ออง ซาน ซู จี ท่านเป็นพุทธภูมิด้วยหรือไม่

อยากทราบครับว่า ท่านอองซานเป็นพุทธภูมิด้วยหรือไม่ครับ

ที่พม่าประชาชนให้ความนับถือท่านเป็พระโพธิสัตว์ครับ ขนาดพระยังยกมือไหว้ท่าน (อันนี้ไม่รู้ว่าจริงไหม เคยเห็นในภาพยนต์ beyon lagoon)
แล้วแม่ชีเทเรซาล่ะครับ
เช กูวารา
หลวงพ่อโอภาษี
หลวงปู่ศุภ วัดปากคลองมะขามเฒ่า
ใครทราบช่วยตอบทีครับ ส่วนตัวแล้วนับถือท่านเหล่านี้ครับ

 

เธอมาเกี่ยวอะไรด้วยหรือ

 

ไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่ปณิธานท่านเด็ดเดี่ยวมากครับ ตอนที่ทหารแดงหลายนายเล็งปืนมาที่ท่าน ท่านก็ไม่กลัว ยังคงเดินเข้าหาทหารถือปืนเล็งเธออย่างนั้น เพื่อประชาชนของเธอเอง ชีวิตก็ยอมสละ

 

คุณจะตามหาผู้อื่น หรือจะตามหาตนเองดีกว่า..

 

ก็เข้าใจท่านครับ พวกพุทธภูมิมักใคร่รู้ในสิ่งต่างๆ ซึ่งหลายครั้ง สาวกภูมิจะอดสงสัยมิได้

ว่าไปอยากรู้เพื่ออะไร จนบางครั้งก็มองว่าไม่เป็นแก่นสาร (ซึ่งก็จริงทีเดียว)

แต่พุทธจริต ย่อมอยากรู้ อยากเห็น ด้วยปลายทางนั้น มีกิจต้องสอนคนจำนวนมาก


อย่างไรก็ตาม เห็นด้วยกับคำพูดของ คุณกิดากร ที่ว่า...
คุณจะตามหาผู้อื่น หรือจะตามหาตนเองดีกว่า อันนี้ ท่านกล่าวได้ชอบแล้ว


แต่หากอยากทราบจริงๆ เพื่อประดับความรู้ ก็จะขอกล่าวโดยรวมไว้ว่า

บรรดาบุคคลสำคัญของโลกที่ทรงความดีจนเป็นที่ปรากฏนามไว้นั้น โดยส่วนใหญ่ก็ใช่

ด้วยบุญญาบารมีของเขาเหล่านั้น ย่อมโน้มนำให้เขาได้มีโอกาสประกอบมหากุศล

ซึ่งบางคนก็เป็น พระนิยตโพธิสัตว์ ลงมาเพื่อบำเพ็ญให้เต็ม ๑ ใน ๑๐ ทศบารมี


และในบางกรณีเช่นกัน คนที่ชาวโลกติเตียน หรือโจษกันว่าเป็นคนเลว คนทราม

ก็มีบางคน หรืออาจจะหลายคนด้วยซ้ำ ที่เป็นพุทธภูมิ

บางคนนี่ เรียกว่า "คาดไม่ถึง" กันเลยทีเดียว ก็แตกต่างกันไปตามบารมีที่บำเพ็ญมา

เพราะพุทธภูมินี่ต้องเคยชั่วมาก่อนทั้งสิ้น นรกนี่ได้ผ่านทุกขุม ขุมละหลายชาติ

ยิ่งถ้าเป็นพวกบารมีต้น ไม่ต้องพูดถึง โอกาสลงนรกไม่ต่างกับปุถุชน


ไม่ต้องดูอื่นไกล แม้แต่องค์พระนิยตโพธิสัตว์ อย่างโตไทยพราหมณ์ ซึ่งหลายๆท่าน

ก็คงจะทราบกันดี ว่าตอนนี้ ท่านอยู่ที่ใด


สุดท้ายนี้ ก็ฝากข้อคิดว่า รู้ผู้อื่นมากมายเท่าใด ก็ไม่เป็นสาระเท่ากับรู้ตนเองครับ

 

ขอบคุณครับ ที่กรุณาให้ความรู้ คือผมมีความศรัทธาในพระโพธิสัตว์การได้รู้ว่าท่านเหล่านั้นเป็นพุทธภูมิด้วย ผมจะได้นำคำสอน ปฏิปทาท่านเหล่านั้นมาใช้ เช่นอย่างในหลวง ท่านก็เป็นพุทธภูมิด้วยมิใช่หรือครับ ท่านก็ยังเพียรไปพบพระโพธิสัตว์ท่านอื่นด้วย ท่านนั้นที่ผมทราบก็คือ หลวงปู่ดู่ ผมว่าการตามหาท่านเหล่านั้นและเคารพบูชาท่าน พร้อมนำหลักการท่านทั้งหลายมาปฏิบัติ น่าเป็นสิ่งดีนะครับ อย่างนึงที่ผมประจักษ์ก็คือ ทำให้เราไม่ประมาทถือว่าตนเองยอด เก่งกว่าผู้อื่น รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน ยังไงก็ขออนุโมทนาในความปรารถนาดีครับ สาธุ

 

การ "ล่าพระอาจารย์" นี่ก็เป็นกิจกรรมยอดฮิตของบรรดาพวกพุทธภูมิอยู่แล้ว

ไม่แปลกหรอกครับ ยิ่งถ้าเข้าหาพระอาจารย์ด้วยใจที่เคารพนบนอบ

เลื่อมใสในปฏิปทาจริงๆ อันนี้ให้ผลดีแน่ๆ อย่างน้อยก็ในแง่การสร้างกำลังใจ

ให้มีความมั่นคงต่อพระโพธิญาณ ให้รู้ว่าไม่เดียวดายบนเส้นทางนี้


แต่ที่ต้องติงไว้ ก็เพื่อประโยชน์ในภายภาคหน้าของตัวท่านเองนั่นแหละ

เพราะพุทธภูมิที่เข้ารกเข้าพงไปอย่างน่าเสียดายก็มีไม่น้อยครับ


ส่วนประโยคที่ว่า...

การตามหาท่านเหล่านั้นและเคารพบูชาท่าน พร้อมนำหลักการท่านทั้งหลาย
มาปฏิบัติ น่าเป็นสิ่งดีนะครับ อย่างนึงที่ผมประจักษ์ก็คือ ทำให้เราไม่ประมาท
ถือว่าตนเองยอด เก่งกว่าผู้อื่น รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน

อันนี้ ท่านกล่าวได้ดีมากครับ ขออนุโมทนาด้วย

ถ้าบรรดาพุทธภูมิรู้สึกกันแบบนี้เป็นส่วนใหญ่ จะเป็นที่น่าชื่นใจอย่างยิ่งครับ


ส่วนเรื่องพระโพธิสัตว์ ต้องขออภัยด้วย ที่ไม่สามารถแชร์ได้มากนัก

เพราะความรู้บางอย่างเป็นปัจจัตตัง หากผิดพลาดคลาดเคลื่อนไป

จะเป็นที่ขุ่นข้องหมองใจแก่ผู้อื่น ด้วยพระโพธิสัตว์นั้น ท่านมีบริวารมากก็จริง

แต่ท่านก็มีคู่เวรมากด้วยเหมือนกัน หากพูดในที่สาธารณะ รังแต่จะเกิดโทษ

จึงขอนิ่งไว้เสีย ได้ตำลึงทองดีกว่า


ตัวท่านเองก็ปฏิบัติไปเถิดครับ เท่าที่ดู ก็เจริญในธรรมมาพอสมควรแล้ว

ต่อไปเมื่อมีญาณเป็นเครื่องรู้ ก็สิ้นสงสัยเองละครับ

 

สาธุครั บคุณNothing Eternal เข้าใจแล้วครับว่าเส้นบางๆที่ว่า อาจดีหรือเสีย กระผมขอน้อมรับคำแนะนำไปปฏิบัติต่อครับ จะระมัดระวังให้มากขึ้นครับ

 

ฉากหลัง เหมือนรูปจักร ยิ่งป็นสีเขียวตัดกับสีขาวแล้ว อืมดูชัดเจนดี

 

คุณลักษณะของพระโพธิสัตว์

พระโพธิสัตว์ผู้อยู่ในข่ายที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้านั้นมีองค์ประกอบสำคัญอันเป็นคุณลักษณะเฉพาะตน ๔ ประการ คือ

๑. อุสสาหะ คือ ประกอบไปด้วยความเพียรอันมั่นคง
๒. อุมมังคะ คือ ประกอบไปด้วยปัญญาอันเชี่ยวชาญหาญกล้า
๓. อวัตถานะ คือ ประกอบไปด้วยพระอธิษฐานอันมั่งคงมิได้หวั่นไหว
๔. หิตจริยา คือ ประกอบไปด้วยเมตตาแก่สัตว์เป็นเบื้องหน้า
(พระนันทาจารย์, ม.ป.ป.:๑๑)

คุณลักษณะหรือเรียกว่าคุณธรรมทั้ง ๔ ประการนี้เป็นอุปกรณ์หรือวิธีการสำคัญอย่างหนึ่งที่พระโพธิสัตว์จะต้องปฏิบัติตามอย่างมั่นคงจนกว่าจะบรรลุถึงจุดมุ่งหมายขั้นสูงสุดคือพระโพธิญาณ

หาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ::

... ส่วนนางอองซาน ซู จี ทำอยู่นั้น ไม่ทราบว่า องค์ประกอบนั้นครบตามที่พระโพธิสัตว์ควรมีหรือเปล่า ... แต่นางเป็นคนที่มีจิตใจเด็ดเดียว และแน่วแน่ในแนวทางของตนเอง ... และโปรดเผื่อใจเอาไว้ด้วยว่า ในโลกนี้ ประชาธิปไตย ไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่งทุกอย่าง ...


ข้อคิดเรื่องพระโพธิสัตว์ หรือพุทธภูมิ

.... หลวงปู่เล่าว่า แม้ท่านพระอาจารย์มั่นเอง เมื่อท่านระลึกชาติได้ เห็นภพชาติที่เวียนวนกลับไปเกิดเป็นสุนัขถึงหมื่นชาติ ท่านยังเกิดความสลดสังเวช ถึงกับขออธิษฐานเลิกปรารถนาพุทธภูมิ เพราะการบำเพ็ญ บารมีเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งในอนาคตนั้น ท่านจะต้องบำเพ็ญต่อไปอีกเป็นแสนกัปแสนกัลป์ฯ ท่านเกิดสลดสังเวช .... เราจะเดินทางต่อไปอีกไม่รู้เท่าไหร่ทำไม ..... ท่านพระอาจารย์มั่นจึงสามารถดำเนินความเพียรเร่งรัดตัดตรงเข้าสู่พระนิพพานเป็นผลสำเร็จ

แต่สำหรับท่านที่ปรารถนา พระโพธิสัตว์ ขอจงเป็นผู้มีใจมั่งคง เถิด .... เจริญในธรรม ...​

 

ผมว่าไม่ใช่หรอก ครับ เพราะพระโพธิสัตว์ยอมตัดจากกิเลิส ต่าง ทรงไม่ยุ่งกับการเมืองหรอกครับ

 

เธอเป็นตัวแทนของกลุ่มที่ต้องการอำนาจกลุ่มหนึ่งแค่นั้น ไม่ได้ละิกิเลสลาภยศ แค่คนธรรมดา ที่ถูกตั้งให้เป็นตัวแทน เพื่อใช้ต้านอำนาจของอีกฝ่าย

 

พุทธภูมิก็มีตั้งแต่ระดับเริ่มต้น กลาง จนถึง ปลาย แต่ระดับบารมีก็ต้องมาเรียนรู้ในเรื่องราวต่างๆกันไป แล้วแต่กำลังใจของตัวเองในขณะนั้น ต้องไปเกิดคนโน้นคนนี้ แล้วแต่ว่าตนเองในชาตินั้นจะโดนทดสอบอะไร

ผู้ที่จะมาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขึ้นชื่อว่าไม่เคยเกิดเป็นอะไรสักอย่างหนึ่งในโลกนี้เลย ไม่มี เพราะฉะนั้นต้องเป็น ต้องรู้ทุกอย่าง ตั้งแต่ผิดจนถึงถูก กว่าจะรู้ถูกได้ก็ต้องรู้ผิดก่อนเป็นเวลาหลายกัปหลายกัลป์ ใช่ว่าอยูดีๆมาเริ่มปราถนาพุทธภูมิ แล้วจะภาวนาเลย มันก็ยากนะคุณเอ้ย