ถ้าบิดาต่อต้านเวลาเข้าวัดทำบุญควรทำอย่างไรดีคะ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย นภาฟ้าใส, 20 กรกฎาคม 2011.

  1. นภาฟ้าใส

    นภาฟ้าใส Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2011
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +36
    คือแม่กับหนูเชอบเข้าวัดถือศีล ทำบุญ (แม่ของหนูเคยสร้างกรรมหนักไว้เลยต้องการที่จะทำบุญ กรรมฐานให้มาก ๆ เผื่ออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร) แต่พ่อของหนูเป็นคนที่ต่อต้านการเข้าวัด ทำบุญมาก ๆ น่ะค่ะ แค่ใส่บาตรก็ว่าแล้ว (เค้าคิดว่าไร้สาระ สิ้นเปลือง และการไปรักษาศีลที่วัดเสียเวลาทำมาหากิน) เวลาที่จะไปทำบุญหรือถือศีลแม่กับหนูเลยลำบากใจมาก ๆ เพราะว่าตอนนี้พ่อก็เป็นคนหาเงินเข้าบ้านคนเดียว (เพราะหนูมีปัญหาด้านสุขภาพ) เวลาจะไปก็ต้องขอเงินเค้า และในอนาคตถ้ามีกิจการเป็นของตัวเองก็อาจถูกห้ามไม่ให้ไปกรรมฐานที่วัด บางทีหนูกับพ่อก็เกือบทะเลาะกันเรื่องนี้ ซึ่งมันก็ทำให้หนูคิดไม่ดีกับพ่อ หนูอยากขอคำปรึกษาทุก ๆ ท่าน เรื่อง

    1. หนูจะสามารถมีวิธีพูดหรือทำยังไงได้บ้างให้พ่อพอจะยอมรับและเข้าใจเรื่องกฏแห่งกรรมได้บ้าง หรือแค่ให้ท่านไม่ขัดขวางเรื่องเข้าวัด ทำบุญก็ยังดีค่ะ (เพราะท่านก็สร้างกรรมหนักไว้เหมือนกัน ถ้าเป็นไปได้หนูก็อยากให้ท่านเข้าหาธรรมมะได้น่ะค่ะ)

    2. เวลาที่พ่อตำหนิเรื่องการเข้าวัด ทำบุญจะทำให้หนูคิดไม่ดีกับเค้าหนูจะมีวิธีจัดการความคิดเหล่านั้นยังไงได้บ้างคะ
     
  2. thumachatshawan

    thumachatshawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +144
    ขอให้คุณตอบคำถามดังนี้ก่อน
    1. คุณป่วยเป็นอะไร
    2. คุณพ่อ และคุณแม่เคยทำกรรมหนักอะไร
    3. คุณอายุเท่าใด คุณพ่อคุณแม่อายุเท่าใด และทำอาชีพใด

    ถ้าคุณตอบคำถามเหล่านี้ให้ทราบได้ จึงจะสามารถบอกว่าจะช่วยได้หรือไม่ และอะไรเป็นสาเหตุ

    ตอบคำถามที่ถามให้ ตอบมาที่ข้อความส่วนตัวในเวปนะ

    ถ้าช่วยได้ยินดีจะให้คำแนะนำ
     
  3. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    การแก้ไขแก้ที่ตัวเราเองง่ายกว่านะครับ ให้เราคิดว่าเป็นบารมีของเรานะ มารไม่มีบารมีไม่เกิด เขาต้องการทดสอบความมั่นคงของเราก็เท่านั้นเอง ถ้าทำต่อหน้าไม่ได้ก็แอบไปทำลับหลังก็ได้นี่ครับ แบบไม่ให้เขารู้ ส่วนเรื่องความคิดหากเราคิดไม่ดีก็อย่าคิดต่อซิครับ เวลาจะเริ่มคิดไม่ดีก็ภาวนาไปเลย อะไรก็ได้ เช่น พุทโธ หรือ สัมมาอะระหัง ทำบุญก็อุทิศให้พ่อและเทพ เทวดาที่เขาดูแล พิทักษ์ รักษาพ่อของเราด้วย รวมทั้งเจ้ากรรมนายเวรของพ่อเราด้วย ทำให้ครบเลย ทำบ่อยๆ มากๆ เข้า ไม่นานเขาก็คงจะใจอ่อนลง ไม่คอยขัดขวางเราอีกต่อไป พยายามทำใจเป็นผู้ให้ ไม่ใช่ผู้ขอ ทำเพื่อคนอื่นให้มาก ทำเพื่อให้ตนเองน้อยๆ
     
  4. Fabreguz

    Fabreguz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,911
    ผมขอแนะนำนะครับ..

    จากคำสอนของครูบาอาจารย์ หลวงพ่อทวี วัดป่าอรัญญวิเวก อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย
    ท่านสอนผมว่า ร่างกายเรา เกิดจากบิดามารดา เลือดน้ำหนองกระดูกเอ็น แต่ดวงจิตเรานี้
    ไม่ได้เกิดมาจากบิดามารดา ดวงจิตเรานี้เวียนเกิดเวียนดับมาแสนนานและเป็นของเราเอง เพราะฉะนั้น ภูมิธรรมของบางคนจึงไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการอบรมจิตใจ ตั้งแต่อดีตชาติมาจนถึงชาตินี้ การพูดคุยหรือเข้าใจในภูมิธรรมถึงจะเข้าใจได้ การที่คุณได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนาและมีโอกาสพามารดาไปปฏิบัติธรรมด้วยกันแล้ว อย่างน้อยๆผมเชื่อว่าคุณก็ต้องสะสมมาเหมือนกัน
    คุณสามารถให้ความรู้กับบิดาได้ โดยค่อยๆให้ความรู้พื้นฐาน ต้องเปิดอกคุยกันอย่างตรงไปตรงมา คือคุยด้วยเหตุผลอย่าใช้อารมณ์
    1. ต้องถามว่า พ่อคุณนับถือศาสนาอะไร.. และถามเขาว่าเพราะอะไรถึงนับถือศาสนานี้
    และเข้าใจอะไรบ้าง และลองเปรียบเทียบให้เขาเห็นว่า การทำทานมีประโยชน์อย่างไร ต้องยกตัวอย่างที่เข้าใจง่ายก่อน เช่น ถ้าเราเอาของไปแบ่งปันเพื่อนบ้าน เขาก็จะรู้สึกดี และอนาคตก็จะแบ่งปันเราตอบ หรือ ถ้าเรามีผืนนา ถ้าเราหวงเมล็ดข้าวไม่ยอมหว่านลงไปในผืนนา เราจะมีรวงข้าวงอกเงยไหม.. ถ้าเราไม่หวงเมล็ดข้าว เราหว่านไปให้ทั่วเมื่อมันเติบโต มันก็จะงอกเงยและได้ผลมากกว่าเมล็ดที่อยู่ในกำมือ...
    เช่นกันการทำทานไม่ได้หวังผลในเดี๊ยวนี้ พรุ่งนี้ แต่เมื่อบุญหรือกรรมเราเหมาะสมเราก็จะได้รับผลนั้นเอง.. เช่นกัน ก็ลองเปรียบเทียบว่า ถ้าเราไปขอแบ่งปันอะไรกับเพื่อนบ้าน หรือใครที่ไหนก็ตามแต่ไม่มีใครให้เราเลยแม้แต่คนเดียวเราจะรู้สึกอย่างไร... กับการที่เราไปที่ไหนมีแต่คนแบ่งปันให้เรา... เช่นกัน เราก็บอกว่า พระต่างจากปุถุชนอย่างไร.. จากทาน เริ่มเข้าไปที่หัวข้อศีล ก็บอกพ่อว่า พระท่านถือศีล 227 ข้อ มีความบริสุทธิ์ของใจมากกว่า เราที่ถือศีลห้าข้อ เราไปทำทานที่วัดด้วยใจบริสุทธิ์ บุญที่ได้ก็บริสุทธิ์ ซึ่งก็ต่างกับการให้เงินคนขี้เหล้า.. พ่อคิดว่าเราจะได้บุญแบบไหนมากกว่า........ จากนั้นก็ชวนท่านไปทำบุญบ่อยๆ พาไปปล่อยนกปล่อยปลาบ้าง พาไปถวายหลอดไฟบ้าง... ก็ค่อยๆให้ความรู้ไป ... บอกว่า ถ้าเกิดเราตายขึ้นมา ของพวกนี้เราก็เอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง... นี่ไม่ได้แช่ง แต่สอนถึงมรณานุสติ คือ ให้ปล่อยวางไม่ยึดติดแต่สิ่งของ.. ให้ลองคิดดูว่า ถ้าเรามีเงินอยู่แต่เราไม่ได้เอาไปลงทุนหรือต่อยอดหรือฝากธนาคาร เราจะมีเงินเพิ่มขึ้นไหม.. แล้วถ้าเรามีเงินหนึ่งร้อยบาท แต่เราใช้อย่างเดียวไม่หามาเพิ่ม เงินก็หมดไป.... เช่นกัน ถ้าเราตายไปหลังจากนี้ บุญกรรม ก็จะนำทางเราไป........ นี่คือการให้ความรู้ ซึ่งจะบอกคุณว่า ไม่ใช่ว่าจะให้บอกสิ่งเหล่านี้หมดภายในวันเดียว แต่ค่อยๆบอกเวลาเราจะไปเราก็อธิบายให้ความรู้ท่านทีละอย่าง ให้ท่าน สะกิดที่ใจ ไปเรื่อยๆ อาจจะนานเป็นปีก็ต้องอดทน... และเราต้องเชื่อมั่นในหัวใจเราว่าต้องทำได้... ทำไปเรื่อยๆตราบใดที่เรายังรักท่านอยู่.... ผมขอให้คุณสู้ครับ
     
  5. นภาฟ้าใส

    นภาฟ้าใส Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2011
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +36
    ขอบคุณทุกท่านสำหรับคำตอบค่ะ จะพยายามทำตามคำแนะนำของทุกท่านให้ได้ค่ะ
     
  6. pasit_99

    pasit_99 การเวียนว่ายตายเกิดนั้นน่ากลัว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,669
    ค่าพลัง:
    +3,460
    คุุณอาจจะลืมไปนะ...
    การทำบุญ ไม่ใช่การบริจาคทานด้วยเงินให้วัดอย่างเดียว
    การถือศีล ไม่ไช่ว่าถือเฉพาะที่วัด
    การปฏิบัติธรรมก็สามารถปฏิบัติได้ตลอดเวลา ไม่ใช่
    ปฏิบัติธรรมเฉพาะที่วัดเท่านั้น

    อยู่บ้าน หรือที่ไหนๆ เราก็ทำทาน ถือศีล ปฏิบัติธรรมได้ทั้งนั้นแหละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2011
  7. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,800
    ทำบุญกับวัดก็ดีครับ แต่ทำบุญกับพ่อแม่ด้วยย่อมดีกว่า

    ถ้าเป็นเงินที่พ่อคุณหามาด้วยความลำบาก และท่านไม่เต็มใจ ก็อย่าทำให้ท่านลำบากใจ

    บาทเดียวก็เป็นบุญ เอาเงินที่จะกิน แบ่งเอาไว้ทำก็ได้ โดยที่ไม่ต้องขอท่านเป็นการเฉพาะ

    หยอดวันละบาท จะได้สบายใจตั้งแต่ยังไม่ได้ทำ เพราะถ้าทำไปด้วยจิตเศร้าหมอง

    ผลบุญมันจะไม่สำเร็จประโยชน์อย่างเต็มที่ครับ แต่ถ้าทำด้วยใจที่เปี่ยมไปด้วย

    ความยินดี ทั้งก่อนทำ ขณะทำ และหลังจากที่ทำ ผลบุญก็จะมหาศาลครับ

    สู้ต่อไปครับ ^___^
     
  8. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    บริหาร ทุก อย่างในบ้านด้วย สติ สิครับ พอมีสติคุณจะมองออกว่า เราจะบริหารความสัมพันธ์กับคน และ งานอย่างไร ทำทุกอย่างด้วยความเป็นกุศลนะครับ
     
  9. นภาฟ้าใส

    นภาฟ้าใส Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2011
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +36
    ตอนนี้เรื่องการไปที่วัดหนูคิดว่าคงต้องปรับที่ตัวหนูเอง แต่หนูก็ยังอดเป็นห่วงพ่อเรื่องความคิดที่เค้ามีต่อเรื่องกรรมไมไ่ด้น่ะค่ะ เพราะว่าถ้าคุยเรื่องพวกนี้ด้วยเค้าจะไม่รับเลยแล้วโมโห ไม่รู้ว่าจะมีบุญพอที่จะพาเค้าเข้าทางธรรมได้บ้างมั้ย เชื่อเรื่องกฏแห่งกรรมบ้างก็ยังดี
     
  10. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ถ้าคุณมีสติ คุณ จะมองภาพรวมออกว่า จะจัดการกับท่านอย่างไร ทริค มุข ต่างต่าง กุศลหรือ ความเบิกบาน คุณต้องนมสิการให้มีตลอดเวลานะครับ ไม่ใช่ว่าท่านอาจจะไม่ใช่คนที่เชื่ออะไรแบบนั้นแต่ จิตท่านไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร แต่คนที่ทุกข์ร้อนเป็นเราแทน มันไม่ใช่เรื่องนะครับ อยากให้คนอื่น เบิกบาน คุณ ต้องเบิกบานก่อน เจริญสติครับ หาความรู้ปริยัติ เพิ่มเติมแล้ว ปฎิบัติ พุทธะคือ รู้ ตื่น เบิกบาน ไม่เศร้าหมองนะครับ แสงสว่าง ไม่มืดมน
     
  11. xushukung

    xushukung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +465
    ผมเป็นคนนึงที่ไม่ค่อยได้ไปทำบุญที่วัดบ่อยครั้งนัก บอกตามตรงทำกับข้าวไม่เก่ง ถ้าแม่ไปก็ไปด้วย ผมเชื่อว่าการทำบุญทำได้หลายวิธี โอกาสมีมากมาย การใส่บาตรทำบุญเป็นเพียงการทำบุญแบบหนึ่งเท่านั้น ถ้ามีโอกาสได้ช่วยคน หรือทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อตนและคนอื่นแล้วไม่เดือดร้อนผมทำหมด การปฏิบัติธรรมวิปัสนากรรมฐาน ก็เช่นกัน มันทำได้ไม่ยาก เพียงแต่ว่าอยากทำจริงหรือป่าว ผมเชื่อว่า ใน 24 ชัวโมง ต้องมีอย่างน้อยสักนาทีนึงละน่าที่เราจะสามารถทำได้ ไปทำที่วัดไม่ได้ก็ทำที่บ้าน นั่งทำไม่ได้ ก็นอนทำ นอนทำไม่ได้เวลาทำงานก็ทำได้ มันทำได้ง่าย และก็ได้อนิสงฆ์มาก เป็นบุญที่ทำแล้วได้บุญทันตาเห็นเลย ได้ทั้งกับตนเองและคนรอบข้าง อย่าเพิ่งคิดว่าจะจัดการกับคนรอบข้าง หรือสภาวะรอบข้างยังไง หาทางจัดการกับตัวเองก่อนดีที่สุด ขออวยพรให้คุณหาทางออกได้นะครับ
     
  12. นภาฟ้าใส

    นภาฟ้าใส Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2011
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +36
    ขอบคุณสำหรับคำตอบของทุก ๆ ท่านจริง ๆ ค่ะ ให้สติได้เยอะเลย
     
  13. surapong chot

    surapong chot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +1,212
    ถ้าเป็นผม ๆ จะขอบุญบารมีที่เกิดจากการภาวนา ขอให้เทวดาทั้งหลาย และที่อยู่รักษาพ่อ ช่วยหยุดพูดขัดขวาง ไม่ให้ทำบุญ หรือให้ไปภาวนาที่วัด ตลอดจนกว่าพ่อจะหยุด
    เพราะพ่อเป็น คนให้เงินเราไป ทำทั้งบุญและทาน ดังนั้นเราจะต้องนึกถึงพ่อก่อน
     
  14. @^น้ำใส^@

    @^น้ำใส^@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2,330
    ค่าพลัง:
    +4,674
    ทาน ศีล ภาวนา (เจริญสติ) ทำได้ทุกที่ทุกเวลาทุกโอกาสนะคะ อย่ากังวลมาก ส่วนพ่อจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่ท่านนะคะ เราไม่ต้องกังวลมาก แต่สิ่งสำคัญเราต้องมีสติ ระงับอารมณ์ ความคิดในแง่ลบต่างๆ อย่าปรุงแต่งต่อ จะทำให้เกิดมโนกรรมต่อกันได้ ส่วนผลจากการหมั่นทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา จะทำให้เราเป็นคนสงบเย็นขึ้น ซึ่งถ้าท่านสัมผัสได้ ท่านก็จะรับรู้ถึงอานิสงค์ของการทำความดีเหล่านั้น ดังนั้น สิ่งที่เราจะบอกคือ ทำตัวของเราเองให้ดีก่อน เมื่อเราดีแล้ว คนรอบข้างจะได้รับกระแสของความดีเหล่านั้น แล้วถ้าบุญเค้าถึง เค้าก็จะเข้าใจ และทำในสิ่งที่ถูกต้องเองนะคะ

    ความคิดไม่ดีเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ก็รู้แล้วปล่อยมันซะ ไม่ต้องปรุงแต่งต่อ เดี๋ยวมันก็ดับไปเอง แล้วจะทำให้เราเข้าใจความเป็นจริงของสรรพสิ่ง คืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    เป็นกำลังใจให้นะคะ ^__^
     
  15. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    อืม.....
    เอิ่ม.......
    ถ้าเป็นข้าน้อยนะ

    พอพ่อดุปุ๊ป น้ำตาไหลพรากๆซ้ายขวาทันที
    แล้วให้พ่อเลือก ว่า พ่อเลือกเอา ว่าจะให้ลูกไปทำบุญที่วัด หรือไปสูบกัญชา พ่อเลือกซี (ซิกๆๆ งึดๆๆ โฮๆๆๆ.....)

    แน่นอนพ่อต้อง เลือกให้เราไปวัดแหล่ะ
    ยังไงพ่อก็ต้องรักเราที่สุดในโลกอยู่แล้ว ล่ะน่า
     
  16. ดินหอม

    ดินหอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +187
    หนูเอ๋ยอย่าห่วงพ่อเรื่องที่เขาไม่เอาศาสนาไม่เชื่อเวรกรรมอะไรเลย ห่วงเรื่องเราและแม่จะปรนิบัติพ่ออย่างไรให้เขาสุขใจดีกว่า ทุกวันนี้พ่อต้องทำงานหาเงินเลี้ยงเราและแม่ ค่าน้ำไฟอาหารบ้านรถบัตรเคดิตเดือนๆแทบชนเดือน เหนื่อยแทบขาดใจกลับบ้าน แทนที่จะเจอหน้าลูกเมียออกมาเปิดประตูต้อนรับพร้อมรอยยิ้มน้ำเย็นๆ อาหารพร้อมเสพกินร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อนี่อร่อย พ่อนี่ฝีมือหนูนะ อันนี้แม่ทำให้พ่อสุดฝีมือ เปล่า..กลับมาเจอแต่ไอ้ตูบนั่งกระดิกหางเห่าโบ้งๆดีใจต้อนรับพ่อกลับบ้าน..แต่ลูกเมีย...อ้าว..ไปวัดกันหมด ให้พ่อหาแคะตามตู้เย็นกินเอา กลับมาก็โดนพ่อบ่นทั้งแม่และเราก็พลอยทะเลาะ เกียจชัง พิพากษาว่าพ่อเราไม่ดีเลวชั่วไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษเวรกรรม ไม่อยากเข้าไกลพากันถอยห่าง ถามว่าหนูไม่ได้พาแม่ลงนรก แต่ยังพาพ่อลงนรกไปด้วย
    บ้านเป็นสวรรค์ร่มเย็นปลอดภัยกลับกลายเป็นนรกโลกันต์ มีแต่เสียงด่าทอกระทบกระเทียบ สาปแช่ง หวาดระแวงประสงค์ร้าย อึดอัดรุ่มร้อนดุจไฟนรก
    ลูกเอ๋ยอย่าไปเอามาตราฐานความดีความชอบ ตามกระแสอุปทานประโลมโลกเลย จงเคารพกราบไหว้พ่อแม่และตัวเราดุจเดียวกับกราบไหว้บูชาเคารพพระพุทธเจ้า การให้ทานจงให้ทานพ่อแม่ตัวเราให้อิ่มเพียงพอ จึงนำสิ่งที่เกินพอไปทำทานแบ่งปันผู้อื่น ไม่ใช่คนในบ้านยังทุกข์ยังหิว แต่ดันขนไปให้ใครก็ไม่รู้ ไม่ได้บุญแต่ได้บาป การเข้าหาศาสนาคือการเข้าไปเพื่อหาทางบรรเทาทุกข์ดับทุกข์ ไม่ใช่เพิ่มทุกข์ให้ตนและผู้อื่น ไม่ใช่เพื่ออวดต่อสายตาชาวบ้านว่าเราเป็นคนดีมีศีลธรรม แต่นั่งบนไปกองไฟนรก พาแม่กลับมากราบขอโทษพ่อ ช่วยกันทำให้พระอรหัตถ์กินอิ่มนอนอุ่น หลังพ่อไปทำงานแม่ลูกพากันทำความสะอาดบ้านช่องให้สะอาด เสื้อผ้าพ่อต้องดูแลซักรีดอย่างดี เสร็จงานบ้าน ก็พากันเรียนธรรมะ สวดมนต์ภาวนาปฏิบัติสมาธิอานาปาณสติที่บ้านทำทุกวัน จิตสบายหน้าตาหนูและแม่จะสดชื่นแจ่มใส เสร็จแล้วเตรียมอาหารเย็น พ่อกลับมารีบเปิดประตูรับช่วยหิ้วกระเป๋าข้าวของ น้ำเย็นถึง พ่ออาบน้ำนะคะ อาหารพร้อมรอเสริฟอยู่คะ บ้านกลายเป็นสวรรค์เพราะมีเทพธิดา2องค์ดูแลรักษาอยู่ ทำทุกวันอรหัตถ์จะแปลกใจเอะ..เธอ2คนทำอย่างไรจึงมีสุขได้เช่นนี้บอกพ่อบ้างซิ คราวนี้แหละเราสองคนกับแม่ รู้ธรรมะอะไรก็บอกเรียนท่านไป ชวนกันปฏิบัติสมาธิ เพียงเท่านี้เราสามคนพ่อแม่ลูกก็ได้ขึ้นสวรรค์พร้อมกันแล้วจ้า..
    ทำได้ไหมจ๊ะ กุศลบุญพาพ่อแม่พี่น้องพบทางธรรมะได้อย่างน้อยก็ได้เป็นพระโพธิสัตว์ ดั่งเจ้าแม่กวนอิมเหาะลงไปโปรดพ่อในนรกภูมิ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2011
  17. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ทำตามบิดาสิครับ

    บุญทำเมื่อไหร่ก็ได้ ที่ไหนก็ได้ วิธีไหนก็ได้เยอะแยะไปหมด

    เจริญสติ นั่งสมาธิ ทำเอง คิดดี พูดดี ดูแล พ่อ แม่

    แค่นี้ก็ได้บุญมากแล้วครับ
     
  18. เอทัศน์

    เอทัศน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    330
    ค่าพลัง:
    +807
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านข้างต้นค่ะ..
    คุณแม่และน้องลองปฏิบัติธรรมรักษาศีล 8/บวชใจที่บ้านดูมั้ยคะ..จะได้ไม่สิ้นเปลืองเงินทอง และสามารถดุแลบ้าน และปรนนิบัติพัดวีพ่อได้..ความไม่พอใจจากการปล่อยให้พ่อท่านทำงานคนเดียวอาจลดน้อยลงได้..อย่างที่หลายๆท่านกล่าวข้างต้น..บุญทำได้ทุกที่ค่ะ..ไม่จำเป็นต้องไปที่วัดค่ะ..ขอเพียงทำให้ถูกวิธี
    อีกทั้งการที่จะพาพ่อเข้ามาสู่ร่มของพระพุทธศาสนา..ลองเปิดเทปธรรมมะค่ะ..เปิดให้เค้าได้ยิ้นด้วย..โดยเลือกเอากรรมที่พ่อกำลังสนใจอยู่มาแกล้งเปิดค่ะ..เช่น สมมุตินะคะถ้าพ่อกำลังสนใจข่าวเกี่ยวกับมีคนทารุณสัตว์..แล้วท่านก็วิจารณ์ในเชิงที่ว่าคนพวกนี้มันบาปอะไรพวกนี้ค่ะ..ให้ไปหาเรื่องกฎแห่งกรรมที่เกี่ยวกับการทารุณสัตว์ หรือ การฆ่าสัตว์แล้วได้รับผลกรรมเช่นไร..ทำแบบนี้เรื่อยๆ แต่ต้องหมั่นคอยสังเกตุว่าท่านสนใจเรื่องอะไร แล้วเราก็หาเรื่องธรรมะมาแทรกค่ะ..ท่านจะค่อยๆเห็นภาพของความน่ากลัวของกรรมไม่ดี ความน่ากลัวของนรก..แล้วท่านจะเข้าหาทางธรรมเอง..แต่ต้องระวังอย่าไปทักหรืออย่าแซว
    เพราะท่านจะต้องกลัวเสียฟอร์ม..บ้างจะพาลเป็นไม่สนใจไปเฉย..ให้ทำเป็นเรื่องปกติไป..

    ลองทำดูนะคะ..ที่ผ่านมาเจอคนแบบนี้หลายคน..ก็ใช้วิธีนี้ได้ผลค่ะ...พาท่านเข้าวัดได้จะดีมากเลย..แต่อย่าไปบังคับ อย่าทำไม่พอใจ..และต้องปรนนิบัติดูแลท่านให้ดี..สักวันก็จะดีเองค่ะ
     
  19. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    เราเป็นคล้ายๆเธอนะ เราได้ผจน โดน กดน้ำ(รอดมาแบบแปลกๆเหมือนกัน) คำสาปแช่งมาแต่เด็ก ตีแบบไร้เหตุผล ป่วยก็ไม่เชื่อ ดูถูกเหยียดหยาม
    จะตายอยู่ตรงต้อง รพ แน่ ไม่งั้นตาย จะโทรไปหาคนที่เรียกว่า พ่อ คนที่เราคิดว่าเค้าก็เคยว่าต้องให้น้ำเกลือแน่ก็ยังไม่มา พาเรา พ.ร. แต่กับโทรไปถามคนที่เราคิดว่าแม่ โกหกสารพัด จนเชื่อ แล้วคนที่เราคิดว่าเป็นพ่อ เค้าก็โทรมาด่าเรา เฮ้อ
    มีครั้งนึงเค้าบอกว่าอยากได้ไรก็เก็บเงินซื้อเอง พอเราทำตาม เค้ามาตรวจกระเป๋าดูเงิน
    เค้าเค้นเอาความจริงสารพัดผลสุดท้ายเค้าบอกเสียดายเงินตีผมด้วยไม้หน้า3

    สุดท้ายเราผม ก็ได้เจอพ่อแม่ตัวจริิง ที่ยิ่งกว่าจริง ความเจริญ ความดีมีอยู่จริง
    เพราะผมรักพ่อแม่เชื่อพ่อแม่ตั้งแต่ยังไม่เห็นรูปลักษ์ที่แท้จริง ความศัทธราที่มีตั้งแต่เกิดโดยไมรู้ตัวและเป็นสิ่งผมค้นหาเพิ่งจะอายุประมาณ 17-18

    ประสบการณ์แปลกๆ ผู้มั่นในพ่อแม่ทั้งหลายและมันในความถูกต้องความดีงาม

    เค้าตีผมด้วยไม้น่าสามผมใช้แขนรับแต่ทว่าต้อง ฉงนใจ มันไม่มีความเจ็บเลยสักนิดเดียวไม่ช้ำ
    ทั้งที่ไม่ได้ใ่ส่พระเครื่องอะไรเลย
    ผ่านการ รอดตายได้หลายครั้งทั้งๆคนอื่นที่เค้าถึง รพ แล้วยังไม่รอดแต่เรารอดแบบฉงนเสมอ
     
  20. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    เอา ธรรม ของตนให้นิ่งเสียก่อน อยู่ ที่ใหนก็มีธรรมได้

    พอ ธรรม ของเราพอประมาณเเล้ว เราก็ยกให้เขาเห็น ประจัก ในธรรมนั้นๆ ซักบทนึง
    เอาให้เห้นถึงประโยชของการปติบัติธรรม ทําให้เขาเห็นใน ธรรม ของเรา ทําให้เขาเห็นใน ธรรม ของ ทํา

    เเล้ววันนึงเมื่อเราใช้ธรรม พิสูจให้เขาเห็น ว่า ธรรมคืออะไร ธรรมช้วยอะไรได้บ้าง

    เมื่อนั้นเขาก็จะวิ่งเข้าวัดไปเอง

    ส่วนที่บอกว่า คิดไม่ดีกับพ่อนั้น นั้นก็เป็นตัวบ่งชี้ได้ว่า ธรรม ของคุณยังไม่พอที่จะไปโนมน้าวใครได้
    เพราะลําพังตัวคุณเองยังใช้ธรรมได้ไม่ดีพอ ถ้าเรารู้จักในธรรมดีพอ ประมาณหนึ่งเเล้ว

    จิตที่ ขุ่นมัว เวลาพ่อห้ามไปวัด มันจะหายไป

    เยธัมมา เจริญใน ทํา เจ้าค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...