ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

รักข้ามขอบฟ้า


คำร้อง: กวี สัตตโกวิท
ทำนอง: สง่า อารัมภีร
ขับร้องโดย : ศรีไศล สุชาติวุฒิ


ขอบฟ้าเหนืออาณาใดกั้น
ใช่รักจะดั้นยากกว่านกโบยบิน
รักข้ามแผ่นน้ำ รักข้ามแผ่นดิน
เมื่อความรักดิ้น ฟ้ายังสิ้นความกว้างไกล
ขอบฟ้าทิ้งโค้งมาคลุมครอบ
อ้าแขนรายรอบโอบโลกไว้ภายใน
เหมือนอ้อมกอดรัก แม้ได้โอบใคร
ชาติภาษาไม่สำคัญเท่าใจตรงกัน
รักข้ามขอบฟ้า รักคือสื่อภาษาสวรรค์
อาจมีใจคนละดวง
ต่างเก็บอยู่คนละทรวง
ไม่ห่วงถ้ามีสัมพันธ์
ขอบฟ้าแม้จะคนละฟาก
ห่างไกลกันมาก แต่ก็ฟ้าเดียวกัน
รักข้ามขอบฟ้า ข้ามมาผูกพัน
ผูกใจรักมั่น...สองดวงให้เป็นดวงเดียว.


<OBJECT id=WMP7 height=180 width=330 classid=CLSID:6BF52A52-394A-11d3-B153-00C04F79FAA6>
























</OBJECT>​

 

เพลงนี้ช่างเข้ากับกระทู้ต่างมิติซะจริงๆครับ พี่วิจิตร
เราทุกคนล้วนใส่ใจกับความรักอย่างเป็นธรรมชาติอยู่แล้วนะครับ
ยิ่งถ้าเราแต่ละคนรวมพลังรักเชื่อมต่อกันมากขึ้นๆก็จะส่งผลอันยิ่งใหญ่ไปทั่วทั้งโลก
ละลอกคลื่นแห่งความรัก ว่าไปก็เหมือนไวรัสคอมในเชิงบวกดีๆนี่เอง
ที่ส่งผลกระทบเพื่อลดความขัดแย้ง ลดช่องว่างและความแตกต่างใดๆได้อย่างเหลือเชื่อ



คุณหงบมองโลกสดใสดีครับเรื่องน้ำท่วม อ่านแล้วเพลิน
ช่วงที่น้ำท่วมก่อนหน้านั้นก็หัดพายเรือมาบ้างครับ
คราวก่อนนู้นเอาห่วงยางล้อรถมาทำเรื่อพาย แต่ปีนี้ต้องหาเรื่อสักลำแล้วล่ะ

 

จริงๆแล้วเราอาจวัดค่าของวิวัฒนาการทางจิตไม่ได้ซะทีเดียวครับ
มันเป็นเรื่องของรูปแบบเฉพาะที่ปรากฎให้เห็นเท่านั้นเองครับ
พี่นักเขียนบอกว่ามันไม่มีลำดับขั้นตอนว่าจะต้อง เริ่มจากต่ำไปสูง
หรือจากล่างขึ้นบน หรืออะไรแบบนั้นหรอกครับ มันมีของมันอยู่แล้วทั้งหมด
เพราะการถ่ายทอดข้อมูลของจิตวิญญาณมันเกิดขึ้นอย่างเป็นปัจจุบัน
เหมือนกับต้นไม้แต่ละต้นที่สามารถงอกรากและขึ้นเป็นต้นใหม่ได้อยู่เสมอ
ตัวเราก็เปรียบเสมือนต้นไม้ซึ่งเรารู้จักเพียงใบไม้ของมันทีละใบ
หรือรู้จักตัวตนของเราที่ละตัวตน
และใบไม้นั้นจะรู้ว่ามันก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของต้นไม้ทั้งหมด
และรู้ว่ามันมีชีวิตอยู่ได้เพราะความสัมพันธ์ของมันกับใบไม้ทั้งต้น
และเราไม่เคยอยู่อย่างโดดเดี่ยว ได้การสนับสนุนจากต้นไม้และรากใบอื่นๆ ด้วย


"ใบไม้ทุกใบบนต้นไม้หนึ่งต้นเปรียบเสมือนจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ของเธอ แต่ละบุคคลมีชีวิตไปคนละทิศทางเหมือนใบไม้ที่หันเหไปต่างทิศทางเพื่อรับแสงแดด เมื่อใบไม้หนึ่งใบร่วงโรยไป ใบใหม่ก็งอกขึ้นมาแทนที่ ใบไม้ที่งอกใหม่เปรียบเหมือนอนาคตชาติของวิญญาณต่างมิติทั้งหลาย มีการถ่ายทอดแลกเปลื่ยนเกิดขึ้นตลอดวันเวลา ใบไม้แต่ละใบรู้เห็นประวัติศาสตร์ของต้นไม้ทั้งต้น ใบไม้ใหม่เกิดจากอดีตของใบไม้เก่า ใบไม้แต่ละใบพบายามทำหน้าที่อย่างดีที่สุดในการรับแสงแดด ซึ่งช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโต เซลล์แต่ละเซลล์ของต้นติดต่อกับสภาวะแวดล้อมของมันผ่านทางใบ"


เราจะเห็นว่าวิวัฒนาการที่แท้จริงมันไม่มีขีดจำกัดอะไรเลยนะครับ
คุณลินดาก็คิดบวกและแสดงออกซึ่งความรักอันเป็นปกติด้วยความสุข แบบนี้ ก็นับว่าเดินถูกทางแล้วครับ
การพบเห็นอะไรที่ลึกลับจริงๆแล้วมันไม่มีอ่ะครับ
มันมีแต่การสัมผัสรับรู้ความเป็นธรรมชาติของจิตเท่านั้นที่เราต้องเรียนรู้กันน่ะครับ

 

ส่วนนี่ก็มีน้องคนนึงที่ติดตามอ่าน และฝากส่งมาให้ช่วยโปรโมทในกระทู้น่ะครับ ​

THRIVE: What On Earth Will It Take? ​

เป็นภาพยนต์เชิงสารคดี ซึ่งจะเข้าฉาย วันที่ 11:11:11 ​

เป็นสารคดีแหกคอกที่จะเปิดม่านเกี่ยวกับความจริงที่จะเกิดขึ้นในโลกของเราต่อจากนี้
การรวมพลังเพื่อเปิดเผยแง่มุมต่างๆของชีวิตทั่วโลก รวมทั้งระบบการเงินใหม่
การร่วมมือกันพัฒนาในด้านวิทยาศาสตร์ ความตระหนักรู้ และการเคลื่อนไหวเรื่องต่างมิติ-UFO
นำเสนอแนวทางใหม่ในการเจริญเติบโตที่แท้จริง
เพื่อที่จะเสริมสร้างศักยภาพของเราและการเรียกคืนชีวิตของเราในอนาคต​

ก็น่าจะเป็นกลุ่มแสงสว่างเค้าทำขึ้นเพื่อการประชาสัมพันธ์น่ะครับ​

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=OibqdwHyZxk&feature=player_embedded"](Trailer) THRIVE: What On Earth Will It Take? - YouTube[/ame]​

 

ขอบคุณสำหรับข่าวดี๊ดีอีกข่าวนะคะ คุณmead
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข่าวดีนี้จะเป็นที่แพร่หลายในเร็ววัน
คงไม่ตื่นเต้นไม่ได้ล่ะค่ะตอนนี้

ปล.เลือกเวอร์ชั่นวัยรุ่นแบบเราถูกแล้วล่ะค่ะพี่ฐนา (smile)

 

.. ฝ่ายสว่าง เสนอข้อมูลและแชนแนล โจมตีฝ่ายมืดและรัฐบาลมืดของโลก เปิดประตูสู่ความจริงและยกระดับมิติ ที่จะมาถึง

.. ฝ่ายมืด ก็นำเสนอข้อมูลโจมตีฝ่ายมืดเช่นเดียวกัน แต่อำพรางให้เรามองเข้าไปแล้ว เหมือนพวกเขาเป็นคนดีที่มากอบกู้สถานการณ์

พวกฝ่ายมืด ไม่มีทางยอมรับหรอก ว่าตัวเองเป็นฝ่ายมืด


การจะรับฟังข้อมูลจากแชนแนลไหน หรือ ปักใจไปกับข้อมูลของใคร
ควรระมัดระวัง..

ช่วงนี้เป็นช่วงสงครามข้อมูลข่าวสารอย่างแท้จริง
เดินผิดทาง... มืดไปอีกนาน..

 

เราจะเห็นสงครามข้อมูลข่าวสารในช่วงนี้อยู่สองด้านนะครับ คุณวิญญ์
ในโลกอินเตอร์เนทและที่เราเห็นกันอยู่ห้องวิทย์ ก็นำเสนอกันข้อมูลแนวนี้กันอยู่มากมายจริงๆครับ

ด้านหนึ่งก็นำเสนอเกี่ยวกับเหตุการณ์แห่งความตื่นตระหนกมากมาย จริงบ้างเท็จบ้าง พิสูจน์ไม่ได้บ้าง
ทั้งภ้ยที่รุนแรง ดาวหางอิเลนิน เพลนเนท X โฟตอนเบล์ท ศัตรูจากนอกโลกและการทำลายล้าง ฯลฯ
ซึ่งสามารถสร้างกระแสแห่ง "ความกลัว" ให้เกิดขึ้นปกคลุมไปทั่วโลก
ผู้ที่ไม่เข้าใจที่มาที่ไปเหล่านี้ก็อาจเกิดเป็นความกังวลหรือหวาดวิตกขึ้นได้
แต่สำหรับผู้ที่เข้าใจ ก็จะกลายเป็นการเตือนสติ และไม่ประมาทน่ะครับ

ส่วนอีกด้านหนึ่งก็นำเสนอความเปลี่ยนแปลงของโลก ผ่านจิตสำนึกที่เป็นบวก
สู่การตื่นรู้ สู่การยกระดับสู่แสงสว่างและความรัก สู่การปรับเปลี่ยนโลกสู่มิตใหม่ ด้วย "ความรัก"จากพลังงานต้นกำเนิด
และก้าวสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกันใน"ยุคทอง"ด้วยการช่วยเหลือเกื้อกลูจากพี่น้องๆต่างมิติ ระหว่างการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้
ซึ่งก็ช่วยสร้างทัศนคติใหม่ๆทำให้หลายคนที่มาอ่าน แทบจะปราศจากความกลัวกันแล้วครับ


การรับข้อมูลเหล่านี้เราต้องใช้ดุลพินิจที่ละเอียดรอบคอบมากขึ้นทวีคูณทีเดียว
ต้องใช้ความรู้สึกส่วนตัวของเราในการพิจารณาข้อมูล ตามความรู้และความเชื่อนะครับ
ในส่วนที่มีการแอบอ้าง แอบแฝง มันก็เป็นไปได้อีกเช่นกัน....ไม่ว่าฝ่ายไหนได้ทำขึ้น

เช่น กระแสข่าวที่ว่า สภา Galactic นั้นทำงานร่วมกับสิ่งชั่วร้าย
ต้องการที่จะสร้างกับดักมนุษยชาติ โดยทำทีว่าสภา Galactic จะมาช่วยเราจากฝ่ายมืด
และช่วยประคับประคองการเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์บนโลก ไปสู่โลกใหม่
ก็อาจจะเป็นการปล่อยข่าวเพื่อลดระดับความน่าเชื่อถือของข้อมูลต่างมิติเหล่านี้ ก็ได้อีกเหมือนกัน


และเท่าที่อ่านดู เขาก็ไม่ได้มีการโจมตีรัฐบาล หริอผู้นำโลกตรงๆหรอกนะครับ
ทุกวันนี้ ทั้งซาลูซ่าและแมทธิว ก็ยังคงสนับสนุนและให้โอกาส "โอบาม่า" อยู่
มีแต่ เชลแดน นีเดิ้ล เท่านั้นที่พูดถึงการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลชุดนี้ (ที่อาจต้องการให้มีการเปิดเผยข้อมูล)
ซึ่งก็น่าจะเกิดจากการลงจากตำแหน่งซะเองของโอบ่าม่านะครับ เพราะประชาชนเริ่มกดดันเขามากขึ้นเรื่อยๆ
บนโอกาสแห่งความเป็นไปได้เส้นทางใดเส้นทางหนึ่ง...ที่จะต้องมีการจัดตั้งรัฐบาลรักษาการณ์ชั่วคราวขึ้นมาแทนน่ะครับ
และมันน่าจะเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ตามครรลอง โดยมนุษย์กันเองนี่แหละครับ ไม่น่าจะเกิดจากการแทรกแทรงใดๆ
เพราะถ้ามีการแทรงแทรงรัฐบาลแบบนั้น เชื่อว่ามนุษย์เราก็คงรับไม่ได้กันหรอกครับ
ฉะนั้นแล้วพวกเราควรจับตาดูกันก่อน ว่าการเปลี่ยนแปลงนี่มันจะออกมาในรูปแบบไหนนะครับ

อ้อ...อีกนิดนึงครับ
ข่าวที่ว่า ในดาวหางอิเลนิน แท้จริงแล้วคือยานอวกาศขนาดยักษ์ของต่างดาว
และจะมาถึงโลก ในเดือนตุลาคม 2011 นี่...
รู้สึกว่าฟังดูทะแม่งๆอยู่น่ะครับ.. เหตุผลเพื่ออะไรก็ยังไม่มีใครรู้
รู้แต่ว่า ถ้าเขาจะมาจริงๆ เขาจะใช้วิธีนี้กันเหรอนี่ ?
เพราะมันเป็นเรื่องของการเดินทางแบบ 3 มิติ ที่มีระยะทางและอยู่น่ะครับ
การเดินทางผ่านมิติ ผ่านเครื่องพราง มันไม่จำเป็นต้องใช้วิธีนี้นะผมว่า
แค่ ทะลุมิติและเปิดโหมดพรางตัวออกก็ใช้ได้แล้วล่ะครับ..ไม่ต้องซ่อนตัวแบบนั้น

ส่วนตัวผมเองก็โน้มเอียงไปทางความรู้ของข้อมูลฝ่ายแส่งสว่างมากกว่าน่ะครับ
ดูเป็นเหตุเป็นผล มีคำตอบที่กระจ่างแจ้ง ให้ชวนคิดอยู่มากมายหลายเรื่องทีเดียว
และไม่รู้จะปฎิเสธความรู้พวกนี้ไปได้ยังไง ไหนๆก็ก็ไหนแล้ว
เรียนรู้ให้สนุก แต่ไม่ต้องเชื่อทั้งหมดก็ได้ครับ ให้เวลากับความจริงทั้งหมดอีกสักนิด

 

สถานะการณ์น้ำท่วมดีขึ้นรึยังคะ คุณMead ขอให้เป็นปกติโดยเร็วนะคะ

หนูFeildandMoons อยากกอดเจ้าตูบตัวโตๆ กับหนูน้อยที่น่ารักคนนั้นจัง

ช่วงนี้กำลังอยู่ทุ่มเทอยู่กับการเชื่อมกาย ความคิด จิตวิญญาณกับพลังงานเบื้องบน
และถ่ายทอดความรักให้แม่โลก ... เราทำได้

 

มารับและเติมเต็มแสงสว่างแล้วครับ ขอบคุณมากเลยน่ะครับ ^^

 

สถานการณ์ที่อุทัยฯ ตอนนี้น้ำท่วมวัดท่าซุงหลายเมตรแล้วครับ ถนนใหญ่ก็ผ่านไปมายากขึ้น
แต่ก็มีจิตอาษาหลายๆคนมาช่วยกันไม่ว่างเว้นเลยครับ พรุ่งนี้ก็จะมีมาอีกเป็นคันรถ (เพื่อนๆในเวปพลังจิตนี่ล่ะ)
น้ำขึ้นวันละ 1 ฟุต ตอนนี้อีกเหลืออีก 10 cm ก็ใก้ลจะทำลายสถิติปี 49 แล้วครับ
และจะมีน้ำจากทางเหนือมาอีกก้อนหนึ่งช่วง 2-3 วันนี้...น่าจะท่วมสูงเป็นประวัติการณ์ครับ
ทางนี้รับมือได้ครับ ไม่ต้องเป็นห่วง จนกว่าจะรายงานข่าวไม่ได้นั่นล่ะครับ

 

ส่งกำลังใจให้แล้วนะคะ คุณmead พยายามทำอย่างเต็มที่
อย่างที่เคยบอกค่ะว่าอยากทำให้มากกว่าคำว่าขอบคุณที่เสียสละ มาแปล
ข้อความต่างๆ ให้ร่วมรับรู้นะคะ ตอนนี้เลยได้โอกาส จะพยายาม
ส่งกำลังใจไปให้ดีที่สุดนะคะ สู้ๆๆๆๆๆๆ นะคะ นะคะ คุณ mead

 

ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ ทางนี้สนุกมาก
พอเก็บของเสร็จ ก็พาลูกสุนัขไปหัดว่ายน้ำกัน น้ำสะอาดดี ปลาก็เยอะ
กลางคืนก็ไปนั่งเล่นกันต่อที่บ้านน่ะครับ....คนอื่นๆเค้าน่าห่วงกว่าเยอะเลยครับ

 

เป็นกำลังใจให้คุณ mead น่ะครับ ^^

 

The Real Jim Carrey ​

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=lsQJyKhmqkQ&feature=player_embedded"]The Real Jim Carrey - YouTube[/ame]​

จิม แคร์รี่ ในสิ่งที่คุณอาจไม่เคยเห็นเขามาก่อน
กับการพูดคุยที่ซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา
และเปิดเผยถึงการแสวงหาความหมายและวัตถุประสงค์ของชีวิต
สิ่งที่เขาได้เผชิญหน้ากับประสบการณ์ในการตื่นรู้ พร้อมกับมุมมองที่เกิดขึ้นใหม่
และ"New Earth"​

 

เป็นกำลังใจให้ผู้ที่โดนน้ำท่วม ทุกๆท่านค่ะ^^ ^^

 

ความรู้ด้านแสงสว่างจะยิ่งเพิ่มความสว่างให้กับผู้ที่ตระหนักรู้ในความสว่าง แต่สำหรับผู้ที่ยังหลงใหลในด้านมืด (กิเลสตัณหา) ก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นรู้ออกมาได้ หรือมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นเองที่เพิ่งจะเริ่มตระหนัก ดังนั้น เรื่องราวที่แพร่หลายออกมามากในอินเตอร์เน็ตปัจจุบันจึงเป็นไปได้ทั้งสองด้าน สนใจด้านสว่างก็พูดคุยเรื่องการยกระดับ ความรัก ส่วนอีกด้านก็เป็นเรื่องภัยพิบัติโลกที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าจะไม่เกิดขึ้นกับผู้ที่ยังไม่อาจตื่นรู้ สองสิ่งนี้จึงเป็นเรื่องเดียวกันแต่อยู่คนละด้านเท่านั้นเอง สำหรับผมสนใจทั้งสองด้าน

 

วันก่อนผมฝันว่า matthew word มาให้ความรู้ผมเกี่ยวกับเรื่องเวลาที่ไม่เป็นเส้นตรงอะครับแล้วบอกว่าเราสามารถแก้ไขอดีตได้อะครับ เหมือนกับว่าเค้าได้ยินคำอธิฐานของผมจริงๆน่ะครับ

 

ข้อความการสื่อสารจาก Matthew Ward
โดย Suzanne Ward
เมื่อ 9 กันยายน 2554

ที่มา : http://www.galacticchannelings.com/english/matthew09-09-11.html



ตอนที่ 1



สถานภาพของอิลลูมิเนติ(Illuminati status)


ขอทักทายด้วยความรักความปรารถนาดีจากทุกวิญญาณในสถานีนี้ นี่คือ แมตทิว

เมื่อพวกเรามองดูโลกของพวกคุณ
บรรดาผู้มีประกายไฟ(sparklers)จำนวนนับพันล้านคนทีเดียว
ที่พรรณนารายละเอียดของสภาวะโลกขึ้นมาด้วยประกายจำนวนนับไม่ถ้วนของแสงสว่าง
จาก lightworkers และวิญญาณที่กำลังได้รับการตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ

การนึกถึงสภาวะโลกและนึกภาพมันออกมาอย่างชัดเจน
เป็นวิธีการอันแสนวิเศษที่พวกคุณใช้ เพื่อที่จะยกความสั่นสะเทือนที่ต่ำกว่าให้สูงขึ้น
ซึ่งเป็นการสั่นสะเทือนต่ำกว่าของบรรดาผู้ที่มองว่าโลกกำลังชุลมุนวุ่นวาย
เพราะพวกเขาไม่เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเป็นไป



แต่อิลลูมิเนติเข้าใจ และพวกเขาก็กำลังจัดการกับการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ไม่ดีนัก
มันเหมือนกับว่าพวกเขาอยู่บนรถไฟเหาะตีลังกา
โดยที่ครั้งหนึ่งพวกเขาอยู่ในจุดสูงที่มีความหอมหวานแตะบนอยู่ส่วนยอด
แต่ตอนนี้ผู้กุมบังเหียนทั้งหลายต่างก็ถูกทำให้ตกลงจากอานอย่างโซซัดโซเซ

เป็นเพราะว่าความกลัวคือพลังเสริมของหัวใจและความคิดจิตใจอันมืดมน
ความกลัวจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพวกเขา เพื่อที่พวกเขาจะดำรงอำนาจไว้
ความกลัวเป็นเชื้อพลังงานของพวกเขา และพวกเขาก็รู้ว่ามันกำลังลดน้อยลงทุกที

เมื่อผู้คนทั้งหลายเผชิญกับปัจจัยแวดล้อมที่ยากลำบาก พวกเขาก็กำลังเข้มแข็งขึ้น,
กำลังสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆและฉลาดคิดมากขึ้น แทนที่จะอยู่กับความกลัว
พวกเขากำลังทำการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการกันเอง,
กำลังแบ่งปันกันใช้ทรัพยากรและถิ่นที่อยู่อาศัย หรือกำลังรับการช่วยเหลือในแบบอื่นๆ
ความห่วงใยของผู้ให้ความช่วยเหลือ และการสำนึกในบุญคุณอย่างซาบซึ้งของผู้รับ
กำลังก่อให้เกิดแสงสว่างอย่างโชติช่วง



สำหรับอิลลูมิเนติแล้ว
เมื่อเทียบกับอำนาจการควบคุมเศรษฐกิจโลกในกำปั้นเหล็กของพวกเขาเมื่อแต่ก่อนมา
ตอนนี้พวกเขาเหลือเพียงแค่สมรรถภาพในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพียงเล็กน้อยออกมาเท่านั้น
เรื่องราวทั้งหมดในการพยายามก่อการร้ายครั้งสำคัญของพวกเขา
นับตั้งแต่เหตุการณ์ “9/11” นั้นล้มเหลว

สมาชิกต่างๆและลูกสมุนทั้งหลายของพวกเขากำลังหมดอำนาจ
แม้ว่าพวกเขายังมีความสามารถในการควบคุมจัดการสภาพอากาศ และสร้างแผ่นดินไหวได้ก็ตาม
แต่การสร้างความพินาศและการบาดเจ็บล้มตายของผู้คนจำนวนมหาศาลอย่างตั้งใจของพวกเขา
ก็ได้รับการบรรเทาเบาบางลงจากลูกเรือบนยานอวกาศและเทคโนโลยีของเขาเหล่านั้น

ความมุ่งมาดปรารถนาถึงความสงบสุขกำลังแพร่กระจายไปทั่วโลก
และกำลังทหารผู้เหนื่อยหน่ายก็ไม่เหลือกะจิตกะใจที่จะต่อสู้อีกต่อไป

ความต้องการในแหล่งพลังงานทางเลือกทั้งหลาย
ที่นำมาแทนน้ำมันและพลังนิวเคลียร์กำลังมาแรงขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้อิลลูมิเนติผู้ได้กำไรอย่างสวยสดงดงามจากแหล่งพลังงานเหล่านั้นหวาดวิตก

และสิ่งที่แย่ที่สุดในเรื่องราวทั้งหมดสำหรับฝ่ายมืดก็คือ
แสงสว่างอันเป็นคู่ปรับตลอดกาลของพวกเขา กำลังทวีแรงเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ


..............

 

ข้อความการสื่อสารจาก Matthew Ward
โดย Suzanne Ward
เมื่อ 9 กันยายน 2554

ที่มา : http://www.galacticchannelings.com/e...w09-09-11.html



ตอนที่ 2



เพื่อยึดเศษเสี้ยวอันง่อนแง่นของอำนาจควบคุมเช่นแต่ก่อนมาของพวกเขาไว้
พวกเขาจึงต้องเติมเชื้อพลังงานให้ตัวของพวกเขาเอง
และการเผยแพร่ข้อมูลที่เติมเต็มความกลัว ก็คือหนึ่งในกรรมวิธีทั้งหลายที่พวกเขาทำขึ้นมา
คนที่ไม่ทันรู้ตัวก็โชคร้ายไป เพราะอิลลูมิเนติชำนิชำนาญเป็นที่สุดในการทำอะไรให้เป็นไปแบบไม่ทันรู้ตัว

พวกเขายังคงมีอำนาจควบคุมสื่ออย่างเพียงพอที่จะทำให้มั่นใจได้ว่า
ในวันครบรอบสิบปีของเหตุการณ์ “9/11” พวกคุณจะได้รับรู้ภาพเครื่องบินชนตึก
และภาพอื่นๆที่เต็มไปด้วยเรื่องเศร้าโศกอย่างล้นหลามเลยทีเดียว
โดยภาพทั้งหมดถูกเลือกสรรมาตามยุทธศาสตร์ในการกระตุ้นอารมณ์โกรธและอารมณ์แค้น
เพื่อทำให้ความรุนแรงยังคงมีอยู่ต่อไป และทายไว้เลยว่า
พวกเขากำลังเวียนรายงานข่าวต่างๆเกี่ยวกับการจู่โจมของผู้ก่อการร้ายที่อาจเกิดขึ้นในวันที่ 11 กันยายนอยู่



พวกคุณรู้ดีถึงความสำคัญของการวินิจฉัยแยกแยะเกี่ยวกับข้อมูลทุกอย่างในสื่อที่ได้รับความนิยม,
ในรายงานความเป็นไปต่างๆทางอินเทอร์เน็ตและการส่งผ่านทางโทรจิต
และเมื่อใดก็ตามที่สบโอกาส
ได้โปรดเตือนให้ผู้คนได้รู้ถึงเป้าหมายของข้อมูลอันมีรากฐานบนความเป็นลบ(negativity)
ซึ่งถูกเผยแพร่ออกสู่สาธารณชนไปอย่างกว้างขวาง
ยิ่งความกลัวถูกทำให้มอดลงเร็วเท่าใด อิลลูมิเนติจอมพยศก็จะไร้ทางออก
แต่เหลือเพียงการยอมรับว่ายุคสมัยอันยาวนานของระบบ self-serving ของพวกเขาได้จบลงแล้วเร็วขึ้นเท่านั้น



ไม่เพียงกองบัญชาการซึ่งครั้งหนึ่งถูกตั้งขึ้นมาอย่างมั่นคงของพวกเขาถูกขับไล่ออกไปเท่านั้น
แต่พวกเขายังได้รับฟังว่าจุดจบของพวกเขาเป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อีกด้วย
ผู้มาจากอารยธรรมล้ำหน้าขั้นสูง ที่ปรากฏกายตามที่เป็นในธรรมชาติของพวกเขา
เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการชี้ชัดถึงความเป็นพวกเขา และเพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาอยู่บนดาวเคราะห์นี้
ได้แนะให้พวกเขาเห็นถึงผลที่ตามมาหากพวกเขายังคงปฏิเสธในการร่วมมือกับกองกำลังแห่งแสงสว่างต่อไป

แต่จนบัดนี้ ก็ไม่มีผู้ใดในแสงสว่างกำลังสบประมาท
ความสามารถในการสร้างความเสียหายขึ้นเป็นเวลายาวนานมาช่วงหนึ่ง และการถือทิฐิของอิลลูมิเนติ
เพราะผู้ที่ดำมืดที่สุดของฝ่ายมืดถูกฝั่งความโลภและความกระหายอำนาจไว้ลึกมาก
พวกเขายังคงไม่ยอมรับว่าความพยายามยื้อยุดของพวกเขาจะเป็นเรื่องเปล่าประโยชน์



..................

 

ข้อความการสื่อสารจาก Matthew Ward
โดย Suzanne Ward
เมื่อ 9 กันยายน 2554

ที่มา : http://www.galacticchannelings.com/e...w09-09-11.html



ตอนที่ 3



ความจริงที่กำลังปรากฏ(forthcoming truths)


การทำให้ระบบใหม่ต่างๆเกิดขึ้นเพื่อตอบรับต่อทุกทั่วตัวคนได้นั้นกำลังดำเนินการอยู่
ถึงกระนั้น ปฏิบัติการในเรื่องนี้โดยมากยังคงเป็นความลับ
และการยังคงเป็นความลับนี้ก็เป็นไปโดยมีวัตถุประสงค์
จิตใจแบบความหนาแน่นลำดับที่สามมีสมรรถภาพอันจำกัดในการซึมซับรับเอาความแตกต่างอย่างพลิกผัน
ที่เกิดขึ้นคราวเดียวฉับพลันไปทำความเข้าใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความแตกต่างเหล่านั้น
มาพร้อมกับความเป็นจริงมากมายซึ่งจะถูกเปิดเผยออกมาให้รู้กัน อันได้แก่



ความโกลาหลบนโลกในทุกวันนี้ของพวกคุณ เป็นการดิ้นรนแข่งขันกันของความเป็นทวิภาวะ
ระหว่างแสงสว่างกับความมืดมนที่อยู่ในวิญญาณแบบมนุษย์ทั้งหลาย


มีประชากรหลายพันจากอารยธรรมอื่นๆ รวมถึงชาว reptilians ด้วย ที่กำลังอาศัยอยู่บนดาวเคราะห์
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้ที่อยู่ในแสงสว่าง นอกนั้นไม่ได้อยู่


แหล่งต้นกำเนิดแบบพระผู้สร้าง(Creator Source) คือความเป็นชีวิตอันสูงสุดของเอกภพ(cosmos)
พระเจ้า(God) คือความเป็นชีวิตอันสูงสุดของจักรวาลชุดนี้(universe)
โดยเหล่าเทพเจ้า(gods or goddesses)อื่นๆ มีอำนาจปกครองอยู่ในจักรวาลชุดอื่นๆ


จุดเริ่มต้นของชีวิตที่ดำเนินไปแบบตลอดกาล(eternal life) ก็คือ
พลังงานแบบความรัก-แสงสว่างอย่างบริบูรณ์ของพระผู้สร้าง
และเป้าหมายของทุกวิญญาณ ก็คือ การกลับเข้าสู่เนื้อแท้ที่บริสุทธิ์อันนั้น ผ่านการมีชาติภพที่หลากหลาย


แต่ละคน ก็คือ เทพเจ้าหนึ่งๆ(a god or goddess)
ที่เชื่อมติดต่ออยู่กับพระผู้สร้าง, พระเจ้าและซึ่งกันและกันเองไปตลอดกาล และแกะให้หลุดออกจากกันไม่ได้

ศาสนาต่างๆได้กลายไปเป็นการควบคุมความคิดจิตใจมวลชน
และทั้งสวรรค์และนรกก็อยู่ในสภาวะโลกทางจิตวิญญาณสภาวะหนึ่งของดาวโลกเอง


ทุกวิญญาณต่างก็มีชาติภพแบบรักเพศเดียวกันอยู่
ในฐานะของก้าวขั้นที่นำหน้าไปก่อนของการมุ่งสู่คุณลักษณ์กลาง(androgyny)
อันเป็นดุลยภาพของพลังงานแบบความเป็นหญิง(feminine) กับพลังงานแบบความเป็นชาย(masculine)ทั้งหลาย
ซึ่งวิญญาณต่างๆจำเป็นต้องวิวัฒน์ทั้งด้านจิตวิญญาณและด้านสติปัญญาก่อนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้าสู่ดุลยภาพนั้น


เป็นเวลานับพันปีที่อิลลูมิเนติและบรรพชนของพวกเขา มุ่งโจมตีชีวิตความเป็นอยู่ในทุกๆด้านบนดาวโลกให้เกิดผลลบ


บุคคลผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดบนดาวเคราะห์บางคนได้ถูกโคลนขึ้นโดยอิลลูมิเนติ
ซึ่งบางครั้งก็เป็นการฝืนใจเจ้าตัว โดยกรณีที่เจ้าตัวตายลงหรือการแทนที่เจ้าตัวที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยตัวโคลนนั้น
เป็นการทำไปเพื่อรักษาบทบาทตำแหน่งหน้าที่อันทรงอิทธิพลให้คงอยู่ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ


กาลเวลาแบบเส้นตรงมีเฉพาะบนดาวโลกเท่านั้น
สภาพความเป็นจริงที่ผ่านเป็นอดีต,ที่เป็นปัจจุบันและที่อยู่ในอนาคตนั้น
ก็คือชุดลำดับที่ต่อเนื่องกันไปของเหตุการณ์ทั้งหลาย
ซึ่งกำลังเกิดขึ้นพร้อมกันอยู่ในความต่อเนื่องอันเป็นนิรันดร(the continuum)


ดาวโลก คือ วิญญาณหนึ่งที่วิวัฒน์แล้วขั้นสูงที่อยู่ในวิถีแบบการเลื่อนระดับอย่างฉับพลันวิถีหนึ่ง
ซึ่งกำลังเข้าใกล้ความหนาแน่นลำดับที่สี่ และเธอก็จะเลื่อนต่อเนื่องไปสู่ความหนาแน่นลำดับที่ห้า
อันเป็นจุดหมายปลายทางของเธอ



.................