เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 15 พฤษภาคม 2010.

แท็ก: เพิ่มแท็ก

หน้า 2266 ของ 2289

หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2007

โพสต์:

32,522

กระทู้เรื่องเด่น:

1

ค่าพลัง:

+210,857
อ่านเจอบทความของนักสะสมที่เขียนวิเคราะห์พระเนื้อผงของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยองไว้อย่างน่าคิด ผู้เขียนบทความท่านนี้ไม่ใช่เซียนซื้อ-ขายพระ แต่เป็นนักสะสมและศรัทธาหลวงปู่ทิมจึงค้นหาข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง เห็นว่าเป็นอีกมุมมองหนึ่งที่น่าคิดและน่าสนใจมาก จึงอยากให้ผู้ที่เคยเชื่อตามคำบอกเล่าได้อ่านและคิดตาม ไม่ต้องเชื่อทั้งหมดที่อ่าน เพียงแต่อยากให้เก็บมาคิดพิจารณาไปด้วยพร้อมๆกับการอ่านบทความนี้

อยากบอกเพิ่มเติมเล็กน้อยว่า ทั้งพระเนื้อผง ทั้งพระเนื้อโลหะของหลวงปู่ทิมนั้น บางอย่างบางเรื่องหากเปิดเผยออกมาทั้งหมด รับรองว่าวงการพระต้องสะดุด และต้องมีเสียงโวยวายด้วยหลากหลายอารมณ์ ใครศรัทธาอย่างไรก็คิดเอาเอง หลวงปู่ก็ยังเป็นหลวงปู่ที่เป็นอมตะอยู่ตลอดไปนั่นเอง เห็นเหมือนกันแต่อาจคิดต่างกัน รู้เหมือนกันก็อาจบอกไม่เหมือนกันได้ แต่บทความของนักสะสมท่านนี้วิเคราะห์ได้ใกล้เคียงมากที่สุด
https://www.facebook.com/Nummuangklang, Line ID: siamaraya

หนุ่มเมืองแกลง, 24 กรกฎาคม 2011

#45301
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2007

โพสต์:

32,522

กระทู้เรื่องเด่น:

1

ค่าพลัง:

+210,857
 [FONT=&quot]ข้อมูลการสร้างพระเนื้อผงของวัดละหารไร่ ในยุคแรก ๆ [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]

[FONT=&quot]พระเครื่อง หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ระยอง[/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]บทนำ[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ต้องกล่าวต่อผู้อ่านทุกท่านก่อนว่า ผู้เขียนไม่ได้เป็นนักขายพระ หรือเซียนพระ และไม่มีร้านหรืออะไร ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของพระเครื่อง เป็นเพียงผู้ที่ศรัทธาต่อองค์หลวงปู่ทิม อิสริโก แห่งวัดละหารไร่ ดังเช่นบุคคลทั่วไปเท่านั้น ผู้เขียนเองมีอาชีพประจำ ที่สามารถเลี้ยงปากท้อง และครอบครัว พอให้มีความสุขได้ตามอัตภาพ โดยไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจเกี่ยวกับพระเครื่อง หรือเป็นเซียนพระ และอีกเรื่องหนึ่ง ที่ผู้เขียนไม่สามารถทำให้ได้ก็คือการดูพระเครื่อง เพราะเกรงว่าจะไปขัดกับเจ้าของพระเข้า เกรงว่าปัญหาต่าง ๆ จะตามมาอีกมากมาย การเขียนนี้อาจไม่มีภาพประกอบให้ดูน่าสนใจนัก เพราะไม่สามารถนำภาพพระเครื่อง ต่าง ๆ ที่ไม่ได้เป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเองมาเพื่อให้ดูเป็นตัวอย่างประกอบ เพราะอาจเกิดปัญหาตามมาเช่นกัน ทั้งจากลิขสิทธิ์ และข้อวิเคราะห์ของผู้เขียนเอง ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่า ผู้เขียนจะเขียนเรื่องราว ต่าง ๆ ที่เชียร์หรือเพื่อปั่นหรือปลุกกระแสพระเครื่อง เพราะไม่ต้องปั่นกระแส ณ เวลานี้หลาย ๆ ท่านรวมทั้งผู้เขียนก็คงไม่มีปัญญาหาซื้อ หรือบูชาพระครื่องของหลวงปู่ทิมท่านได้ [/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot] ก่อนอื่น ผู้เขียนขอแยกกลุ่ม พระเครื่องของหลวงปู่ทิมโดยจะแบ่งเป็น [/FONT][FONT=&quot]2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ วัดสร้างเอง และมีนายทุนหรือผู้สร้างจากภายนอกมาสร้างถวาย [/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot] พระเครื่องของหลวงปู่ทิม ประเภทที่วัดทำเอง หมายถึงทำกันเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่การทำแม่พิมพ์ การจ้างโรงงาน หรือมีผู้ทำมาถวาย การทำผง ลบผง การผสมผง การกดพิมพ์พระ ทั้งนี้การเกิดขึ้นของพระต่าง ๆ ที่ทำกันเอง หลักใหญ่ก็มาจากหลวงปู่ กรรมการวัด พระและเณรรวมทั้งลูกศิษย์ลูกหาในยุคดังกล่าว ซึ่งภาพรวม ๆ ก็จะเขียนพระเครื่องที่วัดสร้างเองเป็นส่วนใหญ่ และเพิ่มแนวคิดวิเคราะห์ความเป็นไปได้ให้ผู้อ่านได้คิดพิจารณาตามไปด้วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจ (ช่วงนี้ก็หมายความรวมถึงแม่พิมพ์พระขุนแผนพิมพ์ใหญ่ที่ อาจารย์ดุษฏี ศิริโวหาร จ้างให้โรงงานข้างนอกแกะมาถวาย โดยเอาแม่พิมพ์หินมีดโกนเดิมไปเป็นแม่แบบ เพื่อทดแทนแม่พิมพ์หินมีดโกนเดิมที่แตกร้าว)[/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot] พระเครื่องอีกอย่างหนึ่ง คือประเภทที่มีนายทุนมาสร้างให้ และให้ท่านปลุกเสก เช่น ชุดพระเครื่องชินบัญชร ที่คุณชินบัญชร สุขสถิตย์ เป็นผู้สร้างถวย และพระที่หลวงตาบางท่านทำมาแล้วให้หลวงปู่ท่านปลุกเสก ซึ่งก็มีสมเด็จหลังยันต์ห้า และสมเด็จหลังยันต์สามเป็นต้น พระเครื่องกลุ่มนี้จะไม่เขียนถึง เพราะความชัดเจนยังมีมากกว่าพระที่วัดทำเองประเภทพระเนื้อผงต่าง ๆ ที่สร้างในยุคต้นของวัดละหารไร่ เพราะชุดที่มีนายทุนมาสร้างให้ มีรายละเอียดมีให้หาได้มาก มีการบันทึกไว้ก็มาก แต่สิ่งที่ควรระวังเป็นพิเศษสำหรับพระเครื่องกลุ่มนี้ก็คือของที่ทำเลียนแบบ หรือของมาทีหลังและหลวงปู่ไม่ได้เสกที่เหมือนกันทุกอย่าง ชนิดแยกแยะลำบาก[/FONT]

https://www.facebook.com/Nummuangklang, Line ID: siamaraya

หนุ่มเมืองแกลง, 24 กรกฎาคม 2011

#45302
- ถูกใจ x 2
- ดูรายการ
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2007

โพสต์:

32,522

กระทู้เรื่องเด่น:

1

ค่าพลัง:

+210,857

 [FONT=&quot]พระขุนแผนพิมพ์ใหญ่ วัดละหารไร่[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot] ลักษณะพิมพ์ทรงขององค์พระขุนแผนพิมพ์ใหญ่คงไม่ขอกล่าวถึง เพราะผู้อ่านทุกท่านคงทราบดีอยู่ว่าเป็นอย่างไร ปัจจุบันราคาพระขุนแผนพิมพ์ใหญ่ ของหลวงปู่ทิมนั้น ราคาที่เล่นหาแพง จนถึงแพงมาก ๆ ขนาดที่ว่าจะหามาแขวนสักองค์ หากไม่ใช่ระดับอาเสี่ย คงต้องอดข้าวไปหลายเดือน แต่วงการพระเครื่อง ที่เล่นหาพระขุนแผนพิมพ์ใหญ่นี้ ก็แบ่งกันเป็นกลุ่ม ๆ โดยบางกลุ่มก็เลือกเล่นเฉพาะบล๊อคใดบล๊อคหนึ่ง หรือเล่นทุกบล๊อค ซึ่งหลัก ๆ ก็มีอยู่สามบล๊อคคือ บล๊อคลองพิมพ์หินมีดโกน บล๊อคสอง และบล๊อคนิยม ตอนนี้ที่แพงหนักก็คือบล๊อคนิยม ต่อมาก็ลองพิมพ์ และตามมาด้วยบล๊อคสอง ส่วนเหตุผลที่มาที่ไป ก็ว่ากันไปตามความเชื่อของแต่ละกลุ่ม เซียนบางกลุ่มหรืออาจโดยส่วนมากก็มักกล่าวว่า แท้ที่ไหนขายที่นั่น ส่วนประวัติการสร้าง หรือความเป็นมาเป็นไปอีกด้านหนึ่ง ที่ผู้เขียนได้เก็บข้อมูลจากชาวบ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่ ที่รู้การสร้างหรืออยู่ในยุคใกล้เคียง จะเขียนให้อ่านพิจารณาตามหลักเหตุผล ความเป็นไปได้ ที่เป็นข้อมูลแบบบ้าน ๆ เพื่อให้เกิดความคิดเห็น และความเข้าใจอีกด้านหนึ่ง นอกเหนือจากความเข้าใจที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้[/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot] หากมองกันแบบเปิดใจให้กว้าง และสืบค้นหาข้อมูลข้อเท็จจริงต่าง ๆ ทุกท่านอาจเลิกเล่นพระขุนแผนพิมพ์ใหญ่ไปเลยก็ได้ เพราะประวัติตื้นลึกหนาบางของพระที่เล่นหากันทุกวันนี้ก็ยังเถียงกันไม่จบไม่สิ้น เนื่องจากว่ากลุ่มไหนเล่นอะไร ก็ว่าไปตามนั้น หนำซ้ำยังสวด (กล่าวหา)พระพิมพ์อื่นว่าไม่ทัน แล้วคนที่ศรัทธาด้วยความจริงใจ แต่อยากหามาไว้ใช้บูชา เมื่อไม่มีความรู้ก็เลยไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร และจะเชื่อใครดี หากมองในแง่ของนักขาย หรือเซียนพระ คงไม่ได้สนใจนัก เพราะอันไหนที่ขายได้ มีกำไร นักขายหรือเซียนพระคงไม่ปฏิเสธเงินเป็นแน่ ประเภทว่าอันไหนก็ได้ หากขายได้และมีกำไรจากการขายถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot]ความจริงแล้วพระขุนแผนที่เล่นหากันอยู่ทุกวันนี้ ผู้เขียนก็สงสัยมานานแล้วเหมือนกันว่า ทำไมถึงต้องถกเถียงกันขนาดนั้น เรา ๆ ท่าน ๆ ที่นับถือและศรัทธาต่อองค์หลวงปู่ทิม ก็คงไม่สนใจ รู้เพียงว่าหากเป็นวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิมก็ดีเยี่ยมแล้ว จึงไม่ค่อยได้คิดหรือวิเคราะห์แง่มุมเหล่านี้มากนัก แต่เมื่อลอง ศึกษาและพิจารณาดูเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่มากขึ้น มองให้เป็นกลาง และคิดถึงหลักความจริง ความเป็นไปได้ ก็อาจพอเข้าใจได้บ้าง ซึ่งก็คงมีคนไม่น้อยที่สงสัยและคิดเหมือนกันกับผู้เขียนว่า ความจริงมันคืออะไรกันแน่ แล้วเหตุและผลมันเป็นอย่างไร [/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot]สื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หนังสือประวัติและหนังสือวัตถุมงคลของหลวงปู่ ไม่ว่าจะเป็นเล่มไหน หนังสือโฆษณาขายพระ สื่อที่ทันสมัยอย่าง [/FONT][FONT=&quot]Internet การเล่าสู่กันฟัง การถ่ายทอดประสบการณ์ การเรียนรู้เรื่องพระขุนแผนพิมพ์ใหญ่ของหลวงปู่ทิม ที่ออกมาสู่สายตาและการรับรู้ของนักนิยมพระเครื่องของหลวงปู่ทิมนั้น ไม่รู้ว่าหลาย ๆ ท่านได้สังเกตุสิ่งที่มันแปลก ๆ อยู่บ้างหรือเปล่า ซึ่งตัวผู้เขียนสังเกตุมานานพอควร ดังจะเห็นว่าสื่อต่าง ๆ ตามที่ได้กล่าวข้างต้นนั้น แนวทางการนำเสนอ จะเป็นแนวที่ลอกกันมาแบบไม่ค่อยแก้ไขเท่าใดนัก ส่วนรูปพระเครื่องต่าง ๆ ของหลวงปู่ก็ว่ากันไปตามความเชื่อของแต่ละกลุ่ม แต่อีกเรื่องที่อาจแตกต่างกันพอสมควรก็คือเรื่องต้นกำเหนิดผงพรายกุมาร ส่วนที่ไปที่มาเรื่องผงพรายกุมารเอาไว้คุยกันในตอนหลัง [/FONT]

https://www.facebook.com/Nummuangklang, Line ID: siamaraya

หนุ่มเมืองแกลง, 24 กรกฎาคม 2011

#45303
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2007

โพสต์:

32,522

กระทู้เรื่องเด่น:

1

ค่าพลัง:

+210,857
 [FONT=&quot]หรืออย่างเช่นพระปิดตาบัวผุด ที่ว่ากันว่าบัวเกิดขึ้นเองจากอ่างล้างหน้าของหลวงปู่ทิม และสร้างประมาณ [/FONT][FONT=&quot]22 องค์ แต่มีใครรู้จริงไหมว่า หลวงปู่ทิมมีท่านมีอ่างล้างหน้าหรือไม่ หากมีอ่างล้างหน้าจริง แล้วบัวมันจะเกิดขึ้นได้อย่างไรถ้าไม่ปลูกบัวไว้ แล้วอ่างล้างหน้าต้องปลูกบัวด้วยหรือ หากปลูกไว้เวลาที่ล้างหน้าก็คงไม่สะดวกก็ลองคิดกันดูเล่น ๆ ส่วนตามสื่อต่าง ๆ ก็ว่ากันว่าเมื่อท่านสำเร็จอภิญญา เทวดาต่าง ๆ ก็มาอวยพรและสร้างปาฏิหารย์โดยการทำให้บัวผุดขึ้นจากอ่างล้างหน้าของหลวงปู่ ท่านก็เลยตัดเอาบัวนั้นผสมกับมวลสารอื่น ๆ ทำเป็นพระ แต่มีคนรู้จริงหรือไม่ว่า พระพิมพ์นี้มีคนทางกำแพงเพรชเป็นคนสร้างมาถวายท่าน มากกว่า 200 องค์เนื่องเพราะความศรัทธาที่มีต่อหลวงปู่ นี่คือข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่หาคนรู้ได้น้อยมาก คนส่วนใหญ่ก็เชื่อในสิ่งที่เล่าลือเล่าอ้างโดยไม่ได้พิจารณาเหตุผลที่ควรจะเป็น พระที่ได้รับการปลุกเสกหรือ อฐิษฐานจิตจากหลวงปู่ทิม ล้วนป็นสิ่งสูงค่ายิ่งต่อผู้ได้ครอบครอง สิ่งนี้คือเรื่องที่ผู้เขียนเชื่อว่าเป็นอย่างนั้นจริง แต่สื่อที่นำเสนอนั้น ล้วนเขียนอะไรที่มันเกินเลยไปมาก โดยไม่ดูเหตุผลว่าสิ่งใดควรหรือไม่ควร แต่ต้นเรื่องของสื่อต่าง ๆ ก็มาจากคนที่อ้างตัวว่าเป็นศิษย์ครอบครูบางคน ที่เห็นแก่ประโยชน์ (เงิน) เพราะอันไหนสร้างน้อย ราคาต้องแพงแบบพิเศษหน่อย ตามหลักของ Demand-Supply ที่เป็นหลักการทั่วไปของการตลาด [/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot] มีอีกสิ่งหนึ่ง ที่สื่อต่าง ๆ เขียนหรือเล่าแบบไม่หมด หรือเล่าแบบกั๊ก ๆ หรือบางทีคนเขียนก็ไม่ได้รู้จริง คือกรรมวิธีการสร้างพระในสมัยก่อน ต่างก็ว่ากันอย่างนั้นอย่างนี้ คนนั้นกดบ้าง คนนี้กดบ้าง ก็อ้างกันไปทั้งจริงและไม่จริง แต่ก็ยังไม่น่ารังเกียจเท่า คนที่รู้หรือพอรู้ที่มาที่ไปทั้งหลาย กับเขียนไปอีกแนวทางหนึ่ง คนกลุ่มนี้มีผู้คนให้ความเคารพและนับหน้าถือตาก็มาก ด้วยความเชื่อว่าเขาทันหลวงปู่ และร่วมในเหตุการณ์การสร้างพระเมื่อครั้งอดีต หรือรู้ข้อเท็จจริง และเข้าใจที่ไปที่มามากที่สุด ด้วยความที่มีทั้งสื่อ เป็นทั้งนักขายพระและหรือเป็นนักสร้างพระ ผู้คนจึงเชื่อว่าหากคนกลุ่มนี้ เอ่ยอ้างอะไรมาก็คือเรื่องจริงและเชื่อถือกับสิ่งนั้นเสมอ แต่กลับลืมไปว่า คนบางคนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่หลาย ๆ คนคิดหรือคาดหวัง สาเหตุหลักก็คือเงิน ที่ทั้งเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ เปลี่ยนแปลงความศรัทธาที่บริสุทธิ์ในครั้งอดีตให้กลายเป็นเงินไปเสียสิ้น ข้อมูลที่ผ่านสู่สื่อสาธารณะจึงเป็นข้อมูลที่หาความจริงได้น้อยมาก และจึงเป็นที่มาของความเชื่อและความเข้าใจแบบผิด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนำไปสร้างเป็นตำรา และกระจัดกระจายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อให้คนที่ไม่เคยเห็น เคยรู้ ได้เข้าใจ แต่การสร้างความเข้าใจให้กับผู้ศึกษานั้นมันไม่ถูกมาตั้งแต่แรก กล่าวแบบง่าย ๆ ก็คือป้อนข้อมูลที่ไม่จริง โดยให้เชื่อว่าเป็นเรื่องจริงเรื่องที่ถูกต้อง หรืออีกนัยหนึ่งที่เขาเรียกว่า เปลี่ยนความคิดของผู้ศรัทธา โดยการให้ศึกษาในสิ่งที่อยากให้เป็น จึงเป็นที่มาของการเล่นหาแบบผิดทางมาตลอด ดังที่เป็นอยู่อย่างเช่นทุกวันนี้[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
[FONT=&quot] ข้อมูลอีกด้านหนึ่ง ที่ไม่ค่อยมีคนสนใจ หรือให้ความสนใจน้อยมาก ก็คือชาวบ้าน ทั้ง ๆ ที่ชาวบ้าน ที่ทันการสร้างพระชุดดังกล่าว รู้เห็นการทำ การสร้างและความเป็นไปในเรื่องต่าง ๆ แม้นว่าจะไม่ได้นั่งกดพระด้วยก็ตาม หรือแม้แต่คนที่กดพระเองที่ยังมีชีวิตอยู่ก็เถอะ ข้อมูลมันช่างแตกต่างจากที่เรา ๆ ได้ทราบกันมาก่อนหน้านั้นอย่างมากมาย บางส่วนก็มีบ้างที่ข้อมูลใกล้เคียง แต่เมื่อเทียบสัดส่วนแล้วต่างกันมากเหลือเกิน ชาวบ้านไม่มีสื่อ ไม่มีกระบอกเสียง ที่สามารถป่าวประกาศให้คนทั่วไปได้ทราบว่า ความจริงเป็นอย่างไร คนโดยทั่วไปได้รับสื่อเพียงด้านเดียว โดยไม่ทราบว่าความจริง ที่เป็นเรื่องจริงแบบแท้ ๆ นั้นเป็นอย่างไร และชาวบ้านเองก็ไม่มีเวลา ที่จะมานั่งชี้แจงเรื่องต่าง ๆ ให้ได้รู้ เพราะต้องทำมาหากินเลี้ยงปากท้องและครอบครัวซึ่งนั่นก็คือ [/FONT][FONT=&quot]“ชีวิต” และความเป็นจริง นี่คือเหตุผลว่า ความจริงที่เป็นความจริงโดยแท้ ไม่ได้ถูกเปิดเผยสู่สาธารณะ ข้อมูลด้านนี้เลยค่อย ๆ หายไปตามกาลเวลา โดยที่ไม่ค่อยมีคนสนใจบันทึกไว้ จนการเล่นหาพระขุนแผนหรือพระเครื่องที่เป็นเนื้อผง ค่อย ๆ ลบเลือนหายไปและก็คงเหลือไว้แค่ข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นโดยคนไม่กี่คน หรือคนบางกลุ่มเท่านั้น ซึ่งก็เป็นไปตามแนวทางที่คนไม่กี่กลุ่มกำหนดและขีดเส้นทางไว้ให้เดินไปตามนั้น โดยไม่สนใจเรื่องต่าง ๆ แต่จะเน้นเรื่องเงิน และผลประโยชน์เป็นหลัก หรืออีกอย่างหนึ่งก็คงกลัว เพราะมีการขายของที่เก๊และไม่ใช่ไปมากมาย หากความจริงปรากฏก็คงเป็นเรื่องราวใหญ่โต และวงการผู้นิยมพระเครื่องของหลวงปู่ทิม คงสั่นสะเทือนไม่น้อยทีเดียว[/FONT]

https://www.facebook.com/Nummuangklang, Line ID: siamaraya

หนุ่มเมืองแกลง, 24 กรกฎาคม 2011

#45304
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2007

โพสต์:

32,522

กระทู้เรื่องเด่น:

1

ค่าพลัง:

+210,857
 [FONT=&quot]เนื่องจากมีการแบ่งกลุ่ม พระขุนแผนพิมพ์ใหญ่จึงเถียงกันไม่จบ เมื่อสรุปกันไม่ลงตัวสุดท้ายก็ต้องทางใครทางมัน ใครชอบอันไหนก็เล่นอันนั้น พระองค์หนึ่งอยู่กับเซียนคนหนึ่งก็แท้ พอไปหาเซียนอีกคนหนึ่งก็บอกไม่ทัน สำหรับคนขายคงไม่มีปัญหามากนัก แต่สำหรับคนซื้อคงปวดหัวดีพิลึก ไม่รู้จะเชื่อใคร ไปปรึกษากลุ่มหนึ่งก็ได้ข้อมูลอย่างหนึ่ง พอไปปรึกษาอีกกลุ่มก็ได้ข้อมูลอย่างหนึ่ง อันไหนคือมาตราฐาน เมื่อข้อมูลเป็นอย่างนี้ แล้วความจริงเป็นอย่างไร คำว่า [/FONT][FONT=&quot]“สองมาตราฐาน” ที่เป็นคำยอดฮิต ในช่วงวิกฤติการเมืองที่ผ่านมา คงไม่ได้แตกต่างกันมากนัก คนขายก็คงไม่เท่าไหร่ แต่คนซื้อไปบูชานี่สิ เมื่อเข้าใจที่ไปที่มาที่ไป ที่เป็นเรื่องเบื้องลึกเบื้องหลังคงจิตตก เพราะไม่รู้ว่าที่ตัวเองแขวนอยู่นั้น มันใช่ทั้งนอกและใช่ทั้งในหรือเปล่า คำว่าใช่นอกก็คือแท้ตามสายตาเซียนพระ และพระนั้นสามารถแปรเปลี่ยนเป็นเงินทองได้ ส่วนแท้ในก็คือเป็นของที่หลวงปู่ท่านเสกจริง มีพุทธคุณคุ้มครอง และส่งผลกับผู้ใช้บูชาโดยตรง สำหรับพระที่เล่นหาในปัจจุบันนี้แท้นอก แต่ไม่แท้ในเสียเป็นส่วนใหญ่ (หรือที่เขาชอบว่ากันว่าแท้ขายได้แต่ไม่ทันเสก) ท่านผู้อ่านอยากแขวนหรือไม่ครับ..[/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot]เรื่องพุทธคุณที่ออกประกาศหรือลงตามสื่อต่าง ๆ ก็ว่ากันไป แต่ก็เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ยาก ว่านั่นคือเรื่องจริงหรือไม่ อาจมีทั้งผู้บริสุทธิ์ใจจริง ที่นำเสนอเรื่องที่ตนเองพบหรือประสบมา โดยเชื่อว่าเป็นเพราะพุทธคุณในวัตถุมงคลของหลวงปู่ จึงทำให้รอดมาได้หรือพบความโชคดีต่าง ๆ ดังนั้นจึงนำมาเสนอตามสื่อต่าง ๆ เพื่อเป็นการบูชาหรือเผยแพร่เกียรติคุณและพุทธคุณในวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิม ซึ่งเรื่องนี้ผู้เขียนคงไม่ขอกล่าวถึง เพราะเป็นเรื่องที่รู้ได้เฉพาะตน แต่ผู้เขียนก็ยังเชื่อว่าพระท่านดีจริง เพราะความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อหลวงปู่ทิมด้วยความบริสุทธิ์ใจ ที่แน่ ๆ ผู้เขียนไม่ใช่นักขายพระ ไม่ใช่เซียนพระ เป็นแค่เพียงผู้ที่ศรัทธาต่อองค์หลวงปู่ทิม และไม่ได้มีวัตถุมงคลของท่านไว้มากมายก่ายกอง แค่องค์สององค์ ที่แค่มีไว้แขวนบูชาเพื่อระลึกถึงท่าน และเป็นที่พึ่งทางจิตใจ ว่ามีท่านอยู่คุ้มครองเราอยู่เสมอ ก็เพียงพอและนับว่าเป็นบุญยิ่งแล้ว[/FONT][FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot]แต่ก็มีบางกลุ่มที่เผยแพร่แบบไม่ดูเหตุผลและความเป็นไปได้อะไรเลย สนใจเพียงอย่างเดียวคือเรียกแมงเม่าให้บินเข้ากองไฟ เพื่อที่จะสามารถขายของที่ตัวเองมีให้ได้ราคาดี ๆ หรือให้หมดจากสต๊อคเร็ว ๆ ก็อยากให้ทุกท่าน ลองพิจารณาให้ถี่ถ้วนในการรับข้อมูลต่าง ๆ ลองพิจารณาถึงหลักความเป็นไปได้ให้ดีเสียก่อน แม้แต่พระพุทธองค์ท่านยังทรงสอนเรื่องหลักความเชื่อ [/FONT][FONT=&quot]10 ประการไว้ให้เราได้พิจารณา และนำไปใช้ปฏิบัติ ดังนั้นเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ก็ควรฟังหูไว้หู ตามคำโบราณท่านกล่าวไว้ น่าจะดีกว่าการไปปักใจเชื่อ แล้วก็เกิดความอยากได้อย่างเขาบ้าง หรืออยากเป็นอย่างเขาบ้าง [/FONT]

https://www.facebook.com/Nummuangklang, Line ID: siamaraya

หนุ่มเมืองแกลง, 24 กรกฎาคม 2011

#45305
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2007

โพสต์:

32,522

กระทู้เรื่องเด่น:

1

ค่าพลัง:

+210,857
 [FONT=&quot]มีอีกอย่างหนึ่ง ที่ยังขาดไปกับช่วงการเขียนนี้ หากไม่กล่าวถึงเลยก็ดูกระไรอยู่ คือผู้เขียนเคยอ่านพบว่า หากเล่นพระที่เป็นมาตราฐาน (ทันเสกหรือไม่ทันไม่สำคัญ ขอให้แท้ตามแบบที่เซียนเขาเล่น) เวลาตกอับก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นเงินได้ อันนี้ผู้เขียนเห็นด้วย เพราะหากไม่เป็นมาตราฐานก็คงเปลี่ยนสภาพเป็นเงินไม่ได้ แนว ๆ นี้จะออกแนวพุทธพาณิชย์มากกว่า เมื่อพิจารณาและคิดอีกแง่มุมหนึ่งว่า การที่เราจะแขวนพระสักองค์ แล้วคิดว่าเมื่อลำบากแล้วอาจต้องนำพระออกขายเพื่อเป็นทางรอด เพื่อให้ความลำบากมันผ่านไปได้ แต่การที่เราแขวนพระก็เพื่อหวังพึ่งพุทธคุณ ดังนั้นเจตนาในเบื้องต้นของคนที่ศรัทธาจริงย่อมไม่มีเรื่องการนำพระที่ตัวเองใช้บูชาอยู่มาขายแน่นอน ผู้เขียนคิดว่าเจตนาคนเราไม่เหมือนกันอันนี้ก็อยู่ที่ดุลพินิจของแต่ละท่านเอง แต่สำหรับผู้ใช้บูชาเพื่อให้เกิดผลกับตนเอง หรือต้องการของที่ท่านทำไว้จริง ก็ต้องพิจารณาอีกแนวหนึ่ง[/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot]สำหรับตัวผู้เขียนเอง ก็รู้สึกตะขิดตะขวงใจว่า หากเราแขวนพระที่แท้ตามที่วงการเขาเล่นหากันแต่ไม่ทันท่านเสก แล้วบอกว่าเป็นของหลวงปู่ทิม ผู้เขียนก็รับไม่ค่อยได้ ถึงแม้ว่าพระนั้นจะเป็นมาตราฐาน (หมายความว่า เซียนหรือวงการเล่นหากันเป็นมาตราฐาน) และสามารถนำไปแปรเปลี่ยนเป็นเงินได้ก็ตาม แต่แขวนแล้วไม่ส่งผล หรือเงียบสนิท ก็ไม่รู้จะหามาแขวนให้หนักคอทำไม หากว่าพระที่แขวนแม้ว่าจะเอาไปขายที่ไหนไม่ได้ก็ตาม แต่หากเป็นของที่ทันท่านเสกผู้เขียนคิดว่าสำคัญกว่า เพราะแขวนเพื่อใช้บูชา เพื่อให้ท่านปกป้องคุ้มครองและเพื่อระลึกถึงท่านอยู่เสมอ ไม่ได้แขวนเพื่อขายแต่อย่างใด หากไม่ใช่ของที่ทันท่านเสก ก็ไม่รู้จะไปแสวงหาหรือเช่าบูชามาทำไมให้เปลืองทรัพย์เพราะแต่ละองค์ราคาไม่น้อยเลย เรื่องนี้ก็เป็นเพียงแค่ความคิดของผู้เขียนเท่านั้น ไม่ใช่บรรทัดฐานทั่วไป ส่วนท่านผู้อ่านจะคิดแบบใด ก็สุดแท้แต่จะพิจารณาเลือกเอาตามจริตของแต่ละท่านเอง[/FONT]

https://www.facebook.com/Nummuangklang, Line ID: siamaraya

หนุ่มเมืองแกลง, 24 กรกฎาคม 2011

#45306
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2007

โพสต์:

32,522

กระทู้เรื่องเด่น:

1

ค่าพลัง:

+210,857
 [FONT=&quot]ซึ่งบางท่านอาจคิดว่า แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าแท้ ว่าทันหรือหลวงปู่ทิมท่านเสกให้ หากไม่ให้เซียนหรือผู้รู้ทั้งหลายเป็นผู้บอกให้ ซึ่งผู้เขียนเองก็เคยคิดแบบนี้เช่นกัน แต่พอเริ่มศึกษากลับกลายเป็นว่าการที่จะไปพึ่งพาผู้รู้ หรือเซียน ๆ ทั้งหลายมันน่ากลัวกว่าที่คิดไว้มากมายนัก เลยพุ่งเป้าเรื่องการค้นหาไปที่ชาวบ้านแทน แต่พอได้ไปเรียนรู้หรือสอบถาม เมื่อได้ทราบจากคำบอกเล่าต่าง ๆ ของพระที่ทำกันในอดีต ไม่เหมือนกับพระที่เล่นหากันในปัจจุบันเลย แต่อีกอย่างที่ได้กลับมาเต็ม ๆ และเกิดเป็นการบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ให้ท่านผู้อ่านได้ศึกษาเพิ่มเติม ก็คือความรู้เรื่องการสร้างพระเครื่อง สีของพระ และเรื่องราวในอดีตที่ถูกปิดกั้นไว้ ที่แตกต่างกับที่เรารู้อย่างมากมาย ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายมาก และทำให้หูตาสว่างมากขึ้นทีเดียว[/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot]สำหรับผู้ขาย ที่รู้ตื้นลึกหนาบางในเรื่องนี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับคนหลอกลวง ที่คอยหากินบนความเชื่อ และความศรัทธาของผู้อื่นที่มีต่อหลวงปู่ทิม ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าละอายเป็นอย่างยิ่ง บางคนก็มีสโลแกนเสียสวยหรูว่า พระเก๊เคยซื้อแต่ไม่เคยขายพระเก๊ หรือซื่อสัตย์จริงใจ หรือคุณธรรมนำหน้า ออกแนว ๆ นักการเมืองที่โฆษณาสรรพคุณ ของพรรคการเมืองหรือของตัวเอง แต่บางคนก็ไม่รู้ไม่เข้าใจที่มา รุ่นพี่ ๆ สอนมาอย่างไรก็ว่าไปอย่างนั้น คนกลุ่มนี้ยังน่าให้อภัย เพราะไม่เข้าใจมาแต่ต้น แต่ก็มีบางคนที่รู้ว่าเป็นอย่างไร แต่เงินและผลประโยชน์มันไม่เข้าใครออกใคร จึงเป็นอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ โดยเฉพาะหลวงปู่ทิม ท่านคงเสียใจมากที่มีศิษย์เลว ๆ บางคน นำเอาชื่อเสียงของท่านมาหากินบนความศรัทธาของคนอื่นที่มีต่อท่าน เรื่องนี้ยังมีอีกมากมายนัก ทั้งทำพระเก๊ ทั้งยอมรับพระที่เก๊ ทำเป็นขบวนการ สร้างเรื่องต่าง ๆ นึกอยากเอาอะไรมาเป็นของหลวงปู่โดยไม่สนใจว่าจะจริงหรือไม่ ก็ทำกันหน้าตาเฉย แต่ผู้เขียนจะขอเขียนในบางเรื่องเท่านั้น หากกล่าวมากไปอาจกระทบกับวงการในวงกว้าง เอาแค่ให้รู้ และแค่พอเป็นข้อเตือนใจ[/FONT]

https://www.facebook.com/Nummuangklang, Line ID: siamaraya

หนุ่มเมืองแกลง, 24 กรกฎาคม 2011

#45307
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2007

โพสต์:

32,522

กระทู้เรื่องเด่น:

1

ค่าพลัง:

+210,857
[FONT=&quot]ท่านผู้อ่านอาจคิดว่า เมื่อผู้เขียนเข้าใจเรื่องนี้แล้ว ต้องมาเขียนให้เมื่อยทำไม เชื่ออันไหนก็แขวนอันนั้นไป ไม่ต้องมายุ่งกับวงการที่เขาเป็นอย่างนี้ไม่ดีกว่าหรือ ดีกว่าที่จะมาเขียนเรื่องที่มันขัดกับความรู้สึก ให้คนหลายกลุ่มหมั่นใส้ หรืออาจโดนต่อว่า ถากถางให้เสียผู้เสียคนได้ ผู้เขียนเองก็ยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นได้ เพียงแต่อยากเตือนสติ ผู้ศรัทธาทั้งหลายว่าความศรัทธาที่บริสุทธิ์ของเรานั้น อย่าให้คนกลุ่มนี้เอาไปใช้หลอกลวงเพื่อหวังประโยชน์ (เงิน) บนความศรัทธาของเรา ขอให้พิจารณาให้ถ้วนถี่ คิดให้ดีพิจารณาให้รอบคอบ ก่อนตัดสินใจเช่าบูชาพระหลวงปู่ทิมสักองค์หนึ่ง หรือแม้กระทั่งพระของครูบาอาจารย์ท่านอื่นก็ตเช่นกัน ซึ่งสุดท้ายมันก็อยู่ที่ดุลยพินิจของทุกท่านเอง[/FONT]

https://www.facebook.com/Nummuangklang, Line ID: siamaraya

หนุ่มเมืองแกลง, 24 กรกฎาคม 2011

#45308
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2007

โพสต์:

32,522

กระทู้เรื่องเด่น:

1

ค่าพลัง:

+210,857
 [FONT=&quot]ที่มาของการเขียนเรื่องนี้[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
[FONT=&quot]จากที่ได้ทราบ และได้รับรู้จากคำบอกเล่าของคนในพื้นที่ที่รู้เห็นการสร้างพระในอดีต และประมวลเหตุผลต่าง ๆ ในอดีต ทั้งผู้เล่าเองก็ไม่ได้เป็นกลุ่มคนที่รู้เรื่องพระเครื่อง หรือเป็นคนที่มีพระเครื่องอยู่มากมาย เพียงพอที่จะสร้างกระแสหรือปลุกปั่นอะไร จะมีก็เพียงแค่ไม่กี่องค์เท่านั้น และก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือรู้เห็นกับการเขียนครั้งนี้ ชาวบ้านกลุ่มนี้มีทั้งผู้ที่เป็นแม่ครัวที่มีอายุราว [/FONT][FONT=&quot]81 ปีแล้ว ในครั้งที่หลวงปู่ทิม ท่านยังทรงสังขารอยู่นั้น คุณป้าท่านนี้ก็อยู่เป็นแม่ครัวที่วัด และก็ยังมีคนที่เคยบวชอยู่ในยุคดังกล่าวอายุ 63 ปี ท่านนี้ ยังเคยกดพระที่หอฉันในสมัยนั้น และยังมีอีกหลายท่าน ซึ่งผู้เขียนเองก็ต้องกราบขอบพระคุณในความกรุณาเป็นอย่างมาก ที่กรุณาให้ผู้เขียนได้แวะเวียนไปมาหาสู่อยู่บ่อย ๆ จนเหมือนกับเป็นลูกเป็นหลานไปเลย [/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot]การไประยองครั้งแรก ของผู้เขียนมีทั้งสนุก และตื่นใจกับข้อมูลที่ได้ฟังจากปากของชาวบ้านเหล่านี้ จนต้องเทียวไปอีกหลายรอบ เพื่อขอข้อมูล และเก็บเป็นบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ไว้ จนกลายมาเป็นเรื่องที่เขียนอยู่นี้ มีทั้งเรื่องที่ฟังแล้วต้องอึ้งกับการกล่าวถึงคนบางคน เพราะชาวบ้านบางคนก็ด่าคนที่ผู้เขียนอ้างถึงเพราะไปสร้างวีรกรรม(ไม่ดี)ไว้แถวหนองละลอกมากเหลือเกิน บางคนที่พอผู้เขียนอ้างชื่อไป ชาวบ้านกลุ่มนี้กลับหัวเราะกันท้องขดท้องแข็ง ราวกับเป็นเรื่องตลกเสียเต็มประดา ทำให้ผู้เขียนแปลกใจมากกับคำบอกเล่าของชาวบ้าน ที่กล่าวออกมาแบบจริงใจ ไม่เสแสร้ง ไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง มีแต่ความจริงใจ เคยพบเห็นอย่างไร ก็ว่าไปอย่างนั้น รู้อย่างไรก็ว่าไปอย่างนั้น เมื่อมีโอกาสได้คุยได้สัมผัส บอกได้คำเดียวว่าทุกคนเป็นกันเอง และน่ารักมากครับ[/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot]ต้องขอบคุณน้องชายอีกท่านหนึ่ง เป็นน้องชายผู้มากด้วยน้ำใจ และความจริงใจที่พาไปแนะนำให้รู้จักอีกหลายท่านที่รู้ประวัติการสร้างพระเครื่องของหลวงปู่ทิมในอดีต และได้เห็นพระต่าง ๆ อีกมากมายหลายพิมพ์ และแนะนำให้รู้จักกับพี่ท่านหนึ่ง และสอบถามชาวบ้านที่มีส่วนรู้ หรือเห็นการสร้างพระในอดีต รวมทั้งได้ทราบข้อมูลต่าง ๆ จากพี่ท่านนี้ และอีกหลายท่านมากมาย ซึ่งสนองตอบความอยากรู้อยากเห็น และเป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้เขียนที่จะได้เรียนรู้และศึกษา เรื่องราวต่าง ๆ ในอดีตที่เป็นเรื่องแบบบ้าน ๆ เรื่องจริง ๆ แบบไม่ปั้นแต่ง ที่ถูกปิดกั้นและบิดเบือนข้อเท็จจริง จากผู้ที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน มากกว่าการนำเสนอข้อเท็จจริงเหมือนกับที่ได้เห็นได้รู้ตามหน้าสื่อ[/FONT][FONT=&quot] Internet หรือหนังสือโดยทั่วไป[/FONT]

https://www.facebook.com/Nummuangklang, Line ID: siamaraya

หนุ่มเมืองแกลง, 24 กรกฎาคม 2011

#45309
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2007

โพสต์:

32,522

กระทู้เรื่องเด่น:

1

ค่าพลัง:

+210,857
 [FONT=&quot]วันหนึ่งขณะที่ผู้เขียนทำงานอยู่ได้รับโทรศัพท์จากน้องที่รู้จักกัน ที่มาจากระยองเพื่อเข้ามาติดต่องานกับบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานผู้เขียนนัก โดยถามว่าผู้เขียนว่างหรือเปล่า หากว่างให้ออกมาพบกันหน่อยมีของจะให้ดู เมื่อออกไปพบน้องคนนี้นำพระมาให้ชม ประกอบไปด้วย พระขุนแผน พระสมเด็จ พระปิดตา พระพิมพ์เศียรเล็กของหลวงปู่ เมื่อสังเกตุดูพระทุกองค์พบว่า พิมพ์พระแต่ละองค์ไม่ค่อยมีความสวยงามมากเท่าไหร่ โดยเฉพาะพระสมเด็จ พระปิดตา และพระขุนแผน เพราะที่เห็นโดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบปกติที่เห็นตามสื่อต่าง ๆ แต่พระที่น้องชายคนนี้นำมาให้ดู ความหนาของพระมีความหนา แต่ความหนาไม่สม่ำเสมอกัน ส่วนด้านหลังของพระสมเด็จและพระปิดตานั้น ออกอูม ๆ เหมือนกท้องกระทะ แต่ก็ไม่มีความสม่ำเสมอ ทำให้คิดได้ว่าพระพิมพ์ทั้งสองอย่างนี้ น่าจะเป็นพระที่มี แม่พิมพ์อยู่ด้านเดียว คือมีแต่ด้านหน้า ไม่มีด้านหลัง และต้องเป็นพระที่ผ่านการกดด้วยมือ จึงทำให้ด้านหลังของพระเป็นลักษณะดังกล่าว และพระสมเด็จก็ยังมีปีกนูนด้านข้างออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน จึงเข้าใจว่าเป็นพระพิมพ์โบราณที่ทำการกดด้วยมือ แบบไม่ต้องลังเลคิดเป็นอย่างอื่นได้เลย [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot]ส่วนเนื้อพระ และลักษณะพิมพ์ของพระนั้น โดยเฉพาะพระสมเด็จบอกได้คำเดียวว่าเป็นศิลปะแบบชาวบ้าน พิมพ์ที่เห็นออกลักษณะพุงป่อง ๆ ไม่มีความสวยงาม ส่วนพระปิดตาก็ไม่แตกต่างกันมากนัก สำหรับพระพิมพ์ขุนแผน เมื่อดูแล้วตอนแรกก็งง ๆ เพราะไม่เคยเห็นพระขุนแผนของหลวงปู่ทิมเป็นอย่างนี้มาก่อนเลย เพราะพระที่เห็น มีลักษณะบิดตัว ความหนาขององค์พระไม่สม่ำเสมอกัน มีความหนาและบาง อยู่ในองค์เดียวกัน แต่ส่วนที่บางก็ไม่ได้บางมากนัก (หากเทียบกับพระทั่วไปถือว่าหนากว่า) เมื่อเปรียบเทียบกันทั้งแนวแล้วก็เห็นความแตกต่างได้ชัดเจนอย่างมาก ส่วนรายละเอียดเรื่องพิมพ์ทรง ไม่ได้มีความคมชัดเลย และก็ไม่มีบร์อนทอง แต่ออกลักษณะขาว ๆ หม่น ๆ มีกลิ่นอับ ๆ คล้ายข้าวบูด อยู่บ้างเล็กน้อย บอกได้คำเดียวว่าไม่มีความสวยงาม อย่างที่เรา ๆ ท่าน ๆ เคยได้เห็นตามสื่อ [/FONT][FONT=&quot]Internet ตามหน้าหนังสือพระ หรือนิตยสารที่ลงเพื่อขายพระกันทั่วไป[/FONT]

https://www.facebook.com/Nummuangklang, Line ID: siamaraya

หนุ่มเมืองแกลง, 24 กรกฎาคม 2011

#45310
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2007

โพสต์:

32,522

กระทู้เรื่องเด่น:

1

ค่าพลัง:

+210,857
 [FONT=&quot]อีกพิมพ์หนึ่งคือพิมพ์เศียรเล็กทีเห็นในวันนั้นและเป็นพิมพ์ที่ถูกใจมาก อาจจะด้วยเหตุผลที่พระมีพิมพ์เป็นแบบที่เล่นหากันทั่วไป แต่เมื่อดูองค์พระและพิจารณาอย่างละเอียดแล้วพบว่า ความสม่ำเสมอขององค์พระ ก็ไม่ได้เท่ากันทั้งหมด ด้านหลังองค์พระก็ติดยันต์อยู่บ้าง แต่ก็เลือน ๆ และบริเวณด้านหลัง จะมีร่องรอยการหลุดร่อนของเนื้อพระออกไปทั่วบริเวณด้านหลัง แต่เป็นแห่ง ๆ แบบธรรมชาติมาก ๆ เมื่อลองส่องดูจะเห็นได้ชัดเจน ลักษณะโดยทั่วไปขององค์พระก็ไม่ได้เรียบเหมือนพระที่ปั๊มด้วยเครื่องจักร บริเวณขอบด้านข้างขององค์พระนั้น มีรอยอยู่ทั้งสองด้าน เหมือนกับว่าพระถูกถถอดออกจากพิมพ์ด้วยมือ ครีบด้านข้างหรือรอยปลิ้นของเนื้อพระนั้นก็เห็นมีอยู่บ้างไม่เหมือนกับพระที่เห็นตามหน้าหนังสือทั่วไปที่มีความหนาสม่ำเสมอ แต่พระองค์นี้ก็ไม่มีบร์อนทอง ลักษณะออกขาวหม่น ๆ หากมองเรื่องสีของพระ ก็จะมีความคล้ายกับเนื้อพระของหลวงปู่ดู่ แห่งวัดสะแก ที่มีสีออกลักษณะขาว ๆ แบบนั้นแต่ไม่เป็นหน้ากระทิเหมือนพระของหลวงปู่ดู่ แต่สีจะออกหม่นกว่า เมื่อใช้กล่องส่องก็จะเห็นความเก่าได้ในทันที[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot]ผู้เขียนเองก็อยากทราบก็เลยถามว่าไปเอามาจากไหนน้องคนนี้ก็เลยบอกว่าได้มาจากแถวบ้านค่าย และกล่าวต่อว่าเห็นว่าผ็เขียนกำลังศึกษาที่ไปที่มาของพระหลวงปู่ทิมอยู่ จึ่งเอามาให้ดูเพื่อเป็นความรู้อีกด้านหนึ่ง ซึ่งผู้เขียนก็ทราบว่ามันเป็นเรื่องที่เข้าใจยากเพราะผู้เขียนเองก็ไม่ใช่คนท้องที่ ที่รู้เห็นการสร้างพระในอดีต แต่ผู้เขียนศรัทธา และเชื่อมั่นว่าหลวงปู่ทิมท่านเป็นพระที่ดีจริง ไม่อย่างนั้นท่านคงไม่ดังทั่วฟ้าเมืองไทยอย่างเช่นทุกวันนี้แน่นอน ผู้เขียนเลยแจ้งไปว่ารบกวนให้ไปบอกพี่ท่านนี้หน่อยได้หรือไม่ว่า หากผู้เขียนจะเข้าไปขอข้อมูลด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับพระเครื่องของหลวงปู่ทิม โดยเฉพาะพระเนื้อผงพรายกุมาร หากสะดวกเมื่อไหร่ให้แจ้งได้ทันที และผู้เขียนจะเดินทางไปที่บ้านค่ายเอง[/FONT]

https://www.facebook.com/Nummuangklang, Line ID: siamaraya

หนุ่มเมืองแกลง, 24 กรกฎาคม 2011

#45311
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2007

โพสต์:

32,522

กระทู้เรื่องเด่น:

1

ค่าพลัง:

+210,857
 [FONT=&quot]อีกสองอาทิตย์ถัดมา สาย ๆ ของวันศุกร์สุดสัปดาห์ผู้เขียนได้รับโทรศัพท์จากน้องคนดังกล่าวอีกครั้ง ว่าตอนนี้อยู่บ้านค่ายกับพี่ท่านหนึ่งที่ผู้เขียนเคยแจ้งว่าอยากพบเพื่อขอข้อมูล และแจ้งว่าเรื่องที่ผู้เขียนเคยขอร้องไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อนนั้นได้รับการตอบรับแล้ว ซึ่งวันนั้นเป็นวันศุกร์ และผู้เขียนทำงานอยู่ เลยตอบไปว่า เดี๋ยวช่วงบ่ายเข้าไปหาให้รอหน่อย และแจ้งขออนุญาติต่อเจ้านายว่าวันนี้ขอไปธุระข้างนอก ผู้เขียนบึ่งรถจากที่ทำงานไปหาน้องคนนี้ด้วยความเร็วพอสมควร ด้วยความที่อยากให้ถึงเร็ว ๆ เพราะอยากรู้เรื่องราวต่าง ๆ นอกเหนือจากการได้อ่านหนังสือ หรือดูตามสื่อ [/FONT][FONT=&quot]Internet ทั่วไป และอยากเห็นพระของหลวงปู่ที่ว่าดั้งเดิมจริง ๆ นั้นเป็นอย่างไร ผู้เขียนไม่รู้เส้นทางมากนัก ขับรถไปด้วยโทรศัพท์ถามทางไปด้วย บางทีก็แวะถามชาวบ้านแถวนั้นบ้าง กว่าจะถึงบ้านก็พูดโทรศัพท์กันจนเหนื่อย การเดินทางระยะเวลาที่ใช้โดยประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง เมื่อถึงบ้านก็เห็นน้องชายท่านนี้ออกมาคอย ด้วยความเป็นห่วงว่าจะหลงทาง [/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot]หลังจากทักทายและทำความรู้จักกันเรียบร้อย ผู้เขียนก็เริ่มสอบถามที่มาที่ไป และประวัติด้านต่าง ๆ ของหลวงปู่ และวัตถุมงคลของท่าน โดยเฉพาะพระที่เป็นพระเนื้อผง พี่ท่านนี้ได้กรุณาตอบให้ได้ทราบ ซึ่งบางอย่างพอได้ฟังแล้วก็ตกใจ และยังถามกลับไปอีกว่า แล้วที่เขาเขียนกันในหนังสือ หรือที่ค้าขายกันทุกวันนี้ล่ะเป็นอย่างไร แกก็หัวเราะและได้อธิบายให้ผู้เขียนทราบว่าเรื่องจริงกับที่เขาเขียนกันนั้นมันปั้นเรื่องเกือบทั้งนั้น และพี่ท่านนี้ได้นำพระออกมาให้ดู ซึ่งเป็นพระพิมพ์ต่าง ๆ ซึ่งก็มีไม่กี่องค์ เป็นแบบที่เคยเห็นมาแล้วเมื่อครั้งก่อนที่น้องที่รู้จักกันเอาให้ดูเมื่อสองอาทิตย์ก่อน แต่ก็มีพิมพ์อื่น ๆ อยู่ด้วย เช่นพิมพ์คะแนน พิมพ์สมเด็จอื่น ๆ แต่โชนของเนื้อหา ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ผู้เขียนก็ดูด้วยความสนใจ รวมทั้งได้สอบถามเรื่องต่าง ๆ เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประวัติและความเป็นมาต่าง ๆ ด้วย ช่วงที่ได้คุยกันอยู่นั้น พี่ท่านนี้เอ่ยถามผู้เขียนว่านับถือหลวงปู่ทิมขนาดนี้ เป็นคนระยองหรือเปล่า ผู้เขียนตอบว่าไม่ใช่คนระยอง แต่นับถือหลวงปู่ทิมมาก อยากได้วัตถุมงคลหลวงปู่ทิมโดยเฉพาะเนื้อผง แต่ก็ไม่กล้าเช่าหา เพราะกลัวจะเจอของเก๊ และราคาวัตถุมงคลของหลวงปู่แพงมากจนเอื้อมไม่ถึง ซึ่งระหว่างนี้ ผู้เขียนก็ได้ถามคำถามยอดฮิตที่ทุกคนอยากรู้ว่าพระขุนแผนมีที่มาที่ไปอย่างไร เพราะทุกวันนี้เท่าที่ทราบ ก็ยังเถียงกันไม่จบสักที ไม่ว่าจะเป็นบล๊อคลองพิมพ์ บล๊อคแรก บล๊อคสอง กลุ่มที่เล่นอะไรอยู่ก็ว่าของตัวเองทัน บล๊อคอื่นไม่ทันแล้วสรุปว่าอันไหนมันเป็นจริงและอันไหนมันเท็จ[/FONT]

https://www.facebook.com/Nummuangklang, Line ID: siamaraya

หนุ่มเมืองแกลง, 24 กรกฎาคม 2011

#45312
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2007

โพสต์:

32,522

กระทู้เรื่องเด่น:

1

ค่าพลัง:

+210,857
 [FONT=&quot]เมื่อฟังคำถามจบพี่ท่านนี้ก็หัวเราะ และถามกลับมาว่า อยากรู้ความจริงขนาดนั้นเลยหรือ ผู้เขียนก็ตอบว่ามีความนับถือและศรัทธาหลวงปู่ทิมมาก ผู้เขียนไม่ใช่เซียนพระ ที่เห็นพระเป็นธุรกิจ เพื่อสร้างกำไร ผู้เขียนไม่ใช่คนกลุ่มนั้น พี่ชายท่านนี้คงเห็นความตั้งใจและความศรัทธาที่มีต่อหลวงปู่ทิมของผู้เขียน จึงได้รับความอนุเคราะห์ด้วยการเล่าให้ฟังว่า พระขุนแผนผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมนั้น ที่เล่นหากันอยู่ในตลาดทุกวันนี้เก๊มากกว่าแท้ และที่เล่นหากันอยู่ในตลาดพระปัจจุบันนี้ มีอยู่ [/FONT][FONT=&quot]3 บล๊อค คือบล๊อคแรก (นิยม) บล๊อคสอง และบล๊อคลองพิมพ์หินมีดโกน (ซึ่งเรื่องนี้ผู้เขียนก็รู้เช่นกัน) ลองมาติดตามกันดูครับ ว่าเรื่องที่ผู้เขียนจะถ่ายทอดให้ท่านผู้อ่านได้ทราบต่อไปนี้ เป็นข้อมูลที่ผู้เขียนสอบถามจากพี่ท่านนี้ โดยเริ่มกันที่พระขุนแผนที่เล่นหากันอยู่ทุกวันนี้ก่อน ส่วนพระพิมพ์อื่น ๆ จะค่อย ๆ ลงให้ทราบเป็นลำดับถัดไป[/FONT]

https://www.facebook.com/Nummuangklang, Line ID: siamaraya

หนุ่มเมืองแกลง, 24 กรกฎาคม 2011

#45313
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2007

โพสต์:

32,522

กระทู้เรื่องเด่น:

1

ค่าพลัง:

+210,857
 [FONT=&quot]ประวัติและลำดับการสร้างพระเครื่องเนื้อผง วัดละหารไร่[/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot]ก่อนที่จะเข้าเรื่องขุนแผนอันลือลั่นของหลวงปู่ทิม มาลองดูก่อนว่าในอดีต พระเครื่องเนื้อผงยุคก่อนที่จะมีการทำพระเครื่องแบบที่เป็นเนื้อผงของวัดละหารไร่ มีใครรู้บ้างหรือไม่ว่า มีการสร้างก่อนหน้านั้น [/FONT][FONT=&quot]2 ครั้งเริ่มแรกเลย ก็สร้างกันเองที่วัดละหารไร่ ส่วนมากเป็นแม่พิมพ์ที่ทำจากไม้เป็นส่วนใหญ่ และอีกวาระหนึ่งก็ทำเพื่อนำไปออกที่วัดแม่น้ำคู้ เพื่อหารายได้ช่วยวัดในการก่อสร้างเสนาสนะต่าง ๆ ครั้งนี้การสร้างพระทั้งหมดแม่พิมพ์ถูกแกะจากหินมีดโกนทั้ง 3 พิมพ์ ซึ่งเคยมีบทความของคุณเพียรวิทย์ เขียนไว้ในหนังสือร่มโพธิ์เมื่อราวปี 2553 แต่แม้กระทั่งทุกวันนี้ หลาย ๆ ท่านเองคงงงกับบทความนั้นพอสมควร แต่นั่นคือความจริง

สิ่งที่คุณเพียรวิทย์เขียนเกี่ยวกับเรื่องวัตถุมงคล ที่ออกที่วัดแม่น้ำคู้นั้นคือเรื่องจริงที่ไม่ได้ปั้นแต่ง ผู้เขียนเองก็แปลกใจไม่น้อยที่คุณเพียรวิทย์เขียนเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะเคยอ่านบทความที่คุณเพียรวิทย์เขียนมาก็หลายเรื่อง แต่ไม่ค่อยมีแนวนี้สักเท่าไหร่ ไม่รู้ด้วยเหตุผลใดที่คุณเพียรวิทย์เขียนเรื่องนี้ขึ้นมา แต่พออ่านเจอเมื่อครั้งนั้นก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย แต่หากถามคนทั่วไปว่ารู้จักหรือไม่ ทุกคนที่เล่นพระ หรือสะสมพระเครื่องสายหลวงปู่ทิมนั้นคงงงไม่น้อยเลยทีเดียว หรืออาจจะคิดไปว่า อุปโลกอีกแล้ว…[/FONT]

https://www.facebook.com/Nummuangklang, Line ID: siamaraya

หนุ่มเมืองแกลง, 24 กรกฎาคม 2011

#45314
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2007

โพสต์:

32,522

กระทู้เรื่องเด่น:

1

ค่าพลัง:

+210,857
[FONT=&quot]หากท่านใดที่ชอบสะสมหนังสือพระเก่า ๆ ลองหาหนังสือนะโม หรือหนังสือที่ลงเกี่ยวกับประวัติพระเครื่องของหลวงปู่ทิม ที่ออกวางตลาดเมื่อสัก [/FONT][FONT=&quot]30 กว่าปี ที่แล้ว มาลองอ่านดูนะครับ ท่านจะทราบว่าที่ผู้เขียน ได้เขียนเกี่ยวกับพระผงของวัดละหารไร่ นั้นเป็นอย่างไร เนื้อพระที่แท้จริงนั้นเป็นแบบไหน ที่เขียนบ่อย ๆ ก็คือผงสีขาว ๆ ร่วนง่าย นั้นจริงหรือเท็จ ข้อมูลในอดีตที่เป็นช่วงใกล้เคียงในช่วงที่หลวงปู่ท่านละสังขารได้ไม่นาน กับข้อมูลที่เขียนกันในปัจจุบันนี้ ท่านว่าสิ่งใดน่าเชื่อถือมากกว่ากัน ในอดีตนั้นการที่จะเขียนอะไรที่มันเกินจริง ในช่วงคาบเกี่ยวอย่างนั้นมากก็ไม่ได้ เพราะคนที่รู้เห็นด้วยยังมีอยู่มาก หากเขียนอะไรที่มันเกินเลยก็อาจโดนคนที่ทราบเรื่องราวออกมาทักท้วงเอาได้[/FONT]

[FONT=&quot]การสร้างพระเนื้อผงที่วัดละหารไร่นั้น อาจแบ่งได้เป็นยุค ๆ ตามวาระแต่ละปี ในช่วงก่อนปี [/FONT][FONT=&quot]2514 จนถึงปี 2518 ดูนะครับ[/FONT]

[FONT=&quot]1. [/FONT][FONT=&quot]พระเนื้อผงที่แม่พิมพ์แกะมาจากไม้ มีหลายพิมพ์แต่เป็นพิมพ์แปลก ๆ ทั้งนั้น ผู้เขียนไม่ขอกล่าวถึง เพราะหาดูได้ยากมาก ลักษณะพระที่เห็นจะเกิดเป็นรอยเสี้ยนไม้ ที่เกิดบนองค์พระเกือบทั้งนั้น เป็นพระสร้างก่อนปี [/FONT][FONT=&quot]2514 หรือคาบเกี่ยวระหว่างกัน แต่พระทั้งหมดมีไม่มาก ถือว่าเป็นการสร้างครั้งแรกจริง ๆ ของวัดละหารไร่ ที่มีการสร้างพระเนื้อผง อีกอย่างหนึ่งก็คือลูกอมเทียน คาดว่าน่าจะถูกสร้างในช่วงระหว่างนี้เช่นกัน[/FONT]

[FONT=&quot]2. [/FONT][FONT=&quot]พระ เนื้อผงที่แกะพิมพ์มาจากหินมีดโกน ที่นำไปออกที่วัดแม่น้ำคู้ มีทั้งหมด [/FONT][FONT=&quot]3 พิมพ์ พระชุดนี้ ปลุกเสกนานมาก อาจมากกว่าพรรษาด้วยซ้ำไป โดยแยกเป็นพิมพ์ ดังนี้[/FONT]

[FONT=&quot]1) [/FONT][FONT=&quot]พิมพ์พระพุทธห้าเหลี่ยมหรือที่เราเรียกกันว่าขุนแผน[/FONT]

[FONT=&quot]2) [/FONT][FONT=&quot]พิมพ์สมเด็จ[/FONT]

[FONT=&quot]3) [/FONT][FONT=&quot]พิมพ์พระยืน[/FONT]

[FONT=&quot]พระทั้งหมดเป็นเนื้อขาว ร่วนง่าย เมื่อจับแล้วผงจะติดมือให้ทราบในทันที พระชุดนี้ขาดความสวยงามแต่คาดว่าเป็นพระที่น่าใช้เพื่อหวังพึ่งพุทธคุณได้เป็นอย่างดี และดีกว่าพระที่ราคาเป็นแสน ๆ ที่เล่นหากันอยู่ตอนนี้[/FONT]

[FONT=&quot]3. [/FONT][FONT=&quot]พระพิมพ์หินมีดโกนที่เป็นพิมพ์ของวัดละหารไร่ และออกที่วัดเอง ยุคนี้เป็นยุคที่สร้างพระเนื้อผง และลูกอม ของวัดละหารไร่ เริ่มที่[/FONT]
[FONT=&quot]1) [/FONT][FONT=&quot]พระพิมพ์เศียรโต พิมพ์นี้ถูกเซาะแต่งพิมพ์อยู่เรื่อย ๆ จนแยกไม่ออกว่าพิมพ์ไหน หรืออะไร ทั้งที่มีพิมพ์เดียว แต่เนื้อพระร่วนง่าย ผงติดมือหลังการจับ[/FONT]

[FONT=&quot]2) [/FONT][FONT=&quot]พิมพ์ฉิมพลี พิมพ์นี้สร้างราว ๆ [/FONT][FONT=&quot]4-500 องค์ แต่ก็โฆษณากันบ้าเลือดว่าสร้างน้อยแค่ 200 องค์ เนื้อพระไม่แกร่ง เหมือนที่เห็น ๆ กันเช่นทุกวันนี้ เนื้อจริงคือสีขาวเหมือนผงชล์อค แม้จะทาบร์อนทองก็ตาม [/FONT]

[FONT=&quot]3) [/FONT][FONT=&quot]พิมพ์พรายคู่ เนื้อเดียวกับพระฉิมพลี ไม่มีเนื้ออื่น ๆ[/FONT]

[FONT=&quot]4) [/FONT][FONT=&quot]พรายเดี่ยว เนื้อเดียวกับพระฉิมพลี ไม่มีเนื้ออื่น ๆ[/FONT]

[FONT=&quot]5) [/FONT][FONT=&quot]พระพุทธพิมพ์ห้าเหลี่ยม (ขุนแผนพิมพ์ใหญ่) สร้างราว [/FONT][FONT=&quot]2-3000 องค์ เนื้อขาวสีมีสามโทน คือสีขาวที่เขาชอบเรียกกันว่าขาวก้านมะละลิ คล้ายมีว่านผสมอยู่ด้วยน้ำหนักเบา อีกสีหนึ่งคือขาวออกสว่างเนื้อออกร่วน มีน้ำหนักมากกว่าแบบขาววหม่น และอีกสีคือออกเหลืองเหมือนดินสอพลอง โดยไม่มีสีขาวฉาบที่หน้าเลย ขอบรอบองค์พระด้านหน้าทั้งหมดไม่มีครีบที่เห็นเกินมาจากแม่พิมพ์เด็ดขาดเพราะพระกดมาจากหินมีดโกน ที่ขุดลึกลงไปในเนื้อหินไม่ได้เป็นแม่พิมพ์แบบถอดประกอบ มีแบบที่หลังจารบ้าง (จารด้วยเหล็กจารลึกลงไปในเนื้อขณะที่เปียก และจารหลังจากที่เนื้อพระแห้งแล้ว)[/FONT]

[FONT=&quot]6) [/FONT][FONT=&quot]พิมพ์พระรอด พิมพ์นี้ดูเหมือนเป็นการถอดพิมพ์ โดยเอาพระรอดมาเป็นต้นแบบ ลักษณะพิมพ์ก็ใกล้เคียงกันมากทีเดียว ขนาดความโต ก็ประมาณปลายนิ้วก้อยหรือเหมือนพระรอดทั่วไป แต่ดูพิมพ์ตื้นกว่ามาก เนื้อออกขาว ๆ ลักษณะของผงเป็นแบบผงละเอียด ร่วนติดมือง่าย มีปริมาณไม่มากนัก[/FONT]

[FONT=&quot]7) [/FONT][FONT=&quot]พิมพ์คะแนน ขนาดเล็กประมาณปลายนิ้วก้อย และบางพอประมาณ เป็นพระทรงนั่งสมาธิ ดูแล้วบางครั้งเหมือนพระนั่งถือดอกบัวพาดเลยหัวไหล่ไป แต่ก็ไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่ หรืออาจจะเป็นที่พิมพ์เพราะองค์เล็ก เลยแกะยากมาก แต่ไม่เป็นเหมือนสมเด็จทั่วไปและองค์เล็ก บางองค์ก็มีปีกเนื้อเกินที่ด้านหลัง เมื่อพิจารณาดูก็รู้ว่าเป็นพระที่มีแม่พิมพ์ด้านเดียวเหมือนหินมีดโกนทั่วไป พิมพ์นี้ก็มีปริมาณไม่มากเช่นกัน[/FONT]

[FONT=&quot]8) [/FONT][FONT=&quot]พิมพ์สมเด็จ ก็เป็นเหมือนสมเด็จทั่วไป แต่เนื้อเป็นโซนเดียวกับพระพิมพ์อื่น ๆ มีลักษณะหนาบ้าง บางบ้าง มีปีกที่ด้านหลังบ้าง มีจารบ้างไม่จารบ้าง ลักษณะหนาบ้าง บางบ้าง มีปีกที่ด้านหลังบ้าง รูปลักษณ์ก็ดูสวยงามพอสมควร[/FONT]

[FONT=&quot]9) ลูกอมแบบมีห่วง เนื้อของลูกอมมีสีขาวละเอียด ร่วนง่ายจับดูก็รู้ว่าเป็นเหมือนพระทั้งหมดที่กล่าวมา โซนของเนื้อมีสองแบบคือ ออกแก่ผงชล์อคขาวผิวหน้ามีผิวคล้ายคราบแป้ง ส่วนด้านในสีเหมือนขุนแผนที่เห็นเนื้อเป็นแบบดินสอพลอง สีก็จะต่างกันเล็กน้อย และอีกสีคือขาวหม่น เข้าใจว่าการปั้นน่าจะเป็นช่วงเวลา หรือวาระการสร้างต่างกันเล็กน้อย ไม่ได้เคลือบหรือทาด้วยบร์อน มีขนาดเล็กบ้างใหญ่บ้าง แต่ไม่มีลูกไหนที่กลม ๆ เลยสักลูก ลวดที่เสียบอยู่มีอยู่สองลักษณะคือ ลวดเส้นเล็ก และลวดเส้นใหญ่ คาดว่าเมื่อหมดลวดเส้นใหญ่หรือเส้นเล็ก จึงไปหาลวดเส้นอื่นมาเพิ่ม จึงเห็นขนาดของลวดต่างกัน เดี๋ยวเรื่องขนาดจะลองหา [/FONT][FONT=&quot]veneer จับดูขนาดอีกครั้ง เพื่อความถูกต้อง [/FONT]

https://www.facebook.com/Nummuangklang, Line ID: siamaraya

หนุ่มเมืองแกลง, 24 กรกฎาคม 2011

#45315
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2007

โพสต์:

32,522

กระทู้เรื่องเด่น:

1

ค่าพลัง:

+210,857
[FONT=&quot]พระชุดนี้เป็นพระเครื่องเนื้อผงที่ทำกันในนามวัดละหารไร่เป็นครั้งแรก และคาดว่าเป็นพระที่หลวงปู่ปลุกเสกนานหลายวาระ เพราะพระอยู่ในห้องหลวงปู่นาน หลายปี จนเมื่อมีการสร้างพระโดยคุณชินพร จึงได้นำพระออกจากห้องของ หลวงปู่ อาจเนื่องมาจากพระที่อยู่ในห้องหลวงปู่แน่นไปหมด ทั้งวัตถุมงคลที่วัดสร้างเอง และพระที่คุณชินพร สร้างมา พระชุดนี้จึงได้ถูกนำออกมา และเก็บรักษาไว้ และไม่ได้นำออกให้ประชาชนอีกเลยหรืออีกประเด็นหนึ่ง ซึ่งก็เป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่ว่ากันว่า พระชุดดังกล่าวนี้เมื่อทำออกมาแล้ว แต่พระขาดความสวยงาม และเป็นพระที่สร้างมาใหม่ ๆ คนทั่วไป หรือแม้กระทั่งชาวบ้านเองไม่ได้สนใจนัก จึงถูกเก็บไว้โดยไม่ออกให้นำมาบูชาอีกเลย[/FONT]

[FONT=&quot]1. [/FONT][FONT=&quot]พระผงพิมพ์บล๊อคทองเหลือง เกิดขึ้นราวปี[/FONT][FONT=&quot] 16[/FONT]
[FONT=&quot]1) [/FONT][FONT=&quot]พระพิมพ์พระพุทธห้าเหลี่ยมเนื้อออกโซนเหลือง ไม่ขาว บิดงอ เนื้อไม่ละเอียดนักและมีส่วนผสมของกาว ลักษณะพิมพ์ไม่เหมือนกับหินมีดโกน เข้าใจว่าน่าจะพระชุดนี้เป็นพระเครื่องเนื้อผงที่ทำกันในนามวัดละหารไร่เป็นครั้งแรก ที่ไม่มียันต์ด้านหลัง และพระออกมาบิดงอไม่สวยงาม หนาเตอะ ดูด้านหน้าไม่ค่อยมีคราบฝ้า หรือน้ำข้าวที่ดันออกมาเคลือบผิวที่ด้านหน้า คาดว่าเป็น พระพิมพ์ทองเหลือง ที่กดครั้งแรกแต่ไม่สวยเลยนำเอาแม่พิมพ์ไปแก้ใหม่อีกรอบ คราวนี้จึงมียันต์หลังมาด้วย พระนี้เป็นของที่สร้างขึ้นก่อน จำนวนไม่มากนัก ไม่น่าจะเกิน [/FONT][FONT=&quot]300-400 องค์ คาดว่าชุดนี้หลวงปู่ไม่ได้เสก เพราะพระออกมาไม่สวย พระทั้งหมดจึงไม่ได้นำไปให้หลวงปู่เสก แต่ผงก็เป็นผงลบที่หลวงปู่ทำไว้[/FONT]

[FONT=&quot]2) [/FONT][FONT=&quot]พระพิมพ์พระพุทธห้าเหลี่ยม (พระขุนแผน) จำนวนไม่แน่นอน เพราะเป็นช่วงปลายแล้วมีทั้งแบบทาบร์อน และไม่ทาบร์อน การกดพระยุคนี้ใช้ที่กดพระแบบที่หนีบกล้วยแต่เป็นไม้ ใช้เป็นการหนีบแทนคนกดด้วยมือ การกดก็ใช้วิธีการแบบกดหนีบลง พระที่ได้ออกมา ไม่สวยเลย และเป็นพระที่มียันต์หลัง แต่ยันต์ที่ติดไม่ชัดเลย คือติดพอได้เห็นลาง ๆ เท่านั้น ไม่ได้มีเส้นยันต์คม ๆ แบบตามหน้าสื่อ [/FONT][FONT=&quot]Internet รวมทั้งของเซียนใหญ่ทั้งหลายบนห้างดัง ๆ ที่ลงขายกันให้เกลื่อนไปทั่วอย่างที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้[/FONT]

[FONT=&quot]3) [/FONT][FONT=&quot]พระขุนแผนพิมพ์เล็ก มีแบบทาบร์อน และไม่ทาบร์อน เนื้อในเป็นสีขาว แบบมีกาวเป็นส่วนผสมไม่ได้แกร่งคมทุกรายละเอียดเหมือนที่เล่นกันอยู่ทุกวันนี้ และไม่มีน้ำมันที่เยิ้ม ๆ ดังที่เห็นกันอยู่โดยทั่วไป เมื่อก่อนก็มีทั้งเนื้อเขียว เนื้อออกกเหลือง และสีอื่น ๆ ด้วย เนื่องจากเอาสีฝุ่นผสมลงในผงด้วย จึงเกิดเป็นสีต่าง ๆ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสีที่ผสมลงไป แต่ที่โฆษณากันทุกวันนี้ ที่เห็นหลักก็คือ เนื้อว่านดอกทอง เนื้อว่านสบู่เลือด ซึ่งไม่ได้เป็นอย่างที่โฆษณากันแต่ประการใด พูดกันตรง ๆ ก็คือโม้ขายของให้มีราคาแพง ๆ เท่านั้นเอง[/FONT]

[FONT=&quot]4) [/FONT][FONT=&quot]พระพิมพ์เศียรเล็ก มีแบบทาบร์อน และไม่ทาบร์อน องค์ที่ไม่ทาบร์อนจะเนื้อมีสีออกขาวหม่น เปราะง่าย ไม่มีส่วนผสมของปูนขาว หรือมีก็คงน้อยมาก เพราะพระไม่ได้แกร่งเลย หากมีปูนขาวผสมอยู่ด้วย เนื้อพระจะต้องแกร่ง และแข็งเนื่องจากคุณสมบัติของปูน [/FONT]

[FONT=&quot]5) [/FONT][FONT=&quot]ลูกอมแบบไม่มีห่วง ฝัดด้วยบร์อนหรือทาบร์อนน้ำมัน แต่เป็นบร์อนด้าน สีส้ม ๆ หรือบร์อนฝุ่นเหมือนที่เล่นกันทุกวันนี้ไม่มี[/FONT][FONT=&quot] ลูกอมชุดนี้ไม่มีห่วง การสร้างก็มีทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ส่วนที่ไม่ตั้งใจก็คือ เนื้อผงที่เหลือจากการกดพระก็นำมาปั้นเป็นลูกอม ก็มีทั้งที่ไม่ได้ทาบร์อน และทาบร์อน มีทั้งลูกเล็กและลูกใหญ่ บางลูกเท่ากับกำปั้นเด็กก็มี ซึ่งก็คงอยู่กับคนปั้นว่าอยากทำแบบไหน[/FONT]

[FONT=&quot]2. [/FONT][FONT=&quot]พระผงพิมพ์หินมีดโกน ที่นอกเหนือจากที่วงการเล่นหาและเป็นพิมพ์แปลก ๆ[/FONT]

[FONT=&quot]1) [/FONT][FONT=&quot]พระปิดตา พิมพ์ใหญ่ มีปีกยื่นออกมา บางองค์ก็ตัดปีก บางองค์ก็เหลืออยู่ส่วนใหญ่จะหนามาก ทรงคล้ายพระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูงแต่ไม่ได้เป็นแบบลอยองค์[/FONT]

[FONT=&quot]2) [/FONT][FONT=&quot]พระปิดตาองค์เล็ก แต่พิมพ์ด้านหน้าไม่ชัด เมื่อมองจึงเข้าใจว่าเป็นพระปิดตาแต่ดูยากมากเพราะพิมพ์ออกเบลอมาก ๆ [/FONT]

[FONT=&quot]3) [/FONT][FONT=&quot]พระสมเด็จ รูปแบบพิมพ์เหมือนสมเด็จทั่วไป ค่อนไปทางสวยงามพอสมควร[/FONT]

[FONT=&quot]4) [/FONT][FONT=&quot]พระทรงสมาธิด้านหลังอูมเหมือนขุนแผนใข่ผ่า หรือเมื่อดูด้านข้างจะคล้าย เหมือนเม็ดขนุนผ่าครึ่ง พิมพ์ออกตื้น ๆ ไม่คมชัด[/FONT]

[FONT=&quot]5) [/FONT][FONT=&quot]พระพิมพ์ลีลา ทรงยาว ด้านหลังเรียบแบน แต่มีปีกยื่นออกมาด้านข้าง เนื้อผงดูออกใส ไม่ขุ่นเหมือนพิมพ์อื่นในช่วงยุคปี [/FONT][FONT=&quot]2514-2515 [/FONT]

[FONT=&quot]พระสมเด็จหลังยันต์สามยันต์ห้า สมเด็จวัดไร่วารี สมเด็จชินบัญชร พระกลุ่มนี้สร้างยุคหลังสุด แต่เป็นพระที่ทันหลวงปู่เสก เป็นพระเครื่องที่ถูกสร้างมาจากนอกวัด แล้วนำมาให้หลวงปู่ทิมเสก ก็ว่ากันว่ามีผงของหลวงปู่เป็นส่วนผสมอยู่ด้วย ก็พิจารณาเอาเองว่าเป็นอย่างไร อาจมีหรือไม่มี ใครพิสูจน์ได้บ้าง ก็เชื่อคนที่สร้างว่ามี แต่หากคนที่สร้างไม่พูดความจริงล่ะ เราจะเชื่อได้มากน้อยแค่ไหน[/FONT]

https://www.facebook.com/Nummuangklang, Line ID: siamaraya

หนุ่มเมืองแกลง, 24 กรกฎาคม 2011

#45316
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2007

โพสต์:

32,522

กระทู้เรื่องเด่น:

1

ค่าพลัง:

+210,857
[FONT=&quot]พระขุนแผนพิมพ์เล็กที่เล่น ๆ กันแล้วบอกว่าเป็นลองพิมพ์หินมีดโกนนั้น บอกตามตรงโดนอุปโลกหลอกกันมาตั้งนานแล้ว พระพิมพ์นี้ออกราวปี [/FONT][FONT=&quot]2530 กว่า ๆ ความจริงพระพิมพ์นี้ไม่มีแม่พิมพ์ที่แกะมาจากหินมีดโกน มีเฉพาะบล๊อคทองเหลืองเท่านั้น และที่ว่ากันว่า เนื้อยานัตถ์บ้าง อันนั้นอันนี้บ้าง ความจริงไม่มี ลองสังเกตุดูเนื้อก็พอจะทราบได้ เพราะขุนแผนพิมพ์เล็กบล๊อคลองพิมพ์หินมีดโกน และพิมพ์ใหญ่บล๊อคลองพิมพ์หินมีดโกนเนื้อเหมือนกันอย่างกับแกะ (ก็ทำเก๊สาระเดียวกัน) หากพิมพ์ใหญ่ไม่มีแล้วพิมพ์เล็กจะมีได้อย่างไร

ผู้เขียนเคยเห็นอยู่เวปหนึ่งที่เอามาลงให้ดูกันมากมาย และมีการสังคายนากันถึงรูปแบบแม่พิมพ์ต่าง ๆ หากพูดกันตามตรงก็คือมันเก๊ทั้งนั้น ไม่เชื่อไปถามคนที่ทัน คนที่เห็นการกดพระชุดลองพิมพ์หินมีดโกนกันดูสักครั้ง (หมายถึงคนที่ได้รับจ้างเพื่อกดพระ และคนที่เข้าไปเห็นขณะที่กำลังกดพระทั้งสองพิมพ์นี้) หากมีเก็บไว้เยอะ ๆ เวลาฟังก็เตรียมยาดมไปด้วย เพราะหลังจากได้ฟังแล้วอาจเป็นลมได้[/FONT]

https://www.facebook.com/Nummuangklang, Line ID: siamaraya

หนุ่มเมืองแกลง, 24 กรกฎาคม 2011

#45317
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2007

โพสต์:

32,522

กระทู้เรื่องเด่น:

1

ค่าพลัง:

+210,857
 [FONT=&quot]พระยุคที่ [/FONT][FONT=&quot]4 หรือยุคบล๊อคทองเหลือง นับว่าเป็นพระที่มีปัญหามากที่สุดในวงการ เพราะเก๊กันมากมาย อุปโลกก็มาก จนไม่รู้จะเชื่ออย่างไรดี เรื่องนี้ผู้เขียนเขียนให้ทราบแล้ว อีกอย่างพระชุดที่เล่นกันอยู่ทุกวันนี้ ที่เรียกกันว่าบล๊อคลองพิมพ์หินมีดโกนไม่ว่าจะเป็นพิมพ์เล็กหรือพิมพ์ใหญ่ ก็เป็นของเก๊ทั้งสิ้น เก๊ในที่นี้คือสร้างเมื่อภายหลังจากหลวงปู่ท่านมรณภาพไปแล้ว ทั้งหมดไม่ใช่ของจริงแม้แต่นิดเดียว เพราะมาสร้างหลังปี 2530 แล้ว แต่ที่ผู้ใช้มีประสบการณ์กันอย่างนั้นอย่างนี้ อาจเป็นเพราะมีการนำเอาผงที่เป็นของแท้ของหลวงปู่หยอดผสมลงไปด้วย และเอาพระผงที่แตกหักของหลวงปู่ มาตำรวมกับพระที่ไปเหมามา กองละร้อย สองร้อย ผสมใส่เข้าไปด้วย ผงที่เป็นผงของหลวงปู่แท้ ๆ ถือว่าเป็นของสูงค่ายิ่ง พระชุดลองพิมพ์จึงมีประสบการณ์กันพอสมควร แต่เรื่องจริงก็คือเรื่องจริง พระชุดลองพิมพ์ทั้งหลาย เก๊ครับ ส่วนใครสร้าง ทำกันที่ไหน ผู้เขียนจะเขียนให้อ่านกันในช่วงต่อไป [/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot]การสร้างพระเครื่องที่นำไปออกที่วัดแม่น้ำคู้นั้น เริ่มสร้างครั้งแรกเมื่อปี [/FONT][FONT=&quot]2514 และนี่เองก็เป็นจุดเริ่มต้นของการแกะแม่พิมพ์ที่ทำจากหินมีดโกน ของนายสาย แก้วสว่าง ลักษณะของพิมพ์ขุนแผนก็คล้าย ๆ กับขุนแผนในปัจจุบัน สมัยก่อนนั้นพระขุนแผน ทั้งนายสาย แก้วสว่าง และหลวงปู่ทิมท่านไม่ได้เรียกว่าขุนแผน แต่เรียกกันว่าพระพุทธพิมพ์ห้าเหลี่ยม ซึ่งมีพระอัครสาวกเบื้องซ้ายและขวา คือพระโมคคัลลานะ และพระสารีบุตร แต่ปัจจุบันรียกกันว่าพระขุนแผนผงพรายกุมาร หรือบางทีก็เรียกพระพิมพ์นี้ว่ายอดขุนพล ส่วนนี้ก็คงต้องแล้วแต่ความเชื่อของคน ที่เชื่อกันต่อ ๆ มาซึ่งคงไม่ได้ผิดแปลกอะไร หากเป็นเป้าหมายเดิม หรือชื่อเดิมเริ่มต้นนั้น ก็เป็นตามที่ผู้เขียนได้เขียนไว้แล้ว[/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot]พระชุดนี้เป็นพระเนื้อผงที่สร้างขึ้นในวาระที่ [/FONT][FONT=&quot]2 ที่ถูกสร้างขึ้นที่วัดละหารไร่ และเป็นผงของหลวงปู่ทิมที่ท่านเขียนผง ลบผงเอง เมื่อสร้างและหลวงปู่ท่านปลุกเสกเสร็จ ก็นำไปให้ที่วัดแม่น้ำคู้ออกให้ประชาชนบูชา และผู้ที่นำไปก็ก็คือนายสาย แก้วสว่าง ได้นำไปมอบให้กับพระอาจารย์ทวน ในสมัยนั้น ลักษณะของเนื้อพระก็เป็นแบบผงสีขาว ๆ ร่วนติดมือ เพราะทั้งส่วนผสมนั้นแทบไม่มีอะไรที่เป็นตัว ประสานเลยนอกจากน้ำข้าวเมื่อพระแห้งหรือเซ็ทตัวดีแล้ว การจับแน่นของเนื้อพระจึงไม่เป็นเหมือนปูนหรือเนื้อพระที่มีส่วนผสมของปูน เลยทำให้ร่วนง่าย ไม่ดูดซับน้ำหรือความชื้นเหมือนดินเผาหรือปูนที่แห้งแล้ว ไม่จับตัวแค่จับดูก็มีผงสีขาวติดมือแล้ว ซึ่งพิมพ์พระต่าง ๆ ก็มีด้วยกันหลากหลายพิมพ์ ทั้งขุนแผน พระสมเด็จ พิมพ์ยืน พระทุกพิมพ์ขาดความสวยงาม อย่างพระขุนแผนก็ดูแทบไม่เป็นขุนแผน อาจเนื่องมาจากความรู้เรื่องการสร้างพระไม่มี เลยไม่รู้จะหาตัวประสานที่ทำให้ผงยึดติดกันแบบแน่น ๆ ไม่ได้ จึงได้นำเอาน้ำข้าวที่เหนียว ๆ มาผสมกับผงแล้วกดเป็นองค์พระ ซึ่งก็เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านในยุคก่อน[/FONT]

https://www.facebook.com/Nummuangklang, Line ID: siamaraya

หนุ่มเมืองแกลง, 24 กรกฎาคม 2011

#45318
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2007

โพสต์:

32,522

กระทู้เรื่องเด่น:

1

ค่าพลัง:

+210,857
 [FONT=&quot]หลังจากพระชุดนี้(ชุดแม่น้ำคู้) ก็มีการเริ่มสร้างพระของวัดละหารไร่เอง โดยลักษณะของแม่พิมพ์ก็ยังเป็นหินมีดโกนเหมือนเดิม ซึ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ[/FONT][FONT=&quot].ศ. 2515 แต่แม่พิมพ์ขุนแผนจะดูสวยงามกว่าพระชุดที่ออกวัดแม่น้ำคู้อยู่มากพอสมควร อาจเนื่องมาจากกการพัฒนาการแกะแม่พิมพ์ ซึ่งมีประสบการมาจากการสร้างพระที่ออกที่วัดแม่น้ำคู้ ทั้งยังมีการแกะพิมพ์อื่น ๆ เพิ่มเติมอีกหลายพิมพ์ ในช่วงนี้นายสายเองยังได้แกะพระที่ทำจากไม้ไว้ด้วย[/FONT]

https://www.facebook.com/Nummuangklang, Line ID: siamaraya

หนุ่มเมืองแกลง, 24 กรกฎาคม 2011

#45319
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2007

โพสต์:

32,522

กระทู้เรื่องเด่น:

1

ค่าพลัง:

+210,857
 [FONT=&quot]บล๊อคหินมีดโกน[/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot]ขอเริ่มที่บล๊อคลองพิมพ์หินมีดโกนก่อน บล๊อคลองพิมพ์หินมีดโกน ที่เล่นหากันอยู่ทุกวันนี้นั้น เป็นพระที่พึ่งมีออกมาสู่วงการ เมื่อสักเกือบสิบห้าปีเห็นจะได้ แต่เนื้อพระก็ดูฉ่ำ ออกมัน ๆ เยิ้ม ๆ ที่ดูเยิ้ม ๆ ไม่แห้ง ก็น่าแปลกอยู่ไม่น้อยที่พระอายุเกือบ [/FONT][FONT=&quot]40 ปีแล้วทำไมเนื้อยังดูฉ่ำเยิ้มอยู่ขนาดนั้นบางท่านก็ว่าน้ำมันพรพระเจ้าตาก ซึ่งก็เขียนว่ากันไป หากพิจารณาด้วยเหตุผลแล้วคงไม่มีใครเชื่อ (แต่หากคนที่ไม่สนใจอย่างอื่นประเภทที่เขาว่ากันอย่างไร เขาเขียนกันอย่างไรก็เชื่อตามนั้นก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่ง) สื่อ Internet ที่เขียนลงกันอยู่ทุกวันนี้ มันเป็นการมอมเมาให้คนเชื่อถือกันมากกว่าที่จะนำเรื่องจริงมาพูด โดยอาจจะคิดว่าสมัยโบราณที่กล่าวกันว่ามีวังสามพระยา และเชื่อกันกว่าพื้นที่ใกล้กับวัดละหารไร่เป็นที่พักทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จึงกล่าวอ้างกันไปเพื่อให้ดูพิศดารว่าเป็นน้ำมันพระเจ้าตาก อยากให้ท่านที่มีพระพิมพ์นี้อยู่ ลองนำพระมาพินิจพิจารณาให้ถ้วนถี่ ดูสักครั้งก็ดีนะครับ[/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT]
[FONT=&quot]พระพิมพ์นี้ถูกทำขึ้นจากคนข้างวัดละหารไร่ ร่วมกับผู้ที่ทำพระขุนแผนบล๊อคแรก (พิมพ์นิยม) แบบเก๊ และพระรูปหนึ่งที่อยู่ในวัดละหารไร่ในยุคหลังจากที่หลวงปู่ทิมท่านละสังขารไปนานแล้ว พระรูปนี้ปัจจุบันไม่ได้อยู่ที่วัดละหารไร่แล้ว แต่ไปอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดอยุทธยา มิหนำซ้ำยังเคยกล่าวอ้างว่าเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ทิม เคยเรียนวิชาต่าง ๆ ด้วย พอไปถามคนในยุคก่อนที่รู้เรื่องจริง กับได้ข้อมูลว่า พระรูปนี้บวชหลังจากหลวงปู่ทิมท่านเสียไปแล้วเป็นปี และเมื่อก่อนนี้เป็นแค่เด็กวัดละหารไร่เท่านั้น ทำพระชุดนี้ขึ้นมา และยังมีอีกสองคนที่รู้เห็นเป็นใจด้วย ซึ่งทั้งสองคนนี้ปัจจุบันนี้ก็ยังมีชีวิตอยู่ แถมมีชื่อเสียงด้วย การกล่าวอ้างของผู้เขียนนี้ หวังว่าคงจะไม่เป็นบาป เพราะผู้เขียน เขียนตามที่ได้ฟังจากชาวบ้านและผู้ที่ทราบเรื่องต่าง ๆ ของพระรูปนี้โดยไม่ได้บิดเบือนข้อเท็จจริงแต่ประการใด [/FONT]

https://www.facebook.com/Nummuangklang, Line ID: siamaraya

หนุ่มเมืองแกลง, 24 กรกฎาคม 2011

#45320
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ

(คุณต้องเข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน เพื่อที่จะโพสต์)

หน้า 2266 ของ 2289

แชร์หน้านี้

Loading...