ภัยพิบัติใหญ่ ภัยที่เรา (ไม่) อาจหลีกเลี่ยงได้

​

น้ำพระทัยของในหลวง
​

ธ ทรงเป็นขวัญเกล้าชาวสยาม
ทุกโมงยามตามติดคิดแก้ไข
ทรงดำริเตรียมแก้มลิงรับน้ำไว้
ด้วยห่วงใยประเทศชาติราษฎร

อุทกภัยครานี้มากที่สุด
มิอาจหยุดกั้นขวางได้ใช่สิงขร
ทรงดำริเปิดทางให้น้ำไหลก่อน
ผ่านสาคร สามสาย สู่อ่าวไทย

ทรงบำบัดทุกข์สุขปวงประชา
พระเมตตาไพร่ฟ้าหน้าผ่องใส
ถุงยังชีพ หน่วยแพทย์ น้ำพระทัย

ถวายพระพรชัย ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ๛

ตั้งแต่น้ำท่วมมา ในหลวงท่านทรงพระราชทาน
ทรัพ<WBR></WBR>ย์ส่วนพระองค์เพื่อช่วยเหลื<WBR></WBR>อไปแล้ว
มากกว่า 63 ล้านบาท

..และตั้งแต่น้ำท่วม ​

สมเด็จพระเทพฯ และพระองค์เจ้<WBR></WBR>าโสมสวลีฯ​

เสด็จไปกับรถทหารเพื่อช่<WBR></WBR>วยเหลือ
ประชาชนที่ประสบอุทก<WBR></WBR>ภัย
โดยไปเป็นการส่วนพระองค์

โดย<WBR></WBR>ไม่มีใครรู้ ...



พ่อของแผ่นดิน

นับตั้งแต่เกิดน้ำท่วมพระอง[FONT=courier new,courier,monospace]<WBR></WBR>[/FONT]ค์ทรง
นั่งมองปริมาณน้ำในแม่[FONT=courier new,courier,monospace]<WBR></WBR>[/FONT]น้ำเจ้าพระยาทุกวัน
แม้ในยามที่พระองค์ทรงพระปร[FONT=courier new,courier,monospace]<WBR></WBR>[/FONT]ะชวร

และรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยา[FONT=courier new,courier,monospace]<WBR></WBR>[/FONT]บาลศิริราช
ก็ยังมีคำสั่งให้คณะแพทย์แล[FONT=courier new,courier,monospace]<WBR></WBR>[/FONT]ะบุคคลใกล้ชิด
ช่วยกันรวบรวม[FONT=courier new,courier,monospace]<WBR></WBR>[/FONT]ข้อมูลเพื่อนำมาถวาย
เพื่อหาแนวทางป้องกัน

และทรงเปลี่ยนห้อง
ที่พระองค[FONT=courier new,courier,monospace]<WBR></WBR>[/FONT]์พักรักษาตัวเป็นห้องทรงงาน[FONT=courier new,courier,monospace]<WBR></WBR>[/FONT]



พระองค์ทรงทอดพระเนตร
ดูข่าวเกี่<WBR></WBR>ยวกับน้ำท่วมทั้งวัน

จนบ่อยครั้งที่พระองค์ลืมเส[FONT=courier new,courier,monospace]<WBR></WBR>[/FONT]วย
จนหมอส่วนพระองค์ต้องคอยเตื[FONT=courier new,courier,monospace]<WBR></WBR>[/FONT]อนอยู่ตลอด


ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ​

ที่มา : www.oknation.net/blog/snowy/2011/10/19/entry-1​

 

​

เพลงสรรเสริญพระบารมี​

คำร้อง : สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์​

ทำนอง : พระเจนดุริยางวงค์ (ปิติ วาทยะกร)​

ข้าวรพุทธเจ้า เอามโนและศิระกราน
นบพระภูมิบาลบุญดิเรก เอกบรมจักริน​

พระสยามินทร์พระยศยิ่งยง เย็นศิระเพราะพระบริบาล
ผลพระคุณ ธ รักษา ปวงประชาเป็นสุขศานต์​

ขอบันดาล ธ ประสงค์ใด จงสฤษดิ์ดัง
หวังวรหฤทัย ดุจถวายชัย ชโย​

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ​

 

<TABLE class=tborder id=post5272591 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->neeranut<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5272591", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jun 2010
ข้อความ: 269
พลังการให้คะแนน: 72


</TD><TD class=alt1 id=td_post_5272591 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->ภาพนี้น่ารักคะ มองเห็นความความไม่เป็นทุกข<WBR>์ต่อความไม่สดวกสบายของตน กินนอนตรงไหนก็ได้ เพราะต้องรีบทำงานแข่งกับเว<WBR>ลา ขอบคุณมากนะคะท่ีทุ่มเทเพื่<WBR>อให้ชาวบ้าน


ขอบคุณท่าน..ผู้กล้าหาญ...น<WBR>่ารักที่สุด !!!!!!<!-- google_ad_section_end -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

*** เชื่อ สัจจะ นำชาติพ้นภัย ****

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end -->

*** เชื่อ สัจจะ นำชาติพ้นภัย ****

วิกฤติของประเทศไทย ...ก่อเกิดขึ้นจากคน....จากใจคน
การแก้ไข...จึงต้องแก้ที่คน....แก้ที่ใจคน
จะต้องแก้ด้วย...ความจริง...คือ "หลักสัจจะธรรม"

แก่นสารของ "หลักสัจจะธรรม" คือ....
...ผลของการกระทำไม่ตาย
ไม่สูญสลาย และมีผลตอบแทน....

การที่ประเทศไทย จะรอดพ้นภัย
เราคนไทยทุกคน...จะต้องมี "การกระทำที่ดี" ที่เพียงพอ
"ผลของการกระทำทั้งหมดนี้"...จึงจะส่งผล
สามารถลบล้าง หักล้าง ...ผลกรรมหนักที่กำลังจะปรากฏขึ้นได้

การกระทำที่จะสามารถส่งผลได้ดีที่สุด ?
คือ ... การกระทำอย่างตั้งใจจริง
คือ.... การกระทำอย่างถึงที่สุด
นั่นคือ...การตั้งใจจริง ปฏิบัติตนด้วย “สัจจะ”

การปฏิบัติด้วย “สัจจะ” ?
คือ .... การกำหนดข้อปฏิบัติเพื่อ... “ทำสิ่งที่ดี หรือ ไม่ทำสิ่งที่ไม่ดี” ...ให้กับตนเอง
ภายในระยะเวลาที่กำหนดชัดเจน
เช่น .......
สัจจะ ไม่โกรธ ไม่โมโห มีกำหนดวันละ ๑ ชั่วโมง
สัจจะ มองค้นหาความดีของผู้อื่น วันละ ๑ ชั่วโมง
สัจจะ ไม่สนองเรื่องกามอารมณ์ ทุกวันพระ
สัจจะ ไม่เสพของมึนเมา ยาเสพติด มีกำหนดในช่วงเข้าพรรษา
สัจจะ ไม่ทำร้ายร่างกาย จิตใจของบิดา มารดา ตลอดชีวิต
สัจจะ ไม่ฆ่ามนุษย์ทั้งในครรภ์ และนอกครรภ์ ตลอดชีวิต
สัจจะ ไม่ฆ่าสัตว์ใหญ่ ตลอดชีวิต
สัจจะ ไม่กินเนื้อวัว ตลอดชีวิต
สัจจะ เชื่อว่าสัจจะมีผลตอบแทน ตลอดชีวิต
สัจจะ ไม่คิดว่าผู้อื่นเป็นที่พึ่ง วันละ ๑ ชั่วโมง
สัจจะ พึ่งตนเอง วันละ ๑ ชั่วโมง
สัจจะ ใช้ชีวิตด้วยความพอเพียง วันละ ๑ ชั่วโมง
สัจจะ ไม่คิดว่าตัวเองดีแล้ว วันละ ๑ ชั่วโมง
สัจจะ ไม่วิพากษ์วิจารณ์ ความผิดพลาดของผู้อื่น วันละ ๑ ชั่วโมง
สัจจะ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด มีกำหนด ๑ วัน
สัจจะ ไม่ใช้ความรุนแรง สร้างความแตกแยก มีกำหนด ๑ วัน
สัจจะ ไม่สนับสนุนผู้ที่ใช้ความรุนแรง มีกำหนด ๑ วัน
สัจจะ ไม่เชื่อคนไม่มีสัจจะ พูดแล้ว ไม่ทำ วันละ ๑ ชั่วโมง
สัจจะ ไม่ทำลายทุกศาสนา ตลอดชีวิต
สัจจะ ไม่เห็นชีวิตสัตว์เป็นเครื่องเล่น ตลอดชีวิต

สัจจะ ที่กล่าวมานี้ เป็นเพียงตัวอย่าง
เราทุกคนย่อมรู้ตัวเอง...ว่าตนเองมีนิสัยไม่ดีอะไร
เราจึงควรขจัดนิสัยเสียให้หมดไป จากจิตใจ
โดยเริ่มต้นกำหนด “สัจจะ” และเวลาปฏิบัติที่เป็นไปได้ พอทำได้จริง
ปฏิบัติ ทำวันละนิด วันละชั่วโมง
เราจะมี “ชั่วโมงสัจจะ ในชีวิตของเรา”
เมื่อทำได้จริงบ่อยเข้า ...สุดท้ายนิสัยนี้จะหมดไปเอง
เราจึงควรกำหนด “สัจจะ” ปฏิบัติให้เป็นประจำ ทุกวัน
วันละข้อ...สองข้อ....แล้วทำให้ได้จริง
กำหนดหัวข้อปฏิบัติ ให้สลับสับเปลี่ยน หมุนเวียนไปเรื่อย
อย่าให้ขาด...แล้วเราจะรู้ได้เองว่า....ตัวเราเองดีขึ้น ชีวิตเราดีขึ้นเพียงใด

”สัจจะ” ไม่ใช่เรื่องยาก
เพราะ...เรากำหนดความยาก ง่ายขึ้นได้เอง...จึงขึ้นกับตัวเราเอง

เมื่อ...ประชาชนทั้งประเทศ
ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานะในสังคม ทุกวรรณะ....ไม่ว่าจน หรือรวย
รวมถึงพระ ผู้ปฏิบัติธรรม ผู้มีใจอยู่ในทุกศาสนา
เริ่มปฏิบัติตนด้วย “สัจจะ” พร้อมกันทั่ว
“การกระทำ จาก สัจจะ”... ย่อมเกิดขึ้นไปทั่วแผ่นดินไทย
“ผลตอบแทน”....ย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
เพราะ..นี่คือ “หลักสัจจะธรรม”

--------------------------------------
นึกถึงพระพุทธองค์ หรือในหลวง อยู่เสมอ ๆ
ตั้งจิตมั่น กาย วาจา และใจ ของเรา
จะทำในสิ่งที่ดีในแต่ละวัน
ตาจะมองในสิ่งที่ดี หูจะรับฟังในสิ่งที่ดี
ใจจะคิดในสิ่งที่ดี มีพรหมวิหารสี่<!-- google_ad_section_end --> สาธุ

ตื่นเถิดชาวไทย อย่ามัวหลับไหลลุ่มหลง
ชาติจะเรืองดำรงก็เพราะเราทั้งหลาย

ถ้าพวกเรามัวหลง เราก็คงมลาย
เราต้องเร่งขวนขวาย ทำความดี ทำเพื่อส่วนรวม

น้ำท่วมคราวนี้ คงทำให้คนไทยเลิกแบ่งแยก หันกลับมารักกัน คนไทยไม่ทิ้งกัน <!-- google_ad_section_end -->

 

การระบายน้ำจะต้องไม่ฝืนธรรมชาติ
ถ้าฝืนจะยิ่งเสียหายมาก




ความไม่ประมาท คือ ความดีของชีวิต
โดยเฉพาะในยามทุกข์ยากนี้


ภัยพิบัติครั้งนี้
เป็นแค่การแจ้งเตือนเท่านั้น

ยังมีภาคต่อไปตามมา

ไม่มีสิ่งใดจะช่วยเราได้
นอกจากคุณพระรัตนตรัย พระเจ้าอยู่หัว
ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่
สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ปรับเปลี่ยนแก้ไขตัวเองกันนะครับ
นับถือพุทธศาสนาอย่างจริงจัง ไม่เพียงลมปาก

ตั้งมั่นในความดี ทั้งกาย วาจา และใจ
ลดทอนความโกรธ ความแค้น อาฆาต พยาบาท

ภัยพิบัติเป็นพลังการทำลาย
อันสะสมจากพลังงานด้านลบของมนุษย์

โดยเฉพาะการจาบจ้วงล่วงเกินพระเจ้าอยู่หัว
ไม่ตั้งมั่นในศีล 5 ขาดความเมตตา

ลองขอขมาพระรัตนตรัย ในหลวงและพระราชวงศ์
ในสิ่งที่ล่วงเกินไป ทั้งกาย วาจาและใจ
จะเจตนารู้เท่าทัน หรือไม่ก็ตาม

และปวารณาตัวจะตั้งมั่นในความดี มีศีลธรรม
เริ่มต้นที่ศีลห้า ไม่คิดโกรธ อาฆาตใคร

เริ่มต้นจากตัวเอง จากครอบครัว
รักษาศีลเป็นช่วงเวลา ไม่ต้องทั้งวัน

ค่อย ๆ ทำ ขอเพียงมีความพยายาม

ไม่มีใครไม่เคยทำผิด ผิดแล้วแก้ไข
เพื่อปรับพลังงานด้านดีเอาชนะพลังด้านมืด
ที่เกิดจากเราทุกคนที่สร้างขึ้น

ขอบารมีพระท่านคุ้มครอง
นึกภาพพระ ภาพในหลวง
คุ้มครองบ้านเรือน ประเทศ หรือโลก

อนุโมทนาสาธุการ
บุญรักษาทุกท่านครับ

 

ที่มา : http://palungjit.org/threads/ด่วน-รพ-ศิริราช-ต้องการทรายเพิ่ม-และกระสอบใส่ทรายเพื่อใส่ทราย.311250/

ร่วมแรงร่วมใจกัน ปกป้องดวงใจไทยทั้งชาติ
ท่านที่ไปไม่ได้ ช่วยกันส่งแรงใจ คำอธิษฐาน
ขอคุณพระรัตนตรัย
พระสยามเทวาธิราช ปกป้ององค์พ่อหลวงของไทย
ปกป้องโรงพยาบาลศิริราช ให้พ้นภัยครับ
อนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ

 

อนุโมทนาบุญในธรรมทานครับ

ไม่ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นแลจะหนักหนาสักเพียงใด มันคือเรื่องของอนาคต หลายคนลืมสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีสติรู้อยู่ปัจจุบัน นั่นคือสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเ้จ้าสอน



รู้กันหรือไม่เกิดภัยพิบัตินั้นไม่ได้น่ากลัวหรอก สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นคือหลังจากเกิดผัสสะ ท่านก็สร้างเวทนาขึ้นมา อันไปสู่ตัณหาและอุปปาทาน นี่เองมิใช่หรือที่ยังทำให้เราทั้งหลายต้องเวียนว่ายตายเกิดอย่างไม่รู้จบรู้สิ้น ที่ทำให้เราทั้งหลายต้องประสบพบเจอกับ ความเกิดแก่เจ็บตาย.... เมื่อรู้เช่นนี้แล้วเหตุใดอีกเล่าที่ท่านจะต้องหวาดกลัวหรือเฝ้าระวังกันจนลืมภาวนา!

 

สำหรับท่านที่กำลังมีความกังวล​

หรือท่านที่ประสบภัย​

หากไม่มีที่พึ่งอื่นใด​

ให้​

นึกถึงบุญกุศลที่เคยทำมา
ทาน วิหารทาน สังฆทาน
ธรรมทาน​

บุญโดยเสด็จพระราชกุศล​

​

ขอบารมีพระพุทธเจ้า
นำบุญทั้งหมดนี้ให้มารวมตัวกัน
มีอานุภาพอันยิ่งใหญ่​

และถวายบุญนี้แด่​

พระพุทธองค์​

ในหลวง
ท่านท้าวเวสสุวรรณ​

ขอให้ท่านช่วยปกปักรักษา​

นำพาให้ปลอดภัย มีอยู่มีกิน
ไม่ฝืดเคือง​

กรรมใดที่เคยล่วงเกิน
คุณพระรัตนตรัย
พระเจ้าอยู่ห้ว
สิ่งศักดิ์สิทธิ์
ทั้งกาย วาจา ใจ
เจตนาหรือไม่ก็ตาม
ขอขมาลาโทษทุกอย่าง
ขอสำนึกผิดโดยไม่มีข้อแก้ตัว
​

จากนี้ไปตั้งใจจะเป็นคนดี มีศีล 5
เป็นพสกนิกรที่ดีของพระเจ้าอยู่หัว
บำเพ็ญตนเพื่อส่วนรวม
เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์​

ผมขอขมาลาโทษ
ในกรรมใด
ที่ล่วงเกินจากการเตือนภัย
ในทุกกระทู้
ที่อาจทำให้ทุกท่าน
ไม่สบายใจ ทุกข์ใจ
หรือขัดข้องหมองใจ​

บุญกุศลที่ผมได้บำเพ็ญมา
ทั้งหมดทั้งสิ้น
ทั้งธรรมทาน สังฆทาน วิหารทาน
บุญโดยเสด็จพระราชกุศล​

ขอพระบารมีพระพุทธองค์
ท่านท้าวเวสสุวรรณ
โปรดนำบุญนี้
ให้สำเร็จแก่ท่านทั้งหลาย​

ขอท่านทั้งหลายจงอนุโมทนารับ
มีความสุขเช่นเดียวกับที่ผม
จะพึงมีพึงได้รับ ณ กาลปัจจุบัน
และให้อภัยด้วยเทอญ​

 

อโหสิกรรม และขออโหสิกรรมเช่นกัน โมทนาสาธุในทุกๆ ประการ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ภัยน้ำท่วมครั้งนี้ เป็นเพียงการเตือน......เท่านั้นตราบใดที่ยังมีคนที่บอกว่า​

​

ตน เป็น คนที่นับถือศาสนาพุทธ ​

แต่ยังผิดศีล๕ ทุกข้อ ​

ปล้น จี้ ข่มขืน มั่วกาม ดื่มสุราของเมา
ค้ามนุษย์ คดโกง ขายชาติ
ปรามาสในหลวง​

โดยเฉพาะกรรมปาณาติบาต
ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ฆ่าคน ​

ตราบใดที่ยังมีคนที่เป็นเช่นนี้ในประเทศ ​

คนที่ไม่เชื่อใน "กฎแห่งกรรม"​

ชาวไทยจะต้องพบความสูญเสียอีกมาก​

​

ภัยธรรมชาติครั้งนี้ เป็นการเรียกจิตสำนึกของคนไทย ให้กลับมา ตั้งมั่นในความดี
เชื่อใน "กรรม" ทั้ง "ดี" และ"ชั่ว"
กลับมามีเมตตาจิต รักและสามัคคีกัน​

กตัญญูต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว​

​

ถ้าไม่ได้บารมีพระองค์ท่าน
ผู้ถึงซึ่งพระนิพพานแล้วในชาติปัจจุบัน
และจะทรงตรัสรู้เป็น
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในภพต่อไปแล้ว ​

จะสูญเสียอีกไม่รู้กี่เท่า​

​

เราคงไม่สามารถเปลี่ยนคนทั้งประเทศได้
แต่เราสามารถเปลี่ยนที่ตัวเราก่อนได้​

​

บุญความดีที่มีกำลังสูงเท่านั้นที่จะช่วยเราได้​

นั่นคือ บุญพระกรรมฐาน
ธรรมทานและอภัยทาน​

​

สวดมนต์แสนครั้ง
ไม่เท่ากับทำจิตให้สงบ ทำจิตให้ว่างจากกิเลสเพียงครั้งเดียว ​

​

แต่จะไม่อาจทำได้
หาก ศีลยังขาด ยังด่างพร้อย​

ร่วมใจกันสร้างพลังความดี เพื่อต้านภัยพิบัติ​

คิดดี ทำดี พูดดี
ตั้งมั่นในพรหมวิหาร ๔ และศีล ๕​

หมั่นขอขมาพระรัตนตรัย
ในหลวงและพระราชวงศ์
ในสิ่งใดที่ผิดพลั้งไป​

ตั้งใจไม่ทำผิดอีก ​

อนุโมทนาบุญที่ร่วมใจกันทำเพื่อส่วนรวม
เพื่อประเทศครับ สาธุ
____________________________________​

 

26-10-2011, 10:39 AM
21.43น. คุณจะรู้ไหม
มีใครคนหนึ่งเฝ้ามองพวกเราเสมอช<WBR></WBR>ั้นที่ 16
รพ.ศิริราช ..
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ..

ในหลวงท่านมองลงมา ทุกคนรู้มั้ย
หายเหนื่อยๆๆๆ สู้นะทุกคน


ภาพโดย tigernutch

@FM. 91 Trafficproดูเพิ่มเติม
โดย: ม้าเร็ว สยามประเทศ
<!-- google_ad_section_end -->
องค์พ่อหลวง
ศูนย์รวมดวงใจไทยทั้งชาติ

ขอพระบารมีปกปักรักษา
กรุงเทพมหานครและปริมณฑลให้ปลอดภัย

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ​

 

:'(

28 10 54 ข่าวค่ำDNN รายงานพิเศษ คลองตะวันออกของ กทม ไม่มีน้ำพอให้ช่วยระบาย


[ame="http://www.youtube.com/watch?v=WokWoU0tfsk&feature=player_embedded"]28 10 54 ข่าวค่ำDNN รายงานพิเศษ คลองตะวันออกของ กทม ไม่มีน้ำพอให้ช่วยระบาย - YouTube[/ame]#!

 

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ​

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ​

 

เห็นว่ารูปร่างคล้ายปลาขอฝน
จับซะเลย
ยังไม่อยากได้ฝนตอนนี้

อิอิอิ

 

หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก วัดป่าขันติธรรม
ท่านสอนลูกหลาน คณะธรรมไว้ว่า



การปฎิบัติ ต้องเริ่มต้นที่ "ศรัทธา"

ในพระคุณของพระพุทธองค์
ที่ทรงชี้แนะทางพ้นทุกข์ให้แก่เหล่าสัตว์โลก

ตั้ง "นะโม" ขึ้นมาคราวใดขอให้มีจิตศรัทธา นอบน้อม ต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยใจโดยแท้จริง
------------------------------------------------------------
ชีวิตเหมือนเรือที่แล่นไปบนสายน้ำ
บุญเปรียบเสมือนน้ำ
กรรมเปรียบเสมือนตอที่อยู่ใต้น้ำ
เรือแล่นไปเจอตอก็ย่อมมีอุปสรรค
ยิ่งมีตอมากเท่าไร ชีวิตก็ยิ่งทุกข์
ดังนั้นจึงต้องเร่งสร้างทาน ศีล ภาวนา
เพื่อให้เรือแล่นไปได้สะดวก
------------------------------------------
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน

 

ภัยพิบัติของโลกกำลังทวีความรุนแรงขึ้น
ตามที่เราทุกคนทราบกันดี​

​

​

ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ ตามพุทธพจน์
เหตุดับ ผลย่อมดับ​

หากคนไทยเรา
ประพฤติตนตามพระธรรม
คำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
โดยการถือศีล 5 แล้ว
ย่อมปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง​

พระพุทธองค์ ทรงสอนไว้แล้วว่า ​

การที่ผิดศีลข้อที่ 2 การลักทรัพย์​

ทั้งทรัพย์ของบุคคลอื่น ทรัพย์แผ่นดิน ทรัพย์ของสงฆ์
รวมทั้งการคดโกงทรัพย์สินผู้อื่น​

จะมีเหตุให้ทรัพย์ของผู้ที่ผิดศีลนั้น
หมดไปด้วยภัยทั้งปวง ภัยจากน้ำ ไฟ แผ่นดินไหว เป็นต้น​

หากทุกคนที่ได้ทำปาปกรรมใด ๆ มาแล้ว
นึกได้ สำนึกผิด แก้ไข ​

ตั้งใจชำระหนี้สงฆ์ หนี้แผ่นดิน
อธิษฐานจิต ต่อพระพุทธองค์ ว่าจะไม่ทำผิดอีกต่อไป​

ย่อมบรรเทาจากภัยต่าง ๆ ได้
หากทำด้วยจิตที่ศรัทธาตั้งมั่นเพียงใด ยิ่งได้ผลเร็วเท่านั้น​

​

ขออาราธนาบารมีสมเด็จองค์ปฐม
ดลบันดาลให้ท่านผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน
มีอยู่มีใช้มีกินไม่ฝืดเคือง มีแสงสว่าง
มีจิตหลุดพ้น ในชาติปัจจุบัน ทุกท่านเทอญ
-----------------------------------------
ทำบุญแล้วอย่าลืมทำสมาธิ ทำใจให้ว่างสัก 5 นาที
แล้วฝากบุญนี้กับสมเด็จองค์ปฐม นำบุญทาน ศีล ภาวนา ของเรา
ไปพร้อมกับฉัพพรรณรังสี รัศมี 6 ประการ
ถวายแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาพระองค์ ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่
นำบุญไปสู่เทวดารักษาตัวเรา อาชีพการงาน อาคารบ้านเรือนของเรา
บิดามารดา ญาติมิตร บรรพบุรุษ และเจ้ากรรมนายเวรที่มาถึงตัวเรา
เจ้ากรรมนายเวรทุกภพชาติ และชาวโลกทิพย์ที่แวดล้อมเราทั้งปวง
ให้มารับฉัพพรรณรังสีของพระพุทธองค์ และบุญของเรา
ขอให้มีความสุข เปลี่ยนภาพถูมิไปสู่ภพที่สูงขึ้น อย่าได้เบียดเบียนกัน
ขอให้ชาวไทยพ้นภัยโดยเร็ว
____________________________________
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน<!-- google_ad_section_end -->​

 

อรรถกถา กัจฉปชาดกว่าด้วย เรื่อง เต่า



พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ณพระเชตวันมหาวิหาร
ทรงปรารภผู้รอดจากอหิวาตกโรคคนหนึ่ง
ตรัสพระธรรมเทศนานี้มีคำเริ่มต้นว่า

ชนิตํเมภวิตํเมดังนี้.
มีเรื่องเล่าว่าที่กรุงสาวัตถีได้เกิดอหิวาตกโรคขึ้น
ในตระกูลหนึ่งมารดาบิดาจึงบอกแก่บุตรว่า

ลูกเจ้าอย่าอยู่ในเรือนนี้เลยจงพังฝาหนีไปเสียในที่ใดที่หนึ่ง
รักษาชีวิตไว้ภายหลังจึงค่อยกลับมาขุดทรัพย์
ซึ่งฝังไว้มีอยู่ในที่นี้แล้วเก็บทรัพย์ไว้เลี้ยงชีพให้เป็นสุขเถิด

บุตรรับคำของมารดาบิดาแล้วพังฝาหนีไป
เมื่อโรคของตนหายดีแล้วจึงกลับมาขุดเอาทรัพย์ที่ฝังไว้
อยู่ครองเรือนอย่างเป็นสุข

ทรงนำเรื่องในอดีตมาตรัสเล่า
ในอดีตกาลครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติ
อยู่ในกรุงพาราณสีพระโพธิสัตว์อุบัติในตระกูลช่างหม้อ
ใกล้หมู่บ้านแห่งหนึ่งทำการปั้นหม้อเลี้ยงบุตรภรรยา

ในครั้งนั้นใกล้กรุงพาราณสีได้มีสระใหญ่ต่อเนื่อง
กับแม่น้ำใหญ่สระนั้นมีน้ำไหลถึงแม่น้ำในคราวน้ำมาก
เมื่อน้ำน้อยก็แยกกัน
ปลาและเต่าย่อมรู้ว่าปีนี้ฝนดีปีนี้ฝนแล้ง

ครั้นต่อมาปลาและเต่าที่เกิดในสระนั้นรู้ว่า
ในปีนี้ฝนจะแล้ง
ครั้นถึงเวลาน้ำไหลต่อเนื่องกันเป็นอันเดียว
จึงพากันออกจากสระไปสู่แม่น้ำ
แต่เต่าตัวหนึ่งไม่ยอมไปด้วยคิดเสียว่า
นี้เป็นที่เกิดของเราเป็นที่เติบโตของเรา
เป็นที่ที่พ่อแม่ของเราเคยอยู่
เราไม่อาจจะละที่นี้ไปได้
ครั้นถึงคราวหน้าแล้งน้ำแห้งผาก
เต่านั้นขุดคุ้ยดินเข้าไปอยู่ในที่ดินของพระโพธิสัตว์.

พระโพธิสัตว์ได้ไปณที่นั้นด้วยประสงค์ว่า
จักเอาดินจึงเอาจอบใหญ่ขุดดินสับถูกเต่าแล้ว
เอาจอบงัดมันขึ้นคล้ายก้อนดินทิ้งกลิ้งอยู่บนบก
ต่านั้นได้รับเวทนาจึงพูดคร่ำครวญว่า
เราไม่อาจละที่อยู่ได้จึงถึงความพินาศอย่างนี้แล้ว
ได้กล่าวคาถาเหล่านี้ว่า :-

เราเกิดที่นี่เติบโตที่นี่เพราะเหตุนี้
เราจึงได้อาศัยอยู่ที่เปือกตม
เปือกตมกลับทับถมเราให้ทุรพล

ดูก่อนท่านภัคควะ
ขอท่านจงฟังคำของข้าพเจ้าเถิด

บุคคลได้รับความสุขในที่ใด
จะเป็นในบ้านหรือในป่าก็ตาม
ที่นั้นเป็นที่เกิดเป็นที่เติบโตของบุรุษผู้รู้จักเหตุผล
บุคคลพึงเป็นอยู่ได้ในที่ใดก็พึงไปในที่นั้น
ไม่พึงให้ที่อยู่ฆ่าตนเสีย

เต่าเมื่อพูดกับพระโพธิสัตว์อย่างนี้ก็ตาย
พระโพธิสัตว์จับเอาเต่าไปแล้ว
ให้ชาวบ้านทั้งหมดมาประชุมกัน
เมื่อจะสอนมนุษย์ทั้งหลายจึงกล่าวอย่างนี้ว่า

พวกท่านจงดูเต่านี้
ในขณะที่ปลาและเต่าอื่นๆไปสู่แม่น้ำใหญ่
เต่านี้ไม่อาจตัดความอาลัยในที่อยู่ของตน
ได้ไม่ไปกับสัตว์เหล่านั้น
เขาไปนอนยังที่ขนดินของเรา
ครั้นเราขนดินได้เอาจอบใหญ่สับหลังมัน
เหวี่ยงมันลงบนบกเหมือนก้อนดิน
เต่านี้จึงเปิดเผยกรรมที่ตนกระทำคร่ำครวญ
ด้วยคาถาสองคาถาแล้วก็ตาย
มันทำความอาลัยในที่อยู่ของตนถึงแก่ความตาย

แม้พวกท่านก็อย่าได้เป็นเช่นเต่าตัวนี้
ตั้งแต่นี้ไปพวกท่านจงอย่ายึดด้วยอำนาจตัณหา
ด้วยอำนาจเครื่องอุปโภคและบริโภคว่า
รูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะของเรา
บุตรของเราธิดาของเราทาสีและทาสเงินทองของเราแท้
สัตว์ผู้เดียวนี้เท่านั้นวนเวียนไปในภพสาม

พระโพธิสัตว์ได้ให้โอวาทแก่มหาชน
ด้วยพุทธสีลาด้วยประการฉะนี้
โอวาทนั้นแผ่ไปทั่วชมพูทวีป
ดำรงอยู่ตลอดเวลาประมาณเจ็ดพันปี
มหาชนตั้งอยู่ในโอวาทของพระโพธิสัตว์ทำบุญมีทาน
ทำทางสวรรค์ให้บริบูรณ์ในคราวสิ้นอายุ

พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้วทรงประกาศ
อริยสัจทรงประชุมชาดก
เมื่อจบอริยสัจกุลบุตรนั้นตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล

เต่าในครั้งนั้นได้เป็นอานนท์ในครั้งนี้
ส่วนช่างหม้อคือเราตถาคตนี้แล.

อรรถกถากัจฉปชาดกจบ​

 

เราทุกคนคงไม่อาจหลีกเลี่ยงภัยพิบัติได้




เราคงไม่อาจจะรู้ล่วงหน้าได้ว่า ในวันข้างหน้าจะเกิดภัยพิบัติใด ขนาดไหน วันไหน เวลาไหน


แต่เราทุกคน ควรเลือกตัดสินใจ
ที่จะใช้ชีวิตที่ยังมีอยู่ในเวลาที่เหลืออยู่ข้างหน้า
ตราบใดที่ความตายยังมาไม่ถึง

จะหาทางออกให้กับตัวเองและครอบครัวอย่างไร ย้ายหนี เตรียมและตั้งรับสู้ด้วยสติปัญญา

หรือยังคงตั้งตนในความประมาท ขาดความเมตตา ไม่เชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์





เราทุกคนจะมีชีวิตอยู่เพื่อะไร

เราเกิดมาเพื่ออะไร

ตายจากโลกสมมตินี้แล้วจะไปไหน





เร่งหาทางออกให้แก่ชีวิตกัน

จะทำเพื่อตนเอง เพื่อส่วนรวม หรือ เพื่อทั้งสองอย่าง

เปลี่ยนแปลงตัวเองตั้งแต่ตอนนี้


ทำเพื่อส่วนรวม
หยุดทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์


ทำหน้าที่พลเมืองดี กตัญญูต่อแผ่นดิน
ตั้งมั่นในพรหมวิหาร 4 ในศีล 5





อนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ

 

​

<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width="85%" height="100%">วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

เวลา 20:04:54 น. ​

มติชนออนไลน์​

ดร.สุเมธเผย ​

"ในหลวง" ​

ทรงเตือนสติ-ทรงปฏิบัติเป็นแบบอย่าง
แต่ไม่มีใครทำตาม ​

ระบุเคยรับสั่งถึง 3 ครั้ง ​

"ใครทุจริตแม้นิดเดียวขอให้มีอันเป็นไป" ​

เลขาฯ มูลนิธิชัยพัฒนาเตือน​

อย่าให้เหมือนรัสเซีย ​

อยากมีพระเจ้าแผ่นดิน แต่สายไป​

ดร.สุเมธ กล่าวว่า ​

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็น​

องค์ศาสนูปถัมภกและทรงเป็นพุทธมามกะโดยแท้ ​

ในขณะที่สังคมสมัยนี้ ​

มีแต่พุทธมามกะโดยรูปฟอร์ม ​

เจอพระสงฆ์ก็ได้แต่กราบและขอหวย​

แต่เรื่องแก่นของธรรมะกลับไม่สนใจ ​

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว​

ทรงใช้หลักธรรมภิบาลปกครองแผ่นดิน ​

ทรงใช้มาตลอด 60 กว่าปี ​

ในขณะที่ฝรั่งเพิ่งรู้จักเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ​

แต่คนไทยกลับเพิ่งมาเห็นคุณค่า ​

เพราะคนไทยบ้าฝรั่ง ​

อะไรที่เป็นของดี ของใกล้ตัว​

กลับไม่เห็นคุณค่า เป็นกิ้งก่าได้ทอง​

​

หลักทศพิธราชธรรมเป็นหลักธรรม​

ที่ทุกคนสามารถนำไปปฏิบัติได้ ​

ประกอบด้วย

1.ทาน คือการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ​

2.ศีล ขอแค่ศีล 5 ข้อก็ยังดี ​

3.ปริจจาคะ การสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ​

เพราะไม่มีข้าศึกคนไหน ​

สามารถทำให้ประเทศไทยแตกได้ ​

ให้ยิ่งใหญ่หรือทรงพลังแค่ไหน ​

ไม่สามารถทำให้คนไทยแตกได้ ​

คนไทยจะแตกหรือไม่แตก

อยู่ที่คนไทยด้วยกันเอง ​

กรุงศรีอยุธยาแตกแต่ละครั้ง ​

แตกเพราะข้าศึกหรือ​

ดร.สุเมธ กล่าวว่า เมื่อไม่นานมานี้ ​

ได้มีโอกาสไปประเทศรัสเซีย ​

ประเทศที่เป็นต้นตำรับของ​

ระบอบการปกครองคอมมิวนิสต์ ​

เมื่อก่อนเคยมีระบบกษัตริย์

แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ​

ตอนนี้คนรัสเซียอยากมีพระเจ้าแผ่นดิน

คิดถึงพระเจ้าซาร์ นิโคลัส ที่ 2 แห่งรัสเซีย

แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ​

จึงอัญเชิญพระอัฐิของพระเจ้าซาร์มาประดิษฐานในโบสถ์หลวง ​

สถาปนาให้เป็นนักบุญนิโคลัส

เพื่อสักการะบูชา ​

ซึ่งก็สายไปแล้ว ​

เพราะได้ทำลายสิ่งที่ต้องการที่สุดไปแล้ว ​

แล้วของเรามียิ่งกว่านักบุญ ​

ปฏิบัติมาตลอด 60 ปี นักบุญบางคน ​

ผลงานอาจไม่ค่อยเป็นที่ประจักษ์เท่าไหร่ ​

แต่นี่ 60 ปี เราไม่ค่อยจะถนอมกัน ​

แล้ววันนั้นจะเสียใจ ก็ฝากไว้ให้คิด​

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่เคยทรงโกรธ ​

อาจมีบ้างที่ทรงไม่พอพระทัย

แต่ไม่เคยทรงโกรธ ​

เพราะความโกรธไม่เคยทำให้อะไรดีขึ้น ​

แต่จะเป็นอย่างสังคมที่เป็นอยู่ตอนนี้ ​

เป้าหมายการทรงงานหนัก​

ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ

ความเป็นประชาธิปไตย ​

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า ​

เหตุผลที่ทรงงานหนักอยู่ทุกวันนี้ ​

เพราะประชาชนยังยากจนอยู่ ​

เมื่อยังยากจนแล้ว ​

เขาก็ไม่มีอิสรภาพเสรีภาพ ​

เมื่อเขาไม่มีอิสรภาพเสรีภาพ ​

เขาจะเป็นประชาธิปไตยไม่ได้​

จุดหมายปลายทางของพระองค์ คือ
เรื่องประชาธิปไตยที่ทุกคน​

ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่

เข้าใจแต่ว่าประชาธิปไตยคือเลือกตั้งเท่านั้น ​

ทั้งที่ความจริง ลึกซึ้งกว่านั้น ​

ก่อนจบปาฐกถา ดร.สุเมธ ​

ย้ำถึงพระราชดำรัสของ​

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว​

ในวันเฉลิมฉลองครองราชย์ครบ 60 ปี​

ที่ไม่ค่อยมีใครจดจำได้ว่า ​

พวกเราชอบเห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ​

แต่ไม่เคยมองพระองค์ ​

ชอบได้ยินพระเจ้าอยู่หัว
แต่ไม่เคยฟังพระองค์ ​

เพราะฉะนั้นถึงไม่เคยจดจำอะไรได้เลย ​

หลัก 4 ข้อคือ ​

1.คิด พูด ทำ คิดดีต่อกัน ​

2.ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ​

3.อยู่ในความซื่อสัตย์สุจริต ​

4.คิดต่างกันได้ แต่ให้ตั้งอยู่บน

ความเที่ยงตรงและมีเหตุมีผล ​

ถ้าทุกคนปฏิบัติตาม 4 ข้อนี้ได้ ​

เหตุการณ์บ้านเมืองคงไม่เป็นอย่างปัจจุบันนี้ ​

และจะทำให้เกิดเอกภาพขึ้นในประเทศ​

เป็นที่น่าเสียดาย เรามีพระบรมครู

ยอดปราชญ์อยู่ในแผ่นดิน แต่ไม่ฟัง

กลับไปฟังอะไรก็ไม่รู้​

แล้ววันหนึ่งจะเสียใจ ผมพูดได้แค่นี้ ​

ยังไม่สายนะครับ อย่าเสียกำลังใจ​

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1243688760&grpid=00&catid=42​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

หากคนไทยทุกคนทำตามที่พระองค์ทรงรับสั่ง

คงไม่ปรามาสพระองค์ท่าน ​

คงไม่เห็นต่างชาติดีกว่าคนไทย​

คงไม่ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์​

อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ​

คงไม่ต้องรับกรรมหนัก
และใช้กรรมหนักกันดังเช่นทุกวันนี้

​

ไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดที่จะรัก
ประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน ​

ดังเช่นพระองค์ท่านอีกแล้ว​

ยังไม่สายที่คนไทยทุกคนจะมองและทำตาม
ที่พระองค์ท่านทรงรับสั่งครับ​

ขออาราธนาบารมีสมเด็จองค์ปฐม
ดลบันดาลให้ท่านผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน
มีอยู่มีใช้มีกินไม่ฝืดเคือง มีแสงสว่าง
มีจิตหลุดพ้น ในชาติปัจจุบัน ทุกท่านเทอญ
-----------------------------------------
ทำบุญแล้วอย่าลืมทำสมาธิ ทำใจให้ว่างสัก 5 นาที
แล้วฝากบุญนี้กับสมเด็จองค์ปฐม นำบุญทาน ศีล ภาวนา ของเรา
ไปพร้อมกับฉัพพรรณรังสี รัศมี 6 ประการ
ถวายแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาพระองค์ ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่
นำบุญไปสู่เทวดารักษาตัวเรา อาชีพการงาน อาคารบ้านเรือนของเรา
บิดามารดา ญาติมิตร บรรพบุรุษ และเจ้ากรรมนายเวรที่มาถึงตัวเรา
เจ้ากรรมนายเวรทุกภพชาติ และชาวโลกทิพย์ที่แวดล้อมเราทั้งปวง
ให้มารับฉัพพรรณรังสีของพระพุทธองค์ และบุญของเรา
ขอให้มีความสุข เปลี่ยนภาพถูมิไปสู่ภพที่สูงขึ้น อย่าได้เบียดเบียนกัน​

ขอให้ชาวไทยพ้นภัยโดยเร็ว
____________________________________
​

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน​

 

ขอคุณที่นำเรื่องราวมาฝากกันจ้า