ตัวโยกจากนั่งสมาธิ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย เจคส์, 23 มกราคม 2012.

  1. เจคส์

    เจคส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +260
    ทำไมเวลานั่งทำสมาธิแล้วรู้สึกว่าตัวเองจะโยกไปโยกมาเหมือนชิงช้าแกว่งเลย. ใครเป็นแบบนี้บ้างคะ.
    ขอเล่าเรื่องกรรมที่ดิฉันเคยทำ แล้วตอนนี้ก็กำลังชดใช้อยู่ค่ะ. คือเมื่อตอนประมาณปี. 45ดิฉันได้ไปฃื้อปลาทองมาเรี้ยงในอ่างบัวหน้าบ้าน. เลี้ยงมาต้องนานก็ไม่เป็นอะไร. แต่พอมาสังเกตุดู ทำไมปลาทองมันน้อยลง. ก็ไปฃื้อมาใส่ใหม่. อีกวันก็ไปสังเกตุดูปลาหายไปใหนเกือบหมด. (โมโหมาก) เลยแอบดูจึงรู้ว่ามีนกกระยางมากินปลาทองหมด. ไม่รู้ว่าคิดยังใงไปฃื้อเบ็ดตกปลาเอาปลาทองที่ตายใส่ในเบ็ดแล้วไปแอบดูในบ้านพอนกกระยางมากิน เบ็ดก็ก่องอยู่ที่คอทำให้มันบินไปใม่ได้ ดิฉันสะใจมากพอจับนกได้แล้วก็เอาไปให้คนพม่าฆ่าให้ตาย
    แต่ไม่รู้ว่าเค้าได้ทำหรือปล่าว. ตอนนี้ดิฉันเป็นพังผืดที่หลอดอาหารหมอบอกว่าต้องผ่าแล้วขูดเอาพังผืดออก. แต่ดิฉันยังไม่กล้าทำ(กลัวค่ะ) ทุกเวลาจะรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรมาติดที่คอตลอดเวลา. ทั้งทรมานและลำคานมากกลืนก็ไม่เข้าคายก็ไม่ออก. ยิ่งตอนเวลาเป็นหวัดทีต้องนั่งหลับกันเลย. คือถ้านอนจะรู้สึกเหมือนหายใจไม่ค่อยออก. ทุกวันเวลานั่งสมาธสวดมนต์ก็จะแผ่เมตตาให้กับเจ้ากรรมนายเวรอยู่ค่ะเผื่อว่าจะดีขึ้นมาบ้าง
    ยังมีเรื่องที่ทำแล้วรู้สึกว่าทำบาปและเป็นกรรมมากอยากจะเล่าให้อ่านกันแต่เกรงใจขอแค่นี้ก่อนนะคะ
     
  2. เรายังเลว

    เรายังเลว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +52
    ทำสมาธิเข้าถึงปฐมฌาน เกิดปีติน่ะครับ

    ปีติ มีประเภท ๕ คือ

    ๑. ขุททกาปีติ มีอาการขนพองสยองเกล้าและน้ำตาไหล
    ๒. ขณิกาปีติ มีแสงสว่างเข้าตาคล้ายแสงฟ้าแลบ
    ๓. โอกกันติกาปีติ มีอาการร่างกายกระเพื่อมโยกโคลง คล้ายเรือที่ถูกคลื่นซัด บางท่าน
    ก็นั่งโยกไปโยกมา อย่างนี้เรียก โอกกันติกาปีติ
    ๔. อุพเพงคาปีติ มีกายลอยขึ้นเหนือพื้น บางรายก็ลอยไปได้ไกลหลายๆ กิโลก็มี
    ๕. ผรณาปีติ อาการเย็นซ่าซาบซ่านทั้งร่างกาย และมีอาการคล้ายกับร่างกายใหญ่
    สูงขึ้นกว่าปกติ


    อนุโมทนาด้วยครับ อันที่จริงบาปกรรมหากรู้สึกตัวว่าเป็นบาปก็ดีแล้วครับ ตั้งใจปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น แต่ต้องไม่เอาบาปที่เคยก่อมาพันผูกในใจนะครับ อะไรเคยทำก็ลืมมันเสีย หากวาระกรรมมาถึงก็จงน้อมรับด้วยความสงบ แล้วตั้งใจปฏิบัติความดีต่อไปนะครับ
     
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    อาการปิติเป็นอาการที่ถามกันมาก.....ซึ่งผู้ปฏิบัติมักจะข้องใจเมื่อเกิดอาการนี้....
    <O:p</O:p

    <TABLE style="WIDTH: 45%; mso-cellspacing: 1.5pt; mso-yfti-tbllook: 1184" class=MsoNormalTable border=1 cellPadding=0 width="45%"><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: #f0f0f0; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: #f0f0f0; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-RIGHT-COLOR: #f0f0f0; BORDER-LEFT-COLOR: #f0f0f0; PADDING-TOP: 0.75pt">
    อาการและอารมณ์ของอุปจารสมาธิ<O:p</O:p

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <O:p</O:p
    อาการของอุปจารสมาธิคือปีติได้แก่อารมณ์ความอิ่มใจเมื่อทำมาถึงตอนนี้อารมณ์
    จะชุ่มชื่นมาก อารมณ์สะอาดเยือกเย็น มีความเป็นสุขอย่างยอดเยี่ยมไม่เคยพบความสุข
    อย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิตตอนนี้เวลาภาวนาลมหายใจจะเบากว่าปกติมาก อารมณ์เป็นสุข
    ร่างกายของนักปฏิบัติที่เข้าถึงระดับนี้ผิวหนังจะนวลขึ้นเพราะอารมณ์ที่มีความสุขแต่อาการ
    ทางร่างกายนี่สิที่ทำให้นักปฏิบัติตกใจกันมากนั่นก็คือ
    ๑.อาการขนลุกซู่ซ่าเมื่อเกิดอาการอย่างนี้หรืออย่างอื่นที่กล่าวถึงต่อไปจะมีอารมณ์
    ใจเป็นสุขขอให้ทุกท่านปล่อยอาการอย่างนั้นไปตามสภาพของร่างกาย จงอย่าสนใจเมื่อสมาธิ
    สูงขึ้นหรือลดตัวลงต่ำกว่านั้น อาการอย่างนั้นก็จะหมดไปเองอาการขนลุกพองถ้ามีขึ้นพึงควร
    ภูมิใจว่าเราเข้าถึงอาการของปีติระดับหนึ่งแล้ว อย่ากังวลอาการของร่างกาย
    ๒. อาการของปีติขั้นที่ ๒ได้แก่อาการน้ำตาไหล
    ๓.อาการของปีติขั้นที่ ๓คือร่างกายโยกโคลงโยกไปข้างหน้าบ้างข้างหลังบ้าง
    บางคราวโยกแรง จนศีรษะใกล้ถึงพื้น
    ๔.อาการของปีติขั้นที่ ๔ตามตำราท่านว่าตัวลอยขึ้นบนอากาศแต่ผลของการปฏิบัติ
    ไม่แน่นัก บางรายก็เต้นเหมือนปลุกตัว บางรายก็ตัวลอยขึ้นบนอากาศเมื่อลอยไปแล้ว ถ้าสมาธิ
    คลายตัวก็กลับมาที่เดิมเอง(อย่าตกใจ)
    ๕. อาการของปีติขั้นที่ ๕คือมีอาการแผ่ซ่านในร่างกายซู่ซ่าเหมือนมีลมไหลออก
    ในที่สุดเหมือนตัวใหญ่และสูงขึ้นหน้าใหญ่แล้วมีอาการเหมือนลมไหลออกจากกายในที่สุด
    ก็มีความรู้สึกว่าตัวหายไปเหลือแต่ท่อนหัว
    อาการทั้งหมดนี้ เมื่อเกิดขึ้นอารมณ์ใจจะมีความสุข ฉะนั้นนักปฏิบัติให้ถืออารมณ์ใจ
    เป็นสำคัญอย่าตกใจในอาการตามที่กล่าวมาแล้วนั้นพอสมาธิสูงถึงระดับฌานก็จะสลายตัว
    ไปเองปีตินี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วอารมณ์จะเป็นสุขคือถึงระดับที่สี่ ที่จะเข้าถึงปฐมฌาน ต่อไปก็
    เป็นปฐมฌานเพราะอยู่ชิดกัน

    <O:p</O:p**************************************************<O:p</O:p

    เข้าศึกษาได้ตั่งแต่เริ่มต้น...ทั้งหมด....ได้ที่นี่....หนังสือเล่มนี้เนื้อหาเพียงพอสำหรับผู้ที่จะปฏิบัติด้วยตนเอง....รวบรวมวิธี...และอาการทางสมาธิ...ทั้งหมด....ควรศึกษาให้เข้าใจสัก 1 รอบ(ไม่ยาวนัก)แล้วปฏิบัติได้เลย....คำถามทางสมาธิส่วนใหญ่ที่ถามในบอร์ดมักอยู่ที่นี่.......

    วิธีฝึกกรรมฐานด้วยตนเองแบบง่ายๆ....โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ( ฤาษีลิงดำ )...

    http://www.palungjit.org/smati/books/index.php?cat=7
     
  4. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,463
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,012
    ฟัง clip นี้ได้เลยครับคุณ Fasopibe เเล้วจะเข้าใจเองครับ ขอให้ตั้งใจปฎิบัติต่อไปนะครับ ปฎิับัติเสร็จเเล้ว ก็อย่าลืมเเผ่เมตตา เเผ่บุญ อุทิศบุญของเราไปให้ทั่วทั้งจักรวาล ไม่เลือกเฉพาะเจาะจงเลยจะดีมากๆครับ อนุโมทนาครับ

    อาการของปีติ - Buddhism Audio

    อาการของปีติ

    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1">
    Artist: ศจ.อุบาสิกา คุณรัญจวน อินทรกำแหง
    <fieldset class="fieldset"> <legend>ไฟล์แนบข้อความ</legend> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="3"> <tbody><tr> <td width="20"><input id="play_8721" name="Music" value="attachment.php?attachmentid=8721" type="RADIO">ฟัง</td> <td>[​IMG]</td> <td>035 อาการของปีติ.mp3 (2.48 MB, 6082 views)</td></tr></tbody></table></fieldset>
     
  5. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    ตัวโยกมันเรื่องปกติ ของคนทำใหม่ๆ ถ้าไม่เอาจิตไปจับกับมัน เดี๋ยวมันก็หาย บางคนมันโยกแล้วสนุก ก็ไปจับกับการโยก มันก็ยิ่งโยกหนัก แต่หากแค่รู้ว่าโยก อยากโยกก็โยกไป สักพักมันจะหยุดเอง เคยเป็นเหมือนกัน.........แต่ทุกวันนั้นนี้ไม่เคยโยกอีกเลย

    สมัยเริ่มฝึกครั้งแรก เหมือนตัวจะลอยได้ ซึ่งก็ตกใจเหมือนกัน แล้วมันก็ตกลงพื้น คล้ายว่าจะลอยได้สัก 2 นิ้ว เพราะนั่งขัดสมาธิ แล้วไม่สัมผัส กับพื้นเลย (ตอนเด็กเป็น 2 - 3 ครั้ง)

    โตขึ้นมากลับมาฝึกอีกรอบ หลังทิ้งเวลาไป 8 ปี ตัวโยก มันโยกแบบหน้าไปหลัง โยกไปโยกมาแล้วก็เห็นว่าเอ่อดีเว้ย ก็ไปจับมันว่ามันโยกยังงัย ยิ่งโยกแรงกว่าเดิมอีก หลังๆมา ก็ปล่อยมันโยกไป อาการมันจะค่อยๆโยกก็รู้ว่าจะโยกก็ปล่อยมันไปสักพักมันก็ไม่โยกเอง

    บางที มือที่เราวางไว้ที่ตัก มันเหมือนบิดจนข้อมือจะหัก มันก็ค่อยๆบิดไปเรื่อยๆ แต่รู้สึกว่า มันบิดเข้าหาตัวมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะข้อมือซ้าย จนเหมือนมันหัก แต่ไม่เจ็บ ลองลืมตามันก็วางของมันปกติ

    ครั้งหลัง พอฝึกไปปีนึง คราวนี้นั่งๆไป มันเหมือนมีอะไรดันมาจากตรงกลางตัว แล้ว ตัวมันก็พองขึ้น พองขึ้น ตัวสูงมาก (ความรู้สึก) ทั้งๆที่หลับตาอยู่ รู้สึกเหมือนมือที่วางอยู่บนตักอยู่ข้างล่างโน่น สักพักมันก็จะกลับสู่ปกติ โดยที่ตัวไม่ต้องลดลง แต่มันจะรู้เอง ผมเคยลองลืมตัวครั้งนึง ขณะที่ตัวสูง ลืมตามา มันก็ตัวเท่าเดิมนั้นแหละ แต่ มันอยู่ที่ข้างในเฉยๆ

    แรกๆก็สนุกหรอก แต่หลังๆมาเฉยๆ พอเฉยๆไปนานๆ มันไม่มี ไม่เป็นแบบนี้อีกเลย ........มีอยู่สองอย่าง ก้าวผ่านจุดนั้นแล้ว หรือไม่ก็ ไม่ได้เข้าไปถึงจุดนั้นอีกเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...