** ฉันทะ ** วัตถุมงคล หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา **

แจ้งส่งพัสดุ EMS ครับ 26/03/2011 เวลา 11:49:00
คุณจิระศักดิ์ EI 2560 9737 1 TH ขอบคุณมากครับ
คุณกุลพันธ์ EI 2560 9738 5 TH ขอบคุณมากครับ
คุณปรีดา EI 2560 9739 9 TH ขอบคุณมากครับ
คุณวิเชียร EI 2560 9740 8 TH ขอบคุณมากครับ

 

ตอบ คุณครูเซียน เรื่องแผ่นยันต์ทางPM ให้แล้วครับ ขอบคุณครับ

 

วันนี้ตอนบ่ายผมโอน รายการ 427 , 429 , 430 , 431 ไปให้แล้วนะครับ

ขอบคุณนะครับ

 

เพิ่งได้คุยกับคุณตุ้ยเมื่อกี้..ก็คุยกันถึงเรื่องการที่จะแบ่งปันให้ความรู้ แก่เพื่อนสมาชิก ซึ่งก็คุยกันอย่างหลากหลาย หลายแง่หลายมุม เพื่อที่จะหากรอบการให้ความรู้อย่างถูกต้องที่สุด โดยเน้นย้ำว่า "เท่าที่พอจะรู้บ้าง" นั้นเพราะเราทั้งสองไม่อยากจะตั้งตัวเป็น "เซียน" อันอาจจะทำให้ใครเขาเหม็นขี้หน้าขึ้นได้ แต่เมื่อคำนึงถึงเจตนาอันบริสุทธิ์ ซึ่งผมก็ยังยืนยันว่าสมควรทำ เพราะได้เคยพูดให้ฟังแล้วว่า เมื่อสมัยผมเข้ามาใหม่ๆ "มันมืดแปดด้านจริงๆ ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร จับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี กลัวมั่วๆไปก็โดนเค้าทุบ เค้าหลอกเอา"
ดังนั้นกรอบการให้ความรู้จึงอยากจะเรียกว่า "ความรู้เบื้องต้น" มากกว่า เพราะสำเนียกดีว่าในทุกสรรพสิ่ง ไม่มีใครเก่งที่สุด รู้มากที่สุด ย่อมต้องมีคนรู้มากกว่าเรา เก่งกว่าเรา เพียงแต่เค้าจะเมตตาออกมาบอกกล่าวเราหรือไม่ และยังมีข้อแม้ที่ต้องตกลงรับปากกันก่อนว่า "หากเพื่อนสมาชิกท่านใด มีความรู้ดีกว่า ลึกกว่า ถูกต้องกว่า หรือแม้กระทั่งข้อมูลที่ผมให้ไปผิด ไม่ถูกต้อง" ในรุ่นหรือพิมพ์ นั้นๆ.ท่านสามารถโต้แย้ง และเสริมข้อมูลได้โดยทันที ไม่มีโกรธกัน เพราะถือว่าต่างเป็นการแบ่งปันความรู้ ให้กันและกัน ฉันทมิตรศิษย์หลวงปู่ด้วยกัน เพราะอย่างที่บอก พระของหลวงปู่ฯท่าน มีหลากหลายมาก บางพิมพ์ บางรุ่น ณ ขณะปัจจุบัน สายตรงด้วยกันเอง ก็ยังหาข้อยุติไม่ได้ อาจมีฝ่ายหนึ่งเล่น อีกฝ่ายหนึ่งไม่เล่น เป็นต้น หรือจำนวนการสร้างบางรุ่นจำนวนสร้างจริงก็อาจผิดเพี้ยนไปจากหนังสือวัดเล่มเขียว เป็นต้น
โดยข้อมูลทั้งหมดจริงๆก็ไม่ได้มาจากเราเพียง 2 คน แต่ก่อนจะลงเรื่องใด คงต้องปรึกษาเพื่อนๆสายตรงท่านอื่นที่รู้ข้อมูลลึกซึ้งจริงๆ เช่น กรณีออกวัดสะแก ก็อาจถามได้ที่หลวงลุงดำ (ท่านยังมีความจำดี และยังคงมีพระตัวอย่างเกือบทุกรุ่นของหลวงปู่เก็บรักษาไว้) หรืออาจเป็นหลวงพี่ชาญ ที่ท่านดูแลรักษาพิพิธภัณฑ์อยู่ปัจจุบันและท่านเองก็ทันหลวงปู่ด้วย หรืออาจจะถามสามโก (ผู้ยิ่งใหญ่) ลูกศิษย์หลวงปู่ฯ ที่อยู่ในเหตุการ์ณสร้างพระ และยังเป็นคนตอกโค๊ดเอง หรืออย่างกรณีพระที่ออกโดยคณะศิษย์ท่านใด แน่นอนปัจจุบันสายตรงหลายๆคนก็ยังไปมาหาสู่กับท่านผู้สร้างผู้นั้นอยู่ เพียงแต่ใครสนิทกับท่านใด ก็ว่ากันไป ซึ่งเราสองคนก็พยายามจะรับหน้าที่ ไปดูด ไปขอ ไปบังคับ ไปขอความกรุณาเพื่อเอาข้อมูลมาจงได้ และให้ได้มากที่สุด ถูกต้องที่สุด โดยสำนึกว่าการให้ข้อมูลต้องพิจารณาถึงความผิดเพี้ยนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วย อันอาจจะทำให้พระหลวงปู่มัวหมองขึ้นได้ ซึ่งจะบาปแก่ข้าพเจ้าทั้งสองสืบต่อไปโดยไม่เจตนา (แค่คิดก็กลัวแล้ว) ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังมากๆ ซี่ซั่ว มั่วๆซั่วๆ หรือแบบจับพลัง ไม่ได้เด็ดขาด ต้องเอากันแบบสากลจริงๆ เอาว่าเบื้องต้นเราทั้งสองขอออกตัวกันตามนี้ก่อนน่ะครับ
และก่อนที่จะเข้าสู่เรื่องพระหลวงปู่ฯล้วนๆ ในวันต่อๆไป เราคงต้องพูดกันถึงกรอบแห่งภาพรวมของหลวงปู่ฯทั้งหมดกันก่อน เพราะต้องคำนึงถึงลูกศิษย์ใหม่จริงๆ ที่อาจเข้ามาดูย้อนหลังได้ในอนาคตต ส่วนท่านใดรู้แล้วก็ผ่านไป
อ้อ..เกือบลืมไปว่า พระที่จะนำเป็นตัวอย่าง จะไม่เอามาจากใครหรือCopy มาจากเวปใดๆน่ะครับ จะเอาเฉพาะของที่เรามีอยู่สองคน ณ. ปัจจุบัน ซึ่งก็คาดว่าน่าจะมีครบทุกพิมพ์ทุกรุ่นทุกเนื้อ แต่หากขาดเหลือจริงๆก็จะหยิบยืมจากเพื่อนๆคนอื่นเอามาลงให้ดู และจะบอกชื่อคนที่เค้าให้ยืมด้วย ส่วนการแบ่งแยกพิมพ์ต่างๆ ที่บางรุ่นปัจจุบันสายตรงยังไม่แยก ส่วนนี้เราปรึกษากันแล้ว ค่อนข้างมั่นใจว่าทำได้ เพราะการจะแบ่งได้ คุณต้องมีพระรุ่นนั้นๆเยอะจริงๆ ซึ่งผมสองคนมั่นใจว่ามีจำนวนมากพอที่จะเปรียบเทียบจนแบ่งแยกได้ โดยการแบ่งแยกพิมพ์จะไม่ชี้นำเรื่องราคา แต่จะเป็นไปเพื่อป้องกันการไม่รู้จนเอาพระท่านไปทิ้งหรือไปเก็บตาย (ดังที่ผมเคยเล่าเรื่องของผมในเหรียญข้างบัว 20 มาแล้ว) พูดง่ายๆ เหรียญเดียวของหลวงปู่ ผมก็ไม่อยากให้คนเข้าใจผิด เอาไปทิ้งไปขว้างครับ ก็สรุปข้อตกลงเบื้องต้นกันตามนี้ก่อนน่ะขอรับ...เจ้านาย

 

น้าตุ้ย..เป็นไง..ผมเขียนได้ครบตามที่คุยกันหรือเปล่า..ตกหล่นไปบ้างมั๊ย..ท่านเสริมหน่อยเดะ..หากมีจุดใดขาดตกบกพร่องไป

 

ขอขอบคุณ คุณพี่โจในน้ำใจที่เริ่มแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับหลวงปู่ในแก่ศิษย์และผู้นับถือใน

องค์หลวงปู่ ขอให้อานิสงแก่การแบ่งปันนี้ จงดลบันดาลให้คุณพี่โจได้มีวัตถุมงคลของ

หลวงปู่เสด็จมาให้หาบ่อยๆครับ

 

ด้วยความเคารพครับ
รบกวนสอบถามเป็นความรู้ครับ
พระ ปูนหลากหลายพิมพ์จำนวนนับร้อยองค์ อ้างว่าเป็นพิมพ์กรรมฐานที่ขึ้นพระธาตุมีลักษณะเป็นเส้นฟูขึ้นปกคลุมทั่ว องค์พระ จึงน่าตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดพระปูนอายุหลายสิบปีจึงยังมีความชื้นและมี น้ำหนักมาก อีกทั้งพระธาตุก็มิได้มีลักษณะเป็นผลึกติดแน่นหนาอย่างที่คุ้นเคย จึงไม่น่าใช่พระธาตุ หากแต่เป็นเชื้อราที่เกิดจากการเอาพระปูนผสมอะไรบางอย่างแล้วเก็บไว้ในที่ อับชื้นเพื่อให้ขึ้นรานั่นเอง
แบบนี้เราจะมีวิธีดูอย่างรัยครับ

 

ต้องขอโทษ คุณถิรวุษิ ด้วยครับ ผมอ่านแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจคำถามครับ (พิมพ์กรรมฐานที่ขึ้นพระธาตุมีลักษณะเป็นเส้นฟู ) คำว่า เส้นฟู เป็นอย่างไรครับ พอจะมีรูปหรือเปล่าครับ ขอบคุณมากครับ

 

ได้รับพระแล้วนะครับ ขอบคุณมาก

 

อนุโมทนาด้วยครับ

 

ขอรายงานตัวขอรับกระพ้ม..เพื่อนๆพี่ๆน้องๆน้าๆสมาชิกทุกท่าน..ตามที่ได้เคยรับปากไว้ว่าจะติดอาวุธ "ความรู้เบื้องต้น"ให้เพื่อนๆไว้บ้าง พอที่จะป้องกันไม่ให้ไอ้พวกเลวๆพวกขายพระปลอม มันมาหลอกเรา ความจริงก็กะว่าจะเริ่มลงไล่ปี พศ.ตั้งแต่ เหรียญลป.กลั่น 05 ขึ้นมาเลย..แต่ก็มี Pm.เข้ามาถึงคุณตุ้ยและกระผม ว่าเอาชุดนิยมก่อนเลยเป็นไง..(ใจร้อน..กันจริงนะพี่ๆๆ..) ส่วนชุดนิยมรองๆลงไปค่อยตามหลังก็ได้..ได้คุยกับคุณตุ้ยแล้วเมื่อกี่ ..(คุณตุ้ยเลยบอกว่าให้ผมช่วยพิมพ์ให้หน่อย แกโง่ๆพิมพ์ไม่ค่อยเก่งน่ะครับ ผมโม้เก่งกว่า พิมพ์ก็คล่องกว่า 5555)"จ้ะ..จัดให้..ขอรับ" งั้นเอาชุดเหรียญก่อนเลยเป็นไง เริ่มที่ (1) บัวข้าง 20 (2)ปฏิบัติธรรม 24 (3)เสมา 25 (4) เสมา 26 (5) อันตรายาปิ 26 (6)ยันต์ดวง 26 (7)รูปไข่ 28 (8) ปิดตาสรงน้ำ 28 (9)เศรษฐี 31 (10) 84 ปี 31 (11) เปิดโลก 32 และค่อยต่อด้วยชุดหล่อ, และชุดนิยมรองๆลงไปน่ะครับ

 

ตั้งตารอ ทำตาปริบๆอยู่เลยคับ ^^

 

ขอรายงานตัวขอรับกระพ้ม..เพื่อนๆพี่ๆน้องๆน้าๆสมาชิกทุกท่าน..ตามที่ได้เคยรับปากไว้ว่าจะติดอาวุธโทมอฮ๊อก "ความรู้เบื้องต้น"ให้เพื่อนๆไว้บ้าง พอที่จะป้องกันไม่ให้ไอ้พวกเลวๆพวกขายพระปลอม มันมาหลอกเรา ความจริงก็กะว่าจะเริ่มลงไล่ปี พศ.ตั้งแต่ เหรียญลป.กลั่น 05 ขึ้นมาเลย..แต่ก็มี Pm.เข้ามาถึงคุณตุ้ยและกระผม ว่าเอาชุดนิยมก่อนเลยเป็นไง..(ใจร้อน..กันจริงนะพี่ๆๆ..) ส่วนชุดนิยมรองๆลงไปค่อยตามหลังก็ได้..ได้คุยกับคุณตุ้ยแล้วเมื่อกี่ ..คุณตุ้ยเลยบอกว่าให้ผมช่วยพิมพ์ให้หน่อย แกโง่ๆพิมพ์ไม่ค่อยเก่งน่ะครับ ผมโม้เก่งกว่า โง่ก็น้อยกว่า (แต่ก็โง่ทั้งคู่ครับ) แถมพิมพ์ก็คล่องกว่า 5555)"จ้ะ..จัดให้..ขอรับ" งั้นเอาชุดเหรียญก่อนเลยเป็นไง เริ่มที่ (1) บัวข้าง 20 (2)ปฏิบัติธรรม 24 (3)เสมา 25 (4) เสมา 26 (5) อันตรายาปิ 26 (6)ยันต์ดวง 26 (7)รูปไข่ 28 (8) ปิดตาสรงน้ำ 28 (9)เศรษฐี 31 (10) 84 ปี 31 (11) เปิดโลก 32 และค่อยต่อด้วยชุดหล่อ, และชุดนิยมรองๆลงไปน่ะครับ เอ..งั้นเริ่มที่อาทิตย์หน้าเลยเป็นไง เพราะทุกๆวันเสาร์-อาทิตย์ แควนๆคุณตุ้ยก็รู้ว่า เป็นวันงดลงพระของแกครับ เสาร์ต้องไปวัดสะแก อาทิตย์อยู่กะลูกกะเมีย (จริงๆน่ะ..หากเป็นไปได้ ในอนาคต หากพวกเราร่วมกลุ่มกันได้ นัดกันทุกวันเสาร์ ไปพบปะกัน ไปปฏิบัติบูชาหลวงปู่ น่าจะดีทีเดียวน่ะ แต่..เอาเถอะ..ช่างมัน ไว้เป็นเรื่องของอนาคต) งั้น.อาทิตย์นี้ยังไมลง..ตอนนี้พี่ว่างๆ..พี่เลยขออนุญาติพวกเราสรุปกรอบในภาพรวมในเรื่องเกี่ยวกับหลวงป่ฯ และวัตถุมงคลของท่านไปก่อนน่ะ เพื่อที่หากมีท่านสมาชิกใหม่ๆเข้ามา และหากเค้าไม่มีความรู้เรื่องหลวงปู่มาก่อนเลย จะได้ประติประต่อเรื่องได้ถูก ดังนั้นหากท่านสมาชิกศิษย์หลวงปู่เดิม รู้อยู่แล้ว ก็ขอผ่านไปก่อนน่ะครับ รอๆ..กันไปน่ะ (สวัสดีครับ)

 

****รออยู่ครับ...****

 

รอครับ ผมมือใหม่ต้องดูมากๆ ขอบคุณพี่ๆทั้ง2ท่านมากๆ

 

บทที่ 1. : อันเกี่ยวกับหลวงปู่
1.ประวัติหลวงปู่ : ณ.ที่นี่ขอไม่กล่าวถึงครับ สามารถหาอ่านได้ จากหนังสือและหน้าเวปต่างๆในพลังจิตนี้ ดีๆทั้งนั้น
2. ธรรมหลวงปู่ : เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย สำหรับการเป็นหลวงปู่ดู่ วัดสะแก สามารถหาอ่านจากเวปพลังจิตนี้ได้มากมายเช่นกัน ลองค้นไปที่ด้านล่าง ธรรมะ คำสอน ประสบการ์ณฯ ก็ได้ครับ ดีมาก หรือจะไปที่ชมรมคนรักหลวงปู่ดู่ ก็ได้ ดีมากเช่นกัน ส่วนหนังสือธรรมะของท่าน หากสนใจขอแนะนำให้อ่าน "ตามรอยธรรม ย้ำรอยครู" ที่คณะศิษย์เพื่อนธรรมเพื่อนทำจัดพิมพ์ขึ้น ดีมากๆเลยครับ คนจัดพิมพ์ได้บุญมาก ขออนุโมทนาสาธุด้วย.. หรือจะเป็นหนังสือผู้จุดประทีบในดวงใจ หรือหนังสือที่คณะเพื่อนธรรมฯ จัดทำขึ้นเล่มอื่นๆ..ก็ดีๆๆ..ทั้งน้านครับ หรือหากจะเป็นแนวอภิญญานิดๆผสมวัตถุมงคลของท่านหน่อยๆ ก็ต้องนี่เลย..หนังกายสิทธิ์ (หายากมากๆ) หรือจะเป็น กายสิทธิ์ ยุคอภิญญาของท่านอ.ศุภรัตน์ ก็ได้ครับ
3. วัตถุมงคลหลวงปู่ : องค์ท่านจัดทำไว้มากๆจริงครับ เท่าที่ค้นหาได้ เริ่มตั้งแต่ประมาณปี 2492 ถึงวันนี้ก็ประมาณ 62 ปีแล้วหรือเท่ากับองค์ท่านมีบารมีและเริ่มสร้างตั้งแต่ท่านมีอายุประมาณ 45 ปี โดยครั้งแรกท่านทำแต่เนื้อผง และเนื้อดินก่อน (หาอ่านรายละเอียดได้จากเวปอื่นๆเช่นกัน ลองค้นดูน่ะครับ..ณ.ที่นี่จะกล่าวโดยสรุปๆย่อๆไปก่อน) ส่วนเนื้อโลหะมาเริ่มสร้างก็ตั้งแต่ปี 2505 ที่เรียกว่าเหรียญหลวงปู่กลั่น 05และก็สร้างชุดลป.กลั่นมาอีกมากมายหลายรุ่นทั้งที่วัดสะแกสร้างเอง และวัดอื่นๆสร้างแล้วเอามาให้หลวงปู่อธิษฐานจิตให้ (รวมทั้งหมด 8 รุ่น 12 พิมพ์) แล้วก็มาชุดเหรียญและรูปหล่อลอยองค์หลวงปู่ใหญ่อีกในปี 2510 และ 2516 อีก 2 รุ่น จะสังเกตุเห็นว่าตั้งแต่เนื้อผงมาจนเนื้อโลหะ ตั้งแต่ปี 2592 จนถึง 2522 (สร้างรูปหล่อลอยองค์รูปเหมือนท่านเป็นครั้งแรก เมื่ออายุท่านมากถึง 75 ปีแล้ว) ระยะเวลากว่า 30 ปี องค์ท่านไม่เคยสร้างเป็นรูปองค์ท่านเลย จะสร้างก็เป็นแต่รูปพระพุทธ หรือไม่ก็รูปครูบาอาจารย์ท่าน หรืออีกนัยหนึ่งเป็นที่รู้กันว่าองค์ท่านเป็นผู้ถ่อมตนมากๆ

 

4.วัตถุประสงค์การสร้างวัตถุมงคล : ในหมวดพระผงองค์ทำแบบง่ายๆเอาไว้แจกลูกศิษย์และบุคคลทั่วไปที่ไปกราบท่าน หรือไม่ก็เอาไว้แจกเพื่อเป็นกุศโลบายในการนั่งกรรมฐาน ส่วนเนื้อโลหะในยุคนั้นทั้งที่เป็นของวัดสะแกออกเอง และลูกศิษย์ลูกหาจัดทำนำมาถวาย ก็เพื่อนำรายได้ไปใช้ในการก่อสร้างสิ่งที่จำเป็นหรือขาดแคลนจริงๆในยุคนั้น (ย้อนหลังไป 30 กว่าปีที่แล้ว วัดสะแก ต.ธนู ยังถือว่ากันดาร บ้านนอกและไกลเมืองมาก ผู้ไปหาต้องเดินทางโดยทางเรือ หรือไม่ก็ถนนคลุกฝุ่น ตุเลง ตุเลง กันไป ยังไม่มีนิคมโรจนะ ที่ทันสมัยและเจริญเหมือนทุกวันนี้) โดยหลวงปู๋จะเน้นย้ำว่าไม่ให้ทำแบบฟุ่มเฟือย หรูหรา ไม่เอาเงินชาวบ้านไปก่อสร้างสิ่งใหญ่ๆโตๆโดยไร้สาระ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเจตนาที่บริสุทธิ์จริงๆ
5. รอยจาร : หากจะกล่าวถึงวัถตุมงคลหลวงปู่ สิ่งที่ไม่มีใครเขาจะมานั่งทำ ด้วยความเพียร ความเมตตา ความอุตสาหะ เหมือนหลวงปู่ฯเราแล้ว ก็คือ "รอยจาร" สำหรับพระเนื้อโลหะ คาดว่าองค์ท่านเริ่มมาหยุดจารในรุ่นพิมพ์จิ๋วหล่อหยดน้ำรุ่นแรก ปี 2523 (ซึ่งหมายความว่าขณะนั้นหลวงปู่ มีอายุมากถึง 76 ปีแล้ว หากเป็นคนปกติ อายุสัก 50 กว่าๆ รอยจารเล็กจิ๋วกว่ามดขนาดนั้น มองไมเห็นแล้วครับ ) และหลังจากนั้นองค์ท่านก็เริ่มมอบหมายให้หลวงลุงดำเป็นผู้จารให้แทน ในรุ่นอื่นๆต่อไป โดยศิษย์วงในจะเป็นที่รู้กันว่า หลวงลุงดำจะต้องจารก่อนให้หลวงปู่อธิษฐานจิต หากวัตถุมงคลใดๆที่หลวงปู่อธิษฐานจิตแล้ว หลวงปู่ดำจะไม่จารหรือมนต์ใดๆให้ซ้ำอีกเด็ดขาด ถือเป็นการทับครูบาอาจารย์
ส่วนในการเล่นหาสังเกตุรอยจารหลวงปู๋ฯ ก็ต้องอาศัยความชำนาญและประสบการ์ณครับ..แต่จากจากความเห็นส่วนตัวผมเอง ผมว่าแบ่งเป็นยุคๆ หรือพระรุ่นนั่นๆครับ เหมือนลายเซ็นต์คนเราที่เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย และอาจเกี่ยวด้วยจำนวนที่จารด้วย เช่น ยุคลป.กลั่น 05 (อายุท่านประมาณ 58 ปี) หูตาก็ยังดีอย่ และพระก็สร้างจำนวนไม่มาก สังเกตุเห็นว่าหลวงปู่จะจารหนัก เน้นๆ ชัดเจนทุกองค์ และรอยจารก็เป็นแบบหนึ่ง / มาจนถึงยุคเหรียญบัวข้าง 20 จำนวนเหรียญเฉพาะทองแดง มากถึง 10,000 เหรียญ และหลวงปู่ก็เมตตาจารให้มากถึง 4 จุด ต่อเหรียญ (ลองคิดดูหลวงปู่เหนื่อยยากขนาดไหน) ช่วงนี้รอยจารก็จะเปลี่ยนไป เป็นเหมือนลายเซ็น ตวัดๆ บางๆ แต่นักเล่นหาก็ยังจำได้ เพราะมีเอกลักษณ์เฉพาะ เอาว่าถ้าให้ดี จำเป็นรุ่นๆ ยุคๆ ก็จะดีครับ

 

6.โค๊ด : ข้อนี้พูดยากครับ จริงๆถ้าจะให้ดี หากนักเล่นหาสนใจจริงๆ ควรจะกัดฟันซื้อหนังสือ "พรหมปัญโญเถระ คติธรรม คำสอน และวัตถุมงคล" หรือที่เรียกว่าหนังสือเล่มเขียว ที่เป็นหนังสือรวบรวมวัตถุมงคลทั้งหมดของหลวงปู่ฯ หาซื้อได้ที่วัดสะแกครับ ตอนนี้ยังมีอยู่ ราคาเล่มละ 1,500 บาท เพราะเรื่องโค๊ดในพระรุ่นต่างๆ จะใช้สลับกันไปมา (แม้ในพระรุ่นเดียวกัน แต่ต่างเนื้อ)ถือว่ายุ่งยากและจำยากครับ แต่ในหนังสือจะบอกไว้หมด มีตารางบอกไว้ ว่ารุ่นไหนตอกโค๊ดอะไร ส่วนการจำโค๊ดว่าเก๊/แท้หรือไม่ แน่นอนครับ ก็ต้องอาศัยความชำนาญ โดยเฉพาะต้องมีเหรียญจริงๆสักเหรียญเอาไว้ดู และจดจำให้แม่นก่อน (ข้อนี้อยากจะเน้นย้ำว่า การเล่นพระของผม หากเล่นพระหลวงพ่อหรือหลวงปูอะไรแรกๆไหม่ๆที่เราไม่คุ้น ขอซื้อจากที่เชื่อถือได้ก่อนล่ะ พูดง่ายๆแท้ไว้ก่อน แพงนิดแพงหน่อยก็ไม่สน ถือว่าเอาเป็นครูก่อน แก่กล้าแล้วค่อยลุยเองวันหลัง ก็ได้ของถูกเอง) ส่วนหนังสือเล่มเขียวของวัด ก็ถือว่ารวบรวมได้ค่อนข้างหมดแล้ว กว่า 90 % แต่ก็มีบางรุ่น ที่หายากๆ ที่ยังตกหล่นอยู่ก็มี เลยไม่ได้มีลงในหนังสือ และไม่มีประวัติไว้ แต่นักเล่นก็เล่นครับ (แถมเล่นแพงด้วย) และบางรุ่นถึงไม่มีในหนังสือ แต่ในพิพิธภัณฑ์มีตัวอย่างครับ ทั้งหมดทั้งหลายทั้งปวงก็ต้องค่อยๆศึกษากันไป ถามไถ่ผู้รู้ ค่อยๆสะสมภูมิไป นานไปก็รู้หมดครับ
7. ตรากงจักรในพระผง : มีนักเล่นหาใหม่ๆหลายท่านถามว่า ตรายางหมึกรูปกงจักร หลังพระผงหมายถึงอะไร คำตอบก็คือ ในบรรดาพระผงของหลวงปู่ทั้งหมดจะมีทั้งที่มีหลังตรายางหมึก และไม่มี (หลังเรียบเฉยๆ) ที่ไม่มีก็หมายถึงพระทุกรุ่นทุกปี ที่แจกออกไปก่อนแล้ว คือหมายถึงปกติก็ไม่มีอยู่แล้ว ส่วนตรากงจักร ก็หมายถึงพระทุกรุ่นทุกปี ที่แจกไม่หมดและตกค้างอยู่ที่วัด ภายหลังก็เอาปั้มตรายางมาตี ก็เท่านั้นล่ะครับ ส่วนบางรุ่นบางท่านพระท่านขาวๆเหมือนกัน แปลกใจว่าทำไมด้านเป็น ๑ ด คำตอบก็คือ โค๊ด ๑ด เป็นโค๊ดที่ใช้ในพระหมวดโลหะหรือแหวนของท่านหลายรุ่นครับ ส่วนในพระผงจะมีเฉพาะในรุ่นสร้างในปี 2527 ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นที่สร้างมากที่สุด และก็เก็บไว้ในโอ่งตามที่ผมเคยเล่า (ไม่รู้หลวงปู่ให้สร้างรุ่นเยอะแยะเพราะอะไร มีนัยอะไรหนอ..) การเล่นหาพระผงในรุ่นนี้ ก็ถือว่าหลัง ๑ ด มีน้อยกว่า หายากกว่า แถมได้จุดว่าดูเก๊/แท้ได้เพิ่มขึ้น ก็จะเล่นหาแพงกว่าปกตินิดหน่อยครับ

 

เยี่ยมยอด เนื้อหาแน่น ไม่น่าเชื่อว่าพี่ Jopaa เพิ่งสะสมพระหลวงปู่นะเนี่ย

 

8. การเกิดขึ้นของพระธรรมธาตุ : ก่อนจะมาสะสมพระของหลวงปู่ฯ พูดจริงๆ ผมก็ไม่เชื่อเรื่องพระธาตุเสด็จน่ะ เพราะเล่นพระมาตั้งนาน ก็ไม่เคยพบไม่เคยเจอที่ไหน ซึ่งก็คิดว่าน่าจะเป็นการทำ การโรย เกร็ดๆอะไรก็ไม่รู้ ตั้งแต่เริ่มสร้าง (อย่างนี้ล่ะครับ นักเล่นพระ ก็ต้องหาจุดจับผิดไว้ก่อน) แต่พอเข้ามาศึกษาจริงๆ รู้จักคุ้นเคยกับนักเล่นหาหลายคน คนในวัดก็เยอะ คนทันรุ่นสร้างก็มาก พูดจริงๆทุกเสียงยืนยันว่าไม่มีเลยการโรยอะไรต่างๆ..ก็ปูนขาวเราดีๆแหละผสมกับผงจักรพรรดิ์ (หรือจะเรียกว่าผงพุทธคุณหรืออะไรก็ได้ครับ เอาว่าเป็นผงของหลวงปู่ฯก็แล้วกัน) แต่ต้องยึดหาความเป็นจริงน่ะครับ บางทีคนขายบางคนเค้าโฆษณาว่าผงล้วนทั้งองค์ พูดจริงๆผมไม่ค่อยเชื่อหรอกครับ อาจมีบ้างแต่จะต้องน้อยมากๆ เพราะลองคิดดู พระผงท่านทำจำนวนเป็นแสนๆองค์ พระมากขนาดนั้น หลวงปู่จะทำผงได้มากขนาดนั้นอย่างไร (หาอ่านวิธีการทำผง จากเวปหรือหนังสือตามที่บอกได้ครับ) อย่างดีความคิดผม คิดว่าน่าจะผสมเป็นแบบหัวเชื้อมากกว่า อันนี้พูดแบบภาษาชาวบ้านๆน่ะครับ ส่วนความเชื่อผม เชื่อว่าการเกิดพระธรรมธาตุ เกิดขึ้นจริงครับ และก็ไม่ใช่เกิดกับเฉพาะพระเนื้อผงด้วย พระเนื้อโลหะที่ผมมี หรือเคยเจอมา ก็แสนจะมากมาย ซึ่งบางองค์ชัดๆผมก็ยังหาเหตุผลใดๆมาหักล้างไม่ได้ ว่าพระธรรมธาตุท่านไปติดอยู่ได้อย่างไร ไม่ใช่ติดตามซอกน่ะครับ ลอยอยู่เด่นๆในที่ไม่มีจุดเกาะติดเลย เช่นที่หน้าพระหรือหน้าอก (พระอุระ) เป็นต้น เมื่อเอากล้องส่องดูโดยละเอียด ก็ไม่เห็นมีวัสดุใดช่วยการยึดติดเลยครับ ไม่เชื่อท่านลองเอากาวอะไรก็ได้ เช่น ลาเท๊ก ยู้ฮู หรือตราช้างก็ได้ บีบให้เล็กที่สุดเท่าที่มือมนุษย์จะทำได้ แล้วลองเอากล้องส่องดูซิครับ ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะหนีกล้องขยายพ้น ส่วนการจะเกิดขึ้นหรือไม่ อันนี้ก็แล้วแต่ผู้อธิษฐานครับ โดยความเชื่อของกลุ่มลูกศิษย์จะเชื่อว่าเมื่อนั่งกรรมฐานภาวนา ถึงจะได้รับการตอบแทน (ให้กำลงใจ) อันนี้ก็ว่ากันไปน่ะครับ พูดไปเดี๋ยวคนที่พระธรรมธาตุท่านไมเสด็จขึ้น จะเสียกำลังใจ ของผมยังไม่ก็ยังไม่ขึ้นเลยครับ มีแต่หามาที่เขาขึ้นแล้วทั้งนั้น..
9.การเดินทางไปวัดสะแก : อย่าเหมือนผมน่ะครับ ไปแรกๆ โง่จัง วิ่งไปเกือบถึงอ่างทอง เห็นว่าไม่มีเลยหาที่กลับรถ แล้วก็ยังขับเลยไปอีก วนไปวนมาอยู่นันแหละ ที่สะดวกก่อนถึงแยกเลี้ยวซ้ายเข้าอยุธยา บริเวณหน้าห้างบิ๊กซี จะมีทางให้เข้าเลนคู่ขนาน เลี้ยวเข้าไปแล้วก็ขับไปเรื่อยๆ ผ่านหน้าห้างโลตัส ,อยุธยาปาร์ค ไปจนถึงแยกเข้าอยุธยา ช่วงใต้สะพานต่างระดับ อย่าเลี้ยวซ้ายเข้าอยุธยาน่ะครับ ขับตรงไป (จะมีทางเล็กๆหน่อย) ไปเรื่อยๆก็หมายถึงอยู่เลนคู่ขนานสายเอเซี ไปอีกสัก 1 กม. ก็จะถึงสะพาน ก็เลี้ยวไปใต้สะพานนั้นล่ะครับ ขับรอดไป (ข้ามไปฝั่งนู้น ฝั่งกลับ กทม.) ก็จะเห็นป้ายวัดสะแกเอง คราวนี้ไม่ต้องบอกแล้วครับ ขับไปตามนั่นแหละ เดี๋ยวเจอเอง ลองไปกราบองค์ท่านดูน่ะครับ ปัจจุบันเป็นรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งเหมือนองค์จริงมาก และศิษย์ทุกคนก็ยังเชื่อว่าองค์ท่านก็ยังเมตตาอยู่ที่นั่นแหละครับ (หลายๆคนเชื่อว่าองค์ท่านยังไม่นิพพาน ยังคงห่วง และเมตตาลูกศิษย์อยู่ และยังสร้างบารมีต่อไป เพื่อเด็ดยอดฉัตรสูงสุดตามที่องค์ท่านมุ่งหมาย)
10. จบครับ : เอาแค่นี้ก่อนน่ะครับ พิมพ์กันสดๆ ไม่มีสคลิป นึกไม่ออกแล้ว เบลอ เมื่อยมือด้วย ผิดพลาดใด ขอผู้รู้ ช่วยกรุณาเสริมแต่งด้วยครับ (ฝันดี..ราตรีสวัสดิ์..ครับ..น้องๆเพื่อนสมาชิกทุกคน)