อย่างนี้ผิดศิลข้อ 3 ด้วยหรือเปล่า (ของคนรักเพศเดียวกัน)

ชายรักชาย หรือหญิงรักหญิง หรือรักชอบเพศเดียวกัน ที่มีความสัมพันธ์กันไปทั่ว ถึงขั้นลึกซึ้งกัน โดยเปลี่ยนคู่กันว่าเล่น อย่างนี้จะมีกรรมอะไรบ้าง ผิดศีลข้อ3 ป่าว และบางคู่ที่รักกันจริง ๆ มีกันคู่เดียว จะได้รับกรรมใดบ้าง และมีบางประเภทที่แอบรักกัน อยู่กินกันฉันสามีภรรยากัน (โดยที่ทั้งูค่ยังโสดอยู่) แต่ไม่ได้บอกกับพ่อแม่ของกันและกัน จะผิดศิลข้อ 3 ไหม จะได้รับกรรมอย่างไร เพราะเห็นหลายคู่เขาอยู่กันมานาน เหมือนเป็นเนื้อคู่กัน
แล้วจริงหรือเปล่าครับที่ว่าคนรักเพศเดียวกันจะมีเนื้อคู่เป็นเพศเดียวกันด้วย มันมีด้วยเหรอ แล้วกรรมอะไรที่ทำให้ในเมื่อเป็นพวกรักเพศเดียวกันแล้วมีสมหวังในความรักกับเพศเดียวกัน

 

รอฟังคำตอบอยู่นะครับ
เป็นเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังตกอยู่ในสภาพเช่นเดียวกันกับคำถามนี้

 

[FONT=&quot]ก็ จะขอตอบอย่างนี้ว่า บรรดาการที่ได้กำเนิดเป็นมนุษย์แต่ต้องบกพร่องไปด้วยเรื่องเพศ ก็เพราะทำเหตุอันเกี่ยวกับเรื่องเพศไว้นั่นแหละ

[/FONT][FONT=&quot]ท่าน แสดงไว้ว่า..บุคคลใดที่ล่วงกาเมสุมิจฉาจาร คือ ประพฤติผิดศีลข้อที่สามนี้นั้น บาปนี้เป็นอกุศลกรรมบถที่สามารถนำเกิดในอบายได้ ดังนั้นจึงมีสัตว์โลกมากมายที่ต้องตกนรกไปเสวยผลแห่งความทุกข์แสนสาหัสในนรก มากมายด้วยเรื่องอย่างนี้ (แม้แต่พระอานนท์ในอดีตชาติก็เป็นมาแล้ว) เมื่อพ้นจากนรกแล้ว ก็ยังต้องท่องเที่ยวเกิดในอบายสัตว์อื่นๆเป็นเวลาช้านาน

[/FONT][FONT=&quot]ก็คราวใดคราวหนึ่ง ผลแห่งบุญที่ตนเคยได้ทำไว้แต่หนหลังมีอำนาจนำเกิดได้ เขาย่อมได้เกิดมาเป็นมนุษย์นั่นเทียว [/FONT]

[FONT=&quot]ก็ เพราะเศษแห่งบาปนั้นยังทรงอำนาจอยู่ ดังนั้น เขาย่อมได้กำเนิดมาเป็นหญิงไม่สมรัก ถูกทอดทิ้ง ถูกข่มขืน ถูกเบียดเบียนในเรื่องเพศมากมาย ตามที่เราสามารถเห็นผลของคนอื่นที่กำลังเสวยผลของตนตามนี้อยู่
[FONT=&quot]ครั้น ต่อมาเศษบาปนี้ก็อ่อนกำลังลง ครั้นได้เกิดเป็นมนุษย์ด้วยกรรมดีอื่นๆนั่นแหละ เศษบาปนี้ ก็ยังตามเบียดเบียนให้เกิดเป็นทอมเป็นดี้ เป็นตุ๊ด เป็นเกย์นั่นแหละ
[/FONT]

[FONT=&quot][/FONT]
[FONT=&quot]พวกเขาย่อมเป็นทุกข์ เศร้าโศก ขมขื่นเพราะความไม่เหมือนปกติเยี่ยงคนอื่น ๆในสังคมนั่นแหละ
[/FONT]

[FONT=&quot][/FONT]
[FONT=&quot]แต่ เพราะอำนาจแห่งกามราคานุสัย พวกเขาก็ยังท่องเที่ยวไป เพลิดเพลินในกิเลสอันผิดปกตินั้น จนกลายเป็นความชำนาญไปเสียอีก..... นี่เป็นการสืบต่อกรรมใหม่ที่จะต้องส่งผลอีกต่อไปเบื้องหน้า แทบหาวันจบสิ้นได้ยากเต็มที
[/FONT]

[FONT=&quot][/FONT]
[FONT=&quot]การได้เกิดมาแล้วเป็นผู้ผิดเพศ เป็น"ผล"แห่งกรรมไม่ดีที่เข้าเบียดเบียน... [/FONT]
[FONT=&quot]หาก แต่การประพฤติผิดไปเรื่อยๆ ก็เป็น"บาปใหม่"ที่จิตใจเสพคุ้นความพออกพอใจในความผิดปกตินั้นต่อเนื่องไป อีก ตัณหาย่อมสร้างภพชาติของตน ตามจิตที่แสนจะวิจิตรเช่นนั้น...ไม่สิ้นสุดเลย [/FONT]
[FONT=&quot]ดังนั้น ท่านจขกทคงแยกได้ว่า อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นผล...และเหตุอะไรใหม่อีกที่ทำให้เป็นผลเกิดขึ้นต่อๆไปในเบื้องหน้า..[/FONT]

[FONT=&quot][/FONT]
[FONT=&quot]ส่วนเรื่องผิดศีลนั้น เป็นเรื่องที่เอื้อในกรณีผู้มีปรกติทางเพศเท่านั้น ส่วนที่ผิดปกติเรื่องเพศ อย่าว่าถึงศีลเลย แม้ทางโลกก็ไม่ชื่นชม...มีแต่ติเตียนกันทั้งนั้น หรือที่เีรียกว่า"โลกวัชชะ"[/FONT] คือธรรมอันชาวโลกติเตียนอยู่..


[/FONT]

 

1.มั่วเซ็กส์ไปเรื่อย ชาย+ชาย หญิง+หญิง ผิดหมด หมาขึ้เรื้อนไร้เจ้าของกินเศษขี้เยี่ยวคืออนาคตของคุณ
2.ชาย+ชาย หญิง+หญิง ครองรักกันคู่กันแค่คนเดียว ผิด แต่แค่คุณไม่สามารถบรรลุธรรมได้ในชาตินี้แค่นั้นเอง อนาคตก็ไปตามกรรม อาจจะเกิดเป็นเพศที่ตนปรารถนา
3.ชาย+ชาย หญิง+หญิง แอบอยู่ด้วยกันโดยไม่เปิดเผย ผิด คุณจะไม่สามารถบรรลุรรมได้ในชาตินี้ และจะเป็นคนที่คนทั่วไปไม่ไว้วางใจ(ชาตนี้เลย)

 

มันต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกันล่ะ บางคนถึงมั่ว บางคนไม่มั่ว บางคนมีคนเดียว บางคนไม่มีใคร
เลือกไม่ได้เหรอ หรือว่าหยุดใจไว้ไม่อยู่ หรือเพราะแรงกรรม โอ๊ยปวดหัว แล้วจะคิดทำไมเนี่ย เป็นไรก็ช่างแม่งเหอะ เซ็งแล้ว
ปล.อย่าบอกพ่อแม่เลย เดี๋ยวโดนฆ่าตาย จะหาว่าไม่เตือน

 

คุณ นายดอกบัว ครับ ไม่ทราบว่าที่โพสนั่นเรียกว่า "แสดงความคิดเห็น" หรือว่า "แช่ง" กันแน่

ก็ให้มันรู้ไปว่าคนที่ครองคู่กันแบบเกย์หรือเลสเบี้ยนจะ "ไม่สามารถบรรลุธรรมได้ในชาตินี้" อย่างที่คุณว่า

คนที่เขามั่วเซกซ์มันก็เป็นเรื่องส่วนตัวเขานี่ครับ หากมันผิดสักวันเขาก็ได้รับกรรมของเขาเอง อาจจะติดโรค หรือ ไร้คนจริงใจ สุขภาพย่ำแย่ ก็ว่าไป ตามเนื้อผ้า ตามกรรมที่ทำมา

แต่ประโยคนี้ที่คุณพูดว่า "หมาขึ้เรื้อนไร้เจ้าของกินเศษขี้เยี่ยวคืออนาคตของคุณ" นี่สื่อให้เห็นถึงภูมิปัญญาอันน้อยนิดและความต่ำมากๆ ผมว่าคุณน่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น "นายดอกบัวใต้น้ำ" ยังจะเข้ากว่านะ ขอบคุณครับ

 

ตอบคำถามเจ้าของกระทู้นะครับ ผมคิดว่าการที่คบกันแบบเกย์หรือเลสเบี้ยน ทอม-ดี้ นั้นไม่ผิดศีลครับ ตราบใดที่ทำให้ถูกต้อง คือไม่แย่งคนมีเจ้าของอยู่แล้วมา และให้ผู้ใหญ่รับรู้และยินยอมทั้งสองฝ่าย เพราะศีลข้อ 3 นั้นจะผิดก็ต่อเมื่อเราไปแย่งของรักของหวงของคนอื่นครับ ท่านใช้คำว่าบุคคลผู้มีเจ้าของ หรือผู้ปกครองอยู่

ผมเชื่อว่าตัวกรรมจริงๆที่เพศแบบนี้ต้องรับคือความไม่สบายใจที่จะต้องบอกกล่าวกับสาธารณะ ความอับอาย และการไม่ได้รับเกียรติและการยอมรับจากสังคมเท่าคู่ชายหญิง คิดว่านี่เป็นกรรมหรือเศษกรรมที่ติดมาจากการผิดศีลข้อ 3 ในอดีตมาก่อน

ดังนั้นหากคุณเกิดเป็นเพศนี้แล้วมีคนที่คิดว่าใช่ อยากร่วมชีวิตด้วย สิ่งที่ควรทำคือขออนุญาตพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายให้คบเป็นเรื่องเป็นราว อย่างนี้จะไม่ผิดศีล คืออาจจะต้องทนกับการด่าทอ ตบตี เสียใจของพ่อแม่ แต่ถ้าคิดว่าท่านจะรับได้ก็บอกก็ขอเถอะครับ แต่ถ้าคิดว่าบอกไปแล้วเป็นผลร้ายมากกว่าผลดีก็อย่าบอก แต่นั่นหมายความว่าการคบกันของคุณด่างพร้อยในศีล5 ครับ

 

ชอบคำตอบของคุณ PrinceCharming จัง

 

บุคคลที่ไม่สามารถบรรลุธรรมได้ในชาตินี้ พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสให้พระอานนท์ทราบเมื่อครั้งพระเจ้าอชาตศัตรูได้กระทำปิตุฆาตพระบิดา คือ พระเจ้าพิมพิสาร พระพุทธองค์จึงทรงตรัสแสดงเรื่อง "อนันตริยกรรม ๕ " คือ กรรมหนักอันปิดกั้นมรรคผลนิพพานในชาติปัจจุบัน มี ๕ ประการ คือ
๑. ปิตุฆาต (การฆ่าบิดา)
๒. มาตุฆาต (การฆ่ามารดา)
๓. อรหัตฆาต (การฆ่าพระอรหันต์)
๔. โลหิตุปบาท (การทำให้พระพุทธเจ้าห้อพระโลหิต)
๕. สังฆเภท (การทำสงฆ์ให้แตกแยก)
กรรมทั้ง ๕ นี้เป็นกรรมหนัก สามารถปิดกั้นมรรคผลนิพพาน แม้ภายหลังพระเจ้าอชาตศัตรูจะมีคุณูปการกับพระพุทธศาสนาอย่างมหาศาล แม้จะได้สดับพระธรรมเทศนาจากพระพุทธเจ้า พระองค์ก็ได้เพียงไตรสรณคมณ์ ไม่ได้สำเร็จอริยะมรรคอริยะผลขั้นใดใด เพราะจะต้องไปเสวยผลกรรมในนรกภูมิอีกตราบนานเท่านาน......

 

สำหรับเรื่องเนื้อคู่นั้นพระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่าเกิดได้จากสองกรณี้นี้

1. เคยทำบุญร่วมกัน หรือครองคู่กันมาแต่อดีตชาติ
2. เกิดจากการเกื้อกูลกันในปัจจุบัน

หากใครมีคู่ตามข้อ 1 แสดงว่าชาติที่แล้วรักกันมั่นคงมาก ชวนกันทำบุญก็ทำคล้ายๆกัน หรืออาจอธิษฐานตามกันมาจนได้เจอกันอีกในชาตินี้ เนื้อคู่ประเภทนี้มักจะไม่ค่อยปรากฏในกลุ่มเพศที่สาม เนื่องจากผู้ที่เป็นเพศที่สามนั้นเป็นกรรมจากอดีตที่แสดงให้เห็นในชาตินี้ว่าเราเคยพร่องในศีลข้อ3 มาก่อน ดังนั้นชาวเพศที่สามจึงมักไม่มีคู่ที่รักกันมากๆ มั่นคงจริงใจ ขนาดอธิษฐานตามกันมาอีก

ดังนั้นเกย์ตุ๊ดกะเทยทอมดี้เลสเบี้ยนและไบเซกชวลทั้งหลายที่ค่อนข้างแน่ใจแล้วว่าไม่มีเนื้อคู่ประเภทที่ 1 แน่ๆ ควรจะทำการเกื้อกูลในปัจจุบันกับคนทั่วๆไป มีพรหมวิหาร 4 และสังคหวัตถุ 4 ประจำใจให้มาก และรู้จักมองโลกในแง่ดี จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ได้เจอเนื้อคู่ที่มาจากการเกื้อกูลกันในปัจจุบัน หากลองคิดดูตามความเป็นจริงก็จะเห็นว่าไม่มีใครชอบคนที่ไร้น้ำใจ เย่อหยิ่งจองหอง อวดดีอวดเก่ง ไม่รู้จักแบ่งปัน ปากคอเราะร้าย อิจฉาริษยา และมองโลกในแง่ร้ายหรอก จริงไหม

^_______________________________^

 

ทุกอย่างสําเร็จด้วยใจ มีใจเป็นใหญ่ ไม่มีใคร หรือสิ่งใดต้องได้รับผลจากการกระทําของเราก็พอเเล้วล่ะเจ้าค่ะ
เเต่ถ้าผลของกรรมนั้นๆ สร้างความหม่นหมองใจ ให้ใคร เช่น พ่อ เเม่ ก็ต้องว่ากันไปตามกัาลังของการกระทํา ศีล กับกรรม เป้นคนล่ะเรื่องกัน ไม่ผิดศีล ไม่ได้เเปลว่าจะไม่บาป

 

เห็นด้วย

 

เราไม่ได้เข้าข้างเพศที่ 3 หรอกนะ !!!

แต่ว่าจะเป็นอะไร? หรือจะทำอะไร? ถ้าไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำความเดือดร้อนให้กับผู้คนรอบข้างหรือคนในสังคมแล้วล่ะก็ .............. ทำไปเถอะ !!!!

ถ้าเรามีเจตนาดี มีจิตใจบริสุทธิ์ ทุกอย่างก็จะดีตาม

ถ้าเรามัวแต่คิดว่าในอดีตเรามีกรรมหนัก ทำกรรมมาเยอะ ผิดศีลข้อ 3 มามากมาย
คิดแต่อดีตหรือมัวแต่คิดถึงชาติที่แล้ว ขอถามหน่อย? แล้วคุณกลับไปแก้ไขในอดีตชาติได้ไหม??

สู้เอาเวลาที่มีอยู่ในปัจจุบันชาติไปสร้างความดีให้กับสังคมและบุคคลรอบข้างดีกว่า
มีเจตนาที่ดีในการสร้างคุณงามความดี กตัญญูกตเวทีกับบิดามารดา ช่วยเหลือพระพุทธศาสนาตามกำลังศรัทธา ช่วยเหลือสังคมในเรื่องต่างๆตามความสามารถ และอีกหลากหลายความดีที่คุณจะกระทำได้ เพียงเท่านี้สิ่งดีๆ ก็จะกลับมาหาคุณ และคุณก็ยังมีคุณค่ามากกว่าชายจริงหญิงแท้บางคนในสังคมซะอีก ........

ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าเราทำสิ่งดีๆ สิ่งดีๆก็จะกลับมาหาเรา
นั่นเพราะเราทำกรรมดี ไม่ทำกรรมชั่วนั่นเอง

 

ถ้าคุณไม่สมาทานศีล คุณก็ไม่ผิดศีล ข้อใดๆ

แต่ทุกการกระทำย่อมเกิด กรรม จะดี จะชั่ว อยู่ที่ผู้กระทำ และผู้ถูกกระทำ

ชอบแบบไหนก็ทำไปเถอะครับ รสนิยมของเรา ใจเป็นไปแบบนั้นแล้วนี่ พวกปากหอยปากปู ก็ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นเป็นปกติอยู่แล้วทั่วโลก
หญิงกับชาย ชายกับชาย หญิงกับหญิง มันก็คือการเสพกามเหมือนๆกัน อารมย์กามๆเหมือนกัน

 

เอามาจากใหน....ผมว่าไม่ถูกต้องนะ.

 

มองอีกมุมหนึ่ง ดีที่รู้จักกลัวบาปกลัวกรรมกันก่อนกระทำสิ่งใดลงไปบ้าง มาตรฐาณบาปพิจารณาง่ายๆ ผิด ละเมิดศีลหรือไม่ จะบาปหนักแน่ถ้าครบทั้งความคิด การพูด และการกระทำสำเร็จตามที่คิด

 

คำว่ามั่วเซ็กไปเรื่อยนี้ ผมว่าไม่ว่าจะเป็นเพศไหนชายหรือหญิงหรือเพศที่สาม (เกย์,กะเทย,)สุดแท้แต่สมมุติโลกจะเรียกกัน น่าจะเป็นสิ่งที่ผิดบาปโดยเท่าเทียมกันโดยไม่มีข้อแม้หรือยกเว้นต่อผู้ใดนะครับ ส่วนอนาคตจะเป็นอะไรนั้นก็น่าจะขึ้นอยู่กับวิบากกรรมของแต่ละคนที่ทำไว้นะครับ
ในธรรมวินัยคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่เห็นตรัสบอกไว้เลยว่า ชายรักชายหรือหญิงรักหญิงไม่สามารถบรรลุธรรมได้(หรือผมอ่านไม่เจอก็ขออภัยด้วยนะครับ)แต่ห้ามบัณเฑาะว์เพศบวชเป็นภิกษุนั้นเคยอ่านเจออยู่ครับ (การบรรลุธรรมนั้นบรรลุที่ไหน? บรรลุที่สังขารร่างกายหรือ?บรรลุที่ทรัพย์สินเงินทองหรือ?บรรลุที่ยศถาบรรดาศักดิ์?บรรลุที่บุตรธิดาภรรยาสามีหรือบรรลุที่ลมฟ้าอากาศหรือ? ก็หาไม่ พุทธองค์ตรัสว่าในโลกนี้มีใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธานและใจเป็นหัวหน้าทุกสิ่งทุกอย่างย่อมสำเร็จลงด้วยใจ แล้วบรรดาชายรักชาย หญิงรักหญิง มนุษญษย์เหล่าอื่นอีกมากมายแล้วแตโลกสมมุติใบนี้เรียกเขา มีใจไหม แล้วหากเขาเหล่านี้นำดวงจิตดวงใจเขาให้ตั้งมั่นปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามหลักธรรมวินัยคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า อย่างเคร่งครัด ปรารภความเพียรอยู่มิให้พร่อง แล้วเหตุไฉนเล่า เขาเหล่านี้จะมิสามารถบรรลุธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ดีแล้ว ก็ในเมื่อเหตุแห่งการห้ามมรรคผลนิพพานนั้นมีในจำเพาะเหล่าสัตว์ที่ทำอนันตริยกรรม

 

กรรมของนายดอกบัวที่ออกความเห็นแบบนี้กำลังตามมา55555555

 

การมีคู่ครองเป็นเพศเดียวกันชาติต่อไปก็จะยังไม่หลุดจากกรรม ก็จะรักเพศเดียวกันต่อไปเรื่อยๆ

 

เราก็ รักเพศเดียวกันค่ะ แต่เราไม่เคยนอกใจ และยังหมั่นสร้างบุญกุศลอยู่ ไม่เคยเบียดเบียนใคร สวดมนต์ทุกคืน

เราคิดว่า ทุกอย่างมันอยู่ที่เจตนาค่ะ แล้วการทำกุศลให้ถึงพร้อม ถึงแม้คู่ครองจะเป็นเพศเดียวกัน แต่ก็เจอคนที่ดี นำพากันไปทำบุญ คะ