รวบรวมข้อมูลเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติ

เอาบทความนี้มาแชร์กันครับเห็นว่าน่าสนใจดี


เฮติ...ถึงจะไกลแค่ไหน แต่น้ำใจก็ไปถึง

บทความโดย ผศ.ดร.สุกรี สินธุภิญโญ ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันศุกร์ ที่ 22 มกราคม 2553

คุณเคยรู้สึกไหมครับว่า ในเวลาที่เราเฝ้ารออะไรบางอย่าง ทำไมเข็มวินาทีถึงเคลื่อนที่ช้าจนแทบทนไม่ไหว แล้วถ้าเป็นการรอคอยภายใต้ซากปรักหักพัง ที่ทุกครั้งซึ่งเข็มวินาทีเคลื่อนไป หมายถึง ความหวังในการรอดชีวิตค่อย ๆ ลดลง ๆ

หลายครั้งที่เราต้องทำงานแข่งกับทุกวินาทีที่ผ่านไป และในครั้งนี้ก็เช่นกัน ผู้คนที่เฮติ...ประเทศที่อยู่ห่างไกลสุดขอบโลกกำลังรอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมโลก ทีมกู้ภัยจากประเทศต่าง ๆ กำลังทำงานแข่งกับเวลาเพื่อยื้อชีวิตที่กำลังติดอยู่ภายใต้ซากอาคารจากแผ่นดินไหว 7.0 ริค เตอร์ เมื่อวันอังคารที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา

นอกจากทีมกู้ภัยแล้ว ทีมบรรเทาทุกข์เพื่อช่วยเหลือชาวเฮติที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งต้องทำหน้าที่ทั้งขนส่งสิ่งของจำเป็น ซ่อมแซมถนนหนทางเพื่อให้กลับมาใช้งานได้ ผลิตไฟฟ้า ตั้งโรงพยาบาลสนาม และจนถึงวันนี้ผู้คนที่นั่นยังขาดแคลนของจำเป็นทุกอย่างในการดำรงชีวิต อาหาร น้ำ เสื้อผ้า เวชภัณฑ์และอื่น ๆ

ความช่วยเหลือทุกด้านจากทั่วโลกถูกระดมส่งไปยังเฮติเพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบภัยจากแผ่นดินไหว แล้วความรู้ด้านคอมพิวเตอร์...ช่วยอะไรชาวเฮติได้บ้างครับ?

หุ่นยนต์กู้ภัยก็ยังใช้งานได้ไม่คล่อง ในเวลาเร่งด่วนเช่นนี้ สุนัขดมกลิ่นกับมนุษย์และอุปกรณ์ช่วยเหลือน่าจะทำได้คล่องแคล่วมากกว่า สำหรับอากาศยานไร้คนขับก็ยังคงพอช่วยเหลือถ่ายรูปทางอากาศได้บ้าง

ผมเองได้อ่านข่าวเล็ก ๆ ข่าวหนึ่งจาก ลอสแอนเจลิสไทมส์เกี่ยวกับคนกลุ่มหนึ่งที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญทางด้านคอมพิวเตอร์ ได้รวมตัวกัน เมื่อวันเสาร์ที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา ตั้งเป็น ไครซิส แคมป์เฮติ (Crisis Camp Haiti) เพื่อหาทางช่วยเหลือชาวเฮติในทุก ๆ ทางที่เขาเหล่านั้นจะทำได้ ด้วยความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่

แน่นอนว่า ความสามารถของคอมพิวเตอร์ที่ดำรงอยู่ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ไม่ใช่การนำคอมพิวเตอร์ไปใช้งานเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลกจริง ๆ หากแต่เป็นการใช้คอมพิวเตอร์คำนวณ และประมวลผลข้อมูล ดังนั้นความช่วยเหลือที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ที่เหล่านักคอมพิวเตอร์จะสามารถทำให้ชาวเฮติได้ คือ การเตรียมข้อมูลและประมวลผลข้อมูล เพื่อสนับสนุนการทำงานของทีมช่วยเหลือที่อยู่ในภาคสนามจริง ๆ ด้วยข้อมูลจากเว็บไซต์ไครซิสคอมมอน CrisisCommons Wiki ประกอบกับข้อมูลจากแหล่งอื่น ๆ ทำให้พอจะรู้ว่า ความต้องการเร่งด่วนที่เหล่านักคอมพิวเตอร์จะสามารถตอบสนองได้มีอะไรบ้าง ซึ่งในหลายโครงการยังคงต้องการอาสาสมัครเพื่อช่วยทำให้ความต้องการเหล่านั้นได้รับการตอบสนอง ผมเองพอจะสรุปความช่วยเหลือจากโลก ไอทีที่กำลังดำเนินไปแข่งกับเวลาได้ดังนี้ครับ

1. เตรียมข้อมูลการเป็นศูนย์กลางความช่วยเหลือ (We Have, We Need Exchange) ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนทรัพยากรและการช่วยเหลือ
ต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของเอ็นจีโอในการเข้าไปช่วยเหลือชาวเฮติ

2. การสร้างแผนที่หลัก (base map) อันใหม่หลังเกิดแผ่นดินไหว เนื่องจากอาคารและถนนหนทางต่าง ๆ พังทลายหมด ทำให้ข้อมูลแผนที่เปลี่ยนไป
จึงจำเป็นต้องมีการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแผนที่เดิมกับภาพถ่ายทางดาวเทียมใหม่หลังแผ่นดินไหว ซึ่งแผนที่ที่ได้นี้ จะสามารถนำไปใช้วางแผนการเดินทาง การตั้งโรงพยาบาลสนาม หรือจุดให้การช่วยเหลือ ต่าง ๆ รวมถึงการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ ซึ่งบริษัทแผนที่ชื่อดังอย่าง ESRI ก็ได้มีการสนับสนุนด้านแผนที่สำหรับการช่วยเหลือเฮติด้วย รวมไปถึงชุมชนแผนที่ออนไลน์อย่าง Error! Hyperlink reference not valid. ถูกนำมาใช้ประโยชน์เพื่อสร้างแผนที่อันใหม่ที่ตรงกับข้อมูลจริงมากที่สุดอีกด้วย

3. การเป็นศูนย์กลางข้อมูล เพื่อการติดต่อระหว่างองค์กรต่าง ๆ เพื่อร่วมมือกันในการเข้าไปช่วยเหลือชาวเฮติ

4. การเตรียมข้อมูล คำศัพท์ คำแปล และเครื่องมือในการแปลภาษาเฮติ-ครีโอล เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือทีมที่เข้าไปทำงานในด้านการสื่อสารได้เป็นอย่างดี

5. สร้างโปรแกรมบนอุปกรณ์พกพา เพื่อบันทึกข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการช่วยเหลือชาวเฮติ

6. การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อการค้นหา อย่างที่ทราบกันว่า ทุกวันนี้ข้อมูลมีอยู่มากมายที่เกิดจากผู้ใช้เอง ผ่านทางเว็บไซต์เครือข่ายเชิงสังคม (Social Networking) รวมถึงบล็อกต่าง ๆ ซึ่งอาจมีการบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องแผ่นดินไหวไว้ในหลายที่ การผสานข้อมูลที่ไม่เป็นโครงสร้างเหล่านี้ให้เป็นแหล่งเดียวกันจะเป็นประโยชน์ในการค้นหาความสัมพันธ์ของข้อมูลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้การติดตามผู้สูญหายเป็นไปได้ง่ายขึ้น

7. ถ้าคุณอยากรู้ว่า คนที่คุณรักในเฮติยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ กูเกิลช่วยสนับสนุนการติดตามหาคนที่คุณรักเหล่านั้น โดยใช้ความสามารถด้านภาษาของกูเกิลเพื่อการค้นหาด้วยการกรอกสองตัวอักษรแรกชื่อและนามสกุล และยังมีการให้กรอกข้อมูลถ้าคุณมีข้อมูลเกี่ยวกับคนในเฮติด้วย เพื่อจับคู่คนที่คุณกำลังต้องการตามหาให้ได้ ซึ่ง ณ เวลาที่เขียนต้นฉบับบทความนี้ มีข้อมูลอยู่ประมาณสามหมื่นกว่าคนแล้ว นอกจากนี้ถ้าคุณต้องการบริจาคเงินหรือสิ่งของเพื่อชาว
เฮติ ก็สามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ในเว็บไซต์ของกูเกิลที่ Support Disaster Relief in Haiti

เท่าที่ผมเขียนมาก็เป็นการรวบรวมข้อมูลคร่าว ๆ ที่สามารถทำได้ภายในเวลาอันจำกัด เพื่อกระจายข่าวความช่วยเหลือที่เราอาจจะพอแบ่งปันเพื่อทำให้เขาเหล่านั้นสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้

“ณ อีกฟากหนึ่งของโลก...ยังคงมีอีกหลายชีวิตรอน้ำใจจากคุณครับ”.

ผศ.ดร.สุกรี สินธุภิญโญ
sukree.s@chula.ac.th
ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
คณะวิศวกรรมศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เฮติ...ถึงจะไกลแค่ไหน แต่น้ำใจก็ไปถึง | Faculty of Engineering

 

รายการสิ่งของฉุกเฉินช่วยผู้ประสบภัยของสภากาชาด นำไปใช้ในการบริจาคสิ่งของหรือเป็นแนวทางเตรียมตัวรับมือในอนาคตได้ครับ

รายการชุดธารน้ำใจสภากาชาดไทย ช่วยผู้ประสบภัย (สภากาชาดไทย) 1 ชุด ประกอบด้วย


1. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จำนวน 30 ซอง

2. ปลากระป๋อง จำนวน 6 กระป๋อง

3. ผักกาดดอง จำนวน 6 กระป๋อง

4. ปลาราดพริก จำนวน 6 กระป๋อง

5. ข้าวหอมมะลิกระป๋อง 150 กรัม จำนวน 6 กระป๋อง

6. น้ำพริก จำนวน 2 กระปุก

7. ไก่ทอดกระเทียม จำนวน 2 กระป๋อง

8. เครื่องดื่มช็อคโกแลตผง 3 in 1 (1X6 ซอง) จำนวน 2 ถุง

9. ข้าวสาร (5 กิโลกรัม) จำนวน 1 ถุง

10. โลชั่นกันยุง จำนวน 1 ขวด

11. เทียนไข (1X2 เล่ม) จำนวน 1 กล่อง

12. ไฟแช็ค จำนวน 1 อัน

13. กระบอกไฟฉายพร้อมถ่าน จำนวน 1 ชุด

14. ยาสามัญประจำบ้าน จำนวน 1 ชุด

15. ยาแก้น้ำกัดเท้า จำนวน 1 หลอด

16. เกลือไอโอดีน จำนวน 1 ถุง

17. ถุงขยะสีดำ ขนาดเล็ก จำนวน 1 แพ็ค (6 ใบ)

18. ถุงขยะสีดำ ขนาดใหญ่ จำนวน 1 แพ็ค (6 ใบ)


ที่มา
ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม กับเว็บไซต์กระปุกดอทคอม
ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม กับเว็บไซต์กระปุกดอทคอม

 

สาร
อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย

จากภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ได้ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมากทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน
ของผู้ประสบภัย กรมโยธาธิการและผังเมืองซึ่งมีภารกิจหลักประการหนึ่งคือการให้บริการแบบบ้านเพื่อประชาชนที่มีอยู่อย่างหลากหลาย
รูปแบบในระดับราคาต่างๆ กัน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของบ้านที่จะสามารถป้องกันภัยดังกล่าวได้ จึงได้เริ่มทำการศึกษาเพื่อการออกแบบ
จากแหล่งต่างๆ ทั้งจากในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บ้านท่าขนอน อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งยังมีบ้านลอยน้ำ
ภูมิปัญญาชาวบ้าน ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในพื้นที่

27 กันยายน พ.ศ. 2550 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมายังกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อทรง
เปิดพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เมื่อได้ทอดพระเนตรนิทรรศการแบบบ้านเพื่อประชาชน
ของกรมฯ แล้วได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับ “บ้านลอยน้ำ”

กรมโยธาธิการและผังเมืองจึงได้ออกแบบบ้านหลังนี้ขึ้นโดยปรับใช้แนวคิดจาก “บ้านลอยน้ำท่าขนอน” และเรือนแพของชาวบ้าน
ในอดีต นำมาประยุกต์ใช้กับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ซึ่งในฤดูแล้งตัวบ้านจะตั้งอยู่บนพื้นดินตามปกติ แต่เมื่อมีน้ำท่วมก็จะลอยขึ้น
ตามระดับน้ำได้ โดยจะมีการยึดตัวบ้านไว้กับเสาหลักทั้งที่มุมเพื่อป้องกันการโคลงตัวหรือลอยไปตามกระแสน้ำ และเมื่อระดับน้ำลดลง
ตัวบ้านก็จะกลับมาตั้งอยู่บนพื้นดินตามเดิม

ขนาดของบ้านลอยน้ำที่ได้ออกแบบขึ้นนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของขนาดวัสดุสำเร็จรูปที่มีขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาด เพื่อให้เป็นการใช้
วัสดุที่คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะทำได้ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้และทำการก่อสร้างได้ง่าย เนื่องจากมีระบบวิศวกรรมโครงสร้างเป็นรูปแบบอย่างง่าย
ชาวบ้านที่มีความรู้ด้านช่างในระดับทั่วไปก็จะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้เอง

บ้านหลังนี้มีขนาดพื้นที่รวมประมาณ 60 ตารางเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่ไม่ใหญ่มาก เพื่อความสะดวกในการก่อสร้างและการลอยน้ำ
แต่หากมีความต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้นก็อาจเชื่อมต่อหลายหลังเข้าด้วยกัน โดยใช้สะพานทางเช ื่อมพาดระหว่างชานรอบตัวบ้าน

สำหรับราคาค่าก่อสร้างประมาณการได้ว่ากรณีดำเนินการก่อสร้างเองจะมีราคาประมาณหลังละ 719,000 บาท หากจ้างเหมา
ราคาประมาณหลังละ 915,000 บาทเนื่องจากต้องมีการคิดค่าดำเนินการ กำไรและภาษีด้วย

แบบบ้านลอยน้ำของกรมโยธาธิการและผังเมืองนี้ น่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้อง
อยู่อาศัยในพื้นที่ที่อาจต้องประสบภัยน้ำท่วมตามฤดูกาลได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อยู่อาศัยในบริเวณเที่เป็นที่ลุ่ม โดยอาจปรับปรุง
เปลี่ยนแปลงรูปแบบและพื้นที่ใช้สอยให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องตามความต้องการที่แท้จริงของตนเองต่อไป

แบบบ้านเข้าไปดูในลิงค์ได้ครับ Ẻ

 

สาร
อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย

จากภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ได้ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมากทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน
ของผู้ประสบภัย กรมโยธาธิการและผังเมืองซึ่งมีภารกิจหลักประการหนึ่งคือการให้บริการแบบบ้านเพื่อประชาชนที่มีอยู่อย่างหลากหลาย
รูปแบบในระดับราคาต่างๆ กัน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของบ้านที่จะสามารถป้องกันภัยดังกล่าวได้ จึงได้เริ่มทำการศึกษาเพื่อการออกแบบ
จากแหล่งต่างๆ ทั้งจากในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บ้านท่าขนอน อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งยังมีบ้านลอยน้ำ
ภูมิปัญญาชาวบ้าน ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในพื้นที่

27 กันยายน พ.ศ. 2550 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมายังกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อทรง
เปิดพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เมื่อได้ทอดพระเนตรนิทรรศการแบบบ้านเพื่อประชาชน
ของกรมฯ แล้วได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับ “บ้านลอยน้ำ”

กรมโยธาธิการและผังเมืองจึงได้ออกแบบบ้านหลังนี้ขึ้นโดยปรับใช้แนวคิดจาก “บ้านลอยน้ำท่าขนอน” และเรือนแพของชาวบ้าน
ในอดีต นำมาประยุกต์ใช้กับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ซึ่งในฤดูแล้งตัวบ้านจะตั้งอยู่บนพื้นดินตามปกติ แต่เมื่อมีน้ำท่วมก็จะลอยขึ้น
ตามระดับน้ำได้ โดยจะมีการยึดตัวบ้านไว้กับเสาหลักทั้งที่มุมเพื่อป้องกันการโคลงตัวหรือลอยไปตามกระแสน้ำ และเมื่อระดับน้ำลดลง
ตัวบ้านก็จะกลับมาตั้งอยู่บนพื้นดินตามเดิม

ขนาดของบ้านลอยน้ำที่ได้ออกแบบขึ้นนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของขนาดวัสดุสำเร็จรูปที่มีขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาด เพื่อให้เป็นการใช้
วัสดุที่คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะทำได้ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้และทำการก่อสร้างได้ง่าย เนื่องจากมีระบบวิศวกรรมโครงสร้างเป็นรูปแบบอย่างง่าย
ชาวบ้านที่มีความรู้ด้านช่างในระดับทั่วไปก็จะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้เอง

บ้านหลังนี้มีขนาดพื้นที่รวมประมาณ 60 ตารางเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่ไม่ใหญ่มาก เพื่อความสะดวกในการก่อสร้างและการลอยน้ำ
แต่หากมีความต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้นก็อาจเชื่อมต่อหลายหลังเข้าด้วยกัน โดยใช้สะพานทางเช ื่อมพาดระหว่างชานรอบตัวบ้าน

สำหรับราคาค่าก่อสร้างประมาณการได้ว่ากรณีดำเนินการก่อสร้างเองจะมีราคาประมาณหลังละ 719,000 บาท หากจ้างเหมา
ราคาประมาณหลังละ 915,000 บาทเนื่องจากต้องมีการคิดค่าดำเนินการ กำไรและภาษีด้วย

แบบบ้านลอยน้ำของกรมโยธาธิการและผังเมืองนี้ น่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้อง
อยู่อาศัยในพื้นที่ที่อาจต้องประสบภัยน้ำท่วมตามฤดูกาลได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อยู่อาศัยในบริเวณเที่เป็นที่ลุ่ม โดยอาจปรับปรุง
เปลี่ยนแปลงรูปแบบและพื้นที่ใช้สอยให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องตามความต้องการที่แท้จริงของตนเองต่อไป

แบบบ้านเข้าไปดูในลิงค์ได้ครับ http://www.dpt.go.th/download/PW/floating_house/detail.html

 

ลองไปถามแพที่เมืองกาญ ว่าเขาลงทุนเท่าไร เฉพาะแพและที่มุงที่บัง

ส่วน ตู้ เตียง ที่นอน อุปกรณ์ทำครัว ทุกบ้านมีอยู่แล้ว

เรื่องไฟฟ้า โซล่าเซลล์ แบตเตอรี มีตัวแปลงไฟฟ้าเป็น ๒๒๐ โวลต์ได้ รวมราคาไม่น่าเกิน สองหมื่นบาท

ทำไม ตั้ง ๗ แสนกว่า คิดมาได้ คนจนที่ไหนจะมีตังค์

 

ตอนนี้ ทิชชู่เปียก pigeun แบบ 82 แผ่น 125 บาท ลดราคา ซื้อ 1 แถม 1 อยู่ที่ the mall แบบ แผนกเด็กอ่อน ถึงสิ้นเดือน
เผื่อใครสนใจ ซื้อไปใช้ในหรือบริจาคผู้ประสบภัยที่ขาดแคลนอุปกรณ์ทำความสะอาด

สิ่งของที่ขาดแคลน ยากันยุง เจลล้างมือ ถุงดำ ผ้าอนามัย

 

ข่าวนี้สำหรับคนเล่นวิทยุสมัครเล่นนะครับ

RT @hs0rfd: นักวิทยุสมัครเล่นคือนักข่าวประจำท้องถิ่น สามารถส่งข่าวช่วยเหลือน้ำท่วมในครั้งนี้ hs1an 144.900 Mhz Thailand Comference #ThaiFlood

 

สมัยเด็กๆใช้ลูกมะพร้าวลงไปเล่นน้ำ บางทีก็แกนลอนขนาด 5 ลิตรขึ้นไป เกาะแล้วว่ายไปเรื่อยๆ

หรือใช้ 2 อันผูกกันแล้วเอามามัดกับตัว จะทำให้ไม่จมน้ำ

 

ซื้อยางในรถสิบล้อ มาเก็บเอาไว้สำรองต่อพ่วงซัก 8-10เส้นทำแพ หรือเอาไว้ส่วนตัวเวลาเกิดน้ำท่วม

อย่างน้ำท่วมคราวนี้เห็นคนเอากาละมังมาใส่ตรงช่องรูตรงกลางให้เด็กนั่งหนีน้ำ

 

ยางในรถสิบล้อใช้แล้ว มือสองราคาพุ่งไปที่เส้นละ 300 บาท (หาซื้อแถวที่ปะยางรถสิบล้อ) แต่ยางในรถสิบล้อใหม่เส้นละ 780 - 850 บาทแล้วขนาดของรถสิบล้อหรือของรถบัสใหญ่ (เลยวัดเศวตฉัตรไปหน่อย)

 

ไหนๆ บานประตู ก็จะพังอยู่แล้ว น่าจะเอามาทำแพได้

 

สารจากอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ​

จากภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ได้ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมากทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน
ของผู้ประสบภัย กรมโยธาธิการและผังเมืองซึ่งมีภารกิจหลักประการหนึ่งคือการให้บริการแบบบ้านเพื่อประชาชนที่มีอยู่อย่างหลากหลาย
รูปแบบในระดับราคาต่างๆ กัน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของบ้านที่จะสามารถป้องกันภัยดังกล่าวได้ จึงได้เริ่มทำการศึกษาเพื่อการออกแบบ
จากแหล่งต่างๆ ทั้งจากในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บ้านท่าขนอน อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งยังมีบ้านลอยน้ำ
ภูมิปัญญาชาวบ้าน ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในพื้นที่

27 กันยายน พ.ศ. 2550 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมายังกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อทรง
เปิดพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เมื่อได้ทอดพระเนตรนิทรรศการแบบบ้านเพื่อประชาชน
ของกรมฯ แล้วได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับ “บ้านลอยน้ำ”

กรมโยธาธิการและผังเมืองจึงได้ออกแบบบ้านหลังนี้ขึ้นโดยปรับใช้แนวคิดจาก “บ้านลอยน้ำท่าขนอน” และเรือนแพของชาวบ้าน
ในอดีต นำมาประยุกต์ใช้กับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ซึ่งในฤดูแล้งตัวบ้านจะตั้งอยู่บนพื้นดินตามปกติ แต่เมื่อมีน้ำท่วมก็จะลอยขึ้น
ตามระดับน้ำได้ โดยจะมีการยึดตัวบ้านไว้กับเสาหลักทั้งที่มุมเพื่อป้องกันการโคลงตัวหรือลอยไปตามกระแสน้ำ และเมื่อระดับน้ำลดลง
ตัวบ้านก็จะกลับมาตั้งอยู่บนพื้นดินตามเดิม

ขนาด ของบ้านลอยน้ำที่ได้ออกแบบขึ้นนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของขนาดวัสดุสำเร็จรูป ที่มีขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาด เพื่อให้เป็นการใช้
วัสดุที่คุ้มค่าที่สุด เท่าที่จะทำได้ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้และทำการก่อสร้างได้ง่าย เนื่องจากมีระบบวิศวกรรมโครงสร้างเป็นรูปแบบอย่างง่าย
ชาวบ้านที่มีความรู้ด้านช่างในระดับทั่วไปก็จะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้เอง

บ้านหลังนี้มีขนาดพื้นที่รวมประมาณ 60 ตารางเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่ไม่ใหญ่มาก เพื่อความสะดวกในการก่อสร้างและการลอยน้ำ
แต่หากมีความต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้นก็อาจเชื่อมต่อหลายหลังเข้าด้วยกัน โดยใช้สะพานทางเช ื่อมพาดระหว่างชานรอบตัวบ้าน

สำหรับราคาค่าก่อสร้างประมาณการได้ว่ากรณีดำเนินการก่อสร้างเองจะมีราคาประมาณหลังละ 719,000 บาท หากจ้างเหมา
ราคาประมาณหลังละ 915,000 บาทเนื่องจากต้องมีการคิดค่าดำเนินการ กำไรและภาษีด้วย

แบบบ้านลอยน้ำของกรมโยธาธิการและผังเมืองนี้ น่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้อง
อยู่ อาศัยในพื้นที่ที่อาจต้องประสบภัยน้ำท่วมตามฤดูกาลได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อยู่อาศัยในบริเวณเที่เป็นที่ลุ่ม โดยอาจปรับปรุง
เปลี่ยนแปลงรูปแบบและพื้นที่ใช้สอยให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องตามความต้องการที่แท้จริงของตนเองต่อไป



แนวคิด ออกแบบขึ้นโดยแนวคิดเพื่อป้องกันความเสียหายจากอุทกภัย
ตามฤดูกาล และตั้งอยู่บนพื้นดินในภาวะปกติ โดยให้บ้านทั้งหลัง
สามารถลอยสูงขึ้นได้ตามระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างไรก็ตามบ้านลอยน้ำ
นี้ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีน้ำไหลเชี่ยวกรากรุนแรง

ขนาดพื้นที่ ประมาณ 60 ตารางเมตรประกอบด้วยพื้นที่อยู่อาศัย 23
ตารางเมตร ส่วนทำอาหารห้องน้ำและซักล้าง รวม 37 ตารางเมตร

ราคาค่าก่อสร้าง โดยประมาณ 719,000 บาท (กรณีปลูกสร้างเอง)
ไม่ต้องใช้ผู้รับจ้างเหมาและประมาณ 915,000 บาท (กรณีมีผู้รับจ้างเหมา)

วัสดุก่อสร้าง ใช้วัสดุก่อสร้างพื้นฐานทั่วไปที่สามารถหาได้ง่ายในท้องตลาด
ซึ่งสามารถดัดแปลงได้ตามความเหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ ทุ่นลอยเป็นถังน้ำมัน
ขนาด 200 ลิตร หรือถังไฟเบอร์กลาสกรณีต้องการความทนทานเพิ่มขึ้น

ระบบสุขาภิบาล ใช้ระบบการย่อยสลายโดยมีถังบรรจุจุลินทรีย์ EM
ติดตั้งอยู่ใต้ห้องน้ำเพื่อย่อยสลายและเร่งการตกตะกอนของสิ่งปฎิกูล

*********************************************************************​

<center>

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลนี้ จะเป็นประโยชน์แก่ท่านหรือญาติไม่มากก็น้อย​

​

​

ขอส่งผลบุญกุศลอันเกิดจากการนี้ ขออุทิศให้ พ่อเกิดแม่เกิด ครูอุปัชฌาย์อาจารย์สืบๆ ต่อกันมา

ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรในทุกภพทุกชาติ ที่ข้าพเจ้าได้เคยสบประมาท และมีสัมพันธ์เกี่ยวข้อง ​

จงโมทนาบุญ และอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า พร้อมนี้ขอให้ท่านทั้งหลายพึงปราศจากทุกข์และมีสุข ​

ยิ่งๆ ขึ้นไป ณ กาลบัดเดี่ยวนี้ด้วยเทอญ​

*********************************************************************​

</center> <center style="text-align: center;" class="ecxMsoNormal">บูชาพระ ขอขมาพระรัตนตรัย</center> <center style="text-align: center;" class="ecxMsoNormal">นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯ</center> <center style="text-align: center;" class="ecxMsoNormal"> นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯ </center> <center style="text-align: center;" class="ecxMsoNormal">นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯ</center> <center style="text-align: center;" class="ecxMsoNormal"> </center> <center style="text-align: center;" class="ecxMsoNormal">วันทามิ เจดิยัง สัพพัง สัพพัฎฐาเน สุปฏิษฐิตา สรีระธาตุง มหาโพธิง
พุทธรูปัง สักการัง สัทธา นาคะโลเก เทวโลเก ดาวติงเส พรหมโลเก ชมพูทีเป ลังกาทีเป
สรีระธาตุโย เกศาธาตุโย อรหันตาธาตุโย เจดิยัง คันธกุฎี
จตุราศี ติสสหัสสะ ธัมมักขันธา ปาทเจดิยัง นะระเทเวหิปูชิตา
อะหังวันทามิ ฑูระโต อะหังวันทามิธาตุโย อะหังวันทามิสัพพะโส </center> <center style="text-align: center;" class="ecxMsoNormal"> </center> <center style="text-align: center;" class="ecxMsoNormal">สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต
</center> <center style="text-align: center;" class="ecxMsoNormal">พุทโธ อะโหสิ ธัมโม อะโหสิ สังโฆ อะโหสิ สาธุ สาธุ สาธุ
</center> <center style="text-align: center;" class="ecxMsoNormal">*******************************************************
แผ่เมตตาให้ตนเอง
อะหัง สุขิโต โหมิ, นิททุกโข โหมิ, อะเวโร โหมิ, อัพพะยาปัชโฌ โหมิ,
อะนีโฆ โหมิ, สุขี อัตตานัง ปริหะรามิ นิพพาน ปัจจโย โหตุ
ขอให้ดวงจิตของข้าพเจ้าทุกดวง จงมีแต่ความสุข ความเจริญทั้งทางโลก ทางธรรม
ขอให้ดวงจิตของข้าพเจ้าทุกดวง จงปราศจากความทุกข์ยาก ลำบากกาย ลำบากใจ
และอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวง จงปราศเคราะห์กรรมเหล่าเวร และเป็นผู้ไม่เบียดเบียนพยาบาท
ไม่อาฆาตจองเวรข่มเหงคะเนงร้าย ต่อผู้อื่นผู้ใดอีกต่อไป
ขอให้ดวงจิตของข้าพเจ้าทุกดวง จงได้มีดวงตาเห็นธรรม ได้รับรู้หนทางหลุดพ้น
จากความทุกข์ทั้งปวง ให้เจริญไปด้วยสติปัญญาญาณบารมีและให้ได้บรรลุถึงซึ่งโลกกุตตรธรรมเก้า
ตราบถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เทอญ</center>

<center> </center> <center>แผ่เมตตาให้สัพพสัตว์</center> <center>สัพเพ สัตตา สะทาโหตุ อะเวรา อัพญาปัชฌา สุขะ ชีวิโณ
ขอให้สัพพสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลาย ที่สละชีวิต ไม่ว่าด้วยถูกขืนใจ เข่นฆ่าหรือไม่ก็ดี
ที่ข้าพเจ้าได้นำมาปรุงเป็นอาหารเพื่อการดำรงชีวิตของข้าพเจ้า
ขอให้ท่านทั้งหลายทั้งปวงหลุดพ้นจากความทุกข์ </center> <center>อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย </center> <center>ขอให้ท่านทั้งหลายจงดำรงค์ชีพอยู่เป็นสุขทุกเมื่อเถิด
กะตัง ปุญญัง พะลังมัยหัง สัพเพภาคี ภะวันตุเต
ขอให้สัพพสัตว์ทั้งหลาย พึงมีส่วนได้เสวยผลบุญที่ข้าพเจ้า
ได้ตั้งใจกระทำด้วยกาย วาจา ใจ แล้วนั้น จงทุกท่านทุกดวงจิตเทอญ</center> <center> </center> <center>ขอบารมีพระ
สัพเพ พุทธา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญจะ ยัง พะลัง
อะระหันตานัญจะ เมเชนะ รักขัง พันธามิ สัพพะโส
พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ล้วนทรงพระกำลังทั้งสิ้น พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลายก็มีกำลังเช่นเดียวกัน
ข้าพเจ้าขอผูกอำนาจแห่งกำลังเหล่านั้น ไว้เป็นเครื่องคุ้มครอง รักษาตัวข้าพเจ้า
เม อัตถะลัทธา สุขิตา วิรุฬหา พุทธะสาสะเน อะโรคา สุขิตา โหถะ สะหะ สัพเพหิ ญาติภิ
ข้าพเจ้าพร้อมทั้งหมู่ญาติ ผู้ได้ประโยชน์มีสุขเจริญงอกงามในพระศาสนา
จงปราศจากโรคาพยาธิ มีความสุขทุกคนเทอญ...
สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ
สะทา โสตถี ภะวันตุ เม
ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ทั้งปวง ขอความสวัสดี จงมีแก่ข้าพเจ้าเมื่อเทอญ

ธรรมก็ดี วินัยก็ดี บุญกุศลทั้งหลายอื่นก็ดี ที่พระอาจารย์ท่านได้บำเพ็ญแล้ว และเข้าถึงแล้วขอจงเป็นเหตุให้ข้าพเจ้าและทุกท่าน
จงเป็นผู้เจริญในพระศาสนาของพระบรมศาสดา ตราบถึงที่สุดแห่งบรมสุข คือถึงซึ่งพระนิพพาน ในชาติปัจจุบันนี้เทอญ
สาธุ สาธุ สาธุ สทฺธา ปริสุทธิทานํ อนุโมทามิ</center>​

​

ธรากร ตรีเนตร (ชมรมพุทธศาสตร์)
บริษัทเซรามิคอุตสาหกรรมไทยจำกัด​

ธรากร ตรีเนตร (ชมรมพุทธศาสตร์)
บริษัทเซรามิคอุตสาหกรรมไทยจำกัด
ส่วนวิศวกรรมและโครงการ
33/1 ม. 2 ต.โคกแย้ อ.หนองแค
จ.สระบุรี 18230

มือถือ 089-141-7589
โทร.036-382-888 ต่อ 349
โทรสาร. 036-382905
E-mail (1) : tharakot@scg.co.th

 

ใช้กางเกงเป็นทุ่นลอยน้ำครับ

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD align=middle></TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center; TEXT-INDENT: 0em" align=middle>Figure 10. Trousers Used As a Life Preserver.</TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

ปีนี้ หน้าหนาวมาเร็ว ตามที่คาดไว้เลยครับ

ใครยังไม่มีเสื้อกันหนาว

แ่นะนำที่ร้าน Decathlon บางนาทาวเวอร์ครับ เสื้อฟรีซ ราคาไม่แพงครับ

 

บ้านเราอยู่ภูเก็ต
เคยเอาแผ่นโพมหนาๆ แผ่นใหญ่
มาเล่นวินเซร์ฟ
ได้บ้าง ตีลังกาบ้าง

ก็ไม่เลวนะ
เก็บของแพ็กใส่ถุงพลาสติก ใส่ในลังโพม
ไม่รู้วันไหนน้ำมันมา
เอาเชือกผูกทิงยาวๆหน่อย ไว้จับเวลามันไหล หรือผูกไว้ ดีกว่าให้มันจมน้ำเสียหาย
ถุงดำใส่ขยะ
ฉุกเฉินมากๆ ก็เอามาทำเป็นลูกบอลได้
เครื่องช่วยชีวิตมันมีมากมาย
จัดเก็บให้ดี หมั่นเช็กบ่อยๆ
และสวดมนต์ ทำทานมากๆ
ดีที่สุด

 

แกลลอนน้ำขนาด 5 ลิตร 2 ถังผูกเชือกเอามาใช้แทนทุ่นลอยน้ำใช้ว่ายพยุงตัวได้ หรือท่อพีวีซีขนาด 3 - 4 นิ้ว 9 ท่อนเอามาใช้แทนไม้ไผ่ทำแพได้แต่ต้องเอาปลอกสวมหัวท้ายให้สนิทกันน้ำเข้า มาต่อวางเรียงกันยึดตึงด้วยเหล็กแผ่นบาง สำหรับ 3 - 4 คน

 

<table align="center" border="0" cellpadding="10" cellspacing="0" width="92%"><tbody><tr><td style="border-bottom: 1px dashed rgb(85, 85, 85);" align="left" valign="middle">ประกาศเตือนภัยด่วน</td> </tr> <tr> <td align="left" valign="top"> <table align="center" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="100%"> <tbody><tr><td>ชุมพรท่วมสาหัส มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย ผู้ว่าเตือนระวังน้ำมาไว-ดินถล่ม

ปัตตานีประกาศพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วมทั้ง 12 อำเภอ

ขนส่งภูเก็ตงดบริการเดินรถ 6 เส้นทาง แนะงดการเดินทางในระยะนี้ ทั้งนี้สามารถสอบถามเส้นทางได้ที่สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง

สภากาชาดต้องการอาสาสมัครชาย ช่วยยกของช่วยน้ำท่วมและภัยหนาว กว่า 4,000 ชุด ติดต่อ 081-494-7052

การรถไฟฯ ประกาศงดเดินรถไฟช่วงภาคใต้ตอนล่าง สงสัยสอบถามสายด่วน 1690

อุตุฯ ย้ำช่วง 5-6 พ.ย.นี้ไม่มีดีเปรสชั่นเข้าอ่าวไทย พบมีแต่ในทะเลจีนใต้เคลื่อนตัวไปทางเวียดนาม ไม่กระทบไทย
ถนนสายหลัก ราชกรูด – หลังสวน จ.ชุมพร น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะในช่วงสะพาน รถเล็กไม่สามารถผ่านได้

รักษาการอธิบดีกรมอุตุบอก5และ 6 พ.ย.นี้ไม่มีดีเปรสชั่นเข้าไทย ยังมีฝนที่ชุมพร/สุราษฎร์/นครศรี ต้องเฝ้าระวัง

อธิบดีกรมชลประทาน คาดใช้เวลา 3 วันระบายน้ำออกจากเมืองหาดใหญ่ จนกลับสู่สภาพปกติได้ ถ้าไม่มีฝนตกซ้ำ

สงขลาวิกฤติ! ไฟดับเกือบทั้งเมือง น้ำประปาตัดแล้ว ตายแล้ว 2 ราย ไฟดูด 1 ราย รถตกคลองอีก 1 ราย เทศบาลเมืองปัตตานี น้ำท่วมสูง ฝนยังตกไม่หยุด ไฟฟ้าดับหมด โทรศัพท์บ้านใช้ไม่ได้

AIS ตั้งจุดอำนวยความสะดวก AIS ใน มอ.หาดใหญ่ มีโทรฟรี,ระบบชาร์ตแบตฯ เริ่มบริการ 20.00 น.วันนี้

ภาพด่วนดาวเทียม พายุจะเข้าตั้งแต่ใต้สุราษฎร์ลงมาคลิกดูที่นี่

ดูปริมาณฝนสะสมพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออก จากระบบอัตโนมัติ กรมอุตุนิยมวิทยา คลิกดูที่นี่
</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>

 

ไลเนอร์ที่ใส่ในกระบะรถปิคอัพเอามาใช้ทำแพบรรทุกของได้ แต่ต้องเป็นของใหม่ที่ยังไม่ผ่าตอนท้ายไลเนอร์ หรือไม่ได้ใช้และยังไม่ได้ผ่าทางด้านท้ายออก โดยเอาไม้อัดหรือแผ่นฟอร์เมกาขนาดเท่าไลเนอร์ลงไปรองพื้นเพราะไม่ใส่มันจะโคลงเคลงมาก อาจจะคว่ำง่าย

 

ใช่ครับ กำลังพูดถึงเลยครับพี่มารีน ที่สำคัญควรไปฝึกพายเรือกันด้วย ไม่ง่ายเลยสำหรับคนไม่เคยพายเรือมาก่อน

 

ทั้งการพายเรือหรือถอแพไม่เคยฝึกมาก่อนหรือไม่คุ้นเคย หมุนอยู่ตรงนั้น ยิ่งไปเจอน้ำไหลแรงหรือน้ำไหลวน ถ้าไม่ไหลไปตามน้ำ หรือเรือลอยอยู่ที่เดิม ผมเคยฝึกแต่การตีกรรเชียงเรือ ปรากฏว่าไปพายเรือแจว หัวเรือส่ายเป็นงู โดนแฟนแซว ทหารเรืออะไรพายเรือไม่เป็น ก็ฝึกมาแต่เรือกรรเชียงและเรือยาง แล้วเราก็ไม่ใช่เหล่ากองเรือ เรามันเหล่าทหารราบ ฝึกเน้นการรบแบบทหารบก :z5