คนที่บรรลุอรหัน

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Rutchasak La-ong, 28 ตุลาคม 2011.

  1. Rutchasak La-ong

    Rutchasak La-ong Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +69
    คนที่บรรลุแล้วถ้าไม่บวชจะเสียชีวิตหรอคัฟ
     
  2. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    มีคนบอกว่าถ้าไม่ได้บวช จะเสียชีวิตใน 7 วันไม่รู้จริงรึเปล่าครับ
    เพราะการละทุกอย่างแล้วจึงไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ต่อไป
    มีคนบอกมานะ

    แต่ในส่วนตัวผมคิดว่าไม่น่าจริงครับ.........
     
  3. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    รู้สึกจะเสียชีวิตนะครับ

    เพราะเป็นพระอรหันต์แล้วไม่บวช คนที่อยู่รอบข้างหรือคนทั่วไปอาจปฏิบัติกับท่านไม่เหมาะสม ทำให้เกิดบาปกรรมมากแก่เขาเหล่านั้น อย่างเราเผลอคิดไม่ดีเพียงนิดเดียวโทษก็หนักมากแล้วครับ แล้วลองคิดภาพคนทั่วไปตบหัวกันเล่น หรืออะไรต่าง ๆ

    ทำไมจึงตาย คิดว่าจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีมากครับ

    หลวงตามหาบัวท่านเคยตอบคำถามนี้ครับ แต่ไม่เฉพาะเจาะจง แต่ท่านว่าจะตายก็ตายซี่ ธรรมขั้นนั้นแล้ว จะมาอาลัยอะไรกับความตาย ผมจำได้ประมาณนี้ครับ แต่ตามความเข้าใจผมคือท่านบอกว่า ตายใน 7 วันนะครับ

    ปล.หากอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับพระอรหันต์ ลองหาอ่านหนังสือของหลวงตามหาบัว ดูได้ครับ เป็นหนังสือเล่มเล็ก ๆ ชื่อ พระอรหันต์ นี่แหละครับ
     
  4. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    ยกเว้น กรณีที่มีปณิธานครับ...................นอกจากจะไม่ตายง่าย เมื่อตายก็จะยังไม่ไปนิพพานครับ ก็จะเป็นสภาวะธรรมกายต่อไป เพราะปณิธานเพื่อสรรพสัตว์
     
  5. leoknit

    leoknit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2010
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +38
    เคยฟังหลวงตาจำไม่ได้ตอนไหนท่านกล่าวไว้ว่าคุณธรรมขึ้นสูงจะทำลายธาตุขันต์ได้อย่างไร
    แล้วหลวงตาก็เทศน์ยาวเลย
    ผมเข้าใจว่า
    พวกที่ชอบบอกนะว่าฆราวาสบรรลุ ผายใน7วันแล้วต้องตายถ้าไม่บวช กลัวตายมากกว่าเพราะยังไม่ได้ปฏิบัติเลยกลัวเป็นอรหันต์แล้วตาย
    จริงๆในเรื่องนี่คนชอบเอาเรื่องของท่าน พาหิยะ มากล่างอ้างเพราะว่าท่านบรรลุธรรมแต่ท่านยังไม่ไ่ด้บวชท่านต้องไปหาผ้าตามป่ามาตัดยอมทำจีวรแต่โดนวัวขวิดตายก่อน
    ผู้ที่ไม่เข้าใจก้ดึงส่วนนี้มาจำว่าบรรลุอรหันต์ถ้ายังไม่บวช7วันจะเสียชีวิต

    ผมบอกตรงๆเลยพวกฆราวาสกลัวบรรลุธรรมแล้วตายเนี้ยถ้ากลัวบรรลุอรหันต์มาก ก็จงอยู่แบบคนโง่ต่อไปเถอะ ถ้าคิดจะเอาตัวรอดให้ได้ชาตินี่อย่ากลัวตายเพราะต้องตายทุกคนกิเลสท่วมหัวเอาตัวไม่รอดอ้างนู้นนี่นั้นเยอะเยะบอกตรงๆถ้าผมมีวาสนาบรรลุแบบท่าน พาหิยะ ได้ให้หนักกว่าวัวขวิดตายผมก็ไม่กลัว จริงมันเป็นเรื่องของกรรมมากว่าที่เข้ามาตัดทอน
    ตัวอย่างพระโมคคัลลานะท่านยังโดนโจรทุบเลย ท่าพาหิยะจะโดนวัวขวิดตายก็ไม่แปลก

    แนะนำนะครับลองศึกษา ฆราวาส ชื่อลุงหวีด และ แม่บุญเรือน โตงบุญเติม 2ท่านนี้เสียชีวิตแล้ว ประวัติหาอ่านได้ ปัจจุบัน แม่จันดี โลหิตดี น้องสาวหลวงตามหาบัว

    ขออนุญาติเครดิต คุณแม่จันดี โลหิตดี อริยะเจ้าขนิษฐา ของหลวงตามหาบัว

    ดูเอาครับใครยังคิดว่าฆราวาสบรรลุอรหันต์แล้วตาย7วันผมว่าท่านทำตัวให้ได้อรหันต์ก่อนครับแล้วท่านจะเข้าใจเองเรื่องแบบนี้มันปัจจัตตัง ครับ อย่าเอาเรื่องศีลของพระมาอ้างนะครับพระอรหันต์ ท่านทรงศีลอัตโนมัติการบวชเป็นเรื่องของภายนอก ลองหาอ่านในบอร์ดพระป่าเรื่องศีลของหลวงปู่มั่นได้ ผมไม่ได้เก่งอะไรนะครับแต่ไม่อยากให้เข้าใจผิดผมคิดว่า
    ฆราวาสก็บรรลุธรรมได้จะตายหรือไม่อย่าถามคนอื่นให้ถามตัวเองครับถ้าจิตถึงขนาดพระอรหันต์แล้วเป็นหรือตายมีค่าเท่ากันการที่บอกว่าถ้าฆราวาสจะบรรลุธรรมแล้วตายเนี้ยผู้ปฏิบัติกำลังใจยังไม่แน่นและยังไม่ทราบอะไรต่ออะไรเลยก็กลัวกลัวอะไร กลัวตามกิเลสโลกเพราะว่าต้องตาย จริงๆก็ตายไม่อรหันต์ก็ตายแต่คำว่าถ้าเป็นอรหันต์ไม่เกิน7วันตายคนไม่เข้าใจและยังเป็นฆราวาสก็กลัวที่จะปฏิบัติ จริงหรือไม่ผมว่าหลายคนก็คิดตอนผมเด็กๆก็กลัวว่าถ้าตายใครจะเลี้ยงพ่อแม่ล่ะอีกเยอะเยะหลายอย่างตามกิเลสโลกจริงๆปัญญายังไม่มีเลยจะเอาอรหันต์กัน อรหันต์ในเนตเยอะครับระวังด้วย พิจรณาเอา อนุโมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2011
  6. หลานศิษย์

    หลานศิษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2008
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +560
    คำว่าบวชน่าจะหมายถึง บวชเป็นพระ หรือนักบวช
    จะเป็นแม่ชี หรือฤาษีชีไพร ก็ไม่ผิดกติกา
     
  7. ตุ้ม ณ บ้านโป่ง

    ตุ้ม ณ บ้านโป่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +112
    อนุโมทนา สาธุ แด่ท่านผู้สนใจในธรรม ทั้งหลาย ด้วยเทอด สาธุ
     
  8. ื้ีnhu008

    ื้ีnhu008 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +36
    เทศน์อบรมพระ ณ วัดป่าบ้านตาดเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๒๙

    ขออนุญาตครับ

    บางส่วนจากเทศน์อบรมพระ ณ วัดป่าบ้านตาด
    เมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๒๙

    พูดท้ายเทศน์

    ในบุพพสิกขามีอยู่ว่า พระอรหันต์นอนหลับแล้วไม่ฝัน ว่างั้น ผมก็เป็นแต่เพียงจำเอาไว้ไม่ได้พิจารณา พระอรหันต์นอนหลับแล้วไม่ฝัน นี่อันหนึ่ง อันหนึ่งในหนังสือก็มีดูเหมือนจะหลายเล่มอยู่นะ ที่ว่าผู้ที่สำเร็จพระอรหันต์แล้วต้องบวชภายใน ๗ วัน ถ้าไม่ได้บวชภายใน ๗ วันแล้วต้องตายว่างั้น นี่อันหนึ่ง

    ในหลักธรรมชาติแล้ว ผู้นั้นจะรู้ตัวเองในหลักธรรมชาติ อะไรจะต้องมีขีดมีคั่นมีบังคับบัญชากันกดกันถึงขนาดว่า ถ้าไม่ได้บวชแล้วเลย ๗ วันไปแล้วตาย คือจะอยู่ได้ภายใน ๗ วันผู้สิ้นกิเลสแล้วถ้าไม่บวช เลย ๗ วันไปตาย นี่นะในหนังสือนี่ผมก็เห็น ไม่ใช่คุยเฉย ๆ เราเห็นจริง ๆ นี่นะนี่ก็ดี แต่ผมไม่ได้ใช้ความพิจารณาอะไรมากนักแต่ก่อน ก็เหมือนที่ว่าพระอรหันต์นอนหลับแล้วไม่ฝัน นี่อันหนึ่ง ที่ว่าผู้สำเร็จอรหัตภูมิแล้วต้องบวชภายใน ๗ วัน ไม่บวช..ตาย นี่ก็เห็น ทีนี้ก็มาทำให้อดคิดไม่ได้นะทุกวันนี้ ให้คิดเหมือนกัน

    เรื่องความฝันนี้ก็เป็นเรื่องของธาตุของขันธ์นี่ทำไมฝันไม่ได้ นี่เป็นเรื่องของขันธ์ ๕ แท้ ๆ ขันธ์ ๕ เป็นสิ่งที่กระดุกกระดิกได้เหมือนทั่ว ๆ ไป ทำไมพระอรหันต์จะฝันไม่ได้ นี่ซิเอาเหตุผลมาจับกันตรงนี้ เอ้า พิจารณาธาตุขันธ์ให้ชัดเจนซิ ทั้งจิตด้วยทั้งขันธ์ ๕ นี้ด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณนี้ด้วย ท่านบรรลุมรรคผลนิพพานท่านสังหารขันธ์ ๕ นี้ให้ฉิบหายไปแล้วเหรอ ขันธ์ ๕ นี้จึงดีดดิ้นไม่ได้ การดีดดิ้นได้ก็ฝันได้ล่ะซิ นั่นจะว่าไง ขันธ์เป็นขันธ์นี่ทำไมจะฝันไม่ได้ นี่ซิมันน่าคิดอยู่ คิดละซิที่นี่ ใครจะว่าเป็นทิฐิก็ตาม มันคิดก็บอกว่าคิด..เรา

    พูดตัวอย่างให้เห็นชัด ๆ ก็อย่างพ่อแม่ครูจารย์มั่นเรานี่ วันนั้นท่านไม่ค่อยสบายแล้วท่านนอนหลับ ท่านละเมอไป ธาตุขันธ์มันไม่ค่อยสบาย พอนอนหลับไปท่านฝัน ท่านฝันละเมอไป เอ้อ ๆ เราเดินจงกรมอยู่ข้าง ๆ นั่นเราก็ปุ๊บปั๊บ แต่ท่านเร็วนะ เพราะท่านคงได้ยินเสียงเราเดินปุ๊บปั๊บ ๆ ไป ใคร ท่านว่างั้น เราก็กราบเรียนท่านว่า ผมมาหา เสียงพ่อแม่ครูจารย์นี่เสียงผิดปกติ เราว่างั้น อ๋อผิดละซิ…ฝันเมื่อกี้นี้ ท่านว่า นั่นฟังซิ

    ท่านฝันเรื่องเกี่ยวกับหมา ท่านว่าให้หมา ท่านดุหมาไล่หมาลักษณะอย่างนี้ นี่หมายถึงหนองผือ ท่านกั้นห้องศาลาอยู่ ก็เพราะท่านไม่สบายนั่นเองละ ท่านเป็นหวัด หวัดก็เป็นหวัดใหญ่ด้วย ผมจึงมาเดินจงกรมแอบ ๆ อยู่ข้าง ๆ นั่น เพราะธาตุขันธ์ท่านไม่ดีก็ทราบ พระเณรก็ทราบกันนี่ แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ดึกเท่าไรนัก ผมมาเดินจงกรมอยู่ข้าง ๆ ศาลา ตรงไปทางห้องท่านพักนั่นแหละ ผมเดินจงกรมอยู่ข้าง ๆ ได้ยินเสียงผิดปกติ เอิ๊กอ๊าก ผมเลยปุบปับจะวิ่งขึ้นไปหาท่านนั่นแหละ พอรองเท้าผมปุบปับ ๆ ท่านได้ยินเสียง ท่านก็เลยกึ๊กกั๊กขึ้น ใครมานั่น ท่านว่างั้น นั่น

    แล้วพ่อแม่ครูจารย์มั่นเรานี่เป็นอะไร ฟังซิ ใครจะว่าท่านเป็นอะไร เอาตรงนี้ยันกัน พระธาตุท่านเห็นไหมล่ะ นั่นเครื่องยืนยันกัน ท่านฝันหรือไม่ฝันว่างี้ ยังไงก็ตามถึงท่านไม่มาเป็นพยานก็ตาม ผมก็ยังแน่ใจอยู่ว่าเรื่องธาตุขันธ์เป็นธาตุขันธ์ นี่อย่างที่พูดตะกี้นี้ ความเป็นอรหันต์ของแต่ละองค์ ๆ ของพระอรหันต์ทั้งหลายนั้น มีอะไรที่ไปกระเทือนกับขันธ์ ๕ พอจะให้ขันธ์ ๕ แสดงตัวไม่ได้ล่ะ นั่น ขันธ์ ๕ เป็นขันธ์ ๕ ก็ต้องแสดงอยู่เป็นธรรมดา เมื่อเป็นเช่นนั้นทำไมจะฝันไม่ได้ การฝันก็เป็นความแสดงของขันธ์ ๕ นี่นะ นี่อันหนึ่ง

    อันหนึ่งที่ว่า ถ้าสำเร็จธรรมขั้นสูงสุดคืออรหัตภูมิแล้ว ถ้าไม่ได้บวชจะตายภายใน ๗ วันนี้ก็เหมือนกัน ทำให้คิดเหมือนกันนะ วิสุทธิธรรมหรือวิสุทธิจิตนี้เป็นเพชฌฆาตฆ่าขันธ์ ๕ เชียวเหรอ นั่น อันนี้ไม่ใช่เป็นเพชฌฆาตนี่นะ สิ่งใดที่ควรไม่ควรพระอรหันต์ท่านจะรู้ของท่านเอง ถึงขั้นนี้แล้ว จะไม่มีใครมาบอกก็ตาม ท่านจะรู้วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องขันธ์ของท่าน เหตุใดจะต้องไปตายภายใน ๗ วันวะ นี่อันหนึ่ง จะว่าบ้าก็บ้าแล้วผม เอ้า มันเกินเหตุเกินผลก็ต้องอย่างนั้นซิ

    วิธีการจดจารึกนี่สำคัญอยู่นะ เอาแต่ความจำล้วน ๆ อะไรมาก็อาจจะจำสุ่มสี่สุ่มห้าจดมาเรื่อย ๆ อย่างนั้นก็ได้ เราก็ไม่ได้ประมาท เราอาจเป็นทางสันนิษฐาน อะไร ๆ ก็จดมาเรื่อยจารึกมาเรื่อยด้วยความจำ ๆ ไม่มีความจริงเข้าไปแทรกกันบ้างแล้วก็ลำบากเหมือนกันนะ มีความจริงคือตัวผู้ไปจดจารึกนั้นน่ะ ถ้ามีความจริงภายในจิตใจ มีภูมิจิตภูมิธรรมแล้ว จะได้ธรรมะละเอียดมามากมาย จะไม่มีแต่ความจำล้วน ๆ มา




    http://www.luangta.com/upload/ThammaTalk/pdf/aug2229.doc.pdf
     
  9. เพชรน้ำ

    เพชรน้ำ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +17
    ขอตอบ แบบ ผู้ มีความรู้น้อยนิด หน่อยนะคับ
    ผมก็เคยได้ยินจากท่านผู้ปฎิบัติมาบางคับ

    เพราะว่าคนบรรลุพระอรหันต์แล้ว ดวงจิตนั้นจะละเอียดมากคับ กายสังขารที่เป็นของสกปรกและมีแค่ ศีล 5 เลยไม่สามารถที่จะรองรับความละเอียดของดวงจิตได้อะคับ เลยต้องบวช
     
  10. leoknit

    leoknit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2010
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +38
    ชุดนี้ล่ะครับอ่านดีๆผู้อ่านจะได้เลิกเข้าใจผิดกันซะที

    ผมว่าร่ายกายก็เป็นอย่างนั้นที่ตายไม่ใช่คุณธรรมสูงขันธ์รับไม่ไหวหรอกเป็นตัวกรรมมากกว่าที่ทำให้ตายมีเยอะในสมัยพุทธกาล
    และถ้าบวชทำไมถึงไม่ตายอย่าบอกนะว่ามีศีล227ถ้าคิดแบบนี้ยังไม่ใช่อธิศีลสิ
    พระอรหันต์ศีลท่านอัตโนมัติมันบรรลุที่หัวใจไม่ใช่ที่ขันธ์แม้นท่านจะเป็นฆราวาสก็เถอะการบวชเป็นเพียงภายนอกสมมุติบัญยัติเท่านั้นจริงหรือไมพิจรณาเองเถิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2011
  11. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +1,009
    น่าจะจริงครับ ถ้าเราตัดทุกอย่างแล้ว แต่ยังอยู่รวมกับคนปกติ ย่อมมีความลำบากหรือผิดแปลกจากชาวบ้านปกติครับ แต่คงไม่ถึงขั้นตายภายใน 7 วันมั้งครับ อันนี้ก็ยืนยันไม่ได้ครับ เพราะคนที่บรรลุแล้ว ตอนนี้ไม่มีเลย เลยไม่มีคนบอกได้ม้างครับ
     
  12. corelooy

    corelooy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +80
    พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า ดูก่อนพระนาคเสน คำที่เธอว่า "ฆราวาสเมื่อ
    ได้เป็นพระอรหันต์ ย่อมมีคติเป็น ๒ คือบวชในวันนั้นอย่าง ๑ ถ้าไม่เช่นนั้น
    ก็นิพพานในวันนั้นอย่าง ๑" นั้น ก็ถ้าในวันนั้นบวชไม่ทัน โดยหาอุปัชฌาย์หรือ
    เครื่องบริขารไม่ได้ จะมินิพพานเสียหรือ
    พระนาคเสนทูลตอบว่า ขอถวายพระพร ก็นิพพาน
    ม. ถ้าอย่างนั้น จะมิเป็นอันชื่อว่า พระอรหัตตผลบั่นทอนชีวิตของท่าน
    เหล่านั้นเสียหรือ
    น. ขอถวายพระพร การที่เป็นดังนั้นหาใช่เพราะพระอรหัตตผลบั่นทอนไม่
    เป็นเพราะเพศฆราวาสไม่สามารถจะทรงคุณธรรมอันสูงสุดนั้นได้
    ม. เธอจงหาตัวอย่างมาเปรียบให้ฟัง
    น. เหมือนผู้บริโภคอาหารอันบริสุทธิ์ แต่บริโภคมากเกินส่วน ไฟธาตุย่อม
    ไม่ไหว การบริโภคนั้นก็ย่อมให้โทษแก่ร่างกาย ขอถวายพระพร นี่จะจัดว่าเป็น
    โทษของอาหารนั้นจะได้หรือ
    ม. ไม่ได้สิเธอ เพราะอาหารเป็นของบริสุทธิ์ ต้องจัดว่าเป็นโทษของการ
    บริโภค เพราะมากจนไฟธาตุย่อยไม่ไหว
    น. นั่นแลฉันใด นี่ก็ฉันนั้นเหมือนกัน จะว่าเป็นเพราะพระอรหัตตผลบั่น
    ทอนชีวิตไม่ได้ เพราะพระอรหัตตผลเป็นคุณธรรมอันบริสุทธิ์ ขอถวายพระพร
    การที่ท่านต้องนิพพานนั้น เป็นโทษของเพศฆราวาสซึ่งไม่มีกำลังสามารถจะ
    ทรงคุณธรรมอันสูงสุดนั้นได้
    ม. เธอว่านี้ชอบแล้ว
    จบคิหิอรหัตตปัญหา
     
  13. corelooy

    corelooy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +80
    ให้มันรู้ไปว่า พระยุคนี้ จะเจ๋งกว่า พระนาคเสน
     
  14. corelooy

    corelooy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +80
    หรือมีใครจะเถียงอรรถกถา???

    เตวิชชวัจฉสูตร มีบทเริ่มต้นว่า เอวมฺเม สุตํ ข้าพเจ้าได้สดับ
    มาอย่างนี้.
    ในบรรดาบทเหล่านั้นว่า เอกปุณฺฑริเก ต้นมะม่วงขาวท่านเรียกว่า
    ปุณฑริกะ. ชื่อว่า เอกปุณฺฑริโก เพราะต้นปุณฑริกต้นนั้นมีอยู่ต้นเดียวใน
    อารามนั้น. บทว่า เอตทโหสิ คือ พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงมีพระดำริ เพราะ
    มีพระประสงค์จะเสด็จเข้าไป ในปริพพาชการามนั้น. บทว่า จิรสฺสํ โข ภนฺเต
    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญกว่าพระองค์จะเสด็จมานานทีเดียว หมายถึงเคยเสด็จมาตาม
    # ๑. บาลีว่า จูฬวัจฉโคตตสูตร.
    ปรกติ. ในบทว่า ธมฺมสฺส จ อนุธมฺมํ ธรรมสมควรแก่ธรรมนี้ สัพพัญญุตญาณ
    ชื่อว่า ธรรม. การพยากรณ์แก่มหาชนชื่อว่า อนุธรรม (ธรรมสมควร).
    บทที่เหลือมีนัยดังกล่าวแล้วในชีวกสูตรนั่นแล. บทว่า น เม ไม่เป็นอันกล่าว
    ตามคำที่เรากล่าวแล้ว คือ ตั้งอยู่ในความไม่เห็นชอบ ปฏิเสธแม้ความเห็นชอบ.
    เพราะพระสัพพัญญูมีปรกติเห็นสิ่งทั้งปวง ทรงปฏิญญาญาณทัสนะ ไม่มีส่วน
    เหลือ ฉะนั้นญาณทัสนะนี้ควรรู้ตาม. บทว่า จรโต จ เม ปจฺจุปฏฺฐิตํ เมื่อ
    เราเดินไปก็ดี ญาณทัสนะปรากฏแล้วนี้ ไม่สมควรรู้ตาม. เพราะพระผู้มีพระ-
    ภาคเจ้าทรงคำนึงด้วยพระสัพพัญญุตญาณแล้วทรงรู้. ฉะนั้นทรงตั้งอยู่ในความ
    ไม่เห็นชอบ ปฏิเสธแม้ความเห็นชอบจึงตรัสอย่างนี้. ในบทว่า อาสวานํ ขยา
    นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้ามิได้ตรัสว่า เพียงใด. เพราะอาสวะทั้งหลายที่สิ้นไปแล้ว
    ครั้งเดียว มิได้มีอาสวะที่จะพึงสิ้นไปอีก. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงกล่าวย่อ
    พระคุณทั้งสิ้นด้วยวิชชา ๓ เหล่านี้ คือ ทรงแสดงคุณ คือ ความรู้ในอดีต
    ด้วยปุพเพนิวาสญาณ ๑ ทรงแสดงคุณ คือ ความรู้ในปัจจุบัน ด้วยทิพจักขุ-
    ญาณ ๑ ทรงแสดงโลกุตตรญาณ ด้วยอาสวักขยญาณ ๑. บทว่า คิหิสํโยชนํ
    สังโยชน์ของคฤหัสถ์ คือ ความผูกพันของคฤหัสถ์คือความใคร่ในบริขารของ
    คฤหัสถ์. บทว่า นตฺถิ โข วจฺฉ ดูก่อนวัจฉะ ไม่มีเลย คือ ผู้ยังไม่ละ
    คิหิสังโยชน์ ชื่อว่าจะทำที่สุดทุกข์ย่อมไม่มี. แม้บุคคลเหล่าใดดำรงเพศคฤหัสถ์
    คือ สันตติมหาอำมาตย์ อุคคเสนะ เศรษฐีบุตร วีตโสกธารกะ ก็บรรลุ
    พระอรหัตได้. แม้บุคคลเหล่านั้น ก็ยังความใคร่ในสังขารทั้งปวงให้แห้งไป
    ด้วยมรรคแล้วบรรลุได้. แต่เมื่อบรรลุแล้วก็ไม่ตั้งอยู่ด้วยเพศนั้น. ชื่อว่าเพศ
    คฤหัสถ์นี้เลว ไม่สามารถทรงคุณอันสูงสุดไว้ได้. เพราะฉะนั้น ผู้ตั้งอยู่ในเพศ
    คฤหัสถ์นั้นบรรลุพระอรหัตแล้วย่อมบวช หรือปรินิพพานในวันนั้นเอง
    . แต่
    ภุมมเทวดายังดำรงอยู่ได้. เพราะเหตุไร. เพราะมีโอกาสที่จะแฝงตัวอยู่ได้.
    ในกามภพที่เหลือ พระอริยบุคคล ๓ จำพวกมีพระโสดาบันเป็นต้น ยัง
    ดำรงอยู่ได้ในมนุษยโลก. ในกามาวจรเทวโลก พระโสดาบันและพระสกทาคามี
    ยังดำรงอยู่ได้. แต่พระอนาคามีและพระขีณาสพจะดำรงอยู่ในกามาวจรเทวโลก
    นี้ไม่ได้. เพราะเหตุไร. เพราะที่นั้นมิใช่เป็นที่อยู่ของชนผู้ละอายแล้ว. และที่
    นั้นมิใช่เป็นที่ปกปิดที่สมควรแก่วิเวกของพระขีณาสพเหล่านั้น.
    ด้วยประการฉะนี้ พระขีณาสพจึงปรินิพพาน ณ ที่นั้น. พระอนาคามี
    จุติแล้วไปเกิดในชั้นสุทธาวาส. พระอริยะแม้ ๔ จำพวก ย่อมดำรงอยู่ในภูมิ
    เบื้องบน แต่กามาวจรเทวโลกได้. บทว่า โสจาปิ กมฺมวาที คือ อาชีวกที่
    เป็นกรรมวาที. บทว่า กิริยวาที พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงคัดค้านผู้อื่นแล้ว
    ทรงกล่าวถึงพระองค์เองเท่านั้นในที่สุด ๘๙(๑) กัป. ได้ยินว่า ในครั้งนั้นพระ-
    มหาสัตว์ทรงผนวชเพื่อทรงสอบสวนลัทธิปาสัณฑะ (เป็นลัทธิเกี่ยวกับตัณหา
    และทิฏฐิ). ครั้นทรงทราบว่าลัทธิปาสัณฑะนั้นไม่มีผล ก็มิได้ทรงเลิกละความ
    เพียรได้เป็นกิริยวาทีไปบังเกิดบนสวรรค์. เพราะฉะนั้นจึงตรัสอย่างนี้. บทที่
    เหลือในที่ทั้งปวงง่ายทั้งนั้น ด้วยประการฉะนี้.
    จบอรรถกถาเตวิชชวัจฉสูตรที่ ๑
    # ๑. บาลีว่า ๙๑ กัป

    อรรถกถา พระสุตตันตปิฏก มัชฌิมนิกาย มัชฺมปัณณาสก์ ปริพพาชกวรรค เตวิชชวัจฉสูตร หน้า 445
     
  15. corelooy

    corelooy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +80
    เหตุผล คือพระอภิธรรม


    คิหิสส อรหาติกถา
    [๘๖๗] สกวาที คฤหัสถ์พึงเป็นพระอรหันต์ได้ หรือ?
    ปรวาที ถูกแล้ว
    ส. คิหิสัญโญชน์ของพระอรหันต์ยังมีอยู่ หรือ?
    ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
    ส. คิหิสัญโญชน์ของพระอรหันต์ไม่มี หรือ?
    ป. ถูกแล้ว
    ส. หากว่า คิหิสัญโญชน์ของพระอรหันต์ไม่มี ก็ต้องไม่กล่าวว่า คฤหัสถ์
    พึงเป็นพระอรหันต์ได้
    [๘๖๘] ส. คฤหัสถ์พึงเป็นพระอรหันต์ได้ หรือ?
    ป. ถูกแล้ว
    ส. คิหิสัญโญชน์อันพระอรหันต์ละขาดแล้ว ถอนรากขึ้นแล้ว ทำให้เป็น
    ดุจตาลยอดด้วน ทำให้ไม่เกิดได้ในภายหลัง ทำให้มีอันไม่เกิดขึ้นต่อไป
    เป็นธรรมดาแล้ว มิใช่หรือ?
    ป. ถูกแล้ว
    ส. หากว่า คิหิสัญโญชน์อันพระอรหันต์ละขาดแล้ว ถอนรากขึ้นแล้ว ทำ
    ให้เป็นดุจตาลยอดด้วน ทำให้ไม่เกิดได้ในภายหลัง ทำให้มีอันไม่เกิด
    ขึ้นต่อไปเป็นธรรมดาแล้ว ก็ต้องไม่กล่าวว่า คฤหัสถ์พึงเป็นพระอรหันต์
    ได้
    [๘๖๙] ส. คฤหัสถ์พึงเป็นพระอรหันต์ได้ หรือ?
    ป. ถูกแล้ว
    ส. คฤหัสถ์ไรๆ ที่ยังมิได้ละคิหิสัญโญชน์แล้วเป็นผู้กระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้
    ในปัจจุบันเทียวมีอยู่ หรือ?
    ป. ไม่มี
    ส. หากว่า คฤหัสถ์ไรๆ ที่ยังมิได้ละคิหิสัญโญชน์แล้วเป็นผู้กระทำที่สุด
    แห่งทุกข์ในปัจจุบันเทียวไม่มี ก็ต้องไม่กล่าวว่า คฤหัสถ์พึงเป็นพระอรหันต์
    ได้ดังนี้
    [๘๗๐] ส. คฤหัสถ์พึงเป็นพระอรหันต์ได้ หรือ?
    ป. ถูกแล้ว
    ส. ปริพาชก ผู้วัจฉโคตร ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า ข้าแต่พระ
    โคดมผู้เจริญ คฤหัสถ์ไรๆ ที่ยังมิได้ละคิหิสัญโญชน์ แล้วเป็นผู้
    กระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ เพราะกายแตกมีอยู่หรือหนอ พระผู้มีพระ
    ภาคตรัสตอบว่า ดูกรวัจฉะ ไม่มีคฤหัสถ์ไรๆ ที่ยังมิได้ละคิหิสัญ
    โญชน์แล้วเป็นผู้กระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้เพราะกายแตก ดังนี้ เป็น
    สูตรมีอยู่จริง มิใช่หรือ?
    ป. ถูกแล้ว
    ส. ถ้าอย่างนั้น ก็ไม่พึงกล่าวว่า คฤหัสถ์พึงเป็นพระอรหันต์ได้ ดังนี้
    [๘๗๑] ส. คฤหัสถ์พึงเป็นพระอรหันต์ได้ หรือ?
    ป. ถูกแล้ว
    ส. พระอรหันต์ทรงเสพเมถุนธรรม พึงยังเมถุนธรรมให้เกิดขึ้น พึงนอนที่
    นอนอันคับแคบด้วยบุตร พึงใช้ผ้ากาสิกและจุรณจันทน์ พึงทัดทรงดอก
    ไม้ของหอมและเครื่องลูบไล้ พึงยินดีเงินทอง พึงรับแพะ แกะ ไก่
    สุกร พึงรับช้าง วัว ม้า ลา พึงรับนกกระทา นกคุ่ม และหางนกยูง
    พึงทรงเกี้ยว (เครื่องประดับมวยผม) มีขั้วอันเหลือง พึงทรงผ้าขาวมีชาย
    ยาว พึงเป็นผู้ครองเรือนตลอดชีวิต หรือ?
    ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
    [๘๗๒] ป. ไม่พึงกล่าวว่า คฤหัสถ์พึงเป็นพระอรหันต์ได้ หรือ?
    ส. ถูกแล้ว
    ป. ยสกุลบุตร อุตติยคฤหบดี เสตุมาณพ ได้บรรลุพระอรหัตทั้งเพศคฤหัสถ์
    มิใช่หรือ?
    ส. ถูกแล้ว
    ป. หากว่า ยสกุลบุตร อุตติยคฤหบดี เสตุมาณพ ได้บรรลุพระอรหัตทั้งเพศ
    คฤหัสถ์ ด้วยเหตุนั้นนะท่านจึงต้องกล่าวว่า คฤหัสถ์พึงเป็นพระอรหันต์
    ได้
    คิหิสส อรหาติกถา จบ

    พระอภิธรรมปิฏก กถาวัตถุปกรณ์ วรรค 4 หน้า 360 ข้อ 867 <!--MsgFile=5-->


    สาธุ พระสกวาที
     
  16. patdorn

    patdorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +227
    มีคิดเห็นอย่างนี้ครับ ที่ต้องตายภายใน 7 วันมันต้องมีเหตุครับ
    ลองคิดดูว่า ถ้าสามารถบรรลุสูงสุดแล้วตายเพราะไม่ได้ห่อมอาภรณ์ประเภทหนึ่ง
    ไม่น่าจะใ่ช่ คนธรรมดากับอริยะชนต่างกันแค่ไม่ต้องเกิดอีก ทุกข์น้อยและไม่ีมีทุกข์เลย
    คิดว่าแค่นี้นะครับ
     
  17. Nuthsunti

    Nuthsunti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +328

    ข้อมูลนี้ถูกต้องที่สุดแล้วครับ
    ส่วนเรื่องการบวชนั้น ก็ขึ้นอยู่ว่า ณ ขณะนั้น มีการบวชแบบใด เช่น
    เมื่อตอนที่ พระพุทธเจ้า มีพระชนชีพอยู่ ก็บวชได้ 3 แบบคือ
    1. เอหิภิกขุอุปสัมปทา
    2. ติสรณคมนูปสัมปทา
    3. ญัตติจตุตถกรรมวาจา

    ส่วนปัจจุบันนี้ ก็จะบวชแบบ ญัตติจตุตถกรรมวาจา

    และในช่วงเวลาที่ไม่มี พระพุทธศาสนาบังเกิดขึ้น หากมีบุคคลท่านใด บันลุพระอรหัตตผล บุคคลท่านนั้น ก็จะใช้วิธีบวชตัวเอง โดยตัวท่านเอง ซึ่งหลังจากบวชตัวเองแล้ว ก็คือพระปัจเจกพุทธเจ้า นั่นเอง
     
  18. P184

    P184 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +809
    ผมก็เคยได้ยินมาบ้าง
    แต่ความคิดส่วนตัวผมว่าไม่ตายในเจ็ดวันอยู่แล้ว แต่ตาย ต้องตายอยู่แล้ว
    และตายกันทุกคนด้วยไม่ว่าจะบรรลุหรือไม่บรรลุ

    อนุโมทนาครับ
     
  19. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ไม่เสียชีวิต ขอรับ ถ้าบรรลุอรหันต์ ก็อยู่ในขั้น กำหนดจุติดับ และเกิดได้ ขอรับ
     
  20. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    เณรเป็นพระอรหันต์ได้ไหมครับ? เณรถือศีลกี่ข้อครับ?
     

แชร์หน้านี้

Loading...