ความอัปปรีย์ของพ่อค้าล๊อตเตอรี่คนหนึ่ง ที่วัดอัมพวัน สิงห์บุรี

ถ้าใครยังหลงงมงายอยู่ ขอท่านทั้งหลายจงรู้เท่าทัน !
รอบวันพระ 9 วัน ต้นเดือนมิถุนายน 2554 ข้าพเจ้าได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมอีกครั้ง ณ วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี ใต้ร่มพระบารมีแห่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม ที่วัดก็ยังคงดูวุ่นวายเป็นปกติ คราคร่ำไปด้วยผู้แสวงหาหนทางแห่งการดับทุกข์ ผู้คนมาปฏิบัติธรรมมากเท่าไหร่ ผู้ที่หวังจะหากินกับหมู่ชนก็มีมากเท่านั้น


ถ้าท่านได้เคยไปวัดอัมพวัน ท่านจะสังเกตได้ว่า ทางเดินเข้าวัดที่อยู่เบื้องหน้ากุฏิหลวงพ่อจรัญ จะมีป้ายติดประกาศไว้ว่า “ห้ามจำหน่ายสินค้าทุกชนิดบนถนนเส้นนี้” แต่ถึงกระนั้นตลอดเส้นทางประมาณ 100 เมตรนี้ ก็เต็มไปด้วยแผงล็อตเตอรี่ ดอกไม้ พวงมาลัย เสียงพ่อค้าแม่ค้าจะเชื้อเชิญท่านซื้อข้าวของของเขาอยู่เป็นระยะ


หลวงพี่พระอาจารย์อาคารภาวนาได้เคยเล่าให้ฟังว่า ดอกไม้ พวงมาลัยเหล่านี้ล้วนแต่เป็นของเวียนเทียน คือคนซื้อไปไหว้แล้วเขาก็ไปเก็บกลับมา วันหนึ่งท่านเห็นกับตา ท่านจึงถามแม่ค้าคนนั้นว่า “โยมเอาดอกไม้ที่เขาบูชาแล้วมาได้อย่างไร ขอพระแล้วหรือ” (แน่นอนว่าพระในวัดคงไม่มีใครยินดีเห็นด้วยกับการกระทำของแม่ค้าคนนี้แน่) แม่ค้าก็ตอบว่า “ขอแล้ว” ท่านก็ถามต่อว่า “ขอกับใคร” แม่ค้าตอบว่า “ก็ขอหลวงปู่โต(สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี)แล้ว ไม่เห็นท่านจะว่าอะไรเลย” ดูเอาเถิดว่ามนุษย์นี้บาปหนาเพียงใด

พระอาจารย์ท่านจึงแนะนำผู้ปฏิบัติเสมอว่าให้บูชาพระและองค์เทพพรหมเทวาทั้งหลายด้วยการปฏิบัติบูชาจะได้บุญยิ่งกว่า หรือไม่อย่างนั้นก็จงเลือกซื้อสินค้าที่เขาวางขายถูกที่ถูกทาง ซึ่งอยู่ก่อนทางเดินเข้าตัววัดและร้านค้าของวัดหน้าอาคารภาวนา

ถ้าเราซื้อของที่ผิดกฏหมายเราย่อมมีโทษ แม้บางครั้งเราไม่รู้ว่าของนั้นผิดกฏหมายก็ยังมีโทษว่า รับซื้อของโจร แต่งานนี้มันขึ้นชื่อว่า รับซื้อของโจรที่เป็นของสงฆ์ แถมยังฝืนขอบัญญัติแห่งเขตสงฆ์อีกต่างหาก มันจึงน่ากลัวกว่าซื้อของโจรธรรมดาหลายเท่า โทษทางกฏหมายเราว่าน่ากลัวแล้ว แต่ท่านจงทราบไว้เถิดว่า กฏแห่งกรรม ยุติธรรมและน่ากลัวกว่าสิ่งใด

ในช่วงที่ข้าพเจ้าอยู่ปฏิบัติ วันธรรมดาก็มีผู้เข้าร่วมปฏิบัติประมาณ 500 คน แต่พอวันเสาร์ - อาทิตย์ผู้คนก็เพิ่มเป็นประมาณ 1,500 คน วัดก็ไม่ได้มีพื้นที่กว้างขวางอะไรมากมาย มันจึงรู้สึกแออัดอยู่เหมือนกันเมื่อคนเยอะ ถนนก็แคบอยู่แล้วร้านค้าก็ยังมาวางเกลื่อนอีก พ่อค้าแม่ค้าพูดจากันหาความสุภาพไม่ได้ เพื่อนข้าพเจ้าว่า อวัยวะอะไรมีก็เอาออกมาด่ากันหมด (คงไม่ต้องอธิบาย)

วันหนึ่ง หลวงพี่พระอาจารย์ประจำศาลาใหญ่ท่านจึงบอกกับเหล่าพ่อค้าแม่ค้าว่า ช่วยหลบทางให้ผู้ปฏิบัติธรรมได้มีทางเดินหน่อย (ก็ไม่รู้ว่าท่านไปบอกอีท่าไหน แต่เรารู้อยู่อย่างเดียวว่าหลวงพี่ท่านนี้ท่านคือพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ) พ่อค้าคนหนึ่งยืนขึ้น แล้วชี้หน้าด่าหลวงพี่ว่า

“ถ้ามึงสึกออกมาเมื่อไหร่ มึงเจอกูแน่”

ข้าพเจ้าลูกศิษย์หลวงพี่ ได้ฟังแล้วของขึ้น กำหนดโกรธหนอแทบไม่ทัน

แต่ท่านก็จงดูเอาเถิด วัดแห่งพระอริยเจ้า ลูกศิษย์พระอริยเจ้าทั้งหลายท่านต่างก็วางอุเบกขา คนเหล่านี้ทำผิดกฏของวัด วัดเมตตาไม่พร่ำไล่ที่ก็บุญเท่าไหร่แล้ว แต่เขากลับทำระยำอัปปรีย์กับสงฆ์ ในเขตของสงฆ์ ท่านว่าสมควรแล้วหรือ ที่เราจะสนับสนุนคนแบบนี้ อันเป็นผู้ที่ขึ้นชื่อว่า มารศาสนา

พวกเราลูกหลานพระตถาคต จงได้โปรดช่วยกันปกป้องพุทธศาสนาและพระสาวกผู้สืบทอดพระธรรมคำสอนของพระองค์เถิด เพื่อพระพุทธศาสนาจักได้ดำรงอยู่เป็นที่พึ่งของสัตว์โลกสืบไป

ครั้งหน้า ถ้าท่านหรือเพื่อนผองญาติพี่น้องของท่านได้มีโอกาสไปวัดอัมพวัน สิงห์บุรี จงพึงระลึกเถิดว่า ท่านทั้งหลายจะไม่เป็นผู้อุดหนุนพวกมารศาสนาเหล่านี้ ให้เกิดบาปแก่ตัวท่านเองโดยไม่รู้ตน และข้าพเจ้าขออำนวยพรว่า ล๊อตเตอรี่ที่นั่นจะไม่ถูกรางวัลแม้แต่ใบเดียว สาธุ !

"เรามิได้ปรารถนาจะจองเวรใคร เพียงแต่เราปรารถนาจะปกป้องคนดี ก็เท่านั้น"

 

ขอบคุณมากครับ คราวหน้ามีโอกาสไปจะเตือนเพื่อน ๆ

 

อนุโมทนาค่ะ จะไม่ซื้อและไม่สนับสนุนเด็ดขาด!

 

เวลาไปวัดมักจะไปช่วยค่าน้ำค่าไฟมากกว่า เพราะเข้าวัดตรงๆเลย

 

ขอบคุณมากครับ ที่ช่วยแนะนำในสิ่งที่ดีๆ

ปล.ผมโกรธและรู้สึกเสียใจกับคำพูดที่พ่อค้าด่าว่าหลวงพี่ ทำไมคนเราถึงเป็นได้เพียงนี้

 

ขอขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้ค่ะ ดิฉันไปวัดอัมพวัน3-4 ครั้งก็พบปัญหาอย่างท่านว่าจริงๆค่ะ เพียงแต่ดิฉันไม่ได้ซื้อดอกไม้ที่แม่ค้าบอกว่าให้นำไปไหว้พระในวัด (สาเหตุเพราะมาถึงเกือบหมดเวลา ต่อคิวเข้าที่พักแทบไม่ทัน) เลยรอดการชักชวนของแม่ค้าในครั้งแรก
แต่เมื่อพอถึงเวลารับศีล หลวงพี่ท่านหนึ่งเป็นตัวแทนหลวงพ่อจรัญ ท่านได้บอกกล่าวถึงเรื่องการซื้อดอกไม้มาไหว้พระ ซื้อกล้วยมาถวายช้าง ท่านบอกว่าไม่จำเป็นต้องซื้อ ทางวัดไม่มีวัตถุประสงค์เช่นนั้นเลย
พ่อค้า แม่ค้า พูดจากับพระไม่เหมาะสมจริงๆค่ะ น่าเศร้าเหลือเกิน

 

ภาพนี้ถ่ายวันโกน แต่ถ้าวันพระจะมากันเต็มพื้นที่ สารพัดร้านค้า
พระสงฆ์องค์เจ้า ท่านจะไปไล่คงใช้ที่ แต่ถ้าไม่มีคนอุดหนุนคนเหล่านี้ เขาก็จะอยู่ไม่ได้ไปเอง อย่างที่คุณ naitiw ว่า เอาเงินไปช่วยค่าน้ำค่าไฟวัดดีกว่า เพราะแต่ละเดือนวัดจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร รวมแล้วเป็นเงินหลายแสนบาท

 

จริงๆเรื่องนี้มัคทายกวัดจะต้องดูแลจัดการ

เพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ที่จะมาจัดระเบียบเรื่องนี้
แต่นี่มีการปล่อยปละละเลย ไม่ทราบว่ามีผลประโยชน์ร่วมแอบแฝงด้วยหรือไม่

วัดเป็นที่ธรณีสงฆ์จะห้ามผู้ใดที่ไม่เกี่ยวข้องหรือมาทำความเดือดร้อนย่อมได้ทั้งสิ้น
อย่าปล่อยไว้เพราะพวกนี้จะรวมตัวกันต่อรองและสร้างความยุ่งยากมากขึ้น

 

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ว่าคงปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ได้ ยังคิดอยู่เหมือนกันว่า คณะกรรมการวัดมีหน้าที่เพียงติดป้ายว่าห้ามขายของหรือกระไร

 

เพิ่งจะไปปฏิบัติมาเมื่อปลายเดือนที่แล้วเองค่ะ
เห็นด้วยทุกประการ แม่ค้าพูดจาหาความไพเราะไม่ได้
และจะพูดชักชวนให้ซื้อของ (เหมือนว่าจำเป็นจะต้องซื้อเพื่อเข้าวัดประมาณนี้)
บางท่านที่ไม่รู้ก็อุดหนุนค่ะเพราะอยากทำบุญไหว้พระ แต่อยากให้พิจารณาดีๆค่ะ
เพราะทั่วทั้งวัดถ้าได้อ่าน จะเห็นป้ายประกาศทั่วทั้งวัดเลย ว่า หลวงพ่อแพ้เกสรดอกไม้ ทุกชนิด ห้ามนำดอกไม้ไปไหว้หรือถวายท่าน แต่ก็ยังมีคนไม่อ่านหนังสือเยอะพอสมควร นำดอกไม้พวงมาลัยจากแม่ค้าจะไปถวายท่านค่ะ เฮ้อ ป้ายไม่ใช่ตัวเล็กๆนะค่ะ แถมติดทุกสถานที่ น่าจะอ่านสักป้ายหนึ่งก็ยังดีค่ะ สงสารหลวงพ่อจังค่ะอนุโมทนากับท่านที่ทำถูกแล้วควรแล้วด้วยค่ะ เจริญในธรรมค่ะ

 

อีกอย่างที่ผู้ไปปฏิบัติต้องพึงระวังคือ ร้านขายขนมสดและผลไม้ ที่อยู่หน้าอาคารภาวณา1 ถ้าท่านไม่ได้หิวกระหายเจียนขาดใจ ก็รอทานข้าวทิพย์ที่โรงทานดีกว่า เพราะข้าวของร้านนี้ถ้าเขาขายไม่หมดเขาก็จะนำกลับมาขายใหม่ในวันรุ่งขึ้นต่อไปอีก 3-4 วัน จนกว่ามันจะมีหลักฐานให้เห็นแบบจะๆ ว่า มันกินไม่ได้แล้ว เช่น ขึ้นรา เขาถึงจะเปลี่ยนเอาของใหม่มาขาย

ถ้าท่านต้องการจะซื้อก็คอยสังเกตดูว่าของมันเหมือนอันเมื่อวานหรือเปล่า ถ้าไม่ก็น่าจะไว้ใจได้

โดนไป 2 ครั้ง จนต้องตั้งสัจจะว่า เราจะไม่ซื้อของเขาอีกแล้ว แต่เมื่อเดินผ่านร้านป้าแกทีไร ก็รู้สึกสงสารทุกครั้ง ได้แต่แผ่ส่วนบุญให้เขาไปร่ำไปรวยจะได้ไม่ต้องมาสร้างเวรสร้างกรรมด้วยการหลอกขายของเน่าของเสียให้ผู้ถือศีลปฏิบัติธรรม

 

โอ้โห ... ไม่กลัวบาปไม่กลัวกรรม กันเลยหรือนี้.... หลอกขายของก็พอแรงอยู่แล้ว นี้เถียง/ด่า พระอีก ...เฮออ โกรธธธธธธธธธธธธธ หนออออออออออ

 

ไปกราบหลวงพ่อเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม หลวงพ่อท่านไม่สบายเพราะเแพ้เกสรดอกไม้นะคะ

 

หรือถ้าท่านใดประสงค์จะช่วยค่าไฟวัด ก็สามารถช่วยได้ด้วยการร่วมเช่าบูชา วัตถุมงคลรุ่น "ฉลองอายุวัฒนะมงคล 84 ปี" หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม

 

วันนี้ได้มีโอกาสเข้าไปกราบหลวงพ่ออีกครั้ง พร้อมทั้งบูชาพระ รุ่น อายุวัฒนะมงคลของหลวงพ่อ ครั้งนี้พอเดินเข้าวัด อย่างแรกที่สังเกตคือ พ่อค้าแม่ขายหายไปไหนกันหมดนะ รู้สึกทางโล่งๆ

นึกขึ้นได้วันนี้ไม่ใช่วันพระนี่นา อีกอย่างหวยก็เพิ่งจะออกไป เขาเลยยังไม่มาปักหลักกันกระมัง