ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

เหรียญเม็ดแดง ปี08 บล็อคธรรมดา


องค์นี้เคยให้ดวงใจถิรวุษิ(ลูกสาวคนโต)แขวนอยู่ครั้งหนึ่ง แล้วผมก็ต้องขอนิมนต์ท่านเก็บมาไว้ในกล่องก่อน เหตุผลเพราะเขายังเด็กอยู่กลัวเขาจะทำหาย


หลวงพ่อทวด รุ่น คชสารหมื่นปี ขออนุญาติดึงภาพมาอีกครั้ง(กลัวโดนกล่าวหาว่ารักลำเอียง)
องค์นี้ก็เคยให้ปณิตาเร่รัก(ลูกสาวคนเล็กตัวแสบ) แขวนแล้วครั้งหนึ่งเหมือนกัน ให้เขาแขวนแบบบู๊เลยครับ สภาพผิวจึงเป็นแบบที่เห็น เสียดายผิวเหมือนกันครับ องค์นี้ก็นิมนต์เก็บไว้ในกล่องเหมือนกันครับ

 

สวัสดีค่ะ...เข้ามาดูพระคุณถิรวุษิค่ะ...เด็กๆแขวนพระหลวงปู่ดีค่ะ......
เล่าสู่กันฟัง หลานค่ะ เมื่อช่วงสมัย สไปเดอร์แมนดัง น้องเกี้ยงชอบมาก ชอบเป็นแมงมุม เที่ยวไต่ลงบันไดค่ะ ลงปกติไม่ได้ค่ะ ต้องลงแบบแมงมุม ปรากฎน้องเกี้ยงร่วงจากชั้น 2 ตกลงมาค่ะ พี่สาวตกใจมาก เพราะลงมาในท่าเอาหัวลงมาแบบแมงมุม...โชคดีค่ะแค่โฟกช้ำ.....เบ้าตาเขียว....
(น้องเกี้ยงใส่เม็ดแตงหลวงพ่อทวดพระประจำปี).....

 

หลวงปู่ทวดเมืองกรุงเก่า ประมาณปี 253...

 

สวัสดีรอบค่ำครับผม ...

 

รุ่นทูลเกล้า วัดห้วยมงคลครับ


ถ้าเรียกชื่อรุ่นผิดขออภัยด้วยครับ
เมื่อก่อนพระวัดห้วยมงคลมีพอประมาณครับ แจกเพื่อนๆในห้องไปหมดแล้วเหลือไม่กี่องค์เองครับ

 

เคยเล่าแล้วนำมาเล่าอีกครั้งค่ะ....

ภาพวิหารลป.ทวด ภายในวิหาร...
เมือ่เข้าไปชั้นใน...จะเห็นรูปเหมือนลป.ทวดมีกระจกปิดกั้นด้านหน้า
ซ้ายมือของท่านจะเป็นหลวงพ่อลอยองค์ 5 องค์<!-- google_ad_section_end -->

 

ในวิหารหลวงพ่อทวดชั้นในสุดซ้ายมือของท่านจะเป็นหลวงพ่อลอยองค์ 5 องค์ และขวามือจะเป็นโอ่งน้ำมนต์และมีรูปปั้นหลวงพ่อทิม
<O</O
<O</O
เดินออกมาตรงห้องกลางวิหารขวามือจะมีหลวงพ่อทวดนั่งบนหลังช้างและมีตู้ใบเซี่ยมซี่......ด้านซ้ายเช่นกันจะมีหลวงพ่อทวดนั่งบนหลังช้าง..
<O</O
<O</O
เพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่าพาญาติไปเที่ยววัดช้างให้และเซี่ยมซี่ใบเซียมซีบอกชะตาขาด ญาติคนนั้นยังให้ญาติๆที่มาด้วยกันอ่านกันหลายคนถัดจากนั้นไม่ถึงอาทิตย์ เสียชีวิต โดนยิง จากเหตุสถานการณ์.... เซียมซีแม่นมาก<O</O<!-- google_ad_section_end -->

 

ปู่หมุนเสกครับ





ปล.ปัจจุบันพระหลวงปู่หมุนผมขอยอม ใครเก็บเก็บไป

 

องค์นี้ใส่ตั้งแต่เด็ก


องค์นี้ผมใส่สมัยยังเด็กๆเลยครับ เตี่ยบอกได้มาจากก๋ง รู้จักพระองค์แรกก็หลวงปู่ทวด องค์นี้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน ยังจำได้ไม่เคยลืม สมัยเด็กๆจะซนมากครับ ปั่นจักรยานไปเที่ยวคนเดี่ยว แถวๆคลองชลประทานซึ่งเปลี่ยวมากๆ อยู่ๆมีผู้ชายขับรถมาจากไหนไม่รู้ เข้ามาถามแบบไม่เป็นมิตรเลย ด้วยความกลัวตอนนั้นก็นึกถึงหลวงปู่ว่าผมกลัวเขา หลวงปู่ช่วยด้วย พอบอกกล่าวเสร็จไอ้บ้านี้อยู่ๆก็ มองซ้ายหันขวา แล้วรีบปิดรถออกไปเลยครับ
องค์นี้ท่านใดทราบบ้างครับว่าออกวัดไหน บางคนก็บอกวัดปราสาท

 

ผมอธิษฐานขอน้ำมนต์ในโอ่งใบนี้ใส่ขวดพลาสติกที่เขาใส่น้ำดื่มขายขวดละ 5 บาทกลับมาบ้าน ตั้งแต่เดือนเมษายน 51 จนถึงปลายปี 53 น้ำมนต์ในขวดยังใสแจ๋วไม่มีตะกอนก้นขวดแม้สักนิด

ตอนนี้ผมนำน้ำมนต์ไปขยายผสมกับน้ำมนต์วัดอื่น..ใช้ได้อีกนานนน

 

ลูกคนงานก่อสร้างตกจากชั้น2 แค่ถลอกบ้าง ไม่มาก
แขวนเม็ดแตง ปี 22 คร๊าบ

 

สุดๆเลยครับประสบการณ์แบบนี้

 

เคยเซียมซีได้เลข 1 อ่ะคับ...................................................
ขอให้แม่นดังคำพยากรณ์ด้วยเถิดคร๊าบ สาธุ
(ม่ายรุ้เป็นไร อ้างอิงแล้ว กดไม่ไป พี่แกบอกว่าข้อความสั้นเกินไป )

 

<table bgcolor="#000000" border="0" cellpadding="5" cellspacing="0" height="100%" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#000000"><td style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px" colspan="2"><dd>พระโพธิสัตว์หลวงพ่อทวด นับเป็นเรื่องแปลกแต่จริง ที่เรื่องราวตำนานของพระโพธิสัตว์พังพะกาฬ และพระโพธิสัตว์หลวงพ่อทวด ซึ่งห้วยระยะเวลาห่างกันราวสี่ร้อยปีจะมีความคล้ายคลึงกันอย่างยิ่ง ในสมัยเป็นเด็กทารกนอนเปลที่มีงูจงอางพันรอบเปลแล้วคายแก้ววิเศษให้ หลวงพ่อทวดมีนามเดิมว่าปู พ่อแม่ฐานะยากจน เมื่อคลอดทารกน้อยก็ได้นำรกไปฝังไว้โคนต้นเลียบ ต่อมาจึงได้นำบุตรชายมาฝากไว้ให้ สมภารจวง วัดดีหลวง อบรมสอนสั่งสอนจนกระทั่งได้บวชเป็นสามเณรจากนั้นสมภารจวงก็ได้นำสามเณรปูไผฝากไว้กับพระครูสัทธรรมรังสี วัดสีหยัง เพื่อเรียนมูลกิจจายน์ สามเณรปูมีความเฉลียวฉลาด จึงเรียนได้รุดหน้าจนจบหลักสูตรของสำนัก แต่ด้วยความมุ่งมั่นสามเณรปู จึงได้กราบลาพ่อแม่ครูบาอาจารย์เพื่อเดินทางมาศึกษาต่อที่สำนักพระครูกาเดิม วัดเสมาเมือง จ.นครศรีธรรมราช จนกระทั่งอายุครบบวชก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุด้วยการนำเรือมาดตะเคียนหนึ่ง ลำ เรือมาดพะยอมหนึ่งลำ เรือมาดยางหนึ่งลำ มาขนานผูกทำเป็นแพเพื่อทำญัติในคลองหน้าท่าเรือ (ปัจจุบันเรียกว่าคลองท่าแพ) เมื่ออุปสมบทแล้วได้ฉายาสามีราโมหรือเจ้าสามิราม และยังศึกษาร่ำเรียนต่อจนจบหลักสูตรจึงได้เดินทางกลับภูมิลำเนาเดิมคือเมืองสทิงพระ</dd></td></tr> <tr bgcolor="#000000"> <td style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px" colspan="2" height="25">
</td></tr> <tr bgcolor="#000000"> <td style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px" colspan="2"> <dd>
<center>พระหลวงพ่อทวดลอยองค์</center> </dd><dd>
<center>พิมพ์บัวรอบ</center></dd></td></tr> <tr bgcolor="#000000"> <td style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px" colspan="2" height="25">
</td></tr> <tr bgcolor="#000000"> <td style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px" colspan="2"> <center></center> <dd>

<center>พระหลวงพ่อทวด </center> </dd><dd>
<center>พิมพ์เตารีด</center></dd></td></tr> <tr bgcolor="#000000"> <td style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px" colspan="2" height="25">
</td></tr> <tr bgcolor="#000000"> <td style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px" colspan="2"> <center></center> <dd>
</dd><dd>ด้วยสามัญสำนึกแห่งการใฝ่รู้ใฝ่ศึกษาต่อมาเจ้าสามิราม ก็ ได้อาศัยเรือสำเภาของนายอินทร์ซึ่งจะเดินทางไปราชธานีกรุงศรีอยุธยา เพื่อศึกษาพระธรรมให้แตกฉานจนกระทั่งเรือสำเภาได้แล่นมาถึงนครศรีธรรมราช จึงจอดเทียบท่าที่คลองท่าแพ สถานที่ ๆ ซึ่งท่านได้อุปสมบท แล้วจึงเดินทางเข้าเมืองเพื่อกราบสักการะพระบรมธาตุเจดีย์ จากนั้นเรือสำเภาก็ได้ออกจากท่ามุ่งหน้าต่อไปจนกระทั่งถึง ปากน้ำชุมพร ก็ได้เกิดมรสุมพายุฝนตกหนักเรือสำเภาไม่สามารถฝ่าคลืนลมไปได้ จึงต้องลดใบทอดสมอลอยนิ่งอยู่กลางทะเลถึงเจ็ดวัน เจ็ดคืน ครั้นพอคลืนลมสงบทุกคนบนเรือก็ประสบกับความเดือดร้อนเพราะขาดน้ำจืดดื่มกิน นายอินทร์โมโหโกรธายิ่งนักเพราะไม่เคยประสบเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน จึงโทษเจ้าสามิรามว่าเป็นต้นเหตุแห่งเพทภัยแล้วให้ลูกเรือนำเจ้าสามิรามลงเรือเล็กหมายจะให้ไปส่งบนฝั่ง เมื่อเจ้าสามิรามลงมาอยู่ในเรือเล็กแล้วได้ยกมือพนมตั้งจิตอษิษฐานจากนั้นจุ่มเท้าซ้ายลงในทะเลปรากฏเป็นรัศมีเจิดจ้าวงกว้างเท่าล้อเกวียน เจ้าสามิราม จึงให้ลูกเรือวักน้ำขึ้นดื่มกินทุกคนโห่ร้องยินดีเพราะน้ำจืดสนิท จึงแจ้งให้นายอินทร์ทราบพร้อมทั้งตกน้ำไปให้ดื่ม นายอินทร์ตื่นเต้นเหลือที่จะกล่าวจึงได้กราบขอขมาแล้วนิมนต์ขึ้นเรือสำเภา มุ่งหน้าต่อไป</dd></td></tr> <tr bgcolor="#000000"> <td style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px" colspan="2" height="25">
</td></tr> <tr bgcolor="#000000"> <td style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px" colspan="2"> <dd>ครั้นเมื่อถึงราชธานีกรุงศรีอยุทธยา นายอินทร์ก็ได้พาเจ้าสามิรามไปจำพรรษาที่วัดแค หรือ ปัจจุบันคือวัดราชานุวาสซึ่งอยู่นอกเขตเมือง ในระหว่างศึกพระธรรมก็ได้มีโอกาสสร้างคุณงามความดีแก่ประเทศชาติจึงเป็นที่ โปรดปรานของพระราชายิ่งนัก จึงโปรดเกล้าให้ดำรงสมณศักดิ์ พระราชมุนีสามีรามคุณปมาจารย์ ตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งกาลเวลาล่วงเลยจนใกล้วัยชราภาพท่านจึงได้ถวายพระพร ทูลลาเพื่อกลับภูมลำเนาเดิม แต่การเดินทางกลับครั้งนี้ท่านเดินทางกลับครั้งนี้ท่านเดินทางด้วยเท้า แบกกลดสะพายย่ามจาริกุดงค์มาเรื่อยๆ มืดที่ไหนปักกลดบำเพ็ญภาวนาที่นั้น เนิ่นนานจนกระทั่งเข้าสู่เขตเมืองนครศรีธรรมราชก็ได้ปักกลดพักแรมตามสถานที่ หลายแห่ง อาทิที่ บ้านโกฏิ อำเภอปากพนัง (ปัจจุบันสถานที่นั้นสร้างเป็นศาลาหลวงพ่อทวด) และที่หัวลำภูใหญ่ อำเภอหัวไทร (ปัจจุบันเป็นวัดหัวลำภูใหญ่) แล้วในที่สุดท่านก็ได้เดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางจึงได้จำพรรษาอยู่ที่วัดพะโค๊ะ ซึ่งชาวบ้านต่างพากันขนานนามท่านว่า “สมเด็จเจ้าพะโค๊ะ” ในระหว่างปกครองวัดพะโค๊ะท่านได้บูรณะพัฒนาวัดที่กำลังชำรุดทรุดโทรมให้กลับมาเจริญรุ่งเรืองพร้อมทั้งให้ก่อสร้าง เจดีย์พระสุวรรณมาลิกเจดีย์ศรีรัตนมหาธาตุ </dd><dd>มีตำนานจากทางด้านเขาอ้อ จ.พัทลุงกล่าวขานกันว่าเมื่อคราวที่สมเด็จเจ้าพะโค๊ะ จัดให้มีงานเฉลิมฉลองพระเจดีย์ศรีรัตนมหาธาตุ สมเด็จเจ้านอโม เจ้าสำนักวัดเขาอ้อซึ่งเป็นสหายธรรมได้นำพุทธบริษัทลงเรือแล่นสู่วัดพะโค๊ะเพื่อร่วมเฉลิมฉลอง ครั้งเมื่อถึงฝั่งสมเด็จเจ้านอโม ก็แสดงปาฏิหาริย์เนรมิตให้เรือแล่นบนบกจนถึงยอดเขาวัดพะโค๊ะเป็นที่อัศจรรย์ </dd><dd>นอกจากนี้ยังเล่าขานกันว่าทั้งสมเด็จเจ้าพะโค๊ะ และสมเด็จเจ้านอโม ได้แลกเปลี่ยนประลองวิชากันอยู่เสมอดังเช่นสมเด็จเจ้าพะโค๊ะ ฝากแตงโมให้ลูกศิษย์นำไปถวายสมเด็จเจ้านอโม ปรากฏว่าลูกศิษย์สำนักวัดเขาอ้อใช้มีดผ่าอย่างไรก็ไม่เข้าสมเด็จเจ้านอโม จึง ใช้มือ ลูบๆ คลำๆ อยู่ครู่เดียวก็ใช้ฝ่ามือแทนมีดปรากฏว่าผ่าแตงโมได้อย่างง่ายคาย สมเด็จเจ้านอโมจึงแก้ลำฝากขนมข้าวเหนียวดำเป็นแท่งสี่เหลี่ยม ให้ลูกศิษย์นำไปถวายสมเด็จเจ้าพะโค๊ะ ก็เกิดเหตุการณ์ณ์เช่นเดียวกันคือใช้มีดผ่าอย่างไรก็ไม่เข้าแต่สมเด็จเจ้าพะโค๊ะ ใช้มือลูบไปลูบมาแล้วใช้ฝ่ามือผ่าเบาๆ ก็ขาดเป็นสองท่อน</dd></td></tr> <tr bgcolor="#000000"> <td style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px" colspan="2" height="25">
</td></tr> <tr bgcolor="#000000"> <td style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px" colspan="2"> <dd>ยังมีสามเณรผู้เคร่งพระวินัยรูปหนึ่ง ได้ตั้งอธิษฐานว่าก่อนชีวิตนี้จะสิ้นขอให้ได้เฝ้าเบื้อพระพักตร์ของพระศรีอา ริย์โพธิสัตว์ คืนหนึ่งมีชายชรามาหาแล้วประเคนดอกไม้ให้ดอกหนึ่งแล้วกล่าวว่า “นี่คือดอกมณฑาทิพย์จากสรวงสวรรค์” สามเณรจงตามหาเถิด ถ้าพระภิกษุรูปใดรู้จักดอกมณฑาทิพย์นี้นั่นก็คือพระโพธิสัตว์จุติมาเกิด กล่าวจบชายชราผู้นั้นก็หายตัวไปสามเณรจึงรู้ว่าชายชราผู้นี้แท้จริงก็คือ เทวดานั้นเอง สามเณรรอนแรมตามหาพระโพธิสัตว์ด้วยศรัทธาอันเปี่ยมล้นแต่ก็ต้องผิดหวังเพราะ หามีพระภิกษุรูปใดรู้จักดอกมณฑาทิพย์นี้ จนกระทั่งในคืนหนึ่งสามเณรได้เดินทางมาถึงวัดพะโค๊ะ ขณะที่พระภิกษุกำลังทำสังฆกรรมในโบสถ์ จึงได้สอบถามว่าพระภิกษุทั้งหมดมีเท่านี้หรือ ก็ได้รับคำตอบว่ายังมีพระสมเด็จชราอีกรูปหนึ่งอยู่ในกุฏิ สามเณรไม่รอช้ามุ่งหน้าไปที่กฏิดังกล่าวทันที เมื่อสมเด็จเจ้าพะโค๊ะเห็น ดอกไม้ในมือ สามเณรจึงเอ่ยขึ้นว่านั่นคือดอกมณฑาทิพย์จากสรวงสวรรค์ สามเณรขนลูซู่แน่ใจเต็มเปี่ยมว่า พระภิกษุชราเบื้องหน้าก็คือพระโพธิสัตว์ที่ตามหาจึงก้มกายลงกราบด้วยความปิ ติยินดี ในคืนนั้นเองชาวบ้านและพระภิกษุได้เห็นปรากฏอัศจรรย์บนท้องฟ้า เพราะมีดวงไฟกลมโตเท่าสัมเกลี้ยงสองดวงลอยวนทักษิณาวัตรสามรอบแล้วลอยหายลับ ไปทางทิศอาคเนย์ทั้งพระภิกษุและชาวบ้านได้พากันมาที่กุฏิ สมเด็จเจ้าพะโค๊ะแต่ท่านก็ไม่อยู่เสียแล้ว จึงลงความเห็นกันว่าทั้งสมเด็จเจ้าพะโค๊ะ และสามเณร ปรากฏเป็นดวงไปจากไปเสียแล้ว </dd><dd>ต่อมาได้มีพระภิกษุชราปรากฏกายขึ้นที่เมืองไทรบุรี (ปัจจุบันคือรัฐเคดาห์ประเทศมาเลเซีย) พระภิกษุรูปนี้ปราชญ์เปรื่องในทางธรรมและมากด้วยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ จึงเป็นที่เคารพนับถือของคนละแวกนั้นจึงขนานนามท่านว่า “ท่านลังกา” พร้อมทั้งนิมนต์ให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิเจติยาราม ตามตำนานได้กล่าวไว้ว่านอกจากนี้ ในเวลานั้นท่านก็ยังได้เป็นเจ้าอาวาสวัดช้างให้อีก แห่งหนึ่ง จึงเดินทาง ไปๆ มาๆ ทั้งสองวัดซึ่งอยู่ห่างใกล้กันมาก สัญนิษฐานว่าท่านคงเดินทางด้วยเวทมนตร์ย่นระยะทางอยู่มาวันหนึ่งท่านลังกา ได้กล่าวกับศิษย์ทั้งหลายว่าเมื่อท่านมรณภาพแล้วก็ขอให้นำสังขารของท่านไป ฌาปนกิจที่วัดช้างให้ด้วย หลังจากนั้นอีกไม่นานท่านก็ได้ละสังขารที่ วัดโพธิเจติยาราม เมืองไทรบุรี คณะศิษย์จึงได้นำสังขารของท่านมาฌาปนกิจที่วัดช้างให้ ตามเจตนาของท่านไม่ว่าจะ เป็นสมเด็จ เจ้าพะโค๊ะ ท่านลังกาดำ ท่าช้างให้ นามเหล่านี้ก็คือ หลวงพ่อทวดอมตะเถระผู้สร้างปาฏิหาริยิ์ย์เหยียบน้ำทะเลจืดจนเกิด ตำนานเล่าขานกันมาจนบัดนี้ </dd><dd>

<center>พระหลวงพ่อทวด ขนาดบูชาหน้าตัก 9 นิ้ว, 5 นิ้ว</center></dd></td></tr> <tr bgcolor="#000000"> <td style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px" colspan="2" height="25">
</td></tr> <tr bgcolor="#000000"> <td style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px" colspan="2"> <center></center> <dd>วัตถุมงคลทรงคุณค่า “รุ่น 9 รอบ 9 พิธี 108 ปี ท่านขุนพันธ์” (หลักเมืองรุ่นพิเศษ) ได้จัดสร้างองค์ พระโพธิ์สัตว์หลวงพ่อทวด ขึ้นหลายพิมพ์ อาทิพิมพ์กลมสุริยันจันทราที่ สร้างสรรค์แบบพิมพ์ได้อย่างประณีตสวยงามยิ่งนักทุกสรรพสิ่งปรากฏความหมาย เกี่ยวกับ องค์ท่านครบถ้วน จัดสร้างเป็นเนื้อผงขนาด 5 ซ.ม. และเหรียญ ขนาด 3.2 ซ.ม. ผสมผสานมวลสารย้อนตำนานหลวงพ่อทวด ทุกแห่งที่กล่าวถึงในข้อความที่ผ่านมา นอกจากพิมพ์ทรงกลมที่สวยงานเลิศล้ำยิ่งได้สร้างพิมพ์เตารีด ทั้งเนื้อผงยาวาสนามหาจินดามณี เนื้อผงดินว่านมวลสารย้อนตำนาน และเนื้อโลหะรูปเหมือนลอยองค์ บัวรอบ รูปเหมือนขนาดบูชา 9 นิ้ว และ 5 นิ้ว ทั้งเนิ้อสัมฤทธิ์ ซึ่งจะประกอบพิธีเททองนำฤกษ์ ณ วันหน้าพระบรมธาตุ ทั้งหมดครบทุกองค์ในพิธี และเนื้อทองเหลืองรมดำมันปู </dd><dd>ดังที่กล่าวมาแล้วนี้ย่อมเป็นหลักยืนยันได้ว่าวัตถุมงคลรุ่น “9รวม 9 พิธี 108 ปี ท่านพันธ์” (หลักเมืองรุ่นพิเศษ) เป็นวัตถุมงคล ทรงคุณค่ายิ่งบรรลุถึงคำว่า “สุดยอดแห่งวัตถุมงคล” อันควรค่าแก่การบูชาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว โดย เฉพาะอย่างยิ่งเป็นวัตถุมงคลหลวงพ่อทวดรุ่นแรก ที่ไดประกอบพิธพุทธภิเษกในศาลหลักเมือง นครศรีธรรมราช</dd></td></tr></tbody></table>

พุทธคุณในวัตถุมงคลของท่านเด่นทาง เมตตามหานิยม

<center></center>​

<table id="table1" border="0" width="100%"> <tbody> <tr> <td align="center" valign="bottom">

</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อชิน หลวงปู่ทวดพระพิมพ์หลังเตารีด ปี 2505 พิมพ์เล็ก</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อชิน หลวงปู่ทวดพระพิมพ์หลังเตารีด ปี 2505 พิมพ์ใหญ่ A</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อชิน หลวงปู่ทวดพระพิมพ์หลังเตารีด ปี 2505 พิมพ์ใหญ่ B</td></tr> <tr> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อชิน หลวงปู่ทวดพระพิมพ์หลังเตารีด ปี 2505 พิมพ์ใหญ่ C</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อชิน หลวงปู่ทวดพระพิมพ์หลังเตารีด ปี 2505 พิมพ์ใหญ่ เนื้อเมฆพัตร</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อชิน หลวงปู่ทวดพระพิมพ์หลังเตารีด ปี 2505 พิมพ์ใหญ่ ปั้มซ้ำ</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อชิน หลวงปู่ทวดพระพิมพ์หลังเตารีด ปี 2505 พิมพ์กลาง ไม่ปั้มซ้ำ</td></tr> <tr> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อชิน หลวงปู่ทวดพระพิมพ์หลังเตารีด ปี 2505 พิมพ์กลาง ปั้มซ้ำ</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อผง หลวงปู่ทวดพระเนื้อว่าน ปี2497 พิมพ์ใหญ่แจกกรรมการ</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อผง หลวงปู่ทวดพระเนื้อว่าน ปี2497 พิมพ์ใหญ่ไหล่จุด C</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อผง หลวงปู่ทวดพระเนื้อว่าน ปี2497 พิมพ์ใหญ่พิมพ์พระรอด</td></tr> <tr> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อผง หลวงปู่ทวดพระเนื้อว่าน ปี2497 พิมพ์ใหญ่พิมพ์พระรอดแจกกรรมการ</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อผง หลวงปู่ทวดพระเนื้อว่าน ปี2497 พิมพ์ใหญ่พิมพ์ลึก B</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อผง หลวงปู่ทวดพระเนื้อว่าน ปี2497 พิมพ์ใหญ่หัวมีขีด A</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อผง หลวงปู่ทวดพระเนื้อว่าน ปี2497 พิมพ์กลางมีลูกตา</td></tr> <tr> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อผง หลวงปู่ทวดพระเนื้อว่าน ปี2497 พิมพ์ต้อใหญ่</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อผง หลวงปู่ทวดพระเนื้อว่าน ปี2497 พิมพ์สี่เหลี่ยมหลังสทูป</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อผง หลวงปู่ทวดรูปเหมือนเนื้อว่าน รุ่นลอยน้ำ</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อผง หลวงปู่ทวดหลังหนังสือพิมพ์เล็ก ปี 2505</td></tr> <tr> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อชิน หลวงปู่ทวดหลังหนังสือพิมพ์เล็ก ปี 2505 มี ท.</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อชิน หลวงปู่ทวดหลังหนังสือพิมพ์เล็ก ปี 2505 ว.จุด</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อชิน หลวงปู่ทวดหลังหนังสือพิมพ์ใหญ่ ปี 2505 กะไหล่ทอง</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อชิน หลวงปู่ทวดหลังหนังสือพิมพ์ใหญ่ ปี 2505 บล็อคเสาอากาศ</td></tr> <tr> <td align="center" valign="bottom">

พระเนื้อชิน หลวงปู่ทวดหลังหนังสือพิมพ์ใหญ่ ปี 2505 บล็อคดวงเดือน</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเหรียญ หลวงปู่ทวดเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ ปี 08 ทองแดง</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเหรียญ หลวงปู่ทวดเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ ปี 08 อัลปาก้า</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเหรียญ หลวงปู่ทวดเหรียญเสมารุ่น 3 พิมพ์นิยม</td></tr> <tr> <td align="center" valign="bottom">

พระเหรียญ หลวงปู่ทวดเหรียญขี่คอใหญ่ เปียกทอง</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเหรียญ หลวงปู่ทวดเหรียญขี่คอปี 2511</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเหรียญ หลวงปู่ทวดเหรียญน้ำเต้า</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเหรียญ หลวงปู่ทวดเหรียญรุ่น 2 พุทช้อย</td></tr> <tr> <td align="center" valign="bottom">

พระเหรียญ หลวงปู่ทวดเหรียญรุ่น 3 เงินลงยา</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเหรียญ หลวงปู่ทวดเหรียญรุ่นแรกกะไหล่เงิน</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเหรียญ หลวงปู่ทวดเหรียญรูปไข่ รุ่ 3</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเหรียญ หลวงปู่ทวดเหรียญรูปไข่ รุ่น 4</td></tr> <tr> <td align="center" valign="bottom">

พระเหรียญ หลวงปู่ทวดเหรียญห้าเหลี่ยม แจกปีนัง ปี 08</td> <td align="center" valign="bottom">

พระเหรียญหล่อ หลวงปู่ทวดเหรียญสามเหลี่ยมหนังสือ 5 แถว</td> <td align="center" valign="bottom">

พระรูปหล่อ หลวงปู่ทวดรูปเหมือนเลขใต้ฐานปี 2505</td> <td align="center" valign="bottom">

พระรูปหล่อ หลวงปู่ทวดรูปเหมือนขนาบูชา ปี 2502</td></tr> <tr> <td align="center" valign="bottom">

พระรูปหล่อ หลวงปู่ทวดรูปเหมือนบัวรอบ ปี 2508</td></tr></tbody></table>​

 

หลวงปู่ทวดรุ่นปาฏิหาริย์วัดห้วยมงคล

รุ่นนี้ สร้างปลายปี 2549 หลวง ปู่ทวด รุ่นปาฏิหาริย์ วัดห้วยมงคล ต้องลำดับ 35 และสักหลาดสีตองอ่อน เป็นสีที่ทางวัดส่งมาวางตามไปรษณีย์ครั้งแรกๆ ด้านหลังเป็นจตุคามถือถุงเงิน เดิมๆจากวัด คัดมาจากบุรุษไปรษณีย์ ตอนที่พิมพ์ลำดับ 35 มีประสบการณ์ใหม่ๆ มวลสารหนาแน่นโดยเฉพาะผงตะเคียน กลิ่นว่านหอมเฉพาะรุ่น พิมพ์นี้นิยมที่สุด ราคาที่วัดห้วยมงคล ณ เดือนพฤษภาคม 2551 อยู่ที่ องค์ละ 2,999 บาท รุ่นปาฏิหาริย์นี้ ถือเป็นรุ่นเปิดตัวของวัดห้วยมงคลมีปาฏิหาริย์มากมาย ทำให้ผู้คนรู้จักวัดนี้กันทั่วประเทศ ทางวัดได้สร้างรุ่นก่อนหน้านี้แต่ก็ไม่ดังเป็นที่นิยม และรุ่นปีต่อๆ มาก็เป็นรุ่นถวายพ่อหลวง และรุ่นเทวา-ปาฏิหาริย์​

​

​

​

​

โค๊ตหรือจุดเด่นขยายดูเนื้อด้านหน้า................................................................ขยายดูเนื้อด้านหลัง​

​

หลวงปู่ทวด-จตุคามรามเทพถือถุงเงิน ขนาด 5.5 ซ.ม. เนื้อผงตะเคียน​

 

เห็นบอกว่าอยู่ที่ประเทศสวีเดน (Sweden) เดี๋ยวจะลองถามเพื่อนที่สวีเดนดูค่ะ

 

World record-sized Bronze Buddhist Monk Dominates Thai landscape

The largest bronze statue in the world (not depicting God or Guanyin) is under construction near Ayutthaya, the ancient capital of Siam. The statue represents Luang Pu Tuad, a Buddhist monk revered by Thais for 400 years.


Visible beneath a dramatically intricate scaffolding of bamboo poles, the statue, 32 metres high by 24 metres wide, has yet to be bronzed, yet it already presents an amazing spectacle, towering over the surrounding plains.
The project was started in 2008 and when completed it will be the awesome centre-piece of a vast and beautifully landscaped Buddha Park. The director of the project has declined to offer a completion date, saying only that work will continue ‘until my last breath’. This suggests several more years.
Luang Pu Tuad was renowned for various miracles including dipping his leg into sea water to create sweet drinking water which saved the crew of a stranded ship after they had kidnapped him.
The image of Luang Pu Tuad is very popular across Thailand where it appears on amulets which are considered to be extremely lucky.
Bangkok, Thailand, 02/04/2011




Construction is underway of an enormous bronze statue of the Thai Buddhist monk, Luang Pu Thuad, near Ayutthaya in Thailand. The statue will be the centre-piece of a vast and beautifully landscaped Buddha Park.


Close up of the head of an enormous bronze statue of the Thai Buddhist monk, Luang Pu Thuad, currently under construction near Ayutthaya in Thailand. The statue will be the centre-piece of a vast and beautifully landscaped Buddha Park.


Looming above a nearby lake, the enormous bronze statue of Thai Buddhist monk, Luang Pu Thuad, which is presently under construction near Ayutthaya, will be the centre-piece of a vast and beautifully landscaped Buddha Park.


Rear view of the enormous bronze statue of Thai Buddhist monk, Luang Pu Thuad, presently under construction near Ayutthaya in Thailand. When completed, the statue wilbe the centre-piece of a vast and beautifully landscaped Buddha Park.

 

บารมีพระโพธิสัตว์แผ่ไผศาลกว้างไกล อย่างนี้คงไม่ต้องสงสัยถึงความศรัทธามั่นคงของผู้สร้างที่มีต่อองค์หลวงพ่อทวดแล้วละครับ

คุณเอมี่เก่งมากครับ แต่ถ้าแปลบันทึกโลกในกระทู้บนให้ด้วยก็จะเก่งยิ่งขึ้นไปอีก

 

​

​

​

​

สวัสดี ขอรับ เข้ามาเก็บข้อมูล และทักทายยามเช้า วันหยุดราชการกับทุกท่าน ครับผม ​

 

หลวงปู่ทวดที่คลองสิบสอง