ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> อุตุฯเตือนฝนตกหนักเหนือ -อีสาน -ตอ. 1-2 วันนี้ </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.

    วันนี้ ( 6 ก.ย.) ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก มีฝนเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.(7 ก.ย.)
    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน พิจิตร พิษณุโลก และอุตรดิตถ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนองและพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>อ่างทองเร่งระบายน้ำทะลักท่วมเขตเทศบาล </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>อ่างทอง 5 ก.ย. - ฝนที่ตกติดต่อกันหลายชั่วโมง ทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลทะลักเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองอ่างทอง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระบายน้ำเป็นการด่วน

    เทศบาลเมืองอ่างทองระดมเจ้าหน้าที่ออกติดตั้งเครื่องสูบน้ำกว่า 7 เครื่อง เพื่อเร่งสูบน้ำระบายออกจากตลาดอ่างทอง

    หลังเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง จนน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงกว่าตลิ่ง ไหลทะลักเข้าท่วมถนนและตลาด บางจุดระดับน้ำสูงกว่า 20 ซม. และยังไม่สามารถไหลลงท่อระบายน้ำได้ นอกจากนี้ น้ำบางส่วนยังได้ไหลย้อนออกมาจากท่อระบายน้ำ รถสัญจรด้วยความยากลำบาก ทั้งยังเกิดไฟฟ้าดับเกือบทั่วทั้งจังหวัด. - สำนักข่าวไทย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>บุกแหล่งผลิตยาบ้าเครือข่ายใหญ่ ตะลึงเครื่องปั๊มผลิตได้วินาทีละ 1 เม็ด </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 กันยายน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1

    พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.1 พร้อมด้วยนายสมโภขน์ ดาระดาษ ผู้อำนวยการ ป.ป.ส.ภาค 1 ร่วมแถลงจับกุม นายสมจริง หรือจริง เสยยงคะ อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ชาว จ.มหาสารคาม พร้อมของกลาง ยาบ้า 800 เม็ด แท่นปั๊มยาบ้า 1 เครื่อง น้ำยาสารตั้งต้น 3 ขวด และอุปกรณ์การผลิตยาบ้าต่างๆ รวม 33 รายการ


    พล.ต.ต.คำรณวิทย์เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา

    เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 1 ได้ทำการจับกุมตัวนายสมจริงภายในบ้านเช่า ซึ่งดัดแปลงบ้านเป็นแหล่งผลิตยาบ้า ในพื้นที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พร้อมกับยึดของกลางเป็นแท่นปั๊มยาบ้าและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตได้หลายรายการ จากการสอบสวนให้การรับสารภาพว่าเป็นลูกน้องของ นายฐานุพงศ์ นพคุณกุลอนันต์ หรือสมบัติ นพคุณ เจ้าของเต็นท์รถ ป.เจริญยนต์ และนายเกรียงไกร มาเม่น อดีตกำนัน ตำบลถนนขาด โดยทั้งสองคนเป็นนายทุนที่ให้เงินสนับสนุนในการผลิตยาบ้า


    ต่อมาจึงประสาน บช.ภ.7 และ บก.ภ.จ.ราชบุรี นำหมายค้นตรวจสอบพื้นที่เป้าหมาย 4 จุดใน จ.ราชบุรี

    ได้แก่บ้านพักและเต็นท์รถ ป.เจริญยนต์ และ “กันเองฟาร์ม” ของนายฐานุพงศ์ แต่พบเพียงเศษยาบ้าจำนวนหนึ่ง ตู้เซฟขนาดใหญ่ 1 ตู้ น้ำยาเร่งปฏิกิริยาแช่ในตู้เย็น 4 ขวด และรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ 31 คัน รวมมูลค่า 5 ล้านบาท พร้อมอายัดทรัพย์สินในฟาร์มซึ่งเป็นวัวเนื้อและวัวนม จำนวน 98 ตัว มูลค่า 2.5 ล้านบาท ก่อนจะเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายเกรียงไกร แต่ไม่พบตัวและไม่ได้ยึดทรัพย์ใดๆ


    พล.ต.ต.คำรณวิทย์กล่าวอีกว่า สำหรับเครื่องปั๊มยาบ้าที่ตรวจยึดได้นั้น สามารถผลิตยาบ้าได้วินาทีละ 1 เม็ด โดยนายสมจริงพร้อมพวกอีก 2 คนไม่ทราบชื่อนามสกุลจริงที่อยู่ระหว่างการหลบหนี รับเงินจากนายฐานุพงศ์และนายเกรียงไกร ให้ทำการผลิตยาบ้าออกจำหน่ายนานกว่า 2 เดือนแล้ว ซึ่งนายฐานุพงศ์และนายเกรียงไกรถือว่าเป็นเครือข่ายยาบ้ารายใหญ่ของภาคกลางและภาคตะวันออก

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ฤทธิ์พายุลีทำลุยเซียนาจมน้ำ </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>รัฐลุยเซียนา สหรัฐ เจอน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ หลังพายุโซนร้อนลี ทำฝนตกหนัก ขณะโอบามาลงสำรวจความเสียหายในนิวเจอร์ซีย์
    <!--<script type="text/javascript"> google_ad_channel = '3694366847'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </script> <script type="text/javascript" src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js"></script> <script type="text/javascript" src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"></script> -->[​IMG]

    <!-- <iframe src="http://www.bangkokbiznews.com/home/banner/all-ad-300-indetail.php" frameborder="0" scrolling="no" width="300" height="250"></iframe> -->

    ผู้ว่าการรัฐลุยเซียนา ประกาศภาวะฉุกเฉินขึ้นภายในรัฐวานนี้ (4 ก.ย.) หลังเกิดน้ำท่วมฉับพลันขึ้นในหลายพื้นที่ เพราะฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก จากอิทธิพลของพายุโซนร้อนลี ที่เคลื่อนตัวอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลราว 80 กิโลเมตร เคลื่อนตัวด้วยความเร็วลมคงที่ประมาณ 72 กิโลเมตรต่อชั่วโมง


    ทางด้านศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติของสหรัฐ ระบุว่า พายุโซนร้อนลีกำลังเคลื่อนตัวไปทางเหนืออย่างช้า โดยพายุลูกนี้นับเป็นลูกที่ 2 ในรอบสัปดาห์ที่เข้ามาสร้างความเสียหายให้กับเมืองชายฝั่งของสหรัฐ หลังพายุเฮอร์ริเคนไอรีน เข้าทำลายชายฝั่งตะวันออกไปก่อนหน้านี้


    วันเดียวกันนี้ ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำกรุงวอชิงตัน

    เดินทางไปยังรัฐนิวเจอร์ซีย์ เพื่อสำรวจความเสียหายจาก
    พายุเฮอริเคนไอรีน ที่พัดถล่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีโอบามา สำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนในเมืองเวย์เน และเมืองพาเตอร์สัน โดยมีนายคริส คริสตี ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ นำตรวจพื้นที่


    ผู้นำสหรัฐยังได้พบปะกับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากบ้านถูกน้ำท่วม และขอบคุณเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเต็มกำลัง และว่า ชาวอเมริกันพร้อมให้กำลังใจชาวเมืองให้กลับคืนสู่การดำเนินชีวิตปกติโดยเร็ว
    <!-- Tags Keyword -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>คอร์รัปชั่นโลก"ไทย"ดีขึ้น ไต่จากที่ 84 มาอยูที่ 78 </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานไว้ถึงการจัดอันดับดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่น (ซีพีไอ) ของประเทศต่างๆ 178 ประเทศทั่วโลกประจำปี 2553

    ทำขึ้นโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติหรือทีไอ ซึ่งการจัดอันดับครั้งนี้ประเทศไทยยังอยู่ในลำดับท้ายๆ แต่ปรับขึ้นมาอยู่ในลำดับที่ 78 โดยได้คะแนน 3.5 คะแนน ปรับขึ้นจากลำดับที่ 84 เมื่อปี 2552 หมายถึงการคอร์รัปชั่นในไทยลดลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ไทยยังอยู่ในลำดับเดียวกับประเทศเซอร์เบีย เปรู จีน โคลอมเบีย กรีซ และเลโซโท

    ทั้งนี้ ทางทีไอได้คำนวณดัชนีซีพีไอของแต่ละประเทศจากคะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยประเทศที่มีค่าดัชนีสูงสุดคือประเทศที่มีคอร์รัปชั่นน้อยที่สุดและประเทศที่มีค่าดัชนีต่ำสุดคือเป็นประเทศที่มีการคอร์รัปชั่นมากที่สุด


    รายงานข่าวระบุไว้ว่าประเทศมีค่าดัชนีสูงสุดคือ 9.3 คะแนนได้แก่เดนมาร์ก นิวซีแลนด์ และสิงคโปร์

    ส่วนประเทศที่มีค่าดัชนีต่ำสุดคือโซมาเลีย ได้ 1.1 คะแนน หมายถึงประเทศที่มีการคอร์รัปชั่นมากที่สุด ต่อด้วยพม่าและอัฟกานิสถาน ได้ 1.4 คะแนน ส่วนสหรัฐอเมริกาได้ 7.1 คะแนนหรืออยู่ในลำดับที่ 22 ต่่ำกว่าแคนาดาที่มีค่าดัชนี 8.9 คะแนน สำหรับทีไอเป็นองค์กรเอกชน มีสำนักงานอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
  3. Nutthawut

    Nutthawut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +479
    วันนี้นาซ่า ออกมายืนยัน ในวันที่ 8 - 9 พ.ย. นี้ จะมีอุกาบาตขนาดประมาณ 1.5 สนามฟุตบอล โคจรผ่านโลก ระยะค่อนข้างน่ากลัวเพราะเห็นว่าใก้ลกว่าดวงจันทร์อีก

    NASA Confirms 1300 Ft Asteroid to Pass Close to Earth On November 8th

    <!-- Start Shareaholic LikeButtonSetTop --><!-- End Shareaholic LikeButtonSetTop -->[​IMG]
    The third near-earth asteroid of 2011 will pass between the moon and earth later this year, NASA has confirmed.
    The 1300-foot-wide asteroid, which is more than one and a half times the length of a soccer field, will pass within 0.85 lunar distances of the Earth on November 8, 2011.
    Discovered on December 28, 2005 by Robert McMillan of the Spacewatch Program near Tucson, Arizona, 2005 YU55 is believed to be a very dark, nearly spherical object.
    According to NASA’s Near Earth Object Program: “Although classified as a potentially hazardous object, 2005 YU55 poses no threat of an Earth collision over at least the next 100 years. However, this will be the closest approach to date by an object this large that we know about in advance and an event of this type will not happen again until 2028 when asteroid (153814) 2001 WN5 will pass to within 0.6 lunar distances.”
    [​IMG]Trajectory of Asteroid 2005 YU55 - November 8-9, 2011. Credit NASA

    While neither the European Space Agency (ESA) nor NASA has suggested that YU55 poses a threat to Earth, plans to develop a mission to counteract a potential asteroid collision in the future are already underway.

    The Daily Mail reported on Tuesday that the ESA is planning to fire an ‘impactor’ satellite into a ‘test’ asteroid in 2015 to see if the object’s trajectory can be altered. The Agency is conducting the test mission in light of the minimal threat posed by the 1,600-foot-wide 99942 Apophis asteroid, which has a one in 250,000 chance of impacting Earth in 2036.
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะบังเกิด จำไว้เถิดจะสิ้นยุคกลุ่มเศรษฐี !!!

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ขอยกกลอน สอนใจ ในยามยาก ช่วงลำบาก ไว้เป็น อุทาหรณ์
    โลกทั้งโลก กำลัง จะสั่นคลอน เพื่อสะท้อน ผลกรรม คนทำมา
    จากวันนี้ ต่อไป ภายภาคหน้า ในไม่ช้า วิบากกรรม วิ่งเข้าหา
    ให้โหยหวน คร่ำครวญ แสนเวทนา คนทั่วหล้า ต่างล้มหาย ตายเป็นเบือ

    หากไม่เชื่อ ให้เผ้าดู จะรู้สึก ต้องสะอึก เมื่อไม่มี สิ่งใดเหลือ
    ทุกวันนี้ มีใช้ อย่างเหลือเฟือ จะไม่เหลือ ให้ใช้ ในบัดดล
    คนหลายคน วกวน เพื่อเสพสุข ไม่เคยทุกข์ ร้อนใจ ให้ขัดสน
    เฝ้าเอาเปรียบ เบียดเบียน หมู่ผู้คน ไม่เคยสน เวรกรรม มันมีจริง

    ไม่ว่าใคร ใดใด ในโลกนี้ ชั่วหรือดี ทุกเยาว์วัย ชายหรือหญิง
    สัจธรรม เท่านั้น คือความจริง ทุกสรรพสิ่ง หนีไม่พ้น ผลของกรรม
    คนคิดดี ทำดี ย่อมมีสุข พ้นกองทุกข์ ชีวี ไม่แปรผัน
    พาพ้นทุกข์ สิ้นวิบัติ ในฉับพลัน บุญเท่านั้น ที่หนุนนำ คนทำดี

    ผิดกับคน ที่ทำผิด และทำพลาด ต้องถึงฆาต บาปกรรม ซ้ำเป็นผี
    ครั้งอยู่ดี มีสุข ไม่ใฝ่ดี พอจะม้วย ชีวี แล้วใฝ่บุญ
    กุศลหนุน บุญใด ไหนจะช่วย มีแต่ซวย เท่านั้น ที่เกื้อหนุน
    เกิดเป็นคน ไม่เคยคิด ตอบแทนคุณ จะเอาบุญ ที่ไหน มานำพา

    อีกไม่นาน ก็ถึง กึ่งพุทธะ เป็นจังหวะ รอยต่อ ศาสนา
    สิ่งทุกสิ่ง ย้อนกลับ สู่เวลา ทรัพย์ไร้ค่า คนยึดจิต อภิญญา
    ถิ่นกาขาว ยาวนาน จะผันผ่าน พระศรีอารย์ อริยะเมตไตร เข้ามาหา
    ศรีวิไล ใฝ่ธรรม ทุกเวลา เทวดา ปกป้อง ตลอดกาล

    อยากอยู่ดี มีสุข ถึงยุคนั้น ต้องช่วยกัน สร้างกรรมดี ไว้สืบสาน
    ภัยวิบัติ โลกสลาย อีกไม่นาน สิ้นคนพาล เหลือคนดี ไม่กี่คน
    คำยืนยัน ปู่ฤาษี ภารตะ ให้สละ อย่ายึดมั่น อย่าสับสน
    ให้รู้ไว้ ภัยจะถึง ทุกตัวตน ให้ทุกคน หลบลี้ หนีออกมา

    การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จะบังเกิด จำไว้เถิด จะสิ้นยุค กลุ่มเศรษฐี
    ที่คดโกง ฉกฉวย จนได้ดี จะสิ้นที หมดท่า พาตรอมตรม
    บาปและกรรม ตามซ้ำ ไม่ย่อหย่อน กินหรือนอน เดินนั่ง ช่างขื่นขม
    ถึงรวยทรัพย์ เคยยิ่งใหญ่ ยิ่งระทม ก็จะล้ม จมดิ้น สิ้นกันไป

    จากสี่เก้า เข้าถึง ปีหกสอง ฟ้าจะร้อง คำราม สุดหวั่นไหว
    ธรณี จะโกรธ เป็นพื้นไฟ พระพรายไซร้ จะถามโถม โจมตีเรา
    พระคงคา จะไหลบ่า หุ้มเปลือกโลก ดาวนอกโลก พุ่งชน คนอับเฉา
    ให้รีบลุก และตื่น เถิดพวกเรา รีบเดินหน้า ถึงธรรม ค้ำชีวา

    ภาคกลางหนึ่ง ใต้หนึ่ง พึ่งจำไว้ จมอยู่ใต้ คงคา แน่นักหนา
    ผืนแผ่นดิน คลุมด้วยน้ำ สุดลูกตา ชาวประชา ไร้แผ่นดิน สิ้นชีพวาย
    เหนืออีสาน ตอนล่าง ต่างรันทด แผ่นดินลด หดหู่ ไม่รู้หาย
    เหลือก็น้อย คนบุญ ที่รอดตาย นอกนั้นไซร้ ไร้ชีวิต วิบัติภัย

    บนท้องฟ้า มืดมน ฝนห่าใหญ่ ห่อหุ้มไว้ เจ็ดราตรี อรุณฉาย
    สัตว์เล็กใหญ่ ดับดิ้น แทบวอดวาย ที่ไม่ตาย กลายมีพิษ ปลิดชีพกัน
    พายุลม สลาตัน นับว่าร้าย ก็ไม่ว่าย ต้องแพ้ ลมกรรมหันต์
    ฝนที่ไหน พัดที่ใด ตายฉับพลัน ไม่มีควัน มีแต่พิษ ชีวิตวอดวาย

    พลังจากนั้น คนที่เหลือ จะแปรเปลี่ยน บำเพ็ญเพียร ภาวนา ไม่ขาดสาย
    ทุกข์และโศก โลกมนุษย์ จะผ่อนคลาย ศรีอริยะเมตไตร จะบรรเจิด เกิดขึ้นพลัน
    สร้างมนุษย์ สร้างโลก ให้ผุดผ่อง ตามครรลอง ศรีวิไล ให้เฉิดฉันท์
    สิ้นทุกข์โศก โรคภัย ไม่โรมรัน จิตเท่านั้น ที่วัดใจ ให้อยู่ยืน

    ทรัพย์เงินทอง ก่ายกอง เต็มไปหมด ช่างรันทด ไม่มีค่า เท่าผ้าผืน
    สิ่งที่หา และใฝ่ ทุกวันคืน ที่ยั่งยืน คือจิต ผ่องอำไพ
    อาศัยกรรม ทำดี ช่วยชูค้ำ ให้ได้นำ สู่ภิญญา น่าสดใส
    ทั้งอิ่มเอิบ อิ่มกาย อิ่มจิตใจ พระยาธรรม นั่นไซร้ คือกฏเกณฑ์

    หากไม่เชื่อ สิ่งที่กล่าว ชาวโลกเอย จำไว้เลย นี่คือแท้ แน่นักหนา
    เฝ้าติดตาม การเปลี่ยนแปลง ทุกเวลา จะรู้ว่า เริ่มตั้งเค้า เข้าสู่กาล
    หายุโหม น้ำท่วม แผ่นดินไหว โลกทั้งใบ ไม่แน่น ไร้แก่นสาร
    ธาตุดินน้ำ ลมไฟ ถูกรุกราน จากวิญญาน กาลอดีต กรีดทำลาย

    คนทั่วโลก จะพบ ภัยพิบัติ สารพัด ปัญหา ให้แก้ไข
    ทั้งเรื่องโลก เรื่องคน จนวุ่นวาย แก้อย่างไร ก็ไร้ค่า พาล้มครืน
    เป็นด้วยเหตุ อาเพศ โลกใบนี้ ถูกย่ำยี จากมนุษย์ สุดทนฝืน
    มุ่งทำลาย ล้างผลาญ ทุกค่ำคืน ไม่อาจฝืน ขืนปล่อยไว้ ใจโลกตรม

    บทกลอน บอกเตือนภัยพิบัติโลก ที่อาจจะเกิดขึ้นหรือกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ จากหลวงปู่เทพโลกอุดร ที่ได้ฝากเตือนมายัง หลวงปู่ภารตะ ฤาษี (บัวขาว) มอบให้เหล่าท่านทั้งหลายได้พิจารณา เห็นอย่างไรก็พูดอย่างนั้น ด้วยสติปัญญาของตนเอง

    จากหลวงปู่ ภารตะ ฤาษี (บัวขาว)
    ผู้ประพันธ์ คุณฐิติศักด์ ฐิติพงศ์ทัพพ์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2011
  5. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    MThai News : เว็บไซต์ ทริปแอดไวเซอร์ เว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดัง จัดอับดับเมืองที่มีค่าใช้จ่ายต่อ 1 วัน แพงที่สุดและถูกที่สุดของโลก โดยกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ครองแชมป์ค่าใช้จ่ายแพงสุด ขณะที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ได้อันดับสูงสุดของเมืองที่มีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด

    โดย เว็บไซต์ดังกล่าวได้แจกแจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่อ 1 วัน ซึ่งประกอบด้วย ค่าที่พัก (โรงแรมระดับ 4 ดาว ) ค่าอาหาร (พิซซ่าและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) และค่าเดินทาง แล้วจัดอับดับ ดังนี้
    เมืองที่มีค่าใช้จ่ายต่อ 1 วัน แพงที่สุด (ค่าเงิน ดอลลาร์สหรัฐ)
    1. กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ค่าที่พัก 362.28$ ค่าเดินทาง 12.49$ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 56.66$ รวม 431.43$
    2.เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ค่าที่พัก 307.50$ ค่าเดินทาง 41.68$ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 30.44$ รวม 379.62$
    3. กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ค่าที่พัก 299.65$ ค่าเดินทาง 32.24$ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม41.90 $ รวม 373.79$
    4.กรุงโตเกียว ประเทศญีป่น ค่าที่พัก 272.28$ ค่าเดินทาง 37.70$ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 62 $ รวม 371.98$
    5. นครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ค่าที่พัก 324.38$ ค่าเดินทาง 12.5$ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 29.99 $ รวม 366.87$
    6. กรุงริโอ เดอ จานาโร ประเทศบราซิล ค่าที่พัก 310.43$ ค่าเดินทาง 6.70$ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 29.25 $ รวม 346.37$
    7. กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ค่าที่พัก 302.58$ ค่าเดินทาง 8.90$ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 33.58 $ รวม 344.96$
    8. เมืองเคียฟ ประเทศยูเครน ค่าที่พัก 309.25$ ค่าเดินทาง 4.38$ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 17.90 $ รวม 331.53$
    9. กรุงอัมส์เตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ค่าที่พัก 234.36$ ค่าเดินทาง 29.82$ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 48.64 $ รวม 312.82$
    10. กรุงสตอคโฮม ประเทศสวีเดน ค่าที่พัก 253.45$ ค่าเดินทาง 13.43$ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 44.76 $ รวม 311.64$
    ทางด้านเมืองที่มีค่าใช้จ่ายต่อ 1 วัน ถูกที่สุด (ค่าเงิน ดอลลาร์สหรัฐ)
    1. กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ค่าที่พัก 85.71$ ค่าเดินทาง 2.49$ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 23.79 $ รวม 111.99$
    2.เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน ค่าที่พัก 97.99$ ค่าเดินทาง 4.02$ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 18.10 $ รวม 120.12$
    3. เมืองSharm El Sheikh ประเทศอียิปต์ ค่าที่พัก 103.96$ ค่าเดินทาง 3.36$ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 20.92 $ รวม 128.24$
    4. กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทสมาเลเซีย ค่าที่พัก 105.77$ ค่าเดินทาง 3.33$ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 24.90 $ รวม 134.01$
    5. เมืองโซเฟีย ประเทศบัลแกเรีย ค่าที่พัก 114.35$ ค่าเดินทาง 3.88$ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 17.42 $ รวม 135.66$
    6.เมืองบูดาเปสต์ สาธารณรัฐฮังการี ค่าที่พัก 117.24$ ค่าเดินทาง 11.71$ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 14.44 $ รวม 143.40$
    7. เมืองออคแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ค่าที่พัก 102.36$ ค่าเดินทาง 22.91$ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 21.85$ รวม 147.13$
    8. เมืองมาร์ราเกช ประเทศโมร็อกโก ค่าที่พัก 120.13$ ค่าเดินทาง 2.52$ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 25.06$ รวม 147.71$
    9. กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ค่าที่พัก 116.81$ ค่าเดินทาง 10.57$ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 21.10 $ รวม 148.48$
    10. รัฐดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ค่าที่พัก 128.44$ ค่าเดินทาง 5.17$ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 20.70 $ รวม 154.31$



    [​IMG]
    ผู้สื่อข่าว Mthai News รายงานจาก กระทรวงการต่างประเทศ พระราม 6 ว่า นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิ<WBR>เทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวที่กัมพู<WBR>ชาอ้างว่าพื้นที่เกาะกูดเป็<WBR>นของกัมพูชานั้น ยืนยันว่า เกาะกูดอยู่ภายใต้อธิ<WBR>ปไตยของไทยตามสนธิสัญญา สยาม-ฝรั่งเศส 1907 ที่มีเนื้อหาว่าฝรั่งเศสยอมยก จังหวัดตราด และเกาะตามไหล่ทวีปทั้งหมดให้<WBR>ไทย เพื่อแลกกับจังหวัดเสียมเรียบ พระตะบอง และศรีโสภณ </WBR></WBR></WBR></WBR></WBR>
    ซึ่งในบันทึกข้อตกลง เอ็มโอยู 44 ได้แสดงไว้ชัดเจนแล้วว่า เกาะกูดอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย โดยกัมพูชายอมรับอย่างไม่มีเงื่<WBR>อนไข ทั้งนี้ กระแสข่าวดังกล่<WBR>าวอาจมาจากความเข้าใจผิ<WBR>ดของบางฝ่ายที่ได้เห็นเอกสารซึ่<WBR>งมีการขีดเส้นเขตแดนไว้ไม่ชั<WBR>ดเจน</WBR></WBR></WBR></WBR></WBR>
    ส่วนกรณีการค้นพบเอกสารลั<WBR>บทางราชการในสำนักงานความมั่<WBR>นคงประเทศลิเบียที่ระบุสอดคล้<WBR>องกับนายอับเดล ฮาคิม เบลฮัจ ผู้บัญชาการกองกำลังกบฎลิเบียที่เคยถูกเจ้าหน้าที่หน่วยข่<WBR>าวกรองกลางสหรัฐ CIA นำตัวไปกักขังในคุกลั<WBR>บของประเทศไทยนั้น</WBR></WBR></WBR></WBR></WBR>
    ทั้งนี้จากการตรวจสอบกับฝ่<WBR>ายความมั่นคง ยืนยันว่าไม่มีข้อมูลใดที่บ่งชี<WBR>้ว่ามีคุกลับดังกล่าวอยู่<WBR>ในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม การฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่<WBR>างไทยกับซาอุดิอาระเบีย ถือว่าเป็นเรื่องหนึ่งที่นายสุ<WBR>รพงษ์ โตวิจักษณ์ขัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่<WBR>างประเทศ ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากที่ผ่านมาทั้<WBR>งสองประเทศต่างสูญเสี<WBR>ยโอกาสไปมาก โดยได้ย้ำไปกับอูปทูตของซาอุดิ<WBR>อาระเบียที่ได้เข้าเยี่<WBR>ยมคารวะนายสุรพงษ์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หวังที่จะได้เดินทางไปเยือนซาอุ<WBR>ดิอาระเบียอย่างเป็<WBR>นทางการโดยเร็ว เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ของทั้<WBR>งสองประเทศ</WBR></WBR></WBR></WBR></WBR></WBR></WBR></WBR></WBR></WBR></WBR></WBR></WBR>
    Mthai News

    [​IMG]



    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>10-15ก.ย.4จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยาระวัง </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>น้ำทะเลหนุนสูง หากฝนตกซ้ำพื้นที่ลุ่มนอกคันอ่วมยาว อุทกภัย10จังหวัดเสียชีวิตแล้ว66ราย


    เมื่อวันที่ 6 ก.ย. นายภานุ แย้มศรี ผอ.ศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะประธานการประชุมศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยใน 10 จังหวัด รวม 50 อำเภอ 343 ตำบล 2,038 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อนแล้ว 122,485 ครัวเรือน 393,808 คน ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ชัยนาท อุบลราชธานี สิงห์บุรี และนครปฐม ผู้เสียชีวิต 66 ราย พื้นที่การเกษตรเสียหาย 3,530,969 ไร่ พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์เสียหาย แบ่งเป็น บ่อปลา 67,562 ไร่ กุ้ง หอย ปู 2,242 ไร่ ปศุสัตว์ได้รับผลกระทบ 2,291,732 ตัว น้ำท่วมเส้นทางสัญจรไม่ได้เป็นทางหลวง 4 สาย ใน 2 จังหวัด ทางหลวงชนบท 27 สาย ใน 10 จังหวัด และต้องระวังสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งในลุ่มน้ำป่าสัก อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ และลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง

    นายภานุ กล่าวต่อว่า ระยะนี้มีฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ตอนบนของประเทศ ส่งผลให้ต้องระบายน้ำเพิ่มเติม

    ทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มสูงขึ้นจนถึงกลางเดือนก.ย.โดยระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นวันละ 10 – 15 ซม. จึงขอเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างบริเวณจ.ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา ให้เตรียมป้องกันภาวะน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะช่วงวันที่ 10 – 15 ก.ย.ระดับน้ำทะเลจะหนุนสูง หากฝนตกต่อเนื่องช่วงดังกล่าว อาจส่งผลให้ยิ่งวิกฤติ ขอให้ประชาชนเสริมแนวคันกั้นน้ำ พร้อมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา

    ทั้งนี้ ศอส.ได้กำชับทุกจังหวัดตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอ่างเก็บน้ำ ฝายน้ำล้นให้อยู่ในระดับที่รับน้ำได้

    หากไม่มั่นคงแข็งแรงให้เร่งระบายน้ำออก และแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ท้ายน้ำเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัย ตลอดจนแจ้งจังหวัดที่ประสบอุทกภัยในบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา ให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ อปพร. และอาสาสมัครอื่นๆ อำนวยความสะดวกด้านการจราจรและดูแลด้านความปลอดภัยของผู้ประสบภัยที่อาศัยริมถนนเป็นที่พักชั่วคราว.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พระนารายณ์ปางที่ ๑๐

    กัลกยาวตาร หรือ กัลกิยาวตาร(พระนารายณ์ อวตารเป็นมนุษย์ผู้ขี่ม้าขาว หรือ กัลกี) เป็นอวตารที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่เป็นการทำนายอนาคตไว้ว่า ในยามที่เป็นปลายแห่งกลียุค ที่เมื่อผู้คนไม่รู้จักธรรมะ ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีอีกต่อไป โลกทั้งโลกต้องเผชิญกับยุคเข็ญไปทุกหย่อมหญ้า จะมีบุรุษขี่ม้าปรากฏตัวขึ้นเพื่อปัดเป่าความทุกข์ยาก และนำธรรมะกลับมาสู่มวลมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง​


    [​IMG]

    เมื่อโลกเยือนย่างเข้า กลียุค
    บาปบั่นบุญบี้บุก ทั่วหล้า
    ทั่วถิ่นทุกทางทุกข์ เหลือหลาย
    เกิดก่อกิเลสกล้า มล้างมลายธรรม
    ยามทรามลามสุดแล้ว ฉันใด
    จักเกิดท่านเทพไท้ จากฟ้า
    อวตารดับเภทภัย พาพ้น
    ปาฏิหารย์ประจักษ์หล้า แต่ต้องหวังขลัง
    วิษณุเทพผู้ รักษา
    ซึ่งหมั่นธำรงโลกา จากร้าย
    ปางสิบเสด็จมา ยามยาก
    มามุ่งพามารร้าย ดับสิ้นโสมม
    เป็นบุรุษขี่ม้า สีขาว
    มีดาบเชิดชูวาว แกว่งแกล้ว
    แต่ต้องจัก รอยาว เมื่อมา
    ปราบบาปให้คลาดแคล้ว ชื่อนั้น"กัลกี"
    จงตั้งตัวตั้งมั่น ไว้เถิด
    สักวันจักก่อเกิด ประจักษ์หล้า
    ครานั้นบาปจักเตลิด แพ้พ่าย
    จากบาปให้คลาดแคล้ว ทั่วทั้งสากล
    โปรดทำดีอย่าท้อ พวกเรา
    ยามบาปบุกมัวเมา อย่าใกล้
    ใครมัวหมุ่นปลุกเขา ช่วยเถิด
    เพราะว่าท่านเทพไท้ จักได้เสด็จมา
    บทกวีโดย ขาว-กรมท่า
     
  7. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    =====================================


    5 ก.ย. 54



    รอ ฟอ จอ

    ในนิมิต ผมกำลังจะข้ามทางรถไฟ พอดีเห็นหัวรถจักรกำลังวิ่งมา

    ผมจึงคอยให้รถวิ่งเลยไปก่อนแล้วจึงข้ามไป

    ภาพได้ตัดมาอีกที่หนึ่ง ผมกำลังซ้อนรถมอร์เตอร์ไซด์จะไปแถวถนน

    รามอินทรา เมื่อรถวิ่งมาถึงสี่แยกก็เจอกับหญิงชาวจีนคนหนึ่งกำลัง
    จัดระเบียบให้รถวิ่ง ผมจึงถามว่าผมจะข้ามสี่แยกนี้ไปได้อย่างไร?
    เขาก็บอกให้ผมเลี้ยวคดไปคดมา

    นิมิตจะสื่อถึง เมื่อมีการเดินรถไฟความเร็วสูง ทางเราจะต้องทำตาม

    สัญญาของเขา






    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"
     
  8. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    ค้าหมาข้ามชาติ
    วันนี้ (6 ก.ย.) พ.ต.ท.เดชชัย วรรณพฤกษ์ รอง ผกก.สส.สภ.บ้านแพง จ.นครพนม รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบรถบรรทุกสุนัขวิ่งผ่านหมู่บ้านและกำลังนำขนลงเรือข้ามแม่น้ำโขงไปยัง สปป.ลาว บริเวณ ต.ไผ่ล้อม จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมชุดเฉพาะกิจ นำโดย ม.วอ.เชิดพันธ์ ผลวิเชียร ผบ.ร้อย อส.จ.นพ.ที่ 1 นายวรสิทธิ์ สุขทน ปลัดป้องกัน อ.บ้านแพง รุดไปตรวจสอบ
    ในที่เกิดเหตุริมแม่น้ำโขง ติดท่าทรายนพรัตน์ พบรถกระบะ 2 คัน ยี่ห้อเชฟโลเล็ต สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บท 7815 สกลนคร และรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน บต 9413 สกลนคร ถูกดัดแปลงเป็นกรงขังสุนัข มีสุนัขอยู่ในกระสอบปุ๋ยที่มัดปากถุง กระสอบละ 1-2 ตัว รวม 119 ตัว และชายฉกรรจ์ 4-5 คน กำลังลำเลียงสุนัขจากรถลงเรือ
    เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 คน คือนายอิสระพงษ์ แสนคำผาย อายุ 24 ปี และนายเซิน เหงี่ยนวัน อายุ 23 ปี ชาวเมืองฮาตินห์ เวียดนาม ก่อนสภ.บ้านแพง จะประสานไปยัง สภ.ศรีสงครามให้นำกรงขังเหล็ก 30 กรง เพื่อใช้เคลื่อนย้ายสุนัขส่งด่านกักกันสัตว์นานาชาตินครพนม
    พ.ต.ท.เดชชัย กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนให้นำสุนัขบรรทุกใส่รถจาก ต.ท่าแร่ จ.สกลนคร วิ่งมาพักไว้ในคอกเขต อ.บ้านแพง เพื่อรอจังหวะขนลงเรือข้ามแม่น้ำโขงไป สปป.ลาว โดยมีปลายทางอยู่ที่ประเทศเวียดนาม ก่อนถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว
    ทั้งนี้ สุนัขบางส่วนถูกถีบลงมากองริมตลิ่งป่าละเมาะ เมื่อเปิดถุงจำนวนหนึ่งพบว่า มีสุนัขตายส่งกลิ่นเน่าเหม็นคละคลุ้ง คงเหลือยอดสุนัขที่รอดชีวิตจำนวน 89 ตัว จึงประสานนำรถ 6 ล้อ และกรงเหล็กขังสุนัข 30 กรง นำส่งด่านกักกันสัตว์นานาชาตินครพนมต่อไป
    Mthai News


    วันนี้ (6 ก.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมครม.ว่า นโยบายที่เร่งด่วนของรัฐบาลขณะนี้ คือ เรื่องน้ำท่วมและเรื่องราคาสินค้าต่างๆ ซึ่งจะทำเวิร์คช็อปร่วมกัน และครม.ได้มอบหมายให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไปทำเวิร์คช็อปเรื่องของค่าครองชีพว่าจะมีส่วนใดบ้าง
    ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติค่าชดเชยในส่วนของไร่อ้อย และขั้นตอนในการเบิกจ่ายหรือเยียวยาต่าง ๆ นั้น ได้เร่งรัดรัฐมนตรีในการทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการการจังหวัด เพื่อเบิกจ่ายให้พี่น้องประชาชนโดยเร็ว ครม.ยังเห็นชอบในการช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัยครอบครัวละ 5,000 บาท
    ส่วนเงินชดเชยที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจะถึงมือประชาชนเมื่อใด น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ภาคเกษตร ปกติขั้นตอนที่ทำมาทุกครั้งนั้น ภายหลังจากน้ำลดแล้วจะมีการพิจารณาภายใน 90 วัน ซึ่งวันนี้เราได้เร่งรัดกระบวนการต่าง ๆ ให้ทำเร็วขึ้นอยู่ในระเวลา 60 วัน
    อย่างไรก็ตาม น.สยิ่งลักษณ์ มองว่าบางพื้นที่ที่เสียหายอย่างชัดเจน น่าจะทำการสำรวจได้เร็วขึ้น เรื่องนี้ก็จะแยกมาทำก่อน เพื่อบางส่วนจะสามารถจ่ายได้ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ โดยจะมีการทำงานร่วมกันหลายฝ่ายทั้งในด้านของจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งกระทรวงต่าง ๆ ที่เข้ามารับผิดชอบร่วมกัน
    Mthai News


    [​IMG]
    นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีเปิดจุดสูดอากาศที่ดีที่สุดในประเทศอย่างเป็นทางการ ที่อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ณ บริเวณบ้านเขาธง หมู่ที่ 6 ตำบลเขาแก้ว อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีส่วนราชการต่าง ๆ ประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวร่วมกันสูดอากาศดีที่สุดในประเทศไทย ที่ลานสกาเป็นจำนวนมาก
    นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า สำหรับการเปิดตัวจุดสูดอากาศที่ดีที่สุดในประเทศในวันนี้ หลังจากที่สำนักจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพอากาศที่จังหวัดนครศรีธรรมราช บริเวณบ้านคีรีวง อำเภอลานสกา เมื่อระหว่างวันที่ 3 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2552 และพบว่า บริเวณดังกล่าวมีค่า AQI ระหว่าง 17- 49 ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก เมื่อเปรียบเทียบเชิงตัวเลขกับพื้นที่อื่นในประเทศไทย
    [​IMG]
    จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้ประสานขอรับสนับสนุนงบประมาณจากภาคส่วนต่างๆ ในพื้นที่เพื่อจัดสร้างสถานที่สำหรับสูดอากาศดังกล่าวขึ้น โดยมีลักษณะเป็นลานกว้างทำด้วยหินอ่อน มีข้อความ “อากาศดีที่สุดในประเทศไทย และข้อความภาษาอังกฤษ THE BEST OF O3” ส่วนทิวทัศน์ด้านหลังป้ายจะเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อนที่เขียวขจีด้วยแมกไม้นานาชนิด เดินลงมาอีก 50 เมตร จะมีธารน้ำตกให้นักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำเย็นฉ่ำ ซึ่งจะสร้างความประทับใจแก่ผู้ที่แวะชมได้อย่างยิ่ง
    [​IMG]
    ในโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แจกกระปุกบรรจุอากาศให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งได้สั่งทำเป็นพิเศษเฉพาะกิจกรรม เพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับนำไปเป็นของฝากให้กับบุคคลต่างๆ โอกาสที่เดินทางมาเยือนจังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นร่วมปลูกต้นไม้คืนป่าสู่ธรรมชาติ และปล่อยปลาลงในลำธารน้ำตกที่ใสสะอาดเป็นการเพิ่มความสดใสให้แก่ธรรมชาติอีกด้วย
    ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวแห่งชาติ ภาพประกอบจาก lansaka.blogspot.com
    Mthai News
     
  9. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    6 ก.ย. 54

    มารไม่มี บารมี ย่อมไม่เกิด
    รับฟังเถิด ติฉิน และนินทา
    นำมาคิด แก้ไข เพื่อเป็นยา
    ได้รักษา ดวงจิต ให้มั่นคง

    เพราะหูตา ดวงจิต เข้าไปจับ
    เรื่องไม่ดับ ดวงจิต คิดปรุงแต่ง
    เป็นเรื่องดี รับได้ ไม่รุนแรง
    ถ้าเรื่องแฝง ไม่ยอม ต้องต่อกร

    ติฉิน นินทา คือครูบา
    ได้นำพา มาช่วย ให้สอนสั่ง
    ทำให้จิต จะได้ ไม่พลาดพลั้ง
    เป็นพลัง ใช้ชีวิต อย่างมั่นคง

    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 กันยายน 2011
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    มนุษย์ต่างดาวฝ่ายมืด(อิลูมินาติ)
    กับ
    มนุษย์ต่างดาวฝ่ายแสง(พระคริสต์)

    [​IMG]

    [​IMG]


    ใดๆในโลกล้วนเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา และย่อมเป็นสัจจธรรมแห่งสากลจักรวาลด้วยเช่นกัน ภาพรวมแห่งสังคมวิวัฒนาการของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน เติบโตก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่พยายามเน้นในสิ่งที่เป็นนิจจัง ซึ่งสวนทางกับธรรมชาติ ทำให้สังคมโดยรวมมีแต่ความเครียดกดดันและความทุกข์

    วิวัฒนาการและผลที่เป็นวิบาก ส่งผลกระทบในแง่ลบต่อสากลจักรวาลโดยรวม จนทำให้มนุษย์ต่างดาวทั่วจักรวาล ต้องเข้ามามีส่วนในการแก้ไข เพราะสายพันธ์ของมนุษย์มีดีเอ็นเอส่วนประกอบของผู้สร้างอยู่ด้วย สมาพันธ์แห่งจักรวาลฝ่ายแสง ได้เตรียมการสำหรับความช่วยเหลือมนุษย์มานานกว่า 1,000 ปี(พวกเขามีอายุยืนยาวกว่า 5,000 ปี)โดย ณ เวลานี้ มียานแม่ขนาดใหญ่เท่าเมืองหรือเท่าประเทศ มาอยู่ในเขตกาแลคซี่ชั้นในกว่า 200 ลำ แบ่งทำหน้าที่ในการเตรียมการต่างๆ กัน

    สำหรับการช่วยเหลือในขั้นตอนสุดท้าย คือการยกระดับชั้นของมนุษย์จาก มิติที่ 3 สู่มิติที่ 4และ5 ตามลำดับ โดยจะมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางกายจาก คาร์บอนเป็นคริสตัล รวมทั้งการยกระดับจิตให้มีสติเต็ม สู่ความเป็นหนึ่ง(Oneness) จากสภาพเป็นคู่(Duality)จะใช้ระยะเวลาประมาณ ไม่เกิน 30 ปีนับแต่บัดนี้ แต่การเริ่มต้นต้องได้รับความยินยอมจากมนุษย์โดยรวมก่อน ซึ่งค่อนข้างล่าช้า

    เพราะผู้ปกครองวิวัฒนาการของมนุษย์ปัจจุบันนี้เป็นฝ่ายมืดหรือดำ(Dark)หรือฝ่ายมารนั่นเอง พยามยามต่อรองบ่ายเบี่ยงเพื่อรักษาอำนาจของตนไว้ ซึ่งฝ่ายแสงเองก็มิอาจก้าวล่วงล้ำได้ตามกฏแห่งกาแลคซี่ ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาทำได้คือ การส่งยานลูกจำนวนมาก บินแสดงตัวไปทั่วโลกเป็นจุดแสงสว่างจ้า และสามารถเปลี่ยนมิติหายตัวได้ในทันที นั่นคือความแตกต่างจากมนุษย์ต่างดาวฝ่ายมืด ยานจะมีสภาพเหมือนโลหะ เทคโนโลยี่ทั้งทางกายภาพและจิตยังห่างชั้นจากฝ่ายแสงเป็นอย่างมาก

    หากเราตามข่าวในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาคงได้เห็นบ่อยมากๆทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย อยากรู้เพิ่มเติมให้ใส่ Email ไว้จะส่งข้อมูล Update ให้อย่างต่อเนื่องที่นี่หรือส่งมาที่ micky_syn@yahoo.com

    ซาวแดนดุด 18 ส.ค. 54 - 23:55

    ที่มา http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem141410.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • PlagueofDemons.jpg
      PlagueofDemons.jpg
      ขนาดไฟล์:
      81.1 KB
      เปิดดู:
      1,338
    • 18.JPG
      18.JPG
      ขนาดไฟล์:
      75.6 KB
      เปิดดู:
      1,308
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2011
  11. tuinipon

    tuinipon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +84
    เป็นกำลังใจให้คุณเกษมครับ นานโพสต์ทีครับ
     
  12. ปิยาจาโร

    ปิยาจาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +254
    เข้ามาอ่านทุกวันครับ
    เป็นกำลังใจให้คุณเกษมเสมอครับ
    มารมีมาเรื่อยๆแหละครับ ผมว่าไม่น่าสนใจหรอกครับ:':)':)'(
     
  13. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    10 ปรากฏการณ์ธรรมชาติประหลาดที่คุณจะต้องไม่เชื่อ

    โลก เรานี้เต็มไปด้วยเรื่องที่ไม่คาดคิดอยู่มากมาย ผู้คนมักจะใช้คำว่า “ผิดธรรมชาติ” หรือ “ธรรมชาติวิปริต” มาอธิบายสิ่งที่พวกเขาเห็นว่ามัน “ผิดแปลก” แต่จริงๆแล้วความ “แปลก” นั้นเกิดจากการที่เรานำไปเปรียบเทียบกับสิ่งที่เราคิดว่าเป็น “ธรรมดา” หรือ “ปรกติ” แต่แท้ที่จริงแล้วเหตุการณ์หลายอย่างนั้นเป็นเรื่อง “ปรกติ” ธรรมดาของธรรมชาติบนโลกที่มีอายุหลายพันล้านปี เพียงแต่ว่าในช่วงชีวิตที่แสนสั้นของคนเรานั้นเราอาจจะไม่ได้เห็นปรากฏการณ์ เหล่านี้เลย ทำให้เราคิดไปว่าสิ่งที่เป็น “ธรรมดา” ของโลกนั้นเป็นสิ่งที่ “ผิดปกติ” ไป นี่คือตัวอย่างของปรากฏการณ์ที่อาจจะฟังดู “ผิดธรรมชาติ” หรือ “แปลกประหลาด” ที่เกิดขึ้นเป็นนิจบนโลกของเรา

    1) พายุที่ไม่มีวันดับ


    [​IMG]

    “สาย ฟ้าแห่งคาตาทุมโบ” (Catatumbo Lightings) เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นบริเวณปากแม่น้ำคาตาทุมโบ ส่วนที่ต่อกับทะเลสาป Maracaibo ในประเทศเวเนซุเอรา เมฆพายุขนาดใหญ่และสายฟ้าที่ยาวกว่า 5 กิโลเมตรนี้ จะเกิดขึ้นประมาณ 140 ถึง 160 วันต่อปี และสายฟ้านี้จะผ่าติดต่อกันได้ถึงวันละ 10 ชั่วโมง และมากที่สุดถึงชั่วโมงละ 280 ครั้ง ข้อมูลล่าสุดบอกว่า หลังจากที่ได้เกิดขึ้นติดต่อกันมานานเป็นศตวรรษ (เท่าที่มีการบันทึก) สายฟ้านี้ได้หายไปตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2553 ซึ่งน่าจะเกิดมาจากความแห้งแล้งอย่างหนัก ทำให้เป็นที่กังวลว่าปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้อาจหายไปได้

    [​IMG]

    2) ฝนปลา

    [​IMG]

    ฝน ปลา หรือที่ภาษาท้องถิ่นเรียกว่า “Lluvia de Peces” นั้นเป็นปรากฏการณ์เหลือเชื่อที่เกิดขึ้นติดต่อกันมาเป็นเวลากว่า 100 ปีแล้วในประเทศฮอนดูรัส โดยจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฏาคมของทุกปี ในเขตเมือง Yoro ทางตอนเหนือของประเทศ ตามปรกติจะเริ่มจากเมฆดำแล้วตามด้วยฟ้าผ่า, ลมพายุ, และฝนตกหนักราว 2-3 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากฝนหยุดไปแล้ว จะพบปลาเป็นๆ หลายร้อยตัวดิ้นพรวดๆ อยู่บนพื้นดิน ซึ่งชาวบ้านจะจับไปทำเป็นอาหาร เชื่อกันว่าปรากฏการณ์นี้เกิดจากพายุหอบพัดปลาจากมหาสมุทธขึ้นไปแล้วพัดตกลง มาบนแผ่นดิน

    [​IMG]

    3) แพะบนต้นไม้

    [​IMG]

    แพะ ไม่ว่าที่ไหนบนโลกจะหากินบนพื้น แต่ในประเทศโมรอคโคนั้นคงเป็นที่เดียวในโลกที่แพะชอบที่จะปีนต้นไม้เพื่อหา อาหาร??? ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าแพะที่นี่ชอบกินผลของต้น Argan หรือที่รู้จักกันว่า Goat Tree ซึ่งเป็นต้นไม้พุ่มที่ขึ้นทั่วไปในโมรอคโค ชาวนาก็จะตามฝูงแพะเพื่อไปเก็บเมล็ดของต้น Argan (แพะย่อยไม่ได้) ซึ่งสามารถนำมาสกัดทำน้ำมันที่มีคุณค่าทางอาหารสูงและเป็นสินค้าส่งออกราคา แพงอันเป็นที่ต้องการของบริษัทผู้ผลิตน้ำหอมในยุโรป

    [​IMG]

    4) ฝนเลือด

    [​IMG]

    ใน ช่วงเดือนกรกฏาคมถึงกันยายนของปี 2544 ได้มีปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้นในเมืองเคลาลาของอินเดีย นั่นคือมีฝนสีแดงตกลงมาทั่วทั้งฟ้า นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำฝนที่เก็บได้แล้วพบว่าสิ่งที่ ตกลงมานั้นไม่ใช่เลือดตามที่ชาวเมืองเข้าใจ แต่เป็นน้ำที่มีตะกอนฝุ่นสีแดงในปริมาณมากจนทำให้น้ำมีสีแดงคล้ายเลือด

    [​IMG]

    5) รุ้งเพลิง

    [​IMG]

    คน ส่วนใหญ่จะรู้จักรุ้งกินน้ำว่าเป็นแถบสีรูปโค้งบนท้องฟ้าหลังฝน แต่ถ้ารุ้งกินน้ำไม่ได้เป็นรูปโค้งล่ะ? คงจะเป็นสิ่งที่ผิดหูผิดตาผู้คนไม่น้อย รูปแบบที่แปลกตาและหาดูยากที่สุดเห็นจะเป็นสิ่งที่รู้จักกันในชื่อ รุ้งเพลิง (Fire Rainbow) ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนกับเปลวเพลงสีรุ้งพาดผ่านท้องฟ้า ปกติจะเห็นเป็นแถบขนานไปกับขอบฟ้า แต่อาจเปลี่ยนไปขึ้นกับตำแหน่งที่เกิด

    [​IMG]

    6) เมฆตะปุ่มตะป่ำ

    [​IMG]

    Mammatus Cloud หรือที่บางทีเรียกว่า เมฆตะปุ่มตะป่ำ (Bumpy Cloud) เป็นปรากฏการณ์ที่มักเกิดตอนมีพายุหรือทอร์นาโด มักเกิดขึ้นในช่วงตอนกลางและตะวันออกของสหรัฐฯ เมฆจะปรากฏพื้นผิวที่เรียบและดูตะปุ่มตะป่ำเหมือนกับฟองน้ำ ซึ่งรูปลักษณ์ที่แปลกตานี้เกิดจากส่วนผสมของน้ำแข็งกับน้ำในก้อนเมฆ

    [​IMG]

    7) คลื่นทวนแม่น้ำ

    [​IMG]

    คุณ อาจแปลกใจว่าสถิติของคลื่นที่มีความยาวที่สุดในโลกนั้นไม่ได้เกิดในทะเล แต่เกิดขึ้นในแม่น้ำ?? ในช่วงระหว่างเดือนกุมภาพัทธ์ถึงมีนาคมของทุกปี น้ำในมหาสมุทรแอตแลนติกจะดันน้ำบริเวณปากแม่น้ำอเมซอนในบราซิลให้ไหลกลับ เข้าไปในแม่น้ำ ทำให้เกิดคลื่นที่อาจสูงได้ถึง 4 เมตรเคลื่อนที่ทวนแม่น้ำกลับเข้าไปในแม่น้ำได้ลึกถึง 13 กิโลเมตร (จากปากแม่น้ำ) ซึ่งคลื่นที่ยาวที่สุดนั้นเกิดขึ้นในปี 2546 ซึ่งวัดความยาวคลื่นได้ถึง 12 กิโลเมตร และเกิดขึ้นนานถึง 37 นาที เป็นหนึ่งในสถานที่เล่นกระดานโต้คลื่นยอดนิยม

    [​IMG]

    8) ตะวันดำ

    [​IMG]

    ใน ช่วงก่อนตะวันตกดินในฤดูใบไม้ผลิของทุกปีของประเทศเดนมาร์ก จะมีกลุ่มก้อนสีดำเคลื่อนที่ผ่านขอบฟ้าและมีการเปลี่ยนรูปร่างระหว่าง เคลื่อนที่ สิ่งนี้รู้จักกันในชื่อ ตะวันดำ (Black Sun) แต่ที่จริงนั้นเป็นกลุ่มของนกอพยพชนิดหนึ่งที่เรียกว่า startlings ซึ่งบินจากที่ต่างๆ มารวมตัวกันก่อนที่จะเคลื่อนย้ายไปยังบริเวณแพร่พันธุ์ในแถบสแกนดิเนเวีย

    [​IMG]

    9) เสาลำแสง

    [​IMG]

    เสา ลำแสง (Light Pillar) เป็นภาพลวงตาที่เกิดขึ้นการสะท้อนของผลึกน้ำแข็งขณะที่พระอาทิตย์อยู่บริเวณ ขอบฟ้า ทำให้เห็นเป็นลำแสงพุ่งตรงขึ้นไปบนท้องฟ้า ซึ่งนอกจากแสงอาทิตย์แล้วปรากฏการณ์นี้ยังสามารถเกิดได้จากแหล่งกำเนิดแสง อื่นเช่น แสงจันทร์ หรือ แม้กระทั่งแสงไฟบนถนน

    [​IMG]

    10) รุ้งพระจันทร์

    [​IMG]

    ถ้า การที่รุ้งกินน้ำพาดผ่านท้องฟ้ายามกลางวันอาจฟังเป็นเรื่องแปลกสำหรับบางคน แต่รุ้งที่เกิดขึ้นทั้งๆ ที่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้วนี่นับว่าแปลกยิ่งกว่า Moonbow หรือ รุ้งพระจันทร์ นี้เป็นปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นในช่วงที่พระจันทร์เต็มดวงและเกิดในบางสถาน ที่เท่านั้น หนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดที่จะเห็นรุ้งนี้ได้คือ น้ำตก Cumberland Falls ในรัฐเค็นตั๊กกี้ของสหรัฐฯ รุ้งประเภทนี้เกิดจากแสงที่สะท้อนมาจากดวงจันทร์ จึงมีสีที่ค่อนข้างซีดและมักจะเกิดขึ้นในทิศทางตรงข้ามกับพระจันทร์

    [​IMG]
     
  14. สิงห์สมุทร

    สิงห์สมุทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +182
    ขอเป็นกำลังใจให้คุณเกษม และคุณวรเดช..ครับ..
    ไม่ว่าจะมีอุปสรรคอันใด..ขอให้ผ่านพ้นสิ่งเลวร้ายต่างๆไปด้วยดีนะครับ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 250PX-~2.JPG
      250PX-~2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      32.1 KB
      เปิดดู:
      58
    • a10.jpg
      a10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.2 KB
      เปิดดู:
      66
    • vโสธร.jpg
      vโสธร.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.8 KB
      เปิดดู:
      49
  15. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    บทความ 10 ปรากฎการณ์ประหลาด จากเหตุ โลกร้อน!

    ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากภัย โลกร้อน ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจน อาทิ อากาศร้อนขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลาย หรือระดับน้ำทะเลโลกสูงขึ้นเท่านั้น แต่ปัจจุบันยังเป็นต้นเหตุของปรากฎการณ์แปลกๆ มากมาย ซึ่งเกี่ยวพันกับการหายสาบสูญของทะเลสาบ โรคภูมิแพ้โดยไม่ทราบสาเหตุ วิถีโคจรของดาวเทียมในอวกาศ ฯลฯ!







    <?xml:namespace prefix = fb ns = "http://www.facebook.com/2008/fbml" /><fb:like class=" fb_edge_widget_with_comment fb_iframe_widget" href="http://atcloud.com/stories/77741" width="518"></fb:like>
    <TABLE style="MARGIN: 0px" border=0 cellSpacing=0 width="100%" padding="0"><TBODY><TR><TD id=story-77741-expansion-table>ภาพประกอบ
    [​IMG]

    บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด
    <TABLE><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]สารภูมิแพ้แพร่ระบาด
    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้เกิดปรากฎการณ์ประหลาดขึ้นทุกๆ ช่วงฤดูใบไม้ผลิ นั่นคือ ประชาชนไอ จาม ป็นภูมิแพ้ และหอบหืดกันง่ายขึ้นและบ่อยขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ จากการศึกษาที่ผ่านมา พบว่า วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปกับสภาพมลพิษในอากาศ เป็นสาเหตุสำคัญของอาการดังกล่าว
    อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยใหม่ๆ ชี้ให้เห็นว่า วิกฤตอุณหภูมิโลกร้อนขึ้นและมีระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศมากขึ้น คือต้นเหตุทำให้พืชพรรณต่างๆ ผลิใบเร็วกว่าเดิม ขณะเดียวกันปริมาณละอองเกสรที่ฟุ้งกระจายไปตามอากาศก็มากขึ้นเช่นกัน คนที่เป็นภูมิแพ้หรือหอบหืดเมื่อสูดละอองเหล่านี้เข้าไปมากๆ อาการจึงกำเริบง่าย
    [​IMG]สัตว์อพยพไร้ที่อยู่
    ผลกระทบจากปัญหาโลกร้อน ทำให้สัตว์บางชนิด เช่น กระรอก ตัวชิปมังก์ หรือแม้กระทั่งหนู ต้องอพยพหนีขึ้นไปอยู่บนที่สูงขึ้น
    สัตว์ที่กำลังเผชิญปัญหาใหญ่ ได้แก่ "หมีขั้วโลก" ที่ในอนาคตอาจมีชีวิตอยู่ในถิ่นฐานเดิมแถบอาร์กติก ขั้วโลกเหนือไม่ได้ เนื่องจากธารน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็ว
    [​IMG]"พืช" ขั้วโลกคืนชีพ
    ช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ผลจากภาวะน้ำแข็งขั้วโลกละลายเพราะโลกร้อน ส่งผลต่อการดำรงอยู่ของพืชและสัตว์จำนวนมาก ตามปกติ พืชแถบอาร์กติกจะถูกปกคลุมอยู่ในน้ำแข็งตลอดทั้งปี
    แต่ปัจจุบัน เมื่อน้ำแข็งละลายมากขึ้นเรื่อย โดยเฉพาะในช่วงก่อนฤดูใบไม้ผลิต จึงทำให้พืชที่เคยถูกห่อหุ้มด้วยน้ำแข็งกลายเป็นอิสระ สามารถเริ่มกระบวนการสังเคราะห์แสงและกลับมาเติบโตขึ้นอีกครั้ง กลายเป็นอีก 1 ปรากฎการณ์ใหม่ของพื้นที่ขั้วโลกเหนือ

    [​IMG]ทะเลสาบหายสาบสูญ
    เรื่องประหลาดๆ ที่เกิดขึ้นในเขตอาร์กติก หรือ ขั้วโลกเหนือยังไม่หมดแค่นั้น มีงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า ในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา "ทะเลสาบ" ประมาณ 125 แห่งได้หายสาบสูญไปจากเขตอาร์กติก เป็นสัญญาณหนึ่งที่ช่วยให้เห็นว่า ภัยโลกร้อนส่งผลกระทบเร็วมากต่อสภาพแวดล้อมแถบขั้วโลก
    สาเหตุที่ทะเลสาบหายไปก็เพราะ "เพอร์มาฟรอส" ที่เป็นน้ำแข็งแข็งตัวอยู่ใต้พื้นทะเลสาบนั้นละลายหมดสิ้นไป ดังนั้น น้ำในทะเลสาบจึงซึมเข้าสู่พื้นดินข้างใต้ได้ เหมือนกับเวลาเราดึงจุกปิดน้ำออกจากอ่างอาบน้ำแล้วน้ำจึงไหลหมดไปจากอ่าง นั่นเอง
    นอกจากนี้ การที่ทะเลสาบขั้วโลกหายวับไป ยังส่งผลลูกโซ่ปั่นป่วนไปถึงระบบนิเวศในพื้นที่ที่พึ่งพิงน้ำจากทะเลสาบอีกด้วย

    [​IMG]น้ำแข็งใต้พื้นโลกละลาย
    ภาวะโลกร้อนไม่ได้เพียงแค่ทำให้ธารน้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างต่อเนื่องเท่า นั้น แต่ยังส่งผลให้ชั้นน้ำแข็งถาวรที่มีอยู่ใต้พื้นผิวโลกค่อยๆ ละลายลดปริมาณลงไปเช่นกัน
    ผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นตามมาในอนาคตก็คือ จุดใต้พื้นโลก ซึ่งเคยเป็นน้ำแข็งหายไปจนเกิดเป็น "รูรั่ว" ใต้ดินขึ้นมา เมื่อเป็นเช่นนี้สภาพทางภูมิศาสตร์ในพื้นที่ย่อมเปลี่ยนไป

    สิ่งปลูกสร้าง หรือ สิ่งก่อสร้างของมนุษย์ เช่น ทางรถไฟ ถนน บ้านเรือน ฯลฯ ซึ่งตั้งอยู่เหนือจุดดังกล่าวมีโอกาสได้รับความเสียหายตามไปด้วย ถ้าปรากฎการณ์น้ำแข็งละลายเกิดขึ้นบนที่สูง เช่น ภูเขา จะก่อให้เกิดภัยธรรมชาติตามมา อาทิ หินถล่มและโคลนถล่ม เป็นต้น

    [​IMG]ชนวนเกิดไฟป่า
    นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ยืนยันตรงกันทั่วโลก ว่าภัยโลกร้อนเป็นสาเหตุให้ธารน้ำแข็งละลายและพายุก่อตัวบ่อยและรุนแรงขึ้น กว่าในอดีต ยิ่งไปกว่านั้น ภาวะโลกร้อนยังเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิด "ไฟป่า" ได้ง่ายขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก
    และชาติเมืองหนาวในซีกโลกตะวันตก ซึ่งตามปกติไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องไฟป่า ก็เริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงนี้กันแล้ว เหตุเพราะสภาพป่าแห้งกว่าเดิม จึงเป็นเชื้อไฟอย่างดี

    [​IMG]ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นถึงอยู่รอด
    โลกร้อนส่งผลให้หน้าหนาวหดสั้นลง และหน้าร้อนมาถึงเร็วขึ้น บรรดา "นกอพยพ" หลายสายพันธุ์ต่างมึนงง ปรับ "นาฬิกาชีวภาพ" ในตัวของมันให้เข้ากับสภาพความผันแปรของฤดูกาลที่บิดเบี้ยวไปไม่ทัน สัตว์ที่จะเอาชีวิตรอดจากสภาพภูมิอากาศแปรปรวนในทุกวันนี้ได้ต้องเป็นสาย พันธุ์ที่แข็งแรงที่สุดเท่านั้น
    ในที่สุดสัตว์ที่อยู่รอดจะต้อง "กลายพันธุ์" หรือปรับพันธุกรรมในตัวมันเสียใหม่ เพื่อรับมือภัยโลกร้อนให้ได้ และมีสัตว์หลายชนิดกำลังวิวัฒนาการตัวเองเช่นนั้นอยู่
    [​IMG]ดาวเทียมโคจรเร็วกว่าเดิม
    การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากโรงงานอุตสาหกรรม โรงไฟฟ้าถ่านหิน ยวดยานพาหนะ ฯลฯ คือ ตัวการสำคัญของวิกฤตโลกร้อน
    ล่าสุดพบว่า เจ้าก๊าซตัวเดียวกันนี้เองที่ขึ้นไปสะสมมากขึ้นในชั้นบรรยากาศโลก ได้กลายเป็นต้นเหตุทำให้ "ดาวเทียม" ที่อยู่ในวงโคจรโลกเคลื่อนที่เร็วกว่าเดิม
    ตามปกติ อากาศในบรรยากาศชั้นนอกสุดของโลกจะเบาบาง แต่โมเลกุลของอากาศจะยังคงมีแรงดึงดูดมากพอในการทำให้ดาวเทียมโคจรช้าๆ ดังนั้น เราอาจเคยได้ยินข่าวกันมาบ้างว่า ผู้ควบคุมต้องจึดระเบิดดาวเทียมเป็นระยะๆ เพื่อให้ดาวเทียมโคจรต่อไปอย่างถูกต้อง
    อย่างไรก็ตาม เมื่อคาร์บอนไดออกไซด์ลอยไปสะสมในบรรยากาศชั้นล่างมากไป จะทำแรงดึงดูดของบรรยากาศชั้นนอกสุดลดกำลังลง ดาวเทียมจึงโคจรเร็วกว่าปกติ

    [​IMG]ภูเขากระเด้งตัวเหนือพื้นโลก
    ภูเขาและเทือกเขาสูงหลายแห่งทั่วโลกกำลังขยายตัว "สูง" ขึ้น เพราะผลจากโลกร้อน! นั่นเป็นเพราะ ตามธรรมชาติที่ผ่านๆ มานับพันปี ยอดภูเขาในเขตหนาวเย็นโดยทั่วไปจะมี "น้ำแข็ง" ปกคลุมอยู่ ทำหน้าที่เป็นเหมือนกับตุ้มน้ำหนักที่คอยกดทับให้ฐานล่างของภูเขาทรุดต่ำลง ไปใต้พื้นผิว
    เมื่อน้ำแข็งบนยอดเขามลายสูญสิ้นไป ส่วนฐานล่างที่เคยถูกกดจมดินลงไปจะค่อยๆ กระเด้งคืนตัวกลับมาเหนือผิวโลกอีกครั้ง
    [​IMG]โบราณสถานเสียหาย
    โบราณสถาน เมืองเก่าแก่ ซากปรักหักพังทางประวัติศาสตร์ ฯลฯ อันเป็นสิ่งแสดงถึงวัฒนธรรมอันรุ่งเรื่องของมนุษย์ในอดีตได้รับผลกระทบจาก โลกร้อน
    เหตุเพราะโลกร้อนทำให้อากาศทั่วโลกแปรปรวน ทั้งเกิดพายุ น้ำท่วม ภัยแล้ง ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูง และล้วนแต่ยิ่งสร้างความเสียหายให้กับมรดกตกทอดทางประวัติศาสตร์ดังกล่าว ซึ่งมีสภาพทรุดโทรมอยู่แล้ว
    โบราณสถานอายุ 600 ปีในจังหวัดสุโขทัยของประเทศไทยเรา ก็เคยเสียหายอย่างหนักเพราะภัยน้ำท่วมใหญ่ ซึ่งเป็นผลจากภัยโลกร้อน มาแล้วเช่นกัน ​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    ความรักบริสุทธิ์ หญิงชาวจีนวัย 45 รับเลี้ยงดูลูกบุญธรรม มาแล้วกว่า 80 คน
    Mthainews: หลี ยางปิง (李艳萍) หญิงวัย 45 ปี สวมบทบาทชีวิตของคุณแม่ ให้กับหนูน้อยผู้ขาดโอกาสกว่า 80 คน ในชุมชนเหยาปู มณฑลซานซี ทางตอนเหนือของประเทศจีน โดยเธอรับอุปการะเลี้ยงดูเด็กคนแรกตั้งแต่ปี 1989 หรือประมาณ 22 ปีที่แล้ว หลังจากที่สามีของเธอนำทารกที่ถูกทิ้งมาเลี้ยงไว้เป็นลูกบุญธรรม นับตั้งแต่นั้นมาก็มีคนนำทารกมาทิ้งไว้ที่หน้าบ้านของเธอ ด้วยความรักและเอ็นดู เธอรับเด็กเหล่านั้นมาเลี้ยง จนปัจจุบันมีทารกที่รับอุปการะ รวมทั้งเด็กพิการ ซึ่งสวนใหญ่จะมีความพิการทางด้านสมอง รวมกว่า 80 คนแล้ว เด็กบางคนเรียกเธอว่า “คุณแม่”
    [​IMG]
    ในลานพื้นที่สี่เหลี่ยมกว้าง 40 เมตร เป็นแหล่งที่พัก และทำกิจกรรมต่างๆ ทางการจีนต้องช่วยเหลือในเรื่องค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เนื่องจากเธอต้องเลี้ยงดู คอยดูแลเด็กทั้งหมดด้วยตัวเธอเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร ห้องน้ำ เรื่องอุปโภคบริโภคทั้งหลาย เพราะสามีล่วงลับไปแล้วเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ชาวบ้านบางคนก็นำเงินมาบริจาค ช่วยให้เธอยังคงดำรงอยู่ได้กับชีวิตตัวน้อยๆ
    [​IMG]
    สิ่งมีค่าของเธอ มีเพียงโทรทัศน์ขนาด 29 นิ้ว และตู้เย็นเล็กๆ ไว้เก็บอาหาร อย่างเช่น เนื้อ เพื่อใช้ทำอาหาร สิ่งที่เธอต้องการที่สุดก็คือ อยากจะให้เด็กๆที่เปรียบเสมือนลูก ตั้งใจเรียนหนังสือ เพื่อจะได้เข้าศึกษาต่อในระดับวิทยาลัย
    “ตราบใดที่ลูกๆของฉันมีความสามารถเล่าเรียนในระดับสูงๆ ฉันก็จะสนับสนุนอย่างเต็มที่ “ คุณแม่หลี กล่าว
    [​IMG]
    หญิงแกร่งที่มอบความรักด้วยหัวใจ ถึงแม้ลำบากเพียงใดเธอก็ยอม ขอเพียงว่าเด็กทั้งหมดได้รับความสุข และความอบอุ่น และนี่คือตัวอย่างของความรักที่แม้ไม่ใช่สายเลือด แต่เธอก็ให้ได้อย่างบริสุทธิ์ใจ
    Mthainews
     
  17. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ผวาน้ำทะลักเขื่อน''ภูมิพล"ปริมาณน้ำสูงสุด </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>ผวา เขื่อนภูมิพล น้ำสูงสุดรับน้ำได้อีกแค่ 2,700 ล้านลูกบาศก์เมตร

    ลดการระบายน้ำ 3 วัน ชะลอท่วมภาคกลาง ให้ชาวนาหายใจเร่งเก็บเกี่ยว ส่วน “เขื่อนสิริกิติ์” ปริมาณน้ำมาก 94 เปอร์เซ็นต์ ครม.เคาะงบ 886 ล้านเร่งช่วยน้ำท่วม ครอบครัวละ 5,000 บาท ศอส.สรุปยอดสังเวยน้ำท่วม 66 ศพ พื้นที่เกษตรเสียหาย 3.5 ล้านไร่

    ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 6 ก.ย. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า

    ที่ประชุม ครม.อนุมัติค่าชดเชยไร่อ้อยและไร่ข้าวที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย และเห็นชอบการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครอบครัวละ 5,000 บาท แทนที่จะเป็น 5,500 บาท เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน เนื่องจากมีประชาชนบางส่วนได้รับค่าชดเชยไปแล้ว จึงคิดว่าควรจะเป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยกำชับให้รัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งจังหวัด เร่งรัดขั้นตอนการจ่ายเงินชดเชยเยียวยาให้ผู้ประสบอุทกภัยได้รวดเร็วขึ้น ส่วนภาคการเกษตร จะพิจารณาจ่ายเงินชดเชยหลังน้ำลดภายใน 90 วัน แต่ตนได้กำหนดให้ดำเนินการภายใน 60 วัน ส่วนพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายอย่างชัดเจนจะสำรวจให้เร็วขึ้นโดยแยกมาทำก่อน เชื่อว่าบางส่วนจะตัดจ่ายได้ภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำรวจและหาเช่าพื้นที่เพื่อทำแนวรับน้ำ เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพมหานคร และ จ.พระนครศรีอยุธยา ต่อไป

    นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติ ครม.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้อนุมัติงบกลาง

    ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในกรณีฉุกเฉินใน 44 จังหวัด 1.7 แสนครัวเรือน 886 ล้านบาท ชดเชยครัวเรือนละ 5,000 บาท ให้ทุกจังหวัดตรวจสอบความเสียหายให้ถูกต้องชัดเจน นอกจากนี้ ยังอนุมัติให้สำนักงบประมาณนำเงินไปช่วยเหลือดินโคลนถล่มอีก 15 ล้านบาท อีกด้านหนึ่ง ที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ได้มีมติให้ ส.ส.และรัฐมนตรีลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน

    นายวีระ วงศ์แสงนาค รองอธิบดีกรมชลประทาน

    กล่าวภายหลังประชุมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต กรมอุทกศาสตร์ทหารเรือ กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัยพลเรือน กรมอุตุนิยมวิทยา และสำนักระบายน้ำกรุงเทพมหานคร ว่ากรมชลประทานได้ออกประกาศเตือนฉบับที่ 9 โดยแจ้งเตือนประชาชนในจังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยา โดยเฉพาะ จ.ชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา จะมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น 10-15 ซม. และตั้งแต่วันที่ 9-12 ก.ย.จะมีร่องความกดอากาศต่ำเข้ามาอีกระลอก ทำให้ฝนตกหนาแน่นมากขึ้น อ

    ย่างไรก็ตาม กรมชลประทานได้ขอความร่วมมือจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต เพื่อให้ลดการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ 67 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือ 65 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ส่วนเขื่อนภูมิพลได้ลดการระบายน้ำจาก 28 ล้านลูกบาศก์เมตรเหลือ 18 ล้านลูกบาศก์เมตรตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. และจะลดเพิ่มเหลือ 10 ล้านลูกบาศก์เมตรในวันเดียวกันนี้ ส่งผลให้ปริมาณน้ำนครสวรรค์ลดลงแม้จะมีอิทธิพลฝนตกเพิ่ม แต่วิธีดังกล่าวเป็นเพียงมาตรการช่วยเหลือบรรเทาอุทกภัยระยะสั้น โดยเขื่อนภูมิพลลดการระบายได้เพียง 3 วันเท่านั้น เพราะขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนมีระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ กักเก็บน้ำมากถึงร้อยละ 74 ของความจุเขื่อน หรือประมาณ 7,900 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือพื้นที่รับน้ำเพียง 2,700 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะเดียวกัน ปริมาณน้ำในเขื่อนสิริกิติ์มีมากถึง 94 เปอร์เซ็นต์ซึ่งเหลือพื้นที่ไม่มากหลังจากลดการระบาย 2-3 วัน จะปรับเพิ่มการระบายเหมือนเดิม ส่วนที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องการเก็บเกี่ยวข้าวในพื้นที่ลุ่มต่ำ เพราะรถเกี่ยวข้าวมาไม่ทันกับพื้นที่ที่ต้องการ และสามารถหน่วงน้ำได้ถึงวันที่ 10 ก.ย.เท่านั้น

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>น้ำท่วมซัดลูกช้างกระเด็นพลัดจากแม่ เผยร้องหิวนม </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>เมื่อ 6 ก.ย. นายวัชระ ธรรมสอน ผอ.โครงการฟื้นฟูอาหารช้างภูหลวง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จ.เลย

    ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านเลยตาวตาด หมู่ 2 ต.เลยวังไสย์ อ.ภูหลวง ว่าจับลูกช้างป่าเพศผู้ได้ที่ลำห้วยง่า ต้นแม่น้ำเลย ใกล้กับหมู่บ้าน จึงพร้อมด้วยพนักงานพิทักษ์ป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง รุดไปตรวจสอบ พบว่าลูกช้างป่า อายุประมาณ 5 เดือน ยังไม่หย่านม สูง 1 เมตร น้ำหนัก 100 ก.ก. ชาวบ้านตั้งชื่อให้ว่าพลายบุญหลง โดยลูกช้างร้องหาแม่อยู่ตลอดเวลา และหิวนม เจ้าหน้าที่ให้กินนมผงเด็กแทนนมแม่ช้าง ต้องป้อนทุก 2 ชั่วโมง ครั้งละครึ่งลิตร

    นายวัชระกล่าวว่า จะนำไปไว้ที่คอกของโครงการฟื้นฟูอาหารช้างภูหลวง

    เพื่อให้สัตวแพทย์ตรวจร่างกาย เพราะมีแผลที่ปากข้างโคนงา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่นำขี้ช้างผสมกับน้ำทาที่ตัว เพื่อให้แม่ช้างได้กลิ่น ลงมาจากภูหลวง เพื่อมารับลูกกลับคืนสู่ผืนป่าต่อไป สำหรับช้างป่าที่ภูหลวง ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 70 ตัว ฝูงละ 8-10 ตัว หากินบนภูเป็นส่วนใหญ่ นานๆ จะลงมาหากินใกล้หมู่บ้าน

    ส่วนนายสมพร ขวัญชม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านเลยตาวตาด กล่าวว่า

    เมื่อ 2 วันก่อนมีฝนตกบนภูเขาอย่างหนักต่อเนื่องกัน มีน้ำป่าไหลหลากลงมาอย่างแรง ขณะที่ชาวบ้านนอนหลับได้ยินเสียงคล้ายก้อนหินชนกระท่อมเสียงดัง ออกมาดูเห็นลูกช้างป่าถูกน้ำพัดมาติดกระท่อม จึงช่วยกันนำเชือกมาคล้อง คาดว่าลูกช้างพลัดหลงกับแม่ แล้วถูกน้ำป่าพัดเข้ามาในหมู่บ้าน


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ชาวไทย-ต่างชาติรอชมซ้อมขบวนเรือ </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>กรมอู่ทหารเรือเปิดให้ชมวิว ซ้อมอีก 6 ครั้ง 13, 20, 23, 28 ก.ย., 4 และ 7 ต.ค.วันจริง22ต.ค.


    เมื่อเย็นวันที่ 6 ก.ย. กองทัพเรือกำหนดฝึกซ้อมขบวนพยุหยาตราชลมารคเป็นครั้งที่ 2 เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 7 รอบ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะเสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร โดยขบวนพยุหยาตราชลมารค ในวันที่ 22 ต.ค.นี้ ทั้งนี้มีการซ้อมตั้งแต่เวลา 15.00-19.00 น. ล่าช้าจากเดิมที่กำหนดไว้จะเริ่มในเวลา 13.00 น. เนื่องจากฝนตกโปรยปราย อย่างไรก็ตามหลังฝนหยุดได้จัดซักซ้อมเหมือนจริงสวยงามตระการตาฝีพายพร้อมเพรียง ขณะที่ประชาชนริมฝั่งทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างมากันมารอชมอย่างคับคั่ง โดยเฉพาะที่ห้องชมวิว ชั้น 2 ของกรมอู่ทหารเรือที่เปิดให้ประชาชนมารอชมได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากอยู่ในฝั่งตรงข้ามพระบรมมหาราชวังพอดี

    ด้านนายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า กองทัพเรือจัดซ้อมครั้งแรกเมื่อเมื่อวันที่ 26 ส.ค. หลังจากนี้จะซ้อมอีก 6 ครั้ง

    คือวันที่ 13, 20, 23, 28 ก.ย., 4 และ 7 ต.ค. ตั้งแต่เวลา 13.00-19.00 น. เพื่อความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการเดินเรือ การจอดเรือระหว่างฝึกซ้อม จึงกำหนดให้แม่น้ำเจ้าพระยาและคลองบางกอกน้อยเป็นพื้นที่ควบคุมการเดินเรือชั่วคราวเนื่องในการฝึกซ้อมขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในพื้นที่ต่างๆ ดังนี้ 1.พื้นที่ควบคุมการเดินเรือเวลา 11.30-21.00 น. ในแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่สะพานกรุงธนบุรีถึงสะพานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกในคลองบางกอกน้อย ตั้งแต่สะพานอรุณอัมรินทร์ถึงปากคลองบางกอกน้อย

    2.คำสั่งการจราจรทางน้ำและกำหนดเส้นทางเดินเรือ คือ ตั้งแต่เวลา 11.30 น.-21.00 น. ห้ามเดินเรือทะเล เรือลากจูง เรือลำเลียงสินค้า เรือบรรทุกสินค้าอันตราย และแพไม้เดินผ่านพื้นที่ควบคุมทางเดินเรือ ตั้งแต่เวลา 13.45 น. ห้ามเรือทุกชนิดเดินผ่าน ตั้งแต่สะพานกรุงธนบุรี ถึง วัดอรุณฯ ยกเว้นเรือข้ามฟากให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และต้องหยุดเรือเป็นครั้งคราว เวลา 13.50 น. ถึง 16.00 น. ให้เรือข้ามฟากท่าบวรมงคล และท่าวัดคฤหบดี ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมการเดินเรือ หยุดเดินเรือชั่วคราว และเวลา 15.00 น. ถึง 16.30 น. ห้ามเรือทุกชนิดเดินผ่านพื้นที่ควบคุมการเดินเรือ ทั้งนี้ หากผู้ควบคุมเรือฝ่าฝืน ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 500 บาท ถึง 5,000 บาท และเจ้าท่ามีอำนาจสั่งยึดประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรือมีกำหนดไม่เกิน 6 เดือน.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ปินส์โชว์ภาพไอ้เข้ยักษ์ ยาว 6.4 เมตร หนักพันกิโลฯ (มีคลิป) </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 6 ก.ย. เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์เผยแพร่ภาพจระเข้น้ำเค็มที่ชาวบ้านในเมืองบุนาวัน จังหวัดอากูซันเดลซูร์ เกาะมินดาเนา ทางภาคใต้ไล่จับมาได้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา วัดความยาวทั้งตัวได้ 6.4 เมตร หนัก 1,075 กิโลกรัม ชาวบ้านเชื่อว่าจระเข้ตัวนี้เป็นตัวที่กินวัวเข้าไปหลายตัว และอาจกินชาวนาที่หายตัวไปเมื่อเดือนกรกฎาคมปีนี้ รวมถึงทั้งกินศีรษะเด็กหญิงวัย 12 ปีเมื่อสองปีก่อนด้วย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>
    <OBJECT codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0" classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 width=420 height=345>
























    <embed type="application/x-shockwave-flash" height="345" width="420" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always" src="http://www.youtube.com/v/_du_etWWhug?version=3&hl=th_TH"></embed></OBJECT>​


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></P>
     
  18. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    =====================================


    6 ก.ย. 54



    วิปโยค----------โศกใจ-----------ไปทั้งภพ
    แม่อุทก---------เนืองนอง--------ไปทั่วหล้า
    เป็นสัญญา------เตือนภัย----------กำลังมา
    อย่าชักช้า-------รีบเตรียมการ------จะไม่ทัน

    เตรียมที่ตัว---------ที่จิต----------อันดับแรก
    ต้องสอดแทรก-----คุณธรรม-------อีกความดี
    เอาไว้ปก----------ไว้ป้อง---------ยามจะหนี
    ช่วยชีวี------------ทั้งตน---------และครอบครัว

    เข้าช่วยเหลือ-----กลุ่มงาน-------อันดับสอง
    คอยปกป้อง------ผู้คน-----------ที่จะหนี
    ช่วยทั้งแรง-------ทั้งเงิน---------ดูเข้าที
    เพื่อชีวี-----------ทุกท่าน--------ได้ใช้กัน

    ที่ปลอดภัย--------คือที่-------------ที่กำหนด
    จะช่วยลด---------ความเสี่ยง--------ได้มากหลาย
    รีบสืบเสาะ--------เตรียมไว้----------ก่อนจะสาย
    หนีความตาย------เพื่อครอบครัว-----และตัวเอง

    อย่าไปอยู่----------ครัวเดียว----------อย่างโดดเดี่ยว
    เพราะที่เปลี่ยว------ไม่ปลอดภัย-------จะบอกให้
    มิจฉาชีพ-----------คิดไม่ดี-----------จะทำร้าย
    ควรจะย้าย----------เข้ารวมกลุ่ม-------ดูแลกัน

    หวังพึ่งพระ--------พึ่งเจ้า------------ไม่ได้หรอก
    ท่านจะบอก-------ต้องพึ่ง------------แต่ตัวเอง
    สร้างความดี------ไว้มากๆ------------มารจะเกรง
    ช่วยตัวเอง--------และครอบครัว------ได้ปลอดภัย

    พระพุทธองค์------ทรงสอน-------อย่าประมาท
    เมื่อฉลาด---------ต้องมี----------สติและปัญญา
    ต้องหลบหลีก-----เตรียมการ-------เมื่อภัยมา
    จะนำพา-----------ศาสนา--------ให้ยั่งยืน





    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"
     
  19. warrrior

    warrrior Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +64
    เศร้าใจในข่าว และเก็บความรู้ครับ
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    บทความ พุทธพยากรณ์ และภัยพิบัติโลก สำหรับชาวพุทธ

    [​IMG]

    ก่อนอื่นภัยพิบัติที่มวลมนุษยชาติจะต้องประสบในเวลานับจากนี้ก็คือ ภัยจากอาวุธนิวเคลียร์ อาวุธทำลายล้างสูงประเภทเลเซอร์ติดตั้งอยู่บนดาวเทียมวงโคจรต่ำอีเรเดียม อาวุธบังคับสภาพภูมิอากาศโลกด้วยคลื่นเสียงภายใต้โครงการ H.A.R.P. ที่อาลาสก้า อาวุธบังคับคลื่นสมอง Mind Control ผ่านเครือข่าย โทรศัพท์มือถือ 3g(เป็นสาเหตุ ของการควบรวมและซื้อคืนธุรกิจสื่อสารท้องถิ่นทั่วโลกกลับมาเป็นของ...) รวมไปถึงอาวุธเคมี และชีวภาพที่กลายพันธุ์จน ผู้สร้างก็ไม่อาจควบคุมได้ครับ

    สำหรับอาวุธนิวเคลียร์นั้นประเทศไทย อาจจะไม่ถูกโจมตีโดยตรงแต่จะถูกผลกระทบที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ จากละอองกัมมันตภาพรังสีฟุ้งกระจายจนปกคลุมชั้นบรรยากาศโลก ซึ่งเป็นที่มาของคำนายที่ว่าโลกจะมืดมิดไป 3 - 7 วันและผลของมัน ทำให้คนตื่นตะหนกจากความกลัว และล้มตายลงจากผลของรังสีและความหนาวเหน็บ จากการบดบังแสงแดดจากละอองกัมมันตภาพรังสี

    ไม่นับรวมพายุความเร็วสูง จากจุดศูนย์กลางของการระเบิด ทำให้เกิดพายุรุนแรง การเปลี่ยนแปลงทางธรณีพิบัติเช่นแผ่นดินไหว คลื่นซึนามิ อันเป็นสาเหตุของคำทำนายที่ว่า ภาคใต้จะหายไปและน้ำจะท่วมสูงจนถึงสระบุรี และElctromacneticpluse ที่จะทำให้อุปกรณ์อีเล็คทรอนิค ที่เปิดใช้งานอยู่ในขณะนั้นชำรุด ความรู้ทางวิทยาสตร์ที่จะช่วยตรงนี้ได้ก็คือ

    1. EM.ซึ่งจะใช้ชำระร่างกายและบาดแผล ทำความสะอาดที่พักอาศัย

    2. สาหร่ายเกลียวทอง ใช้แทนอาหาร และช่วยดูดซึมและขับ กัมมันตภาพรังสีจากร่างกาย

    3.Biospectrum เป็นงานวิจัยด้านลมปราณของจีน ถึงการแผ่รังสีของคนที่ฝึกลมปราณ ออกมาเป็นคลื่นความถี่แสง และพบว่าคลื่นนี้เป็น เนกาทีพกันคลื่นกัมมันตภาพรังสี คือหักล้างกันพอดี นั่นคือคลื่นไบโอสเปคตรัม จะเสริมพลังชีวิตและลมปราณ แต่สลายรังสีนิวเคลียร์ แต่ยังมีการฝึกลมปราณทดแทนได้ ซึ่งจะนำเสนอในภาคต่อไป สามเทคโนโลยี่นี้เป็นเรื่องแปลก ที่เป็นโครงการที่ผู้ทำงานรับใช้ในหลวงท่านได้ดำเนินการอยู่

    4. KI 6 เป็นสารสลายกัมมันตภาพรังสี ที่เป็นเหมือนยาที่ USFDA. รับรอง โดยเด็กอายุตำกว่า 19 ปี ที่ถูกรังสีจะมีผลกระทบให้มีอาการดาวน์ซินโดรม นั่นคือเอ๋อนั่นเอง จำเป็นต้องรับสารนี้เพื่อสลายพิษจากรังสี หาข้อมูลเพิ่มเติมได้โดย ค้นจากกูเกิ้ลได้ครับ ส่วนสารที่เราจะใช้ทดแทนก็คือ ด่างทับทิม นี่ละครับอย่างที่ อ. ปริญญา ตันสกุล ท่านได้แนะนำไว้ และเป็นอีกสาเหตุที่คำทำนายบอกว่าจะมีคนเสียสติมากมาย

    5. น้ำดื่มควรใช้แหล่งน้ำใต้ดิน นำมากรองและเจือด่างทับทิมเล็กน้อย ห้ามดื่มน้ำจากผิวดินเด็ดขาด นั่นคือที่คำทำนายบอกว่า น้ำจะกลายเป็นสีดำนั่นเอง

    6.ระบบกรองอากาศและหน้ากากกันฝุ่นกัมมันตภาพอย่างง่าย ก็คือแผ่นกรองตู้ปลาสีขาว สลับกับแผ่นถ่านคาร์บอนกัมมันต์ ปิดช่องลมช่องอากาศ

    7.การทำสมาธิ และถือศีลกินเจจากผักที่แช่ด่างทับทิม สมาธิจะช่วยลดระดับเมตาโบลิซึ่ม ให้ลดตำลงเพื่อสงวนพลังงานไว้ใช้ในยามคับขัน ศีลจะช่วยในจิตสงบและมีสติ เจริญพรหมวิหารสี่ จะเป็นเครื่องคุ้มภัยได้ทุกๆอย่าง

    8.แหล่งพลังงานชั่วคราวใช้ จักรยาน ถอดยางล้อหลังออก เอายางในที่เสียแล้วตัดมาต่อกัน 3 เส้นมาต่อปั่นกับ ไดชาร์จ ของรถยนต์ที่ถอดออกมาจากรถ ผู้มีความรู้ด้านช่างน่าจะพอเข้าใจ

    9.ระบบสื่อสารใช้ วิทยุสื่อสารชัวร์สุด มือถือล่มชัวร์ จุดที่หลบภัยควรมีสถานีวิทยุชุมชนเพื่อเผยแพร่ข่าวสาร ข้อแนะนำต่างๆ

    10.อาหารแห้งกินได้เลยไม่ต้องหุงหาดีที่สุด เช่น อาหารแท่ง Powerbar

    11.ถ้าอยากรอดอย่ากินเนื้อสัตว์ เพราะคุณจะโดนพิษและกัมมัตรังสีจากเนื้อสัตว์ไปทำพิษในร่างกาย จะทรมานอย่างที่สุด เพราะถึงตอนนั้นโรคร้ายจะเจริญเติบโต หายาแก้ไขได้ยาก พวกที่รอดคือพวกอรหันต์เดินดินไม่กินเนื้อสัตว์

    สัญญาณหายนะ

    1. ประเทศที่นับถือศาสนาที่สอนกรรมฐาน(เช่นพุทธ) มีหลักพรหมวิหาร และศีลบริสุทธิ์จะอยู่รอด เช่นไทย ส่วนประเทศที่เคยก่อสงครามจะโดนหนัก ซึ่งเป็นกรรมประเทศที่ต้องชดใช้กันทั้งประเทศ เช่น เวียดนาม ญี่ปุ่น พวกนี้โดนแทบสิ้นแผ่นดินเลย ของประเทศไทยโดนมากๆก็ที่ภาคใต้

    2. สัญญาณร้ายของภัยพิบัติคือ ประเทศใดประเทศหนึ่งถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ (ตามคัมภีร์ไบเบิ้ลที่บอกว่าจะมีเหล็กไฟตกมาจากฟ้า)

    3.พระท่านบอกว่า ถ้าประเทศฝรั่งเศสถูกจู่โจมเมื่อไหร่ ให้รีบกลับเมืองไทย ทันทีอย่ารอช้า อย่าห่วงทรัพย์และกิจการ เพราะถ้าสายการบินปิด ท่าเรือถูกล้อม คุณก็จะติดอยู่กับฝรั่งนั่นแหละ

    4.ค่อยๆสะสมอาหารไว้แบบมด คือไม่ต้องซื้อทีหมดกระเป๋า พอไปซื้อของก็ซื้ออาหารกระป๋อง มาม่า มาทีละนิดทีละหน่อย

    5.ออกกำลังกายให้กายเนื้อแข็งแรง

    6.เริ่มฝึกลมปราณ ณ ตั้งแต่ตอนนี้ วิชาที่ดีในการปรับลมปราณ และ ธาตุต่างๆได้ แก่ ไท๊เก๊ก ปาต่วนจิน ชี่กง วิชาเพื่อรวมจิตเป็นทิพย์ได้แก่ กสิณ ทั้ง 10 กอง, มโนมยิทธิ, อาณาปาสติ, สมถกรรมฐาน

    7.รักษาศีล 5 ให้ครบ, ถือพรหมวิหาร 4 อย่าเชื่อในคนที่อ้างตัวเป็นพระศาสดา มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง, ช่วงนี้ถ้าอยากรอด อย่าเปิดประตูบ้าน ถ้าได้ยินเสียงคนที่รู้จักหรือไม่รู้จักร้องขอความช่วยเหลือ เพราะที่เรียกมีทั้งมนุษย์และอมนุษย์

    โดย Sinderking

    ที่มา บทความ พุทธพยากรณ์ และภัยพิบัติโลก สำหรับชาวพุทธ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...