พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. THANOP

    THANOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +421
    สังคมสมัยนี้น่าหดหู่ครับ มันมีทุกที่ทุกองค์กรครับ ตั้งแต่วิทยาลัยเก่าผมก็มี แตเชื่อเหอะผมว่าคนพวกนี้ไม่มีความสุขหรอก อย่างน้อยใจเราก็รู้ จริงมั้ยครับพี่ๆ
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วิธีป้องกันและควบคุมไข้หวัด 2009

    [​IMG]

    ปัจจุบัน การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ (เอช1 เอ็น1) กำลังขยายตัวไปทั่วโลก และขณะนี้ประเทศไทยพบการระบาดภายในประเทศแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานศึกษา และสถานประกอบการ ซึ่งอาจแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้มีอาการคล้ายกันกับไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ธรรมดา ส่วนใหญ่มีอาการน้อยและหายได้โดยไม่ต้องรับการรักษาที่โรงพยาบาล

    สำหรับ ผู้ป่วยจำนวนไม่มากในต่างประเทศที่เสียชีวิต มักเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคปอด หอบหืด โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน เป็นต้น ผู้มีภูมิต้านทานต่ำ โรคอ้วน ผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และหญิงมีครรภ์

    สำหรับ วิธีการติดต่อและวิธีการป้องกันโรค จะคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ธรรมดา กระทรวงสาธารณสุข จึงขอให้คำแนะนำในการป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ (เอช1 เอ็น1) ดังต่อไปนี้


    คำแนะนำสำหรับประชาชนทั่วไป


    1. ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้แอลกอฮอล์เจลทำความสะอาดมือ

    2. ไม่ใช้แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อนอาหาร ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ร่วมกับผู้อื่น

    3. ไม่ควรคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัด

    4. รักษาสุขภาพให้แข็งแรง ด้วยการกินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ดื่มน้ำมากๆ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

    5. ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัดและอากาศถ่ายเทไม่ดีเป็นเวลานาน โดยไม่จำเป็น

    6. ติดตามคำแนะนำอื่นๆ ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด

    คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่


    1. หากมีอาการป่วยไม่รุนแรง เช่น ไข้ไม่สูง ไม่ซึม และรับประทานอาหารได้ สามารถรักษาตามอาการด้วยตนเองที่บ้านได้ ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล ควรใช้พาราเซตามอลเพื่อลดไข้ (ห้ามใช้ยาแอสไพริน) นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำมากๆ

    2. ควรหยุดเรียน หยุดงาน จนกว่าจะหายเป็นปกติ และหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิด หรือใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น

    3. สวมหน้ากากอนามัยเมื่อจำเป็นต้องอยู่กับผู้อื่น หรือใช้กระดาษทิชชู ผ้าเช็ดหน้า ปิดปากและจมูกทุกครั้งที่ไอ จาม

    4. ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้แอลกอฮอล์เจลทำความสะอาดมือ โดยเฉพาะหลังการไอ จาม

    5. หากมีอาการรุนแรง เช่น หายใจลำบาก หอบเหนื่อย อาเจียนมาก ซึม ควรรีบไปพบแพทย์

    คำแนะนำสำหรับสถานศึกษา


    1. แนะนำให้นักเรียนที่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ พักรักษาตัวที่บ้านหรือหอพัก หากมีอาการป่วยรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์

    2. ตรวจสอบจำนวนนักเรียนที่ขาดเรียนในแต่ละวัน หากพบขาดเรียนผิดปกติ หรือตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปในห้องเรียนเดียวกัน และสงสัยว่าป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อสอบสวนและควบคุมโรค

    3. แนะนำให้นักเรียนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ เฝ้าสังเกตอาการของตนเองเป็นเวลา 7 วัน ถ้ามีอาการป่วยให้หยุดพักรักษาตัวที่บ้าน

    4. หากสถานศึกษาสามารถให้นักเรียนที่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ทุกคนหยุด เรียนได้ ก็จะป้องกันการแพร่กระจายเชื้อได้ดี และไม่จำเป็นต้องปิดสถานศึกษา แต่หากจะพิจารณาปิดสถานศึกษา ควรหารือร่วมกันระหว่างสถานศึกษากับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่

    5. ควรทำความสะอาดอุปกรณ์ สิ่งของ เครื่องใช้ที่มีผู้สัมผัสจำนวนมาก เช่น โต๊ะเรียน ลูกบิดประตู โทรศัพท์ ราวบันได คอมพิวเตอร์ ฯลฯ โดยการใช้น้ำผงซักฟอกเช็ดทำความสะอาดอย่างน้อยวันละ 1 - 2 ครั้ง จัดให้มีอ่างล้างมือ น้ำและสบู่อย่างเพียงพอ ในบางวันควรเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และแสงแดดส่องได้ทั่วถึง

    คำแนะนำสำหรับสถานประกอบการและสถานที่ทำงาน


    1. แนะนำให้พนักงานที่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ พักรักษาตัวที่บ้าน หากมีอาการป่วยรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์

    2. ตรวจสอบจำนวนพนักงานที่ขาดงานในแต่ละวัน หากพบขาดงานผิดปกติ หรือตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปในแผนกเดียวกัน และสงสัยว่าป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อสอบสวนและควบคุมโรค

    3. แนะนำให้พนักงานที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ เฝ้าสังเกตอาการของตนเองเป็นเวลา 7 วัน ถ้ามีอาการป่วยให้หยุดพักรักษาตัวที่บ้าน

    4. ในสถานการณ์ปัจจุบัน ยังไม่แนะนำให้ปิดสถานประกอบการหรือสถานที่ทำงาน เพื่อการป้องกันการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่

    5. ควรทำความสะอาดอุปกรณ์ สิ่งของ เครื่องใช้ ที่มีผู้สัมผัสจำนวนมาก เช่น โต๊ะทำงาน ลูกบิดประตู โทรศัพท์ ราวบันได คอมพิวเตอร์ ฯลฯ โดยการใช้น้ำผงซักฟอกทั่วไปเช็ดทำความสะอาดอย่างน้อยวันละ 1 - 2 ครั้ง จัดให้มีอ่างล้างมือ น้ำและสบู่อย่างเพียงพอ ในบางวันควรเปิดประตู หน้าต่างให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และแสงแดดส่องได้ทั่วถึง

    6. ควรจัดทำแผนการประคองกิจการในสถานประกอบการและสถานที่ทำงาน เพื่อให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง หากเกิดการระบาดใหญ่ (ดูรายละเอียดในเว็บไซต์ของสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค http://beid.ddc.moph.go.th)

    แหล่งข้อมูลการติดต่อ เพื่อปรึกษากับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่


    1. กรุงเทพมหานคร
    ติดต่อได้ที่ กองควบคุมโรค สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 0-2245-8106 , 0-2246-0358 และ 0-2354-1836

    2. ต่างจังหวัด
    ติดต่อได้ที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง

    ติดตามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข www.moph.go.th และ หากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการ กรมควบคุมโรค หมายเลขโทรศัพท์ 0-2590-3333 และศูนย์บริการข้อมูลฮอตไลน์ กระทรวงสาธารณสุข หมายเลขโทรศัพท์ 0-2590-1994 ตลอด 24 ชั่วโมง


    ที่มา:
    หนังสือพิมพ์ASTV ผู้จัดการ



    .
    วิธีป้องกันและควบคุมไข้หวัด 2009 | ThaiHealth.or.th


    .



    .

     
  3. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309
    หวัดดีคับพี่ๆทุกท่าน*-*
     
  4. Natachai

    Natachai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +937
    555 เจาะเวลาย้อยอดีต
     
  5. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    My pleasure krub but for this question I would like khun sithiphong will answer better than me .I just tell that very good krub .(sorry I use iPhone answer)
     
  6. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    พี่ที่ผมรู้จักท่านหนึ่งปรารถนาพระสมเด็จเพียงองค์เดียวจากเพื่อน ด้วยความเป็นเพื่อนก็สามารถให้ได้ครับ เพราะเขามีมากเหลือเกิน แต่อยากให้พี่เขาใช้ความสามารถหาเองไปก่อน หากไม่ได้จริงๆ ก็จะมอบให้ พี่ท่านนี้ก็เสาะหาจนมาพบกระทู้นี้ในเวบพลังจิต และแน่นอนครับ!! พี่ท่านนี้ก็สมหวังจริงๆ จนทุกวันนี้ มีพระสมเด็จมากมายจนไม่อยากได้อีกเลย...

    แปลกครับ เพียงคิดอยากได้เพียงองค์เดียว แต่มีวาสนากลับได้รับเป็นร้อยๆ
     
  7. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    พักผ่อนมากๆครับ ว่าแต่พรุ่งนี้จะไหวหรือเปล่าครับ..
     
  8. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    มีเยอะจนหมดความอยากเลยรึครับ จะมากมายขนาดไหนนะเนี่ย หลับตานึกภาพไม่ออกเลยจริงๆครับ
     
  9. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137


    ก่อนหน้านี้ก็วิตกถึงระดับน้ำที่ลดลงจนเกือบจะเหือดแห้ง

    มาวันนี้ กลับกลัวว่า มันจะท่วม

    นี่หนอ..ความไม่พอดี ความไม่แน่นอนของชีวิต มันเป็นอย่างนี้

    ภาคประชาชนก็ฝากความหวังกับทุกรัฐบาลให้มีการวางแผน แก้ปัญหาล่วงหน้า ทำงานให้เป็นมืออาชีพกันหน่อย ปัญหามันเกิดซ้ำซากทุกปี แต่กลับไม่มีวิธีการรับมือที่ดีขึ้น ทุกวันนี้ กลับเป็นไปในลักษณะว่า ผู้มีอำนาจสั่งการไม่ได้รู้เรื่อง คนรู้เรื่องกลับไม่มีอำนาจสั่งการใดๆ ได้เพียงเตือนภัยเท่านั้น...
     
  10. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    มาปูเสื่อรอฟังด้วยคนครับ
     
  11. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ชื่อพิมพ์มีความไพเราะเสนาะหูมากครับ ทำยังไงถึงจะได้มามั่งนะ...หุ...หุ..
     
  12. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ช่วยแปลให้ครับ..

    ด้วยความยินดีครับ แต่คุณสิทธิพงศ์สามารถตอบคำถามนี้ได้ดีกว่าผม ซึ่งในเบื้องต้นผมสามารถกล่าวได้ว่าดีมากครับ (ขอโทษด้วยครับที่ผมเขียนตอบด้วยภาษาอังกฤษ)
     
  13. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    วันนี้ได้เรียนเรื่องของกระษัยจากคัมภีร์กระษัย ทีแรกนึกว่าเป็นโรคกระษัยเส้นทั่วไป แต่เนื้อหากว้างมาก กระษัยเส้นเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาเท่านั้น ผู้หญิงก็มีโอกาสเป็นกระษัยได้เช่นกัน ยกเว้นกระษัยกล่อนดินที่เป็นกับผู้ชายเท่านั้น

    อยากให้ระมัดระวังกระษัยน้ำกันให้มากๆ ทางแผนปัจจุบันเขามีอาการแสดงผลเรียกว่า โรคทางเดินปัสสาวะ(แผนโบราณเรียกปัสสาวะพิการ) โรคกระเพาะ โรคมะเร็งลำไส้

    แยกกระษัยออกเป็น ๒ ประเภทใหญ่ๆคือ
    ๑. กระษัยอุปปาติกะ มี ๑๘ ประการ
    -กระษัยปลวก
    -กระษัยปู
    -กระษัยเต่า
    -กระษัยปลาหมอ มีจิตวิญญาณ
    -กระษัยปลาดุก มีจิตวิญญาณ
    -กระษัยจุก
    -กระษัยเสียด
    -กระษัยท้น
    -กระษัยล้น
    -กระษัยราก
    -กระษัยลิ้นกระบือ
    -กระษัยดาน
    -กระษัยเหล็ก
    -กระษัยปลาไหล
    -กระษัยเชือก
    -กระษัยไฟ
    -กระษัยน้ำ
    -กระษัยลม
    ๒. กระษัยเกิดจากกองธาตุสมุฏฐาน มี ๘ ประการ
    -กระษัยกล่อนดิน
    -กระษัยกล่อนน้ำ
    -กระษัยกล่อนลม
    -กระษัยกล่อนไฟ
    -กระษัยกล่อนเถา
    -กระษัยไฟ
    -กระษัยน้ำ
    -กระษัยลม

    เนื้อหาเยอะครับ ผมได้ความรู้ว่า การแยกแยะแบบนี้ เนื่องจากสาเหตุที่เป็นการรักษาที่สาเหตุของโรค ส่วนแผนปัจจุบัน รักษาตามอาการโรค เช่นปวดท้อง ก็รักษาที่ท้อง ทั้งๆที่ต้นเหตุมาจากเส้นที่เท้าลามตึงไปที่สลักเพชร แล้วไปที่ท้องน้อย จนขึ้นไปที่อกแบบนี้...

    โรคกระษัยไม่ใช่โรคธรรมดาเสียแล้วครับ ก็ระมัดระวังรักษาตัวกันนะครับ

    เอาไว้จะบอกตัวยา 31 ชนิดที่ใช้รักษากระษัยทั้งปวงหากสนใจหายารักษา หรือป้องกันกันนะครับ
     
  14. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ตัวยาที่ใช้รักษากระษัยทั้งปวง
    ๑) สมอดีงู และสมอไทย หนักสิ่งละ ๒๐ บาท
    ๒) แสมทั้ง ๒ ใบมะกา ใบมะดัน แก่นขี้เหล็ก บอระเพ็ด รากช้าพลู เกลือ สิ่งละ ๑๐ บาท
    ๓) แก่นลั่นทม เถาวัลย์เปรียง ใบส้มป่อย ใบมะขาม ดอกคำฝอย กะเพรา ดอกดีปลี เถาสะค้าน รากเจตมูลเพลิง ยาดำ ดินประสิว หนักสิ่งละ ๕ บาท
    ๔) เทียนทั้ง ๙ หนักสิ่งละ ๒ บาท
    ๕) ฝักราชพฤกษ์(ฝักคูน) ๓ ฝัก ใช้เนื้อในฝัก

    นำทั้งหมดต้มรวมกัน รับประทานก่อนอาหาร ๓ มื้อ เช้า-กลางวัน-เย็น ครั้งละ ๒-๓ ช้อนโต๊ะ
     
  15. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    มีคำถามมาให้ทายกันสนุกๆครับ..

    1 ) สถานที่นี้เป็นสถานที่ไหน?
    2 ) กระบวยตักน้ำมากมายนี้ เอาไว้ตักน้ำมาทำอะไร?
    3 ) คติธรรมที่ได้จากภาพนี้ คืออะไร?

    คำถามยากไปหรือเปล่าครับ ท่านใดตอบถูกทั้ง 3 ข้อ ในเมื่อคำถามเกี่ยวกับน้ำ ผมขอมอบน้ำสรงพระบรมสารีริกธาตุส่วนทักษิณโมลีธาตุ(กระดูกกระหม่อมเบื้องขวา)ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระองค์ท่านพระราชทานน้ำสรงแก่ทางวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหารให้ท่านละ ๑ ขวด

    แม่ชีท่านหนึ่งเห็นเพื่อนของเราท่านหนึ่งในนี้นำไปฉีดประพรมตามมุมห้อง เห็นเป็นแสงสว่างขึ้นมา เกิดความสงสัยจึงได้สอบถามเพื่อนของเราท่านนี้ จึงได้ทราบความจริงว่าเป็นน้ำสรงพระทักษิณโมลีธาตุนั่นเอง น้ำสรงนี้ใช้ไม่มีวันหมดครับ เพราะสามารถนำไปต่อเชื้อได้ใหม่ โดยเททับน้ำสะอาดในภาชนะใหม่ ห้ามนำน้ำสะอาดใหม่เททับน้ำสรงของเดิมโดยเด็ดขาด..

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#e6faff width=20></TD><TD bgColor=#e6faff>[FONT=Tahoma, MS Sans Serif]คนเกิดปีใจ้ [ปีชวด นักษัตรหนู ธาตุน้ำ][/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]พระธาตุศรีจอมทอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ [/FONT]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]ประดิษฐาน :: พระทักษิณโมลีธาตุ(กระดูกกระหม่อมเบื้องขวา)[/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]คำบูชาพระธาตุ [/FONT]
    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]นะโมพุทธายะ นะมามิ ติโลกะโมลี โลหะกูเฏ ปะติฏฐิตัง ปูชิตัง สัพพะโลเกหิ กิตฺติมันตัง มะโนหะลัง อะหังวันทามิ สัพพะทาฯ อังคะวะหะเย ปุเรระมะเน โกวิลา ลัคฺคะปัพพะตา สะหิเหมะคูหา คัพฺเภ ทักขิณะโมลี ธาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะทาฯ[/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    โพสนี้ ผมตอบโดยใช้ Mozilla Firefox

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พี่อีกท่าน ก็สวดมนต์ชินบัญชรมาหลายปี หวังแต่เพียงขอพระสมเด็จที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อธิษฐานจิตไว้ก่อนปี พ.ศ.2415 สัก 1-2 องค์

    ปัจจุบัน มีไม่น้่อยกว่า 700 องค์

    มีพระสมเด็จกรมท่า(ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อธิษฐานจิตไว้ก่อนปี พ.ศ.2415) ไม่น้อยกว่า 5,000 องค์ครับ


    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ยกย่อง ไตรภูมิพระร่วง เป็นสุดยอดวรรณคดี


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]



    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube , salahtoon

    กรรมการวรรณคดีแห่งชาติ ประกาศยกย่อง ไตรภูมิพระร่วง เป็นสุดยอดวรรณคดีสมัยสุโขทัย เพราะมีคุณสมบัติครบถ้วน

    ศ.รื่นฤทัย สัจจพันธุ์ กรรมการวรรณคดีแห่งชาติ แถลงผลการคัดสรรวรรณกรรมที่แต่งในสมัยสุโขทัย ซึ่งมีให้พิจารณาจำนวน 5 เรื่อง ดังนี้

    [​IMG] 1. จารึกหลักที่ 1 ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง

    [​IMG] 2. จารึกหลักที่ 2 ศิลาจารึกวัดศรีชุม

    [​IMG] 3. จารึกหลักที่ 3 ศิลาจารึกนครชุม

    [​IMG] 4. สุภาษิตพระร่วง

    [​IMG] 5. ไตรภูมิกถา หรือ ไตรภูมิพระร่วง

    ซึ่งยอดวรรณคดีสมัยสุโขทัย ที่ถูกยกย่อง คือ ไตรภูมิกถา หรือ ไตรภูมิพระร่วง ที่เป็นวรรณคดีเก่าแก่อายุกว่า 600 ปี ที่พระราชนิพนธิ์ขึ้นในปี พ.ศ.1888 โดย พระมหาธรรมราชาที่ 1 หรือ พระยาลิไท พระมหากษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัยองค์ที่ 7

    สำหรับวรรณคดี ไตรภูมิกถา หรือ ไตรภูมิพระร่วง เรื่องนี้ มุ่งเน้นสอนศีลธรรม และบาปบุญคุณโทษ นรก สวรรค์ หวังให้ประชาชนยึดมั่นในคุณงามความดี ตามความเชื่อที่มีมายาวนาน จึงทำให้คณะกรรมการวรรณคดีแห่งชาติ มีมติยกย่องให้ วรรณคดีไตรภูมิพระร่วง เป็น สุดยอดวรรณคดีสมัยสุโขทัย

    โดย ศ.รื่นฤทัย เปิดเผยว่า วรรณคดีเรื่องนี้ เป็นเรื่องมีคุณค่าสะท้อนให้เห็นถึงการสร้างสรรค์ และมีคุณสมบัติครบถ้วน ทั้งในเชิงวรรณคดีไทย ศาสนา ศิลปกรรม สังคม เป็นบทประพันธ์ร้อยแก้วที่มีศัพท์ทางศาสนา และศัพท์สมัยโบราณ ที่สามารถนำมาเป็นตัวอย่างทางการศึกษาได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นได้ด้านอักษรศาสตร์ การอุปมาอุปไมย ให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจ และเห็นภาพชัดเจน

    ขณะที่ ศ.ประเสริฐ ณ นคร ประธานกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย กล่าวว่า เด็กไทยในปัจจุบัน ไม่ค่อยได้เรียนรู้เรื่องวรรณคดีเท่าที่ควร เห็นได้จากเพลงในสมัยนี้ ที่ไม่ค่อยมีคำคล้องจอง หรือลงสัมผัสเลย ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดจากการละเลยการฝึกฝน และการยัดเยียดให้เสพสื่อจนเคยชิน จึงจะต้องให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเร่งแก้ไขโดยด่วน





    ไตรภูมิพระร่วง



    สัตว์ ใน ไตรภูมิพระร่วง



    สัตว์ ใน ไตรภูมิพระร่วง


    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
    [​IMG]


    Ǹ.


    .

    http://hilight.kapook.com/view/52305

    .



    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...