แผนที่ประเทศไทยกับ world change และความเป็นไปได้

*** ผู้ที่เชื่อ และ ปฏิบัติ สัจจะ **** ไม่ว่าจะอยู่แห่งใด ดินฟ้าอากาศ จะจัดสรรให้รอดปลอดภัยอย่างปฏิหาริย์....เพราะ "สัจจะ" คือ การปฏิบัติตาม "หลักสัจจะธรรม"....อย่า มัวหลงทางอยู่เลย...ลองพิจารณาดูด้วยตนเอง - " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** สุดท้ายแล้ว **** ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน...เราทุกคนต้องพึ่ง "การกระทำที่ทำไปแล้ว" ของตนเอง - " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

จะจัดทำเพิ่มให้นะครับ เริ่มไล่จากทวีปเอเชียก่อนนะครับ แล้วตามด้วยทวีบยุโรป ทวีบแอฟริกา ทวีปอเมริกาครับ จะทำให้ครบต้องใช้เวลาหน่อยนะครับ
บอกคร่าวๆไว้ก่อนครับ ว่าแถบยุโรปโดนตามชายฝั่ง เกาะเล็กๆน้อยหาย และพื้นที่บางส่วนก็หายไปนะครับ ส่วนที่หนักหน่อยจะเป็นอเมริกา กับแถบเอเชียเรานี่ล่ะครับบางประเทศหายไปเกือบหมดเลยครับ..

ส่วนมาเลเซียก็โดนนะครับ โดนรอบชายฝั่งทะเลครับ ที่เห็นข้างบนนั้นผมทำไม่ครบครับ

 

เราจะเห็นหลักฐานของการเปลี่ยนแปลงพื้นผิวโลก ซึ่งมีให้เห็นมากมายครับ
เช่นเทือกเขาหลายๆแห่งอย่างเทือกเขาแอลป์ เทือกเขาในปากีสถาน ล้วนเคยเป็นทะเลมาก่อนทั้งนั้น..ปราสาทเมืองเพตราก็สร้างอยู่ในร่องน้ำโบราณ..ค้นพบฟอสซิลสัตว์ทะเลมากมายครับ ในกรุงเทพบ้านเรา ก็มีแถวๆบางนาก็เคยเป็นทะเลเก่ามาก่อน

การเปลื่ยนแปลงนั้นอาจเกิดขื้นแบบกระทันหัน รวดเร็วและค่อยๆ set ตัวลงอย่างช้าๆ..
พื้นผิวเปลือกโลกคล้ายๆกระดานหก มียุบตัว โป่งพอง และไหลเลื่อนไปมาได้ตลอดเวลา เพราะใต้โลกเรายังมีของเหลวร้อนๆเต็มไปหมด การเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดจาก พลังงานที่ไม่สมดุลทั้ง ใต้โลกและผิวโลกที่ปรับตัวเองโดยธรรมชาติ เพื่อให้กลับมาสมดุลดังเดิม อาจต้องมีการลดมวลบนผิวโลก ไปถ่วงน้ำหนักใต้ผิวโลกมากขึ้น จัดน้ำหนักมวลใหม่เหมือนการถ่วงล้อรถยนต์ครับ

ทุกวันนี้แกนโลกหมุนส่ายไปมา เพราะมนุษย์ย้ายมวลสาร ทำลายภูเขา เอามาสร้างเมือง ขุดเจาะหาพลังงาน ใช้อย่างไม่มีการทดแทนใดๆตอบแทนโลก โลกใบนี้คงลำบากแล้วล่ะครับ..นี่ก็เป็นเหตุแห่งภัยธรรมชาติส่วนหนึ่งเท่านั้นที่เกิดขึ้นวันละหลายๆหน..และแสดงผลออกมาแบบนี้ล่ะครับ

 

ภาคกลางหายไปเยอะ หุหุ

 

*** สัญญาณเตือน กรรม **** ที่มาจากภัยธรรมชาติ...จะมาแบบไม่ทันตั้งตัว....แต่จะ "เตือนเฉพาะคนที่กรรมน้อย"...เพราะ "คนที่มีกรรมมาก" จะมองไม่เห็นว่า "สิ่งนี้ คือสัญญาณเตือนภัย".......เมื่อ "ได้ยิน" สัญญาณเตือนกรรม แล้วท่านจะทำอะไรต่อไป...สนุกต่อไป หรือ ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท....จะรอจนเห็นภัยก่อน หรือ จะรีบเก็บของก่อน ...คิดกันเอาเอง...เพราะ พระพุทธเจ้า กล่าวไว้ว่า "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"...สุดท้ายแล้ว...เกิดเป็นคน ก็ต้องพึ่งการกระทำที่ได้ทำไปแล้ว...แล้วที่ผ่านมา เราทำดี มากพอหรือยัง !!!....แล้วพรุ่งนี้เราจะตั้งใจทำอะไรดี ???.......อย่าดูถูก

 

ดีครับคุณ mead และขอโมทนาในการทำงานจุดนี้ด้วยครับ ในเบื้องต้นนี้เอาคำทำนายของ อ.ปริญญา ตันสกุล เป็นหลักไว้ก่อนก็ดีนะครับเพราะมีรายละเอียดเยอะดีครับ ข้อมูลของ อ.ปริญญา ตันสกุลมีดังนี้ครับ

รายละเอียดของมหันตภัยที่จะเกิดขึ้น

สถานที่แห่งแรกในประเทศไทย
ที่จะได้เผชิญกับลาวาร้อนจากไฟใต้โลก
จะเกิดขึ้นจากทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดแรกในภาคอีสาน
ตามรอยต่อของจังหวัดที่ติดกันเป็นแนวยาว
เริ่มแรกจะมีลักษณะเป็นแนวแยกของแผ่นดินคดเคี้ยว
ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ธารโลหะร้อนจะไหลลามแผ่ออกไปเป็นบริเวณกว้าง
ข้ามวันข้ามคืนติดต่อกัน
จากนั้นพายุที่รุนแรงจะนำน้ำมาดับไฟ
ก่อให้เกิดนำท่วมและโรคร้ายที่จะระบาดอย่างรุนแรง
จนสุดที่จะเยียวยาได้
โดยเฉพาะอหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่
ที่มนุษย์เชื่อว่าได้กำจัดมันจนหมดไปจากโลกนี้แล้ว
แต่หารู้ไม่ว่ามันกำลังฟักตัว
และจะมีฤทธิ์ร้ายแรงกว่าตอนที่ถูกมนุษย์ปราบมันไปตอนนั้นเสียอีก
ซึ่งมันสามารถคร่าชีวิตผู้รับเชื้อได้ในระยะเวลาเพียงวันเดียวเท่านั้น

**********************************

ท้องฟ้ามืดมิด ฝนจะเริ่มตกหนักทั่วโลกอย่างไม่หยุดยั้ง
น้ำจะเอ่อขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าท่วมแผ่นดินในหลายๆ พื้นที่
พายุไซโคลนจะพัดกระหน่ำ
ซึ่งจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 160 กม./ชม.
พัดผ่านกรุงเทพ ผ่านช่องแม่น้ำเจ้าพระยา
ตึกแห่งหนึ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ที่อยู่ใกล้กับสะพานกลางเก่ากลางใหม่
ในย่านฝั่งธนบุรีจะพังทลายลงมา
จากการโหมกระหน่ำและความบ้าคลั่งของลมพายุ
มีผู้เสียชีวิตในครั้งนี้มีไม่ต่ำกว่า 600 คน

ในเวลาหลังจากนั้นไม่นานนัก
ตึกสีขาวที่อยู่ริมแม่น้ำฝั่งตรงข้ามจะพังทลายตามลงมา
ยอดตึกที่พังทลายจะแลเห็นโผล่เหนือน้ำ
ให้เห็นเป็นอนุสรณ์ของคราบน้ำตา
หลังคาบ้านเรือนในบริเวณใกล้เคียงจะปลิวว่อน
เสาไฟฟ้าจะล้มระเนระนาด ด้วยความรุนแรงของลมพายุ

******************************

ตึกสูงย่านประตูน้ำ ในกรุงเทพมหานคร
ผนังตึกส่วนหนึ่งจะรูดลงมากองกับพื้น
ด้วยความรุนแรงของลมพายุที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง
จะสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนในบริเวณใกล้เคียง
อย่างเหลือที่จะคณานับ

*******************************

เทือกเขาตะนาวศรีในเขตจังหวัดราชบุรี จะพังทลายลงมา
เนื่องจากแผ่นดินไหวที่รุนแรง
ซึ่งจะเปิดเผยให้เห็นถึงภูเขาไฟที่ซุกซ่อนอยู่
หลังจากนั้นไม่นานภูเขาไฟลูกแรกในประเทศไทย
จะระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง
เสียงดังกึกก้องกัมปนาทดังมาถึงกรุงเทพ
ธารลาวาจะไหลลงไปยังฝั่งพม่า
ไม่นานนักระเบิดลูกที่สอง และลูกที่สามก็ตามมา
ลูกที่สี่ จะรุนแรงอย่างถึงที่สุด
ซึ่งจะสร้างความอำมหิตให้กับภาคเหนือและภาคอีสานต่อไป

********************************

ณ บ้านกุดฉิม อำเภอหนองเรือ จัดหวัดขอนแก่น
จะเกิดภูเขาไฟแห่งที่สองระเบิดขึ้น มีผู้เสียชีวิตประมาณ 500 คน
เกิดแผ่นดินไหว และมีลาวาร้อนจากภูเขาไฟ
ไหลเคลื่อนตัวทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า
เกิดขึ้นที่บ้านโพธิ์ อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย
มีผู้เสียชีวิตร่วมพันคน

*******************************

เกิดภูเขาไฟระเบิดในจังหวัดกาฬสินธุ์ อย่างกระทันหัน
จนยากที่ผู้คนในบริเวณนั้นจะตั้งตัวทัน
และจะเกิดปรากฎการณ์ที่แปลกประหลาด
มีจำนวนเด็กและผู้หญิงเสียชีวิตมากกว่าผู้ชาย

จังหวัดตรัง เกาะทุกเกาะจะจมหายไป
เนื่องจากลมพายุที่รุนแรงและทะเลคลั่ง
ที่กลบกลื่นหมู่เกาะให้หลับลึกไปอย่างรวดเร็ว

สมุทรปราการ จะจมหายลงไปในท้องทะเลครึ่งเมืองอย่างถาวร
เนื่องมาจากลมพายุที่โหมกระหน่ำ
บวกกับน้ำทะเลหนุนสูง น้ำจะท่วมอย่างรวดเร็ว
และมีสายน้ำเปลี่ยนทิศไหลผ่าเมืองอย่างน่าหวาดกลัว
ผู้ที่รับบาดเจ็บจากหายนะในครั้งนี้
จะถูกนำส่งยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ที่อยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านสำโรง
ซึ่งโรงพยาบาลแห่งนี้จะเป็นประตูต้นทาง
ของกระแสน้ำที่ไหลเปลี่ยนทิศ
แต่ก็เป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดของเมืองสมุทรปราการ

เกาะสมุย จะถูกลบหายไปจากแผนที่โลก
เนื่องจากแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง
และเกิดพายุรวมทั้งคลื่นยักษ์ซัดกระหน่ำ
จนกระทั่งเกาะทั้งเกาะจมหายลงไปในท้องทะเล
อย่างไม่มีวันหวนกลับคืน

****************************
เกิดแผ่นดินไหวที่ตัวเมืองบุรีรัมย์ เสียชีวิตทันที 53 คน
ผู้บาดเจ็บที่เหลือจะเสียชีวิตอย่างมากมาย
ในระหว่างทางไปโรงพยาบาล

เกาะปันหยี จังหวัดพังงา เกิดน้ำท่วมสูง
และพายุที่รุนแรงโหมกระหน่ำ
เกาะหายสาบสูญอย่างถาวร ผู้คนเสียชีวิตทั้งเกาะ

เขื่อนบางลาง จังหวัดนราธิวาส ถูกคลื่นจากทะเลซัดกระหน่ำ
จนกระทั่งเขื่อนแตก น้ำไหลทะลักเข้าท่วมแผ่นดิน
รวมทั้งน้ำทะเลที่ถาโถมเข้าใส่แผ่นดินอย่างบ้าคลั่ง
จนกระทั่งไม่มีนราธิวาส หลงเหลืออยู่ในแผนที่โลก

บ้านหาดเล็ก จังหวัดตราด ถูกคลื่นยักษ์ไซโคลนกระหน่ำ
แผ่นดินหายไม่มีเหลือ

ยะลา ถูกทะเลคลั่งโหมกระหน่ำ น้ำทะเลสูง แผ่นดินหาย
เหลือเพียงเกาะเล็กๆ เท่านั้น ที่จะมีชื่อเรียกใหม่ว่า

 

<TABLE height=1211 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=799 border=0><!-- MSTableType="layout" --><TBODY><TR><TD> </TD><TD vAlign=top colSpan=2 height=106><!-- MSCellType="ContentHead" -->

​

<FORM action=--WEBBOT-SELF-- method=post><!--webbot bot="SaveResults" U-File="fpweb:///_private/form_results.csv" S-Format="TEXT/CSV" S-Label-Fields="TRUE" -->

​

กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

​

</FORM>

แหล่งกำเนิดแผ่นดินไหวในประเทศไทย​

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD vAlign=top align=justify><!-- MSCellType="ContentBody" --><FORM action=--WEBBOT-SELF-- method=post><!--webbot bot="SaveResults" U-File="fpweb:///_private/form_results.csv" S-Format="TEXT/CSV" S-Label-Fields="TRUE" -->

</FORM>

​

</TD><TD height=1053> </TD></TR><TR><TD width=55> </TD><TD width=689> </TD><TD width=55 height=52> </TD></TR></TBODY></TABLE>​

ที่มา http://www.dmr.go.th/geohazard/earthquake/DMRActiveFault.htm

 

<CENTER> </CENTER><DD>[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ประเทศไทยประกอบด้วยแผ่นเปลือกโลก (ในภาษาอังกฤษมีหลายคำที่ใช้เรียก คือ plate, block, craton, microcontinent แต่ปัจจุบันนิยมคำว่า terrane) ขนาดเล็ก ซึ่งเป็นแนวรอยตะเข็บ (suture) ที่เชื่อมต่อกัน 2 แผ่นคือ แผ่นเปลือกโลกชาน-ไทย ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกและ แผ่นเปลือกโลกอินโดจีน ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกดังรูปที่ 1[/FONT]

<CENTER>
[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]คลิกเพื่อดูภาพขยาย
รูปที่ 1 แผนที่แสดงขอบเขตของแผ่นเปลือกโลกของประเทศไทยและภูมิภาคใกล้เคียง[/FONT]
</CENTER></DD><CENTER>
<DD>[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]หินต่างๆที่รองรับพื้นที่ประเทศไทยตั้งแต่มหายุคพรีแคมเบรียนถึงตะกอนยุคควอเทอร์นารี มีการแผ่กระจายดังแสดงไว้ในรูปที่ 2[/FONT]

<TABLE borderColor=#0099ff cellSpacing=2 cellPadding=2 width=150 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD>

[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]คลิกเพื่อดูภาพขยาย[/FONT]​

</TD><TD>

[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]คลิกเพื่อดูภาพขยาย[/FONT]​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]รูปที่ 2 แผนที่ธรณีวิทยาประเทศไทย (ซ้ายมือ) ย่อจากมาตราส่วน 1: 2,500,000 และคำอธิบายแผนที่ (ขวามือ)[/FONT]​

</DD></CENTER>

<TABLE borderColor=#0099ff cellSpacing=2 cellPadding=2 width=150 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD>

[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]คลิกเพื่อดูภาพขยาย[/FONT]​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]รูปที่ 3 แผนที่แสดงชนิดหินของประเทศไทย ฉบับประชาชน ย่อจากมาตราส่วน 1: 2,500,000 [/FONT]

ที่มา http://www.dmr.go.th/geothai/index.html​

 

ขอบคุณครับคุณเกษม คงต้องช่วยกันหาข้อมูลประกอบเพิ่มอีกส่วนด้วยครับ
พวกที่เป็นลักษณะทางกายภาพ อย่างเช่น..

-แผนที่รายละเอียดเรื่องตำเเหน่งรอยเลื่อนต่างๆในประเทศ
-ตำแหน่งเขื่อนต่างๆในประเทศไทย
-ความสูงต่ำของภูมิประเทศ
-ลักษณะทางธรณีวิทยาเรื่องดิน และชั้นหินแต่ละภาค
-รายละเอียดตามชายฝั่งทะเล
-ทิศทางคลื่น หรือ ลมพายุ ที่รุนแรง
-ประเทศแถบเอเชียที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดสงครามนิวเคลียร์
เพื่อดูทิศทางของกัมมันภาพรังสีจะแผ่เข้ามาถึงประเทศไทย

จะได้ไว้ใช้ประกอบการพิจารณาในเบื้องต้นครับ
เพราะเราก็ไม่ทราบแน่ชัดในสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเป็นอย่างไร?
ทำได้เพียงลดความเสี่ยงลงเท่านั้นเองครับ
ที่ที่ปลอดภัยที่สุดต่อให้ ปลอดภัยยังไง ยังอาจไม่ปลอดภัยได้เหมือนกัน
เคยทราบจากเบื้องบนว่า จังหวัดที่มีตัวอักษร ส..เสือ
ในประเทศไทยแถบอีสาน จะปลอดภัยที่สุดครับ..

 

ข้อมูลมาไวมากครับ พี่เกษม เยี่ยมเลยครับ ขอบคุณมากครับ..

(verygood)(verygood)(verygood)

 

ขอนำมาขยายดูที่นี่นะครับพี่เกษม
ทางใต้แถบตะวันตก สีเขียวๆ เราเป็นดินตะกอนซะเป็นส่วนใหญ่
ทางแถบตะวันออก เป็นตะกอนแม่น้ำและหินอัคนี
และมีหินปูนกระจายเป็นหย่อมๆ

เคยเห็นข่าวแผ่นดินยุบตัว เป็นหลุมใหญ่ๆหลายจุด ช่วงหลังเกิดแผ่นดินไหว และสึนามิ
น่าจะมาดูว่าแถวนั้น ดินทำไมถึงเป็นโพลง และยุบตัวได้แบบนั้น

แสดงว่าแผ่นดินแถบนั้นมีโพลง ถือว่าอันตรายนะครับ
บริเวณที่เคยเกิดแผ่นดินยุบตัว แถบนั้นคงต้องเป็นพื้นที่สีแดงแน่เลยครับ

 

"สุรินทร์" "สกลนคร" อีกแห่งด้วยครับ ถิ่นพระป่าทางอิสาน
ที่ราบสูงทางอิสานค่อนข้างปลอดภ้ยนะครับ หลายๆท่านเคยกล่าวไว้

ไว้ผมจะไปถามเพิ่มเติม จากท่านผู้รู้ เบื้องบนมาอีกส่วนหนึ่งครับ คุณเกษม คุณคนานันท์ จะไปด้วยกันไหมครับ (แถวสุขุมวิทครับ)
จะได้ช่วยกันถามให้ละเอียดขึ้นครับ มาประกอบการทำแผนที่ครับ

 

ไปวันไหนครับ ช่วยบอกก่อนด้วยครับ

 

คงจะเป็นวันอังคาร รอบดึกเหมือนเดิมครับ เดือนหน้าแล้วกันครับคุณคนานันท์
จะนัดก่อนเข้าไป แล้วแจ้งให้ทราบอีกทีนะครับ ใครมีอะไรฝากถามก็ส่งคำถามมาได้นะครับ (พอดีว่าห้องไม่ใหญ่มาก รับได้ไม่เกิน 4-6 คนครับ)

ที่นี่เขาก็เตรียมสร้างที่หลบภัยไว้แถวๆเพชรบูรณ์ครับ..ต่างชาติมาลงทุนครับ
เขารู้เรี่องนี้เหมือนกันครับ และเห็นว่าประเทศไทยปลอดภัยกว่าที่อื่นๆครับ
น่าจะรองรับคนได้ราว 3,000-5,000 คน หากเสร็จทันก่อนเกิดเหตุครับ

 

ยังไม่สะดวกในการเดินทางครับ เพราะผมอยู่ต่างจังหวัดไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ต้องใช้บริการรถเมล์ รถไฟ ตอนนี้ขอช่วยด้านหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตไปก่อนนะครับ

 

ลมมรสุมกับภูมิอากาศของประเทศไทย​

การเกิดลมทะเลตอนกลางวันและลมบกตอนกลางคืน​

​

​

​

ประเทศไทยอยู่ภายใต้อิทธิพลของมรสุมสองชนิด คือ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ

​

<TABLE class=logfont width="95%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width="5%">

​

</TD><TD width="95%">มรสุมตะวันตกเฉียงใต้

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ พัดปกคลุมประเทศไทยระหว่างกลางเดีอนพฤษภาคมถึง กลางเดือนตุลาคม โดยมีแหล่งกำเนิดจากบริเวณความกดอากาศสูงในซีกโลกใต้ บริเวณมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งพัดออกจากศูนย์กลางเป็นลมตะวันออกเฉียงใต้ และเปลี่ยนเป็น ลมตะวันตกเฉียงใต้เมื่อพัดข้ามเส้นศูนย์สูตร มรสุมนี้จะนำมวลอากาศชื้นจากมหาสมุทรอินเดีย มาสู่ประเทศไทย ทำให้มีเมฆมากและฝนตกชุกทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามบริเวณชายฝั่งทะเล และเทือกเขาด้านรับลมจะมีฝนมากกว่าบริเวณอื่น

</TD></TR><TR vAlign=top><TD width="5%">

​

</TD><TD width="95%">มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ

หลังจากหมดอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้แล้ว ประมาณกลางเดือนตุลาคมจะมีมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทยจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ มรสุมนี้มีแหล่งกำเนิดจากบริเวณความกดอากาศสูงในซีกโลกเหนือแถบประเทศมองโกเลียและจีน จึงพัดพาเอามวลอากาศเย็นและแห้งจากแหล่งกำเนิดเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ทำให้ท้องฟ้าโปร่ง อากาศหนาวเย็นและแห้งแล้งทั่วไป โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคใต้จะมีฝนชุกโดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออก เนื่องจากมรสุมนี้นำความชุ่มชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุม

พายุ

พายุที่เกิดขึ้นในบรรยากาศมีหลายชนิด ขึ้นอยู่กับขนาด ความรุนแรง และลักษณะของการเกิด สามารถแบ่งออกได้ดังนี้

พายุหมุนเขตร้อน
เป็นพายุหมุนที่เกิดในทะเลหรือมหาสมุทรในโซนร้อน โดยมีชื่อเรียกตามแหล่งที่เกิด เช่น พายุดีเปรสชั่น พายุโซนร้อน พายุไต้ฝุ่นเป็นพายุที่เกิดในมหาสมุทรแปซิฟิกหรือทะเลจีนใต้

พายุเฮอริเคน เป็นพายุที่เกิดในมหาสมุทรแอตแลนติก และพายุไซโคลนเป็นพายุที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรอินเดีย พายุหมุนเหล่านี้มีความแรงมาก โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางพายุ 50 กม./ชม. ขึ้นไป และสามารถมีความเร็วลมรอบจุดศูนย์กลางพายุได้มากกว่า 250 กม./ชม. สำหรับพายุไต้ฝุ่น พายุเฮอริเคน และพายุไซโคลน

พายุทอร์นาโด
เป็นพายุหมุนที่มีความรุนแรงที่สุดและอันตรายมากที่สุด ในบรรดาพายุหมุนทั้งหลาย โดยลมพัดรอบศูนย์กลางอาจมีความเร็วถึง 800 กม./ชม. และมีลักษณะเด่นชัดคือ เป็นพายุที่ก่อตัวจากก้อนเมฆ และย้อยลงมาบนผืนดินในลักษณะเป็นกรวยเกลียว ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 50

 

เรื่องลมพายุที่รุนแรงนี่ ทราบมาว่าจะพัดมาจากทิศตะวันตก ด้วยครับในช่วงนั้น ป้องกันทางฝั่งนี้ไว้ให้ดีด้วยครับ..โชคที่ที่บ้านเราไม่มีพายุทอร์นาโดครับ เพราะมันจะเกิดแถวฝั่งตะวันตกเป็นส่วนใหญ่

(ขอบคุณครับพี่เกษม ถ้าสนใจจะแวะไปรับพี่เกษมดีไหมครับ..)

 

ต่างชาติเค้าไปรู้มาจากไหนน้อ การคาดการณ์ล่วงหน้าจากการคำนวณทางวิทยาศาสตร์ หรือว่าโหรของทางเค้าบอก???