แจกต่อ ฟรี! พระผงจักรพรรดิ์ ท่านละ 1 องค์ต่อครั้ง(ระงับแจกชั่วคราว)

ขอ1ชุดค่ะ
สุภาพร พุ่มไสว 87/1 ม.3
ต.ป่าแดง อ.เมือง จ.แพร่ 54000

 

โมททนาสาธุครับ คุณสุภาพร พุ่มไสว
ส่งมาตามที่อยู่ด้านล่าง หลังจาก นนทบุรี น้ำลดแล้วนะครับ

สุรชัย ศรีอรุณลักษณ์
48/9 ม.9 ถ.บางกรวย-ไทรน้อย
ต.บางเลน อ.บางใหญ่ นนทบุรี 11140
โทร. 081-551-7374

กรณีการส่งพัสดุ
- ขอรับพระตั้งแต่ 1-10 องค์ ให้ส่งซอง กันกระแทกพร้อมติดแสต็มป์ 5-15 บาท จ่าหน้าซองถึงตัวท่านเองให้ชัดเจน
- ถ้าขอรับพระจำนวนมากเช่น 10-50 องค์ให้เป็นกล่องพัสดุขนาด ก พร้อมพลาสติกกันกระแทก
ติดแสตมป์ลงทะเบียน 20-47 บาท
- ถ้าขอรับพระจำนวนมากเช่น 50-99 องค์ให้เป็นกล่องพัสดุขนาด ข พร้อมพลาสติกกันกระแทก
ติดแสตมป์ลงทะเบียน 40-70 บาท
(หาก จะให้ลงทะเบียนแบบ ems เพื่อป้องกัันการสูญหาย ให้ท่านส่งเงินมาเพื่อทำการลงทะเบียนให้ได้นะครับ เงินที่เหลือขออนุญาตินำไปร่วมทำบุญสร้างพระผงแจกเป็นธรรมทานต่อไป)

 

โมทนาสาธุ กับคุณ สุรชัย ศรีอรุณลักษณ์ ด้วยนะ
ที่ได้เสียสละทำหน้าที่ตรงนี้แทน


​

 

สาธุ ขออนุโมทนา


​

 

สุรชัย ศรีอรุณลักษณ์ คุณกิตติภพ เป็นอย่างไรบ้างครับ ช่วยส่งข่าวให้ทราบด้วยนะครับ

 

​

[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ศีล [/FONT][FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]สมาธิ ปัญญา[/FONT]
​

[FONT=courier new,courier,monospace]"ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ศีลเป็นพื้นฐาน เป็นที่รองรับคุณอันยิ่งใหญ่ ประหนึ่งแผ่นดินเป็นที่รองรับและตั้งลงแห่งสิ่งทั้งหลายทั้งที่มีชีพ และหาชีพมิได้ เป็นต้นว่า พฤกษาลดาวัลย์ มหาสิงขร และสัตว์จตุบททวิบาท นานาชนิด [/FONT]

[FONT=courier new,courier,monospace]บุคคล ผู้มีศีลเป็นพื้นใจย่อมอยู่สบาย มีความปลอดโปร่ง เหมือนเรือนที่มีบุคคลปัดกวาด เช็ดถูเรียบร้อย ปราศจากเรือดและฝุ่นเป็นที่รบกวน[/FONT]

[FONT=courier new,courier,monospace]"ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ศีลนี้เองเป็นพื้นฐานให้เกิดสมาธิ คือ ความสงบใจ สมาธิที่มีศีลเป็นเบื้องต้นเป็นพื้นฐาน เป็นสมาธิที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก

บุคคลผู้มีสมาธิย่อมอยู่อย่างสงบ เหมือนเรือนที่มีฝาผนัง มีประตูหน้าต่างปิดเปิดได้เรียบร้อย มีหลังคาสำหรับป้องกันลม แดด และฝน ผู้อยู่ในเรือนเช่นนี้ฝนตกก็ไม่เปียก

แดดออกก็ไม่ร้อนฉันใด บุคคลผู้มีจิตเป็นสมาธิดีก็ฉันนั้น ย่อมสงบอยู่ได้ไม่กระวนกระวาย[/FONT][FONT=courier new,courier,monospace] เมื่อ ลม แดด และฝน กล่าวคือ โลกธรรม แผดเผากระพือพัดซัดสาดเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า สมาธิอย่างนี้ย่อมก่อให้เกิดปัญญาในการฟาดฟันย่ำยีและเชือดเฉือนกิเลสอาสวะ ต่าง ๆ ให้เบาบางและหมดสิ้นไป เหมือนบุคคลผู้มีกำลังจับศาสตราอันคมกริบแล้วถางป่าให้โล่งเตียนก็ปานกัน[/FONT]

[FONT=courier new,courier,monospace]"ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ปัญญาซึ่งมีสมาธิเป็นรากฐานนั้นย่อมปรากฏดุจไฟดวงใหญ่กำจัดความมืดให้ ปลาสนาการ มีแสงสว่างรุ่งเรืองอำไพ ขับฝุ่นละออง คือกิเลสให้ปลิวหาย ปัญญาจึงเป็นประดุจประทีปแห่งดวงใจ"[/FONT]

[FONT=courier new,courier,monospace]"อัน ว่าจิตนี้เป็นธรรมชาติที่ผ่องใสอยู่โดยปกติ แต่เศร้าหมองไปเพราะคลุกเคล้าด้วยกิเลสนานาชนิด ศีล สมาธิ และปัญญา เป็นเครื่องฟอกจิตใจให้ขาวสะอาดดังเดิม จิตที่ฟอกแล้วด้วยศีล สมาธิ และปัญญา ย่อมหลุดพ้นจากอาสวะทั้งปวง"[/FONT]

[FONT=courier new,courier,monospace]"ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้มีจิตหลุดพ้นแล้วจากอาสวะ ย่อมพบกับปีติปราโมทย์อันใหญ่หลวง รู้สึกตนว่าได้พบขุมทรัพย์มหึมา หาอะไรเปรียบมิได้ เอิบอาบซาบซ่านด้วยธรรม ตนของตนเองนั่นแลเป็นผู้รู้ว่า บัดนี้ กิเลสานุสัยต่าง ๆ ได้สิ้นไปแล้ว ภพใหม่ไม่มีอีกแล้ว เหมือนบุคคลผู้ตัดแขนขาด ย่อมรู้ด้วยตนเองว่า บัดนี้แขนของตนได้ขาดแล้ว"[/FONT]

​

ที่มา:ใบไม้ในกำมือ

เรียบเรียงจาก "พระอานนท์พุทธอนุชา"
วศิน อินทสระ
​

 

คุณฐนกรครับ
บางบัวทองน้ำลดลงนิดเดียว อย่างเร็วอีก 10 วันถึงจะเข้าบ้านได้ ออกมาตั้งแต่ 19 ตค. ครับ
ช่วงมาพักที่แถวๆบางใหญ่เก่า นนทบุรี ระดับน้ำกลางถนนครึ่งหน้าแข้ง ริมถนนเกือบหัวเข่า
หน้าไปรษณีย์บางใหญ่น้ำสูงกว่านี้เยอะ อีกนานกว่าจะลด ครับผม
ทางคุณฐนกรเป็นยังไงบ้างครับ หวังว่าไม่ลำบากมากนัก

 

ขอรับด้วยครับประมาณ 50 องค์
และก็จะนำไปแจกต่อยังญาติพี่น้องเพื่อให้เป็นธรรมทานของผู้มอบให้ต่อไป
ขอให้ได้บุญได้กุศลครับ เดี๋ยวจะส่งกล่องกันกระแทกไปนะครับ
ขออนุโมทนาบุญ

 

สบายดีครับ ไม่เป็นไร ที่ห้องพักนั้นเป็นอพาร์ทเม้นท์ชั้นสูงๆหน่อย เลยไม่ได้กังวลอะไร เลยถือโอกาสกลับไปพักที่บ้านเกิดต่างจังหวัดชั่วคราวและตอนนี้ก็คงต้องมาพักอยู่ออฟฟิศของบริษัทที่ทำงานไปสักพัก คิดถึงพระท่านที่อยู่ในห้องเหมือนกันจากท่านมาก็นาน ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้าง คงต้องรอให้น้ำลดก่อนแล้วค่อยว่ากัน

 

โมทนาสาธุครับ

ส่งมาตามที่อยู่ด้านล่าง
หลังจาก นนทบุรี น้ำลดแล้ว ช่วงนี้อยู่ในสภาวะวิกฤติน้ำท่วมขั้นตอนทุกอย่างอาจจะช้าหน่อย

สุรชัย ศรีอรุณลักษณ์
48/9 ม.9 ถ.บางกรวย-ไทรน้อย
ต.บางเลน อ.บางใหญ่ นนทบุรี 11140
โทร. 081-551-7374

กรณีการส่งพัสดุ
- ขอรับพระตั้งแต่ 1-10 องค์ ให้ส่งซอง กันกระแทกพร้อมติดแสต็มป์ 5-15 บาท จ่าหน้าซองถึงตัวท่านเองให้ชัดเจน
- ถ้าขอรับพระจำนวนมากเช่น 10-50 องค์ให้เป็นกล่องพัสดุขนาด ก พร้อมพลาสติกกันกระแทก
ติดแสตมป์ลงทะเบียน 20-47 บาท
- ถ้าขอรับพระจำนวนมากเช่น 50-99 องค์ให้เป็นกล่องพัสดุขนาด ข พร้อมพลาสติกกันกระแทก
ติดแสตมป์ลงทะเบียน 40-70 บาท
(หาก จะให้ลงทะเบียนแบบ ems เพื่อป้องกัันการสูญหาย ให้ท่านส่งเงินมาเพื่อทำการลงทะเบียนให้ได้นะครับ เงินที่เหลือขออนุญาตินำไปร่วมทำบุญสร้างพระผงแจกเป็นธรรมทานต่อไป)

 

ช่วงกลับไปพักที่บ้านต่างจังหวัด ธรรมจัดสรร ให้ได้มีโอกาสได้ไปร่วมบุญกฐินพระราชทานทอดถวายวัด บ้านไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา
อ.ภูิสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นวัดของหลวงปู่สรวงพระเกจิดัง ก็เลยถือโอกาสถ่ายรูปบรรยากาศในงานพิธีมาให้ได้โมทนาครับ


ที่มา:�������-��иҹ����Ѱ��ù٭�繻�иҹ�ѭ�ԭ��Ҿ�С�Թ����Ҫ�ҹ�ʹ�����Ѵ���ᴹ��-���٪�

วันที่ 30 ตุลาคม 2554 ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดฯ ทรงมีหมายสั่งที่32029ลงวันที่27กันยายน2554 ทรงพระราชทานผ้ากฐินให้นายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธานอัญเชิญผ้ากฐินพระราชทานทอดถวาย ณ วัดบ้านไพรพัฒนา ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งมีสังขารหลวงปู่สรวงที่ไม่เน่าเปื่อยร่วม 10 ปี พระเกจิย์อาจารย์ เป็นที่เคารพสักการะ กราบไหว้ขอพรคน 2 แผ่นดินไทย กัมพูชา ประชาชนโดยทั่วไป เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้นับถือพระพุทธศาสนา จึงนำผ้ากฐินพระราชทานทอดถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ที่จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส

อนึ่งในการทอดกฐินในครั้งนี้ทางศิษยานุศิษย์หลวงปู่สรวง ยังได้นำถุงยังชีพ ข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในการดำรงชีพ โดยนายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ มอบผ่านนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมในจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน200ชุด และมอบถุงยังชีพแก่ สถานนีวิทยุโทรทัศน์พระพุทธศาสนา ดีดีทีวี (DDTV)จำนวน300 ชุด เงิน จำนวน 75,000 บาท นำไปช่วยวัดที่ประสบปัญหาด้านอุทกภัยน้ำท่วม การทอดกฐินพระราชทานในครั้งนี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลถวายแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุ ยเดช ให้พระองค์ทรงมีพระชนมายุที่ยิ่งยืนนาน มีพระเกษมสำราญ ทรงเป็นมิ่งขวัญของพสกนิการชาวตลอดไป

ภาพอัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทาน

ภาพ สังขารหลวงปู่สรวงที่ไม่เน่าเปื่อยร่วม 10 ปี พระเกจิย์อาจารย์ เป็นที่เคารพสักการะ กราบไหว้ขอพรคน 2 แผ่นดินไทย กัมพูชา ประชาชนโดยทั่วไป เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้นับถือพระพุทธศาสนา
​

ภาพพระอุโบสถของวัด

​

ภาพพระมณฑปปราสาทหลวงปู่สรวงซึ่งอยู่ในช่วงดำเนินการก่อสร้างมีคามงดงามมากๆ

ก็ ขอเชิญนะครับ หากท่านใดพอจะสะดวกหรือมีเวลาก็อาจจะได้พาครอบครัวไปนมัสการกราบไว้สักการะ สังขารของหลวงปู่เพื่อน้อมระลึกถึงเป็นอนุสสติในธรรมะอันประสริฐอันงดงามของ ท่านนะครับ


ความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ
คำทำนายหลวงปู่สรวง(เทวดาเล่นดิน)
ทายไว้ก่อน2542:

<hr style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" size="1">

​

ต่อ ไปนี้ พ.ศ. 2555 คนเก่งอยู่ในเมืองไทย อยู่ที่ไหนก็ตามแต่ มุมไหนก็แล้วแต่ พ่อ - แม่ - ญาติพี่น้อง ไม่ต้องสู้ จะตายหมด น้ำทะเลตีข้างล่างได้ครึ่งโลกแล้ว ไม่ใช่ครึ่งประเทศนะ ครึ่งโลกแล้ว มาบอกให้หยุดนะ ไม่ต้องอยากชนะกันให้ออกไป อย่ามีเวร อย่ามีกรรม

ครั้งที่สองบอกอีก เป็นภาษาเขมรว่า ให้ออกก่อน

"พวกที่ทำลายศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ออกไปก่อน นางนาคเป่าน้ำน้ำทะเลเต็มไปหมด"

ให้มันไปแต่พวกนี้ ประมาณสองชั่วโมงกว่าๆ กลับเข้ามาก็ตีท่วมภูเขา มีทั้งดินมีทั้งโคลน

"พวกทำไม่ดีตายหมด" แกว่า...เทวดาตัดสินเอง เจ้ากรรมนายเวรตัดสินเอง หลวงพ่อไม่กลัว(ลป.สรวง) แล้วก็ไม่หนีด้วย หลวงพ่อนี่ในตัวสังขละ ท่านสร้างมาหลายวัดเหมือนกัน ไปอยู่ที่นั่นเขาเอาระเบิดเข้าไป สามปีมอบตัวกันหมด ที่ถนนดินแดงหลวงพ่อก็ไป

ถาม - ที่ หลวงปู่สรวง พูดหมายความว่ายังไง ?

ตอบ - แปลว่า ไม่ต้องกลัว 2555 นางนาคเป่าน้ำ ท่วมทั้งน้ำทั้งดิน ตายวอดวาย คนที่ไม่ดีตายหมด คนดีไม่ตาย

"คนดีมันเป็น ไม่ตายจะรอด"

ท่านบอกให้คอยดู แต่มาเป่านี่มันปี 2547 - 2550 ไม่ใช่สึนามินะ นางนาคสิเป่า ปี 55 แถวเราน้ำไม่มี เขาว่านางนาคเอาขึ้นข้างบน สามวันสามคืนก็เป็นลูกเห็บ ลูกที่หนึ่ง ลูกที่สอง ถูกใครตายระเนระนาด อย่าให้ถึงขนาดนั้น "คนดีไม่ตาย"

แกว่างั้นนะ ถ้าคนมีศีลห้าไม่ถูก ก็เรา ไม่ได้กบฎพระเจ้าอยู่หัว คนที่กบฎ คนที่อยากชนะ ผืนแผ่นดินนี้ตายแน่ จะยึดแผ่นดินเป็นหลักแค่นั้นแหละ ปีนี้นาคไม่ขึ้นที่หนองคาย นาคไม่ขึ้น

ขอขมาพระรัตนตรัย

​

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (ว่า 3 จบ)

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต้ อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ
​

หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก้อดี ด้วยกายก็ดี วาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี
ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ .

​

 

อ้างอิง:
<table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ tanakorn_ss

<table style="width: 80%" align="center"><tbody><tr><td>
</td><td>

[FONT=&quot] ขอเชิญร่วมงานบำเพ็ญกุศลพระครูธรรมกิจโกวิทมรณภาพครบ ๙ ปี [/FONT]​

[FONT=&quot] เนื่องในวาระพระครูธรรมกิจโกวิท (หลวงพ่อยงยุทธ ธมฺมโกสโล) อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาไม้แดง ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มรณภาพเมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๕ และได้เก็บสังขารหลวงพ่อไว้ที่กุฎิจะครบ ๙ ปี ในวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ วัดเขาไม้แดงพร้อมด้วยคณะศิษยานุศิษย์ และญาติ กำหนดประกอบพิธีบรรจุสังขารหลวงพ่อในรูปหล่อทองเหลืองยืนเดินธุดงค์ ขนาดสูง ๓.๓๖ เมตร ตามความประสงค์ของหลวงพ่อที่ได้สั่งการไว้ก่อนมรณภาพให้บรรจุสังขารของท่าน ไว้ในรูปหล่อทองเหลืองยืนเดินธุดงค์ที่จัดสร้างไว้เมื่อครั้งทำบุญอายุครบ อายุ ๖๐ ปี ตั้งแต่ปี ๒๕๓๐ พร้อมบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานถวายแด่หลวงพ่อ ในวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ มีกำหนดการดังนี้[/FONT]
** [FONT=&quot] เวลา ๐๙.๓๐ น. พระสงฆ์รับทักษิณานุปทาน[/FONT]
** [FONT=&quot] เวลา ๑๐.๓๐ น. พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ [/FONT]
** [FONT=&quot] เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์[/FONT]
** [FONT=&quot] เวลา ๑๒.๐๐ น. ทอดผ้าบังสุกุล/ถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์[/FONT]
** [FONT=&quot] เวลา ๑๒.๑๕ น. พระสงฆ์อนุโมทนา[/FONT]

</td></tr><tr><td colspan="2">

[FONT=&quot] ขอเรียนเชิญศิษยานุศิษย์ ญาติ และผู้เคารพนับถือหลวงพ่อทุกคนร่วมงานบำเพ็ญกุศลถวายแด่หลวงพ่อโดยพร้อม เพรียงกัน และมีการมอบรูปหล่อหลวงพ่อยืนเดินธุดงค์ขนาดเล็กเป็นที่ระลึก แก่ผู้ร่วมทำบุญด้วย [/FONT] ​

[FONT=&quot] สำหรับผู้ไม่สามารถมาร่วมงานที่วัดได้ ขอเชิญบริจาคร่วมทำบุญโดยโอนเงินผ่านธนาคารกรุงไทย สาขาศรีราชา [/FONT] ​

[FONT=&quot] ชื่อบัญชี พระอธิการสง่า ติกขวีโร และ พ.ต.ท.สินาท โสตถิปิณฑะ และนายปฤณพจน์ นิสยะพันธุ์ [/FONT] ​

[FONT=&quot] เลขที่บัญชี 208-0-38347-7[/FONT][FONT=&quot] และส่งรายการบริจาค /ชื่อที่อยู่ [/FONT] ​

[FONT=&quot] มายังวัดเขาไม้แดง หรือ [/FONT] [FONT=&quot]ปฤณพจน์ นิสยะพันธุ์[/FONT][FONT=&quot]
โทร 02-5082309 ,081-4229929
Fax 02-9483169
Email aunnop.ni@gmail.com parin_nisaya@hotmail.com

[/FONT] [FONT=&quot] หรือแจ้ง โดยการโพสต์ มายังเวบไซด์ [/FONT] www.watkhaomaidang.org​

[FONT=&quot] เพื่อออกใบอนุโมทนาบัตรให้ต่อไป [/FONT]​

[FONT=&quot] *สอบถามรายละเอียดที่วัดเขาไม้แดง โทร. ๐๘๑-๗๖๒-๑๗๐๘, ๐๘๐-๔๔๑-๙๕๙๙/ [/FONT] www.watkhaomaidang.org​

</td></tr> </tbody></table>

เข้าสู่เว็บไซต์​

​

</td> </tr> </tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td align="center" background="/images/linedot_vert.gif" valign="center" width="1"></td><td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="center"></td></tr></tbody></table></td><td align="center" background="/images/linedot_vert.gif" valign="center" width="1"></td></tr><tr><td align="right" height="1" valign="top" width="1"></td><td align="center" background="/images/linedot_hori.gif" height="1" valign="top"></td><td align="left" height="1" valign="top" width="1"></td></tr></tbody></table>
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="left" height="12" valign="bottom"></td></tr><tr><td bgcolor="#cccccc"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#ffffff" valign="top"><table cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="top" width="160"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="4" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="body" align="center" valign="baseline">คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</td></tr></tbody></table><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="center"></td></tr></tbody></table>
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="center"></td></tr></tbody></table>
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" height="1" valign="center" width="165"></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td><td background="/images/linedot_vert3.gif" width="4"></td><td align="center" valign="top"><table border="0" cellspacing="7" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="baseline">ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านตะลึง.พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองชลบุรี ละสังขารเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ร่างกายแห้งแข็งคล้ายหิน

วันนี้(12 พ.ย.54) ที่วัดเขาไม้แดง อำเภอศรีราชา จ. ชลบุรี ได้มีพิธีบรรจุสังขารพระครูธรรมกิจโกวิท (หลวงพ่อยงยุทธ ธมฺมโกสโล) อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาไม้แดง ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มรณภาพไปเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2545 และได้เก็บสังขารหลวงพ่อไว้ที่กุฎิซึ่งจะครบ 9 ปี ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2554

พระอธิการสง่า ติกขวีโร เจ้าอาวาสวัดเขาไม้แดง เปิดเผยว่าวันนี้ทางวัดเขาไม้แดง พร้อมด้วยคณะศิษยานุศิษย์ และญาติ ได้กำหนดประกอบพิธีบรรจุสังขารหลวงพ่อในรูปหล่อทองเหลืองยืนเดินธุดงค์ ขนาดสูง 3.36 เมตร ตามความประสงค์ของหลวงพ่อที่ได้สั่งการไว้ก่อนมรณภาพให้บรรจุสังขารของท่าน ไว้ในรูปหล่อทองเหลืองยืนเดินธุดงค์ที่จัดสร้างไว้เมื่อครั้งทำบุญอายุครบ อายุ 60 ปี ตั้งแต่ปี 2530 และในวันที่ 17พ.ย.2554 นี้ จะประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานถวายแด่หลวงพ่อ

พระครูธรรมกิจโกวิท" หรือ "หลวงพ่อยงยุทธ ธัมมโกสโล" เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองชลบุรี มีเมตตาธรรมสูง มักน้อยถือสันโดษ มีพลังจิตที่เข้มขลังอาคมที่แก่กล้า นามของท่านจึงขจรขจายไปไกลทั่วภาคตะวันออก มีนามเดิมว่า จำปี แก้วไพรำ เกิดเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2470 ในเรือนแพจอดอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา เขตอำเภอไชโย จ.อ่างทอง โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายเชียงและนางถุงเงิน แก้วรำไพ ครอบครัวมีพี่น้อง 5 คน

เมื่อช่วงวัยเด็ก พ่อกับแม่ได้ไปฝากกับญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง คือ พระครูโกวิทนวการ หรือหลวงปู่โห้ เจ้าอาวาสวัดวงษ์ภาศนาราม เพื่อให้ได้ศึกษาเล่าเรียน ก่อนได้เข้ารับการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดมะขาม กระทั่งจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 หลังจากนั้นก็ได้ศึกษาต่อที่โรงเรียนปัทมโรจน์ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดอ่างทอง จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

ต่อมาท่านได้เปลี่ยนชื่อเป็น "ยงยุทธ" หลังจากนั้นได้เดินทางมาศึกษาต่อที่โรงเรียนวุฒิศึกษา แถวฝั่งธนบุรี จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 8 ก่อนที่จะทำงานที่วิทยุการบินแห่งประเทศไทย

เมื่ออายุ 23 ปี ได้ลางานพักผ่อน 15 วัน และท่านตัดสินใจบวช เพื่อทดแทนคุณบิดามารดา ณ วัดบ้านป่า อ.ไชโย จ.อ่างทอง โดยมีพระครูโกวิทนวการหรือหลวงปู่โห้ เจ้าอาวาสวัดวงษ์ภาศนาราม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูวิบูลสังฆกิจ เจ้าคณะอำเภอไชโย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และพระอธิการตี๋ เจ้าอาวาสวัดประสาท เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายาว่า ธัมมโกสโล ครั้นใกล้ครบกำหนดลางาน 15 วัน ปรากฏว่า พระยงยุทธไม่ยอมลาสิกขาบท ตัดสินใจบวชต่อ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย อีกทั้งมุ่งมั่นฝึกฝนกัมมัฏฐาน จนเกิดความสุขสงบทางใจ

ท่านได้มีโอกาสศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐาน จากหลวงปู่ลิ้ม วัดไทรใต้ จ.นครสวรรค์ และครูจาบ สุวรรณ เป็นฆราวาส เชี่ยวชาญด้านกสิณมาก ในปี พ.ศ.2502 ท่านได้ออกเดินธุดงค์ผ่านมา จ.ชลบุรี พบว่าบริเวณเขาไม้แดงนั้น มีความร่มรื่นอาณาบริเวณเงียบสงบ ท่านตัดสินใจจะสร้างวัดที่เขาไม้แดง เริ่มจากพัฒนาสร้างศาสนสถานชั่วคราว เป็นกุฏิที่พักสงฆ์ หรือศาลาโรงธรรมอื่นๆ ทำด้วยไม้และมุงด้วยจาก

เรื่องราวที่พระอาจารย์ยงยุทธ ได้ทราบไปถึง จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ให้ความสนับสนุนส่งเสริม มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทหารจำนวนหนึ่งไปตรวจสอบสถานที่และทำรายงานมาเสนอทาง ราชการ แต่ผ่านไปเพียง 3 เดือน จอมพลสฤษดิ์ ได้ถึงแก่อสัญกรรม ทำให้แผนพัฒนาวัดเขาไม้แดงหยุดชะงักไป

หลวงพ่อยงยุทธ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ชั้นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนามที่ พระครูธรรมกิจโกวิท ด้วยความที่หลวงพ่อยงยุทธ เป็นผู้ที่มีชาวบ้านให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก หลวงพ่อยงยุทธจึงได้สร้างวัตถุมงคลเอาไว้หลายรุ่น ทั้งเหรียญพระ รูปหล่อ ฯลฯ ได้รับความเลื่อมใสจากบรรดาทหาร ที่นิยมหาพระเครื่องของหลวงพ่อยงยุทธไปคล้องคอติดตัว เพื่อความเป็นสิริมงคล เมื่อย่างเข้าสู่วัยชรา ท่านก็มีโรคประจำตัว คือ โรคหัวใจ ต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ในวันที่ 1 พ.ย.2545 ด้วยโรคถุงน้ำดีอักเสบและโรคหัวใจ หลวงพ่อยงยุทธ ธัมมโกสโล ได้มรณภาพด้วยอาการอันสงบ เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2545 เวลา 05.45 น. สิริอายุ 75 ปี 2 เดือน พรรษา 52

การจากไปของท่านได้สร้างความเศร้าสลดแก่คณะศิษย์และผู้ที่ศรัทธาในตัวหลวง พ่อเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ สังขารของหลวงพ่อยงยุทธ คณะกรรมการวัดเขาไม้แดง ได้บรรจุไว้ในโลงแก้ว ตั้งในกุฏิของท่าน เพื่อให้คณะศิษย์ได้มากราบไหว้

</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="right" height="10" valign="top"></td></tr></tbody></table>

 

ร่วมประชาสัมพันธ์บอกบุญ

ร่วมสร้างหลวงปู่ดู่นั่งสูง 25 เมตร
ที่สถานธรรมพุทธพรหมปัญโญ จ.เพชรบูรณ์

แบบรูปหล่อหลวงปู่ดู่ ที่จะสร้างที่ สถานธรรมพุทธพรหมปัญโญ สาขาอำเภอท่าด้วง จ.เพชรบูรณ์

สถานที่สร้างหลวงปู่ดู่ที่ อ.ท่าด้วง จ.เพชรบูรณ์

​

หลวง ตาม้าท่านเดินทางไปตรวจสอบสถานที่ๆ สร้างหลวงปู่ดู่ 25 เมตร ด้วยตัวท่านเอง ซึ่งท่านมีความเมตตา และวิริยะอดทน ในการทำงานบุญให้หลวงปู่ดู่ และเหตุผลที่จะสร้างสถานธรรมแห่งนี้ เนื่องจากท่านทำไว้ให้ญาติธรรมทั่วโลก ได้มีที่พักพิง และปฎิบัติธรรมในแนวทางหลวงปู่ดู่ อย่างสมบูรณ์เพียบพร้อม และท่านยังได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ ปรับถนนทางเข้า และปลูกพืชไร่สวนครัว เพื่อให้ลูกศิษย์ได้มีแหล่งอาหารอย่างดีครับ จะเห็นได้ว่าปัจจัยทั้งหมดที่ทุกท่านได้ร่วมบุญมา หลวงตาท่านนำมาสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวม เพื่อให้สร้างกระแสบุญน้ำไหลให้ทุกท่านได้มีแสงสว่างบุญตลอด และติดตัวไปทุกภพทุกชาติไป

เชิญ ร่วมมหาบุญใหญ่สร้างพระหลวงปู่ดู่นั่งสูง 25 เมตร ที่อำเภอหนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ และวันที่ 5 มิ.ย. 2554 หลวงตาม้าจัดให้มีงานหล่อหลวงปู่ดู่องค์จำลอง 5 องค์ เพื่อเป็นต้นแบบขององค์จริง 25 เมตร ที่โรงหล่อนครชัยศรี

ทุกท่านทั่วโลกสามารถโอนเงินเข้าบัญชีเพื่อร่วมบุญเพื่อพระพุทธศาสนาในทุกอย่าง ได้ที่

ชื่อ พระวรงคต วิริยธโร

ธ.กรุงเทพฯ สาขา ตลาดแม่มาลัย

เลขที่ 458-0-63261-2

งบประมาณในการสร้าง 6 - 10 ล้านบาท

หลวง ตาบอกว่า การร่วมกันสร้างหลวงปู่ดู่ และสถานธรรมพุทธพรหมปัญโญ นั้นมีประโยชน์มาก เพราะว่า ผู้ที่ร่วมกันสร้าง อานิสงค์จะติดตามท่านไปทุกภพชาิติไป เพราะว่าหลวงปู่ดู่ ท่านเป็นพระพระโพธิสัตว์ และหลวงตาม้าท่านใช้บทสวดจักรพรรดิในการสวดภาวนามาตลอด ดังนั้นผู้ที่ร่วมสร้างหลวงปู่ดู่ และสถานธรรมพุทธพรหมปัญโญ ทุกท่านจะได้ีรับกระแสบุญน้ำไหลอย่างมิประมาณ เนื่องจาก พลังงานโพธิญาณ และพลังงานจักรพรรดิ นั้นจะมีตั้งแต่ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้ทุกท่านมีความสำเร็จ ทั้งทางโลก และทางธรรม กระแสเงินทอง โชคลาภ จะหลั่งไหลเข้ามาหาทุกท่านอย่างมิประมาณตลอดทุกภพชาติไป
จึงขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมกันสร้างมหาบุญใหญ่น้ำไหลนี้กับท่านหลวงตาม้าเพื่่อเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาตราบเท่า ๕๐๐๐ ปี
​

​

ที่มาของข้อมูลติดต่อได้ที่:http://www.watthummuangna.com/home/community/index.php/topic,1502.0.html



ธรรมมะคือธรรมชาติ ของสรรพสิ่งทั้งหลายมีความเกิดดับเป็นธรรมดา
​

 

ผมก็เป็นลูก-หลานขององค์หลวงปู่ทวด ขออนุโมทนาในกุศลจิตที่ดีงามของกลุ่ม วัดถ้ำเมืองนะ เเละผู้มีส่วนร่วมทุกท่านในการสืบทอดพระพุทธศาสนา เเละผู้ปฏิบัติดีปฎิบัติชอบตามเเนวทางเเห่งพระพุทธศาสนา ขอให้เจริญทั้งทางโลกเเละทางธรรมนะครับ ผมหวังว่าสักวันคงได้ร่วมสร้างบุญกับกลุ่ม วัดถ้ำเมืองนะ หรือผู้มีส่วนร่วมทุกท่าน เเละท่านผู้เจริญในธรรมที่หวังเข้าสู่นิพพานตามรอย พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอรหันต์สาวกในพุทธกาลทุกๆองค์ พระอริยะสงฆ์อภิญญา 6 ทุกๆองค์

 

รับทราบครับ
ขอรับพระ 400 องค์ เพื่อนำไปแจก ช่วงปีใหม่ พอมีอยู่หรือเปล่าครับ นำลดแล้วจะโอนเงินไปให้ครับ

จัดส่งตามนี้นะครับ
พ.อ.อ.ประกิจพัฒน์ ทรัพย์เมฆ
135/11 หมู่บ้านแกรนด์วิลล์ ม.2 ถ.สายเอเซีย ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000

 

สาธุ ขอโมทนา


​

 

โมทนาครับ รอให้น้ำลดสถานการณ์เป็นปกติก่อนแล้วค่อยว่ากัน


สำหรับท่านใดที่ข้าพเจ้าได้ติดค้างเรื่องการจัดส่งหรือเรื่องต่างที่ได้คุยตกลงไว้นั้น เนื่องจากช่วงนี้ยังไม่มีความสะดวกจริงๆ หากสถานการณ์ปกติแล้วจะรีบดำเนินการตามปกติ

ต้องกราบขออภัย ม ณ.โอกาสนี้เป็นอย่างสูงนะครับ

 

ความเชื่อและความศรัทธาของส่วนบุคคล
​

ช่วงนี้อยู่ในภาวะน้ำท่วมอยู่ ทำให้ไม่มีความสะดวกในการจัดส่งพระได้ ทุกอย่างอาจหยุดชะงักอย่างกะทันหัน คงต้องรอไปสักระยะนะครับ ต้องกราบขออภัยกัลญาณมิตรทุกๆท่่านในความไมสะดวกด้วยประการทั้งปวง

และช่วงน้ำท่วมแบบนี้บางท่านอาจจะต้องเดินลุยน้ำ สัญจรไปตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งน้ำที่ท่วมขังนั้นก็ไม่แน่ใจว่ามีเชื้อโรคอะไรแฝงมาบ้าง ซึ่งกลับมาบ้านอาจจะต้องหาน้ำยงน้ำยาฆ่าเชื้อต่างๆมาทำความสะอาด หรือวิธีการต่างๆในการจะชำระสิ่งสกปรกต่างๆ ที่มากับน้ำ หรือบางท่านอาจจะหาน้ำมนต์มาดิ่มมาอาบเพื่อเพิ่มความมั่นใจ และกำลังใจให้กับตนเอง ก็เลยขอแนะนำว่าท่านใดที่ได้รับเหรียญพระทำน้ำมนต์ จากครูบาอาจารย์ที่ท่านได้ทรงทราบด้วยญาณของท่านในอนาคตภาคหน้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภัยพิบัติต่างๆ ไม่ว่าจะป้องกันเชื้อโรคต่างๆหรือกัมมันตรังสีที่มาจากการทำสงครามของประเทศต่างๆ และได้มีเมตตาสร้างเเก็บไว้เป็นที่ระลึก ไว้เป็นอนุสติ มาอธิษฐานเพื่อทำน้ำมนต์ก็ดีนะครับ ดีกว่าเก็บวางไว้เฉยๆ โดยไม่ได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์

เช่นเหรียญทำน้ำมนต์เหรียญหรือพระผงของหลวงปูดู่ หลวงตาม้า หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) หลวงพ่อปาน

เพียงผู้ที่มีเหรียญเหล่านี้อยู่ในมือ ก็ตั้งจิตอธิษฐานขอบารมีของ หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) หลวงพ่อปานได้โปรดเมตตา
อาราธณาขอบารมีของท่าน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอทำน้ำมนต์ เพื่อการรักษา เพื่อ..........(แล้วแต่จะขอ)

น้ำมนต์นี้อาจจะสามารถช่วยบรรเทา/รักษา/ขจัดพิษ/ไล่เหล่าอสูรกายให้หลีกห่างออกไปได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมีศิล ๕ เป็นพื้นฐาน ความศรัทธา มีความเชื่อในคุณพระรัตนตรับและคุณบารมีของครูบาอาจารย์ และต้องไม่เกินวิสัยกฏแห่งกรรม ซึ่งอาจจะไม่มีผลกับทุกท่าน ด้วยเหตุและปัจจัย แต่อย่างน้อยสิ่งที่ทำก็ทำให้มีความเชื่อมั่น มั่นใจ และทำให้ได้บุญจากการระลึกคุณพระรัตนตรัย โดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย

โอกาสนีีขออนุญาตินนำวิธีการนำเหรียญพระมาทำน้ำมนต์ให้ท่านที่สนใจได้ทราบเพื่อเป็นวิทยาทานอาจจะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านไม่มากก็น้อย

​

คาถาที่ใช้คู่ กับพระกำลังพระจักรพรรดิทุกรุ่น
(รวมทั้งพระทุกๆองค์ที่หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้าท่านได้เมตตาสร้างไว้)


พระคาถามหาจักรพรรดิ


นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ

มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา

พุทโธธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ

พุทธะบูชา ธัมมะบูชาสังฆะบูชา

อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลีจะมหาเถรัง

อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิธาตุโย

อะหังวันทามิ สัพพะโส

พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ



คาถาอาราธนาพระเข้าตัว

สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา

พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง

อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส

(สวด 3 จบ หรือ 5 จบได้)



คำกำหนดอธิษฐานจิต

พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ

ใช้พระผงจักรพรรดิแบบหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า อธิษฐานทำน้ำมนต์รักษาโรค

หลักการ

พระสูตรหลวงปู่ดู่ จะมีการแช่น้ำมนต์จักรพรรดิ ก่อน 3-15 วัน น้ำมนต์จักรพรรดินี้รักษาโรคและปรับธาตุ 4

ในร่างกายได้ดีมาก (ประสบการณ์ตรง) หากต้องการโปรดไปขอได้ที่วัดของหลวงตาม้าครับ เรื่องหวัดนก

ที่เรากลัวกัน แม้กระทั่งเอดส์ นอกจากจะใช้วิชาของหลวงพ่อฤาษีในการป้องกัน รักษาแล้ว

ก็สามารถใช้น้ำมนต์จักรพรรดิป้องกันและรักษาได้เช่นเดียวกัน (หลวงปู่ดู่ท่านทราบล่วงหน้า

เรื่องโรคระบาดต่าง ๆ และได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าเช่นกัน) พระนี้ (โดยเฉพาะที่ยังไม่ได้เลี่ยมกรอบ)

จึงใช้แช่น้ำมนต์รักษาโรคได้ทุกประการ ยิ่งได้ถ้าได้ใช้ร่วมกับเหรียญทำน้ำมนต์ สูตรหลวงปู่ดู่

ซึ่งตอนนี้อหลวงตาม้าเท่านั้น

ที่สืบทอดวิชามา เท่านั้นที่ทำได้ + กับวิชาการรักษาโรคของหลวงปู่แล้ว

จะหายได้ดีขึ้น แต่ถ้าไม่หนักหนานัก ลองเพียงแค่สูตรที่ผมกำลังแนะนำนี้สิครับ ....



วิธีการ
๑. ให้นำพระเลี่ยมก็ได้ไม่เลี่ยมก็ได้ไม่ต่างกัน มากำสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ 7 จบ แล้ว อธิษฐานว่า

ข้าพเจ้าผู้เป็นผู้รับใช้พระพุทธศาสนา ขออัญเชิญบารมีแห่งพระพุทธเจ้าทุก ๆพระองค์ นับตั้งแต่ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีพระบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด (อันนี้จำเป็นต้องขอบารมีท่านโดยตรง)ขอได้โปรด ให้น้ำใด ๆก็ตามไม่ว่าเล็กว่าน้อย หรือมากมายดังมหาสมุทร ที่ถูกแช่ในพระผง

กำลังพระจักรพรรดินี้ จงมีพุทธานุภาพ ธรรมมานุภาพ สังฆานุภาพ และมหิทธานุภาพ เฉกเช่นเดียวกับหัวเชื้อน้ำมนต์จักรพรรดิทุกประการ เพื่อใช้ในการมงคลทั้งปวง เพื่อใช้ในการปรับธาตุทั้ง 4 และรักษาโรคภัยทุกประเภท

ขอบารมีอันหาที่สุดมิได้ของหลวงปู่ จงโปรดให้เป็นไปตามคำอธิษฐานแห่งข้าพเจ้านี้ด้วยเถิดจึงค่อย ๆจุ่มพระลงในภาชนะใส่น้ำ

(พระสูตรท่านชอบน้ำครับ สำหรับองค์ที่ยังไม่เลี่ยมแช่ได้เลยไม่ต้องห่วงยิ่งแช่น้ำยิ่งแกร่งไม่ต้องเกรงว่าพระจะร่วนแตกหักหรือ)


๒. จากนั้นจึงกล่าว คำอัญเชิญพระเข้าตัว

สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา

พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง

อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส


(ในระหว่างนี้ให้วางจิตเบา ๆ โน้มนำพระบารมีเข้าตัว หรือผู้ที่ได้แล้ว จะเห็นเองว่าจะมีพระบารมีเข้าตัวเป็นแสงสว่างวาบไปหมด
ในขณะเดียวกับแสงนั้นก็พุ่งตรงไปยังน้ำทั้งภาชนะ และจะรู้สึกว่าน้ำนั้นจะมีกระแสเย็นชุ่มชื่น ดื่ม กินแล้วก็รู้สึกสดชื่น)


พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ

การนำไปใช้จริง

๑. บ้านใดที่มีถังน้ำใหญ่ หรือโอ่งมังกร แนะนำให้แช่พระไว้ตลอดอย่างนั้น จะได้ไม่ต้องอธิษฐานหลายครั้งครับ

ให้กินอาบ ใช้ จนเลือดจนเนื้อ เป็นกำลังพระจักรพรรดิเลยครับ ทำได้อย่างนี้ ผิวพรรณจะเยาว์ลง และยังมีผลเรื่องป้องกันรังสีด้วย


๒. จะใช้กิน อาบ ล้างอะไรก็แล้วแต่ ได้ทั้งนั้น มีคนเคยถามหลวงปู่ว่าไม่เป็นอะไรหรือ หลวงปู่ก็ว่า

" น้ำมนต์ข้าเป็นของดี จะเอาไปทำอะไรก็ดีหมด "

๓. หัวเชื้อน้ำมนต์จักรพรรดินี้ต่อได้เหมือนน้ำมันชาตรีของหลวงพ่อปาน หรือของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงตาม้าท่านบอกว่า "

แม้เพียงหยดเดียวของน้ำมนต์จัรพรรดิ เมื่อหยดลงในตุ่ม น้ำทั้งตุ่มนั้นก็จะกลายเป็นน้ำมนต์จักรพรรดิหมด

" เราก็แช่พระไว้ในภาชนะใดก็ได้ตลอดเวลา แล้วคอยเติมอยู่เสมอไม่ให้แห้ง แล้วก็เอาน้ำมนต์หัวเชื้อนี้คอยเติมภาชนะต่าง ๆ

เอา จะเอาไปแจกจ่ายก็ได้ครับ

๔.ไม่ต้องกลัวพระธรรมธาตุหลุดครับ พระธรรมธาตุท่านเกาะที่ผิวพระอยู่แล้ว เพียงแต่อย่าเอาอะไรไปขัดไปถูเป็นใช้ได้

ที่มา ความรู้เกี่ยวกับพระผงจักรพรรดิ(วัดถ้ำเมืองนะ)

​

วิธีทำน้ำมนต์ ตามตำราหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ให้เอาน้ำใส่บาตร แล้วเพ่งจิตสู่ก้นบาตร ระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในอดีตถึงปัจจุบันทั้งหมด แล้วสวดอิติปิโส ๓ ห้อง ขณะสวดเพ่งจิตสู่ก้นบาตร แล้วอธิฐานว่า ขอกระแสน้ำนี้ จงซาบซ่านไปทั่วสรรพทางกาย กำจัดโรคพยาธิของมนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ให้หายโดยฉับพลัน แล้วสวดอิติปิโส ต่อไปจนจบ อธิฐานตามเดิมอีกครั้ง เอามือวนรอบบาตร ว่า อิติปิโส ๓ ห้องอีก ๑ รอบ เป็นอันเสร็จพิธี

วิธีเอาวัตถุมงคลทำน้ำมนต์

จัดเครื่องสักการะบูชาเท่าที่หาได้ ไหว้พระ แล้วเอาวัตถุมงคลใส่มือ ตั้งจิตอธิฐานว่า ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมี พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยะสงฆ์สาวกทั้งหลาย สืบๆกันมา มีองค์หลวงปู่ปาน และองค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน เป็นที่สุดตลอดถึงพรหมและเทวดาทั้งหมด และ(ออกชื่อวัตถุมงคลที่อยู่ในมือ เป็นลูกแก้วก็ดี เหรียญทำน้ำมนต์ก็ดี พระพุทธรูปก็ดี ว่าไปตามวัตถุมงคลที่มีอยู่)

ขออาราธนาเชิญมาประชุมในที่นี้ ขอให้พระคุณทั้งหลายที่กล่าวอาราธนามาทั้งหมดนี้ ขอได้โปรดสงเคราะห์ ทำน้ำในบาตรนี้ ขอให้เป็นยาทิพย์อันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อคนเจ็บป่วยนั้นกินและทาแล้ว ขอให้รักษา ขอให้คนป่วยหายจากโรคภัยไข้เจ็บนั้นทันทีทันใด ขัดข้องอย่างใดอย่างหนึ่งขอให้คุณพระคุณเทพ คุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงช่วยขจัดปัดเป่าให้หายวันหายคืน

ข้าพเจ้าขออาราธนาพระบารมีพระคุณทั้งหลาย จงช่วยโปรดสัตว์ด้วยเถิดฯ แล้วนำวัตถุมงคลนั้นลงแช่ในบาตร หรือในขันน้ำที่เตรียมมานั่งรอสัก ๕ นาที แล้วกราบ ๓ หน เอาน้ำที่อธิฐานนี้ให้คนป่วยดื่มแล้วเอาน้ำลูบศีรษะคนไข้ แขน ตลอดทั่วตัว ใช้พระคาถาพระพุทธเจ้า ๑๖ พระองค์ กำกับไปด้วยว่า

"นะมะ นะอะ นอกอ นะกะ กอออ นออะ นะอะ กะอัง อุมิ อะมิ มะหิ สุตัง (สุสะ นิติ ลิสะ ลิยัง หรือ สุนะพุทธัง อะสุนะอะ)

แล้วเป่าหัวคนป่วยด้วยพระคาถาขับผีว่า "คัจฉะ ปาปิมะ" ให้คนป่วยกินน้ำมนต์ไปจนกว่าจะหาย

ถ้าเป็นจำพวกผ้ายันต์ก็ทำแบบเดียวกัน บูชาไฟ ไหว้พระอาราธนาเหมือนกัน แต่ให้นำผ้ายันต์โบกเหนือขันน้ำมันต์ ๓ ครั้ง ไม่ต้องแช่น้ำ

​

วิธีใช้พระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
​

​

พระ ปาน วัดนมโค มีศรัทธาให้สร้างพระพิมพ์ทั้ง ๖ อย่าง มีรูปสัตว์ พาหะนะเป็นเครื่องบูชาพระ และสำหรับเป็นที่บูชาแก่เทวดาและมนุษย์สำหรับรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้เป็น บางอย่างแต่พอที่สมควรจะหาย ที่ไม่สมควรหายก็รักษาไม่ได้ วิธีที่จะอาราธนารักษาไข้เจ็บดังจะแสดงต่อไปนี้

แก้อสรพิษต่างๆ มี งู จระขาบ แมลงป่อง ปลาดุก แขยง สาหร่าย ปลากระเบนยอก ต่อแตนต่อย ให้อาราธนาพระใส่ขันน้ำมนต์ เมื่อจะอาราธนาให้เอาดอกไม้ธูปเทียนตามแต่จะหาได้ บูชาแล้วอาราธนาดังนี้ “ขออาราธนาบารมีของพระพุทธเจ้ากับ รูปสัตว์พาหะนะเป็นเครื่องบูชา มีครุฑ ไก่ เม่น ปลาเสือ นกกระจาบ วานร ทั้ง ๖ อย่างนี้จะ(จง)ช่วยถอนพิษ....... (ออกชื่อตามชื่อของอสรพิษที่กัด งู ก็บอกว่า จระขาบก็บอกว่าจระขาบเป็นต้น).....จงหายด้วยบารมีของพระและรูปสัตว์พาหะนะ ที่บูชาขออาราธนาให้หายโดยเร็ว” ว่า ๓ หน แล้วเอาน้ำมนต์นั้นกินบ้างแล้วพ่นตั้งแต่ศีรษะตลอดเท้า ๓ หน แล้วเอาพระวางที่ปากแผลจะคว่ำหรือหงายก็ตาม แต่เอาศีรษะ(พระเศียรของพระ)ให้ขึ้นตามศีรษะตน


​

ถ้า งูกัดที่ศูนย์ห้าแห่งคือ กึ่งศูนย์แข้ง ขา สะดือ ศอก แขน เหล่านี้แก้หายน้อย ตายมาก ถ้ากัดพ้นศูนย์หายมากตายน้อย วิธีแก้อสรพิษกล่าวแต่ย่อๆเท่านี้ฯ

ต่อไปนี้จะแก้โรคไข้ต่างๆ มีอสรพิษที่กล่าวแล้วเป็นต้น จำจะต้องทดลองดูเสียก่อนให้รู้แน่ว่าเป็นโรคในตัวหรือจะถูกอะไรอยู่ เอาพระทำน้ำมนต์บูชาเหมือนดังกล่าวแล้วในเบื้องต้นและอธิษฐานดังนี้ “ขออาราธนาบารมีของพระพุทธเจ้ากับรูปสัตว์พาหะนะที่บูชา มีครุฑ ไก่ เม่น นกกระจาบ วานร ปลาเสือ ขออาราธนาแก้โรคอย่างนี้” ว่า ๓ หน แล้วเอาพระอมไว้ข้างแก้มสักครู่หนึ่ง ให้สังเกตน้ำลายดูว่ามีรสอย่างไรบ้าง

ร้อน ถ้าเขาบอกร้อนหูร้อนแลหน้าให้ทายว่าถูกน้ำมันพราย วิธีที่จะรักษา ให้ทำน้ำมนต์อาราธนาถอนน้ำมันพราย ว่า ๓ หน เอาน้ำมนต์กินบ้างอาบบ้าง แล้วเอาพระวางบนขมิ้นผงอาราธนาเหมือนทำน้ำมนต์แล้วเอาละลายกับน้ำมนต์กินบ้างทางบ้างให้ทั่วตัว

ยันหน้า ถ้าเขาบอกว่าขึ้นหน้าสู้ๆเหมือนยันหมาก ให้ทายว่าถูกคุณผี วิธีทำน้ำมนต์ก็คล้ายกันแต่ให้เปลี่ยนชื่อว่าแก้คุณผีเท่านั้น ขมิ้นก็กินบ้างทาบ้างเหมือนกัน(จน)กว่าจะหายยัน

รสขม ถ้ามีรสขมมากและน้อยให้ทายว่าถูกคุณคน ทำน้ำมนต์อาราธนาแก้คุณคนที่เขาทำมาอย่างไรๆ อยู่ในกายหรือนอกกาย ให้ขอบารมีของพระพุทธเจ้ากับ รูปสัตว์พาหะนะที่บูชาขออาราธนาแก้ให้หลุดให้ถอนโดยเร็ว ว่า ๓ หน แล้วเอาน้ำมนต์กินบ้างอาบบ้าง แล้วอมพระดูใหม่ ถ้าขมน้อยลงไปคงจะหาย ถ้าขมมากขึ้นไปว่าโรคนี้ทวีขึ้น จะรักษาต้องเอาเข้าตอกดอกไม้ธูปเทียนหนักหนึ่งบาทจุดบูชาพระตามสมควร แล้วอาราธนาแก้คุณคนเหมือนดังกล่าว ว่า ๓ หน เอาน้ำมนต์กินบ้างอาบบ้างเอาพระอมดูใหม่ (ถ้า)ขมน้อยลงไปก็คงหาย ถ้าขมมากขึ้นต้องขอเครื่องบูชาเขาใหม่อีกครั้งหนึ่ง บูชาพระเหมือนอย่างเดิมทำน้ำมนต์อธิ ฐานเหมือนข้างต้นแล้วเอาน้ำมนต์กินบ้างอาบบ้างแล้วอมพระดูใหม่ ถ้าขมน้อยลงไปก็พอรักษาได้ ถ้ากลับขมมากขึ้นไปก็ให้บอกเลิกเขาเสียให้หมออื่นเขารักษา ถ้าขัดบวมด้วยคุณผีคุณคน เอาพระวางบนแป้งอาราธนาให้ถอนคุณผีคุณคนและสิ่งของต่างๆ แล้วเอาแป้งละลายน้ำมนต์พอกที่ขัดแลบวม

รสหวาน ถ้า อมพระแล้วมีรสหวานมากแลน้อย ให้ทายว่าต้องแรงสินบนให้นึกดู ถ้าเขาบอกว่าบนไว้ตามแต่เขา(เจ้า)จะรับหรือไม่รับ ถ้าเขาบอกว่ารับให้จุดธูป ๑ ดอกบอกเขา(เจ้า)ที่กลางแจ้ง กลับมาอมพระดูใหม่ ถ้ายังหวานอยู่บอกว่ายังไม่หมดแรงสินบน ถ้าหมดหวานก็ให้รักษาต่อจนกว่าจะหาย

รสเปรี้ยวถ้าอมพระแล้วมีรสเปรี้ยวมากแลน้อย ให้ทายว่าต้องเสนียดต่างๆ ให้เจ้าของไข้นึกดูว่าเสนียดสิ่งไรก็แก้สิ่งนั้นเสียแล้วรักษาต่อไป

ไม่มีรสหรืออาการใดๆถ้าอมพระแล้วไม่เป็นดังที่กล่าวมาให้ทายว่าโรคในตัว ถ้าจะแก้ให้ทำน้ำมนต์เหมือน ดังกล่าวแล้วในเบื้องต้น เปลี่ยนกันแต่ชื่อโรคและไข้เท่านั้น ใช้ได้หลายอย่างทั้งเด็กและผู้ใหญ่จะกิน จะพ่น จะอาบ ก็ตามแต่สมควร

วิธีแก้ปวดต่างๆมีหัวดาว หัวเดือน ตะมอย ละลอกแก้ว ละลอกกาฬ และฝีต่างๆ และโรคกาฬ ให้ทำน้ำมนต์อธิ ฐานให้ละลาย แก้พิษปวดต่างๆ ว่า ๓ หน กินบ้างอาบบ้างพ่นที่ศีรษะ ๓ หนแล้ววางพระที่หัวละลอก หัวฝีต่างๆเป็นต้น เป่าตรงพระลงไป ๓ หน ถ้าร้อนคงละลาย ถ้าเย็นคงแตก เมื่อแตกแล้วจะขอแป้งและขมิ้นพอกทาตามสมควร ถ้าร้อนให้เอาพระวนที่หัวฝี หัวละลอกเป็นต้น ว่า ๓ หน คงละลาย

วิธีรักษาตาลม ตาแดง ตาต้อต่างๆ ให้เอาพระอมดูเหมือนกัน ถ้ามีรส ยัน ขม หวาน เปรี้ยว ก็ให้แก้เหมือนอย่างข้างต้น แล้วเอาพระทำน้ำมนต์อาราธนา เหมือนอย่างข้างต้นแปลกกันแต่อาราธนารักษาตาเท่านั้น ว่า ๓ หน แล้วเอาน้ำมนต์นั้นกินบ้างและพ่นที่ตา ๓ หน แล้วหลับตาเสียเอาพระวางที่ตา เป่าหนหนึ่งถามดูว่าเย็นถึงลูกตาหรือไม่ ถ้าเย็นรักษาได้ ถ้าหนหนึ่งไม่เย็นให้เป่าไป ๒ หน ๓ หน หากเย็นยังรักษาได้ ถ้าไม่เย็นให้นับหนึ่งใหม่ไปใหม่จนถึง ๗ หน ถ้าเย็นรักษาได้ ถ้าไม่เย็นให้นับหนึ่งไปใหม่จนถึง ๑๕ หน ถ้าเย็นยังรักษาได้ ถ้าเย็นในครั้งที่ ๑ ให้ทายว่า ๑ วันทุเลา ถ้าเย็นที่ ๒ ให้ทายว่า ๒ วันทุเลา ถ้าเป่าแล้วไปเย็นในหนที่ ๗ ให้ทายว่า ๗ วันทุเลา ถ้า ๑๕ หนเย็นก็ให้ทายว่า ๑๕ วันจึงจะทุเลา ถ้า ๑๕ หนไม่เย็นให้บอกว่ารักษาไม่ได้ หากเย็นให้เอาพระใส่ลงในขันน้ำมนต์ใหม่อาราธนาให้รักษาตา ว่า ๓ หน เหมือนอย่างข้างต้น เอาน้ำมนต์กินบ้างลูบหน้าบ้าง แล้วเอาพระวางที่ตาเป่าอีก ๓ หน ค่อยเอาน้ำมนต์หยอดไปจนกว่าจะหายเย็น แลร้อนแสบคันตามโรคของนัยน์ตาอย่างไรๆ วันต่อไปก็ให้ทำเหมือนอย่างวันก่อนให้ครบกำหนดตามที่เป่ากี่หนแล้วเย็นก็ให้ ทำเท่านั้นวัน

วิธีรักษาแขนขาหักขัดเมื่อยและนวดเส้นต่างๆ วิธี รักษาเหมือนกับรักษาตา แปลกกันแต่การออกชื่อว่า ประสานกระดูก และขัดแขนขาและนวดเส้นเท่านั้นเอง วิธีการอาราธนาและนับก็คล้ายกันกับการรักษาตา ถ้ากระดูกหักละเอียดมากก็ให้เข้าเฝือก แต่ต้องอาราธนาบูชาพระด้วยดอกไม้ธูปเทียนแล้วจึงเข้าเฝือกเหมือนที่เคยทำกัน มา แล้วเอาพระวางบนแขนที่หักอาราธนาให้ประสานกระดูก หรือจะนวดเส้นก็เหมือนกันเอาพระวางตรงที่ปวดที่ขัดแล้วก็เป่าตรงพระที่วาง เอาไว้
การ ที่จะต้องเป่าอย่างนี้ นับอย่างนี้มีหลายอย่างเช่น แขนขาหัก ขัดแขนขา ต่อเส้นประสานกระดูก นวดมือนวดเท้า ขัดขวางอย่างไรให้เอาพระวางตรงที่เจ็บแล้วเป่าดู กระดูกหักหากเย็นถึงกระดูกรักษาได้ เส้นขาดหรือเส้นขอดหากเย็นถึงเส้นยังรักษาได้ ถ้าเป่า ๓ เป่า เป่า ๗ เป่า เป่า ๑๕ เป่า ไม่เย็นถึงที่เจ็บข้างในรักษาไม่ได้ เย็นผิวหนังข้างนอกใช้ไม่ได้ ถ้าเย็นถึงข้างในรักษาได้น้ำมนต์ครรภ์รักษาต่อไปนี้จะกล่าวถึงสรรพคุณของน้ำมนต์รักษาครรภ์เป็นยาคันทะรักษา ทำน้ำมนต์บูชา หรืออาราธนาเหมือนอย่างข้างต้น แปลกแต่บอกชื่อน้ำมนต์ว่ารักษาครรภ์เป็นยาคันทะรักษา ว่า ๓ หน แล้วเอาน้ำมนต์กินบ้างอาบบ้างตามสมควร เมื่อเวลาจะคลอดบุตรให้ตั้งน้ำมนต์ ๔ ขัน ใส่น้ำพอสมควรบูชาพระด้วยดอกไม้ธูปเทียนตามแต่จะหาได้แล้วเอาพระใส่ลงในขัน

ขันที่ ๑ อาราธนาว่า “ขอบารมีของพระพุทธเจ้ากับ รูปสัตว์ที่บูชา ขอบันดาลน้ำมนต์นี้เป็นการทดลอง ถ้ากินเข้าไปกุมารจะออกใน ๓ ชั่วโมงนี้ขอบันดาลให้มีลมเบ่งมากขึ้นทีเดียว ถ้าจะยังไม่ออกใน ๓ ชั่วโมงนี้ ขอบารมีของพระพุทธเจ้ากับรูปสัตว์ที่บูชาจงดลบันดาลให้ความเจ็บปวดและลมเบ่งให้อันตรธานหายไปโดยเร็ว” ว่า ๓ หน

แล้วเอาพระมาใส่ในขันที่ ๒ อธิฐานว่า “ขออาราธนาบารมีของพระพุทธเจ้ากับรูปสัตว์ที่บูชา จงบันดาลให้กุมารออกได้โดยง่ายดายอย่าให้เป็นอันตรายสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลย”ว่า ๓ หน

แล้วยกพระมาใส่ในขันที่ ๓ อธิษฐานว่า “ขออาราธนาบารมีของพระพุทธเจ้ากับรูปสัตว์ที่บูชา จงช่วยบันดาลน้ำมนต์นี้ให้เป็นยาเลือด”ว่า ๓ หน

แล้วยกพระมาใส่ในขันที่ ๔ อธิฐานว่า “ขออาราธนาบารมีของพระพุทธเจ้ากับรูปสัตว์ที่บูชา จงบันดาลน้ำมนต์นี้ถ้ากินเข้าไปขอให้รกออกง่ายดายอย่าให้เป็นอันตรายเลย” ว่า ๓ หน

แล้ว เอาพระขึ้นจากน้ำมนต์ แล้วจึงให้กินน้ำมนต์ในขันที่ ๑ เข้าไปสักครู่หนึ่งแล้วจึงถามดูว่าความเจ็บปวดนั้นเป็นอย่างไร ถ้าเขาว่าความเจ็บปวดหายไปทายว่าใน ๓ ชั่วโมงนี้ยังไม่ออก ถ้าเขาเจ็บครรภ์อีกก็ให้กินน้ำมนต์ในขันที่ ๑ แล้วถามดูอาการ หากเขาบอกว่าเจ็บมากขึ้นเมื่อไหร่ให้ทายว่าจวนจะคลอดอยู่แล้วจึงให้กิน น้ำมนต์ในขันที่ ๒ พอสมควรแล้วเอาน้ำมนต์นั้นตบศีรษะ ๓ หน เอาพระวางที่ศีรษะเป่าอีก ๓ หน ถ้าคลอดแล้วให้กินน้ำมนต์ขันที่ ๓ ถ้ารกออกพร้อมกับลูก ขันที่ ๔ไม่ต้องกิน ถ้ารกไม่ออกก็ให้กินขันที่ ๔ ต่อไป ว่าโดยเป็นปกติอย่างนี้

ถ้าเจ็บท้องอยู่หลายๆวัน กุมารนั้นอ่อนเพลียหรือตายก็ไม่รู้ ให้ทำน้ำมนต์ทดลองดู บูชาพระด้วยธูปเทียนดอกไม้ในที่เงียบๆ แล้วเอาพระใส่ลงในขันน้ำอธิฐานว่า “ขออาราธนาบารมีของพระพุทธเจ้ากับ รูปสัตว์ที่บูชา ขออาราธนาจงบันดาลน้ำมนต์นี้กินเข้าไป ถ้ากุมารยังไม่ตาย กินน้ำมนต์นี้เข้าไปขอให้มีกำลังดิ้นได้ในกึ่งชั่วโมงนี้ ถ้าตายแล้วขอให้ทรุดถอยเลื่อนลงไปโดยเร็วในกึ่งชั่วโมง” ว่า ๓ หน แล้วเอาพระขึ้นเสียจากน้ำมนต์ เอาน้ำมนต์ให้เขากินเข้าไปตามสมควรถึงกึ่งชั่วโมงก็ถามดู ถ้าเขาบอกว่าดิ้นได้ก็ให้กินน้ำมนต์นี้เสมอไปจนกว่ากุมารจะมีกำลังขึ้นมาก แล้วจึงให้กินน้ำมนต์จากขันที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ดังกล่าวแล้วตามกำหนด
แลถ้าเขาบอกว่ากุมารนั้นไม่ดิ้นแต่ทรุดถอยลงไป ให้ทายว่ากุมารนั้นตายแน่ ให้ทำน้ำมนต์ขันเดิม(ขันที่อธิฐานถามว่าอยู่หรือตาย)อีกคราวหนึ่ง เอาพระบูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียนตามสมควร เอาพระใส่ลงในขันน้ำมนต์อธิฐานว่า “ขออาราธนาบารมีของพระพุทธเจ้ากับ รูปสัตว์ที่บูชา ขออาราธนาให้บันดาลน้ำมนต์นี้ถ้ากินเข้าไป ให้กุมารที่ตายนั้นให้ออกโดยง่ายดาย ปีศาจทั้งหลายที่สิงในกุมารและแม่มากน้อยเท่าไร ขอบารมีของพระและรูปสัตว์ที่บูชาจงบันดาลขับไล่ให้อันตรธานไปโดยเร็ว”ว่า ๓ หน แล้วเอาน้ำมนต์ให้กินพอสมควร เอาตบศีรษะ ๓ หน แล้วพ่นให้ทั่วตัว เอาพระวางบนศีรษะเป่าอีก ๓ หน
หากเด็กเป็น ทราง และลมต่างๆ ให้เอาพระทำน้ำมนต์ขอน้ำและขมิ้นผง ใช้พ่นหรือกวาดตานทรางต่างๆตามสมควร แลเมื่อโรคต่างๆเกิดขึ้นนอกจากที่บอกนี้ ขอให้เอาพระนั้นทำน้ำมนต์อธิฐานและอาราธนาเอาน้ำมนต์พ่นเป่ากิน เมื่อโรคเหล่านั้นควรหายก็หายเป็นแน่ ที่ไม่หายก็ไม่หายอยู่นั่นเอง

วิธีทดลองเสี่ยงทายในการทำนา ถึงเดือน ๖ หรือเดือน ๗แล้ว ยังไม่ได้หว่านข้าว ฝนตกมาคราวไรให้รองน้ำฝนในที่แจ้งใส่ขันหรือหม้อก็ตามประมาณสักทะนานกว่าๆก็ พอ แล้วให้ปลูกศาลเพียงตาในที่แจ้งเป็น ๒ ชั้นเอาผ้าขาวปูทั้งข้างล่างและข้างบนแล้วเอาข้าวที่เราจะปลูกแต่ละชนิดห่อ ด้วยผ้าขาวอย่าให้ปนกัน แล้วเขียนชื่อของข้าวไว้ทุกห่อ เอาวางไว้บนศาลที่ชั้นล่างบนขาวที่ปูไว้ให้มีข้าวตอกดอกไม้ธูปเทียนด้วย แล้วเอาหม้อน้ำฝนตั้งไว้ชั้นบนเอาพระใส่ไว้ในหม้อน้ำฝน จุดธูปเทียนบูชาพระอธิฐานอย่างนี้ “ขอ อาราธนาบารมีของพระกับรูปสัตว์ที่บูชาจงบันดาล ปีนี้ข้าวสิ่งไรดีมีผลจงให้ข้าวสิ่งนั้นงอกยาวงอกแรง ถ้าข้าวสิ่งไรจะไม่ดีจะไม่มีผลขออย่าให้งอกยาวงอกแรงเลย” ว่า ๓ หน แล้วอธิฐานต่อว่า“ขอทำให้สมเจตนาจะทำทานกุศลพอสมควร”แล้ว เอาพระขึ้นจากน้ำมนต์แล้วเอาข้าวปลูกที่ห่อเอาไว้ใส่ในหม้อน้ำมนต์ให้หมดทุก ห่อ คนเสีย ๓ รอบทิ้งไว้ ๑ คืน เช้าเอาดอกไม้ธูปเทียนไปที่ศาลเอาพานไปใส่ข้าวที่ห่อไว้ขึ้นจากน้ำมนต์ใส่ใน พานให้หมด แล้วเอาหม้อน้ำมนต์ลงจากศาล เอาผ้าขาวที่ปูศาลปิดพานข้าวเอาขึ้นไว้บนเรือนตามสมควร แล้วเอาน้ำมนต์พรมไว้ทุกวันจนครบ ๗ วันจึงเปิดผ้าขึ้นดู ข้าวสิ่งไรงอกยาวก็ให้ทำข้าวอย่างนั้นให้มาก ถึงหว่านข้าวแล้วทำน้ำมนบูชาด้วยข้าวตอกดอกไม้ธูปเทียน เอาพระใส่ลงในจอกน้ำบูชาเสร็จแล้ว “ขออาราธนาบารมีของพระกับรูปสัตว์ที่บูชาว่าจงบันดาลน้ำมนต์นี้กัน เพลี้ย มอด สัตว์ต่างๆ” ว่า ๓ หน แล้วเอาน้ำมนต์ยกไปทั้งพานเครื่องบูชาพระด้วยไปพรมที่นาสามรอบแล้วเอา น้ำมนต์ ดอกไม้ทิ้งไว้ตรงประจบสามรอบนั้นเถิด น่าข้าวออกรวงก็ทำเหมือนอย่างนี้ ทำทีหนึ่งพรมได้รายเดียว ถ้าทำให้รายอื่นก็ทำเหมือนกันดังนี้ ทำสวน ไร่ นา ก็ใช้ได้เหมือนกัน ทำได้อย่างนี้เป็นสรรพคุณมาก

วิธีจะไปทางไกลและทำกิน ทำการสิ่งไร หรือการเจ็บไข้ต่างๆ ให้ ลองอธิฐานดู ถ้า เย็นเป็นของดี ถ้าร้อนเป็นของชั่ว คือให้บูชาพระด้วยดอกไม้ธูปเทียน แล้วสวดถวายพรพระด้วยอิติปิโสและพาหุงทั้ง ๘ บท จากนั้นยกมือขวาขึ้นแบไว้ตรงหน้า อธิฐานขอบารมีของพระและรูปสัตว์ที่บูชาจงบันดาลไปคราวนี้จะไปดีมาดีมีลาภผล และความสุข ขอจงบันดาลให้เย็นในฝ่ามือ ถ้าจะไปมีอันตรายต่างๆขอให้ร้อนในฝ่ามือ ยกไว้สักครู่หนึ่งก็รู้ได้ ถ้าเย็นไปได้ ถ้าร้อนก็จงอย่าไปเลย ถึงจะรักษาไข้เจ็บแลทำกินเป็นต้น ให้ลองอธิฐานดูเสียก่อนก็ได้

ส่วน พระดังกล่าวทั้ง ๖ อย่างที่กล่าวแล้วในตอนข้างต้นนั้น บุคคลใดเอาไปกับตัวห้ามกินเหล้าและลักขโมยเขา พระที่กล่าวมานี้พระปานได้แจกแก่มนุษย์หญิงชายที่เลื่อมใสในศาสนา ใบฝอยที่พิมพ์ในใบนี้แจกแก่ท่านทั้งหลายไม่ได้ขายเป็นราคามากน้อยไม่มีเป็น อันขาด ถ้าใครทำซื้อขายใบฝอยและพระทั้ง ๖ อย่างฉันไม่รับรองว่าเป็นของฉันจะใช้ได้ตามฝอยหรือไม่ได้ก็ตาม ถ้าเป็นของฉันแท้ๆให้ทดลองดู

คน ถูกน้ำมันพรายให้อมไว้ข้างแก้มสักครู่หนึ่งถ้าร้อนหูและร้อนหน้า ให้เอาพระมากำไว้ในมือสักครู่หนึ่งจนเมื่อยตลอดแขน ให้แบมือออกดูเมื่อน้ำมันออกให้ดมดู

ให้ ติดปากแผลงูพิษ จระขาบ แมลงป่อง นี่แหละเป็นของๆฉันแท้ ผู้ที่จะใช้ขอให้ประกอบด้วยเมตตาให้มากๆ ยังมีสรรพคุณอีกหลายสิบอย่างกล่าวไว้ให้แต่ย่อๆพอสมควรเท่านี้ พระ ๖ อย่างที่ฉันแจกนี้ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดได้รับเอาไปจากฉัน เอาไปโดยบริสุทธิ์และประกอบด้วยเมตตาต่อสัตว์ มนุษย์ทั่วไป ขอบารมีพระและบารมีที่ข้าพเจ้าได้สร้างเพื่อพระโพธิญาณขอให้บันดาลให้ท่าน ทั้งหลายจะทำอะไรให้ได้สำเร็จตามความปรารถนาอย่างที่ข้าพเจ้าอธิฐานไว้เทอญ อายุวัณโณสุขังพลัง

พระ กับลูกอมมีสรรพคุณเหมือน กันอย่างเดียวกัน เมื่อไม่มีพระอาราธนาลูกอมก็ใช้ได้ วิธีอาราธนาบูชาอย่างเดียวกัน ดอกไม้ธูปเทียนเหมือนกันตามแต่จะหาได้ การบูชาพระกับลูกอมอย่างเดียวกันกับบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เช่นที่เคยบูชากันมาก็เหมือนกัน

ที่มา http://palungjit.org/threads/วิธีทำน้ำมนต์-ตามตำราหลวงพ่อฤาษีลิงดำ.156670/ ​

 

กราบนมัสการหลวงพ่อทุกๆองค์ด้วยครับ

 

เจริญพรคุณณัฐพร อาตมาขอรับพระผงจักรพรรดิ์ จำนวน ๕๐๐ องค์
เพื่อนำไปแจกวันที่ ๓-๕ ธ.ค.๕๔


ส่ง..

พระมหาวิทยา กัลยาโณ
วัดบุรณศิริมาตยาราม
๕ อัษฎางค์ แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ
เขตพระนคร กทม. ๑๐๒๐๐