^_^ชมรมคนรัก..พระกริ่ง..พระชัยวัฒน์.โพสภาพและประสบการณ์กันครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย open_your_eye, 24 สิงหาคม 2011.

  1. open_your_eye

    open_your_eye เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2010
    โพสต์:
    912
    ค่าพลัง:
    +2,084
    เนื่องจากผมยังไม่เห็นไม่ใครตั้งกระทู้เกี่ยวกับพระกริ่งและพระชัยวัฒน์อย่างเป็นทางการผมเคยคิดตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเผื่อใครที่มีความชอบเรื่องพระกริ่งพระชัยเหมือนผมจะได้เข้ามาร่วมกันบอกเล่าประสบการณ์และโพสโชภาพกันครับ
    ส่วนตัวผมเองเพิ่งมาหลงใหลในพระกริ่งเพียงไม่กี่ปีจึงมีพระกริ่งและพระชัยไว้ในครอบครองไม่มาก..แต่จะเอาถยอยมาให้เพื่อนๆๆชมกันครับ
    ประวัติการสร้าง พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center jQuery1314162535109="226" sizset="60" sizcache="0"><TBODY jQuery1314162535109="225" sizset="60" sizcache="0"><TR jQuery1314162535109="224" sizset="60" sizcache="0"><TD jQuery1314162535109="223" sizset="60" sizcache="0">ประวัติการสร้าง พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ <IFRAME style="WIDTH: 55px; HEIGHT: 20px" class="twitter-share-button twitter-count-none" title="Twitter For Websites: Tweet Button" src="http://platform.twitter.com/widgets/tweet_button.html#_=1314162538812&count=none&id=twitter_tweet_button_0&lang=en&original_referer=http%3A%2F%2Fwww.tumsrivichai.com%2F%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B7%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587%2F%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B4%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2587-%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2592%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%258C.html&text=%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%20%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B9%8C&url=http%3A%2F%2Fwww.tumsrivichai.com%2Findex.php%3Flay%3Dshow%26ac%3Darticle%26Ntype%3D52%26Id%3D538726114&via=tumsrivichai" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>
    <?xml:namespace prefix = fb ns = "http://www.facebook.com/2008/fbml" /><fb:like class=" fb_edge_widget_with_comment fb_iframe_widget" width="450px" href="http://www.tumsrivichai.com/index.php?lay=show&ac=article&Ntype=52&Id=538726114" send="false" show_faces="true" font=""><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 23px; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" id=fc676ba222c099 class=fb_ltr title="Like this content on Facebook." src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?channel_url=http%3A%2F%2Fstatic.ak.fbcdn.net%2Fconnect%2Fxd_proxy.php%3Fversion%3D3%23cb%3Df3d005608ef43d%26origin%3Dhttp%253A%252F%252Fwww.tumsrivichai.com%252Ff3acc7a977e64ec%26relation%3Dparent.parent%26transport%3Dpostmessage&href=http%3A%2F%2Fwww.tumsrivichai.com%2Findex.php%3Flay%3Dshow%26ac%3Darticle%26Ntype%3D52%26Id%3D538726114&layout=standard&locale=en_US&node_type=1&sdk=joey&send=false&show_faces=true&width=450" frameBorder=0 allowTransparency name=f137c4e04a865a1 scrolling=no></IFRAME></fb:like><SCRIPT src="http://connect.facebook.net/en_US/all.js"></SCRIPT><SCRIPT> FB.init({status : true, cookie : true, xfbml : true, channelUrl : 'http://www.tumsrivichai.com/template/lib_function/channel_fb_connection.html'});</SCRIPT>



    [​IMG]
    พระกริ่ง "พระไภสัชคุรุ"
    ประวัติการสร้าง พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ มีมาแต่โบราณ ประวัติพระกริ่ง เริ่มขึ้นที่ในประเทศทิเบต และจีน จึงเรียกติดปากว่า พระกริ่งทิเบต และพระกริ่งหนองแส พระกริ่งเป็น พระพุทธเจ้าปางมาช่วยโปรดสัตว์โลก หรือเรียกกันว่า "พระไภสัชคุรุ" เป็น พระพุทธเจ้าปางหนึ่งของลัทธิมหายาน ซึ่งหมายความว่า ทรงเป็นครูในด้านเภสัช คือ การรักษาพยาบาล ต่อมาได้แพร่หลายมาก นิยมสร้างในเขมร เรียกว่า พระกริ่งอุบาเก็ง หรือ พระกริ่งพนมบาเก็ง และพระกริ่งพระปทุมสุริยวงศ์
    <SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-1590357468802909";/* 160x90, ถูกสร้างขึ้นแล้ว 11/4/08 */google_ad_slot = "9894408913";google_ad_width = 160;google_ad_height = 90;//--></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"></SCRIPT>


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    สำหรับพระกริ่งที่มีชื่อเสียงทรงคุณวิเศษหลายประการมีผู้นิยมนับถือกันมากยิ่งในปัจจุบันนี้ยิ่งหายาก ต้องยกให้ พระกริ่งวัดสุทัศนฯ เพราะสมเด็จพระสังฆราช(แพ) ทรงสร้างไว้จำนวนไม่มากพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ สุดยอดพิธีกรรม
    พระกริ่ง วัดสุทัศน์</U> สาเหตุที่ทรงสร้าง พระกริ่งวัดสุทัศนนั้นเนื่องจากเมื่อครั้งที่ สมเด็จพระวันรัต(แดง) พระอุปัชฌาย์อาพาธเป็นอหิวาตกโรค สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของพระองค์ทรงเคยรักษาผู้ป่วยเป็นอหิวาตกโรคให้หายได้ ด้วยการอาราธนาพระกริ่งลงในน้ำ ทำเป็นน้ำพระพุทธมนต์ แล้วโปรดให้น้ำนั้นแก่ผู้ป่วยดื่ม ปรากฏว่าหายอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อตรัสอย่างนั้นแล้วก็อาราธนาพระกริ่งลงในน้ำ ทำน้ำพระพุทธมนต์ประทานแก่ สมเด็จพระวันรัต(แดง) เมื่อท่านฉันน้ำพระพุทธมนต์นั้นแล้วก็บรรเทาหายอาพาธเป็นปกติ
    สมเด็จพระสังฆราช(แพ ติสฺสเทว) วัดสุทัศนเทพวรารามได้ทอดพระเนตรเห็นคุณวิเศษน่าอัศจรรย์ของพระกริ่งในขณะนั้นแล้ว จึงเกิดความสนพระทัย และทรงเริ่มศึกษาค้นคว้าตำราที่จะสร้างพระกริ่งเรื่อยมา จนมีความรู้ความเชี่ยวชาญในการสร้าง จนเจนจบ เมื่อจะมีการสร้างพระกริ่งขึ้นครั้งใด พระองค์จะถูกขอร้องให้เป็นผู้ชี้แจงการสร้าง และการหล่อ ในฐานะประธานการหล่อพระกริ่งเสมอมา
    ตำนานความเป็นมาของ พระกริ่งและพระชัยวัฒน์ของสมเด็จพระสังฆราช (แพ) ซึ่งนายนิรันดร์ แดงวิจิตร หรือ อดีตพระครูวินัยกรณโสภณ เป็นผู้เขียน มีข้อความที่น่าสนใจมากดังนี้
    ตำนานพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ "คำว่ากริ่ง" นี้ หมายความว่ากระไร สมเด็จฯ (สมเด็จพระสังฆราช แพ ติสฺสเทว) เคยรับสั่งเสมอว่า คำว่า "กริ่ง" นี้ มาจากคำถามที่ว่า "กึ กุสโล" (กิง กุสะโล) คือ เมื่อพระโยคาวจรบำเพ็ญสมณธรรมมีจิตผ่านกุศลธรรมทั้งปวงเป็นลำดับไปแล้ว
    ถึงขั้นสุดท้ายจิตเสวยอุเบกขาเวทนา ปุญญาภิสังขาร (สภาพที่ปรุงแต่งกรรมฝ่ายดี ได้แก่ กุศลเจตนา) เปลี่ยนเป็น อเนญชา (สภาพที่ปรุงแต่งภพอันมั่นคง ไม่หวั่นไหว ได้แก่ ภาวะจิตที่มั่นคงแน่วแน่ด้วยสมาธิแห่งจตุตถฌาน คือ ฌานที่ 4) เป็นเหตุให้พระโยคาวจรเอะใจขึ้นว่า "กึ กุสโล" นี้เป็นกุศลอะไร เพราะเป็นธรรมที่เกิดขึ้น แปลกประหลาด ไม่เหมือนกับกุศลอื่นที่ผ่านมา ดังนั้น คำว่า "กึ กุสโล" จึงเป็นชื่อของ อเนญชา คือ "นิพพุติ" แปลว่า "ดับสนิท" คือหมายถึงพระนิพพานนั่นเอง"
    มูลเหตุที่สมเด็จพระสังฆราช(แพ) ทรงสร้าง พระกริ่งและพระชัยวัฒน์ นั้นมีดังจะกล่าวต่อไปนี้ คือ ทรงเล่าว่าเมื่อพระองค์ดำรงสมณศักดิ์เป็นพระศรีสมโพธิ ครั้งนั้น สมเด็จพระวันรัต (แดง) อาพาธเป็นอหิวาตกโรค สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ครั้งยังทรงเป็นกรมหมื่นเสด็จมาเยี่ยม เมื่อรับสั่งถามถึงอาการของโรคเป็นที่เข้าพระทัยแล้ว รับสั่งว่า เคยเห็นกรมพระยาปวเรศฯเสด็จพระอุปัชฌาย์ของพระองค์อาราธนาพระกริ่งแช่น้ำอธิษฐาน ขอน้ำพระพุทธมนต์แล้วให้คนไข้เป็นอหิวาตกโรคกินหายเป็นปกติ
    พระองค์จึงรับสั่งให้มหาดเล็กที่ตามเสด็จไปนำพระกริ่งที่วัดบวรนิเวศแต่สมเด็จฯ ทูลว่า พระกริ่งที่กุฏิมี สมเด็จพระมหาสมณเจ้า จึงรับสั่งให้นำมา แล้วอาราธนาพระกริ่งแช่ น้ำอธิษฐานขอน้ำพระพุทธมนต์แล้วนำไปถวายสมเด็จพระวันรัต (แดง) เมื่อท่านฉันน้ำพระพุทธมนต์แล้ว โรคอหิวาต์ก็บรรเทาหายเป็นปกติ ส่วนจะเป็นพระกริ่งสมัยไหนพระองค์ท่านรับสั่งว่าจำไม่ได้
    สำหรับคำกล่าวว่าตำราสร้างพระกริ่งใน ยุคกรุงรัตนโกสินทร์นี้ เดิมเป็นตำราของสมเด็จพระนพระชัต วัดป่าแก้ว สำนักอรัญญิกาวาสสมถธุระวิปัสสนาธุระแห่งกรุงศรีอยุธยา และมาอยู่ที่สมเด็จกรมพระยาปรมานุชิตชิโนรส ศรีสุคตขัตติยวงศ์ วัดพระเชตุพนฯ จากนั้นพรมงคลทิพย์มุนี (มา) วัดจักรวรรดิราชาวาส ก่อนที่จะมาตกอยู่ที่สมเด็จพระสังฆราช (แพ) เมื่อครั้งยังทรงสมณศักดิ์เป็นพระเทพโมลี
    นอกจากนี้การแสวงหาแร่ธาตุที่มีคุณต่างๆ นั้น ต้องใช้ความพยายามไม่น้อย ตามตำราการ สร้างพระกริ่งเนื้อ นวโลหะสายวัดสุทัศนฯ ประกอบไปด้วย 1.ชินน้ำหนัก 1 บาท (1 บาท = 15.2 กรัม) 2.จ้าวน้ำเงิน น้ำหนัก 2 บาท(แร่ชนิดหนึ่ง สีเขียวปนน้ำเงิน) 3.เหล็กละลายตัว น้ำหนัก 3 บาท 4.บริสุทธิ์ทองแดงบริสุทธิ์น้ำหนัก4 บาท 5.ปรอท น้ำหนัก5 บาท 6.สังกะสี น้ำหนัก 6 บาท7.ทองแดง น้ำหนัก 7 บาท 8.เงิน น้ำหนัก 8 บาท และ 9.ทองคำ น้ำหนัก 9 บาท มาหล่อหลอมให้กินกันดีแล้วนำมาตีเป็นแผ่นแล้วจารยันต์ 108 กับ นะ ปถมัง 14 นะ ครั้งได้ฤกษ์ยามดีก็จะพิธีลงยันต์ในพระอุโบสถต่อไป จากนั้นก็กลับนำมาหล่อตามฤกษ์อีกครั้ง
    ด้วยมวลสารพิธีกรรมและฤกษ์ ทำให้พระกริ่งที่ สร้างในยุคก่อนมีความเข้มขลังสามารถแช่น้ำทำน้ำมนต์มาดื่มกันรักษาโรคได้ แต่การสร้างยุคหลัง ส่วนใหญ่จะเป็นการรวบรัด แม้ว่าจะเป็นเนื้อนวโลหะครบตามสูตร แต่การจารยันต์และฤกษ์การเทนั้นไม่เป็นตามตำรา พระกริ่งยุคหลังจึงนำมาแช่น้ำทำน้ำมนต์มาดื่มกันรักษาโรคไม่ได้ดีเท่าในอดีต
    พระกริ่ง เป็นพระเครื่องที่คนในวงการพระเครื่องเชื่อมากันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะ "เซียนพระกริ่ง" ยังเชื่อกันอย่างแน่วแน่ว่า สามารถช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆได้ทุกโรค โดยเฉพาะโรคที่การแพทย์แผนปัจจุบันหาสาเหตุไม่พบ และรักษาด้วยยาไม่ได้ ยามใดที่เกิดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยจงอธิษฐานขออำนาจพุทธคุณในพระกริ่ง แล้วนำพระแช่น้ำ จากนั้นก็เอามาดื่ม บ้างก็นำมาอาบ เพื่อความเป็นสิริมงคล โรคภัย ไข้เจ็บป่วยอยู่นั้น ก็จะหายโดยอัศจรรย์
    เรื่องการใช้พระกริ่งทำ น้ำมนต์รักษาโรคนั้นผมเคยมีประสบการณ์ตรงด้วยตัวเองเมื่อประมาณปี 2530 ลูกชายคนโต (นายอรรจน์ จิระเจริญยิ่ง ปัจจุบันอายุ 26 ปี) ท้องร่วงอย่างรุนแรง ต้องหามส่งโรงพยาบาล หมอเริ่มให้กินยาชุดแรกตอน 02.00 น. และชุดที่ 3 ประมาณ 04.00 น. อาการก็ไม่ดีขึ้น นอนดิ้นทุรนทุราย จึงคิดถึงคำร่ำลือเรื่องพระกริ่งช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้ทุกโรค จากนั้นนำพระกริ่งวัดช้างปี 2484 ที่พกติดตัวเป็นประจำ เอาน้ำใส่แก้ว จากนั้นก็ยกมืออธิษฐานก่อนที่จะแช่พระกริ่งใน แก้ว แล้วให้ลูกดื่มกิน เพียงแค่ลูกกลืนน้ำอึกที่ ๓ ลูกก็หลับสนิท ตื่นมาอีกครั้งตอนเที่ยงวันของวันรุ่งขึ้น สามารถกินข้าวได้ และออกจากโรงพยาบาลได้ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
    ล้งท่าพระจันทร์ ที่มา[​IMG]

    <SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-1590357468802909";/* 300x250, ถูกสร้างขึ้นแล้ว 10/31/08 */google_ad_slot = "6005317840";google_ad_width = 300;google_ad_height = 250;//--></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"></SCRIPT>
    <INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_0_anchor><IFRAME style="POSITION: absolute; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=aswift_0 onload="var i=this.id,s=window.google_iframe_oncopy,H=s&&s.handlers,h=H&&H,w=this.contentWindow,d;try{d=w.document}catch(e){}if(h&&d&&(!d.body||!d.body.firstChild)){if(h.call){i+='.call';setTimeout(h,0)}else if(h.match){i+='.nav';w.location.replace(h)}s.log&&s.log.push(i)}" height=undefined marginHeight=0 frameBorder=0 width=undefined allowTransparency name=aswift_0 marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME></INS></INS><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_1_anchor><IFRAME style="POSITION: absolute; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=aswift_1 onload="var i=this.id,s=window.google_iframe_oncopy,H=s&&s.handlers,h=H&&H,w=this.contentWindow,d;try{d=w.document}catch(e){}if(h&&d&&(!d.body||!d.body.firstChild)){if(h.call){i+='.call';setTimeout(h,0)}else if(h.match){i+='.nav';w.location.replace(h)}s.log&&s.log.push(i)}" height=null marginHeight=0 frameBorder=0 width=null allowTransparency name=aswift_1 marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME></INS></INS>
     
  2. open_your_eye

    open_your_eye เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2010
    โพสต์:
    912
    ค่าพลัง:
    +2,084
    ขอประเดิมกับองคืแรกที่มีประสบการรืของผมก่อนเลย..พระกริ่งนารายณ์รุ่งเรือง
    เนื่องจากได้มีโอกาศได้ร่วมบุญกับพี่หมอฟอร์ด..เลยชอบรูปลักษณ์พระกริ่งนารายณ์มาก
    และประกอบกับส่วนตัวชอบพระกริ่งที่เททองแบบโบราณคือใช้เบ้าพิมพ์ที่พอกจากขี้วัวหรือที่เรียกว่าหล่อโบราณไม่ใช่แม่พิมพ์แบบปูนขาวๆๆแต่เสน่ห์ของพิมแบบโบราณคือพระมักจะไม่ค่อยสวย..แต่จะมีความคลาสสิคแบบหล่อโบราณส่วนแม่พิมพ์หล่อสมัยใหม่มักใช้ปูนฝรั่งที่เวลาทุบออกมาจะเป็นขาวๆๆขอ้ดีคือประหยัดและพิมพ์ทรงจะสวยงามสรางพระได้ครั้งล่ะมากๆๆ
    ส่วนประสบการณ์จากพระกริ่งนารายณ์เนื่องจากปีที่แล้วแนวโน้มเศรษฐกิจไม่ค่อยดีพอดีใกล้ช่วงประเมินผลงานใกล้เข้ามาแล้วคิดว่าปีนี้คงได้ปรับขึ้นเงินเดือนนิดเดียวหหรือไม่ด้ปรับเลยดังนั้นผมเลยอาราธนาพระกริ่งนารายณ์ขอให้ผลการปรับเงินเดือนเป้นที่น่าพอใจด้วยเถอะสาธุ..ผลปรากฎว่าได้ปรับเงินเดือนสูงสุดในบรรดากลุ่มเพื่อนๆๆเพื่อนๆๆงงกันเป็นแถว..จากนั้นเวลามีงานอะไรที่มีรางวัลต้องได้รางวัลติดไม้ติดมือเป็นประจำ..
    อันี้เป็นประสบการณืแรกของพระกริ่งของผมคัรบ
    พระกริ่งนารายณ์รุ่งเรืองก้นเงินหนึ่งใน56องค์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • n17.jpg
      n17.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.5 KB
      เปิดดู:
      598
    • n19.jpg
      n19.jpg
      ขนาดไฟล์:
      93.1 KB
      เปิดดู:
      531
    • n18.jpg
      n18.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.8 KB
      เปิดดู:
      414
    • n21.jpg
      n21.jpg
      ขนาดไฟล์:
      102.2 KB
      เปิดดู:
      350
  3. ksongrit

    ksongrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    841
    ค่าพลัง:
    +7,405
    ชอบพระกริ่งเหมือนกันครับ
    มาร่วมทักทาย
    องค์นี้กริ่งเจ้าสัวครับ
    สร้างเมรุวัดเชิงท่า ครับ
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P5127790.jpg
      P5127790.jpg
      ขนาดไฟล์:
      118.4 KB
      เปิดดู:
      554
    • P5127794.jpg
      P5127794.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.7 KB
      เปิดดู:
      566
    • P5127792.jpg
      P5127792.jpg
      ขนาดไฟล์:
      87.1 KB
      เปิดดู:
      602
  4. ถิรวุษิ

    ถิรวุษิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,685
    ค่าพลัง:
    +7,521
    สุดๆครับ ผมก็ชอบมากพระกริ่งแต่วาสนาไม่เคยนำพาให้ได้เลย ผมมีอยู่1องค์ ยังไม่รู้ที่ ดีใจครับที่มีกระทู้นี้ขึ้นมา เผื่อบ้างที่มีคนทราบจะได้รู้ที่ รู้วัด เอามาลงให้ชมก่อน ว่างๆแล้วค่อยมาแต่งภาพทีหลัง
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p1020550dd3.jpg
      p1020550dd3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      354.2 KB
      เปิดดู:
      284
    • p1020546ur9.jpg
      p1020546ur9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      273.5 KB
      เปิดดู:
      245
    • p1020552qi8.jpg
      p1020552qi8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      351.5 KB
      เปิดดู:
      234
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2011
  5. ksongrit

    ksongrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    841
    ค่าพลัง:
    +7,405
    กริ่งปวเรศหลวงปู่สุภา หรือ กริ่งสึนามิ เนื่องจากช่วยให้ผู้ใหญ่รอดจากคลื่นยักษ์ครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0392.jpg
      IMG_0392.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.9 KB
      เปิดดู:
      352
    • IMG_0393.jpg
      IMG_0393.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.7 KB
      เปิดดู:
      309
    • IMG_0385.jpg
      IMG_0385.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.2 KB
      เปิดดู:
      349
  6. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,572
    ค่าพลัง:
    +30,871
    เข้ามารอชมครับ:cool:
     
  7. open_your_eye

    open_your_eye เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2010
    โพสต์:
    912
    ค่าพลัง:
    +2,084
    โหป๋าบัติมาเยี่ยมชมกระทู้เองเลย..เดียวจัดให้ชมเรื่อยๆๆนะป๊า55+
     
  8. open_your_eye

    open_your_eye เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2010
    โพสต์:
    912
    ค่าพลัง:
    +2,084
    พระกริ่งแต่ละท่านสวยๆๆทั้งงั้นเลยครับใครมีเอามาลงให้เพื่อนๆๆดูเรื่อยๆๆเลยนะครับ
     
  9. Yasamsen

    Yasamsen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2010
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +165
    มีแต่ของใหม่ อายครับ บุญยังน้อยมิอาจได้ครอบครองพระกริ่ง พ.ศ.ลึกๆกะเขาบ้าง
    องค์นี้เป็นพระกริ่งชัยวัฒน์ หลวงปู่แผ้ว วัดกำแพงแสน ปี๒๕๔๘ หยกๆมานี่เอง แต่ก่อนไปหาท่านบ่อย เดี๋ยวนี้ทดสะกันมันเยอะ ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_9155.jpg
      IMG_9155.jpg
      ขนาดไฟล์:
      147.9 KB
      เปิดดู:
      342
    • IMG_9156.jpg
      IMG_9156.jpg
      ขนาดไฟล์:
      141.9 KB
      เปิดดู:
      328
    • IMG_9161.jpg
      IMG_9161.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94.4 KB
      เปิดดู:
      292
  10. open_your_eye

    open_your_eye เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2010
    โพสต์:
    912
    ค่าพลัง:
    +2,084
    รุ่นี้ก็สุดยอดแล้วพี่จำได้ตอนัน้นรู้จักหลวงปู่แผ้วอยากได้กริ่งรุ่นี้มากเลยแต่ราคาแรงเลยมะไหวเจ้าของเปิดราคา2หมื่น..Y_Y
     
  11. open_your_eye

    open_your_eye เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2010
    โพสต์:
    912
    ค่าพลัง:
    +2,084
    การหล่อแบบโบราณ
    เป็นวิธีการที่ใช้ในการสร้างพระกริ่ง.รูปหล่อ และเหรียญหล่อโบราณ มากมายในพระเครื่องต่างๆ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นพระยอดนิยมอันดับต้นๆของประเทศ เช่น รูปหล่อ-เหรียญหล่อ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จังหวัดพิจิตา รุ่นแรก, รูปหล่อหลวงพ่อเดิม เป็นต้น
    ขั้นตอนการหล่อแบบโบราณ ประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆดังนี้
    1) การขึ้นดินหุ่น คือการแกะหุ่นดินตามรูปพรรณสัณฐานที่ต้องการ จากนั้นจึงนำมาหล่อเป็นองค์พระต้องการ พระที่ได้ครั้งแรกนี้เรียกว่า “แกนหุ่นดิน”
    2) เข้ารูปขี้ผึ้ง เมื่อได้แกนหุ่นที่หล่อเรียบร้อยแล้ว จะนำขี้ผึ้งมาพอกองค์พระ แกะตกแต่งรายละเอียดด้วยเสนียด (ไม้ทองเหลืองปลายแบน) จนเป็นที่พอใจก็จะได้รูปขี้ผึ้งองค์พระที่ต้องการจะให้เป็นในลักษณะอากัปกิริยาต่างๆ ตลอดจนลวดลายตามความประสงค์ของผู้แกะแบบ
    3) พอกดินขี้วัว เมื่อได้รูปขี้ผึ้งแล้วก็นำดินขี้วัว (นำขี้วัวมาคั้นน้ำผสมกับดินเหนียวและทรายให้ข้นจับตัวกันเหนี่ยวแน่น) พอกให้ทั่วองค์พระหุ่นขี้ผึ้ง แล้วเจาะรูตรงปลายเพื่อให้ขี้ผึ้งไหลออกมาเมื่อถูกความร้อนสูง
    4) เทสารละลาย นำโลหะผสมที่หลอมละลายรวมกันเข้าที่แล้ว เทลงในเบ้าแม่พิมพ์ ความร้อนจะทำให้ขี้ผึ้งละลายออกมาจากรูที่เจาะไว้เรียกว่า “การสำรอกขี้ผึ้ง” โลหะผสมจะเข้าแทนที่ขี้ผึ้งได้รูปองค์พระที่ต้องการ
    5) การทุบเบ้าทิ้ง เมื่อกระบวนการต่างๆที่ผ่านมาสำเร็จด้วยดีแล้ว พอโลหะจับกันแข็งตัวและเย็นดีแล้ว ก็จะมีการทุบเบ้าดินที่หุ้มองค์พระไว้ออกให้หมด ดังนั้น จึงมีการเรียกพระหล่อโบราณว่า “พระพิมพ์เบ้าทุบ”
    พระหล่อโบราณที่ได้ ส่วนมากจะขาดความละเอียดของเส้นรูปพรรณเค้าหน้า และร่างกายเนื่องด้วยเครื่องมือแบบภูมิปัญญาชาวบ้านโบราณ ขาดศักยภาพกระทำการ อีกทั้งโลหะผสมขาดการชั่งตวงวัด และควบคุม รวมถึงความร้อนที่สม่ำเสมอทั่วถึง ทำให้องค์พระขาดความคมชัด หากแต่ธรรมชาติของดินพอกหุ่นและความไม่พอดีของอัตราส่วนโลหะผสม ก็นับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของพระหล่อโบราณ ที่ยากแก่การปลอมแปลง ดินขี้เบ้าที่ติดอยู่กับเนื้อโลหะเมื่อได้รับความร้อน เกิดการหลอมรวมกินตัว ผสมผสานเป็นส่วนหนึ่งของวรรณะตามซอกองค์พระ ก็ถือเป็นไม้ตายในการพิจารณาพระเก่า ให้ต่างจากพระใหม่ได้อีกประการหนึ่ง
    การหล่อแบบสมัยใหม่
    นับเป็นวิวัฒนาการต่อเนื่อง โดยมีเครื่องอำนวยความสะดวก และสามารถสร้างพระได้ปริมาณมากๆในเวลาเดียว ซึ่งหักการของขั้นตอนก็จะคล้ายคลึงกับการหล่อโบราณคือ
    1) แกะแม่พิมพ์ด้วยขี้ผึ้ง ใช้ปูนปาสเตอร์พอกหุ่นแทนดินขี้วัว แล้วจึงสำรอกขี้ผึ้งออกต่อจากขั้นตอนนี้ เดิมทีจะต้องกระทำต่อเนื่องกันในขณะที่แม่พิมพ์ยังร้อนอยู่ แต่ในสมัยใหม่จะเป็นการ “เทพิมพ์เย็น” หมายถึงให้พิมพ์ที่ผ่านการหลอมและสำรอกขี้ผึ้งออกแล้วปล่อยให้เย็นตัวก่อน แล้วจึงเทโลหะผสมลงไป ซึ่งวิธีการนี้สามารถสร้างพระได้เป็นช่อทีละหลายองค์ในครั้งเดียว
    2) การฉีดพระ นับเป็นเทคนิคใหม่ที่ทำให้พระออกมาสวยมีรายละเอียดคมชัดทุกสัดส่วน ตามความปรารถนา อันเกิดจากการเหวี่ยงโลหะอย่างเร็วและแรงหลายรอบ ให้กินรายละเอียดของแม่พิมพ์ได้ทุกอณู สำหรับขั้นตอนการฉีดพระประกอบด้วย การแกะแม่พิมพ์ด้วยขี้ผึ้ง ถอดพิมพ์ด้วยยางทำฟัน ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีมากในการเก็บรายละเอียดต่างๆได้อย่างครบถ้วน จากนั้นจึงใช้ปูนทำฟันฉีดเข้าพิมพ์ยาง แล้วนำใส่เข้ากระบอกเหวี่ยงเพื่อไล่โลหะให้เข้าไปตามกระบอกโดยผ่านท่อ แรงเหวี่ยงจะอัดมวลสารไปยังทุกส่วนของแม่พิมพ์ จะได้พระที่งดงามตามปรารถนาเป็นช่อๆละหลายองค์
    หลักการนี้ใช้ได้ทั้งการทำพระกริ่งและเหรียญหล่อโบรารต่างๆๆน่ะครับ
    แต่โดยส่วนตัวชอบการหล่อแบบโบราณมากกว่า
     
  12. open_your_eye

    open_your_eye เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2010
    โพสต์:
    912
    ค่าพลัง:
    +2,084
    จำลองเบ้าพิมพ์ประกบพระกริ่งปวเรศ



    สร้างเบ้าพิมพ์ประกบจากปูนปลา่สเตอร์เพื่อศึกษาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของเบ้าพิมพ์หล่อพระกริ่งปวเรศในอดีต

    [​IMG]
    รูปที่ 1 แสดงแม่พิมพ์เรียนแบบแม่พิมพ์เมื่อ 119 ปีที่ผ่านมา พบว่าการสร้างแม่พิมพ์นั้นขั้นแรกต้องมีกริ่งปวเรศต้นฉบับ 1 องค์ แล้วนำมากดลงในดินที่จะทำเป็นเบ้าประกบ เมื่อได้แม่พิมพ์ดินเผาออกมาดังรูป ความคมชัดของพระกริ่งจะปรากฏอยู่ในแบบแม่พิมพ์ทั้งหมด แม่พิมพ์เบ้าประกบจะมีความงดงามดั่งกับพระกริ่งปวเรศองค์ที่เป็นต้นแบบ ผิวเรียบเนียนมันเงาปราณีต

    [​IMG]


    รูปที่ 2 แม่พิมพ์ประกบ 2 ด้าน พระกริ่งปวเรศ รุ่น 1 พิมพ์สมบูรณ์ พูนสุขที่พบฐานบัวจะเป็นโพรงซึ่งเกิดจากการนำัวัสดุใส่เข้าไปในแม่พิมพ์ก่อนที่จะทำการเทโลหะหล่อเป็นองค์พระกริ่งปวเรศดังรูป เมื่อเทโลหะที่ผสมตามสูตรลงไปในเบ้าพิมพ์ประกบจะทำให้บริเวณฐานบัวด้านในของพระกริ่งปวเรศ ไม่มีเนื้อโลหะ เนื่องจากมีวัสดุใส่เพื่อทำเป็นโพรง ภายหลังจึงคว้านวัสดุที่เตรียมไว้ออกแล้วใส่เม็ดกริ่งเข้าไปแทน








    [​IMG]

    รูปที่ 3 แสดงให้เห็ถึงพระกริ่งปวเรศที่เทหล่อเป็นองค์พระกริ่งฯเสร็จแล้ว เมื่อโลหะจับตัวเย็นลงทำการถอดแม่พิมพ์เบ้าประกบออกจะพบพระกริ่งที่หล่อได้ดังรูปซึ่งมีแกนชนวนอยู่ภายในใต้ฐานพระกริ่งปวเรศ เมื่อทำการคว้านวัสดุที่เตรียมไว้เพื่อทำโพรงออก และหักแกนชนวนที่ติดกับฐานพระกริ่งปวเรศภายในออก นำพระกริ่งฯไปเกลาตบแต่งรอยประกบรอบองค์พระกริ่งฯพร้อมทั้งขัดตบแต่งให้สวยงาม


    [​IMG]
    รูปที่ 4 แสดงเบ้าพิมพ์ประกบหน้าหลัง ซึ่งช่างสมัยโบราณได้คิดวิธีการหล่อด้วยเบาพิมพ์ประกบ มีข้อดีคือ พระกริ่งฯที่เทออกมามีความงดงามดั่งพระกริ่งฯองค์ต้นฉบับ เพราะเบ้าประกบแม่พิมพ์ดินเผามีเนื้อแข็งแรง แกร่ง เนื้อดินของเบ้าประกบมีความเนียนละเอียด ทั้งยังสามารถใช้เบ้าพิมพ์ประกบเทพระกริ่งได้หลายๆรอบ 2. เมื่อทำการเทโลหะที่หลอมเสร็จแล้วใส่ในเบ้าพิมพ์ประกบ ร่องรอยต่อของแม่พิมพ์ประกบระหว่างกลางของแม่พิมพ์ที่มาประกบกันเป็นช่องว่างทำให้โลหะที่เทเข้าไปในแม่พิมพ์เป็นตัวไล่อากาศ

    [​IMG]
    รูปที่ 5 รูปนี้ผู้เขียนวิเคราะห์เบ้าพิมพ์ประกบที่ใช้เป็นแบบหล่อช่างสมัยโบราณมีเทนิควิธีเทโลหะเข้าเบ้าประกบเพื่อทำการหล่อพระกริ่งปวเรศง่ายๆดังรูป
     
  13. Yasamsen

    Yasamsen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2010
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +165
    ผมเช่ามาจากวัด จำไม่ได้ว่า199 หรือ 250
    จำได้แค่ พระสังกัจจายน์ องค์ละ99 เดี๋ยวนี้พระสังกัจจายน์ กลับดำละเพราะใช้
    เหรียญรุ่นแรก ทหารใหม่ให้ผม เพื่อนผมที่ศรัทธาท่านมาก มาขอผม ผมก้อให้ไป เก็บไว้แต่เหรียญไตรมาส๔๖ ผมหวง ผมเรียกกันว่ารุ่นแช๊ะ ของบางอย่างท่านไม่แพงและดีด้วย พี่เก็บ(ไว้ใช้)พระท่านปีก่อนที่ตระกรุดท่านจะดังเหอะผมว่าท่านเต็มใจ เต็มที่กับการเสกเเน่ๆ ทุกวันนี้เหรียญดังกล่าวคนไม่เล่นหาบูชาเช่นเหรียญกลมเล็กๆด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่ หลังเป็นครุฑ กับถุงเงิน กลับไม่เป็นที่นิยม รุ่นนี้มีคนเหมารถจากเมืองกาญมากราบท่านนะครับ เด็กที่ใช้เหรียญนี้ ตกแม่น้ำแคว ลอยไปไม่จม ต้องเอาเรือตาม ทั้งๆที่เด็กว่ายน้ำไม่เป็น (เหมือนผมโม้ แต่ยืนยันไม่ได้โปรโมทอะไร) หลวงพ่อให้ผมมากำหนึ่ง เอาไปจับพุทธคุณ ไม่มีเลยเเจกลูกน้องไปหมด กลับไปที่วัดอีกที(ปี๔๖-๔๗)ก้อมีคนที่กาญเหมารถมารอกราบท่านแล้วเขาเล่าให้ผมฟัง มันเป็นไปได้.....ง
     
  14. open_your_eye

    open_your_eye เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2010
    โพสต์:
    912
    ค่าพลัง:
    +2,084
    ของหลวงปู่แผ้วเท่าที่ผมมี..มีรูปหล่อก้นระฆังวัดรางหมันและเหรียญสีวลีจกบาตร..วัดหนองพงนก
     
  15. open_your_eye

    open_your_eye เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2010
    โพสต์:
    912
    ค่าพลัง:
    +2,084
    พระกริ่ง8รอบหลวงปู่ทิมวัดพระขาว..เนื้อทองทิพย์จำนวนสร้าง4999องค์
    ด้านล่างอุดชานหมากฝังตะกรุดและเม็ดกริ่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 79468-1.jpg
      79468-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.6 KB
      เปิดดู:
      242
    • 79468-2.jpg
      79468-2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.4 KB
      เปิดดู:
      284
    • 79468-3.jpg
      79468-3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.1 KB
      เปิดดู:
      232
  16. ppoonsuk

    ppoonsuk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    3,994
    ค่าพลัง:
    +7,068
    ขออนุญาติคุณ open

    พระกริ่ง 7 รอบหลวงปู่ทิม วัดพระขาว

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. ppoonsuk

    ppoonsuk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    3,994
    ค่าพลัง:
    +7,068
    พระกริ่งครบ 7 รอบ หลวงปู่ทิม วัดพระขาว เนื้อนวะ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. ppoonsuk

    ppoonsuk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    3,994
    ค่าพลัง:
    +7,068
    พระกริ่งครบ 8 รอบ หลวงปู่ทิม วัดพระขาว

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. open_your_eye

    open_your_eye เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2010
    โพสต์:
    912
    ค่าพลัง:
    +2,084
    ผมล่ะใฝ่ฝันเลยพี่พูนสุขกริ่งรุ่นแรกของหลวงปู่แต่ราคาไปไกลและรุ่นี้ถือเป็นรุ่นแรกและที่สำคัญเททองในวัดทั้งหมด..ตอนี้ผมคงจะเก็บได้แค่เนื้อทองทิพย์55+..เนื้อนวะก้นทองคำคงราคาเกินเอื้อม
     
  20. open_your_eye

    open_your_eye เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2010
    โพสต์:
    912
    ค่าพลัง:
    +2,084
    พระชัยวัฒน์7รอบ..(รุ่นแรก)เนือ้เงินกน้มีจารย์..หลวงปู่ทิมวัดพระขาว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 003.jpg
      003.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76.5 KB
      เปิดดู:
      256
    • 004.jpg
      004.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.5 KB
      เปิดดู:
      231
    • 005.jpg
      005.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.6 KB
      เปิดดู:
      244

แชร์หน้านี้

Loading...