มีสติรู้ตัวว่าฝัน มันเป็นเพราะเรานั่งสมาธิหรือเปล่าครับ..

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย น้าต๋อย เซมเบ้, 23 มกราคม 2009.

  1. Greenshade

    Greenshade เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +103
    มีสติในความฝันและควบคุมได้มากเท่าไหร่ ก็เป็นหลักฐานว่าสติและสมาธิของคุณได้พัฒนามากขึ้นเท่านั้น
     
  2. dadylove

    dadylove สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2007
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +0
    การรู้ตัวว่าฝันอยู่เกี่ยวกับการนั่งสมาธิด้วยหรอค่ะ เพิ่งรุ้นะเนี่ย เป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว ไม่เคยนั่งสมาธิเลย เพิ่งสนใจมานั่งเมื่อไม่นานนี้เอง มันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรอคะ
     
  3. dadylove

    dadylove สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2007
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +0
    แต่เท่าที่รู้ อาการนี้มันเป็นเรื่องปกติทางการแพทย์ แล้วเท่าที่เคยได้ไปทำกรรมฐานที่วัดทุกๆที่ ถ้าคนมีสมาธิ ปฏิบัติกรรมฐานจนได้ถึงขั้นนึง เค้าจะไม่ฝันกันนะคะ
     
  4. dadylove

    dadylove สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2007
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +0
    อีกนิดค่ะ การฝันมันเกิดจากที่สติเรามันฟุ้งซ่านนี่ค่ะ ถ้ามีสติ มีสมาธิจริงๆ เค้าไม่ฝันกันนะคะ
     
  5. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633

    ปัญหาที่ ๑๐ ว่าด้วยฝัน
    (เป็นสำนวนแปลของนายยิ้ม ปัณฑยางกูร จากหนังสือ "ปัญหาพระยามิลินท์" ฉบับหอสมุดแห่งชาติ)​
    พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า ดูด่อนพระนาคเสน คนที่นอนฝันเป็นเพราะอะไร
    พระนาคเสนทูลตอบว่า ขอถวายพระพร เป็นเพราะลมกำเริบ ๑ เพราะดีกำเริบ ๑ เพราะเสมหะกำเริบ ๑ เพราะเทวดาสังหรณ์ ๑ เพราะอารมณ์ที่แนบอยู่กับจิต ๑ เพราะบุรพนิมิต ๑ ขอถวายพระพร ใน ๖ อย่างนี้ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือยิ่งกว่า เป็นเหตุให้คนเรานอนฝัน และฝันเพราะบุรพนิมิตเป็นฝันที่แน่นอน
    ม. ขณะเมื่อจะฝัน เป็นด้วยนิมิตผ่านเข้าไปหาจิต หรือเป็นด้วยจิตไปยึดเอานิมิตมาฝัน หรือมีใครมาบอก
    น. ขอถวายพระพร เป็นด้วยนิมิตผ่านเข้าไปหาจิต หาใช่เป็นด้วยอย่างอื่นไม่ เปรียบเหมือนเงาที่กระจก นิมิตได้แก่เงา จิตได้แก่กระจก ฉะนั้น
    ม. ขณะเมื่อฝัน หลับหรือตื่น
    น. มิใช่ขณะหลับหรือตื่น ขณะใดที่จิตจะก้าวลงสู่ภวังค์ หรือก้าวมาจากภวังค์ ขณะนั้นแล เป็นเวลาที่จะฝัน ขอถวายพระพร คนหลับ ๑ ท่านที่เข้านิโรธสมาบัติ ๑ จิตไม่หวั่นไหว จิตก้างลงสู่ภวังค์ เมื่อเป็นดังนั้น นิมิตก็ผ่านเข้าไปไม่ถึงจิต เหมือนแสงพระอาทิตย์ เมื่อมีเมฆและหมอกเป็นต้น มาปิดบังเสีย ก็ส่องแสงมายังโลกเราได้น้อย หรือไม่ถึงเลยฉะนั้น ส่วนคนตื่นอยู่ จิตขุ่นมัวไม่แน่วแน่ ไม่เป็นปรกติ นิมิตก็เดินไปไม่ถึงจิต เช่นเดียวกัน
    ม. นี่เธอ เบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุดแห่งความหลับมีหรือไม่
    น. มี คือขณะเมื่อร่างกายบางส่วนพักผ่อนหยุดการทำงาน นี้เป็นเบื้องต้น ขณะเมื่อจิตหลับม่อยไปดุจวานรหลับ นี้เป็นท่ามกลาง ขณะเมื่อหลับสนิทจิตก้าวลงสู่ภวังค์ นี้เป็นที่สุดแห่งความหลับ ขอถวายพระพร ท่ามกลางแห่งความหลับนั้นแล เป็นเวลาที่จะฝัน
    ม. เข้าใจ
     
  6. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    เหตุนั้นมาจากการที่คุณเคยได้ร่วมกรรมกับพระท่านมาก่อน

    ไม่ว่าจะกรรมดี หรือ กรรมไม่ดี

    พระท่านจึงมาเยี่ยม และ ถามสุขทุกข์ ควรแล้วที่คุณได้ปฎิบัติ

    มุ่งมั่นเดินตามทางแห่งการปฎิบัติไปเรื่อยๆครับ

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...