พระพุทธเจ้าสามารถบำเพ็ญเพียรบารมีเกิน 80 อสงไขยได้หรือไม่

พระพุทธเจ้าสามารถบำเพ็ญเพียรบารมีเกิน 80 อสงไขยได้หรือไม่ ครับ เพราะพระโพธิสัตว์บ้างองค์อาจจะปราถนาสร้างบารมีให้เข้มเลยยิ่งขึ้นไป

 

ได้ ครับผม
แต่คำว่าเข้มที่ท่านพิมพ์มานั้น ถึงจะนานแค่ไหนก็ไม่ เข้มเกิน ๓๐ ทัศน์ ครับ

สาธุ อนุโมทนาด้วยนะครับ

 

จะอธิษฐานก็ได้นะน้อง....ยังไม่เห็นมีใครทำ....

ส่วนใหญ่เผ่นกันไปก่อนทั้งนั้น.....

๑๖ อสงไขย ก็ฝืดกันแล้ว.....๑๖ อสงไขย ก็ไม่ธรรมดาแล้วนะครับ....ท่านที่ทำได้นี่กราบได้แล้ว....เพราะจริงๆธรรมะก็ตัวเดียวกัน....ไม่ใช่ของใหม่ตรงใหน...

 

...พระวิริยาธิกะพุทธเจ้า...นับตั้งแต่คิดในใจจนเต็มก็ ๘๐ อสงไขยเศษ...
...ถ้าจะบำเพ็ญเกินก็ได้ครับ ปรารถนาอะไรเป็นพิเศษ เขาเรียกสมมติพิเศษของโลก...
...คือว่าสมัยที่บรรลุจะต้องการอะไรเป็นพิเศษสำหรับสงเคราะห์บริวารนะครับ ที่มนุษย์สามารถมีได้...
...

 

บ๊ะ ทำลายวัฎฎะสงสารให้สิ้น เลยทีเดียว
อนุโมทนาสาธุค่า
แล้วอย่างงี้ เอาที่ไหนมาเกิดบำเพ็บบารมีต่อละนี่ 555

 

(deejai)อิอิ (deejai)

 

หนังสือไตรภูมิพระร่วง
กล่าวไว้ว่า พระพุทธเจ้าทั้ง ๓ ประเภท (ปัญญาธิกะ สัทธาธิกะ วิริยาธิกะ) โปรดไวยสัตว์ได้เท่าๆๆกัน คือ

๒๔ อสงไขย ๑๑,๐๐๐ โกฏิ ๑๐๐,๐๐๐ คน​

ส่วน อรูปพรหมและอบายทั้ง ๔ นั้น โปรดไม่ได้อยู่แล้วนะครับ เพราะอยู่ในฐานะที่โปรดไม่ได้นะครับ

 

ให้มันจริงเถอะ...ไอ่น้องเอ้ย.....

 

หลวงพ่อฤาษีลิงดำได้บอกว่า สมเด็จองค์ปฐมทรงบำเพ็ญมามากเกินที่กำหนดไว้ เพราะไม่มีต้นแบบนำ เมื่อครั้งอาจารย์คนเมืองบัวยังอยู่ก็บอกว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประเภทวิริยาธิกะก็มีแบ่งเพิ่มอีกตามระยะเวลาการบำเพ็ญบารมี เช่น พระสิขีจะต้องใช้เวลานานที่สุด รู้สึกว่าจะเคยมีพระสิขีมาแล้ว 5 หรือ 6 พระองค์ นับสมเด็จองค์ปฐมเป็นพระองค์แรก และพระสิขีที่สวดในอาฏานาฏิยะสูตรเป็นองค์ล่าสุด

 

ผมเห็นด้วยนะครับ กะข้อความนี้แต่ว่าองค์ปฐมที่ว่าเป็นของกัปป์ หรือ ของจักรวาล และก้อพระสูตรในอาฏานาฏิยะสูตร ยังมีชื่อพระพุทธเจ้าที่ยังไม่ได้เอ่ยนามอีกนะครับ อย่าลืมนะครับว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้บำเพ็ญบารมีมาแค่ 4 อสงไขย นานกว่านั้นครับ