เมาธรรม....หรือ ไม่เมา

กลัวหรือกล้า อยู่ในใจ ใครรู้บ้าง
กล้าจะสร้าง ความดี ในใจใหม
สร้างตนดี คนอื่นดี ยากหรือไง
หรือว่าใจ คิดแต่สร้าง ไม่กล้าทำ

กลัวแต่ว่า เขาไม่เอา เขาไม่รู้
เราทำอยู่ แล้วคนอื่น ทำดีใหม
เราทำดี เพื่อคนอื่น อยู่ร่ำไป
แล้วเมื่อไหร่ คนอื่น จะทำเอง

เรารู้ดี เราทำดี เราเห็นอยู่
แต่ไม่รู้ ว่าคนอื่น จะทำใหม
เรากล้าบอก กล้านำพา หรือกลัวใจ
ว่าบอกไป เขาคงไม่ คิดทำดี

ถึงอย่างไร กลัวทำไม เราต้องบอก
ถ้าไม่บอก ถือว่าเรา ทำผิดใหม
เรารู้ดี สิ่งที่ดี ต้องบอกไป
ถ้าเขาไม่ คิดทำตาม ถือว่า..เราบอกแล้ว...หมดพันธะ กัน เราบอกแล้ว

 

คุณใจดีดี โทรมาเล่า ความฝันให้ฟัง ผมก็เลย ถือโอกาส เอามาเล่าต่อ

ขออนุญาติ กันตรงนี้แหล่ะ
...
เธอฝัน เมื่อเช้านี้ ว่า พระพิฆเนตร(เขียนถูกเปล่าไม่รู้)...ได้ นำงา ข้างที่หัก มามอบให้เธอ แล้วบอกเธอว่า ให้ ใช้มือซ้าย หมุนงา ไปเรื่อยๆ ...แล้ว เงิน ร้อยล้าน จะมาหาเอง
เธอบอกอย่างงั้น
..
ผมได้ฟัง ก็ ดีใจด้วย ที่ ...ฝันดีดี สมชื่อ คุณใจดีดี....

ขอให้ฝันเป็นจริง นะครับ ผมให้พร..แก่เธอ

 

สวัสดีคุณจิตตินนท์ มีอะไรให้ผม ช่วยมั้ยครับ

 

การดูทุกข์ การรู้ทุกข์ ต้องดูจิต
ดูว่าคิด เกิดจากอะไร จากไหนบ้าง
จากที่ดู จมูกได้ดม หูได้ฟัง
หรือจากนั่ง จากนอน ของกายา
หรือจากปาก จากลิ้น กลิ่นสดสด
มีได้หมด ทุกช่องทาง ไม่ห่างหาย
ใจมันคิด ใจเริ่มปรุง ได้อย่างไร
ต้องดูให้ ให้มันทัน การเริ่มมี
จากที่ว่าง แล้วมาเกิด เริ่มการเกิด
การรับรู้เปิด มาที่ใจ แล้วไงหนอ
ใจมันคิด ใจมันเริ่ม เราต้องรอ
สติหนอ รอดูมัน ทุกวินาที
ที่ผ่านมา ก็แค่รู้ ว่ามันเกิด
เกิดมาแล้ว ดูไม่ทัน ทุกทีนี่
อันความคิด ก่อนการเกิด ว่างมันมี
ตั้งสติดี เฝ้ารอดู ทุกครู่ยาม
ดูให้รู้ ดูจนเห็น ขั้นการเกิด
ดูจนเปิด ดูจนหน่าย ทั้งสองข้าง
คือตัวใจ ตัวสติ เป็นคนละทาง
ใจคิดข้าง สติดูข้าง ข้างละตัว
สติกับใจ ดูเข้าใจ ให้มันรู้
อย่าเข้ารู้ ไปกับใจ ไหลตามนี่
สติก็อีกฝั่ง ใจก็อีกฝั่ง รักษาดีดี
มันต้องมี ต้องแยกฝั่ง แยกทางกัน
ดูไปต่อ ด้วยอารมณ์ ที่สนุก
ดูว่าใจ มันแอบซุก ความคิดนั่น
มันไม่รู้ ว่าเราดู การทำงานของมัน
ดูให้ทัน ให้มันรู้ ว่ามีเรา(สติ)
พอใจรู้ มันมารู้ ว่าเราดูอยู่
มันจะหดหู่ ละอาย ใจตัวเองนั่น
เพราะมันรู้ ว่าเราดู ทุกวี่วัน
เรารู้ทัน ทุกความคิด ของใจทำ
มันจะเริ่ม ไม่อยากคิด ผิดปกติ
เริ่มตำหนิ สติเรา เฝ้าดูนั่น
ดูทำไม กลัวคิดชั่ว หรือไงกัน
นี่แหล่ะมัน เริ่มระแวง เพราะมีเรา
สติเรา ดูตลอด จนรอดฝั่ง
ดูเหมือนนั่ง นั่งเพื่อดู ตลอดนั่น
ดูจนใจ มันเริ่มนิ่ง หยุดทำงานพลัน
เพราะมันนั้น เกิดละอาย คนคอยดู
มันจะเริ่ม นิ่งสนิท ไม่คิดต่อ
สติหนอ เห็นเหตุการณ์ ทุกอย่างนั่น
สติบอก กับใจ ให้คิดพลัน
แต่ใจนั้น กลับเมินเฉย ไม่เคยเป็น
ใจมันจะ หยุดทุกอย่าง ที่ทำหมด
บอกให้คิด มันก็หด หัวในกระดองนั่น
เพราะมันยอม ยอมทุกอย่าง ยอมโดยพลัน
เพราะว่ามัน ไม่กล้าคิด มีคนดู
สุดท้ายใจ และสติ ก็เห็นเหตุ
ไม่มีเลศนัย กัน ให้สงสัย
ไอ้ตัวคิด ปล่อยมันคิด ทำงานไป
ล้วนเป็นเรื่อง ของใจ ธรรมชาติมัน
ตัวสติ ก็รู้ตัว มีสติ
แค่สติ เอาไว้ดู รู้ เท่านั้น
อยากควบคุม ใจไม่ให้คิด ได้ไงกัน
ตัวใจนั้น ที่มันคิด มันทำงาน
งานของใจ คือคิด รับรู้โลก
เพื่อไม่โศก ไม่เศร้า สร้างสุขสันต์
เพื่อปรุงแต่ง กามคุณ ห้า ของโลกนั้น
เพื่อให้มัน สดชื่น และสวยงาม
ยามจะกิน ก็ต้องกิน ให้อร่อย
ยามจะคิด คิดสนุก อย่าท้อถอย
ยามจะทำ ด้วยความสุข ความสุขคอย
ยามจะนอน ก็ต้องปล่อย ให้สบาย
ยามตื่น ก็ต้องตื่น โดยหน้าที่
รู้ตัวดี ตื่นสู้โลก สดชื่นได้
โลกความสุข มันต้องสุข ทุกวันไป
ขอแค่ใจ ปรุงแต่งให้ โลกสวยงาม

ขอบพระคุณครับ

 

สวัสดีครับ คุณพี่ ขจรศักดิ์

 

ว่าไงท่าน ถึงไหนแล้ว

 

เมื่อคืน ฝันว่า ปั่นจักรยาน อยู่ บนถนน จะกลับบ้าน
เห็น ข้างทางมีร้าน สวยๆ ที่อยากเข้าไปดู ไปชม เพราะคิดจะปรับปรุงร้านอยู่
แต่ก็ แค่ชำเลืองมอง แล้วปั่นต่อ ครับ รู้ว่า ใกล้จะถึงบ้านละ

 

ไช่แล้วครับ ...ถึงจะมีเงินร้อยล้าน ออกท่องเที่ยว ทั่วโลก ออกชมนอกสถานที่ กินอาหารแปลกถิ่น กินอาหารดีดี ท่องเที่ยงอย่างสนุกสนาน

แต่มีที่เดียว ที่ นอนหลับ ด้วยความสุข ที่สุด ...นั่นก็คือ บ้านเราเอง

ที่ที่ดีที่สุด สุขที่สุด คุ้นเคย และ อบอุ่นที่สุด ก็คือ ..บ้านเราเอง

 

คุณพี่มีอะไร แนะนำ ไหมครับ
วันนี้ ผม นั่งมองใจทั้งวัน พอเห็นก็ นั่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ใจ ตกใจ

 

วิธีการดูจิต ดูใจ...มันไม่ง่ายหรอกครับ

1.แค่รู้ทันว่า มันเกิดแล้ว และ ดับไป..อันนี้ สติยังช้าอยู่

2.แค่รู้ทันว่ามัน เกิดขึ้นแล้ว ตั้งอยู่ และดับไป อันนี้ แค่ สติทันมัน ทันตอนเกิด

3.ต้องดู ใจ มันโดยตลอด ดูจน ...เบื่อหน่าย กันทั้งสองฝ่ายให้ได้ ดูว่า มันคิดมั้ย หรือไม่คิด ดูว่า มันจะทำอะไร ต่อไป ดูเฉยๆ ดูเรื่อยๆ รู้ทัน ทุกเวลา ที่มัน แสดงอาการ ...ดูเฉยๆ...ดูจนมันไม่คิด...

แล้ว ดูจน เราให้มันคิด มันก็ไม่คิด....เมื่อมันไม่คิดอะไร เราก็ยังต้องดูต่อไป จนกว่ามันและเรา...จะ ...ปล่อยวางกันและกัน...โน่นแหล่ะ

ค่อย โทรมาหาผมอีกที

 

ครับผม จนกว่า จะปล่อยวางกันและกัน

 

การปล่อยวาง ระหว่างใจของกาย และ สติของใครไม่รู้ เอาว่า ถือเป็นของเราไปก่อน

การปล่อยวาง มันต้อง ปล่อยวางกันทั้งสองฝ่าย รับรู้ด้วยกัน ทั้งสองฝ่าย

นั่นคือ สติเข้าใจการทำงานของใจ ว่าใจมันทำงานตามหน้าที่รับรู้โลก

ใจก็ ปล่อยวางสติ นั่นเพราะ มัน ก็ จะคิดแต่ในทางที่ดี คิดในเรื่องที่ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับสติ และจะไม่คิด ให้..ออกนอกโลก ไม่สมุทัย ..ออกนอกโลก...แล้วมันก็จะ กลับไปทำงาน รับรู้โลก ตามเรื่องของมัน

 

สติเห็นใจ ใจวางสติ สติวางใจ
เกื้อกูลโลก

 

เมื่อ วางกันและกันแล้ว เหลือแต่ สติ ของใครก็ไม่รู้...ค่อยมาถามผมนะ

ว่า สติ น่ะ มันเป็นของใคร

อิอิ..ลืม อิอิ

 

ถามใจ ใจ ไม่ตอบ
ถามใคร พี่ขจรศักดิ์

 

ถ้ามันไม่ตอบ ก็ถามมันต่อว่า...ถ้าไม่ตอบ แล้ว...มาเสนอหน้า แถวนี้ ทำไม...

...
ถ้ายังไม่ตอบ บอกมันว่า...ให้มันคิด....คิดอะไรก็ได้ คิดสิ คิดสิ คิดสิ

ถ้ามันไม่ตอบ มันไม่คิด....ก็ดูมันอยู่นั่นแหล่ะ

ไกล้ถึง ไคล์แมกซ์...แล้ว....อย่า หนี อย่าถอย ดู และรักษา อารมณ์ อย่างต่อเนื่อง....จนกว่า..........

 

จนกว่า........... จะหลุดพ้น จากกัน โดยจริงจัง กันซะที

เอานะ เป็นกำลังใจ....ขอให้ สำเร็จ..

ที่ผ่านมา ฉนวนหุ้ม สายไฟ...มานาน....ตอนนี้ แยก ฉนวน ออกจาก ไส้ในได้แล้ว

ที่เหลือ ก็คือ....ทิ้ง ไส้ในให้ได้

เหลือแต่ฉนวนเมื่อไหร่.....ค่อย เผา ฉนวนทิ้ง ทีหลัง

วะฮ่าฮ่า... มาเอา น้ำมันก๊าด และ ไฟแช็ค ที่ผมแล้วกัน

เตรียมรออยู่...อิอิ..อะอะ...แอะแอะ...อุอุ

 

สมาชิกที่ถูกแบน : จนกว่า........... จะหลุดพ้น จากกัน โดยจริงจัง กันซะที

เอานะ เป็นกำลังใจ....ขอให้ สำเร็จ...

สาธุ

 

นี่แหล่ะ สติปัฏฐานสี่ ทางตรง..อย่างเร็ว 7 วัน....เท่านั้น

อิอิ

 

ถนนแห่งความดีนั้นเดินยาก
และลำบากเกินกว่าจะทานไหว
อย่าลืม แรงศรัทธาต่อหัวใจ
แม้ต้องเดินทางไกลเพียงลำพัง...อิอิ