ถามเรื่อง กามคุณ ที่ควรเสพ และ ไม่ควรเสพ มีอะไรบ้าง

กามคุณ 5 ประกอบด้วย รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส (โผฏฐัพพะ)
สิ่งที่ควรเสพคือสิ่งที่เสพแล้วเกิดกุศล
และสิ่งที่ไม่ควรเสพคือเสพแล้วเกิด อกุศล
(สงสัยจากลิงค์ http://www.palungjit.org/tripitaka/default.php?cat=2200147)

รูปที่เสพแล้วเกิดกุศล คือรูป พระพุทธรูป พระสงฆ์ ผู้มีศีล
รูปที่ไม่ควรเสพ คือ รูปของเพศตรงข้าม หรือสิ่งที่เลียนแบบเพศตรงข้าม สิ่งที่เห็นแล้วพอใจ
ถ้าสิ่งนี้ถูกต้องก็พอเข้าใจ

เสียงที่ควรเสพ คือเสียงแห่งพระธรรม การสนทนาธรรม สิ่งที่เป็นความจริง
เสียงที่ไม่ควรเสพ คือเสียงที่ทำให้ลุ่มหลง ไพเราะอันเป็นไปในทางกาม หรือทำให้ยินดีแต่ไม่เกิดประโยชน์

แต่
รส กลิ่น สัมผัส
สิ่งที่ทำให้เกิดอกุศล คือ เป็นที่ยินดี สบาย หรือเป็นไปในทางกาม ไม่เกิดประโยชน์

แล้วสิ่งที่เป็นกุศลเล่าคืออะไร ใครรู้ช่วยตอบที (เพิ่มเติมอกุศลก็ได้ครับ);welcome3;aa8

 

ถามเรื่อง กามคุณ ที่ควรเสพ และ ไม่ควรเสพ มีอะไรบ้าง

ตอบ...กามคุณที่ควรเสพคือ กามที่เสพแล้วไม่เบียดเบียนตนเอง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เสียศีล ไม่เสียธรรม เสพแล้วมีความสุข ไม่ร้อนใจในภายหลัง นี้แล กามที่ควรเสพ

ส่วนกามที่ไม่ควรเสพ คือสิ่งที่เป็นตรงข้ามดังที่บอกไปจ้า...

 

สงสัยเรื่อง กลิ่น รส สัมผัสน่ะครับ ว่าอะไรมันเป็นกุศล เพราะถ้าชอบถ้าสบาย มันก็เป็นไปในทางกาม ขอบคุณครับที่ตอบ ^-^

 

อ่านตรงนี้ก่อนดีไหม...

วันนี้มาพูดเรื่องกามคุณในมุมของผู้โพสให้ฟังสัก นิดหน่อย เพื่อไม่ให้คนมีบุญ กำลังกินผลบุญโดยมีผลกามคุณที่ตอบแทนมาให้ เวลารับประทานจะได้ไม่คิดมากเกินไปจนติดคอ เพราะมองเห็นผลของบุญเป็นกิเลส

วิธีสู้กับกามราคะของ "จริงนะ" จะเก็บเอาไว้สู้ตอนจะขึ้นสู่ชั้น พระสกิทาคามี พระอนาคามีจ้า..

มา จากประสพการในการปฏิธรรมที่ผ่านๆ มา จึงรู้ชัดว่า กามที่ได้มาจากผลที่บำเพ็ญบุญกุศลในรูปแบบต่างๆ ทางพระพุทธศาสนานั้นมีอยู่ ประดุจดังเทพยดาในสวรรค์มาบอกเหตุว่า การที่เทวดาทั้งหลายในสวรรค์ทั้งหกชั้นได้บริโภคกามนั้น ล้วนเกิดมาจากเหตุที่ตนได้เคยบำเพ็ญในบุญกุศลกันมาแล้วทั้งสิ้น และเรื่องที่เป็นผลของบุญ ย่อมไม่ขัดขัดกับหลักคำสอนในพระพุทธศาสนาอย่างแน่นอน เทวดาจึงได้รื่นเริงบรรเทิงใจอยู่ในสวรรค์ พร้อมกับการบริโภคกามตามที่ตนควรมี ควรได้ จากผลบุญที่ได้บำเพ็ญมา

ส่วนทางฝั่งมนุษย์ ไม่รู้ชัดในเส้นทางของกามกุศล ได้รับข้อมูลทางธรรมไม่ชัดเจน แต่กลับทึกทักเอาว่าเป็น"กิเลส"(ความเศร้าหมอง) ทั้งที่เป็นผลของบุญที่ตนได้เคยบำเพ็ญกุศลมา จึงมีโอกาสได้ลิ้มรสในความสุขของกามนั้นๆ และด้วยไม่รู้จุดยืนของชีวิตตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในตน ประพฤติตัวสับสน ไม่เป็นไปตามลำดับแห่งความสุขที่มีบัญญัติไว้สิบประการ คือความสุขจากกามมี 1 ความสุขจากรูปฌาณมี 4 ความสุขจากอรูปฌาณมี 4 ความสุขที่ได้นิพพานมี 1 ในเมื่อตนเองเป็นปุถุชน แต่กลับไม่อยู่กับความจริงในความเป็นปุถุชนของตนที่มี พาจิตใจไปจับเป้าหมายสูงสุด คือผล"ความว่าง" อันเป็นวิสัยของอริยะชนพึงมี ด้วยความเข้าใจผิดดังกล่าว จึงไม่ต่างกับคนตาบอดคลำช้าง ด้วยทิฏฐิที่ซ่อนอยู่ภายในใจตน พยายามไปรู้ในเรื่องที่ตนเองเข้าไม่ถึง ไม่เคยสัมผัสได้จริง แต่นำคำบอกเล่าของอริยชนมามาถือไว้ บนความไม่เข้าใจในธรรมชาติของจิตได้จริง เมื่อถือความว่าง ตนเองเลยได้แต่ความว่างตามที่จิตไปถือ ไปจับ นำมาวิจารจนพระธรรมเสียหาย เพราะไม่รู้จริง

ส่วนคนที่อยู่กับความจริงใน ปัจจุบัน หลังจากได้ลิ้มรสในกาม ที่เกิดจากบุญกุศลที่ตนได้บำเพ็ญ ยังผลให้สมองปลอดโปร่ง จิตใจคล่องตัวในความคิดเห็น เข้าใจเรื่องสัมมาทิฏฐิได้ตามความเป็นจริง ของชั้นลำดับการบำเพ็ญธรรม อันเป็นหลักของเหตุและผล อย่างถูกต้อง เห็นเรื่องกามเป็นวิสัยของอริยชนชั้นพระสกิทาคามี อนาคามี ไม่ใช่วิสัยของตน ซึ่งยังเป็นปุถุชนอยู่ ก้าวที่ตนพึงจะทำต่อไปคือ พาตนเข้าสู่ภูมิกัลยาณชน(คนมีศีล) จากนั้นจึงค่อยก้าวเข้าสู้ภูมิอริยะชนเบื้องต้น คือพระโสดาบัน กามกุศลไม่ได้เป็นอุปสรรคในการปฏิบัติตนในชั้นต้นๆ แต่อย่างใด แต่กลับช่วยส่งเสริมให้มีความคิดเห็นสดใส ใช้ฝ่าฟันอุปสรรคที่มี ให้เป็นไปได้ตามลำดับอย่างถูกต้อง ตรงไปตรงมา เมื่อก้าวถึงชั้นที่สูงกว่าพระโสดา ค่อยถึงเวลาพิชิตกาม นี้เองคือการอยู่กับความจริงในชีวิตประจำวันอย่างถูกต้อง เป็นไปตามลำดับของการเติบโตแห่งจิตวิญญาณตน

สรุป...ตอน นี้มีกามให้บริโภค ก็บริโภคไปก่อน ถ้าไม่มีบุญ มีรึ จะได้บริโภค ไหนๆ ก็อุตส่าห์ วิ่งแสวงหากันอยู่แล้ว ตั้งแต่ตื่นนอนยันเข้านอน ใยจึงมานั่งรังเกียจกามที่เป็นผลของกุศลอยู่ทำไมจ๊ะ ความรู้ที่ดีที่สุด คือความรู้ที่เหมาะสมกับฐานะตนในปัจจุบัน จึงจะก่อให้เกิดประโยชน์กับตนได้จริงๆ นะจ๊ะ


[FONT=&quot]กว้างหนึ่งศอก ยาวหนึ่งวา หนาหนึ่งคืบ[/FONT][FONT=&quot] =(ขันธ์ห้า)[/FONT]
[FONT=&quot]ลองไปสืบ หาคำตอบ ชอบจริงเหวย[/FONT]
[FONT=&quot]มีติดตัว ตั้งแต่เกิด ทุกคนเลย[/FONT]
[FONT=&quot]คำเฉลย คือกายใจ ไขความจริง[/FONT]

[FONT=&quot]ไขทุกสิ่ง ที่ใจอยาก จะรู้เห็น[/FONT]
[FONT=&quot]ทุกประเด็น คำถาม ยามสงสัย[/FONT]
[FONT=&quot]เพียงอย่างเดียว ที่ต้องทำ จัดวินัย [/FONT][FONT=&quot]=(“มารักษาศีลกันเถอะ”)[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วลองไข เข้าไปดู ได้รู้ความ[/FONT]

[FONT=&quot]ความมีว่า ตั้งแต่เกิด กำเนิดจิต[/FONT]
[FONT=&quot]มาจากฤทธิ์ ตัณหา เข้าถาถม[/FONT][FONT=&quot] =(ตัณหา ตัวสร้างบ้าน(ขันธ์ห้า))[/FONT]
[FONT=&quot]ปลุกแล้วปั้น ให้ข้าฯ เป็นตัวตน[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วติดปน ยางกาม ตามเลี้ยงใจ [/FONT][FONT=&quot]=(กามคุณห้า รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อารมณ์)[/FONT]

[FONT=&quot]มันเป็นยาง สุดเหนียว เหนี่ยวรั้งจิต[/FONT][FONT=&quot] =(กามมัดสัตว์ไว้ในภพ)[/FONT]
[FONT=&quot]พาความคิด หมกมุ่น วิ่งวุ่นหา[/FONT]
[FONT=&quot]รูปสวยๆ เสียงเพราะๆ อยากได้มา[/FONT][FONT=&quot] =(ศูนย์รวมแห่ง”รส”กาม(เพศตรงข้าม))[/FONT]
[FONT=&quot]สัมผัสหา กลิ่นของเธอ เลอเลิศเชียว[/FONT]

[FONT=&quot]ยามเธอร้อง เสียงหวาน ปานน้ำผึ้ง[/FONT]
[FONT=&quot]มันรัดรึง ตรึงจิต คิดเสพสม[/FONT]
[FONT=&quot]หกทวาร ของข้าฯ พาให้ชม[/FONT][FONT=&quot] =(อายตนะภายใน นอก ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ )[/FONT]
[FONT=&quot]รูปของเธอ สวยสม ตระการตา [/FONT][FONT=&quot]=(อายตนะภายใน รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อารมณ์)[/FONT]

[FONT=&quot]มันเป็นยอด ทิพย์รส กดประสาท[/FONT]
[FONT=&quot] จึงไม่คลาด แสวงหา มาเสพสม[/FONT]
[FONT=&quot]เมื่อได้มา สมหวัง ดั่งอยากชม[/FONT]
[FONT=&quot]ร่วมเสพสม ช่างสุขใจ ในเสี้ยวกรรม [/FONT][FONT=&quot]=(กรรม ที่ได้มาจากตัวสร้างบ้าน(ตัณหา))[/FONT]

[FONT=&quot]กามสุข สูงสุด ฉุดดวงจิต[/FONT]
[FONT=&quot]เชื้อมันติด ไปทุกที่ อย่าสงสัย[/FONT]
[FONT=&quot]ขันธ์ทั้งห้า ถูกยางกาม มาตามนัย[/FONT]
[FONT=&quot]เป็นวิสัย ทุกๆ คน บนแผ่นดิน[/FONT]

[FONT=&quot]ฤทธิ์ของมัน เทียบเท่า เจ้าพิภพ[/FONT]
[FONT=&quot]ที่เจนจบ กระบวนการ ผ่านวิถี[/FONT]
[FONT=&quot]ได้เป็นเจ้า วัฏฏะจักร นานเต็มที[/FONT]
[FONT=&quot]เสียวทุกที่ คล้ายฌานสี่ นี่ของจริง[/FONT][FONT=&quot] =(จุดเสียวคือสูงสุดของรสกาม มีกำลังเท่าฌานสี่)[/FONT]

[FONT=&quot]ยางกามมัด ดิ้นไม่หลุด ฉุดไม่อยู่[/FONT]
[FONT=&quot]ดั่งที่รู้ ในยางเหนียว มีเกลียวสาน[/FONT]
[FONT=&quot]ทั้งมัดเกาะ กัดกิน เลี้ยงวิญญาณ[/FONT]
[FONT=&quot]จะต้านทาน อย่างไร ไม่ได้เลย[/FONT]

[FONT=&quot]รู้หรือไม่ กามมันมา จากไหนหนอ[/FONT]
[FONT=&quot]มิเคยพอ ในความอิ่ม ชิมเสมอ[/FONT]
[FONT=&quot]เสพแล้วติด ติดแล้วเสพ ไม่รีรอ[/FONT]
[FONT=&quot]ทอดสมอ อยู่กับมัน ทุกงานเลย[/FONT]

[FONT=&quot]พอจะเบื่อ เลิกกอด มันก็เกาะ[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วก็เพาะ ตัวเอง ขึ้นมาใหม่[/FONT]
[FONT=&quot]ไปสืบดู แล้วค้นดู อยู่ที่ใจ[/FONT]
[FONT=&quot]จึงเห็นได้ เป็นความคิด ผลิตกาม[/FONT]

[FONT=&quot]คิดแล้วแต่ง แต่งแล้วคิด จิตข้องอยู่[/FONT]
[FONT=&quot]สาวไปดู จึงได้เห็น เป็นด้วยผล[/FONT]
[FONT=&quot]ธรรมชาติ สร้างให้กาม มาเลี้ยงคน[/FONT]
[FONT=&quot]ใส่ยางปน ความคิด ติดกับมัน[/FONT]

[FONT=&quot]ถ้าหยุดคิด กามก็ติด จิตไม่ได้[/FONT]
[FONT=&quot]เหตุไฉน ใจหยุดคิด ได้แน่หรือ[/FONT]
[FONT=&quot]ทำอย่างไร ไม่มีทาง ทำได้ฤา[/FONT]
[FONT=&quot]ความคิดคือ ตัวประกอบ จิตสำคัญ[/FONT][FONT=&quot] =(ตัวประกอบจิต (เจตสิก คิด จำ รู้สึก)[/FONT]

[FONT=&quot]ถ้าไม่คิด ไม่ใช่จิต แล้วนะท่าน[/FONT]
[FONT=&quot]หน้าที่มัน คือต้องคิด ติดความเห็น[/FONT]
[FONT=&quot]มีอย่างเดียว ทำให้จิต มันคิดเป็น[/FONT]
[FONT=&quot]ความคิดเห็น มันไร้ค่า ถ้าวางลง[/FONT]

[FONT=&quot]ความยึดมั่น ถือมั่น ถูกวางแล้ว[/FONT]
[FONT=&quot]ใยกามแจว ยังวิ่งเต้น ในจิตฉัน[/FONT]
[FONT=&quot]ไฉนเจ้า ไม่ผละไป ได้จากกัน[/FONT]
[FONT=&quot]ยังตามฉัน อยู่ได้ ใครเลี้ยงดู[/FONT]

[FONT=&quot]เจ้ากามตอบ ก็จิตท่าน นั่นเองหนา[/FONT]
[FONT=&quot]นำตัวข้าฯ เข้ามาเต้น เป็นนิสัย[/FONT]
[FONT=&quot]ด้วยตัวข้าฯ คงอยู่ได้ ทุกที่ไป[/FONT][FONT=&quot] =(ถึงปล่อยวางความคิด ปรุงแต่งอารมณ์ (สังขาร) ได้[/FONT]
[FONT=&quot]ต่อให้วาง ความคิดได้ ไม่จบความ[/FONT][FONT=&quot] แต่กามยังเกาะตัวรู้(วิญญาณ)ได้อยู่ จึงยังไม่จบ)[/FONT]

[FONT=&quot]ความเห็นท่าน วางลงได้ ไม่ตลอด[/FONT]
[FONT=&quot]ยังมีกอด อยู่ในรูป รสของฉัน[/FONT]
[FONT=&quot]อำนาจข้าฯ จึงอยู่ได้ ไม่จากกัน[/FONT]
[FONT=&quot]ตัวรู้ท่าน ยังมีรส ของข้าฯ เลย[/FONT][FONT=&quot] =(เวทนา (ความรู้สึก) ยังรับรสอิงตัวรู้(วิญญาณ)อยู่[/FONT]

[FONT=&quot]ถ้าตัวรู้ ถูกวาง ข้าฯ ก็จอด[/FONT]
[FONT=&quot]ข้าฯ คงกอด จิตของท่าน ไม่ได้หนา[/FONT]
[FONT=&quot]คงเหลือแต่ ความว่างเปล่า ในอุรา[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วตัวข้าฯ จะอยู่ได้ อย่างไรกัน [/FONT][FONT=&quot]=(ต้องปล่อยวางแม้ในตัวรู้(วิญญาณ))[/FONT]

[FONT=&quot]แต่ตราบใด ท่านยังมี ดวงจิตอยู่[/FONT]
[FONT=&quot]จงโปรดรู้ ข้าฯ อยู่ได้ ในจิตนั่น[/FONT]
[FONT=&quot]ด้วยตัวข้าฯ เกาะกินใจ ท่านแสนนาน[/FONT]
[FONT=&quot]ทุกวันวาร ยึดกุมใจ เป็นของตน[/FONT]

[FONT=&quot]เป็นเนื้อเดียว กับจิต ทุกดวงเกิด[/FONT]
[FONT=&quot]ข้าฯ บรรเจิด อยู่ในจิต ทั้งแหล่งหล้า[/FONT]
[FONT=&quot]ด้วยข้าฯ เป็น อมตะ ทุกเวลา[/FONT]
[FONT=&quot]ใครจะมา ฆ่าให้ตาย ไม่มีเลย[/FONT]

[FONT=&quot]มีอย่างเดียว จะกระทำ ย่ำข้าฯ ได้[/FONT]
[FONT=&quot]ต้องไร้ใจ ไร้จิต คิดออกไหม[/FONT]
[FONT=&quot]ถ้ามีใจ มีจิตอยู่ ข้าฯ ไม่ตาย[/FONT]
[FONT=&quot]ข้าฯ อยู่ได้ ยืนยง คงกระพัน[/FONT]

[FONT=&quot]ฟังกามบอก ความนัย ใจกระจ่าง[/FONT]
[FONT=&quot]ด้วยเจ้ากาม เกาะกุมจิต ทุกทิศา[/FONT]
[FONT=&quot]จะส่วนรู้ ส่วนคิด จดจำพา[/FONT]
[FONT=&quot]เวทนา ก็ติดใจ ด้วยในกาม[/FONT][FONT=&quot] =(ขันธ์ห้า เป็นของกามโดยแท้)[/FONT]

[FONT=&quot]ยางกามติด ทุกส่วน ในจิตฉัน[/FONT]
[FONT=&quot]ในทุกข์ขันธ์ ทั้งห้า อย่าสงสัย[/FONT]
[FONT=&quot]ไม่มีทาง ฆ่ากาม ให้หมดไป[/FONT]
[FONT=&quot]ทุกดวงใจ ติดยางกาม ทั้งนั้นเลย [/FONT]

[FONT=&quot]ต้องไร้ใจ ไร้จิต ให้ได้หนอ[/FONT]
[FONT=&quot]เลิกเคลียคอ ยึดมั่น นี่จิตฉัน[/FONT]
[FONT=&quot]ปล่อยให้กาม ยึดกุมใจ เป็นของมัน[/FONT][FONT=&quot] =(นี้คือขบวนการของ ตัณหา = ตัวสร้างบ้าน)[/FONT]
[FONT=&quot]เลิกถือมั่น ขันธ์ห้านี้ ถึงดีเอย [/FONT][FONT=&quot]=(ขันธ์ห้า ไม่ใช่เรา เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา)[/FONT]

สรุป นี้คือมุมมองในเรื่องของกาม ในมุมส่วนตัวผู้โพสจ้า...กามจะหมดสิ้นจากจิตเราได้จริง ก็ต่อเมื่อบรรลุเป็นพระอรหันต์ได้แล้วจ้า....อย่าทิ้งความสุขที่อยู่ตรงหน้า ไปควานหาความสุขที่เลื่อนลอย ที่อยู่ในอนาคต กามกุศลนี้เป็นอารมณ์ชาวสวรรค์จ้า...

 

อ่านมา 3 รอบ ขอบคุณครับ ^-^ ได้ความคิดใหม่ ๆ

 

กลิ่น กลิ่นของศีล หอมตามลมและทวนลม
รส รสแห่งธรรมชำนะรสทั้งปวง
สัมผัส พระนิพพาน สัมผัสอันประเสริฐเลิศโลก

 

คุ้น ๆ เหมือนเคยได้ยินได้เห็นที่ไหนจำไม่ได้ สุดยอดครับขอบคุณครับ
แต่มัน ดม มันกิน มันสัมผัสไม่ได้อ่ะ :'(

 

อกุศลหรือกุศลนี้ ต้องใช้สัมผัสพิเศษ คือจิต

 

ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมากครับ

 

ขออนุโมทนาด้วยเจ้าคะ สาธุ..(y)

 

"กุศลและอกุศล สำผัสได้ด้วยจิต ไม่ใช่รูปกาย"

สาธุ