อ.จตุพร ทำนายภัยพิบัติโลกผ่านองค์เทพ ซึ่งร้ายแรงกว่าที่มนุษย์คิดไว้มากมายนัก (2555-2558)

ทุกอย่างทุกเรื่องเป็นกฏแห่งกรรม นำพาให้เกิดมี ทุกอย่างไม่ใช่ของเรา แม้แต่ตัวเราเอง ย่อมเป็นตามสภาวะ กรรม สภาวะบุญนำพา ทำให้ทุเลาได้เพียง ทุกบ้านเรือน มีศิลธรรม ประจำตัว และบ้าน มีศิล5 มีความเมตตา ปราณีต่อตน คน ทั่วไป สิ่งที่ทำได้ กับคนทั่วไป และครอบคัรว คือความบริสุทธิ์ ที่จะทำ ตราบใดที่มีความโหดร้าย ทางตรงและออ้มโลกย่อมหายนะ]

 

กรรมได้เลือกท่านไว้แล้วว่าท่านจะอยู่ฝ่ายใด ทั้งๆที่ท่านเหล่านัื้้นเลือกได้

 

มันมีเค้าโครงที่จะเกิดขึ้นแล้ว ทุกวันนี้ก็วุ่นวายไปหมดเพราะภัยธรรมชาติ

 

ความดี คือ สิ่งที่จะอยู่เคียงคู่กับคนที่ดีตลอดไป

 

พร้อมแล้วค่ะกับสิ่งที่จะเกิดในอนาคต ตั้งตารอวันนั้นแต่ก็จะทำความดีทำบุญให้เยอะๆขึ้นไป
สิ่งใดจะเกิดย่อมเกิดสิ่งใดจะดับย่อมดับอยู่ดี

 

ไม่มีภัยไหนร้ายแรงเท่าภัยพิบัติทางธรรมชาติอีกแล้ว เพราะไม่มีผู้ใดสามารถ
ล่วงรู้วันเวลาที่จะเกิดแน่นอนได้ แต่ถึงยังไงสิ่งที่รู้ตอนนี้คือ เตรียมทำใจยอมรับ
สิ่งที่จะเกิดขึ้นและหมั่นเร่งสร้างบุญบารมีกันให้มาก ๆ

 

หากต้องตายไปในเหตุการณ์นี้ก็จริง
แต่จริงๆ แล้วต้องวนเวียนในวัฏฏสงสารอีกนับไม่ถ้วน

การตัดสินว่าใครดี มีศีลธรรม ล้วนเป็นสิ่งสมมติ
ในภาวะวิมุตติจะไม่มีการปรุงแต่งอีก

ทำบุญมากๆจะไม่กลัวตายหรอกเพราะรู้ว่ายังไงต้องมีภพชาติใหม่อีกอยู่แล้ว
ยิ่งปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน รู้ลมหายใจเข้าออก เสมอ ๆ แล้ว
เรื่องการทำนายภัยพิบัติจะเหมือนเรื่องปกติธรรมดา
อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด ตามเหตุปัจจัย
ไม่มีใครหนีเลี่ยงพ้นสิ่งที่ตนเองทำไว้ได้
นอกจากการตัดภพชาติด้วยตนเองเท่านั้น

ทำบุญไว้มากๆ ท่านจะไม่กลัวตาย ลองดูด้วยตนเอง

 

ดูรูปรอยสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ ตามที่ต่างๆ ทั่วโลก ก็พอจะสะท้อนให้เห็นอนาคตได้แล้วนะคะ ว่าแต่เดี๋ยวนี้ ทำไมเสียงฟ้าร้องถึงสะเทือนเลื่อนลั่น เหมือนมีระเบิดอยู่ใกล้ๆ แถมใต้ดินก็พลอยสั่นสะเทือนอีก แล้วยังคนรอบตัวที่บ่นว่าเจอไฟฟ้าสถิตย์บ่อยๆ ด้วยค่ะ

 

จริงหรือที่ว่าเครื่อง Happ อะไรนั่น มันเป็นเครื่องที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้
และตอนนี้มันมีอยู่ 5 เครื่อง มันอยู่ที่ไหนบ้างนะคับ ...แต่ทีรู้มา จากบุคคลที่
เดินทางมาจากอนาคต เขาไม่ได้บอกนิ ว่ามันเป็นเครื่องทำแผ่นดินไหวอ่ะ
ตดลงมันคือไรกันแน่...งงจัง

 

ผู้คนทั้งหลายในโลกใบนี้อันเป็นยุคแห่งการเจริญด้านวัตถุ เป็นผู้ทำให้สมดุลแห่งธรรมชาติเสียหาย ธรรมชาติจึงต้องปรับสมดุลขึ้นเองโดยหลักของธรรมชาติ แต่การปรับสมดุลย่อมมีผลกระทบต่อทุกสิ่งที่อยู่บนโลกใบนี้แน่แท้ สิ่งเหล่านี้อาจเคยเกิดในยุคก่อนหน้าที่มีการบันทึกทางประวัติศาสตร์ไว้ หลายคราเพียงแต่การเกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งเฉกเช่นปัจจุบัน สิ่งที่เราควรทำคือฝึกจิตให้นิ่งสงบ รู้จักปล่อยวางจากกิเลส และการปรุงแต่งทั้งหลาย เพื่อให้จิตของเราเข้าสู่ความบริสุทธิ์ เหมือนดั่งธรรมชาติที่ปราศจากกิเลส หากทำได้และรู้วิธีการเราจะสามารถเชื่อมจิตกับธรรมชาติได้ เพราะจิตเดิมก็คือธรรมชาติ เราก็จะอ่านสัญญานในธรรมชาติได้ เพราะในธรรมชาติจะมีสัญญานการบอกเหตุการที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ได้ ที่สำคัญเมื่อรู้แล้วต้องปล่อยวางให้ได้อย่าไปทุกข์ใจกับสิ่งที่รู้ เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกฎของธรรมชาติ(เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป และเกิดขึ้นใหม่ เป็นวัฎจักรหมุนเวียนไม่สิ้นสุด) มันเป็นกฎของกรรมอย่างหนึ่ง พึงทำความเข้าใจกับสิ่งนี้และ ตั้งใจปฏิบัติต่อไปดีกว่าครับ สุดท้ายขอเตือนไว้อย่าได้ประมาท สิ่งที่จะเกิดนั้นย่อมเกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย อย่างน้อยประเทศไทยก็มีผู้ปฏิบัติอยู่ และมีพลังงานระดับสูงค่อยช่วยเหลือผู้ปฏิบัติอยู่ ทำให้สิ่งที่เกิดอาจน้อยกว่าประเทศอื่นครับ เรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยเหลือมนุษย์นั้นมีอยู่จริง และในจิตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง เช่นจิตโพธิสัตว์ ต้องอาศัยพลังงานที่บริสุทธิ์ในการควบคุมสมดุลของโลก เพราะโลกประกอบด้วยธาตุทั้ง 4 และพลังงานที่ควบคุมโลกนั้นคือพลังงานจักรวาล ซึ่งเป็นไปตามกฏธรรมชาติ เรื่องที่เกิดขึ้นในปี 2553 นั้น ตัวผมเองก็ได้รับทราบเมื่อปลายปี 2552 ราวเดือนพฤศจิกายน โดยทราบว่าในปีนี้ (2553) มีคลาดเคลื่อนประมาณ 1 เดือน เริ่มตั้งแต่แผ่นดิน พายุ น้ำท่วม และ สึนามิโดยเกิดขึ้นเกือบทั้งปี แต่หลังจากพูดคุยเรื่องนี้กันแล้วก็ไม่เคยได้นึกถึงมันอีก เพราะพวกผมพากันเน้นเรื่องการปฏิบัติกันเกือบทุกคืน บางคืนปฏิบัติกันถึงตี 3 กว่าจะได้นอน แต่เรื่องภัยพิบัติกลับไม่ได้นึกถึง และได้ตระหนักว่าการเกิดหรือไม่เกิดนั้น รออยู่ที่ห้วงเวลาเท่านั้น สิ่งที่ทำได้คือปฏิบัติธรรมต่อไปและอยู่กับความเป็นจริงในปัจจุบัน ฝึกจิตตนให้อยู่ และกินอย่างไรก็ได้(ให้เป็นผู้สมถะ อยู่ง่ายกินง่าย) ตอนนี้ก็ทำอยู่แค่นี้ครับ ....ธรรมสวัสดี.....

 

กลับมาอ่านข้อความที่ผมโพสไว้นานแล้วกลับไม่สบายใจกลัวคนเข้าใจผิด ผมว่าโหรทั้งหลายที่มอมเมาคนให้กลัวตาย คนก็ตื่นตระหนก แต่จริงๆถ้าจะตายใครก็หนีไม่พ้นผมว่า ไม่ได้มีเจตนาให้ร้ายครับ ผมก็พูดส่งเดชไปอย่างนั้น แต่ชีวิตคนเราที่มันทุกข์นะ ถ้าไม่กลัวตายมันก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่ ผมเองก็ไม่อยากตาย แต่กลัวว่าตายแล้วจะไปไม่ดีนี่น่ากลัวยิ่งกว่า

 

อนุโมทนาค่ะ


พระพุทธเจ้าท่านสอนให้เราอยู่กับสติ อยู่กับความไม่ประมาท

 

คนเราคือมนุษยทั้งหลายในโลกนี้ ส่วนมากก็เป็นคนประมาท ส่วนมากตกอยู่ในความประมาท ยิ่งชนชาวชมพูทวีปด้วยแล้ว ก็เป็นผู้มีความประมาทอย่างยิ่งทีเดียว คนในชมพูทวีปเป็นผู้ประมาท คือหมู่เราประเทศไทย หรือในภูมิภาคส่วนนี้คือเป็นชมพูทวีป ชมพูทวีปเป็นส่วนหนึ่งของโลก โลกเรานี้แบ่งส่วนออกเป็น 4 ส่วน หรือเรียกในทางธรรมดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นว่าเป็นทวีป คนในทวีปอื่นอีก 3 ทวีปเขามีอายุแน่นอน ส่วนในทวีปเราเขาเรียกว่าชมพูทวีป และมีพระพุทธเจ้ามาตรัส เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในโลกนี้ก็มี พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาตรัสรู้ในชมพูทวีป ทำไมจึงเป็นอย่างนี้ คือคนในชมพูทวีป มีความประมาทมาก คือประมาทมากเป็นอย่างยิ่ง ทั้งมีอายุน้อย แล้วก็ยังเป็นผู้ตั้งอยู่ในความเป็นผู้ประมาท ถ้าจะกำหนดอายุของชาวชมพูทวีป นี้ท่านกำหนดว่า มีอายุเพียงแ่ค่ 75 ปี เท่านั้น แต่ก็ไม่แน่นอน กำหนดลงไปเป็นส่วนใหญ่ว่า คนในชมพูทวีปจะมีอายุเป็นกำหนด 75 ปี อายุขัยสิ้นอายุก็ประมาณ75 ปีเลยจากนั้นไป ก็เป็นคนมีอายุเหมือนกัน แต่เขาเรียกว่าเลยกำหนด เลยประมาณ ตามที่ได้กำหนดไว้ ในภูมิทั้ง3 หรือวัยทั้ง3 สำหรับท่านผู้รู้กำหนด วัยของมนุษย์ในชมพูทวีป ไว้เป็น 3 วัยคือปฐมวัย มัจฉิมวัย และปัจฉิมวัย ปฐมวัยคือวัยเเรก ท่านกำหนดไว้ 25 ปี วัยที่สองก็เท่ากัน วัยทีสามก็เท่ากัน จึงเป็น75 ปี ท่านกำหนดไว้เป็นอย่างนั้น ในชาวชมพูทวีปเรา มีอายุน้อยกว่าทวีปอื่นๆ ดังที่เคยได้กล่าวมาแล้วนั้น ทั้งนี้ความไม่แน่นอนก็ยังมีมาก ในสมัยปัจจุบัน และยิ่งในสมัยปัจจุบันนี้แล้ว จะคิดว่าในอายุของเรา ผ่านไปถึงอายุ 75 ปี มันก็ไม่แน่นอนเลย สมัยนี้คนหนุ่มตายมาก คือตายในอายุไม่ถึง มัจฉิมวัย เนื่องจากกาลเวลาๆและกรรมที่กระทำในชาติก่อนๆ ให้มาประจวบกันในเวลานี้ มักไม่แน่นอน คือจะทำให้อายุจะสั้น และโรคภัยไข้เจ็บ ก็มาก อุบัติเหตุก็มีมาก จะมาในวันใหนในอายุ เท่าใด เวลาใด ไม่อาจรู้ได้เลย จะเป็นหญิง จะเป็นชาย จะเป็นชาวบ้านหรือเป็นภิกษุสามเณร หรือเป็นพระราชา มหากษัตริย์ฺ ก็ไม่อาจจะรู้ได้ คือหมายความว่า ไม่รู้วันตายแม้ถึงอย่างนี้ มนุษย์เรา ก็มีความเห็นเข้าข้างตัว คิดว่ายังไม่ตาย นี้คือความประมาท ของมนุษย์เรานี้ อาศรมไผ่มรกต

 

อยากรู้อ่ะค่ะ
ว่าเอเลี่ยนเป็นเทพหรอค่ะ
ทำไมถึงรู้จักกับพระเยซูด้วย
งั้นสวรรค์ก็คืออวกาศหรอ
สงสัยมากมาย