิกแม่ฟ้านะ ขอให้หนูและลูกจงโชคดี แล้วจะมาเยี่ยมถ้ามีโอกาส ว่าแล้วผมก็ขอลากลับ แม่ฟ้าบอกว่า " คุณ ๆ รอเดี๋ยวก่อนค่ะ ในเสือใหญ่นี่มีปู่คนนึงน่าสงสารมาก ไม่ทราบว่าคุณพอจะช่วยปู่สาดได้ไหมคะ ? "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2010
  7. ดด

    ดด สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +4
    ความเมตตา ความกรุณาในหมู่คนยากคนจน ไม่ใช่ไม่มี หากแต่ล้นเอ่อ เต็มปรี่ไปทุกอณูภาค แม้เธอและลูกสะใภ้เองก็ยังไม่ได้พ้นจากทุกข์ที่กำลังรอเธออยู่ในอนาคตอันใกล้ แต่แม่ฟ้ากลับมีจิตใจโอบอ้อมอารี เผื่อแผ่ไปถึงคนอื่น เป็นเรื่องที่น่ายกย่องน้ำใจของแม่ฟ้าเป็นอย่างมาก
     
  8. ดด

    ดด สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +4
    ผู้เล่าไม่ทราบว่าจะพบอะไรข้างหน้า อีกทั้งเงินในกระเป๋าก็หมดเพราะเหตุที่ให้แม่ฟ้าเก็บไว้รักษาลูกสะใภ้ ผู้เล่าแข็งใจบอกแม่ฟ้า ไป เราไปพบปู่สาดกัน แม่ฟ้าบอกว่า " ได้เวลาเที่ยงพอดี ปู่สาดคงกลับถึงที่พักแล้ว ไปกันค่ะ หนูขับซาเล้งนำไป คุณผู้ชายขับรถตามไปแล้วกันค่ะ " ผมขับรถตามแม่ฟ้าออกถนนซอย 2 เลน หักฉากเลี้ยวซ้าย พอถึงร้านวัสดุก่อสร้างก็เลี้ยวเข้าซอยไปได้ไม่กี่สิบเมตร แม่ฟ้าจอดรถบนดินข้างถนนซอยแล้วตรงเข้าไปในกลุ่มเรือนเล็ก เรือนใหญ่ สะเปะสะปะ แม่ฟ้าเดินไปถึงกระท่อมค่อนข้างใหญ่หลังหนึ่ง แม่อุ๊ ๆ ปู่สาดกลับมารึยัง ? ผู้หญิงวัย 40 เดินออกมาหน้ากระท่อมตนเองพูดขึ้น " ปู่สาดหายไปสัปดาห์นึงแล้วแม่ฟ้า " ผู้เล่าเดินเข้าไปยกมือไหว้แม่อุ๊เพื่อขอร่วมวงด้วย แม่ฟ้าถามอย่างประหลาดใจ หายไปไหนล่ะแม่อุ๊ " ฉันเองก็ไม่รู้หรอก ระยะนี้ก็ไม่ค่อยมีเวลาไปตาม " หญิงชราวัย 60 กว่า ๆ โผล่ออกมาจากประตูกระท่อมอีกหลังที่อยู่ใกล้ ๆ ขอเข้าร่วมวงด้วย ( ที่ว่าหญิงชราวัย 60 เพราะดูโทรมกว่าคนอายุ 60 ที่มีฐานะดี จะดูไม่แก่มากเท่าคนหาเช้ากินค่ำที่ต้องทำงานตั้งแต่ตี 4 ตี 5 ) จากนั้นพวกเราก็ได้สนทนากันมากมาย ใจความสรุปได้ว่า เดิมปู่สาดที่อาศัยกระท่อมเก็บของอยู่หน้าบ้านแม่อุ๊เกลียดปู่อีกคนที่มักขโมยของที่ปู่สาดหามาได้ เวลาปู่ไปหาเก็บของเก่า แล้วก็จู่ ๆ ปู่ก็หายไป ไม่ทราบว่าไปไหน ก็เป็นอันว่า ไม่มีใครทราบว่า ปู่หายไปไหนสัปดาห์หนึ่งแล้ว

    ผมทิ้งเบอร์โทรศัพท์มือถือไว้ให้เผื่อมีอะไรก็จะได้แจ้งข่าวกัน แต่ในใจก็ไม่ได้คิดเป็นห่วงอะไรปู่สาด ก็คนไม่ได้เป็นญาติ ไม่เคยรู้จักด้วยซ้ำ จึงไม่แปลกที่ไม่รู้สึกอะไร หลังจากที่กลับจากการให้ทานวันนั้น ผมก็ลืมเรื่องปู่สาดไปราวกับหยิบทิ้งไป
     
  9. ดด

    ดด สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +4
    ผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ โทรศัพท์มือถือผมดังขึ้น แม่อุ๊โทรมา ได้ข่าวปู่สาดแล้วค่ะ หากไม่เป็นการรบกวนเกินไป หนูขอเรียนเชิญที่กระท่อมคนจนมาพบกับคนที่เขาเห็นปู่สาดดีไหมคะ จะได้พูดกันเห็นหน้าเห็นตา ผมรับปากว่าจะไปภายในไม่เกินชั่วโมง เมื่อเอามือคลำกระเป๋าสตางค์ก็รู้ได้ทันทีว่า เราคงช่วยอะไรไม่ได้หรอก เพราะเงินสดไม่มี ขณะที่กำลังนั่งคิดว่าจะทำยังไงดี พอดีโทรศัพท์จากเพื่อนสนิทอีกคนโทรเข้ามาถามว่า " วันนี้อยากทำบุญจัง มีรายการอะไรไหม ? " ผมจึงเล่าเรื่องเคร่า ๆ ให้เพื่อนฟัง เพื่อนจึงบอกโอนให้เดี๋ยวนี้เลย ไปกด ATM แล้วเข้าไปช่วยปู่สาดได้เลย

    ผมออกไปกด ATM ก่อนที่จะเข้าไปพบแม่อุ๊ เมื่อไปถึงพบซาเล้งเครื่องคันนึงเจ้าของเป็นผู้หญิงวัย 28 - 30 ปีชื่อเนิน หลังจากแม่อุ๊ท้าวความแล้ว เนินก็เล่าให้ฟังว่า เนื่องจากเนินเป็นซาเล้งเครื่องที่ออกหาเก็บของไกลถึงสุทธิสาร พบปู่สาดไปหาเก็บของเก่าที่สุทธิสารอยู่เหมือนกันหลัง ๆ นี้ ตกดึก ๆ ปู่จะกลับมานอนตามริมถนนตรอกซอกซอย เมาหัวทิ่ม แล้วก็อยู่ไม่ไกลจากกระท่อมแม่อุ๊นี่แหละ อยู่เลยออกไปยังไม่ถึงคอนโดสวนธนเลย อาศัยอยู่กับเพื่อนนักเลงเหล้ากลุ่มนึง พอปู่ได้เงินมาก็จะถูกเพื่อนกลุ่มที่อาศัยอยู่กับเขาใหม่หยิบเงินไปจากกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกงตอนเมา รถซาเล้งแบบไม่มีเครื่องก็ถูกเพื่อนเอาไปขาย ปู่สาดเลยต้องเข็นรถเก็บของคันเล็กที่มีช่างทำรถเข็นในแถบนั้นคนนึงมอบให้ด้วยใจที่เมตตาต่อปู่ เนินพูดขึ้นว่า " ปู่สาดตอนนี้ตีนโตทั้ง 2 ข้าง ใหญ่ออกมาเห็น ๆ เลย คิดว่า ถ้าไม่ช่วยให้กลับมาอยู่กับแม่อุ๊ คงไม่รอด คงติดเชื้อตายก่อน " ผมจึงขอให้เนินช่วย เนินบอกว่า ช่วยกลับมาแล้วปู่จะอยู่ไหมล่ะ ก็กระท่อมแกไม่มีประตู เอนพังจนล้มอย่างนั้น แล้วอีกอย่าง ปู่ข้าง ๆ นี้ก็จะหยิบของ ๆ ปู่สาด ปู่สาดเดี๋ยวก็กลับไปอีกหรอก ผมจึงขอให้แม่อุ๊ช่วยจัดการปลูกกระต๋อบให้ปู่สาดใหม่โดยให้เงินไว้จำนวนหนึ่ง " แม่อุ๊ช่วยจัดการให้ด้วยนะ ถือว่าช่วยปู่สาด " แม่อุ๊บอกว่า หนูก็ช่วยมาหลายปีแล้ว แต่เพราะไม่มีเงินจึงช่วยเท่าที่จะช่วยได้เท่านี้ ตกลงเป็นว่า ปลูกกระท่อมให้ปู่หลังนึงไม่ถึงหมื่นก็ปลูกได้แล้ว ผมหันไปขอให้เนินช่วย เนินบอกว่า คงต้องรอกระท่อมเสร็จแล้ว ได้ที่หลับที่นอนแล้วหนูจะยกปู่กลับมาตอนปู่หลับอยู่ริมตรอก แต่หนูมีค่าใช้จ่ายนะคุณ ผู้เล่าไม่ได้คิดอะไรตอบไปว่า ค่าใช้จ่ายเท่าไรหรือ หนูคิด 3000 บาท ต้องไปหลายเที่ยวคอยดูให้ ได้จังหวะก็ต้องหาคนอุ้มปู่ขึ้นรถมา รถหนูใช้น้ำมันค่ะ ผมตกลง 3000 บาท กับการช่วยชีวิตคนให้พ้นขุมนรกขุมหนึ่ง
     
  10. ดด

    ดด สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +4
    บี้สามีของอุ๊เป็นช่างไฟฟ้าและรับต่อเติมอาคารบ้านเรือนเข้ามาอาสาทำกระท่อมครั้งนี้ให้ปู่สาด รีบหาวัสดุเท่าที่จะหาได้ในงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ มีไฟฟ้าแสงสว่าง ปลั๊กเสียบพัดลม หม้อหุงข้าว ที่หลับที่นอนแข็งแรงทำจากไม้หน้า 3 แผ่นกระดานแข็ง และต้องอยู่สูงจากพื้นให้แยกออกจากสุนัขขี้เรื้อนที่ชอบตามปู่เข้าไปนอนด้วยกัน มีหน้าต่าง ประตูใส่กุญแจได้อย่างดี หลังคาสูงจะได้ไม่ร้อนมาก เพียงเวลาวันสองวันกระท่อมหลังน้อยก็เสร็จลงด้วยทีมงานบี้และช่างอีก 2 คน แม่อุ๊โทรรายงานให้ไปดูกระท่อมหลังใหม่ ผมไปตรวจดูแล้วชอบใจมาก จึงให้คนตามเนิน ให้สัญญาณว่า เราได้เวลาอุ้มปู่สาดกลับบ้านกันแล้ว เนินรีบขับซาเล้งเครื่องไป หากพบปู่สาดก็ให้ดูจังหวะที่จะอุ้มปู่กลับมา เนินไปได้พักใหญ่ ๆ ก็กลับมาพร้อมปู่สาดนอนหลับอยู่ในซาเล้ง พอซาเล้งจอด ปู่สาดทำท่าฉงนสงสัย แม่อุ๊เข้าไปถามปู่ทันที " ปู่ ปู่จะกลับมาอยู่กับอุ๊อย่างเดิมไหม ? กระท่อมหลังใหม่นี่คุณท่านปลูกให้ปู่อยู่ ถ้าปู่กลับมา หนูจะดูแลปู่เองทุกอย่าง " ปู่สาดวัย 70 ที่แก่เกินวัย ผมเผ้าขาวรกรุงรังไปทั้งหัว หนวดเคราเฟิ้ม ตาบอดข้างหนึ่ง อีกข้างก็ดูมัว ๆ ยังไง ๆ อยู่ ฟันหักหลายซี่ ผิวเนื้อดำกร้านไปทั้งตัว โดยเฉพาะที่ขาทั้ง 2 ข้างบวมโตตั้งแต่ใต้หัวเข่าลงมาถึงเท้าบวมเป่ง เหม็นคลุ้งตลบอบอวล มองไปที่กระท่อมแล้วรับปากแม่อุ๊ทันที " เอา ๆ ถ้ามีอย่างนี้ก็เอาสิ " ผมดีใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก แม่อุ๊นี่ช่างจิตใจประเสริฐแท้ ญาติรึก็ไม่ใช่ ใครก็ไม่รู้ มาทิ้งให้เป็นภาระหลายปี จู่ ๆ ก็จะต้องกลับมาดูแลกันอีก และคงต้องดูแลให้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะหากปู่หายไปอีกที คงกลัวถูกผมตำหนิ

    ปู่สาดลงจากรถ เข้าไปดูกระท่อมแล้วยิ้มหวาน หน้าตาเบิกบานเหมือนได้ขึ้นวิมารแก้ว " เออ ๆ ไปเอาของกูกลับมาสิไอ้เนิน " ปู่บอก ผมถามเนินว่า ของ ๆ ปู่มีอะไรบ้างหรือ ? เนินบอกว่ามีรถเข็นของเก่า ๆ เล็ก ๆ ใช้ไม่ค่อยได้คันนึง เสื้อผ้าเก่า ๆ ขาด ๆ นิดหน่อย และก็ ผมพูดออกมาว่า พอแล้ว ๆ ไม่ต้องไปเอาหรอกของพวกนั้น เดี๋ยวผมจัดการมาให้วันนี้เลย ว่าแต่ว่า เราควรส่งปู่สาดไปหาหมอ ไปที่ไหนดี ตีนบวมขนาดนี้ทั้ง 2 ข้าง ไปโรงพยาบาลเมโยดีไม๊ อยู่ใกล้กว่าที่อื่นแล้ว เนินรีบบอก ขืนเอาปู่สาดเข้าโรงพยาบาลมีหวังคนไข้วิ่งออกจากโรงพยาบาล ผู้คนแตกตื่นโกลาหลหมด เอางี้ดีกว่า แถวนี้มีร้านขายยาอยู่ร้านนึง เจ้าของร้านเป็นหมอด้วย หนูจะพาปู่ไปให้เอาไหม ? ผมบอกว่า ดีสิ งั้นเราไปกันเลย เนินบอกว่า ยังไม่ได้ค่ะ ร้านเปิดหลัง 5 โมงเย็น หมอเขาทำงานศิริราช กว่าจะกลับต้องเย็น ๆ ผมจึงบอกเนินว่า งั้น 5 โมงเย็นวันนี้มาพบกันใหม่ที่นี่ มาพาปู่ไป กลางวันผมจะไปหาซื้อของให้ปู่ก่อน ว่าแล้วผมก็ไปหาซื้อหม้อหุงข้าวไฟฟ้า พัดลม กลับบ้านไปเอาเสื้อผ้าของผมที่ไม่ได้ใช้แล้วหลายชุด ระหว่างที่ผู้เล่าอยู่ที่บ้าน แม่ผู้เล่าโทรมาให้มาเอาแผ่นรองนอนที่น้องชายคนหนึ่งเคยทำธุรกิจแผ่นรองนอนแม่เหล็กผืนละ 20000 บาท กับเสื้อผ้าของน้องชายผู้เล่าจำนวนมาก ที่ไปฝากแม่ไว้หลายปีแล้ว แม่ผู้เล่าพอรู้ว่ามีเรื่องอย่างนี้ เลยยกให้ทั้งหมด ผู้เล่านำกลับมาให้ปู่ 1 ผืน อีกผืนและเสื้อผ้าเก็บไว้ให้ทานรายต่อไป
     
  11. ดด

    ดด สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +4
    พอถึงเวลานัดหมาย เนินขับซาเล้งเครื่องมาจอดที่หน้ากระท่อม ผม แม่อุ๊ ยายดำรออยู่ เนินบอกว่า ดูท่าทางอย่างนี้คงต้องพาปู่สาดไปหาหมอหลายครั้ง เพราะอย่างนี้คงต้องฉีดยา ไม่มีทางอื่นแน่นอน หนูขอค่าพาปู่ขึ้นซาเล้งหนูไปหาหมอ ค่าเสียเวลา รวมทั้งค่ายาฉีดยากิน 3500 บาท ได้ไหม ? ผมไม่ทราบว่าค่ายาฉีด ยากินเท่าไร แต่ที่รู้แน่ ๆ คือ ถ้าไม่มีซาเล้งคันนี้ ปู่สาดไม่รู้อยู่ที่ไหน ? เป็นตายร้ายดียังไง และก็คงไม่มีใครให้คนแก่สกปรกเลอะเทอะอย่างนี้ขึ้นรถแน่นอน เอาควัก 3500 บาทให้ทันทีแถมกำชับว่า รวมค่ายาฉีด ยากินทั้งหมด ค่ารถซาเล้งเครื่องไปหาหมอจนกว่าจะหายนะ เนินรับปาก พวกเราพาปู่ขึ้นรถ ยายดำกระโดดขึ้นรถไปด้วยคน ยายดำผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารี ช่วยประคองให้ปู่ไม่เซไปเซมาในรถซาเล้งเครื่องคันนั้น ผมขับรถตามไป จากปากซอยที่มีร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ออกมาเลี้ยวซ้าย ตรงไปถึงแยกรูปตัว T มีถนนขวางหน้าอยู่เลี้ยวขวา ตรงไปเรื่อย ๆ จนถึงถนนรูปตัว Y ด้านซ้ายเป็นชุมชนแห่งหนึ่ง เราเลี้ยวขวา มาถึงแยกตัว T เล็กอีกทีเลี้ยวซ้าย ร้านขายยาเป็นอาคารพาณิชย์อยู่ขวามือ รถซาเล้งเครื่องจอดที่หน้าร้านขายยาเลย ยายดำกับเนินพยุงปู่เข้าร้านขายยา ผมจอดรถแล้วตามเข้าไปฟังและสังเกตุการณ์อย่างใกล้ชิด ชายหนุ่มมากสูงผอมท่าทางเต็มไปด้วยอุดมคติกำลังรักษาผู้ป่วยรายอื่นอยู่ พวกเรานั่งเก้าอี้รอ ผมชายตามองไปในร้านขายยา สังเกตุผู้คนที่มามีหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสทั้งนั้น ต่างจากการไปรับการรักษาที่อื่น ๆ เป็นที่ฉงนของผมเป็นอย่างมาก คนไข้ที่กำลังรักษารายที่อยู่ก่อนเสร็จแล้ว ลุกจากเก้าอี้ ขอบคุณครับหมอ หมอสั่งกำชับว่า ต้องมาล้างแผลอีกนะ แต่ไม่เห็นคนไข้จ่ายเงิน ผมก็เริ่มฉงนแล้ว

    ปู่คนนี้อีกแล้วหรือ คุณหมอถาม เนินบอกว่า แกเท้าบวมตั้งแต่หัวเข่าลงมา ตรงปลายเท้าบวมจนเป่งเลยค่ะ หมอบอกปู่ลุกไหวไม๊ ? ปู่สาดซึ่งหูตึงมาก " หา " ปู่ลุกไหวไม๊ ? " หา " พอลุกได้ ว่าแล้วก็ยืนแบบง่อนแง่น คุณหมอขอให้เนินช่วยถอดถุงเท้าปู่ที่คลุมกันแมลงวันตอมออก เนินทำได้ราวกับไม่มีอะไรน่ารังเกียจอย่างนั้น หมออุทานขึ้น โอ้ นี่มันหนักมากนะปู่ หมอจะฉีดยาให้ไปก่อน เอายาไปกินด้วย กินให้ครบทุกมื้อตามที่หมอสั่งนะ แล้วพรุ่งนี้พามาฉีดยาใหม่อีกที ต้องฉีด 3 วันติดต่อกัน แล้วดูอาการ ถ้าไม่ดีขึ้นต้องส่งโรงพยาบาลแล้ว ว่าแล้วหมอก็จัดยาฉีดให้ ผมถามคุณหมอ คุณหมอทำงานที่ไหนครับ ผมอยู่ศิริราชครับ คนแถวนี้ส่วนหนึ่งยากจนมาก บางทีมาแบบนี้ผมไม่คิดค่ารักษาเลย บางทีเก็บแค่ต้นทุน แต่ถ้ามีเงินหน่อยผมก็เก็บนะครับ ไม่ใช่ฟรีตลอด ไม่ไหวหรอกครับ ผมได้แต่แอบชื่นชมคุณหมออยู่ในใจ อนุโมทนา สาธุการต่อคุณหมอผู้มีจิตใจอันประเสริฐที่ไม่นิ่งดูดาย และยอมรับเอาความทุกข์ของผู้อื่นมาเป็นของตน ผมแอบคิดอยู่ในใจ วันไหนผมมีเงินมากมาย จะมาแบ่งมาสมนาคุณคุณหมอให้สมกับความดีที่คุณหมอได้ทำอยู่ทุก ๆ วัน
     
  12. ดด

    ดด สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +4
    ผมออกมาถึงหน้าร้านขายยา เนินกับยายดำพยุงปู่สาดขึ้นซาเล้งเครื่อง ผมถามเนินว่า ตอนนี้ค่ายาฉีด ยากิน หมอเขาให้ฟรีแล้วจะว่าไง เนินบอกว่า เห็นใจหนูเถอะค่ะ ก็ต้องเสียเวลาเหมือนกัน กี่ครั้งยังไงก็ไม่รู้ กว่าจะหายขาด หนูขอเถอะนะคะ ผมได้แต่เห็นระหว่างคนที่ช่วยเหลือปู่สาดนั้น มีคนที่ช่วยปู่โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนมีมากกว่า ก็ไม่เป็นไร ถือว่าสงเคราะห์ครอบครัวเนินเขาก็แล้วกัน ต้องมาเป็นธุระให้อีกนานเท่าไรไม่มีใครทราบได้ ผมแยกย้ายกลับบ้านตรงที่ร้านขายยาโดยไม่ได้ไปส่งปู่สาด เพราะยายดำมาด้วยไม่ต้องเป็นห่วง

    3 วันให้หลัง ผมไปรอปู่สาดไปหาหมอที่กระท่อม เนินมารับปู่ตามหน้าที่ที่รับงานไว้ เท้าปู่เล็กลงเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนมาก ทั้งนี้เพราะแม่อุ๊และยายดำคอยดูแลใกล้ชิด อาหารการรับประทาน หยูกยา และที่สำคัญคือไม่ให้ทานเหล้า พอถึงร้านขายยา คุณหมอดูอาการแล้วพอใจ ทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส คุณหมอบอกว่า เอาอย่างนี้ ต่อจากนี้ไปทุก ๆ 3 วันพามาฉีดยาครั้งนึง แต่ยายังต้องกินอยู่นะ กินให้ครบทุกมื้ออย่าให้ขาด เดชะบุญที่ผลการตอบสนองเป็นไปในทางที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ครั้งนี้ผมไปส่งปู่สาด ไปกำชับแม่อุ๊ให้ดูแลปู่ให้ดี จากนั้นผมกำลังจะกลับ เนินเข้ามาขอคุยตามลำพัง " คุณผู้ชายคะ หนูมีอะไรขอปรึกษาหน่อย ครอบครัวหนูเดือดร้อน ต้องขอกู้เงินจากคุณท่านสัก 30000 บาท จะเอาดอกหนูกี่เปอร์เซ็นต์หนูก็ไม่ว่าค่ะ " ผมถึงกับอึ้ง แล้วตอบเนินไปว่า เดี๋ยวขอดูก่อนนะ ดูว่าจะมีใครมีงบสำหรับส่วนนี้บ้าง ตัวผมเองน่ะไม่มีงบส่วนนี้หรอก จากนั้นผมก็กลับ

    และจะกลับมาเยี่ยมปู่อีกก็ต่อเมื่อไม่ใช่เวลาที่เนินจะอยู่แถว ๆ นั้น โดยเฉพาะเวลาที่เนินต้องมารับปู่ไปหาหมอ ตลอดเวลาที่ผมมาเยี่ยมปู่ ยายดำซึ่งมีอาชีพเก็บของเก่าด้วยซาเล้งแบบธรรมดา ไม่เคยเอ่ยปากขอเงินหรือขอสิ่งของผมเลย ผมแปลกใจอยู่พอสมควร ยายดำคนนี้ดูไม่เหมือนซาเล้งขี้ขอทั่ว ๆ ไป " ยายดำ ยายมีความเดือดร้อนอะไรบ้างไหมนี่ ? " ไม่มีหรอกคุณผู้ชาย คุณผู้ชายหากมีเงินมีทองหรือมีใครจะช่วยคนยากคนจนอีก ก็ขอให้ช่วยคนที่เดือดร้อนกว่ายายเถอะ ในนี้ยังมีอีกเยอะ ผมคิด โอ้ ! แม่เจ้า ยังมีคนแบบนี้อยู่ในสลัมแบบนี้อีกหรือ ? แต่นี่คือความจริง ผู้คนในนี้ใช่ว่าจะไม่ประเสริฐ แม้เดือดร้อนอยู่แท้ ๆ ก็ยังขอให้ช่วยผู้อื่นก่อน สาธุ ผมเอ่ยขึ้น " ยายดำ ยายอายุเท่าไรแล้ว " 64 คุณผู้ชาย ยายแก่แล้ว ลูกหลานทิ้งหมด เลยต้องมาเก็บของเก่าขายไปวัน ๆ ยายเก่งนะ จะบอกให้ บางวันยายเก็บของเก่าขายได้ 150 บาท 200 บาท ถ้าขยันออกตั้งแต่ตี 4 ครึ่งก็จะได้ขยะจากบ้านคนรวย ๆ เอามาขายร้านเจ๊กเขา บางวัน 200 กว่าบาท แต่ถ้าวันไหนไม่สบายก็อด หรือออกสายกว่าตี 5 ซาเล้งอื่นเขารีบไปแย่งเก็บขยะบ้านคนรวยหมดแล้ว ยายก็จะเก็บได้วันละ 50 บาทถึง 80 บาท
     
  13. ดด

    ดด สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +4
    เนินถึงแม้นจะไม่ได้รับคำตอบเรื่องให้เธอยืม 30,000.- บาทจากผม แต่เธอก็ทำตามข้อตกลงที่รับเงินค่าจ้างพาปู่สาดไปหาหมอจนครบ ตามที่หมอสั่งไว้ ตลอดระยะเวลาช่วงสั้น ๆ ที่เป็นช่วงรักษาปู่สาด แม่อุ๊และยายดำได้ทำหน้าที่ผู้ดูแลโดยไม่ได้รับค่าจ้างแต่อย่างใด หากแต่ปฏิบัติต่อปู่สาดเหมือนญาติของตน

    กระท่อมที่สร้างใหม่ มีที่นอนที่ยกสูง มีแผ่นที่นอนแม่เหล็กราคาแพง มีหม้อหุงข้าวไฟฟ้าและพัดลม มีหลอดไฟพร้อมสวิทและปลั๊กพร้อม แต่สภาพก็ยังคงไม่ค่อยน่าอภิรมย์นัก เนื่องจากปู่สาดไม่ค่อยอาบน้ำ และยังคงเก็บสิ่งของไว้ในกระท่อมเหมือนเดิม จึงทำให้ภายในกระท่อมมีกลิ่นเหม็นคุ้งที่ค่อนข้างยังแรงอยู่ ผมจึงขอให้บี้ช่วยจัดการเทพื้นปูนซีเมนต์ให้ปู่ โดยจัดการตอนที่ปู่ไม่อยู่

    หลังจากที่เท้าทั้งสองข้างของปู่สาดหายบวมเรียบร้อยแล้ว ปู่สาดออกเก็บของเก่าโดยมีผู้ใจบุญยกรถซาเล้งให้คันนึงแบบไม่ติดเครื่องยนต์ ทำให้เวลาปู่สาดจะเข็นรถขึ้นสะพาน รถในซอยเสือใหญ่จะติดกันเป็นแถวยาว ปู่จะเข็นรถขึ้นสะพานโดยไม่ขอให้ใครช่วย แต่หลายต่อหลายครั้ง ผมก็ยังเห็นคนแถว ๆ นั้นลงมาช่วยเข็นรถขึ้นสะพานข้ามคลองให้ปู่เป็นประจำ

    ชีวิตประจำวันของปู่สาดกลับมาเป็นเหมือนเดิม ไม่มีผู้คุ้มครองที่ไม่ชอบธรรม ไม่มีใครมาคอยล้วงกระเป๋าหรือลักขโมยของของปู่อีกแล้ว มียายดำและแม่อุ๊คอยดูแลทุกเรื่องที่พอพึ่งพาอาศัยกันได้ ข้อเสียอย่างเดียวของปู่สาดคือ ปู่จะดื่มเหล้าหลังจากกลับจากการเก็บของ ใครจะทักจะท้วงอย่างไร ข้อนี้ปู่ไม่ยอมเป็นอันขาด ใครเล่าจะทราบถึงความทุกข์ของชายชราที่ไม่มีครอบครัว หรือท่านอาจไม่มีความทุกข์เช่นที่เรา ๆ คิดก็ได้ เพียงแต่อาจเป็นนิสัยนักดื่มที่ไม่จางหายไปจากความประพฤติของปู่สาดเองก็ได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...