ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. pataster

    pataster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +806
    ผมโพสต์แสดงความคิดเห็นบ้างได้ไหมครับ
    ผมว่าถึงประเทศไทยจะโดนผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้แต่ก็ไม่น่าร้ายแรงอะไรจริงไหมครับ
    เนื่องจาก....
    ยังมีครูบาอาจารย์หลายๆท่านเมตตาพวกเราส่วนใหญ่อยู่ ผมไม่ได้แช่งครับแต่ท่านเหล่าคณาจารย์ผู้ทรงเมตตาพรหมวิหาร 4
    อย่างเต็มเปี่ยมถึงเวลาท่านก็จะคอยละสังขารเอาบุญของท่านมาพยุงกรรมของเราไว้ เลื่อนไม่ได้ก็ทำหนักเป็นเบาได้ครับ ผมเชื่ออย่างนั้นครับ นี่ไงเป็นสาเหตุของการเลื่อนเรื่อยมา
    (ถามว่าอาจารย์ละสังขารเกี่ยวไรกับเลื่อนหรือบรรเทาภัยพิบัติ ให้คิดดังนี้นะครับ
    ....พระอรหันต์นั้นเอาเป็นว่าพระอริยะเจ้าก็ได้ครับ ท่านรู้จริงเห็นจริง เห็นทางหลุดพ้นได้จริง
    ถ้าท่านทรงอยู่แนวสอนที่ถูกต้อง+การเคี่ยวเข็ญจากท่านสอนบรรดาลูกศิษย์ จะได้คนบรรลุธรรมอีกเท่าใด
    1 คน 2 คน 3 คน หรือเป็นร้อยก็ว่าไป บุญจากการบรรลุธรรมนั้นใหญ่มากนะครับ นี่ไม่นับถึงพวกคนที่ผิดศีลมาเข้าวัดทำบุญ ทำสมาธิ
    รวมๆแล้ว ถ้าท่านอยู่ท่านสอนคนได้อีกเพียบๆๆๆๆ ก่อบุญได้อีกมาก ....ท่านก็อธิษฐาน ละไปให้กรรมส่วนใหญ่หนักเป็นเบาได้ครับ
    แต่ผลก็คือท่านไม่สามารถจะอยู่บนโลกใบนี้ได้อีก ท่านก็รับกรรมแทนเราไป จิตของพระโพธิสัตว์ทั้งหลายยิ่งใหญ่เหลือประมาณครับ )

    คือจะมาบอกว่าไม่น่ากลัวอะไรหรอกครับ แต่ให้สำนึกไว้ว่าที่คุณยังหายใจได้ทุกวันนี้น่ะพระอรหันต์ท่านโปรดคุณไปกี่องค์แล้ว คุณถึงยืนได้ทุกวันนี้
    เคยชำระหนี้สงฆ์บ้างหรือเปล่า?? เคยคิดทำความดีอย่างที่ท่านตั้งใจปกป้องคุณไว้ให้ได้หายใจเผื่อจะหันมาทำความดีกันหรือเปล่า??? ถ้าทำแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะตอนนั้นที่คุณตายก็จะยังมีของติดตัวไว้เดินทางไกลได้ แต่ถ้าไม่ทำ มัวทำจิตฟุ้งซ่าน พึงสังวนไว้คุณปลอดภัยน่ะไม่ใช่เพราะคุณเองแต่เพราะคนอื่นท่านเสียสละ แล้วถึงเวลาที่คุณต้องตายจริงๆ ซึ่งผมก็คิดว่าไม่น่าจะเกินร้อยปีสำหรับคนปกติรวมถึงผม แล้วถ้าถึงเวลานั้นจริง ไม่ต้องมีภัยพิบัติหรอกคุณพร้อมไหม ถ้าไม่...หลังจากนั้น คุณคงลำบากไปอีกนาน????

    ทำดีให้ใจชุ่มชื่นไว้ครับ ไม่ต้องกลัว คนตายทุกวัน ทุกวัย ทุกเพศอยู่แล้วครับ
    มันมาถึงเราแน่ บางทีอาจจะถึงก่อนเกิดภัยพิบัติอีกครับ
     
  2. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    ไทย – เขมร ปะทะ เดือด อีกเช้านี้ ขณะ 2 รมว.หารือ UN
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งข่าวระดับสูงกองทัพภาคที่ 2 กล่าวยืนยันว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ที่ผ่านมา วันนี้ 15 กุมภาพันธ์ เกิดเหตุปะทะกันที่บริเวณภูมะเขือ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ
    ทั้งนี้ เป็นการก่อกวนจากทหารกัมพูชา ภายหลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาเข้าหารือกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทหารกัมพูชามีการปาระเบิดมือ ไม่ทราบชนิด ใส่ทหารไทย ทหารไทยจึงได้เปิดฉากตอบโต้โดยการใช้ปืนกลเล็ก และระเบิดมือ ปากลับไป
    อย่างไรก็ตาม จากใช้เวลาปะทะกันไม่นาน ปรากฏว่ามีทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 5 นาย สาหัส 1 ราย โดยได้นำตัวส่งโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานีแล้ว
    โดย Mthai news
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อีสาน-ตอ.มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ใต้คลื่นลมในอ่าวไทยสุง กทม.เย็นสุด23-25องศา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554 ดังนี้

    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่เสริมปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีมีฝนฟ้าคะนองอยู่ในเกณฑ์เป็นแห่งๆ และมีลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะนี้ และมีอากาศเย็นตอนเช้าในภาคเหนือกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

    สำหรับ คลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในช่วงวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2554 ไว้ด้วย

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ ตอนบนสุด: อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา
    ตอนล่าง: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศา
    โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
    สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด
    อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศา ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศา และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ
    ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดมุกดาหาร ยโสธร และอำนาจเจริญ
    สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศา
    ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง
    ที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดระยอง สระแก้ว จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด
    17-20 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา
    อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงใต้
    ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
    ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป:
    ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา
    ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา
    ลมใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ห้ามชาวบ้านเข้าใกล้ซาก"เอฟ16" หวั่นได้รับสารเคมีอันตราย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    จากกรณีที่เครื่องบินขับไล่ เอฟ 16 เอดีเอฟ ฝูงบิน 102 กองบิน 1 จ.นครราชสีมา จำนวน 2 ลำ

    ที่เข้าฝึกร่วมยุทธการทางอากาศ หรือคอบร้าโกลด์ ครั้งที่ 30 ประจำปี 2544 กับกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา เกิดอุบัติเหตุตกระหว่างฝึกบินเหนือพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูแลนคา จ.ชัยภูมิ และนักบินทั้ง 2 ลำ ดีดตัวออกจากเครื่องได้ทันก่อนที่เครื่องจะตกถึงพื้น

    เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ คณะแพทย์จากกองบิน 1 ได้นั่งเฮลิปเตอร์จากโรงเรียนบ้านวังโพน ไปสำรวจซากเครื่องบิน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจกันพื้นที่ห้ามชาวบ้านหรือผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าใกล้ซากเครื่องบินเด็ดขาด เนื่องจากทราบว่า มีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์บางคนเข้าไปดับไฟใกล้ตัวเครื่องบิน เกรงว่าจะได้รับสารเคมี จึงประกาศให้ผู้ที่เข้าไปในช่วงแรกออกมาตรวจร่างกายกับหน่วยแพทย์ พร้อมเตือนประชาชนหากเกิดอาการระคายเคืองตัวให้รีบอาบน้ำให้สะอาด นำเสื้อผ้าไปซัก หากมีอาการแพ้ ได้กลิ่นแอมโมเนียหรือมีอาการอื่นๆ ขอให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพื่อความปลอดภัยจากเคมีที่ใช้ในเครื่องบิน




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    15 ก.พ. 54 กลัวอยู่.....
    ผมว่าความตายไม่ใช่สิ่งน่ากลัว ทุกท่านมีชีวิตอยู่ก็ไม่เกินหนึ่งร้อยปี วันนี้ พรุ่งนี้ ใครจะอยู่หรือใครจะไป ไม่มีใครรู้เวลาของตัวเอง?(สำหรับปุถุชน)

    ที่เตรียมการสำหรับภัยพิบัติซึ่งเราก็ไม่รู้อีกเหมือนกันว่าจะเกิดเมื่อไร เวลาไหน? เราเตรียมการเพื่อ เมื่ออยู่ในเวลาเกิดภัยพิบัติ จะได้มีกินมีใช้เพื่อประทังชีวิต เรากลัวจะอยู่มากกว่ากลัวตาย เมื่อเวลานั้นมาถึงซึ่งไม่รู้เมื่อไร พระเจ้าเท่านั้นที่ให้คำตอบแก่ท่านได้

    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน
     
  4. เจดีย์ทอง

    เจดีย์ทอง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +19
    เลื่อนอีกแล้ว สงสัยผู้ใดใครเลื่อนน้อ
     
  5. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ตั้งสติ ระมัดระวังภัยที่กำลังมาใกล้ๆก่อนครับ

    โรคภัยไข้เจ็บเริ่มกลับมาอีกแล้วโดยเฉพาะไข้หวัดที่มีความรุนแรงขึ้น รักษาสุขภาพเอาไว้ด้วยครับ

    กระแสของใจ ที่ทำให้เกิดความเร่าร้อน ตั้งสติ สงบเย็นเอาไว้ พิจารณา 360 องศา ทุกมุม ทุกมิติ ก่อนจึงเชื่อ สามัคคีกันเอาไว้ให้จงหนัก ในทุกๆระดับ ตั้งแต่ครอบครัว ชุมชน องค์กร ไปจนถึง สามัคคีต่อชาติเพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่สุด


    ข้าวยากหมากแพงมาถึงแล้วและจะทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อภัยแล้งเข้ามาเต็มรูปแบบจนขาดน้ำในหลายพื้นที่ เร่งปลูกไม้กินได้ให้มากที่สุดโดยเร็ว

    สงคราม ความขัดแย้งการจราจล รุกลามดังโรคระบาดไปทั้งโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตะวันออกกลาง อันจะส่งผลต่อ น้ำมัน หากไม่มีใช้จะอยู่ได้ไหม หากราคาน้ำมันถีบตัวสูงขึ้นจะปรับตัวได้ไหม


    การเปลี่ยนแปลงเป็นอนิจจังของโลก อัตราเร่งของความเสื่อมนั้นมีมากและมาประจวบเหมาะกับแรงกรรมของสัตว์โลก จึงเป็นเหตุ ภัยพิบัติเป็นผล

    เราปรับใจ ยอมรับความไม่เที่ยง เข้าใจและรู้เท่าทันด้วยสติ

    ปรับจิตให้สงบเย็น แม้โลกเร่าร้อน

    ปรับกาย ตามสภาวะ ตามเหตุ ตามปัจจับ

    ปรับชีวิตให้มั่นคงในทางแห่งบุญกุศล มั่นคงในไตรสรณะคมม์เอาไว้

    จงรอดทั้ง กายภาพและจงรอดพ้นทางจิตวิญญานดำรงมโนสำนึกแห่งความดีให้ได้ ไม่ว่าจะถูกกระหน่ำ จากคลื่นลมแห่งทุกข์ทั้งกาย ใจ สักเพียงใด


    กายไม่รอด ซ้ำยังจิตเศร้าหมองไปอบาย
    รอดทางกาย แต่สูญเสีย ความเป็นมนุษย์

    หรือจะ

    กายตาย แต่ใจไม่กลับมาเกิดอีก

    รอดตาย อยู่สานสืบต่อ พระพุทธศาสนาจนครบห้าพันปี

    สัตว์โลกทั้งหลาย ย่อมเป็นไปตามกรรม ตามจิตอันได้อธิษฐานเอาไว้
     
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ใครว่าโลกไม่เที่ยง ****

    เราทุกคน อยู่ด้วย ความเที่ยง
    เพราะ ทุกสิ่งดำเนินไปด้วย สัจจะธรรม
    สัจจะธรรม เป็นธรรมเที่ยง หลักเดียวที่ปักไว้มั่นคงไม่กระดุกกระดิก

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** เมื่อไม่มีสัจจะนำ จึงไม่มีการกระทำเที่ยง ****

    ทุกการกระทำ...มีผลตอบแทน
    แต่ ที่ผ่านมาเราทำไม่เที่ยงกันเอง
    ผลตอบแทนก็จึงไม่เที่ยง
    เพราะ ขาดสัจจะเป็นผู้นำ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ธรรมเที่ยงมีจริง ทำไม่เที่ยงมีจริง ****

    ข้อปฏิบัติ ศีล วินัย ....
    คำที่กล่าวออกไป ว่าจะทำ

    แล้วทำบ้าง ไม่ทำบ้าง ทำได้บ้าง ทำไม่ได้บ้าง
    ทำเหล่านี้เป็น ..."การกระทำไม่เที่ยง"ผลตอบแทน จึงไม่เที่ยง

    ถ้า ... ประกาศพูดข้อปฏิบัติที่ชัดเจน แล้วทำได้จริง
    ก็จะเกิดเป็น.... "การกระทำเที่ยง" ที่มีผลตอบแทนเที่ยง

    ประเด็นปัญหา อยู่ที่ ...
    สิ่งที่รับมาทำ ประกาศออกไป...มันกว้างใหญ่เกินไป
    เมื่อพูดแล้วทำไม่ได้....มันก็จบ คือ ทำไม่ได้

    ชีวิตนี้เกิดมา... เรื่องหลุดพ้นทุกข์
    การปลดนิสัย ทำลายกิเลส
    ก็ขอให้ "ทำให้ได้จริง สักหนึ่งข้อ" ก็มีผลแล้ว
    ไม่ต้องอะไรมาก.... ข้อเดียวก็มีผลแล้ว

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>มวลอากาศเย็นจากจีนอ่อนกำลังลง อากาศอุ่นขึ้น </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2554 ดังนี้


    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้าและฝนฟ้าคะนองบางแห่งเกิดขึ้นได้ สำหรับภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า
    ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่สุราษฎร์ธานีลงไป มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะนี้

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.


    ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่
    ตอนบนสุดของภาค มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา
    ส่วนบริเวณอื่นๆ อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศา
    โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่บริเวณตอนล่างของภาค
    สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศา
    ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศา
    โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
    สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีหมอกในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศา
    ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีหมอกในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา
    อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
    ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา
    ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา
    ลมใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ไทย-เขมรเปิดฉากฉะรอบใหม่เจ็บอื้อ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 15 ก.พ. ได้เกิดเสียงปืนใหญ่ดังติดต่อกัน ที่พลาญอินทรีย์ ใกล้กับภูมะเขือ บนเทือกเขาพนมดงรัก

    ซึ่งกั้นชายแดนไทย-กัมพูชา ในเขตพื้นที่พิพาท 4.6 ตร.กม. ห่างจากปราสาทพระวิหารไปทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 2 กม. โดยพื้นที่ดังกล่าว เป็นที่ตั้งฐานปฏิบัติการทหาร กองร้อยสนับสนุนที่ 81 และ 82 กองพลน้อยสนับสนุนที่ 8 กองทัพบกกัมพูชา จำนวน 200 นาย ที่มี พล.ต.ยึม ปรึม เป็นผู้บัญชาการ ซึ่งทหารกัมพูชาได้ระดมยิงปืนอาก้า เอเค 47 จรวดต่อสู้รถถังอาร์พีจี 7 ใส่ฐานปฏิบัติการทหาร หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 23 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ของไทย

    ซึ่งทหารพรานไทยได้ขว้างระเบิดมือเอ็มเค 2 เข้าใส่ ยิงปืนเอ็ม 16 เอชเค 33 เอ็ม 79 และจรวดต่อสู้รถถังอาร์พีจี 7 ตอบโต้

    เพื่อสกัดไม่ให้ทหารกัมพูชารุกล้ำคืบคลานเข้าใกล้ฐาน แต่ทหารกัมพูชากลับยิงปืนใหญ่ ค.60 ค.82 และปืนใหญ่สนามเอ็ม 46 ไทป์ 59-1 ขนาด 130 มม. ถล่มอีกรอบ ฝ่ายไทยจึงยิงปืนใหญ่สนามไทป์ 59 ขนาด 130 มม. และปืนใหญ่แอลจี 1 เอ็มเค 2 ขนาด 105 มม.สวนกลับคืน พร้อมกับขอสนับสนุนกำลังจากกองพลทหารราบที่ 6 กองทัพภาคที่ 2 โดยฝ่ายกัมพูชา พล.ต.เยือง โซะคน ผบ.กองพลน้อยสนับสนุนที่ 11 ก็นำกำลังทหารกองร้อยสนับสนุนที่ 111 และ 113 จำนวน 220 นาย เคลื่อนพลสนับสนุนกำลังด้วย

    การปะทะกันดังกล่าว ใช้เวลายาวนานกว่า 3 ชม. เมื่อฟ้าสางจึงได้สิ้นสุดเสียงปืน โดยฝ่ายไทยมีทหารได้รับบาดเจ็บ 5 นาย

    ในจำนวนนี้มีบาดเจ็บสาหัส 1 นาย ซึ่ง พล.ต.ชวลิต ชุนประสาน ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์รับตัวไปรักษาที่ รพ.ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ตั้งแต่เช้ามืดแล้ว โดยที่ทหารไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลใด ๆ กับสื่อมวลชนไทย อีกทั้ง ไม่ยอมรับว่ามีการปะทะกันเกิดขึ้น เพราะผู้บังคับบัญชาระดับสูงสั่งห้ามให้ข่าว เนื่องจากกลัวชาวบ้านชายแดนแตกตื่นเสียงปืนใหญ่ที่ดังขึ้นตั้งแต่เช้ามืด

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ทำให้สถานการณ์ที่หมู่บ้านชายแดน โดยเฉพาะตำบลรุง เสาธงชัย ละลาย และ ต.ซำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

    ซึ่งชาวบ้านเพิ่งอพยพกลับได้แค่ 2 วัน ก็เกิดความโกลาหลขึ้นอีกครั้งทันที เมื่อเสียงปืนใหญ่ดังติดต่อกันหลายนัด จนสั่นสะเทือนมาถึงหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านแตกตื่นหวาดระแวง และกลัวว่าเหตุปะทะกันจะเกิดขึ้นอีก พากันวิ่งเข้าหลุมหลบภัยกันวุ่น บางคนหอบหิ้วลูกหลานมาอาศัยนอนที่ศูนย์อพยพชั่วคราว ที่ว่าการ อ.กันทรลักษ์ ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 40 กม. บ้างก็ขับรถหนีเสียงปืนใหญ่ โดยไม่มีจุดหมายว่าจะไปที่ใด

    บรรยากาศที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย ซึ่งถูกกระสุนจรวดบีเอ็ม 21 ของกัมพูชา ตกใส่ ได้รับความเสียหายในครั้งปะทะกัน

    เมื่อวันที่ 4-6 ก.พ.ที่ผ่านมา วันนี้เป็นวันที่สอง ในการเปิดทำการเรียนการสอน บรรดาครู และนักเรียนช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดบริเวณโรงเรียนที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง พร้อมด้วยเก็บซากลูกกระสุนจรวดมาวางโชว์ในตู้กระจกด้วย นักเรียนมาเรียนเพียงไม่กี่คน ซึ่งทางโรงเรียนได้กางเต็นท์สอนข้างหลุมหลบภัย เพื่อความปลอดภัย

    ขณะที่ โรงเรียนอื่น ๆ ที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะ รร.บ้านภูมิซรอล แทบจะกลายเป็นโรงเรียนร้าง เพราะไม่มีเด็กมาเรียน

    ส่วน พ.ต.ท.เปียว ทองแก้ว สว.สส.สภ.บึงมะลู เปิดเผยว่า ได้ฝึกทบทวนแนวปฏิบัติให้กับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ให้สังเกตบุคคลแปลกหน้าที่อาจแอบแฝงมากับผู้อพยพ ซึ่งอาจจะเป็นสายลับของกัมพูชา หรือมิจฉาชีพที่จะก่อเหตุลักทรัพย์ พร้อมทั้งประสานกับหน่วยทหารที่ลาดตระเวนในพื้นที่ ในการรักษาความสงบเรียบร้อย ดูแลทรัพย์สินประชาชน ตามแผนปฏิบัติการป้องกันรักษาที่ตั้ง และพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ที่ได้ซักซ้อมกันมาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะหากชาวบ้านอพยพหนีภัยก็จะไม่มีใครดูแลบ้านเรือน อาจมีมิจฉาชีพแฝงตัวก่อเหตุได้

    ขณะเดียวกัน ร.อ.ชาตรี ผลนาค นายทหารฝ่ายกิจการพลเรือน หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 23 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า

    จากกรณีที่ตำรวจควบคุมตัว นายบุญทิน ปัสสาสุ อายุ 28 ปี ราษฎร อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ พร้อมของกลาง ที่เชื่อว่าเป็นกระดาษจดรหัสลับ ตลับเมตร หมุดปักระยะ ยาเส้น มีดปลายแหลม โทรศัพท์มือถือ เงินสดจำนวนหนึ่ง ขณะแฝงตัวอยู่พื้นที่หมู่ 12 บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย โดยต้องสงสัยว่าจะเป็นสายลับ ให้กับประเทศกัมพูชานั้น ปรากฏว่า ญาติพี่น้องผู้ต้องสงสัยได้พาผู้นำหมู่บ้าน มายืนยันว่า นายบุญทิน มีอาการทางประสาท และขอรับตัวกลับบ้าน ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงได้ทำการบันทึกประวัติ และปล่อยตัวไปเรียบร้อยแล้ว

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=650><TBODY><TR><TD vAlign=top width=90 align=left>[​IMG]



    </TD><TD vAlign=top width=560 align=left>ศ.นพ.ประเวศ วะสี



    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>๑. ทุนที่สำคัญที่สุดของประเทศไทยคือคนไทย ทุนมีหลายประเภทแต่ทุนที่สำคัญที่สุดคือคน เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ ๒ ประเทศย่อยยับอับจนสูญเสียหมดทุกทาง ทั้งเศรษฐกิจ จิตใจ สังคม ผู้คนพากันท้อแท้เศร้าสร้อยมองไม่เห็นความหวัง ท่ามกลางความหดหู่ ศาสตราจารย์ญี่ปุ่นคนหนึ่งลุกขึ้นพูดว่า “ญี่ปุ่นไม่ได้สูญเสียทั้งหมด ยังเหลืออยู่อย่างหนึ่งคือคนญี่ปุ่น” แล้วญี่ปุ่นก็กลับผงาดขึ้นมาใหม่ด้วยทุนคนญี่ปุ่น
    คนทุกคนมีค่า มีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์และมีศักยภาพ


    คนไทยทั้งประเทศถูกทำให้ด้อยค่า ด้อยศักดิ์ศรี และด้วยศักยภาพ ด้วยมายาคติ ๒ อย่าง อย่างหนึ่งการไม่ให้เกียรติกับ “ชาวบ้าน” คนธรรมดาๆ อีกอย่างหนึ่งคือการเคารพความรู้ในตำรามากกว่าความรู้ในตัวคน การทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศรู้สึกไม่มีศักดิ์ศรีและขาดความมั่นใจในตัวเอง นำไปสู่การขาดความมั่นใจแห่งชาติ ทำให้ชาติอ่อนแอ



    ๒. ความรู้ในตัวคน คนทุกคนมีความรู้ในตัวที่ได้มาจากการทำงานและประสบการณ์ชีวิต เช่น คนขายก๋วยเตี๋ยวมีความรู้ในการทำก๋วยเตี๋ยวอย่างดียิ่ง เช่นเดียวกับช่างผสมปูน ช่างเสริมสวย คนขายของชำ ชาวไร่ชาวนา ช่างไม้ บางคนมีความรู้ทางศิลปะ ดนตรี ความรู้ในการทำกับข้าว ทำขนม ความรู้ในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง ฯลฯ ความรู้ในตัวคนเหล่านี้ล้วนฝังแน่นเพราะทำมากับมือมีประโยชน์ในการดำรงชีวิตและการอยู่ร่วมกัน เนื่องจากความรู้ในตัวคนได้มาจากวิถีชีวิตจริงปฏิบัติจริง จึงเรียกว่ามีฐานอยู่ในวัฒนธรรม


    ส่วนความรู้ในตำราเกิดจากการวิเคราะห์สังเคราะห์จึงอาจเรียกว่ามีฐานอยู่ในวิทยาศาสตร์ ความรู้ทั้ง ๒ ประเภทมีประโยชน์แต่มีที่มาและความหมายต่างกัน


    ถ้าเราเคารพความรู้แต่ในตำรา คนส่วนน้อยเท่านั้นที่มีเกียรติ คนส่วนใหญ่ไม่มีเกียรติ แต่ถ้าเราเคารพความรู้ในตัวคน คนทั้งหมดจะมีเกียรติ


    ระบบการศึกษาไทยและประเทศไทยเคารพแต่ความรู้ในตำรา คนไทยส่วนใหญ่จึงไม่มีเกียรติ ประเทศที่คนส่วนใหญ่ไม่มีเกียรติจะเข้มแข็งได้อย่างไร


    ถ้าประเทศจะเข้มแข็งต้องพลิกโฉมประเทศไทยให้คนทั้งหมดมีเกียรติโดยเคารพความรู้ในตัวคน เอาความรู้ในตัวคนหรือวัฒนธรรมเป็นตัวตั้งเอาวิทยาศาสตร์เป็นเครื่องมือ



    ๓. การทำแผนที่คน (Human Mapping) ถ้าเข้าใจหลักการและคุณค่าความรู้ในตัวคน การทำแผนที่คนไทยทั้งประเทศก็จะไม่ยาก สามารถทำได้เสร็จภายใน ๖ เดือน เรามีหมู่บ้านประมาณ ๘๐,๐๐๐ หมู่บ้าน เรามีมหาวิทยาลัยกว่า ๑๐๐ แห่ง มีนักศึกษารวมกันหลายแสนคน สามารถส่งนักศึกษาไปทำแผนที่คนไทยได้ในทุกหมู่บ้าน



    โดยคุยกับคนในหมู่บ้านทุกคน ให้รู้และเห็นคุณค่าความรู้ในตัวชาวบ้าน ว่าแต่ละคนมีความรู้ความชำนาญอะไรบ้าง มีความรู้สึกนึกคิดอย่างไร เราจะมีฐานข้อมูลความรู้ในตัวคนไทยทั้งประเทศ กระบวนการนี้และผลจะปลดปล่อยพลังมหาศาล (Enormous energy) ออกมา อาจารย์ประภาภัทร นิยม และคณะแห่งโรงเรียนรุ่งอรุณไปทดลองทำแผนที่คนไทยที่เกาะลันตาใหญ่จังหวัดกระบี่และพบพลังงานมหาศาลผุดบังเกิดขึ้น ดังนี้



    ๔. พลังมหาศาลจากการทำแผนที่คน พลังมหาศาลเกิดขึ้นกับทั้ง ๒ ฝ่าย ทั้งฝ่ายชาวบ้านและฝ่ายผู้ไปฟังชาวบ้านพูด ชาวบ้านนั้นจมปลักอยู่กับความต่ำต้อย ความไม่มีเกียรติ ความไม่มีคุณค่า เป็นคนไม่มีความรู้สมัยใหม่ ถูกดูถูกเสียจนดูถูกตัวเอง ครั้นมีคนสมัยใหม่เช่นนักศึกษาหรือคนที่จบปริญญามานั่งฟัง มานั่งขุดความรู้ความชำนาญที่ฝังลึกอยู่ในตัวเรา บางทีก็ลึกจนเขาก็ไม่รู้ว่าเขามีของที่มีคุณค่าอยู่ในตัว การตั้งใจฟังใครเป็นการแสดงความเคารพผู้พูด ตามปรกติชาวบ้านไม่ค่อยได้พูดได้แต่ฟังคนอื่นที่มีอำนาจมากกว่า มีความรู้มากกว่า มีเงินมากกว่า

    บัดนี้มีคนที่เคยสมมติว่าเหนือกว่ามานั่งฟังด้วยความเคารพ และเห็นคุณค่าในสิ่งที่เขารักเขาชอบเขาถนัดที่มีอยู่ในตัวเขาจริงๆ เขาจึงมีความสุขขึ้นมาท่วมท้นที่รู้สึกมีเกียรติ(เป็นครั้งแรกในชีวิต) รู้สึกภูมิใจในตัวเองที่รู้ว่าความรู้ความชำนาญในตัวเขานั้นมีคุณค่า เกิดความมั่นใจในตัวเอง และอยากทำอะไรดีๆเพิ่มขึ้น



    ฝ่ายนักศึกษาหรือบัณฑิตที่ไปทำแผนที่ความรู้ในตัวชาวบ้านก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขั้นรากฐานในตัวเอง เพราะเป็นการเปลี่ยนมุมมองชาวบ้านว่าเป็นคนมีศักดิ์ศรีมีความรู้ในตัว มีคุณค่า การเคารพศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นคนของคนทุกคนเป็นจิตสำนึกใหม่ ที่ทำให้เป็นอิสระ เกิดความรักอันไพศาลต่อเพื่อนมนุษย์ เห็นช่องทางสร้างสรรค์ร่วมกัน จึงเกิดความรู้ขึ้นมาอย่างท่วมท้นเช่นเดียวกัน


    ในสมองของมนุษย์มีส่วนที่ไวต่อการรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของคนอื่นจากสีหน้า แววตา สุ้มเสียง การเคลื่อนไหวร่างกาย การที่มนุษย์กับมนุษย์ได้มาสนทนาใกล้ชิดกัน โดยปราศจากมายาคติขวางกั้น จะเกิดความเห็นอกเห็นใจกัน (Empathy) และการอยากทำเพื่อเพื่อนมนุษย์ (Altruism) ความเห็นใจและการอยากทำเพื่อเพื่อนมนุษย์เป็นธรรมชาติที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน ที่ว่าทุกคนล้วนแต่มีเมล็ดพันธุ์แห่งความดีอยู่ในหัวใจ

    ถ้ามีแต่มายาคติเข้ามาขวางกั้น เช่น ฐานะ อำนาจ กฎหมาย กฎ ระเบียบ เงิน รูปแบบ เมล็ดพันธุ์แห่งความดีไม่มีโอกาสได้งอกงาม แต่ในเมื่อชาวบ้านกับนักศึกษาหรือบัณฑิตได้คุยกันอย่างใกล้ชิดโดยปราศจากมายาคติเข้ามาขวางกั้น เมล็ดพันธุ์แห่งความดีก็งอกงามแผ่ไพศาลขึ้น


    ถึงตอนนี้ก็จะเข้าใจว่าทำไมการทำแผนที่ความรู้ในตัวมนุษย์จึงก่อให้เกิดพลังมหาศาลในกระบวนการนี้ ซึ่งถ้าเราทำทุกพื้นที่ทั่วประเทศคนไทยทุกคนจะกลายเป็นคนมีเกียรติมีศักดิ์ศรีมีความมั่นใจในตัวเอง การเคารพศักดิ์ศรีและคุณค่าของคนทุกคนอย่างเท่าเทียมกันเป็นศีลธรรมพื้นฐานของสังคม อันเป็นรากฐานของความดีงามต่างๆ เช่น ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ความยุติธรรม ความเป็นธรรม


    ๕. ประโยชน์ของฐานข้อมูลความรู้ในตัวคน ถ้าทำแผนที่คนไทยในทุกพื้นที่ แล้วเอาข้อมูลที่ได้ไปเข้าระบบข้อมูลอิเล็คตรอนิกส์ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้จะเกิดประโยชน์ต่างๆมหาศาล ดังต่อไปนี้


    (๑) คนไทยทุกคนจะภูมิใจในตัวเอง ที่สิ่งที่เขารู้สิ่งที่เขาถนัดไปปรากฎในฐานข้อมูลแห่งชาติ เขาย่อมอยากทำอะไรดีๆเพิ่มขึ้น


    (๒) คนทุกคนจะเป็นแหล่งเรียนรู้ของกันและกัน เช่น ใครที่ไหนอยากจะรู้ว่าใครเลี้ยงปลาเก่ง ใครทำเกษตรผสมผสานเก่ง ฯลฯ ก็กดคอมพิวเตอร์ดูก็จะรู้ว่าเขาจะเรียนรู้จากใครได้บ้าง


    (๓) ส่งเสริมเศรษฐกิจวัฒนธรรม เช่น ถ้ารู้ว่าหมู่บ้านไหนทำกับข้าวอะไรอร่อย ทำขนมอะไรอร่อย หรือทำอะไรเก่ง ก็อยากจะไปกินอยากจะไปเที่ยวเป็นการกระจายรายได้ เศรษฐกิจวัฒนธรรมนั้นใหญ่และมั่นคงเพราะเกี่ยวเนื่องกับวิถีชีวิตของคนทั้งประเทศ


    (๔) ข้อมูลของคนแต่ละคนในชุมชนเป็นเรื่องที่ไม่มีใครทราบ แต่เมื่อทราบจะใช้ประโยชน์ในการพัฒนา ยกตัวอย่างเช่น ขณะนี้เราไม่ทราบว่าใครในหมู่บ้านมีนิสัยรักการอ่านบ้าง แต่การทำแผนที่คนไทยจะทำให้รู้ว่าในหมู่บ้านหนึ่งๆมีใครที่ชอบอ่านบ้างแล้วส่งเสริมให้คนเหล่านั้นรวมตัวกัน


    ชมรมรักการอ่านประจำหมู่บ้าน ชมรมสามารถสร้างและดูแลห้องสมุดประจำหมู่บ้านซึ่งควรติดตั้งอินเตอร์เน็ตเพื่อสามารถดึงข้อมูลข่าวสารความรู้มาดูได้ ชมรมรักการอ่านเผยแพร่ความรู้และชักชวนให้คนมาใช้ห้องสมุดกันให้มากขึ้น โดยเฉพาะชมรมรักการอ่านสามารถส่งเสริมให้พ่อแม่ทุกคู่ในหมู่บ้านอ่านหนังสือนิทานดีๆให้ลูกฟัง ซึ่งจะสร้างโปรแกรมในสมองให้เด็กเติบโตขึ้นเป็นฉลาด-ดี-และมีความสุข ถ้าทำทุกหมู่บ้านก็เท่ากับพัฒนาเด็กปฐมวัยหมดทั้งประเทศ

    ข้อมูลว่าใครเก่งเรื่องอะไร คิดอะไร อยากทำอะไร จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาและส่งเสริมการพัฒนาทุกด้าน


    (๕) เป็นการสร้างฐานทางศีลธรรม สังคมไทยประสบความล้มเหลวในการสร้างศีลธรรม เพราะเข้าใจผิดคิดว่าศีลธรรมสร้างได้ด้วยการสอนวิชาศีลธรรม ศีลธรรมไม่ใช่วิชา ศีลธรรมคือการอยู่ร่วมกัน วิถีชุมชนคือวิถีของการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับคนและระหว่างคนกับธรรมชาติแวดล้อม การที่นักศึกษาและครูบาอาจารย์ลงไปเข้าใจชุมชนก็จะได้จิตสำนึกทางศีลธรรมไปด้วยในตัว


    (๖) จะนำไปสู่การปฏิรูปการศึกษาอย่างแท้จริง ระบบการศึกษาเป็นระบบที่ใหญ่มากและมีผลมาก ถ้าการศึกษาเป็นไปเพื่อชีวิตและการอยู่ร่วมกัน การศึกษาก็จะแก้ปัญหาทุกชนิด ทั้งเศรษฐกิจ-จิตใจ-สังคม-วัฒนธรรม-สิ่งแวดล้อม-สุขภาพ-การศึกษา-ประชาธิปไตย เพราะชีวิตและการอยู่ร่วมกันบูรณาการทุกเรื่อง การที่มหาวิทยาลัยไปทำแผนที่คนไทยทั้งประเทศจะทำให้มหาวิทยาลัยเข้าใจและเห็นคุณค่าความรู้ในตัวคน


    เนื่องจากความรู้ในตัวคนมีฐานอยู่ในวัฒนธรรม วัฒนธรรมคือวิถีชีวิตร่วมกัน จะทำให้การศึกษาเชื่อมกับวัฒนธรรมหรือวิถีชีวิตร่วมกัน เมื่อใดการศึกษาเชื่อมกับชีวิตและการอยู่ร่วมกันจะเกิดเรื่องใหญ่มาก คือ เกิดการอภิวัฒน์ประเทศไทยทุกด้าน


    ก็ลองคิดดูก็แล้วกัน การที่มหาวิทยาลัยไปทำแผนที่ความรู้ในตัวคนไทย เป็นเรื่องง่ายๆทำได้ไม่ยากแต่มีผลใหญ่มากถึงขั้นอภิวัฒน์ประเทศไทย


    (๖) จากทักษิณถึงอภิสิทธิ์ ก่อนคุณทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๔ ท่านคุยกับผมหลายครั้ง เมื่อเป็นนายกฯในปีแรกก็คุยกันเป็นส่วนตัวครั้งหนึ่ง ผมแนะนำเรื่องใหญ่ๆไป ๔ เรื่อง เรื่องหนึ่งคือการทำแผนที่คนไทย หรือ Human Mapping ตามที่กล่าวถึงนี้ ท่านเป็นคนปัญญาไวเข้าใจทันที แต่การเป็นนายกรัฐมนตรีก็คงทำให้ท่านยุ่งเกิน เลยไม่ได้ทำ


    หวังว่านายกฯอภิสิทธิ์จะไม่ยุ่งเกิน!


    การเห็นคุณค่าความรู้ในตัวคนไทยทุกคนจะทำให้คนทั้งประเทศมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีมีความมั่นใจในตัวเอง คนไทยที่มีเกียติมีศักดิ์ศรีมีคุณค่าทั้งประเทศจะพลิกโฉมหรืออภิวัฒน์ประเทศไทย



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** Sujja of Human ****

    <TABLE id=post4325562 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>01-02-2011, 10:31 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#5 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4325562", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,248
    พลังการให้คะแนน: 5063 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4325562 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** การปฏิบัติของมนุษย์ ข้อ ๑ ****

    ทำตนเป็นคนมีสัจจะ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ใครรับได้ ก็เอาไป ****

    หลักเดียวที่มั่นคง...คือ สัจจะธรรม
    แก่นสารการปฏิบัติ....คือ สัจจะ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เตือนภัยพิบัติรุนแรง เริ่มฤดูฝนปีนี้เป็นต้นไป

    [​IMG]

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->โอบีวัน<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4367885", true); </SCRIPT> สมาชิก

    ผมได้เปรียบเทียบช่วงเวลา และเหตุการณ์ที่ตรงกับคำทำนายในอดีตที่ผ่านมา

    ปี 2548 * 2005 เมื่อถึงปลายรัชกาลผ่านเข้ามา ประเทศชาติจะรุ่งเรืองและเฟื่องฟุ้ง น้ำมันผุดขึ้นมาจนเห็นค่า พวกกาขาวจะบินรี้หนีเข้ามา เป็นประชาจนเต็มพระนคร
    ปี 2549 * 2006 ชนทั่วโลกจะยกพระองค์ท่าน ชื่อกระฉ่อนร่อนทั่วทุกสิงขร ออกพระนามลือชื่อดั่งทินกร องค์อมรเอกบุรุษแห่งแผ่นดิน
    ปี 2550 * 2007 ชาวประชาจะปิติยิ้มสดใส แต่อกไหม้หนอนกินข้างในสิ้น จะมีพวกกาฝากคอยกัดกินเ พื่อให้ได้สิ่งถวิลสมจินตนา
    ปี 2551 * 2008 จะมีการต่อตีกันกลางเมือง ขุนนางเขื่องกังฉินกินทั่วหล้า คอรัปชั่นจะกัดกร่อนทั้งพารา ประดุจปลวกกินฝานั้นปะไร
    ปี 2552 * 2009 ข้าราชการตงฉินถูกประณาม สามคนหามสี่คนแห่มาลากไส้ เกิดวิกฤติผิดเพี้ยนโดยทั่วไป โกลาหลหม่นไหม้ไร้ความดี
    ปี 2553 * 2010 ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว ถ้วนทุกทั่วจะหมุดขุดรูหนี ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน

    ปี 2554 * 2011 พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย (ถ้าตรงภัยพิบัติจะเกิดปีนี้ 2554)

    ปี 2555 * 2012 แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน
    ปี 2556 * 2013 ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น ทั้งพฤฒาอาจารย์ลือระบิล จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม
    ปี 2557 * 2014 ความระทมจะถมทับนับเทวศ ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง
    ปี 2558 * 2015 จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ
    ปี 2559 * 2016 ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้ จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ...

    ปี 2554 * 2011 (เหตุเกิดตั้งแต่ต้นปี ตัวผมเองมั่นใจว่าตรงมาก)

    พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ พุทธศาสน์ หรือ ยุทธศาสตร์ คำทำนายนี้มีโค๊ดอยู่..เขาพระวิหาร ใช้คำว่ารุกและล้ำดินแดน เขียนมาตั้งแต่สมัยยังไม่เกิดเหตุนะครับ)

    มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ (เหตุการณ์นี้เกิดแล้ว พันธมิตรโค้นล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์)

    เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน (เหตุการณ์ภัยพิบัติในปีนี้ถ้าตรงกับสิ่งที่คิดไว้ กุญแจดอกนี้ไขทุกอย่าง ถ้าเกิดเหตุการณ์จริง น่าจะเป็นช่วงเข้าฤดูฝนปีนี้เป็นต้นไป)

    พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย (บทนี้น่าจะบอกถึงเมื่อเข้าฤดูฝน มีพายุที่ระดับความรุนแรงมากแน่ๆ น้ำถล่มคงไม่พ้นสึนามิแน่ๆ ดินทลายคงจะเกิดแผ่นดินไหวไปทั่ว

    ลักษณะการใช้ถ้อยคำทำนายรุนแรงจริงๆ และไม่ได้เขียนในบทก่อนหน้านี้มากนัก เจาะจงเขียนในบทนี้ ซึ่งขัดแย้งกับสองประโยคแรกโดยสิ้นเชิงที่เกี่ยวกับพุทธศาสตร์จะถูกรุกและล้ำ มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ ที่ไม่เกี่ยวกับภัยพพิบัติเลย แต่กลับเจาะจงเขียนอย่างกระทันหันแบบ ไม่ต้องตั้งตัวกันเลย )..คอยดูเดือน พฤษภาคม-มิถุนายนปีนี้ไว้นะครับ เมื่อเกิดเหตุการณ์ตรงคำทำนายนี้ ตัวผมเองพร้อมแล้ว..ท่านพร้อมรึยัง...

    ท่านที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดทั้งหมด ได้ที่ลิ้งค์ข้างนี้ครับ

    ที่มา ข้อมูลใหม่ คำทำนายเตือนภัยพิบัติรุนแรง เริ่มฤดูฝนปีนี้เป็นต้นไป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • _1_~2.jpg
      _1_~2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.2 KB
      เปิดดู:
      2,731
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2011
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ปี 2554 * 2011 พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย

    [​IMG]

    พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ ผมคิดว่าน่าจะหมายถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ที่มีพระภิกษุและประชาชนที่นับถือศาสนาพุทธ ถูกรุกและล้ำอธิปไตย โดยผู้ก่อความไม่สงบภาคใต้ที่นับถือศาสนาอิสลาม และประเทศเพื่อนบ้านที่นับถือศาสนาอิสลาม เข้ามาขับไล่และเข่นฆ่าจนไม่สามารถจะอยู่อาศัยต่อไปได้มากกว่าครับ ส่วนมิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ ผมคิดว่าน่าจะหมายถึงประเทศมาเลเซีย

    เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย ผมมีความเห็นเช่นเดียวกับคุณโอบีวันครับ -เกษม-

    โจรใต้ใจบาปกดบิ้มพระ เจ็บพร้อมทหาร ต้องหามส่งโรงพยาบาล 5 ราย

    ไฟใต้ยังเดือดพล่าน ล่าสุดคนร้ายไม่กลัวบาป ลอบวางบึมถล่มพระสงฆ์ได้รับบาดเจ็บสาหัสพร้อมเจ้าหน้าที่ทหารคุ้มกันอีก 4 นาย ขณะออกบิณฑบาตรในพื้นที่ ต.สะบารัง อ.เมืองปัตตานี ด้าน จ.นราธิวาส คนร้ายขี่รถ จยย.ประกบยิงชายนิรนามเสียชีวิตคาถนน ส่วน จ.ยะลา บุกยิง อส.ศีรษะกระจุยดับอนาถ

    สถานการณ์ไฟใต้ยังร้อนระอุรายวัน โดยเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 28 ม.ค. พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต ผกก. สภ.เมืองปัตตานี รับแจ้งเหตุระเบิดมีผู้บาดเจ็บบริเวณเชิงสะพานโกวิทยา ถนนโรงเหล้า ต.สะบารัง จึงพร้อมด้วยนายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล ผวจ.ปัตตานี พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พ.ท.ชาคริต สนิทพ่วง ผบ.ฉก.ปัตตานี 23 สนธิกำลังไปตรวจสอบ พบผู้บาดเจ็บเป็นพระและเจ้าหน้าที่ทหารรวม 5 ราย นำส่ง รพ.ปัตตานี ทราบชื่อพระวัชรพงศ์ สุทะ อายุ 38 ปี พระวัดหลักเมือง ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขาทั้งสองข้าง พลทหารเสกสรร อินทร์เพชร อายุ 23 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขาขวาและตามลำตัว พลทหารกฤษฎา บัวบาน อายุ 19 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขาซ้าย พลทหารวีระพงษ์ ประเสริฐศร อายุ 23 ปี และพลทหารบุญถม ขันตี อายุ 22 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณลำตัว ที่โคนเสาไฟฟ้าริมถนนพบหลุมระเบิดและชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องกระจาย เกลื่อน

    สอบพบขณะที่พระวัชรพงศ์ออกบิณฑบาตโดยมีเจ้าหน้าที่ทหารชุด เฉพาะกิจปัตตานี 23 จำนวน 4 นายเดินตามประกบรักษาความปลอดภัย ถึงที่เกิดเหตุคนร้ายได้กดระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สปิกนิกน้ำหนัก ประมาณ 5 กก. ระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เป็นเหตุให้พระวัชรพงศ์และเจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 4 นาย โดนแรงระเบิดล้มระเนนระนาดได้รับบาดเจ็บ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบคนร้ายที่ก่อเหตุมี 2 คน ขี่รถ จยย.สวมหมวกกันน็อกนำระเบิดมาวางในช่วงเวลา 05.51 น.

    ส่วนคนร้ายเชื่อว่าเป็นกลุ่มนายมะซอเร ดือรามะ แกนนำอาร์เคเคที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ ที่ จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.ปัญญาภาส สิทธิโชติพงศ์ สารวัตรเวร สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตบนถนนสายโคก-กูเว-โคกอิฐ บ้านโคกกระท่อม หมู่ 3 ต.พร่อน พบศพชายไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 25 ปี ถูกยิงนอนจมเลือดข้างรถ จยย.ฮอนด้า โนวา สีเหลือง ทะเบียน กกย 835 นราธิวาส สอบสวนทราบว่าช่วงเช้ามีชาวบ้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด กระทั่งช่วงสายมีชาวบ้านขี่รถ จยย.ผ่านมาพบศพ คาดว่าผู้ตายเป็นคนต่างถิ่นถูกคนร้ายขี่รถ จยย.ประกบยิงเสียชีวิต

    ข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ 28 ม.ค.54

    ที่มา http://www.thairath.co.th/today/view/144983

    ปลดชนวนกรรม ๓ จังหวัดภาคใต้…คำเตือนครั้งสุดท้ายก่อนมหาภัยพิบัติมาเยือน

    ...ครั้งนี้ต้องขออนุญาตเป็นสื่อญาณ ของบรรพกษัตริย์ในอดีตที่ผ่านเข้ามาในภวังคจิต ครั้นจะคิดว่าเป็นอุปาทาน ไม่บอกกล่าวก็เกรงจะไม่ดี ครั้นจะบอกกล่าวไปแล้วไม่เกิดอย่างที่ว่าก็คงตกเป็นที่ครหาและอาจชักนำภัยมาสู่ตัว เอาเป็นว่าหากไม่เกิดภัยจากโลกมนุษย์ ก็จะต้องประสบภัยจากโลกวิญญาณ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ขอเลือกที่จะเปิดเผยก็แล้วกัน

    ...ขอดวงญาณแห่งพระมหาเถระวิสุทธิสงฆ์ องค์พระอรหันต์ผู้บรรลุธรรมวิเศษ มีนามว่า “พระมาลัยมหาเถรเจ้า” ผู้เคยได้พำนักอยู่ในลังกาทวีป และท่านได้เกิดในมลัยชนบทนี้ ขอดวงญาณพระอินทคุตตะมหาเถรเจ้า ผู้ได้อำนวยการสร้างพระมหาสถูปเจดีย์ในเมืองอนุราธบุรี ลังกาทวีปนี้ ขอดวงญาณแห่งองค์พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ผู้คุ้มครองทะเลใต้ ผู้จะตรัสรู้เป็นพระศรีอริยเมตไตรย์ในภายหน้า ขอดวงญาณแห่งพระเจ้าอภัยทุฏฐคามินี ผู้จะได้เป็นอัครสาวกเบื้องขวาของพระศรีอริยเมตไตรย ขอดวงญาณของพระเจ้าสัทธาดิสผู้จะได้เป็นพระอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระศรีอริยเมตไตรย์ และดวงญาณของบรุพมหากษัตริย์ บรรพชนทั้งหลายที่ยังคงเฝ้ารักษาผืนแผ่นดินอันเป็นที่ตั้งแห่งลังกาทวีปนี้

    จงเป็นสักขี ณ บัดนี้ ข้าฯ จะขอเปิดชนวนกรรมของแผ่นดิน เพื่อเป็นเครื่องอนุเคราะห์แก่หมู่คนผู้มีวิสัยจะพ้นจากภยันตราย ให้ช่วยกันแก้ไขปลดชนวนกรรม ก่อนมหาภัยพิบัติอันเนื่องจากผลกรรมจะทำลายเหล่าคนอาสัตย์อาธรรม เปิดฟ้าเปิดดินในอนาคตอันไม่ไกลจากนี้ หรือหากแม้ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดจะคิดอ่านแก้ไขได้ทัน ก็ขอให้ดวงญาณของท่านทั้งหลายได้คุ้มครองดลจิตดลใจผู้เป็นสัมมาทิฐิได้ขยับขยายหนีย้ายไปสู่ที่อันปลอดภัย ส่วนมันผู้ใดเป็นมิจฉาทิฐิแม้มีชีวิตต่อไปย่อมจะก่อสร้างบาปเวรเป็นอันยิ่งไปกว่านี้ ก็ขอดวงญาณของท่านทั้งหลายอย่าได้ปกป้องเขาเหล่านั้นคงวางอุเบกขาปล่อยให้เป็นไปตามกรรมของพวกเขาเทียว

    ...กรรมทั้งหลายที่คนอาสัตย์อาธรรมได้กระทำแก่พระพุทธศาสนา แก่แผ่นดินแห่งนี้ เป็นเวลาล่วงมาช้านาน จนคนรุ่นหลังไม่อาจสืบสาวราวเรื่องได้

    บัดนี้ ข้าฯ จะขอเทวานุญาต ชี้ทางแก้ไขพอเป็นเครื่องบรรเทากรรม ว่าหากแม้นมีผู้หนึ่งผู้ใด คณะหนึ่งคณะใด จะได้ขุดค้นหาพุทธสถานสำคัญคือ “พระมหาเหมมาลิกเจดีย์” ที่พระเจ้าอภัยทุฎฐคามินี ได้สร้างขึ้นด้วยอิฐทองคำ อันเป็นพระสถูปเจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุอันเป็นส่วนแบ่งปันประมาณสองทะนานทองแห่งกษัตริย์ในรามคามประเทศ

    ได้บรรจุไว้ในมหาเจดีย์ริมแม่น้ำต่อมาได้พังทะลายลง และพญานาคได้อัญเชิญไปไว้ในนาคพิภพ ซึ่งสามเณรผู้มีฤทธิ์ได้อัญเชิญมาบรรจุใน “พระมหาเหมมาลิกเจดีย์” นี้นั่นเอง และเมื่อใดได้ค้นพบ “พระมหาเหมมาลิกเจดีย์” อันจะเป็นเครื่องยืนยันที่ตั้งของอนุราธบุรี แห่งลังกาทวีป และผู้คนทั้งหลายได้พร้อมใจกระทำการตั้งพิธีขอขมาลาโทษต่อพระรัตนตรัย ดวงพระวิญญาณบรุพมหากษัตริย์ และบรรพชน ตลอดเทพยดาอารักษ์ พระแม่ธรณีแล้วไซร้ ขอกรรมทั้งหลายเหล่านั้น จงเป็นอันระงับไปด้วยเถิด...

    ...ถามว่าปริศนาที่ตั้งแห่ง “พระมหาเหมมาลิกเจดีย์” อยู่ที่ใดไซร้ ข้าฯ ขอแจ้งแถลงไขด้วยอาศัยสัญญาแห่งอดีตชาติว่า บัดนี้เทพเทวาทั้งหลายได้มอบให้พระแม่ธรณีรักษาไว้อยู่ใต้ผืนดินไม่ลึกไม่ตื้น อยู่ไม่ห่างจากศาลเจ้าพ่อหลักเมืองยะลา ในเขตพื้นที่ตั้งโรงเรียนพลตำรวจนั่นเอง...

    ...หากแม้นมีผู้หนึ่งผู้ใด คณะหนึ่งคณะใด เร่งแก้ไขปลดชนวนกรรมนี้ได้ภายในวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๔๘ นี้ไซร้ ขอภัยอันตรายทั้งหลายจงเป็นอันระงับ หากข้ามพ้นวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๔๘ นี้ไป ท่านท้าวจตุโลกบาลเห็นสมควรอย่างไร ข้าฯ จักไม่ขอวิงวอน ออดอ้อนอันใดอีก ขอพระยายมราชจงเป็นสักขีตามนี้ด้วยเทียว...

    เอกอิสโร วรุณศรี เมื่อ 08/03/2005

    ที่มา http://bbznet.pukpik.com/scripts2/view.php?do=form_edit_reply&board=1&id=390&numreply=2&user=nara
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2011
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกิดแผ่นดินไหว 3 ครั้งทางชายฝั่งญี่ปุ่น

    [​IMG]

    ฮ่องกง 16 ก.พ. - ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลระดับปานกลาง 3 ครั้งระหว่าง 5.1-5.4 ริกเตอร์ ทางชายฝั่งญี่ปุ่นวันอังคารและเช้าวันพุธนี้ แต่ยังไม่มีประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิ

    แผ่นดินไหวระลอกแรกมีขนาด 5.4 ริกเตอร์ ใกล้กับหมู่เกาะริวกิว ทางใต้ ที่ความลึกเพียง 4.7 กิโลเมตร เมื่อเวลาประมาณ 23.12 น.วันอังคารตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 21.12 น. ตามเวลาในไทย โดยมีศูนย์กลางห่างจากจังหวัดโอกินาวาราว 70 กิโลเมตร จากนั้นเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.1 ริกเตอร์ ทางเกาะฮอนชูเมื่อเวลา 04.06 น.เช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 02.06 น.ที่ผ่านมาในไทย ที่ความลึก 53.9 กิโลเมตร ส่วนแผ่นดินไหวครั้งที่สาม วัดได้ 5.2 ริกเตอร์ ที่เมืองเซนได เมื่อเวลา 05.01 น. เช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ร้อยละ 70 ของแนวโน้มการเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่อาจมีขนาดถึง 7 ริกเตอร์ขึ้นไป อาจเกิดขึ้นที่กรุงโตเกียวภายในระยะเวลา 30 ปีนี้ .- สำนักข่าวไทย

    วันพุธ ที่ 16 ก.พ. 2554

    เปรูประสบภัยน้ำท่วมรุนแรง

    [​IMG]

    เปรู 15 ก.พ. - เปรูกำลังประสบภัยน้ำท่วมอย่างรุนแรง บ้านเรือนประชาชนพังเสียหายจำนวนมาก แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

    ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้น้ำในแม่น้ำหลายสายเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมถนน และบ้านเรือนประชาชนในเมืองอเรกิปา เมืองซัสโก และพื้นที่โดยรอบ บ้านเรือนประชาชนจำนวนมากถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย รวมถึงทรัพย์สินที่สูญหายไปกับกระแสน้ำ ทำให้ผู้ประสบภัยบางคนถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัว ขณะที่อีกหลายร้อยคนไม่มีที่อยู่อาศัย ทางการต้องจัดหาศูนย์พักพิงชั่วคราวไว้รองรับ และส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยลงไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบราว 1,900 คน ซึ่งในบางพื้นที่น้ำท่วมสูงถึงระดับเอว อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

    วันอังคาร ที่ 15 ก.พ. 2554

    อิรักเลื่อนโครงการซื้อเอฟ 16 เพื่อนำเงินซื้ออาหารปันส่วนคนจน

    [​IMG]

    แบกแดด 15 ก.พ.-อิรักเลื่อนแผนการซื้อเครื่องบินรบเอฟ-16 จำนวน 18 ลำจากสหรัฐในปีนี้ออกไปก่อน และนำเงินดังกล่าวมาเป็นทุนซื้ออาหารปันส่วนคนยากจน ท่ามกลางกระแสการประท้วงที่เพิ่มขึ้นซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากในอียิปต์และตูนิเซีย

    โฆษกรัฐบาลอิรักกล่าวยืนยันการเลื่อนซื้อเครื่องบินเอฟ-16 ในปีนี้ ขณะที่สมาชิกในคณะกรรมาธิการคลังของรัฐสภาอิรักกล่าวว่า ร่างงบประมาณใหม่สำหรับปี 2554 ที่เสนอต่อคณะกรรมาธิการฯ จะนำเงิน 900 ล้านดอลลาร์ที่ใช้ซื้อเครื่องบินเอฟ-16 มาเป็นเงินกองทุน ซื้ออาหารปันส่วนและสวัสดิการสังคม รัฐบาลอิรักต้องดำเนินการเช่นนี้เพราะประสบปัญหาขาดดุลงบประมาณ

    ทั้งนี้ อิรักตั้งงบประมาณสำหรับปีนี้ไว้ที่ 81,860 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่มีรายได้เพียง 68,560 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ขาดดุลงบประมาณ 13,300 ล้านดอลลาร์ นายกรัฐมนตรีนูรี อัล-มาลิกิ ของอิรัก กล่าวกับสำนักข่าวต่างประเทศว่า ชาวอิรัก 6 ล้านคนอยู่ในโครงการปันส่วนอาหาร และรัฐบาลของเขาจะเพิ่มเงินในโครงการปันส่วนอาหารจาก 3,000 ล้านดอลลาร์เป็น 4,000 ล้านดอลลาร์

    อิรักมีความต้องการเครื่องบินรบเอฟ-16 เพื่อใช้ป้องกันน่านฟ้าหลังจากที่กองทัพสหรัฐ ถอนตัวออกจากอิรักในปีนี้ โฆษกของกองทัพสหรัฐในอิรัก กล่าวว่า ฝูงบินเอฟ-16 ที่จะขายให้อิรักมีมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์ โดยจะเป็นรุ่นบล็อก 52 โครงการนี้นอกจากตัวเครื่องบินแล้ว ยังรวมไปถึงอาวุธ อะไหล่ การฝึกและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเช่นระบบอิเล็กทรอนิกส์และการเดินอากาศ.-สำนักข่าวไทย

    วันอังคาร ที่ 15 ก.พ. 2554

    อุบัติเหตุจากหิมะตกหนักในโตเกียว มีผู้บาดเจ็บกว่า 60 คน

    [​IMG]

    โตเกียว 15 ก.พ. – สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานอ้างเจ้าหน้าที่ของทางการวันนี้ว่า อุบัติเหตุที่เกิดจากหิมะตกหนักในกรุงโตเกียวและพื้นที่ใกล้เคียงนับตั้งแต่คืนวานนี้ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 60 คน

    รายงานระบุว่า หิมะที่ตกลงมาอย่างหนัก ยังทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสั่งเลื่อนหรือยกเลิกบริการรถไฟเจอาร์หลายเส้นทางในกรุงโตเกียวและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งรวมถึงรถไฟสายโซบุ ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารกว่า 100,000 คน ส่วนรถไฟชินคันเซ็นขาออกจำนวนหนึ่งก็ถูกเลื่อนการเดินทางออกไปเช่นกัน เจ้าหน้าที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเปิดเผยว่า ยอดผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่เกิดจากหิมะเพิ่มเป็นอย่างน้อย 43 คนในกรุงโตเกียว และ 21 คนในจังหวัดไซตามะ ในจำนวนดังกล่าวมีหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บเพราะลื่นหกล้ม. -สำนักข่าวไทย

    วันอังคาร ที่ 15 ก.พ. 2554

    เกิดเหตุไฟไหม้ชุมชนแออัดในฟิลิปปินส์ ไร้ที่อยู่ราว 10,000 คน

    [​IMG]

    มะนิลา 15 ก.พ. – เจ้าหน้าที่สอบสวนเหตุไฟไหม้ของฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า เกิดเหตุไฟไหม้ในชุมชนแออัดขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของฟิลิปปินส์ คร่าชีวิตเด็กชายวัย 5 ปี 1 คน และทำให้ประชาชนราว 10,000 คนต้องสูญเสียบ้านเรือน

    เจ้าหน้าที่สอบสวนเหตุไฟไหม้เปิดเผยว่า ทางการยังไม่ได้สรุปสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในชุมชนแออัดบาเฮย์โตโร ซึ่งทำลายบ้านเรือนไปราว 500 หลัง ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นเด็กชายวัย 5 ปี 1 คนและมีผู้บาดเจ็บอีก 6 คน รวมทั้งทำให้ครอบครัวราว 2,000 ครัวเรือนต้องกลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ครอบครัวที่อาศัยอยู่ในชุมชนดังกล่าวโดยเฉลี่ยแล้วจะมีสมาชิกราว 5 คน แต่มีหลายครอบครัวอาศัยอยู่ร่วมกันในบ้านหลังหนึ่ง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงเพื่อดับไฟที่โหมลุกไหม้

    ทั้งนี้ มักเกิดเหตุเพลิงไหม้ในชุมชนแออัดของฟิลิปปินส์ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกิดเหตุไฟไหม้ในชุมชนแออัดแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากชุมชนบาเฮย์โตโรไปราว 2 กม. ทำให้บ้านเรือนราว 600 หลังถูกไฟไหม้เสียหาย และประชาชน 20,000 คนต้องกลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัย -สำนักข่าวไทย

    วันอังคาร ที่ 15 ก.พ. 2554

    ธนาคารโลกเตือนราคาอาหารโลกสูงขึ้นถึงระดับที่อันตราย

    [​IMG]

    วอชิงตัน 16 ก.พ.-นายโรเบิร์ต เซลลิค ประธานธนาคารโลกกล่าวว่า ราคาอาหารโลกในปัจจุบันเข้าสู่ระดับที่อันตราย และเตือนราคาอาหารที่สูงขึ้นนี้จะส่งผลต่อภาวะการเมืองและสังคมที่เปราะบางในตะวันออกกลางและเอเชียกลาง

    ข้อมูลของธนาคารโลกที่นำออกเผยแพร่วานนี้เผยถึงราคาอาหาร เช่น ข้าวสาลี ข้าวโพด น้ำตาลและน้ำมันปรุงอาหารที่มีราคาสูงขึ้น ทำให้ประชากร 44 ล้านคน ในประเทศกำลังพัฒนาเข้าสู่ภาวะยากจนถึงขีดสุดตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2553 เป็นต้นมา

    ประธานธนาคารโลกระบุว่า ราคาอาหารโลกในขณะนี้ได้สร้างความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานให้กับคนยากจนทั่วโลก และถึงแม้ว่าราคาอาหารที่สูงขึ้นไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการประท้วงในอียิปต์และตูนิเซีย แต่ก็เป็นปัจจัยหนุนที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง

    นายเซลลิค บอกว่า ราคาอาหารที่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงทั่วเอเชียกลางมีนัยทางการเมืองและสังคมต่อภูมิภาคดังกล่าว เขากังวลว่าประเด็นราคาอาหารที่แพงขึ้นจะทำให้การลุกฮือในอียิปต์ ตูนิเซียและจอร์แดน ยิ่งเพิ่มความเปราะบางอ่อนไหวในช่วงเวลาที่สังคมเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง นายเซลลิควิงวอนประชาคมโลกให้ตระหนักถึงความเสี่ยงและไม่ควรดำเนินนโยบายที่จะเพิ่มปัญหา เช่น ห้ามการส่งออกหรือรวมหัวกันกำหนดราคา ซึ่งจะยิ่งทำให้ราคาอาหารโลกแพงขึ้นไปอีก

    ราคาอาหารโลกที่สูงขึ้นนี้เกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรง เช่น พายุ ความแห้งแล้ง น้ำท่วมในประเทศสำคัญที่ผลิตสินค้าเกษตร ทั้งนี้ ที่ออสเตรเลียเกิดพายุไซโคลนและน้ำท่วมใหญ่ ส่วนที่สหรัฐเกิดพายุฤดูหนาว ขณะที่รัสเซียเกิดไฟไหม้ป่า

    สถาบันต่อสู้ความยากจนในกรุงวอชิงตัน รายงานว่าดัชนีราคาอาหารเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ในช่วงเดือนตุลาคม 2553-มกราคม 2554 ต่ำกว่าค่าดัชนีที่พุ่งขึ้นไปสูงสุดในครั้งเกิดวิกฤติอาหารในปี 2551 เพียงร้อยละ 3.-สำนักข่าวไทย

    วันพุธ ที่ 16 ก.พ. 2554

    โอบามาสนับสนุนผู้ประท้วงที่อิหร่าน

    [​IMG]

    วอชิงตัน 16 ก.พ. - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ เสนอให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงในอิหร่าน โดยกล่าวคาดหวังว่า ผู้ประท้วงจะมีความกล้าหาญที่จะแสดงความประสงค์ต้องการเรียกร้องเสรีภาพมากขึ้น

    ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า กรณีอิหร่านไม่เหมือนกับอียิปต์ ตรงที่อิหร่านตอบโต้การประท้วงด้วยการยิง ทุบตีและจับกุมคุมขังประชาชน ประธานาธิบดีโอบามา กล่าวว่า เขาคาดหวังว่า จะได้เห็นประชาชนชาวอิหร่านมีความกล้าหาญที่จะแสดงความต้องการของพวกเขาเพื่อเรียกร้องเสรีภาพและรัฐบาลที่เป็นผู้แทนของประชาชนอย่างแท้จริง.-สำนักข่าวไทย

    วันพุธ ที่ 16 ก.พ. 2554

    ผู้นำอิหร่านว่าพวกวางแผนประท้วงจะไม่ประสบผลสำเร็จ

    [​IMG]

    เตหะราน 16 ก.พ. -ประธานาธิบดีมาห์มูด อาห์มาดิเนจัด ผู้นำอิหร่าน กล่าวว่า พวกศัตรูที่วางแผนประท้วงต่อต้านรัฐบาลในกรุงเตหะรานเมื่อวันจันทร์ จะไม่สามารถบรรลุผลได้ตามเป้าหมาย

    ผู้นำอิหร่านกล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ของทางการอิหร่านว่า เป็นที่แน่ชัดว่าอิหร่านมีศัตรูหลายฝ่าย เนื่องจากเป็นประเทศที่มีความเจริญสูงสุด และต้องการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่าง ๆ ในโลก อย่างไรก็ตาม แม้จะมีศัตรูมากเพียงใด แต่พวกก่อการประท้วงก็จะไม่มีวันสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายได้

    เจ้าหน้าที่อิหร่าน กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิต 2 คน จากการประท้วง และอีกหลายคนได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคง 9 นาย หลังจากผู้สนับสนุนฝ่ายค้านหลายพันคนชุมนุมตามท้องถนนต่อต้านประธานาธิบดีอาห์มาดิเนจัด ตามกระแสชุมนุมประท้วงเพื่อสนับสนุนการลุกฮือขึ้นในประเทศอาหรับ .- สำนักข่าวไทย

    วันพุธ ที่ 16 ก.พ. 2554

    รัฐบาลอินเดียวิตกการเสริมสร้างแสนยานุภาพทางทหารของจีน

    [​IMG]

    นิวเดลี 16 ก.พ.- รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอินเดียแสดงความวิตกอย่างยิ่งต่อการเติบโตของพลังอำนาจทางทหารของจีนและให้คำมั่นว่ารัฐบาลอินเดียจะเสริมสร้างแสนยานุภาพของตนเองเช่นกัน

    อินเดียและจีนมีความขัดแย้งบริเวณชายแดนแถบเทือกเขาหิมาลัยมาอย่างยาวนาน แต่ก็ให้สัญญาอย่างเป็นทางการว่าจะแก้ไขความขัดแย้งด้วยการเจรจาอย่างสันติมากกว่าการทำสงคราม

    อย่างไรก็ตาม นาย เอ.เค.แอนโทนีย์ กล่าวในระหว่างประชุมความมั่นคงที่กรุงนิวเดลีว่า การเสริมสร้างกองทัพให้ทันสมัยของจีนและการเพิ่มงบประมาณกลาโหมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเป็นประเด็นที่สร้างความวิตกกังวลอย่างยิ่ง แต่ไม่ได้มากเกินควรเพราะอินเดียก็จะสร้างความทันสมัยและเพิ่มความเข้มแข็งให้แก่กองทัพเช่นกัน

    อินเดียเพิ่มทหารหน่วยรบพิเศษหลายพันนาย รวมถึงยานเกราะและขยายฐานทัพอากาศในบริเวณชายแดนที่ติดกับจีน อินเดียอ้างว่าจีนเข้ามายึดครองพื้นที่ 38,000 ตารางกิโลเมตรทางตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดียโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้ รัฐบาลจีนได้อ้างพื้นที่ 90,000 ตารางกิโลเมตรในรัฐอรุณาจัลประเทศว่าเป็นของจีนด้วย.-สำนักข่าวไทย

    วันพุธ ที่ 16 ก.พ. 2554

    ที่มา http://www.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "ไขรหัส ภัยธรรมชาติ"(เพื่อประชาชน)

    [​IMG]
    พบนกตายร่วงลงจากฟ้าในอิตาลีอีกหลายร้อยตัว

    [​IMG]
    นกตายเกลื่อนถนนในหลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา

    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2554 ชมรมจิตจักรวาลศึกษาแห่งโลก ได้จัดให้มีการถ่ายทอดคลื่นความคิด จากองค์จิตจักรวาลโดยอาจารย์ปริญญา ตันสกุล ในเรื่อง"ไขรหัสลับจากฟ้า ปี 54" ซึ่งเป็นการเตือนภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นในปีนี้และปีต่อๆไป ด้วยการศึกษาสังเคราะห์จากสัตว์ปีก เช่น นก สัตว์น้ำเช่นปลา ปู จากสิ่งบอกเหตุบนแผ่นดิน เช่น ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว แผ่นดินทรุด แผ่นดินแยก และจากเจ้ากรรมนายเวร

    บรรดาสัตว์ต่างๆและสรรพสิ่งทั้งหลายที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้ส่งสัญญาณเตือนภัยมนุษย์บนโลกใบนี้ ให้เตรียมรับมือกับสถานการณ์ภัยธรรมชาติที่มาจากท้องฟ้า ทะเล แม่น้ำ แผ่นดิน และแรงกรรมเวรที่มนุษย์ก่อต่อกันและกัน โดยเฉพาะเป็นสัญญาณเตือนภัยที่เกิดขึ้นในปี 2554 ที่ผ่านมาในเร็วๆนี้บ้าง ปลายปี 2553 บ้าง และย้อนหลังไปไกลกว่านั้นเล็กน้อยบ้าง อันเป็นเรื่องที่มนุษย์โดยทั่วไป ไม่ได้ใช้ความสังเกตและขาดการพิจารณา

    อาจารย์ปริญญา ตันสกุล ได้ถ่ายทอดความจริงที่จริงแท้ว่า โลกใบนี้มีความสำคัญต่อการดำรงอยู่ของมวลมนุษยชาติ ต้นไม้ สัตว์ และสรรพสิ่งต่างๆบนโลกอย่างที่สุด โลกต้องใช้พลังงานที่เกิดจากการระเบิดของแก๊ซออกซิเจน ที่เป็นแท่งมหึมาอยู่ในใจกลางโลก แรงระเบิดทำให้แกนโลกบิดตัว ทำให้โลกหมุนรอบตัวเอง ทุกสรรพสิ่งทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิตหมุนตามไปด้วย ขณะเดียวกันแรงหมุนรอบตัวเอง ก็ทำให้เกิดมีแรงแม่เหล็กโลก มีโครงข่ายแม่เหล็กโลก คอยป้องกันมิให้เทหวัตถุ อุกกาบาต และสิ่งต่างๆนอกโลก วิ่งเข้ามาชนโลก หรือรุกล้ำมาสู่โลกมนุษย์ได้เลย ขณะเดียวกันก็ให้ก๊าซอ๊อกซิเจน แก่ มนุษย์ พืช สัตว์ ได้อาศัยดำรงชีวิต และสร้างความเจริญเติบโตต่าง ๆ

    โลกรักมนุษย์ ให้ความรักแก่มนุษย์อย่างเสมอต้นเสมอปลายมาช้านาน มนุษย์ได้รับประโยชน์จากโลก ทั้งการอยู่อาศัย การดำรงชีวิต การประกอบกิจการการต่างๆ แต่ทุกวันนี้มนุษย์กลับไม่รักโลก ไม่ทำหน้าที่ในการเป็นมนุษย์ของตนในการเพิ่มพลังงานความรักให้แก่โลก กลับทำลายโลกมากขึ้น ทั้งด้านน้ำหนัก มวลรวมและพลังเหวี่ยงหมุนของโลก ด้วยการขุดย้ายภูเขา สร้างเขื่อนกั้นน้ำ ทำให้การทรงตัวในการหมุนรอบตัวเองของโลกเสียความสมดุลย์ไป

    การที่มนุษย์ไม่รักโลก หรือให้ความรักแก่โลกน้อยลง เพราะมนุษย์เกิดความหลงงมงายกับกิเลสตัณหา ทำการเคลื่อนย้ายและทำลายสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ ตลอดจนพยายามเอาชนะโลกใบนี้ ขุดค้นทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนดิน ใต้ดิน ในอากาศ ออกมาสนองความโลภของตนเองอย่างไม่ยั้งคิด ทำให้โลกหมุนรอบตัวเองช้าลง แกนโลกเอียงมากขึ้น การหมุนของโลกไม่สม่ำเสมอสมดุล โลกเกิดอาการส่าย และเสียความสมดุลย์

    ความรักที่มนุษย์ให้ต่อโลกน้อยลง ทำให้อนุภาคของคลื่นความถี่แม่เหล็กไฟฟ้าด้านบวกที่ลงไปทำปฏิกิริยากับแท่งออกซิเจนมีน้อย และไม่พอเพียงที่จะเกิดการระเบิดในการทำให้แกนโลกบิดตัว ปล่อยแก๊ซออกซิเจนลอยตัวขึ้นมาสู่ผิวโลกน้อยลง ประกอบกับมนุษย์ผลิตก๊าซมวลหนักให้โลกด้วยโรงงานอุตสาหกรรม ท่อไอเสีย ตัวมนุษย์เอง ก๊าซมวลหนักได้ห่อหุ้มโลกไว้อย่างแน่นหนา ทำให้ความร้อนจากดวงอาทิตย์ ไม่อาจลอยหายไปในชั้นบรรยากาศได้ ก๊าซออกซิเจนที่ลอยขึ้นมาจากใจกลางโลกอย่างเบาบาง จึงมีกำลังไม่มากพอให้มนุษย์ สัตว์ พืช ได้หายใจ และเหลือมากพอจะผลักดันก๊าซมวลหนัก ลอยหลุดพ้นไปจากชั้นบรรยากาศของโลกได้

    ภาวะโลกร้อน ล้วนเกิดจากการกระทำของมนุษย์ และการไม่ทำหน้าที่ของมนุษย์ในการให้พลังแห่งความรักแก่โลกใบนี้ ภัยธรรมชาติต่าง ๆ จึงเกิดขึ้นอย่างมากมาย บนโลกใบนี้ แต่เหล่ามนุษย์ทั้งหลายกลับไม่รู้สำนึก ในการปฏิบัติของตนที่เลวร้าย และอันตรายต่อโลกและตัวเอง โลกใบนี้จึงป่วยตามจิตของมนุษย์และเป็นอันตรายต่อมนุษย์ภัยธรรมชาติ และเวรกรรมที่มนุษย์กระทำขึ้น กำลังรอชำระมนุษย์และโลกใบนี้ให้คืนสู่ความสมดุลย์

    รหัสจากฟ้าที่บอกมนุษย์ให้รู้ตัว ตั้งสติ ปลูกจิตสำนึกเสียใหม่ มีมาให้เห็นเป็นระยะๆตลอดเวลากว่า 14 ปีที่ผ่านมา คือ รหัสสัญญาณผ่านอาจารย์ปริญญา ตันสกุล ในรูปของการเขียนหนังสือชุดจิตจักรวาล การบรรยาย การฝึกอบรม แต่มนุษย์ก็มิได้สนใจ ใส่ใจ นำมาเป็นเครื่องประเทืองสติปัญญา และประพฤติปฏิบัติ ปรับจิตสำนึกตนเองเสียใหม่ กลับเยาะเย้ย ถากถาง ไม่รับฟัง ไม่รับพิจารณา

    นอกจากรหัสสัญญาณนี้แล้ว มนุษย์ยังได้รับรหัสสัญญาณที่มาจากฟ้า คือ หมู่นกต่าง ๆ รหัสสัญญาณที่มาจากน้ำ คือ หมู่ปลา หมู่ปู หมู่สัตว์น้ำ รหัสสัญญาณที่มาจากดิน คือ ภูเขาไฟ แผ่นดินไหว แผ่นดินยุบ แผ่นดินแยก รหัสสัญญาณที่มาจากเจ้ากรรมนายเวรของมนุษย์เอง

    การส่งรหัสสัญญาณ ทั้งห้าช่องทางดังกล่าว ต้องถือว่า รหัสสัญญาณ ที่อาจารย์ปริญญา ตันสกุล นำมาบอกกล่าวด้วยงานพูด งานเขียน เป็นเรื่องชัดเจน สามารถศึกษาทำความเข้าใจได้ดีที่สุด ไม่ต้องแปลความ หรือตีความหมาย และง่ายต่อการพิจารณานำไปปฏิบัติให้เกิดผลดี ต่อ มนุษย์และโลกใบนี้โดยตรง รหัสสัญญาณตามช่องทางอื่นที่เหลือยังต้องใช้ความคิด การพิจารณา และการตีความ และเผชิญภัยเสียก่อน เกิดความตระหนก ตกใจเสียก่อน มนุษย์ทั้งหลายจึงจะได้สติ

    ฤาว่าบทเรียนที่เกิดจากการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงต่อมวลมนุษยชาติ จะเป็นบทเรียนที่มวลมนุษย์กลับมาให้ความสนใจ รหัสสัญญาณต่าง ๆ อย่างจริงจัง

    งั้นลองพิจารณารหัสสัญญาณ ต่อไปนี้

    รหัสสัญญาณจากฟ้า คือ หมู่นกต่างๆเป็นผู้ส่งข่าวสารมาสู่มนุษย์ ดังเช่น นก Jack Daws จำนวนมากบินตกมาตายที่ Rookwell Texas สหรัฐ

    6 ม.ค. 54 นกเขา จำนวนมาบินตกมาตายที่รัฐ อาร์เคนซอ สหรัฐ

    8 ม.ค. 54 นกเขานับหมื่นตัวบินตกมาตายที่เมืองราแวนนา ตอนเหนือของอีตาลี

    10 ม.ค. 54 อีกา จำนวนมากบินตกมาตายที่ สวีเดน

    11 ม.ค. 54 อีกา จำนวนมากบินตกมาตายที่โรมาเนีย ฝูงนกเป็ดน้ำสีดำมากมายบินตกมาตายที่เทคซัส

    ปรากฏการหมู่นกจำนวนมากบินมาตายหมู่เช่นนี้ เมื่อพิจารณาชนิดของนก ก็ต้องรู้ว่า นกเหล่านี้บินไปส่งสัญญาณจากตะวันออกไกล เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ ก็หมดแรง ประกอบกับออกซิเจนเบาบาง บ่งบอกบริเวณที่เกิดเหตุหรือใกล้เคียงต้องเผชิญภัยธรรมชาติอย่างใดอย่างหนึ่งในเวลาไม่นานนัก

    รหัสสัญญาณจากน้ำ คือ หมู่ปลา หมู่ปู หมู่สัตว์น้ำต่าง ๆ พากันมาตายหมู่ดังนี้

    - พบซากปลาซาดิน 300 ตัน พร้อมซากนกแพนกวิน 1,200 ตัว ในทะเลตอนใต้ของชิลี

    - พบซากปลาตายนับแสนตัว ริมฝั่งแม่น้ำสายใหญ่ใน นิวซีแลนด์

    - พบซากปลา Drum Fish นับพันตัวริมฝั่งแม่น้ำในรัฐ อาร์คัมซอ สหรัฐ

    - พบ จระเข้ เต่า และปลาตายนับหมื่นตัวในทะเลสาบประเทศโบลิเวีย

    - พบปลาในทะเลสาบซุยฮี ประเทศเฮติ ตายเป็นจำนวนมาก

    - พบปลาซารัมย์ ปลาดุกทะเล ร่วมแสนตัวตายเกยหาดปารานากัว ประเทศบราซิล

    - พบซากปู Devil Crab นับแสนตัวตายเกลื่อนริมทะเลอังกฤษ

    หมู่สัตว์น้ำที่พากันมาตายครั้งละมาก ๆ เช่นนี้ พิจารณาได้ว่าแหล่งน้ำเป็นพิษจากก๊าซในใจกลางโลกลอยขึ้นมาจากการที่เปลือกโลกเคลื่อนตัว และออกซิเจนในน้ำไม่เพียงพอ โลกให้อ๊อกซิเจนแก่ระบบสิ่งมีชีวิตลดลงและไม่เพียงพอ เมืองที่เกิดปรากฏการเหล่านี้จะต้องระมัดระวังภัยธรรมชาติ

    รหัสสัญญาณจากแผ่นดิน ได้แก่

    - ภูเขาไฟสตรอมโบลี ชิชิลี อิตาลี (ที่อยู่ใกล้กับ ภูเขาไฟใต้น้ำ มาซารีซึ่งใหญ่ที่สุด) พบลาวา แรงสั่นสะเทือนครั้งนี้อาจทำให้ภูเขาไฟมาซารี ระเบิดได้

    - ภูเขาไฟ เมรามี อินโดนีเซีย พ่นลาวา

    - แผ่นดินไหวที่อินโดนีเซีย - เวียดนาม - ไทย - พม่า - ลาว

    - แผ่นดินแยกที่มาเลเซีย

    - แผ่นดินยุบขนาดหลุมใหญ่ที่ เมืองซานอิดิโก กัวเตมาลา

    - ดินถล่ม น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่บราซิล

    สัญญาณเตือนภัย ก็คือ วันใดที่ภูเขาไฟทั่วโลกระเบิดพร้อมกันจะทำให้โลกมืดมิดไปนาน 44 วัน 7 ราตรี รหัสสัญญาณจากเจ้ากรรมนายเวร ซึ่งเกิดจากดวงวิญญาณที่จองเวรจองกรรมพุ่งเข้าชนสิ่งต่าง ๆ ทำลายตนเองและทำลายคู่เวรคู่กรรมด้วย ในรูปของ ฟ้าผ่า ฟ้าแลบ ฝนตกหนักอย่างรุนแรงติดต่อกันหลายวัน หิมะถล่ม ฝนน้ำแข็ง พายุใหญ่ โรคภัยต่าง ๆ

    รหัสเตือนภัยเหล่านี้ มีให้เห็นอีกรูปแบบหนึ่ง คือ นกหลงฟ้า ปลาหลงน้ำ คูณธรรมเสื่อมสลาย คนไร้ปัญญา ฆ่าตัวตายกันง่าย ตายหมู่ไม่รู้จบ ภัยพิบัติรุนแรงขึ้น เกิดถี่ขึ้น เกิดทั่วถึงขึ้น จากแดนไกลแล้วค่อย ๆ เข้ามาใกล้ตัวเรา - คนไทย - ประเทศไทย

    ปี 2554 นี้ คนไทยจะเผชิญกับทุพพิกภัย ข้าวยากหมากแพง ภัยจากการแย่งชิงอำนาจกันเอง ฝนแล้ง น้ำท่วม แผ่นดินยุบ วาตะภัยที่รุนแรงขึ้น ๆ

    ในฐานะคนไทย อยู่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่จะเป็นศูนย์กลางของโลกในอนาคต ภัยพิบัติทางธรรมชาตินี้จะเบาบางลงได้ เพียงแต่คนไทย ปรับจิตสำนึกให้อยู่ในครรลอง ของความถูกต้องดีงาม ทั้งการคิด การพูด การกระทำ อยู่บนรากฐานของความรักที่บริสุทธิ์ ต่อเพื่อนมนุษย์ ต่อสัตว์ ต่อต้นไม้ และต่อทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ พลังแห่งความรักอันบริสุทธิ์ของคนไทยทั้งแผ่นดิน จะช่วยปกป้องพิทักษ์คุ้มภัยแผ่นดิน อันศักดิ์สิทธิ์นี้ไว้ได้ แผ่นดินของเราจึงจะมีภัยพิบัติทางธรรมชาติน้อยลง คนไทยก็เผชิญภัยธรรมชาติน้อยลงด้วย

    ประมวล รุจนเสรี
    วันที่ 23/1/2011

    ที่มา http://www.naewna.com/news.asp?ID=245896
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 630.jpg
      630.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61.4 KB
      เปิดดู:
      2,400
    • bird7.JPG
      bird7.JPG
      ขนาดไฟล์:
      26.3 KB
      เปิดดู:
      2,364
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2011
  16. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    17 ก.พ. 54 ภาพรวม(นิมิต)

    15 ก.พ. 54 ได้เห็นตัวเองอยู่กลางกลุ่มสมาชิกในเว็บฯ

    16 ก.พ. 54 ในภาพได้ย้ำถึงเวลาที่หมดลงแล้วสองครั้ง

    17 ก.พ. 54 ภาพแรก ตัวเองนั่งอยู่บนเรือนแพกับเพื่อน สักพักน้ำก็กระเพื่อมอย่างรุนแรงจนเรือนแพไหวต้องรีบหนีขึ้นฝั่ง

    ภาพที่สอง ตัวเองยืนอยู่ในสนามหญ้าหน้าโรงเรียน แผ่นดินเริ่มเขย่าจนรู้สึกได้

    สองภาพนี้สือถึง แผ่นดินจะไหวอย่างต่อเนื่อง(ไหวบ่อยครั้ง)

    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน
     
  17. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อุตุฯเตือนอุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น หมอกหนาบางพื้นที่ ยังมีฝนกระจาย กทม.กลางวันร้อน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2554 ดังนี้

    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้นในตอนกลางวันกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ สำหรับภาคเหนือและภาตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า
    ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่สุราษฎร์ธานีลงไป ยังคงมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือต่อไปอีก 1-2 วัน

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่
    ตอนบนสุดของภาค มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา
    ส่วนบริเวณอื่นๆ อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศา
    โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่บริเวณตอนล่างของภาค
    สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศา
    ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และเริ่มมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
    อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศา
    โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
    สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีหมอกในตอนเช้า และเริ่มมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
    โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
    อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศา
    ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีหมอกในตอนเช้า และเริ่มมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
    โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา
    อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
    ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค
    อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา
    ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกในตอนเช้า และเริ่มมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
    โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา
    ลมใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เงินบริจาค"หลวงตามหาบัว"ใกล้ทะลุ100ล้าน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    แรงศรัทธาใกล้ทะลุ 100 ล้านบาทแล้ว เงินบริจาคหลวงตามหาบัว คนสมัครเข้าร่วมบวชมีเกือบ 200 คน

    วันนี้ 17 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่วัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา หลวงปู่อุ่น เจ้าอาวาสวัดป่าแก้วชุมพล อ.สว่าแดนดิน จ.สกลนคร พร้อมญาติโยม นำทองคำหนัก 4 กก.กับอีก 12 บาท มาบริจาคเพื่อเข้าคลังหลวงตามความประสงค์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน และยอดเงินบริจาคขณะนี้มีทั้งสิ้น 96,427,519.58 บาท ส่วนโครงการสร้างตึกสงฆ์อาพาธ รพ.อุดรธานี ยังขาดอีก 15,333,371.78 บาท จะครบ 500 ล้านบาท ส่วนยอดคนจะเข้าบวชมีผู้สมัครแล้วเกือบ 200 คน ยังขาดแต่พระพี่เลี้ยงเท่านั้น

    วันเดียวกัน นายคมสัน เอกชัย ผวจ.อุดรธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ส่วนราชการและตัวแทนคณะสงฆ์เข้าประชุมเพื่อเตรียมแผนงานวันพระราชทานเพลิงศพของหลวงตามหาบัว โดยนายคมสันได้แจ้งที่ประชุมว่า คาดว่าในวันนั้นจะมีประชาชนมาร่วมงานไม่ต่ำกว่า 1,000,000 คน ทำให้การจราจรน่าจะมีปัญหา ดังนั้นทางจังหวัดจะนำเฮลิคอปเตอร์ มาอำนวยความสะดวกแก่คณะรัฐมนตรีและบุคคลสำคัญ ส่วนพระภิกษุสงฆ์ที่มีความประสงค์จะมาร่วมงาน ขอให้แจ้งการเดินทางมาที่วัดก่อน 1 วัน เพื่อสะดวกในการรับส่งมาที่วัดป่าบ้านตาด

    ต่อมาเวลา 10.30 น. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ.พร้อมคณะนายทหารอากาศจำนวน 50 นาย เดินทางมากราบสรีระของหลวงตามหาบัว

    ส่วนบรรยากาศทั่วไปมีประชาชนแห่เข้ากราบไหว้สรีระของหลวงตาอย่างต่อเนื่อง ด้านการก่อสร้างเมรุนั้น ขณะนี้ดำเนินการไปจนใกล้จะเสร็จแล้ว.




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    17 ก.พ. 54 เข้าทางปืน

    แว่วตัวปอ เปลี่ยนผู้นำ เพื่อทำการ
    ล้มกระดาน ตัวปัญหา คนหลากสี
    ให้ประเทศ เดินต่อได้ เป็นเรื่องดี
    ประชาชี หมดกังวล คนแตกแยก

    สิ่งที่เฝ้า คือคนกลาง นำประเทศ
    จะเป็นเหตุ แผ่นดิยแยก แตกระแหง
    เข้าทางปืน ที่ว่าไว้ ผมเฝ้าแจง
    จะสำแดง หายนะ ให้กับคน

    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน
     
  19. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    อึ้ง ชายชาวจีน ปวดหัวไมเกรน ไม่รู้มีมีดปักฝังในหัว นานกว่า 4 ปี
    Mthai news: ชายชาวจีนรายหนึ่ง เข้าพบกับแพทย์ โดยระบุว่ามีอาการปวดหัว คล้ายไมเกรน จนกระทั่งแพทย์เอ็กซเรย์กะโหลก ก็ต้องช็อคไปตามๆกัน เมื่อพบใบมีด ยาวกว่า 4 นิ้วฝังอยู่ในศรีษะของเขานานกว่า 4 ปี

    คนไข้รายนี้ชื่อว่า นายลี่ ฟู อายุ 37 ปี จากมณฑลยูนนาน ประเทศจีน โดยเมื่อปี 2006 เขาถูกคนร้ายใช้มีดแทงเข้าที่ศรีษะ ซึ่งขณะนั้นแพทย์ที่รักษาอาการ ไม่ได้สังเกตเห็นมีดที่ปักและฝังอยู่ข้างใน ทำให้นายลี่ ต้องใช้ชีวิตพร้อมกับมีดที่ปักอยู่ในหัวนานถึง 4 ปี โดยคิดว่าอาการปวดหัว เป็นอาหารไมเกรนมากกว่า แต่มีอาการแปลกๆคือ มีเลือดไหลออกทางหู จมูก และปาก ซึ่งอาการดังกล่าวไม่มีใครอธิบายได้ว่าเป็นเพราะเหตุใด
    จากนั้น ผลการเอ็กซ์เรย์ ก็เผยสาเหตุที่แท้จริง ลี่ และครอบครัวต่างช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งหลังจากนั้น เขาและครอบครัวจึงตัดสินใจให้แพทย์ผ่าตัดเพื่อนำใบมีดออกมา
    [​IMG]
    นายแพทย์ หลัว ซีเว่ย จากโรงพยาบาลยูสี มณฑณ ยูนนาน ผู้ทำการผ่าตัดกล่าวว่า ไม่เคยเจอกรณีเช่นนี้มาก่อน เป็นเรื่องแปลกมากที่มีดปักในหัวของเขา แล้วยังมีชีวิตอยู่รอดถึงนานกว่า 4 ปี ซึ่งหลังจากที่เราผ่าตัด ใบมีดแทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อสมองแต่อย่างใด เป็นการรักษาที่อัศจรรย์มากทีเดียว
    [​IMG]
    โดย Mthai news
    <LI class=news_src_item>[​IMG]

    [​IMG] กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

    ชุมนุมทั่วกทม. 6 จุดจราจรติดขัดหลายเส้นทาง
    ผู้สื่อข่าวรายงาน ถนนราชดำเนิน และ รอบนอกทำเนียบรัฐบาลว่า ถนนทั้งเส้นราชดำเนินเต็มไปด้วยผู้ชุมนุมที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด โดยเฉพาะที่ถนนราชดำเนิน มีการชุมนุมของกลุ่มมวลชนถึง 3 กลุ่ม ได้แก่
    กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณถนนราชดำเนิน ตั้งแต่สะพานมัฆวานรังสรรค์มาถึงจนถึงแยกสวนมิสกวัน
    กลุ่มเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ บริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาลที่ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกสวนมิสกวันถึงแยกพาณิชยการ
    ขณะที่ บริเวณด้านหน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มี กลุ่มแนวร่วมเกษตรกรไทย โดยผู้ชุมนุมยังคงปักหลักยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาที่ได้รับความเดือดร้อน โดยตำรวจมีการนำแผงเหล็กมาปิดถนนราชดำเนินตั้งแต่เชิงสะพานผ่านฟ้า ทำให้รถยนต์ไม่สามารถเคลื่อนผ่านมายังแยกจปร.ได้ ส่งผลผู้ใช้เส้นทางและรถประจำทางต้องเลี่ยงไปใช้เส้นนางเลิ้งและหลานหลวงแทน จึงทำให้การจราจรทั้งถนนหลานหลวง นางเลิ้ง วัดโสมนัสฯ ถนนพิษณุโลก ถนนพระราม 5 สะพานพระราม 8 สะพานซังฮี๊ และถนนราชวิถี รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียงติดขัดอย่างมากตลอดทั้งวัน
    ขณะที่ถนนบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุม อีก 2 กลุ่ม คือ
    กลุ่มขบวนการประชาชนสังคมที่เป็นธรรมที่ดินทำกิน และอีกกลุ่ม ที่อยู่ติดกันคือ กลุ่มสมัชชาคนจน หรือ สคจ. ซึ่งกลุ่มดังกล่าวนี้เรียกร้องและขับเคลื่อนมาเป็นเวลากว่า 20 ปี ในการคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในชุมชน และการเปิดเขื่อนปากมูลแบบถาวร
    แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมอีก 1 กลุ่มที่ยังคงปักค้างคืนบริเวณด้านหน้ากระทรวงการคลัง ถนนพระราม 6 ก็คือ
    กลุ่มผู้ชุมนุมสมาพันธ์ชุมชนแห่งประเทศไทย
    ทั้งนี้ แกนนำทุกกลุ่มได้เปิดเผยกับ ผู้สื่อข่าว Mthai News ว่า หากรัฐบาลยังนิ่งเฉย ไม่เร่งแก้ไขปัญหาของทางกลุ่ม ที่ได้ต่อสู้และยื่นหนังสือเรียกร้องไปแล้วก่อนหน้านี้ ก็จะยังคงมีการชุมนุมกันอย่างต่อเนื่องจนกว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไข ต่อไป
    อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มชาวแรงงานที่ปักหลักชุมนุมอยู่ที่หน้ากระทรวงแรงงาน ถนนดินแดงอีกหนึ่งกลุ่ม ซึ่งเดินเท้าเข้ามาตั้งแต่วันจันทร์ที่ 14 ก.พ.
    โดย Mthai news

    [​IMG] กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย



    [​IMG] กลุ่มเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ



    [​IMG] กลุ่มเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ



    [​IMG] กลุ่มสมัชชาคนจน



    [​IMG] กลุ่มสมัชชาคนจน



    [​IMG] กลุ่มสมัชชาคนจน



    [​IMG] กลุ่มขบวนการประชาชนสังคมที่เป็นธรรมที่ดินทำกิน

    [​IMG] กลุ่มขบวนการประชาชนสังคมที่เป็นธรรมที่ดินทำกิน

    [​IMG] กลุ่มขบวนการประชาชนสังคมที่เป็นธรรมที่ดินทำกิน

    [​IMG] กลุ่มผู้ชุมนุมสมาพันธ์ชุมชนแห่งประเทศไทย



    [​IMG] กลุ่มผู้ชุมนุมสมาพันธ์ชุมชนแห่งประเทศไทย



    [​IMG] กลุ่มผู้ชุมนุมสมาพันธ์ชุมชนแห่งประเทศไทย

    [​IMG] กลุ่มแนวร่วมเกษตรกรไทย

    [​IMG] กลุ่มแนวร่วมเกษตรกรไทย

    ข่าวที่เกี่ยวข้อง
    [​IMG] กลุ่มแรงงานเดินเท้าบุกกทม. ผ่านถนนสุขุมวิท
    <SMALL></SMALL>กลุ่มแรงงานระยอง-ชลบุรีนับพันเคลื่อนขบวนมุ่งหน้ากระทรวงแรงงาน
     
  20. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เหนือ-อีสานยังคงมีอากาศหนาวอยู่ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    เหนือ-อีสานยังหนาวอยู่ มีหมอกในตอนเช้า ภาคกลาง กทม.อุ่นขึ้น ใต้ฝนน้อยอากาศดี



    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย วันนี้(18ก.พ.)บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยมีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ และมีอากาศร้อนขึ้นในตอนกลางวัน ส่วนบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า


    ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ตอนบนสุดของภาค มีอากาศหนาว และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศา
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศา


    ภาคกลาง มีหมอกในตอนเช้า และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศา


    ภาคตะวันออก มีหมอกในตอนเช้า ทางตอนบนของภาคมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณเทือกเขาและชายฝั่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค

    อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร


    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกในตอนเช้า และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศา






    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>นักโทษเรือนจำกลาง จ.ราชบุรีก่อจลาจล</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เนท</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>นักโทษเรือนจำกลาง จ.ราชบุรีก่อจลาจล เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย และมีบาดเจ็บจำนวนมาก
    เมื่อช่วงเย็นวันนี้(17ก.พ.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีเหตุมีนักโทษการก่อจลาจลภายในเรือนจำกลาง จ.ราชบุรี เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย และมีบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ราชฑัณท์ และมูลนิธิราชานิสรณ์ เข้าไปในเรือนจำเพื่อระงับเหตุ แต่นักโทษยังคงก่อจลาจลอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้โดย นายสุรชัย พุ่มแก้ว ผอ.เรือนจำกลางราชบุรี ยังไม่ชี้แจงสาเหตุที่เกิดขึ้น และข้อเรียกร้องของนักโทษ เพิ่มเติมราชบุรี ส่วนหาเหตุ ทราบว่า นักโทษในแดน 4 ก่อเหตุ ได้เกิดทะเลาะวิวาทกันขึ้น ก่อนที่จะด้าน พล.ต.ต.เพชรรัตน์ แสงไชย ผบก.ภจว.ราชบุรี นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นํากําลังเจ้าหน้าที่ตํารวจกว่า 200 นาย มาดูแลสถานการณ์อยู่ภายนอกเรือนจํา พบว่าที่ประตูหน้าแดน 4 มีนักโทษจำนวนหนึ่ง พยายามพังประตู เจ้าหน้าที่จึงใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักเพราะนักโทษบางคนมีอาวุธทั้งมีด ไม้ และเหล็กแหลม จึงเกิดการปะทะกันขึ้นทั้งทางนักโทษและเจ้าหน้าที่ต่างก็ได้รับบาดเจ็บ และนักโทษยังไม่ยอมสงบ ความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>"สุดารัตน์"สับการแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มรบ.ล้มเหลว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ในการเสวนาวิกฤตน้ำมันปาล์ม ต้นเหตุค่าครองชีพแพง ใครได้ ใครเสีย จัดโดยสถาบันสร้างสานอนาคตไทย เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า

    วิกฤตน้ำมันปาล์มเกิดจากความผิดพลาดการบริหารจัดการของรัฐบาล ซึ่งไม่รู้ว่าไร้ประสิทธิภาพแท้จริงหรือจงใจปั่นราคา และมีการแก้ปัญหาที่แตกต่างไปจากรัฐบาลก่อนๆ ทำให้ประชาชนเข้ายุคข้าวยากหมากแพง ตอนนี้ควรตรวจสอบที่ต้นทางทั้งโรงสกัดและโรงกลั่นที่มีไม่กี่ราย มากกว่าจะไล่จับปลายทาง

    คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า สต๊อคปาล์มที่เหมาะสมควรมีไม่ต่ำกว่า 2 แสนตัน แต่รัฐบาลปล่อยให้ปัญหาเกิดมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2553 ที่สต๊อคลดเหลือ 1.85 แสนตัน และปล่อยให้ลดลงต่อเนื่อง และที่สำคัญมีการอนุมัติราคาควบคุมจาก 38 บาท/ลิตร เป็น 47 บาท/ลิตร ก่อนน้ำมันนำเข้า ทำให้เกิดกระแสการกักตุนเพื่อเก็งกำไร






    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...