"วัดมณเฑียร" วัดแรกของกษัตริย์ราชวงศ์มังราย

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย aprin, 20 พฤษภาคม 2011.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    [​IMG]
    พระเจ้าหลวงทันใจ หน้าตักกว้าง ๕.๕ เมตร สูง ๑๑ เมตร ที่สร้างขึ้นด้วยจิตศรัทธาของพุทธศาสนิกชนเมื่อครั้งมีการบูรณะวัด

    [​IMG]
    พระพุทธรูปประธาน ที่สร้างจากหินทราย (องค์สีขาว)

    [​IMG]
    ในวิหารลายคำของวัดมณเฑียร ชั้นที่ ๑

    [​IMG]
    ลวยลายของวิหารลายคำ

    [​IMG]
    ด้านหน้าวัดมณเฑียร

    [​IMG]
    พระนอนวิหารหลวง

    "วัดมณเฑียร" ตั้งอยู่เลขที่ ๑๔๙ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๑๙๗๔ เดิมชื่อ "วัดราชมณเฑียร" เป็นวัดแรกที่พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์สมัยราชวงศ์มังรายทรงสร้างขึ้นในรัชสมัยที่พระองค์ทรงราชาภิเษกเป็นพระเจ้าแผ่นดินปกครองเมืองเชียงใหม่

    พระเจ้าติโลกราชและพระมหาเทวีทรงโปรดเกล้าให้รื้อพระตำหนักราชมณเฑียรส่วนพระองค์มาสร้างเป็นวัดเพื่อถวายพระมหาญาณคัมภีร์มหาเถระและคณะ พระองค์ทรงพระราชทานนามวัดนี้ว่า "วัดราชมณเฑียร" ดังข้อความที่ปรากฏในตำนานศาสนาตอนหนึ่งว่า "เมื่อพ.ศ.๑๙๗๔ เดือน ๗ ในปีนั้นชาวเมืองทั้งหลายพร้อมกันปลงศพ พระยาสามฝั่งแกน แล้วจึงอาราธนาเอาลูกท่าน ชื่อท้าวลกมากินเมืองเชียงใหม่ เดือน ๘ ออก ๕ ค่ำ เม็งวันอังคาร ได้ราชาภิเษกชื่อว่า อาทิตตราชดิลก หรือ ติโลกราช และท่านรู้ข่าวว่า พระมหาญาณคัมภีร์เถรเจ้า ไปเอาศาสนามารอด ท่านก็ยินดีมากนัก และพระยาอาทิตย์ และพระมหาเทวี จึงพร้อมกันให้รื้อหอราชมณเฑียรหลังเก่าไปสร้างที่พระมหาเถรเจ้าจักอยู่ และได้ชื่อว่า “วัดราชมณเฑียร” ดังนี้แล"

    ในสมัยที่ราชวงศ์มังรายเรืองอำนาจ วัดราชมณเฑียรมีความเจริญรุ่งเรืองมาก เนื่องจากเป็นวัดที่อยู่ในพระราชูปถัมภ์ของพระมหากษัตริย์ และพระมหาญาณคัมภีร์ปฐมเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดมณเฑียรยังเป็นนักปราชญ์ผู้ทรงคุณธรรม เป็นที่เคารพนับถือและเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนชาวล้านนาในอดีต เพราะทรงทำนุบำรุงเผยแพร่ศาสนาพุทธจนรุ่งเรือง และแผ่ขยายไปถึงแคว้นนครเชียงตุง และเมืองสิบสองปันนา

    แต่ภายหลังอาณาจักรล้านนาล่มสลาย ตกเป็นเมืองขึ้นของพม่านานกว่า ๒๐๐๐ ปี วัดวาอารามในล้านนาถูกปล่อยให้รกร้าง ขาดการบูรณะซ่อมแซม จนอยู่ในสภาพทรุดโทรม กระทั่งเมื่อพระเจ้ากาวิละได้กอบกู้เอกราชของแคว้นล้านนาคืนมา วัดราชมณเฑียรและวาอารามที่สำคัญในเมืองเชียงใหม่จึงได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ จนกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง

    สำหรับโบราณสถานที่สำคัญของวัดมณเฑียร มีวิหารลายคำ เป็นวิหาร ๒ ชั้น ทรงไทยล้านนา ประดับลวดลายปูนปั้น และลายคำแบบล้านนา จึงเป็นที่มาของชื่อ "วิหารลายคำวัดมณเฑียร" แต่วิหารหลังเดิมที่สร้างมานานกว่า ๕๗๙ ปี ชำรุดทรุดโทรม พระมหาชัชวาล โชติธฺมโม เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน และคณะศรัทธาจึงร่วมกันบูรณะ และสร้างวิหารหลังใหม่ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๕ จนแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๙

    รูปแบบของวิหารลายคำ ชั้นแรกใช้เป็นสถานที่ทำบุญ ชั้นที่ ๒ ใช้ในการทำสังฆกรรมของพระภิกษุ สามเณร ภายในพระวิหารประกอบด้วยเสากลาง มีระบียงเพไลล้อมรอบ ด้านนอกพระวิหารมีซุ้มประตู ประดับด้วยปูนปั้นลวดลายล้านนาประยุกต์ ประดับด้วยกระจกแก้วอังวะ ติดทองคำเปลว เช่นเดียวกับศิลปะล้านนาที่ใช้อยู่ในยุคปัจจุบัน

    วัดมณเฑียรมีเอกลักษณ์พิเศษที่สำคัญ คือ มีการนำเอาวัสดุหินทรายมาสร้างเป็นพระพุทธรูป เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งที่ไม่เคยมีปรากฏในปัจจุบัน ตามตำนานในอดีตนั้น ได้เกิดขึ้นครั้งหนึ่งในสมัยพระเมืองแก้ว กษัตริย์เมืองเชียงใหม่ ทรงสร้างพระพุทธรูปหินทราย ประดิษฐานไว้ยังวัดร่ำเปิง ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยมีปรากฏในเมืองเชียงใหม่ว่า มีการสร้างพระพุทธรูปหินทรายอีกเลย พระมหาชัชวาล โชติธฺมโม เจ้าอาวาสจึงนำหินทรายจาก จ.พะเยา มาแกะสลักเป็นพระพุทธรูป และได้นำมาประดิษฐานไว้ภายพระวิหารลายคำ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้เคารพสักการะ

    พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด
    พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นใหม่ พร้อมกับการบูรณะและสร้างวิหารลายคำหลังใหม่ของวัดมณเฑียร มีทั้งหมด ๗ องค์ ประกอบด้วย พระพุทธรูปประธาน ประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหารชั้น ๑ พระพุทธรูปประธาน ประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหารชั้น ๒ พระพุทธรูปรองประธาน ๔ องค์ พระนอนทรงเครื่อง ๑ องค์

    วัดมณเฑียร ยังมีพระพุทธรูปเก่าแก่อีกหลายองค์ อาทิ พระประธานวิหาร ซึ่งเคยประดิษฐานอยู่ที่วิหารวัดมณเฑียรหลังเดิม พระพุ่ม ๙ ตื้อ เป็นพระพุทธรูปที่สร้างพร้อมกับพระเจ้าเก้าตื้อ ของวัดสวนดอก เป็นพระพุทธรูปศิลปะเก่าแก่ที่งดงามที่สุด

    วัดมณเฑียรมีพระที่สร้างพุ่มเดียวกัน หรือสร้างพร้อมกัน คือ พระเจ้าพุ่ม หรือ พระพุ่ม พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะล้านนาผสมสุโขทัย เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ รวมทั้งพระประธานประจำอุโบสถหลังเก่า

    นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปองค์สำคัญที่พระมหาญาณคัมภีร์นำมาจากศรีลังกา เมื่อครั้งไปสืบศาสนาที่เมืองลังกา และได้นำพระพุทธรูปมาจากลังกาทวีป มี ต้นศรีมหาโพธิ์ พระพุทธรูป พระไตรปิฎก และหีบอีก ๑ ชุด กิ่งมหาโพธิ์นำมาปลูกไว้ที่วัดป่าแดง พระไตรปิฎกนำไปประดิษฐานที่วัดป่าตาล แต่ปัจจุบันนี้ร่องรอยของพระไตรปิฎก ไม่สามารถที่จะทราบได้ว่าอยู่ ณ ที่ใด ส่วนพระพุทธรูปได้นำมาประดิษฐานที่วัดมณเฑียร โดยคณะสงฆ์และคณะศรัทธาวัดราชมณเฑียรในอดีต ได้ร่วมใจกันรักษาพระพุทธรูปองค์นี้เอาไว้จวบจนปัจจุบัน และยังมีพระเจ้าหลวงทันใจ หน้าตักกว้าง ๕.๕ เมตร สูง ๑๑ เมตร ที่สร้างขึ้นด้วยจิตศรัทธาของพุทธศาสนิกชน เมื่อครั้งมีการบูรณะวัด

    "วัดมณเฑียรมีเอกลักษณ์พิเศษที่สำคัญ คือ มีการนำเอาวัสดุหินทรายมาสร้างเป็นพระพุทธรูป เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งที่ไม่เคยมีปรากฏในปัจจุบัน ตามตำนานในอดีต ได้เกิดขึ้นครั้งหนึ่งในสมัยพระเมืองแก้ว กษัตริย์เมืองเชียงใหม่"

    http://www.komchadluek.net/detail/20110520/97992/วัดมณเฑียรวัดแรกของกษัตริย์ราชวงศ์มังราย.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2011
  2. กองทัพเทพ

    กองทัพเทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    468
    ค่าพลัง:
    +2,629
    สาธุครับ
    ผมคนเชียงใหม่ ผ่านไปวัดนี้ทีไร ก็ยกมือไหว้พระเจ้าทันใจ ทุกครั้ง
    ชอบพระองค์นี้ครับ ท่านดูสมส่วน พระพักตร์ก็ อิ่มตา งดงาม
    ตรงข้าม อีกฝั่งเป็นวัดโลกโมฬี ครับ
     
  3. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,254
    [​IMG]
    อนุโมทนา สาธุ ๆ
    กับท่านทั้งหลายที่ได้ร่วมกัน
    สร้างวัดแห่งนี้และสร้างบุญกุศลทุกอย่างด้วยครับ
    นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
     
  4. บัวล้านนา

    บัวล้านนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +436
    ที่แรกผมนึกว่าวัดกู่เต้าซะอีก เพราะหลวงพ่อทันใจ ทรงเครื่องเหมือนกันมากเลยครับ แต่ที่วัดกู่เต้าจะวิจิตรมากกว่า ภาพสวยครับ.............
     

แชร์หน้านี้

Loading...