ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

พระ เสี่ยนี่ มีแต่ ทองคำ ล้วนๆเลย นะ ยอมจ้ายอม
สุดยอดเลยจ้าเสี่ย .......ไม่รู้เสี่ยแกทำบุญด้วยอะไรน้า
ที่บ้านแก ถึงได้มีแต่ทองคำกองเต็มบ้านเต็มช่องไปโม๊ดเลยจ้า
ขออนุโมทนาด้วยจ้า ท่านเสี่ยล้างใจ(k)

 

โห คุณศิลาเพชร แค่นี้ก็ดีกว่าผมเยอะจ้า ผมไม่มีเลย
ทั้งแบบ ออริจินอล กับทั้ง แบบตะกรุดทองคำ ผมยอมแพ้คุณศิลาเพชร
และก็เสี่ยอีกครั้งจ้า

พระเลือกคน และ คนก็เลือกพระ
แต่คนรวย ได้ของดี เพราะเขาทำทานบารมีมาดีกว่าเรายอมจ้า

 

ลองอาราธนาดูครับ สมัยก่อนผมอยากได้มาก หายังไงก็หาไม่ได้ พอถึงเวลาก็ได้มาโดยไม่ได้ตั้งใจ เรื่องมีอยู่ว่า พระมหาโดมท่านเป็นเพื่อนเล่นกับผมสมัยเด็กๆเรียนที่โรงเรียนวัดราษฎร์สโมสรมาด้วยกันจนถึงป.4 ท่านได้บวชตั้งแต่เป็นสามเณรและเรียนบาลีอยู่ที่วัดช้างให้ ท่านเคยนำมาให้ผมดูและบอกว่าได้รับมาจากมือพระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ผมเองก็อยากได้แต่ท่านไม่ยอมให้ หลายปีผ่านไป ท่านก็โทรมาบอกว่ามีเพื่อนของท่านที่เคยบวชเรียนด้วยกัน พอสึกออกไปก็เดือดร้อนเรื่องปัจจัยเลยอยากให้ผมช่วย ผมก็รับไว้ด้วยความยินดีครับ ปัจจุบันพระท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดบ่อผุด เกาะสมุยครับ

 

กราบสมเด็จหลวงปปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

สวัสดี ขอรับลูกหลานและเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ขอบคุณ คุณนวล ในความกรุณา
หลวงปู่จะไปอยู่ฝรั่งเศส ๑ เดือน อังกฤษ สวิส เยอรมัน
และเนเธอร์แลนด์ อีก ๑๕ วัน ​

 

เจอแล้วครับ​

ตามลายแทงหลวงพ่อทวด วัดนวลประดิษฐ์ไปเจอมาอย่างนี้
ขออนุญาตเจ้าของรูปนำมาลงไว้เพื่อศึกษา ขอบคุณครับ
องค์แรกจากเว็ป G ครับ http://www2.g-pra.com/auctionc/view.php?aid=1233312
​

<TABLE border=0 width="100%" bgColor=orange><TBODY><TR><TD width="80%" align=middle>พระหลวงปู่ทวดวัดนวลประดิษฐ์นภาราม จ.ชุมพร ปี2505 พิมพ์ใหญ่

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="95%" align=center><TBODY><TR><TD align=middle>

​

​

องค์ข้างล่างจากชมรมคนรักพระเครื่อง บอกเป็นพิมพ์กรรมการ

http://thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/vreply.php?user=prakruang&topic=28010​

หลวงพ่อทวด วักนวลประดิษฐ์ ปี 2505 พิมพ์กรรมการครับ​

​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

พิมพ์พิเศษของวัดนวลนี่เองมิน่าหาดูชมยากผมไม่เคยเห็น ยินดีด้วยครับท่าน charoen.b ตอนเห็นพระท่านครั้งแรกผมนึกในใจวัดนวลแน่ๆดูไปสัก2นาทีพิมพ์มันไม่ใช่แต่เนื้อมันใช่ ผมเลยไม่ตอบเพราะไม่ชัวร์ขอรับท่าน

 

**************เสมาเล็กครับ*************





*******************************
​

 

ขอบคุณทั้งสองท่านนะคะที่ช่วยดูให้ หลังจากนี้คงแล้วแต่ดวงของน้องเค้าละค่ะ

 

เหรียญนี้ ประทับใจมาก ขอรับคุณ watchdog​

 

นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะอิติภะคะวา
กราบหลวงพ่อทวด..
และสวัสดีสมาชิกทุกคน...




ยินดีด้วยจ้าท่านสารวัตร สุดยอดไปเลยองค์นี้
....
ไม่ขนาดนั้นหรอกครับคุณรุ่ง...มีแค่พอทานข้าวไปวันๆ ^^
...
ตะกรุดนารายณ์ของคุณศิลาเพชร ก็ไม่ธรรมดานะครับ big e
..
ขอ อนุโมทนา กับคุณนวลและ อ.จงอาง และทุกท่าน ด้วยครับ ...ขอให้เกิดมารวยๆๆๆทุกชาติทุกคน นะครับ
..
หลวงพ่อทวดของคุณ watchdog พศ อะไรครับ ท่าทางเก่ากว่าเสมาเล็กของผม.
...
หลวงพ่อทวดของคุณ Haarhus สวยมากครับ เป็นอีกรุ่นที่น่าเก็บ และอยากได้..

..........

คืนนี้ขอให้ฝันดีๆ ทุกท่านครับ...หลวงพ่อทวดและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายคุ้มครอง
นอนหลับสบาย ตื่นมาได้รับแต่สิ่งดีๆ ทุกคน...ราตรีสวัสดิ.

 

ฝากเพลงกล่อมทุกท่านครับ.... เพลงไทย แต่คนร้องไม่ไทย.... ชัดและเพราะเหลือเกิน

"><iframe src="http://www.youtube.com/embed/f0ytQIIQjo4" allowfullscreen="" frameborder="0" height="345" width="420"></iframe>

 

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]

พระเครื่อง คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๔

“พระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี ๒๔๙๗ ของแท้หรือเก๊...ดูกันตรงไหน”
โดย สายตรงหลวงพ่อทวด วิจิตร ปิยะศิริโสฬส ( แพะ สงขลา )
จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้น และเป็นที่ประจักษ์มาแล้วมากมายจนนับครั้งไม่ถ้วน กับผู้ที่บูชาพระเครื่องหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ไว้กับตัว จึงได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ได้หนุนนำให้ความศรัทธาของประชาชนทั่วประเทศ ที่มีต่อองค์สมเด็จหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ณ เวลานี้ ได้ส่งผลให้วัตถุมงคลทุกรุ่นที่ทัน ท่านพระอาจารย์ทิม ธมฺมธโร อดีตเจ้าอาวาสวัดช้างให้ ปลุกเสก ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเป็นวงกว้าง ทำให้พระเครื่องของท่านมีเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดพระเครื่องพระบูชา
โดยเฉพาะ พระหลวงพ่อทวด รุ่นแรก ปี ๒๔๙๗ ที่เป็นเนื้อว่าน เกือบจะกลายเป็นพระในตำนานไปแล้ว เพราะหาดูพระแท้ได้ยากมาก เนื่องจากนักสะสมพระรุ่นแรกๆ เก็บพระไปบูชาจนเกือบหมด ทำให้เป็นที่เล่าขานกันในตลาดพระ ว่า “พระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี๒๔๙๗ ดูยาก”
ส่งผลให้นักสะสมพระรุ่นใหม่ๆ ไม่สามารถหาพระแท้มาดูได้ อีกทั้งไม่ได้รับการชี้แนะอย่างถูกต้องจากผู้รู้จริง ส่วนใหญ่มักไปเจอแต่พระฝีมือ (พระเก๊) บ่อยๆ เข้า จึงมาสรุปเอาเองว่า “พระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี๒๔๙๗ ดูยาก” ประกอบกับดูพระเนื้อว่านไม่เป็น ไม่เข้าใจถึงธรรมชาติของพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี๒๔๙๗
ในโอกาสนี้ผู้เขียนจึงขออธิบายถึง องค์ประกอบอย่างคร่าวๆ เพื่อจะได้เป็นหลักเบื้องต้น ในการดูพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี๒๔๙๗ อย่างถูกวิธี ดังนี้
​

องค์ประกอบแรก เราต้องมาทำความเข้าใจ ในเบื้องต้นก่อนว่า “การที่จะดูว่าพระแท้หรือเก๊” นั้น นอกจาก พิมพ์ทรง ขององค์พระแล้ว ส่วนสำคัญอย่างยิ่ง คือ “เนื้อพระ” เราต้องรู้ก่อนว่า พระที่เราต้องการจะพิจารณานั้น เขาใช้วัสดุหรือมีส่วนผสมอะไรบ้างที่นำมาสร้างเป็นองค์พระ ทุกคนก็ทราบมาแล้วว่า “พระหลวงพ่อทวด รุ่นแรก เนื้อว่าน ปี ๒๔๙๗” ทำมาจาก ว่านสด ๑๐๘ อย่าง ผสมกับ ดินกากยายักษ์ มาตำมาบดแล้วผสมรวมกัน หลังจากนั้นก็นำไปกดลงในเบ้าพิมพ์ออกมาเป็นองค์พระ
ผู้เขียนเองก็หลงทาง ในการดูพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี๒๔๙๗ อยู่หลายปี อาศัยว่าไม่เคยขี้เหนียวในการหาความรู้ ได้ซื้อตำราเอาไว้มากมาย พร้อมทั้งได้เสียเงินจ้างช่างถ่ายรูป ถ่ายรูปพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี๒๔๙๗ ที่ผ่านมือตัวเองไปทุกองค์
จากการอ่านหนังสือที่เขียนถึงพระหลวงพ่อทวด ก็ไม่มีหนังสือเล่มใดเลยที่เขียนให้ความกระจ่างแจ้งว่า เขาดูพระเนื้อว่านแท้กันอย่างไร? มีแต่ลงรูปพระให้ดูกันเอาเอง ดูรูปพระแล้วดูเล่าอยู่หลายปี ก็ยังมองไม่ออก ถามเซียนพระเขาก็บอกว่า องค์นี้แท้ องค์นั้นเก๊ โดยไม่รู้เหตุผลว่า ทำไมถึงแท้ ทำไมถึงเก๊ ถามใครก็ให้ความกระจ่างไม่ได้
ดังนั้น ผู้เขียนจึงย้อนมามองตัวเอง หลังจากถามตัวเองก็ได้ข้อสรุปมาว่า “ถ้าเรายังเป็นเช่นนี้อยู่อีก ก็คงเล่นพระ หรือสะสมพระ ไม่ก้าวหน้าแน่ๆ” การเล่นพระแบบนี้ ก็เหมือนให้คนอื่นจูงจมูก พระจะแท้หรือเก๊ก็ขึ้นอยู่กับการชี้ขาดของคนอื่นทั้งสิ้น โดยตัวเราไม่รู้เรื่อง หากยังเป็นแบบนี้อยู่อีกก็เปรียบเสมือน ยืมจมูกคนอื่นหายใจ เล่นพระแบบตามหลังคนอื่นตลอดเวลาแน่ๆ
เพราะฉะนั้นอย่ากระนั้นเลย จึงได้คิดว่า เราต้องมาหาวิธีใหม่ ที่ทำให้เรามีข้อสรุป และมีเหตุผลสามารถอธิบายได้ว่า พระแท้ๆ เป็นอย่างไร หลังจากมาพิจารณาแล้ว ก็ไม่มีวิธีไหนเลยที่จะดีไปกว่า “การศึกษาพระแบบวิทยาศาสตร์” เมื่อได้คิดเช่นนั้น ก็เลยมีแนวทางที่จะศึกษาขึ้นมาทันที
โดยเริ่มจากความรู้เบื้องต้นที่ได้ทราบมาก่อน คือ พระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี๒๔๙๗ สร้างมาจาก ว่านสด ๑๐๘ อย่าง ผสมรวมกับดินกากยายักษ์ จึงหยิบพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี๒๔๙๗ที่ตัวเองมีอยู่ เอามาส่องดูด้วยกล้อง ได้เห็นมวลสารของพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี๒๔๙๗ ว่า มีความแตกต่างจากพระของวัดอื่นขึ้นมาทันที
หลังจากนั้นก็เอารูปพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี๒๔๙๗ ที่ได้ถ่ายเก็บไว้ ซึ่งเป็นไฟล์ดิจิทัล มาขยายดูด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์อีกอย่างหนึ่งก็คือ คอมพิวเตอร์ ทำให้สามารถขยายภาพให้ใหญ่ขนาดไหนก็ได้ หรือดูเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งก็ได้ ดูภาพพระของตัวเองที่มีอยู่ทุกองค์ จนได้ข้อสรุปว่า


องค์ประกอบที่ ๑ มวลสารของพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี๒๔๙๗ ไม่ว่าจะแก่ดิน หรือแก่ว่าน หรือมีเฉดสีใดก็ตาม ล้วนมีมวลสารที่เห็นได้ชัดเจนทุกองค์ ว่าจะต้องประกอบไปด้วย เม็ดดำ เม็ดแดง(สีอิฐเผา) และเม็ดขาว


องค์ประกอบที่ ๒ เม็ดแร่ ที่โรยอยู่ด้านหลังพระหลวงพ่อทวดเนื้อว่าน ปี๒๔๙๗ หรือที่มีประปรายอยู่ด้านหน้าองค์พระนั้น เป็นแร่ที่ท่านคหบดี อนันต์ คณานุรักษ์ นำมาจากเหมืองแร่ของท่าน เนื่องจากในขณะนั้นท่านประกอบธุรกิจด้านเหมืองแร่ด้วย ท่านเรียกแร่ชนิดนี้ว่า “กิมเซียว” ซึ่งเป็นคำภาษาจีน แปลว่า ทองน้อย หรือทองอ่อน เมื่อมาพิจารณาสีของเม็ดแร่ ปรากฏว่ามีสีทองอ่อนๆ ดังนั้นน่าจะสันนิษฐานว่า ท่านคหบดี อนันต์ คณานุรักษ์ คงจะตั้งชื่อแร่ชนิดนี้เป็นภาษาจีน ตามสีสันของแร่ที่ท่านเห็น
เม็ดแร่ที่มีในองค์พระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี๒๔๙๗นี้ มีสีเหลืองอ่อนๆ แบบสีของทอง หากส่องล้อแสงอาทิตย์ เม็ดแร่ดังกล่าวจะสะท้อนแสง มองเห็นเป็นแบบสีของเหล็กโครเมียม หรือนิเกิ้ล (พระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี๒๔๙๗ บางองค์ก็ไม่มีเม็ดแร่ชนิดนี้)


องค์ประกอบที่ ๓ ที่จะทำให้พิจารณาพระหลวงพ่อทวดเนื้อว่าน ๒๔๙๗ ได้ง่ายขึ้น ต้องย้อนกลับไปดูกรรมวิธีขึ้นรูปเป็นองค์พระ นั่นคือ เขาเอาว่านสด ๑๐๘ อย่าง ผสมกับดินกากยายักษ์ มาตำมาบดแล้วผสมรวมกัน ส่วนผสมมวลสารทั้งหมดในขณะนั้นยังเปียก และมีน้ำว่านอยู่(ว่านเป็น) แล้วนำไปกดลงในเบ้าพิมพ์ให้ออกมาเป็นองค์พระ ต้องกดแรงพอสมควร เพื่อให้ขึ้นเป็นรูปองค์พระได้ชัดเจนทุกสัดส่วน เมื่อกดแรง น้ำยางว่าน ก็จะไหลไปอยู่ที่ผิวรอบนอก (เหมือนกับบิดผ้าเปียกน้ำ น้ำก็จะถูกบีบออกมาภายนอก) ทำให้องค์พระมีน้ำว่านมาเคลือบที่ผิวนอก มีลักษณะคล้ายกล้วยฉาบน้ำตาลบางๆ
ในกรณีนี้ ทำให้สังเกตได้ว่า พระเนื้อว่านเก๊จะไม่มีลักษณะเช่นนี้ เนื่องจากทำมาจากว่านตาย (ว่านที่ซื้อมาจากร้านขายยาจีนหรือร้านขายยาโบราณ ที่ตากแห้งแล้วจึงไม่มีน้ำยางว่าน)

องค์ประกอบที่ ๔ ต้องพิจารณาถึงความแห้งเก่า อายุ ขององค์พระ ซึ่งต้องนำมาเป็นองค์ประกอบในการพิจารณาอีกชั้นหนึ่งด้วย
ที่ได้กล่าวมาแล้วทั้งหมดนี้ เป็นผลมาจากแนวความคิดของผู้เขียน ที่ต้องการศึกษาพระแบบวิทยาศาสตร์ หาเหตุผลมาอธิบาย ว่าพระแท้เป็นอย่างไร? และพระเก๊ก็ต้องมีเหตุผลมารองรับด้วยว่า ทำไมถึงเก๊ ไม่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึกส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการพิจารณาตัดสินพระแท้-เก๊ เป็นการนำเอาประสบการณ์ของผู้เขียน ที่ได้คลุกคลีอยู่ในวงการพระเครื่องพระบูชามาตลอดหลายสิบปี กลั่นกรองจนได้ข้อสรุปออกมาเป็นบทความนี้ ซึ่งท่านผู้อ่านอาจจะมีความคิดเห็นแตกต่างไปจากนี้ก็ได้...ขอขอบพระคุณ
​

[/FONT]​

 

หลวงพ่อทวด...

ประวัติสามเณรปูวัดดีหลวง "เราเกิดมาเพื่อสู้คู่ศึกษา ต้องตั้งหน้าให้จริงสิ่งที่ห่วง"

สามเณรปูได้ตั้งปนิธานอธิษฐานอย่างนี้ ก็ได้เข้าศึกษาอยู่ที่สำนักอาจารย์ท่านพระครูธรรมรังสี ที่วัดศรีคูหยัง (วัดสีหยังในปัจจุบัน) จนจบมูลกัจจาย เมื่อสามเณรปูศึกษาวิชามูลกัจจายจบแล้ว ที่วัดศรีคูหยัง
ก็ได้ปรึกษาท่านพระครูธรรมรังสีว่า

เกล้ากระผมจะต้องศึกษากองธรรมบทต่อไป ท่านพระครูธรรมรังสี อาจารย์ครูสอนมูลกัจจายก็ยินดี มีความจำนงยินดีส่งเสริมยิ่งนัก สามเณรปูก็กลับยังวัดดีหลวง เพื่อขอความอุปถัมภ์จากอาจารย์สมภารจวงลุงของตนต่อไป เมื่อสามเณรปูกลับมาสู่วัดดีหลวงแล้ว แจ้งให้หลวงลุง อาจารย์ทราบทุกประการแล้ว จะต้องศึกษาขั้นธรรมบทยังสำนักใหญ่ที่นครศรีธรรมราช
สมภารอาจารย์จวง ก็มีความยินดีเป็นอันมาก จึงให้ความอุปถัมภ์ส่งเสริมเป็นยิ่งนัก ก็จัดส่งให้ไปยังสำนักนครศรีธรรมราชต่อไป สามเณรปู ก็ไปยังสำนักนครศรีธรรมราชตามที่มีความประสงค์ ได้ศึกษาอยู่ที่วัดท่านพระครูกาเดิม วัดเสมาเมืองสวนปาล นครศรีธรรมราช สามเณรปูศึกษาที่วัดเสมาเมือง สำเร็จประโยคธรรมบท อายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ท่านพระครูกาเดิมก็นัดวันอุปสมบท จัดผ้าไตรจีวรบริขารให้ทุกประการแล้ว

ตามประวัติเดิมว่า ท่านพระครูกาเดิมก็มีความรักและห่วงมากกับสามเณรปูนี้ ให้การอุปถัมภ์เป็นอย่างดี เพราะเห็นว่าสามเณรปูเป็นผู้ขยันในการศึกษาจริงๆ ไม่เกะกะเกเรทั้งเป็นผู้กตเวทีช่วยเหลือรับใช้ได้ดี ปฏิบัติตามคำสั่งสอนและบัญญัติของพระพุทธเจ้าจริงๆ ไ ม่ค่อยบกพร่อง ทั้งที่เป็นสามเณร
ประพฤติปฏิบัติแม้แต่พระภิกษุบางองค์บางรูปสู้ไม่ได้
*แม้จะเดินจะยืนจะนอนจะนั่งจะพูดจาปราศัยกับคนทุกชั้น
*ก็ใช้สติระวังสำรวมเสมอไป
*ไม่โกรธใคร
*ไม่อิจฉาริษยาใคร
*ไม่ว่ากล่าวใครให้โกรธเกลียดเลย
ถ้าใครๆ โกรธเกลียดบ้างก็เป็นเรื่องจิตใจของผู้โกรธเกลียดเอาเองเท่านั้น
สามเณรปู จิตใจเป็นสมาธิอยู่เสมอ เอาใจใส่ในการศึกษาเท่านั้น เป็นแบบอย่าง
ตามประวัติว่า ประชาชนนครศรีธรรมราช ที่ใกล้วัดเสมาเมือง นิยมรักนับถือ ให้ความอุปถัมภ์อันดีกับสามเณรปูครั้งสมัยนั้น
ท่านพระครูกาเดิมจึงมีความรักและห่วงมาก และจึงให้ความอุปถัมภ์สงเคราะห์ไม่เกลียดชังด้วยประการใด บุคคลเราต้องเป็นอย่างนั้น ให้ผู้ใหญ่รักใคร่เจือจุนอุปถัมภ์สงเคราะห์ตลอด เพื่อนฝูงรักห่วงใย ท่านได้ตกลงกำหนดจะอุปสมบทให้สามเณรปู
และสอบถามสามเณรปูว่า เออเจ้าสามเณร จะกลับไปด้วยตนเองหรือส่งข่าวไปด้วยจดหมาย เพื่อให้สามเณรจวงวัดดีหลวงและญาติโยมพี่น้องทางบ้านได้รู้ทั่วกัน และบอกท่านพระครูธรรมรังสีด้วย สามเณรปูกราบเรียนกับพระครูกาเดิมว่าส่งข่าวให้ทางนั้นทราบ

ตามประวัติเล่าว่า
สมภารอาจารย์จวงเป็นหัวหน้า ประชาชนหญิงชายฝ่ายอุบาสถอุบาสิกาหนุ่มสาวคนเฒ่าคนแก่ ออกเดินทางจากวัดดีหลวงตามกำหนดเวลา และไปรับพระครูธรรมรังสีที่วัดศรีคูหยังพร้อมชาวบ้านพุทธบริษัทจำนวนมากหลายคนด้วยกัน การไปนครศรีธรรมราชครั้งนั้นต้องพากันเดินไปทางชายทะเลเค็ม ไปลงเรือทางปากพนัง และไปขึ้นที่ปากนคร
เมื่อถึงวัดเสมาเมือง พระครูกาเดิมพูดเรื่องการอุปสมบทสามเณรปูว่า ต้องไปอุปสมบทกันในคลอง ต้องนำเรือสัก ๔ ลำทำเป็นแพ
เอาเรือมาดไม้ยางสักลำ มาดไม้เคียนสักลำ มาดไม้ขนุนปานสักลำ มาดไม้ยอมสักลำ
ตกลงกันว่า รุ่งเช้า(ตอนเช้า)ฉันเพลแล้วไปพร้อมกันหน้าวัด เมื่อถึงเวลาก็พากันลงสู่เรือแพ จัดการอุปสมบทสามเณรปูกันในอุทกเสนา เมื่อสามเณรปูอุปสมบถเป็นภิกษุ
จึงให้นามฉายาภิกษุปูว่า มุณีราโม เมื่อเป็นภิกษุประชาชนเรียกกันติดปากว่าสามีราโม

อ้างอิง....
ตำนานประวัติบ้านเกิด
หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

 

สวัสดีพี่นวลและพี่ๆ เพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านค่ะ

*แม้จะเดินจะยืนจะนอนจะนั่งจะพูดจาปราศัยกับคนทุกชั้น
*ก็ใช้สติระวังสำรวมเสมอไป
*ไม่โกรธใคร
*ไม่อิจฉาริษยาใคร
*ไม่ว่ากล่าวใครให้โกรธเกลียดเลย

สาธุ สาธุ สาธุ

 

สวัสดีค่ะเสี่ย rungaran และกัลยาณมิตรทุกท่าน
เอมี่ห้อยหลวงปู่ทวดที่คุณนวลส่งไปให้ค่ะ ส่วนทึ่กัลยาณมิตรท่านอื่นๆ ที่เมตตาส่งไปให้ เวลาออกนอกบ้านก็จะนิมนต์ใส่ pouch ที่เห็นในรูปติดตัวไปด้วยค่ะ

 

สวัสดีค่ะอ.จงอาง
ขอบคุณค่ะ อนุโมทนาค่ะ

ขอบคุณค่ะ อ.จงอาง คุณนวล สำหรับข้อมูล

 

หวัดดีวันฝนพรำๆครับที่ชัยภูมิ บ่ายเดินทางแล้วครับ รอลุ้นค่าน้ำมันรถอยู่

 

สวัสดี ยามเช้า
ขอบารมีหลวงปู่ทวด คุ้มครองพวกเราทุกๆคน

 

ขอบคุณที่ช่วยดูครับ

หลวงปู่ทวดของเสี่ยงามได้ใจเลย........

 

เดินทางปลอดภัย หลวงปู่คุ้มครองค่ะ....