ทำบุญอะไรอานิสงส์เท่ากับบวชพระ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย สายชน, 12 ตุลาคม 2010.

  1. สายชน

    สายชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +1,232
    ผมเป็นคนพิการบวชพระไม่ได้ก็เลยอยากรู้ว่าทำบุญอะไร อานิสงส์ เท่ากับ บวชพระ
     
  2. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    บวชพระไม่ได้ก็เป็นพระได้นะครับพระนี่แปลว่าประเสริฐ เราทำจิตใจให้ดีละสังโยชน์ 3 เป็นโสดาบันเลยยิ่งดี การที่จะเป็นพระนี่พระพุทธองค์ไม่ได้เรียกภิกษุทั้งหมดว่าเป็นพระคือบวชเข้ามาแล้วถ้าไม่ได้เป็นอริยบุคคลก็ยังไม่เรียกว่าพระเป็นสมมติสงฆ์ กลับกันถ้าเป็นพระอริยบุคคลถึงเรียกว่าพระได้ พยายามอยู่กับปัจจุบันให้ได้ศึกษาธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รักษาศีล มีธรรมบริสุทธิ์ก็เป็นพระแล้วครับ
     
  3. suko

    suko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    308
    ค่าพลัง:
    +333
    เห็นด้วยทุกประการครับ ทุกอย่างอยู่ที่ใจตัวเดียวเท่านั้น
     
  4. ณัฐธยาน์12

    ณัฐธยาน์12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +612
    ลองบวชจิต หรือบวชในดูก็ได้คะ

    หลวงปู่ดู่ปรารภเรื่อง การบวชจิต-บวชใน
    การบวชจิต-บวชใน


    หลวงปู่ปรารภว่า...


    จะเป็นชายหรือหญิงก็ดี ถ้าตั้งใจประพฤติปฏิบัติมีศีล
    รักในการปฏิบัติจิตมุ่งหวังเอาการพ้นทุกข์เป็นที่สุด
    ย่อมมีโอกาสเป็นพระกันได้ทุกๆ คนมีโอกาสที่จะบรรลุมรรค ผล นิพพาน
    ได้เท่าเทียมกันทุกคนไม่เลือกเพศ เลือกวัย หรือฐานะ แต่อย่างใด

    ไม่มีอะไรจะมาเป็นอุปสรรคในความสำเร็จได้ นอกจากใจของผู้ปฏิบัติเอง
    ท่านได้แนะเคล็ดในการบวชจิตว่า.....


    " ในขณะที่เรานั่งสมาธิเจริญภาวนานั้น
    คำกล่าวว่า


    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
    ให้นึกถึงว่าเรามีพระพุทธเจ้าเป็นพระอุปัฌาย์ของเรา


    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ...
    ให้นึกว่าเรามีพระธรรมเป็นพระกรรมวาจาจารย์


    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ...
    ให้นึกว่าเรามีพระอริยสงฆ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์


    แล้วอย่าสนใจขันธ์ 5 หรือร่างกายเรานี้ ให้สำรวมจิตให้ดี
    มีความยินดีในการบวช


    ชายก็ตั้งจิตเป็นพระภิกษุ
    หญิงก็ตั้งจิตเป็นพระภิกษุณี


    อย่างนี้จะมีอานิสงส์สูงมาก
    จัดเป็นเนกขัมบารมีขั้นอุกฤษฎ์ทีเดียว "

    ---------------------------------------------------



    แกนึกถึงข้า ข้าก็นึกถึงเอง ...

    กายทิพย์ของเรานั้นหากก่อนภาวนาเราได้ตั้งจิตบวชพระแล้ว
    ระหว่างที่ภาวนาอยู่กายทิพย์เราก็เป็นพระมีรัศมีกายทิพย์สว่างมาก
    อย่างนี้จะมีอานิสงส์พลังบุญสูงมาก
    ภาวนาได้ง่าย เนื่องจากตั้งจิตไว้ในศีลและฐานะอันสูง
    อย่างนี้เรียกว่าบวชจิต ซึ่งการบวชจิตด้วยใจกุศลศรัทธานั้น
    มีอานิสงค์ดีกว่าผู้ที่บวชรูปลักษ์ภายนอกแล้วไม่บวชจิตเสียอีก
    แต่หากบวชได้ทั้งนอกและในอานิสงค์ก็ทวีคูณแต่สำหรับ
    ฆราวาสผู้ครองเรือนนั้นเวลาสวดมนต์หรือภาวนาทำสมาธิ
    ตั้งจิตบวชเป็นพระแล้วอานิสงค์มากภาวนาได้ง่าย

    ขอบคุณข้อความจากคุณ WISDOM คะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2010
  5. ณัฐธยาน์12

    ณัฐธยาน์12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +612
    อานิสงส์ของการบวชจิตจากคำสอนของหลวงตาม้า

    การบวชจิต บวชในเนี่ย เป็นสูตรของหลวงปู่ดู่ท่านเลยนะ
    หลวงปู่ดู่ท่านบอกว่า
    การบวชทั้งในและนอกมันลำบากในยุคนี้
    เราบวชใน คนไม่รู้....
    แต่ผีรู้ เทวดารู้
    การบวชในเป็นกรรมฐานอย่างหนึ่ง

    เวลาทำบุญให้นึกว่าตัวเองเป็นพระ
    ...จะได้ชิน..ถ้าทำบ่อยๆ จะเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ

    บวชในยากกว่าบวชนอก
    เวลาทำความดีอะไรก็ตาม
    ให้นึกว่าตัวเองเป็นพระ
    มันจะปรับออกมาข้างนอกเอง
    เป็นการบวชจากข้างในไปหาข้างนอก
    ข้างนอกก็คือรูปลักษณ์ที่เป็นพระ
    พอเราบวชแล้วเราจะไม่กล้าทำอะไรที่ไม่ดี
    เวลาเราแผ่บุญออกไป พลังงานก็ผ่านเราออกไปได้มากกว่าไม่ได้บวช
    เพราะข้างในเราเป็นพระ

    พลังงานเนี่ย จะผ่านพระได้มากกว่าฆราวาสนะ
    ลองคิดดูสิ เราเป็นพระนะ แค่เรานึกเนี่ย ก็เป็นแล้ว

    ทำไม่เกิน ๓ ปี
    จะรู้สึกว่าเราเป็นพระ
    เรื่องอะไรที่ไม่ดีเราจะไม่พูด ไม่ทำ
    แม้แต่ในฝัน ยังเป็นพระเลย

    บวชจิตแล้วต้องสึกไหม..ไม่ต้อง
    มันไม่เกี่ยวกัน เรื่องโลกกับเรื่องธรรมเป็นคนละเรื่อง
    เวลาอยู่ทางโลกก็อยู่ไป เมื่อไรอยู่ทางธรรมเราก็บวชใน

    ตื่นขึ้นมาก็ให้ทำแล้ว
    กราบพระ ๖ ครั้ง
    แล้วทำวัตรสั้นๆ
    อาราธนาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ตั้งแต่องค์ปฐมถึงองค์ปัจจุบัน
    เวลากินข้าว อาบน้ำ เวลาว่าง
    เวลานอน ให้สวดจนกว่าจะหลับ

    ๓ ปี จะรู้สึกว่าข้างนอกจะเปลี่ยน

    ขออนุญาตคุณ chingchamp ด้วยคะ
    จากข้อความของคุณ chingchamp คะ
     
  6. lovekling

    lovekling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +135
    อ่านกระทู้ของท่าน จขกท. แล้วรู้สึกว่าตัวเองแย่มากครับ ครบ 32 ประการ มีโอกาสบวช แต่ด้วยความไม่รู้ ไม่ได้ปฏิบัติตนให้ดีพร้อม ทำให้รู้สึกผิดมาจนทุกวันนี้ และ จะหาโอกาสบวชอีกซักครั้งอย่างตั้งใจจริงครับ
    อนุโมทนากับทุกความเห็นนะครับ
     
  7. สายชน

    สายชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +1,232
    ขอคุณมากครับที่ให้ความเห็นกับผมทุกวันนี้ก็รักษาศีล5และสวดมนต์ตามแบบหลวงพ่อฤษีลิงดำกับหลวงปู่ดู่คือสวดคาถาจักพรรรดิ์เป็นอารมณ์แล้วกำพระไว้ในมือบางที่ก็เห็นเป็นแสงสว่างจะองค์พระสีเขียวบ้างขาวบ้างสว่างบ้างก็พยายามทำทุกวันไม่ได้ขาดมาหลายเดือนแล้ว
     
  8. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ไม่มีบุญอะไรเท่ากับบวชพระครับ

    ดังนั้น ทำเท่าที่ได้ครับ เริ่มต้นจากบวชใจ และรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ครับ

    โมทนา
     
  9. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369

    สร้างพระพุทธรูปครับ

    บวชพระนั้น เป็นการสร้างพระที่เป็นคน หรือจะเรียกอีกนัยหนึ่งว่า ทำคนให้เป็นพระ

    ส่วนสร้างพระพุทธรูปนั้น เป็นการสร้างองค์แทนสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธรูปที่สร้างอยู่ได้นับร้อยนับพันปี เป็นของคู่บ้านคู่เมือง เป็นที่เคารพของทั้งสามโลก เพราะฉะนั้น อานิสงส์ตรงนี้มหาศาลมาก

    เวลาที่จะทำบุญใหญ่ให้กับเจ้ากรรมนายเวร บุญใหญ่จริงๆก็จะมีบวชพระ และสร้างพระพุทธรูปถวายนี่แหละครับ
     
  10. gaiou419

    gaiou419 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +716
    หลวงพ่อจรัญเคยว่าไว้ว่า ผู้เจริญสติปัฏฐานสี่ดีๆ มีิอานุสงค์ยิ่งกว่าบวชพระแบบจิ้มๆจ้ำๆนะคะ
    ถือศีล สวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม ฝึกรู้ตัว รู้สติตลอด
    เอาใจช่วยนะคะ ขออนุโมธนาให้กับความตั้งใจปฏิบัติดีของคุณ จะดูไว้เป็นตัวอย่างค่ะ
     
  11. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    เลือกเอาตามสบายเลยครับ สาธุ สาธุ สาธุ

    38 อานิสงส์ถวายสัพพทาน
    ...... ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทานของสัปบุรุษเหล่านี้ ๘ อย่าง คือ ๑. ให้ของที่สะอาด
    ๒. ให้ของประณีต ๓. ให้ถูกกาล ๔. ให้ของที่สมควร ๕. เลือกให้ ๖. ให้เสมอ ๆ
    ๗. กำลังให้ยังจิตให้เลื่อมใส ๘. ครั้นให้แล้วปลื้มใจ สัปปุริสทาน ๘ อย่างนี้ประเสริฐยิ่งนักหนา
    ในกาลครั้งนั้น องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าก็สถิตสำราญอยู่ในป่าเชตวันอันเป็นอารามของนาย
    อนาถปิณฑิกมหาเศรษฐีอยู่ในที่ใกล้ ๆ นครสาวัตถี

    ในกาลครั้งนั้นมีพระยาองค์หนึ่ง ชื่อ มหานามะ ก็เอา ประธูปประทีปคันธรสของหอม
    แล้วพาหมู่บริวารทั้งหลายเข้าไปสู่ที่เฝ้าพระสัพพัญญูเจ้า แล้วก็นั่งในที่
    ควรแห่งหนึ่ง จึงทูลถามพระสัพพัญญูเจ้าว่า “ภนฺเต ภควา” ข้าแต่องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าบุคคลผู้ใด
    เลื่อมใสศรัทธา มาก่อสร้างสัพพาทานหลาย ๆ ชนิด ก็จักมีอานิสงส์ดังรือพระเจ้าข้า “ภควา” อันว่าองค์


    ... สมเด็จพระศาสดาจารย์เจ้าจึงเทศนาว่า ดูกรมหาบพิตร นรชนหญิงชายทั้งหลายมีใจเลื่อมใสศรัทธา
    มาก่อสร้างสัพพาทานหลาย ๆ ชนิดเป็นต้นว่า

    สร้างพระพุทธรูปก็จักได้อานิสงส์ ๙ กัลป
    สร้างพระไตรปิฏกธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ก็ได้อานิสงส์ ๑๐ กัลป
    ผู้ใดได้บวชตนเป็นสามเณร ก็จักได้อานิสงส์ ๑๒ กัลป
    ผู้ไดได้บวชตนเป็นพระภิกษุ ก็จักได้ อานิสงส์ ๒๔ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างพระธาตุเจดีย์ก็จักได้อานิสงส์ ๘๐ กัลป
    ผู้ใดได้ปลูกไม้ศรีมหาโพธิ์ ก็จักได้อานิสงส์ ๙ กัลป
    ผู้ใดให้โภชะนังยังข้าวน้ำ โภชนะอาหารให้เป็นทานแก่ภิกษุสามเณร ก็จักได้บริวารแสนหนึ่ง
    ผู้ใดได้สร้างเจดีย์ทรายก็จักได้อานิสงส์ ๖๐ กัลป
    ผู้ใดสร้างกุฏีให้เป็นทานก็จักได้อานิสงส์ ๔๐ กัลป
    ผู้ใดสร้างอุโบสถให้เป็น ทานก็จักได้อานิสงส์ ๔๐ กัลป
    ผู้ใดสร้างกฐินให้เป็นทานก็จักได้อานิสงส์ ๘๐ กัลป
    ผู้ใดสร้างอารามให้เป็นทานก็จักได้อานิสงส์ ๔๐กัลป
    ผู้ใดสร้างพัทธสีมาให้เป็นทานก็จักได้อานิสงส์ ๑๐๐ กัลป
    ผู้ใดได้บวชบุรุษผู้อื่นให้เป็นพระภิกษุก็จักได้อานิสงส์ ๘ กัลป
    บวชบุตรตนเองให้เป็นภิกษุ ก็จะได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ภรรยาบวชสามีของตนให้เป็นสามเณร ก็จักได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ภรรยาบวชสามีของตนให้เป็นพระภิกษุ ก็จักได้อานิสงส์ ๓๒ กัลป
    สามีบวชภรรยาให้เป็นภิกษุณี ก็จักได้อานิสงส์ ๖๔ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างพระเจดีย์ธาตุข้าวเปลือกให้เป็นทาน ก็จักได้อานิสงส์ ๓๑ กัลป
    ผู้ใดสร้างพระเจดีย์ธาตุข้าวสารให้เป็นทานได้อานิสงส์ ๔๒ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างพระเจดีย์ธาตุเหลือให้เป็นทาน ก็จักได้อานิสงส์ ๖๔ กัลป
    ผู้ใดสร้างรั้วล้อมอาราม ได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดปัดกวาดขยะมูลฝอยถอนเสียจากเขตอารามได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดสร้างศาลาสะพานบ่อน้ำให้เป็นทานได้อานิสงส์ ๓๐ กัลป
    ผู้ใดได้ถวายดอกไม้ธูปเทียนได้อานิสงส์ ๘ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างอัฏฐให้เป็นทานได้อานิสงส์ ๓๖ กัลป
    ผู้ใดได้ถวายจีวรเถราภิเษก ได้อานิสงส์ ๓๒ กัลป
    ผู้ใดถวายผ้าป่าได้อานิสงส์ ๔๐ กัลป
    ผู้ใดให้ฝาผนังและเพดานเป็นทานได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดสร้างธงฝ้าย ธงผึ้ง ธงชัย ธงชาย ธงเหล็ก บูชาพระรัตนตรัย ได้อานิสงส์ ๖๔ กัลป
    ผู้ใดสร้างขันหมากเบ็งบูชาระรัตนตรัย ได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดถวายซึ่งข้าวพันก้อนบูชาพระรัตนตรัยได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดถวายผ้าอาบน้ำฝน และผ้าจำนำพรรษา ได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดสร้างปราสาทดอกผึ้งให้เป็นทาน ได้อานิสงส์ ๓ กัลป
    ผู้ใดสร้างต้นกัลปพฤกษ์ให้เป็นทานได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป์
    ผู้ใดสร้าง ฆ้อง กลอง แคน ซอ หอยสังข์ ปี่ แตร แตรวง ดนตรีให้เป็นทานได้อานิสงส์ ๖๐ กัลป
    ผู้ใดได้ถวายเสื่อสาดอาสนะได้อานิสงส์ ๔ กัลป
    ผู้ใดถวายเตียงเก้าอี้ฟูกเบาะให้เป็นทาน ได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดได้ปลูกกุฏีกรรมให้พระภิกษุเข้าปริวาสกรรม และมานัตตกรรม ได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างบั้งไฟจุดบูชาพระรัตนตรัย ได้อานิสงส์ ๔ กัลป ผู้ได้สร้างพัทธสีมาน้ำได้อานิสงส์ ๖๗ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างธรรมาสน์ ได้อานิสงส์ ๓๒ กัลป ผู้ใดได้สร้างเวจกุฏี ได้อานิสงส์ ๔๐ กัลป
    ผู้ใดได้เผาซากศพที่ตกเรี่ยราดอยู่ตามป่าตามดง ได้บริวารหมื่นหนึ่ง
    ผู้ใดได้เผาศพญาติมิตรสหาย ได้บริวาร ๓ หมื่น
    ผู้ใดได้เผาศพบิดามารดาได้บริวารหนึ่งแสน
    ผู้ใดได้เผาศพอุปัชฌาย์อาจารย์ ได้บริวารโกฏิหนึ่ง
    ผู้ใดได้ถวายโอ่งน้ำ และส้วมอาบน้ำ และครุตักน้ำก็ได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป

    สัพพทานทั้งหลายชนิดเหล่านี้บุคคลผู้ใดมีศรัทธากล้าหาญอาจสละสมบัติออกสร้างวัตถุประสงค์
    ดังแสดงมานี้ ก็มีอานิสงส์ผลบุญพูนสุขในชั่วนี้และชั่วหน้า

    อานิสงส์ที่ได้ปัจจุบันนี้คือ จะไปมาทางใดก็มีคนนับหน้า
    ถือตาไม่ได้เป็นที่รังเกียจของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง มีแต่ผู้อยากให้ร่วมกินร่วมอยู่ทั้งนั้น เราจะเข้าไปสู่
    สมาคมใด ๆ ก็ไม่ครั้นคร้ามสยดสยองเกรงกลัวต่ออำนาจผู้ใด การทำมาหากินก็สมความมุ่งมาตร
    ปรารถนาสมประสงค์ ครั้นสิ้นบุพพกรรมมนุษย์ในโลกนี้แล้ว ก็จะถือเอาตนเมื่ออุบัติขึ้นบนสวรรค์ชั้น
    ดาวดึงสายามาตุสิตาโดยลำดับ จนถึงพรหมโลก ครั้นจุติจากพรหมโลกลงมาเกิดในมนุษย์โลก ก็ไม่ได้
    ไปเกิดในหิเนกุลชั่วร้าย และจักได้ไปเกิดในตระกูลท้าวพระยามหากษัตริย์ หรือตระกูลพราหมณ์ผู้มั่ง
    ครั่งมั่งมีเศรษฐีกฎุมพีแล้วก็จักได้ทัวระวัดไปมาบารมีแก่กล้า ก็จะได้บ่ายหน้าเข้าสู่เมืองแก้วนิรพาน พอ
    จบธรรมเทศนาแห่งองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าลง สมเด็จพระเจ้ามหานามะ ก็ได้ตั้งอยู่ในไตรสรณคมณ์
    สามส่วนบริษัททั้งหลาย ก็ได้ถึงโสดาสกิทาคา อนาคา อรหันต์
     
  12. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    การบวชพระคือการสร้างส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัย ส่วนการสร้างบุญอื่นๆเป็นการสร้างสิ่งที่ส่งเสริมพระรัตนตรัย ก็ลองคิดดูครับว่าทำไมการบวชเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่
     
  13. อินทรี

    อินทรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +562
    การทำจิตให้สงบ บวชกายไม่ได้ แต่บวชใจได้ บวชใจได้จากทำสมถะกรรมฐานและวิปัสสนาภาวนากรรมฐาน แต่บวชใจให้สงบได้ต้องอาศัยอินทรีย์5 มีศรัทธาและความเพียร
    เปนต้นและวิธีการภาวนาที่เหมาะสม เรียกว่า "บวชด้วยการเจริญพระกรรมฐาน" ที่แน่ๆ
    กรรมฐานเมื่อภาวนาได้แล้วจะทำให้ได้สมถะและวิปัสสนาเมื่อเข้าถึงสองสิ่งนี้จะเข้าใจถึงที่สุดของศีล:cool: สมาธิ และ({)ปัญญาตามลำดับครับ
     
  14. รัก_D

    รัก_D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2008
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +1,096
    บทสวดมหาจักรพรรดิ

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (ตั้ง3 จบในครั้งแรกภาวนารอบต่อไปไม่ต้องตั้งก็ได้)

    นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ
    มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
    พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ
    พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
    อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง
    อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย
    อะหังวันทามิ สัพพะโส
    พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ


    เชิญพระเข้าตัว แผ่บุญปรับภพภูมิส่งวิญญาน

    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา
    พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง
    อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส
    ( 3 หรือ 5 จบ)

    พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ

    (ให้อธิฐานจิตแผ่)
    อ้างอิง
     
  15. AiiFAR

    AiiFAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +194
    ถ้าเป็นผู้หญิงบวชจิตละคะ ? ต้องทำตัวอย่างไรบ้าง
    ต้องรักษาศีลที่ใจ 311 ข้อเลยรึเปล่า จะต้องสำรวมใจยังไงบ้าง ฟังเพลงได้มั้ย
    ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ
     
  16. ณัฐธยาน์12

    ณัฐธยาน์12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +612
    ตามที่โพสท์ไ้ว้เลยคะ เอาช่วงที่เรานั่งสมาธิก็ได้ ให้นึกว่าเราเป็นพระ แล้วก็ทำสมาธิไปเรื่อยๆคะ เพราะช่วงนั้น ศีลเราน่าจะครบทุกข้อนะคะ :cool:
     
  17. เขตปกครอง230

    เขตปกครอง230 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +324
    แหม...ยังอยากจะฟังเพลงอีกเนอะ งั้นเธออย่าบวชเลยอยู่บ้านเหอะ อุโบสถศีลก็ไม่ผ่านแล้วล่ะ
     
  18. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,458
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    ก่อนอื่นเลย ผมอยากให้คุณ สายชน มาโหลดหนังสือ " ชีวิตเป็นอย่างนี้ " ใต้ comment ของผมไปอ่านครับ อ่านให้จบเลยครับ จะได้คิดอะไรได้อีกหลายอย่าง ส่วนเรื่องบุญนั้น ไม่มีอะไรมากครับ คุณ สายชน ต้องมี ศีล สมาธิ เเละปัญญา เเละ 3 สิ่งนี้นั้นจะได้มาจากการรักษาศีลห้า การสวดมนต์ เเละการนั่งสมาธิของเราในทุกๆวันครับ หลังจากที่คุณ สายชน นั่งสมาธิเสร็จเเล้วก็เเผ่เมตตาไปให้ทั่วทั้งจักรวาล คือเเผ่เเบบไม่เฉพาะเจาะจง เเผ่ให้ทุกคน ทุกสรรพสิ่ง ทําอย่างนี้ในทุกๆวันครับ จากที่ผมศึกษามา ไม่มีบุญอะไรที่มีอานิสงส์มากกว่าการนั่งสมาธิเพื่อละกิเลสเเละชําระล้างจิต ใจของเราให้บริสุทธิ์อีกเเล้วครับ คุณ สายชน สามารถนําไปปฏิบัติได้เลยครับ อ่านตามนี้เเล้วกันครับคุณ สายชน ผมจัดมาให้เเล้ว ทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับการนั่งสมาธิเเละวิปัสสนา คุณ สายชน เข้าไปโหลด อ่านเเล้วนําไปปฏิบัติได้เลยครับ ขอเเนะนําอีกอย่างคือ คุณ สายชน สามารถนอนสมาธิให้หลับไปในทุกๆวันได้ครับ วิธีคือนอนตัวตรง เอามือกุมไว้ที่อกหรือท้องก็ได้เเล้วเเต่ถนัด เเล้วก็หายใจเข้าพุท หายใจออกโธ ทําอย่างนี้จนให้หลับไปในทุกๆวันกับคําบริกรรมครับ ว่ากันว่าหากเราทําถึงขั้นที่เป็นณานเเล้ว จะเท่ากับว่า เราจะได้ณานตลอดจนกระทั่งตอนที่เราตื่นลืมตาขึ้นมาครับ ยังไงการปฏิบัติธรรม เราปฏิบัติเพื่อละกิเลส คุณ สายชน ไม่ต้องไปยึดติดในเรื่องบุญนะครับ ยังไง เราปฏิบัติดี เราก็ได้บุญอยยู่เเล้วครับ ไม่ต้องเป็นกังวลกับจุดนี้ ขอให้เราตั้งใจเพื่อละเกิเลสเป็นที่ตั้งไว้ดีที่สุดครับ เป็นกําลังใจให้ครับ เจริญในธรรมครับ

    วิธีนั่งสมาธิขั้นเบื้องต้นของหลวงพ่อฤาษีลิงดํา

    http://www.palungjit.org/smati/books/index.php?cat=420

    อุปสรรคและวิธีแก้ไขในการทำสมาธิ

    http://palungjit.org/threads/อุปสรรคและวิธีแก้ไขในการทำสมาธิ.217531/


    เวปเรียนปริยัติธรรม on line เรียนฟรีครับ เข้าไปในเวปเเล้วดูที่ซ้ายมือครับ จะมีบทเรียนอยู่ ลองเรียนดูนะครับ จะได้เข้าใจถึงเเก่นเเท้ของพระพุทธศาสนาครับ

    http://www.buddhism-online.org/web/

    ชั้นของสมาธิ ( ฟังกันหลงเรื่องนิมิตในสมาธิ )

    http://palungjit.org/threads/ขั้นของสมาธิ.1589/

    อาการของปีติ

    http://palungjit.org/threads/อาการของปีติ.1649/

    ส่วนเรื่องของการวิปัสสนา ผมขอเเนะนําหนังสือ 2 เล่มนี้ให้ไปอ่านครับ จะได้ปฏิบัติในด้านของการวิปัสสนาได้อย่างถูกต้องครับ

    1. หนังสือวิปัสสนาภูมิ

    เล่มนี้เป็นวิธีสอนการวิปัสสนาอย่างถูกต้อง เข้าไปในเวปที่ให้มาเเล้วเลื่อนลงไปเรื่อยๆจะเจอหนังสือครับ เจอเเล้ว download ได้เลยครับ อนุโมทนาครับ

    http://www.kanlayanatam.com/booknaenam_.htm

    2. หนังสือ สติปัฏฐาน ๔ ( หนังสือเล่มนี้สอนให้เราดูจิตของเราอย่างถูกต้องครับ ใครดูจิตได้ตามในหนังสือนี้ การบรรลุธรรมอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมเเน่นอน )

    เ้้ข้าไปเเล้วค่อยๆเลื่อนลงเเล้วหาดูครับ อยากให้อ่านครับ จะได้นําไปปฏิบัติได้อย่างถูกทางครับ

    http://www.kanlayanatam.com/booknaenam.htm

    ฝากหนังสือ " ชีวิตเป็นอย่างนี้ " ใต้ comment ผมให้โหลดไปอ่านด้วยครับ เล่มนี้ดีมากๆครับ อ่านเเล้วคิดอะไรได้อีกหลายอย่างเลยครับ เจริญในธรรมครับ

    ฟัง เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน

    http://audio.palungjit.org/forums/เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน.218/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2010
  19. สายชน

    สายชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +1,232
    ขอบคุณทุกท่านมากครับผมมีกำลังใจขึ้นเยอะเลยและขอให้ทุกท่านก็จงมีความสุขและเห็นธรรมกันทุกท่านครับ
     
  20. AiiFAR

    AiiFAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +194
    อืม นั่นสิเนอะ ทำขั้นต่ำๆให้ดีก่อน แล้วค่อยปฏิบัติให้มันสูงต่อไป
    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...