มนุษย์คนหนึ่งสามารถมีดวงจิตหลายดวงได้หรือไม่คะ

รบกวนผู้รู้ช่วยตอบคำถามข้อสงสัยของดิฉันด้วยค่ะ

เพื่อนของแฟนเขาเป็นผู้หญิงเป็นคนจังหวัดสงขลาค่ะ เป็นเพื่อนบ้านกันตั้งแต่เด็ก เป็นข้าราชการค่ะ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาดิฉันได้มีโอกาสได้พบกับเธอเป็นครั้งแรก แต่ก็ต้องแปลกประหลาดใจ เพราะไม่เคยเจอคนแบบนี้มาก่อนค่ะ คือเธอจะมีดวงจิตหลายดวงในตัวเธอ เท่าที่รู้นะคะ มีที่เป็นเด็กจุก (เด็กผู้ชาย) บางทีก็เป็นลูกของเจ้าเมืองภูเก็ต (ผู้หญิง) และเป็นตัวเธอเองอีก (ผู้หญิง) ตอนเช้าที่เจอกันจะเป็นผู้หญิงเรียบร้อย มีน้ำเสียงเรียบๆนุ่มนวล ซึ่งเธอบอกว่าตอนนี้เธอเป็นจิตของลูกเจ้าเมืองภูเก็ตค่ะ พอสายๆหน่อยเปลี่ยนแล้ว กลายเป็นน้องจุก พูดจาเหมือนเด็ก ขี้เล่น เสียงดัง กินเก่ง แทนตัวเองว่าจุกตลอด ตอนค่ำทานข้าวกันอยู่ อ้าวกลายเป็นเจ้าตัวที่เป็นคนสงขลา พูดภาษาใต้กันแฟน บุคคลิกเปลี่ยนไปไม่เหมือนกันสักคนค่ะ (แต่ดิฉันจะคอยสังเกตุตอนที่คุยกันเขาจะไม่ค่อยชอบสบตากับคนที่คุยอยู่ด้วยค่ะ เฉพาะตอนที่เขาเปลี่ยนเป็นน้องจุกกับลูกสาวเจ้าเมืองภูเก็ตนะคะ แต่ถ้าเป็นตัวเขาเองคือผู้หญิงชาวสงขลาจะสบตากับผู้ที่คุยด้วยเป็นปรกติค่ะ)

ดิฉันก็งงมากเลยค่ะ ถามเขาว่าจำเราได้มั๊ย ก็ตอบว่าจำได้เป็นภาษาใต้ ถามแฟนว่าเขาเป็นแบบนี้มานานยัง แฟนก็บอกว่าก็นานแล้วนะ จนเพื่อนๆและหัวหน้าในที่ทำงานเขารับได้หมดแล้ว ดิฉันก็เลยถามแฟนว่าแล้วเชื่อเขามั๊ยว่าเขาเป็นแบบนั้นจริงๆ ไม่ใช่แกล้งหรือว่าโกหกเล่น แฟนเขาก็ว่าเขาเชื่อ เพราะเขาเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก จู่ๆเวลาที่เขาว่าเป็นน้องจุก เขาก็จะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนกันเลย ไม่มีบุคคลิกเดิมอยู่เลย ที่ดิฉันไม่ค่อยชอบเท่าไรก็เพราะว่าเวลาเขาบอกว่าตอนนี้เป็นน้องจุกอยู่นะ เขาจะพูดมาก เสียงดัง บางครั้งก็พูดในสิ่งที่ไม่สมควรจะพูดออกมาด้วย เช่น เวลาแฟนเขาเอ๋ยถึงพระเถระรูปหนึ่งแล้วถามน้องจุกว่ารู้จักไหม เขาตอบว่ายิ่งกว่ารู้จักอีกสนิทกันเชียวล่ะ เราได้ยินแล้วตกใจเลยค่ะ ว่าทำไมใช้คำพูดแบบนั้นนะ มันช่างไม่เหมาะสมเลย ดิฉันเคยได้ยินเขาตอนที่เป็นน้องจุกพูดว่า เขาเป็นเทพ อยู่ในวังตั้งแต่ในสมัยก่อนนานมาแล้ว

ดิฉันจึงอยากรบกวนท่านผู้รู้ในที่นี้ช่วยตอบทีว่าแบบนี้มีจริงหรือคะ เขามีดวงจิตถึงสามดวงในร่างเดียวกันเลยหรือ

 

หยู่ตรงใหนของสงขลาครับ
ผมหยู่สงขลาเช่นกัน
บางทีอาดรู้จัก
คนทีมีอะไรแบบนี้ผมเคย
เห็นหลายคน บางทีอาจรู้จัก
หยู้ในตัวเมืองสงขลา
หรือหาดใหญ่ครับ

 

ออลืม......ดวงจิตคนเรามีดวงเดียวครับ
แต่เกิดดับทุกขณะจิตส่วนทีเหลือ
เป็นจิดแขวงเข้ามาส่วนการแก้ไข
ต้องรอคนทีมีความรู้ด้านนี้ครับ

 

นี่คุณไปบอกให้เพื่อนคุณนะครับ....ถ้าเขารับขันธ์อะไรสำนักใหนมา นำไปถวายวัดให้หมดเลยนะครับ....

แล้วก็ปฏิบัติธรรมระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยให้มาก....พออาการต่างๆที่มันเข้ามาแทรกอย่าไปตามอารมณ์มันนะครับ....ปล่อยวางไป....สติอยู่กับกายใจมากๆ....หรือเอาอย่างนี้ก็ได้นะครับ...อยู่สงขลา มีหลวงปู่ทวด นึกถึงท่านไว้ครับ....เมื่อมีกระแสอารมณ์ใดเข้ามาก็นึกถึงหลวงปู่ทวดเข้าไว้นะ สวดมนต์คาถาของท่านไว้ในใจก็ได้.....อย่าไปปล่อย..ไม่นานก็จะควบคุมได้ .....เพื่อนคุณปล่อยให้ร่างกายดุจศาลาริมทาง ใครจะเข้าจะออกก็ได้อย่างนี้ไม่ดีนะครับ....

 

ลักษณะดังกล่าวของเพื่อนท่าน.... เค้าเรียกว่า อาการแฝงค่ะ...

อารมณ์ของคน มีด้วยกันหลากหลายอารมณ์... คำพระท่านจึงว่าไว้ ให้พยายามฝึก ครองสติ ให้เปนอารมณ์เดียว เฉกเช่นเดียวกับดวงจิตของมนุษย์ แม้นมีหลายดวงจิต แต่หากดวงจิตเดิมของเรา จึงมีเพียงแค่หนึ่งดวงเท่านั้น...

ในบางคัมภีร์ มีการกล่าวถึง ดวงจิต ที่มีหลายดวง และลักษณะของการแบ่งญาณ แบ่งภาค หรือแม้กระทั่งการแตกจิตญาณ.. ซึ่งเปนเรื่องละเอียดอ่อน ต้องลงลึกในเชิงปฏิบัติ ท่านจึงจะเข้าใจได้ค่ะ..

สิ่งที่ต้องระวังคือ.... การทำตน ให้เปนปัจจุบัน เฉกปถุชนทั่วไปค่ะ คนที่ไม่เข้าใจ จะนึกได้ว่า บุคคลนั้นเปนบ้า...หรือถูกผีเข้า ผีสิง ชีวิตทางโลกไม่เปนปกติเหมือนคนอื่นเขา ซึ่งจะมีปัญหาต่อไปในภายหน้าได้ ต้องปฏิบัติเข้มนะคะ จึงจะถอนสัญญากรรมเก่าได้...

เอาใจช่วยค่ะ.... บุญรักษาเน๊อ..(k)

 

ทางการแพทย์อธิบายว่าเป็นโรค dissociative personality disorder หรือ multiple personality มีการสร้างตัวตนเฉพาะสำหรับสถานการณ์ต่าง ๆ กัน

ในทางธรรม ไม่ทราบครับ

 

ขยาย คําตอบ ในทางธรรม

ในทางธรรมเราเรียกว่า ฟุ้งซ่าน เจ๊าค่ะ

เเก้ได้ด้วย การทําสมาธิจ๊าาาาาาาาาา

 

สนับสนุนเจ้าของข้อความนี้ค่ะ บุคคลแบบนี้ส่วนมากมีข้อบกพร่องที่ต้องการปกปิด มีข้อด้อยที่ต้องการเรียกร้อง ก็จะเป็นคนนั้นคนนี้ แบบที่เขากำลังเป็นอยู่ ไม่มีอะไรมาแฝงหรอก ตัวเขานะ จริตมารยา เอง ในทางธรรมไม่มีอะไรมาแฝงได้หรอกอย่าหลงกันนักเลย แค่ ตั้งมั่นในธรรมของพุทธองค์ อย่างถูกต้อง เท่านั้น

 

คุณ ช่วยได้ เท่าที่ช่วย แนะนำได้เท่าที่ได้นะ
ช่วยไม่ได้ ก็ปล่อย ทำให้เพียงพอกับสถานะของเราก็พอ

เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องของกรรม เค้าทำของเค้าเอง เค้าต้องได้รับผลของเค้าเอง

 

แต่พระใหญ่ ท่านสอนเอาไว้ "จิตมีหนึ่งเดียว ปลอมกันไม่ได้ " www.marateebook.com]