โลกนี้เิกิดมาครั้งที่เท่าไหร่แล้ว ทำไมวัฏจักรเหล่านี้ถึงไม่สิ้นสุดซะที

อยากถามท่านผู้รู้ทั้งหลายหน่อย รึว่านี่จะเป็นครั้งแรกจริงๆเพราะดูมันพัฒนากันนานจัง จนตายแล้วไปเกิดใหม่ก็ยังหาข้อยุติไม่ได้ ตายตาไม่หลับซะงั้น นี่แหละหนอชีวิตมนุษย์ผู้ยังมีกิเลส

 

พระพุทธเจ้าตรัสว่านี่เป็นปัญหาอจิณไตย แม้พระองค์จะทรงระลึกชาติได้นับไม่ถ้วนก็เห็นมีต่อเนื่องไปไม่สิ้นสุด

 

วัฎจักรของโลกใบนี้จะมีต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด ตราบใดที่มีกาลเวลาอยู่ก็ต้องมีเกิดและดับ วัฎจักรแรกไดโนเสาร์ กำเนิดและดับไปแล้ว วัฎจักรสองมนุษย์ กำเนิดและเดี๋ยวก็ต้องดับ วัฎจักรที่สาม ที่สี่ ที่ห้า.....ต่อไปและต่อไป

 

มันเป็นเรื่องธรรมดาครับ ปรับตัวใช้ชีวิตร่วมอยู่กับมัน มนุษย์มันทำลายดวงจิตไม่ได้หรอกถ้าทำลายได้ทำไปนานละ

 

ถึงได้อยากหนีไปนิพพานไง

 

อยากรู้ก็ไปถามพุทธเจ้า ที่ นิพพานโลก สิครับ

 

ผมว่ามันเหมือนกับล้อเกวียนนะ ไม่ว่าจะโลกหรือมนุษย์ เทวดา ก็ต้องมีเกิด มีดับ วนเวียนไม่รู้จักจบสิ้น หาจุดเริ่มและจุดสิ้นสุดไม่ได้ ไม่มีที่มาและที่ไป แต่สิ่งที่ทำให้ล้อเกวียนหมุนต่อ ๆ ไปได้ นั้นก็คือกรรม มันคือผลกระทบหรือแรงขับที่ทำให้ล้อเกวียนหมุนต่อไปเรื่อย ๆ ....เมื่อมนุษย์ได้รับดวงจิตมาเกิดในชาติใดชาตินึงแล้ว กรรมในชาตินั้น ๆ ที่ได้ทำ ก็ส่งผลต่อไป ๆ ยังชาติภพอื่น และมันจะเป็นอย่างนี้เสมอครับ....นั่นคือเหตุผลว่าทำไมล้อเกวียนถึงเป็นเครื่องหมายของธรรมะครับ

 

เพราะทุกสรรพสิ่ง ล้วนมีชีวิต ... เป็นของมันเอง ... หาก ไม่มีดวงดาวนี้ (โลก) ก้อต้องมีอะไรให้ สิ่งมีชีวิต ... อื่น ๆ แม้ใช่ใช่ตัวเรา ... ต้นไม้ .. ก็มีชีวิต ... เราจึงมีหน้าที่ .. มาดูแล โลกนี้ ให้ หรือ โลก ดาว อื่น ... ให้ความสมดุลย์ ... กับ ธรรมชาติ ...

 

ยังอยากกิน อยากรู้ อยากพูด อยากหายใจ อยากคิด ก็เท่ากับว่ายังมีกิเลสไม่ใช่หรือครับ?

 

มันเป็นสิ่งที่...
มีอยู่ก่อนทั้งสิ่งทั้งปวง....
และอยู่หลังทั้งสิ้งทั้งปวง....

"ไม่มีจุดเริ่มต้น และไม่มีความสิ้นสุด ไม่มีขอบเขต"

คำว่า "วัฏจักร" แท้จริงแล้วมันคือ สิ่งเดียวกับ หลักธรรม
แต่เรียกคนละอย่างกัน..แต่มีความหมายเหมือนกัน

ไม่มีจุดเริ่มต้นและไม่สิ้นสุด มีอยู่ทุกที่...ทุกหนแห่ง


หลักธรรมนั้น มีก่อนพระพุทธเจ้า...เหมือนกับ "วัฏจักร"

สิ่งๆนั้น เรียกว่า "ไกวัลยธรรม"

ความหมาย..

สิ่งที่เรียกว่า "ไกวัลย์" ไม่มีจุดเริ่มต้น และไม่มีความสิ้นสุด จึงอยู่ในฐานะที่เป็น สิ่งมีอยู่ก่อนสิ่งทั้งปวง และอยู่ภายหลังสิ่งทั้งปวง
หมายความว่า สิ่งทั้งปวง มีความหมุนเวียน เปลี่ยนแปลง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป
ท่ามกลาง อาณาจักรแห่งความไม่เปลี่ยนแปลงของ "ไกวัลย์" นั้น.


ในเมื่อ "ไกวัลยธรรม" ตั้งอยู่ในฐานะเป็น "ธรรมธาตุ" ที่ไม่เปลี่ยนแปลง โดยเหตุนี้ พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า "ตถาคตจะเกิดหรือไม่เกิดก็ตาม ธรรมธาตุนั้น ตั้งอยู่แล้วนั่นเทียว คือ ตั้งอยู่ตลอดกาล"

อ่านเพิ่มเติมได้ ที่ สารบัญ ไกวัลยธรรม

 

.....................................................................................................

 

ยังมองหาจุดสิ้นสุดไม่ได้เลยครับ

 

เห็นด้วยค่ะ อย่าไปคิดเลย คิดไปก็ฟุ้งซ่านจะเป็นบ้าไปเปล่าๆ เพราะปัญญาคนทั่วไปยังไม่ถึงที่จะเข้าใจได้ เอาเป็นว่า เกิดมาหลายหนก็แล้วกันค่ะ แต่เกิดเมื่อไหร่ สิ้นสุดเมื่อไหร่ ไม่ต้องไปคิดหรอก