แจกต่อ ฟรี! พระผงจักรพรรดิ์ ท่านละ 1 องค์ต่อครั้ง(ระงับแจกชั่วคราว)

ในห้อง 'แจกฟรี' ตั้งกระทู้โดย tanakorn_ss, 6 พฤศจิกายน 2010.

  1. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    เชิญชวนร่วมเดินทาง
    ทำบุญถวายพระ




    ตัวอย่างภาพสิ่งของที่จะถวาย
    [​IMG]

    พระสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลก

    [​IMG]
    พระบรมสาริกธาตุสมเด็จองค์ปฐม



    [​IMG]

    พระศรีอริยเมตไตรยพร้อมลูกแก้ว



    [​IMG]

    พระผงจักรพรรดิ




    [​IMG][​IMG]

    เครื่องสังฆทาน
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody> <tr> <td valign="top" align="center"> <table width="300" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody> <tr> <td valign="top" width="300" align="center">
    </td></tr> <tr> <td class="Image" valign="baseline" align="left">
    </td></tr></tbody></table>

    ชื่อโครงการ

    ถวายพระบรมสาริกธาตุสมเด็จองค์ปฐม พระศรีอริยเมตไตรย พระผงจักรพรรดิ์ เครื่องสังฆทาน
    น้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธัมมบูชา สังฆบูชา



    สิ่งของที่จะนำถวาย

    - พระสมเด็จองค์ปฐมทรงเครื่องจักรพรรดิ์ปางเปิดโลก

    - พระบรมสาริกธาตุสมเด็จองค์ปฐม

    - พระผงจักรพรรดิ์ที่เป็นรูปลักษณ์สัณฐานขององค์สมเด็จองค์ปฐมและองค์ปัจจุบัน

    -พระศรีอริยเมตไตรย โลหะทองเหลือง หน้าตัก 9 นิ้ว ฐาน 12 นิ้ว สูง 22 นิ้ว ภายในองค์พระบรรจุพระบรมสาริกธาตุองค์ปัจจุบันและวัตถุมงคลมวลสารอื่นๆไว้ ใต้ฐานพระ ซึ่งจะขออนุญาตินำไปประดิษฐานไว้ในมณฑปปราสาทหลวงปู่สรวง


    - เครื่องสังฆทานพร้อมทั้งของบริวารที่จำเป็นตามที่คิดว่าเหมาะสมที่พระท่านต้องใช้จริงๆ เพิ่มเติมเช่น น้ำผึ้ง หนังสือธรรมะ

    - ปัจจัยถวายพระ (เงินส่วนนี้จะนำมาจากเงินทำบุญถวายพระเพื่อทำบุญกับทางวัดทั้งหมดและถือ ถวายเป็นการชำระหนี้สงฆ์ไปในตัวด้วยในครี้งนี้ด้วย


    จุดมุ่งหมาย


    - เพื่อเป็นการน้อมถวาย เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา เป็นการปฏิบัติบูชา คือการสละทรัพย์ส่วนตน เพื่อสร้างปูนียวัตถุในพระพุทธศาสนา เพื่อยังประโยชน์ให้มหาชน เพื่อการสละทรัพย์ภายนอกให้เป็นอริยะทรัพย์อันจะนำติดตัวข้ามภพชาติไปได้

    - เพื่อการสงเคราะห์ให้กับเหล่าพุทธบริษัทที่อยู่ ณ สถานที่ซึ่งจะประดิษฐานพระบรมสาริกธาตุ สมเด็จองค์ปฐมและพระศรีอริยเมตไตรยองค์นี้ ให้ได้เกิดบุญกุศลตราบนานเท่านาน ให้ได้มีโอกาศโดยการสักการะบูชาด้วยอามิสบูชา และปฏิบัติบูชา

    - เพื่อให้เป็นถาวรวัตถุทางพระพุทธศาสนา ให้เป็นประโยชน์ เป็นศูนย์รวมแห่งความดี ของพุทธศาสนิกชน พุทธบริษัททั้ง๔ และรวมถึงเทพ พรหม เทวดา ตลอดทั้ง นาค ครุฑ ครธรรพ์ ยักษ์ เปรต ผี ปีศาจ อสุรกาย และผู้ที่อยู่ในโลกทิพย์ทั้งมวล ซึ่งจะมาชุมนุมกันทำความดี ณ ที่แห่งนี้ในกาลภาคหน้าต่อไปตราบเท่า ๕๐๐๐ ปี

    - เพื่อให้เป็นแบบอย่างในร่วมรักสามัคคีและการร่วมกันกระทำ สิ่งดีงาม ให้สังคมประเทศชาติ พระมหากษัตร์ย และเพื่อเป็นการสืบทอดและจรรโลงพระพุทธศาสนา

    - เพื่อเป็นการส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีงามและร่วมส่งเสริมแหล่งสถานที่ท่องเที่ยว

    วัดที่จะทำการถวาย

    1.จ.ศรีสะเกษ หลวงปู่สรวง วัดบ้านไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ
    2.จ.สรินทร์ หลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
    3.จ.บุรีรัมย์ หลวงปู่เหลือง วัดกระดึงทอง ตำบลบ้านด่าน อำเภอบ้านด่าน


    ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพดังนี้

    1.ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพถวายพระ

    พระสมเด็จองค์ปฐม 3 องค์ : มีเจ้าภาพแล้วเพื่อนำถวายวัดหลวงปู่สรวง
    (จากโครงการหล่อพระ ในนาม แสวงหาความจิรง)
    พระศรีอริยเมตไตรยทั้ง 3 องค์
    : มีเจ้าภาพแล้ว
    (จากโครงการหล่อพระ ในนาม แสวงหาความจริง)
    เจ้าภาพครบแล้ว

    2.ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพถวาย ผอบ
    เพื่อรองรับพระบรมสาริกธาตุสมเด็จองค์ปฐม จำนวน จำนวน 3 องค์

    ผอบที่ 1 (หลวงปู่สรวง )วัดบ้านไพรพัฒนา จ.ศรีสะเกษ=เจ้าภาพ คณะ
    คุณNoo Norway
    ผอบที่2 หลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี จ.สุิรินทร์ =เจ้าภาพ คณะคุณNoo Norway
    ผอบที่3 หลวงปู่เหลือง วัดกระดึงทอง จ.บุรีรัมย์: คุณpoon-pan
    เจ้าภาพครบแล้ว

    3.เจ้าภาพเครื่องสังฆทาน และของบริวาร

    1.(หลวงปู่สรวง )วัดบ้านไพรพัฒนา จ.ศรีสะเกษ :เจ้าภาพ
    คณะ คุณNoo Norway
    2.หลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี จ.สุิรินทร์ :เจ้าภาพ คณะคุณNoo Norway
    3.หลวงปู่เหลือง วัดกระดึงทอง จ.บุรีรัมย์: คุณpoon-pan
    เจ้าภาพครบแล้ว

    ต้องการเจ้าภาพเพิ่มเติม
    4.เจ้าภาพถวายภัตตาหารพระภิกษุสามเณร -แม่ชี ทั้งหมด 26 รูป วัดหลวงปู่สรวง ในช่วงเช้า
    (งบประมาณ ไม่เกิน 5000 บาท ยังไม่มีเจ้าภาพ)
    5.เจ้าภาพถวายพานรองรับพระบรมสาริกธาตุถวาย 3 วัด
    (ยังไม่มีเจ้าภาพ)
    6.รถกระบะหรือรถปิกอัพ สำหรับนำพระและข้าวของต่างๆที่จะนำไปถวายพระ



    ค่าใช้จ่ายส่วนที่จะถวายพระ:
    ไม่ขอยุ่งเกี่ยวเงินของเจ้าภาพท่านใด และท่านผู้ใด นะครับถ้าเป็นไปได้ เรื่อง ค่าใช่จ่ายในส่วนนี้รบกวนท่านและคณะที่เป็นเจ้าภาพต่างๆ ให้จัดการหาว่าจะต้องมีอะไรบ้างที่ทางวัดหรือพระได้ใช้จริงและสมควรถวายท่าน ให้ร่วมกันคิดพิจารณาพอจัดเรียบร้อยแล้ว

    - หากได้เดินทางร่วมกันจะได้นำข้าวของบริวารมารวมกันจัดเป็นชุดที่จะถวาย
    - หากไม่สามารถร่วมเดินทางได้ ก็นำมามอบไว้ที่ผมแล้วจะจัดการให้
    - สุดท้ายหากถ้าไม่สะดวกจริงๆ หากท่านใดต้องการร่วมบุญ ให้โอนเข้าบัญชีกลางซึ่งผมจะเปิดบัญชีไว้เป็นบัญชีสำหรับงานบุญโดยเฉพาะ ซึ่งจะอัปเดทให้เห็นความเคลื่อนไหวให้ทราบเป็นระยะ เงินทั้งหมดถือว่าเป็นเจ้าภาพทั้งหมดจะนำเงินนั้นไปแบ่งส่วนให้เท่าๆกันโดย ไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ แล้วใส่ซองถวายร่วมถวายเป็นสังฆทานทั้งหมดแด่พระภิกษุสงฆ์เพื่อร่วมทำบุญ ทุกอย่างกับทางวัดเพื่อศาสนาและเพื่อชำระหนี้สงฆ์ไปด้วย



    ขั้นตอนการเดินงาน

    -จัดหาเจ้าภาพให้ครบจำนวนวัดตามที่ระบุ เมื่อครบแล้ว
    - จัดหาคณะร่วมเดินทางและผู้ร่วมบุญขอทราบจำนวนคนไปร่วมเดินทาง ไม่เกิน วันที่ 30 มกราคม 55เมื่อทราบจำนวนแท้จริงแล้ว
    -โทรปรึกษากับทางวัดที่ไปถวายเพื่อกำหนดช่วงเวลาเดินทาง
    - กำหนดวันที่เวลาในการเดินทาง และจัดหารถในการเดินทาง
    - รวบรวมวัสดุอุปกรณ์ในการเดินทาง และรวบรวมเงินทำบุญแจ้งให้ทราบด้วยทั่วกัน

    -เดินทางตามเป้าหมายที่ระบุไว้

    กำหนดการ การเดินทาง(อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม)

    วันศุกร์ ที่ 10 กพ.55 ช่วงเวลา 21.00 - 22.00 น. เดินทางออกจากกรุงเทพ

    วันเสาร์ที่ 11 กพ.55

    - เวลา 8.30 -10.00 น. ทำการถวายพระและเครื่องสังฆทาน ณ. วัดบ้านไพรพัฒนา อ.ภูิสิงห์ จ.ศรีสะเกษ
    - เวลาโดยประมาณ 10.30 น. ออกเดินทางไปยัง หลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
    - เวลา 13.00 น. ทำการถวายพระและเครื่องสังฆทาน
    - เวลา 14.30 น. โดยประมาณ ออกเดินทางไปยัง วัดกระดึงทอง" ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์

    - เวลา 1ุ6.30 น. ทำการถวายพระและเครื่องสังฆทาน
    - เวลา 17.30 น . ออกเดินทางเข้ากทม


    - ถ้ามีจำนวน10 คนขึ้นไป เดินทางโดยรถตู้ ค่ารถตู้ เฉลี่ยท่านละ 850 บาท
    หักค่าใช้จ่ายเหลือเท่าใหร่ถวายร่วมทำบุญกับวัดที่ไปถวายทั้งหมด

    บุญครั้งเดียวแต่จะได้อานิสงส์ถึง 4 อย่างด้วยกันคือ

    1. ได้ร่วมถวายพระศรีอาริยเมตไตรย หน้าตัก 12 นิ้ว
    2. ได้ร่วมถวายผอบ 3 ชั้น

    - ชั้น 1 บรรจุพระบรมสาริกธาตุสมเด็จองค์ปฐม
    - ชั้น 2 บรรจุพระบรมสาริกธาตุองค์ปัจจุบันหลายวรรณสัณฐาน
    - ชั้น 3 บรรจุพระบรมสาริกธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า

    3. ได้ร่วมถวายสังฆทานชุดใหญ่
    4. ได้ร่วมชำระหนี้สงฆ์

    5. ถวายภัตตาหารพระ

    โครงการงานบุญนี้บอกได้คำเดียวว่าคุ้มสุดคุ้ม ทำบุญในวาระเดียวแต่ได้อานิสงส์มากมายหลายอย่างเลย การถวาย "พระพุทธรูป - พระบรมสารีริกธาตุ - สังฆทาน" ไว้ในพระพุทธศาสนานั้นเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ ในส่วนที่จะถวายเป็นการ "ชำระหนี้สงฆ์" นั้น ก็มีประโยชน์มากเหลือล้น หากทางวัดนำปัจจัยส่วนนี้ไปใช้ในการบูรณะซ่อมแซมเสนะสถานภายในวัดกี่อย่าง เท่ากับพวกเราจะได้อานิสงส์ครบทุกอย่างตามที่ทางวัดนำไปใช้

    </td></tr></tbody></table>
    ท่านใดมีจิตศรัทธาจะร่วมเป็นเจ้าภาพตามที่ระบุหรือร่วมบุญตามกำลังศรัทธา
    หรือร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วยกันแจ้งความประสงค์เป็นเจ้าภาพมาได้ที่ คุณฐนกร โสสาร 0898152289

    e-mail tanakorn_ss@hotmail.com

    หรือท่านใดจะร่วมทำบุญในการถวายพระครั้งนี้ด้วยกันท่านสามารถร่วมบุญได้ที่

    ธนาคารออมสิน(ออมทรัพย์): สาขาฟิวเจอร์พาร์ครังสิต
    ชื่อบัญชี: นายฐนกร โสสาร
    หมายเลขบัญชี: 020056381955
    ยอดเงินปัจจุับันอยู่ที่ 0.00 บาท ณ.วันที่ 03-01-55


    โดยเงินทำบุญที่ท่านโอนมาจะนำไปถวายวัดทั้งหมด
    เฉพาะเจดีย์บุญงานนี้เท่านั้นนะครับ


    สนใจร่วมเดินทางติดต่อได้ที่ คุณ ฐนกร โสสาร
    ไม่เกิน วันที่ 31 มกราคมนะครับ

     
  2. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

    [​IMG]
     
  3. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

    [​IMG]
     
  4. ก ฯลฯ ฮ

    ก ฯลฯ ฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    856
    ค่าพลัง:
    +1,172
    คุณฐนกรครับ พระสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลก งดงามมากครับ

    วันนี้ส่งพระให้ 2 ท่าน แบบลงทะเบียน (เมื่อวานเย็น คนเยอะมาก รอไม่ไหวครับ)

    1. คุณ คทา rf619555241th

    2 คุณชวัลพัฒท์ rf619555269th


    อนุโมทนาครับ

     
  5. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    ขออนุญาติช่วยประชาสัมพันธ์เผยแพร่
    ข่าวงานบุญเพื่อสาธารณประโยชน์

    ขอเชิญพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธา

    ร่วมบุญเป็นเจ้าภาพสร้างบันได
    ขึ้นกราบรอยพระพุทธบาท
    [FONT=&quot]ณ. วัดลำจังหัน บ.ลำจังหัน ต.สามแยก
    อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์


    จำนวน 400 ขั้น ขั้นละ 2000 บาท
    (หรือตามกำลังศรัทธา)

    [/FONT]
    [​IMG]


    [​IMG]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [​IMG]


    ตัวอย่างแบบที่จะทำการสร้าง
    (อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม)


    [​IMG]

    ภาพ: ตัวอย่างบันไดและวิหารครอบรอยพระพุทธบาท

    [​IMG]
    ภาพ: รอยพระพุทธบาทในก้อนหินอยู่บนยอดเขา

    [​IMG]

    [FONT=&quot]รายละเอียดเบื้องต้น[/FONT]

    [FONT=&quot]ชื่อของบันได "บันไดแก้วมณี"[/FONT]


    [FONT=&quot]ขนาดบันได
    [/FONT]

    [FONT=&quot]กว้าง [/FONT]50 cm. [FONT=&quot]ยาว [/FONT]1500 cm. [FONT=&quot]สูง [/FONT]15 cm

    เสาสูง 1000 cm.

    ถาดบัวสูง 10 cm.
    ดอกบัวสูง 30 cm.

    [FONT=&quot]ความยาวทางขั้นบันไดทั้งประมาณ [/FONT]400 [FONT=&quot]เมตร [/FONT]400 [FONT=&quot] ขั้น
    [/FONT]

    [FONT=&quot]งบประมาณในการก่อสร้าง
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ใช้งบขั้นละ [/FONT]2000 [FONT=&quot]บาท โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น [/FONT]800,000 [FONT=&quot]บาท[/FONT]

    [FONT=&quot]วัสดุในการก่อสร้าง[/FONT]
    [FONT=&quot]ปูน ทราย โครงเหล็ก เสาแสตนเลส
    [/FONT]


    [FONT=&quot]ดำเนินการก่อสร้างโดย
    [/FONT]
    [FONT=&quot]พระภิกษุของวัดและช่างผู้รับเหมา[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ทุกขึ้นบันไดทำการสร้างด้วยปูนและทำการสลักชื่อของผู้เป็นเจ้าภาพหรือหมู่คณะ หรือครอบครัว ขั้นละ [/FONT]2000 [FONT=&quot]บาทไว้ที่ฐานบัวบนหัวเสาราวบันได
    [/FONT]และจำทำการจารึกชื่อเจ้าภาพทุกท่านไ้ว้ทุกขั้นบันใด ทั้ง 400 ขั้น
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ทั้ง นี้เพื่อให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายที่ได้ขึ้นมากราบไว้รอยพระพุทธบาทเมื่อได้ เห็นชื่อแล้วและได้อนุโมทนาบุญ ได้ระลึกถึงความศรัทธาอันแรงกล้าและ ระลึกถึงคุณงามความดีที่ท่านทั้งหลายได้เสียสละแรงกายแรงทรัพย์ของตนเพื่อ สร้างบันไดไว้ขึ้นกราบรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ ความดีและนามของท่านจะถูกจารึกไว้บนทางขึ้นกราบรอยพระพุทธบาทตราบเท่า อายุพระพุทธศาสนาครบ 5000 ปี บริบูรณ์
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]โดยสามารถร่วมบุญเป็นเจ้าภาพหรือร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธา[/FONT]
    [FONT=&quot]ได้ที่หมายเลขบัญชี[/FONT]


    [FONT=&quot]ชื่อบัญชี[/FONT]: [FONT=&quot]พระพิเชศ อนุตต[/FONT][FONT=&quot][/FONT][FONT=&quot]โร[/FONT]
    [FONT=&quot]หมายเลขบัญชี[/FONT]: 629-1-56919-1
    [FONT=&quot]ธนาคาร กรุงไทย[/FONT]:[FONT=&quot] สาขาอำเภอวิเชียรบุรี[/FONT] [FONT=&quot]จังหวัดพิษณุโลก[/FONT]
    [FONT=&quot]บัญชีดังกล่าว เป็นบัญชีเจดีย์กองบุญในการสร้างบันไดขึ้นกราบรอยพระพุทธบาทเท่านั้น

    [/FONT]
    [FONT=&quot]สำหรับท่านใดมีความประสงค์จะขอรับอนุโมทนาบัตร
    สามารถติดต่อสอบถามได้ที่[/FONT]
    [FONT=&quot]พระอาจารย์พิเชศ [FONT=&quot]อนุตต[/FONT][/FONT][FONT=&quot]โร[/FONT]
    [FONT=&quot]หมายเลขโทรศัพท์ [/FONT]: 0861051776




    แผนที่วัด

    [​IMG]

    [FONT=&quot]ที่มารายละเอียดงานบุญดังกล่าว:[/FONT]http://www.jidsai.com/index.php?lay=...114221&Ntype=8


    [FONT=&quot]อานิสงส์ว่าด้วยผลแห่งการสร้างบันได[/FONT]


    [[FONT=&quot]๑๗๔] เราได้สร้างบันไดสำหรับเสด็จขึ้นปราสาท ถวายแด่[/FONT]
    [FONT=&quot]พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า โกณฑัญญะ ผู้เป็นนาถะของ[/FONT]
    [FONT=&quot]โลก ผู้คงที่.[/FONT]
    [FONT=&quot]ด้วยจิตอันเลื่อมใสนั้น เราได้เสวยสมบัติแล้ว ทรงกาย[/FONT]
    [FONT=&quot]อันเป็นที่สุดไว้ในพระพุทธศาสนา ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.[/FONT]
    [FONT=&quot]ในกัปที่ ๓๑[/FONT],[FONT=&quot]๐๐๐ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช ๓ ครั้ง ทรง[/FONT]
    [FONT=&quot]พระนามว่าสัมพหุละ มีพละมาก.[/FONT]
    [FONT=&quot]คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ[/FONT]
    [FONT=&quot]อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า[/FONT]
    [FONT=&quot]เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.[/FONT]
    [FONT=&quot]ทราบว่า ท่านพระนิสเสณีทายกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย[/FONT]
    [FONT=&quot]ประการฉะนี้แล.จบนิสเสณีทายกเถราปทาน[/FONT]




    [FONT=&quot]๑๗๒. อรรถกถานิสเสณิทายกเถราปทาน๑[/FONT]
    [FONT=&quot]อปทานของท่านพระนิสเสณิทายกเถระ มีคำเริ่มต้นว่า โกณฺ-[/FONT]
    [FONT=&quot]ฑญฺญสฺส ภควโต ดังนี้.[/FONT]
    [FONT=&quot]แม้พระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระชินวรพุทธเจ้า[/FONT]
    [FONT=&quot]พระองค์ก่อน ๆ ทุก ๆ ภพนั้นจะสั่งสมแต่บุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระ-[/FONT]
    [FONT=&quot]นิพพานเป็นประจำเสมอมาหลายชาติ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้า[/FONT]
    [FONT=&quot]๑. บาลีว่า นิสเสณีทายกเถราปทาน.[/FONT]
    [FONT=&quot]พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้าที่ [/FONT]568
    [FONT=&quot]พระนามว่า โกณฑัญญะ ท่านได้เกิดในตระกูลช่างไม้ มีศรัทธา[/FONT]
    [FONT=&quot]เลื่อมใส ได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว มีใจเลื่อมใส[/FONT]
    [FONT=&quot]สร้างบันไดทำด้วยไม้แก่น เพื่อสำหรับขึ้นไปยังปราสาท ที่ประทับของ[/FONT]
    [FONT=&quot]พระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ช่วยกันยกพาดไว้. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้เสด็จ[/FONT]
    [FONT=&quot]ขึ้นไปยังปราสาท ในขณะที่เขากำลังมองเห็นอยู่นั่นแหละ เพื่อเป็นเครื่อง[/FONT]
    [FONT=&quot]เจริญปสาทะแก่เขา. เขามีความเลื่อมใสยิ่งนัก ด้วยปีติโสมนัสอันนั้น[/FONT]
    [FONT=&quot]นั่นแหละ กระทำกาละแล้ว ได้ไปเกิดในเทวโลก เสวยทิพยสมบัติใน[/FONT]
    [FONT=&quot]เทวโลกนั้น เมื่อจะเกิดในหมู่มนุษย์ ก็ได้เกิดในตระกูลอันสูงส่ง เพราะ[/FONT]
    [FONT=&quot]ผลที่ได้สร้างบันได ได้เสวยความสุขในมนุษย์แล้ว [/FONT]

    [FONT=&quot]ในพุทธุปบาทกาลนี้[/FONT]
    [FONT=&quot]เขาได้เกิดในตระกูลแห่งหนึ่ง ได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดาแล้ว[/FONT]
    [FONT=&quot]เกิดศรัทธาบวชแล้ว ไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์.[/FONT]
    [FONT=&quot]ท่านระลึกถึงบุพกรรมของตนได้ เกิดความโสมนัสใจ เมื่อจะ[/FONT]
    [FONT=&quot]ประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อน จึงกล่าวคำ[/FONT]
    [FONT=&quot]เริ่มต้นว่า โกณฺฑญฺญสฺส ภควโต ดังนี้[/FONT]

    อ้างอิงจาก:http://www.buaplinor.com/webboard/in....msg843#msg843
    <fieldset class="fieldset"><legend>ไฟล์แนบข้อความ</legend> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="3"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> <td>แผนที่วัดลำจังหัน.pdf (50.5 KB, 0 views)</td></tr></tbody></table></fieldset>
     
  6. เทียน

    เทียน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +67
    ได้รับพระแล้วครับ เมื่อมีโอกาสจะรีบนำไปถวายครูบาอาจารย์ตามวัตถุประสงค์ แล้วจะแจ้งให้ทราบ อนุโมทนาครับ
     
  7. ก ฯลฯ ฮ

    ก ฯลฯ ฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    856
    ค่าพลัง:
    +1,172
    ขอบคุณที่แจ้งให้ทราบครับ ไปรษณีย์รวดเร็วจริงๆ
    พรุ่งนี้ส่งให้คุณนิรันดร์ 50 องค์ครับ
     
  8. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    ขออนุญาติเผยแพร่ ข้อความจากญาิติธรรม คือคุณชุติมา ที่ส่ง mail มาให้อนุโมทนา

    ที่มาสืบเนื่องจากได้มีโอกาศร่วมมอบพระบรมสิกธาตุร่วมบรรจุผอบเจดีย์นำไปถวาย ยังวัดต่างๆ ดังนี้


    พี่เกดและครอบครัวได้นำพระบรมสารีริกธาตุจาก คุณอั๋นนำไปถวายแด่วัดในช่วงปีใหม่ ทั้งหมด 7 ตู้ ( 6 วัด) ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 54- 4 มกราคม 55 มีดังนี้ค่ะ

    1. วัดป่าถ้ำโพรง (พระอาจารย์ถาวร ญาณวีโร) อ.ภูพาน จ.สกลนคร
    2. วัดป่ากกสะทอน (พระอาจารย์ณรงค์ อาจาโร) ต.บ้านตาด อ.เมืองจ.อุดรธานี
    3. ถวายให้แด่ พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)
    ณ วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมอบถวายให้ พระอาจารย์ณรงค์ อาจาโร (ตัวแทนสงฆ์ในการดำเนินการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์)

    4. วัดศรีอภัยวัน (หลวงปู่ท่อน ญาณธโร) อ.เมือง จ.เลย
    5. วัดป่าไชยชุมพล (พระอาจารย์จิรวัฒน์ อัตตรักโข)อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
    6. วัดลำจังหัน อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรูรณ์ (เป็นสถานที่ค้นพบใหม่ เป็นรอยพระพุทธบาท2 รอย ประทับบนก้อนหิน)
    7. วัดเขาโซ่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา (ลูกบุญธรรมของหลวงปู่ฝั้น อาจาโรจะนำมอบถวายให้ในงานครบรอบ 35 ปี วันมรณภาพของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ในวันที่ 8 ม.ค. ซึ่งจะมีพระสงฆ์มาร่วมในงาน 500 รูป รวมถึงลูกศิษย์ทั้งหลาย)

    จึงขอให้อนุโมทนาบุญร่วมกันนะคะ
    พี่เกด


    ขอเชิญร่วมอนุโมทนาบุญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010674.JPG
      P1010674.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      52
    • P1010683.JPG
      P1010683.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      68
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2012
  9. ก ฯลฯ ฮ

    ก ฯลฯ ฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    856
    ค่าพลัง:
    +1,172
    พี่เกดและครอบครัวได้นำพระบรมสารีริกธาตุจาก คุณอั๋นนำไปถวายแด่วัดในช่วงปีใหม่ ทั้งหมด 7 ตู้ ( 6 วัด) ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 54- 4 มกราคม 55 มีดังนี้ค่ะ

    1. วัดป่าถ้ำโพรง (พระอาจารย์ถาวร ญาณวีโร) อ.ภูพาน จ.สกลนคร
    2. วัดป่ากกสะทอน (พระอาจารย์ณรงค์ อาจาโร) ต.บ้านตาด อ.เมืองจ.อุดรธานี
    3. ถวายให้แด่ พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)
    ณ วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมอบถวายให้ พระอาจารย์ณรงค์ อาจาโร (ตัวแทนสงฆ์ในการดำเนินการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์)

    4. วัดศรีอภัยวัน (หลวงปู่ท่อน ญาณธโร) อ.เมือง จ.เลย
    5. วัดป่าไชยชุมพล (พระอาจารย์จิรวัฒน์ อัตตรักโข)อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
    6. วัดลำจังหัน อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรูรณ์ (เป็นสถานที่ค้นพบใหม่ เป็นรอยพระพุทธบาท2 รอย ประทับบนก้อนหิน)
    7. วัดเขาโซ่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา (ลูกบุญธรรมของหลวงปู่ฝั้น อาจาโรจะนำมอบถวายให้ในงานครบรอบ 35 ปี วันมรณภาพของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ในวันที่ 8 ม.ค. ซึ่งจะมีพระสงฆ์มาร่วมในงาน 500 รูป รวมถึงลูกศิษย์ทั้งหลาย)

    จึงขอให้อนุโมทนาบุญร่วมกันนะคะ
    พี่เกด
    ------------------------------------------------------------------


    อนุโมทนาครับ

     
  10. ก ฯลฯ ฮ

    ก ฯลฯ ฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    856
    ค่าพลัง:
    +1,172

    ส่งพระใ้ห้คุณนิรันดร์ อ.ยางตลาด 50 องค์
    ส่งวันที่ 9/1/55
    ได้รับแล้ว 12/1/55


    ณ วันนี้ ไม่มีซอง / พัศดุ ค้างส่งครับ
     
  11. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    [​IMG]
    [​IMG]







    [​IMG]
    กรรมฐานที่หลวงปู่ดู่ท่านสอน

    ให้ท่านกล่าว นะโม ขึ้นมา ๓ ครั้งดังนี้
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (๓ ครั้ง)

    ข้าพระพุทธเจ้าขอกราบนมัสการนอบน้อมต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตที่จะเกิดขึ้น
    ข้าพเจ้าขอระลึกถึงพระปัญญาธิคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ซึ่งบังเกิดขึ้นแล้ว ทำให้จิตของพระพุทธองค์เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์แจ่มใส
    เรียกว่า พระบริสุทธิคุณ
    และเมื่อพระองค์มีพระบริสุทธิคุณ และมีพระปัญญาธิคุณแล้ว
    ก็มิได้นิ่งนอนใจ หวังเพียงเพื่อที่จะช่วยให้สัตว์โลกทั้งหลาย
    ที่กำลังระทมไปด้วยความทุกข์ได้พ้นทุกข์
    ซึ่งมีวิธีการที่จะทำให้จิตของตนเองนั้น เกิดความสว่างจากความดี จากคุณธรรม
    เป็นพระคุณในข้อที่ ๓ อันนี้เรียกว่า พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ไม่มีประมาณ
    ข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมรับ ระลึกถึงพระคุณ
    ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นับตั้งแต่บัดนี้...

    พุทธัง ชีวิตัง เมปูเชมิ
    ธัมมัง ชีวิตัง เมปูเชมิ
    สังฆัง ชีวิตัง เมปูเชมิ

    ข้าพเจ้าขอเอาชีวิตจิตใจ ร่างกาย ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
    ในบางครั้งที่เราทำสมาธิ เราอาจจะไม่มีดอกไม้ธูปเทียน
    เราก็ใช้วิธีเอาชีวิต จิตใจ ถวายเป็พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
    เพราะว่าพระพุทธองค์ พระธรรม พระสงฆ์
    จะเป็นผู้ชุบชีวิต ทำจิตของเราจากการที่เป็นผู้ที่มีสันดานบาปหยาบช้า
    เป็นปุถุชน ให้เป็นสาธุชนหรือกัลยาณชน ในที่สุดจนเป็นพระอริยบุคคล
    เนื่องจากว่า ในระพุทธศาสนานั้น ไม่ได้สอนเพียงให้ทำดี และละความชั่ว
    แต่มีขั้นตอนอีกอย่างหนึ่งคือ วิธีการทำจิตให้บริสุทธิ์
    เมื่อจิตที่บริสุทธิ์แจ่มใสแล้ว จะเป็นจิตที่เป็นเหมือนพระอริยะ
    จึงกล่าวได้ว่า ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาเอกของโลก
    เนื่องจากพระพุทธองค์ ทรงค้นพบสัจจะธรรม
    ทรงพบทุกข์ - เหตุของทุกข์ - วิธีการดับทุกข์ และผลที่ได้รับจากการดับทุกข์

    หลังจากนั้น ให้ตั้งใจสมาทานศีล
    เนื่องจากว่าในวันหนึ่งๆ นั้น เราอาจจะไปทำผิดศีลข้อหนึ่งข้อใด
    การสมาทานศีลจะป็นการทำจิตให้พร้อม
    เพราะเมื่อสมาทานศีลแล้ว จิตของเราก็จะบริบูรณ์
    โดยให้ระลึกนึกถึงดังนี้

    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

    ทุติยัมปิพุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิสังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

    ตะติยัมปิพุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิสังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

    ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์
    ว่าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึก ทั้งครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๒ และครั้งที่ ๓
    การที่เราได้กล่าวไตรสรณคมน์นี้ ก็เป็นการประกาศตนเองเป็นพุทธมามกะ
    เมื่อประกาศตนเป็นพุทธมามกะได้ ก็จะต้องมีศีล
    โยเฉพาะศีลของฆราวาส หรือศีลของปุถุชนทั่วไป คือ ศีล ๕
    ศีลแปลว่า ความปกติ จะเป็นปกติได้ก็อยู่ที่กฎเกณฑ์ของสังคม
    พระพุทธเจ้าทรงมองสังคมว่า ถ้าไม่มีการล่วงละเมิดศีลทั้ง ๕ ข้อนี้
    สังคมนั้น ก็จะเป็นสังคมที่สงบ
    เนื่องจากว่า ถ้าคนทุกรูป ทุกนาม ถือศีล รักษาศีล
    ศีลก็จะรักษาตัวเรา และรักษาสังคม

    หลังจากนั้น ให้พึงกำหนดจิต
    กล่าวอาราธนาบารมีพระ

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะะหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ ครั้ง)

    พุทธัง อาราธนานัง กะโรมิ
    ธัมมัง อาราธนานัง กะโรมิ
    สังฆัง อาราธนานัง กะโรมิ

    นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา (๓ ครั้ง)
    นะโม พรหมปัญโญ (๓ ครั้ง)

    ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
    ขออารธนาบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์
    ทั้งแสนโกฎิจักรวาล พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ทั้งแสนโกฎิจักรวาล
    พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย
    บารมีหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด
    บารมีของหลวงพ่อดู่ วัดสะแก
    ขอได้โปรดได้ควบคุมการปฏิบัติสมาธิของข้าพเจ้า
    ให้มีจิตใจที่สะอาด ให้มีจิตใจที่สว่าง และมีจิตใจที่สงบด้วยเทอญ

    ลำดับต่อไปให้นึกถึง ความผิดที่เราได้เคยกระทำมา
    ด้วยกาย วาจา ใจ หรืการประมาทพลาดพลั้งในพระรัตนตรัย
    คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    ซึ่งการกระทำของเราจะเป็นไปด้วยเจตนาหรือไม่ก็ตาม
    เราตั้งใจที่จะขอขมาโทษ เพราะว่ากรรมที่ได้ประมาทในพระรัตนตรัยนั้น
    จะทำให้จิตของเราเนิ่นช้าต่อคุณธรรมที่ควรจะได้
    จงดำริขึ้นในใจว่า

    โยโทโส โมหะจิตเต นะพุทธัสมิง ปาปะกะโต มะยา
    ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ

    โยโทโส โมหะจิตเต นะธัมมัสมิง ปาปะกะโต มะยา
    ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ

    โยโทโส โมหะจิตเต นะสังฆัสมิง ปาปะกะโต มะยา
    ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ

    ทำจิตของเรานึกถึงบารมีของ หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่
    ทำจิตของเรานึกถึงบารมีของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    รวมทั้งบุญที่เราเคยทำมาตั้งแต่อดีตชาติ ปัจจุบัน และในขณะนี้
    แผ่เมตตาไปโดยไม่มีประมาณไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลายว่า

    พุทธัง อนันตัง ธัมมัง จักรวาลัง สังฆัง นิพพานะปัจจะโยโหตุ

    การที่เราจะทำสมาธิต่อไปนั้น ให้นั่งเอาเท้าขวาทับเท้าซ้าย
    มือขวาวางไว้บนมือซ้าย มือขวากำพระไว้ในมือ
    กำพระไว้ในอุ้งมือโดยให้หัวแม่มือชนกัน
    ตั้งกายให้ตรง ทำกายให้ตรงไม่ต้องยืดหรือเกร็งตัวจนเกินไป
    นั่งให้สบายๆ เสร็จแล้วนำความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดมาวางไว้ที่ตรงหน้าผาก
    เหมือนเราคิดอะไรในใจ ความคิดอะไรวางไว้ตรงนั้น
    ซึ่งหน้าผากนี้ จะเป็นฐานหนึ่งของลมหายใจเช่นกัน
    (ตรงนี้มีจุดที่ควรระวังคือแค่กำหนดแบบแตะไว้เฉยๆเท่านั้นไม่ต้องเพ่ง
    ถ้าเพ่งอาจก่อให้เกิดผลเสียได้;ผู้เรียบเรียง)

    ไม่ต้องนึกถึงลมหายใจเข้าออก
    เพราะลมหายใจเป็นของที่ละเอียด แต่จิตของเราจะเป็นของที่หยาบ
    ของที่หยาบจะไปจับของที่ละเอียดนั้น เป็นไปได้ยาก
    อันแรกเราก็ำหนดฐานของลมหายใจไว้ตรงที่กลางหน้าผาก
    แล้วบริกรรมในใจว่า

    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ


    การบริกรรมนี้ก็ให้บริกรรมไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบไม่ต้องร้อน
    ไม่ต้องเร่ง ทำใจให้สบายๆ
    ทีนี้ บางครั้งก่อนที่เราจะบริกรรมนั้น เราอาจจะสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ
    เพื่อเป็นการปรับอารมณ์ ให้จิตของเราสบาย
    โปรดจำไว้อย่างหนึ่งว่า ให้ปฏิบัติหรือให้ทำอย่างสบายๆ
    อย่าไปเคร่งเครียด อย่าไปเร่งรัด
    เพราะจะทำให้ไม่ได้อะไรขึ้นมา
    ให้ทำใจเราให้ยึดอยู่แต่คำภาวนา

    หน้าที่ของเราก็คือ การบริกรรมนี้ เขาเรียกว่า การทำงานของจิต
    เนื่องจากว่าจิตของคนเรานั้นจะสนองทันทีในการคิด วุ่นวาย สับสน ปรุงแต่ง
    เมื่อมีการปรุงแต่งแล้ว จิตของเราก็จะหาความสงบไม่ได้
    เมื่อจิตหาความสงบไม่ได้ ก็เป็นจิตที่วุ่นวายสับสน
    เมื่อจิตวุ่นวายสับสน ก็หความสุขไม่ได้
    ดังพุทธภาษิตของพระพุทธเจ้าที่ตรัสไว้ว่า

    นัตถิ สันติปะรัง สุขัง
    สุขยิ่งกว่าความสงบไม่มี

    การที่เราได้มาบำเพ็ญสมาธิ ได้ชื่อว่า เรากำลังทำให้จิตได้ทำงาน
    เพื่อให้เกิดความสงบ
    เพราะจิตที่สงบเท่านั้นจึงจะเป็นการพักจิต ฟอกจิต
    คนเราทุกวันนี้ อาบน้ำชำระร่างกายวันละ ๓ เวลา
    แต่ว่าไม่ได้ฟอกจิตของตัวเองเลย
    เรารับประทานอาหารวันละหลายมื้อ แต่ว่าเราไม่ได้ให้อาหารแก่จิตเลย
    เมื่อจิตซึ่งปราศจากความสงบ ความสมบูรณ์พูนสุขเข้าไปสะสมอยู่ในตัว
    จิตนั้นจะไปเกิดเป็น อาสวะ เป็นกิเลสซึ่งหมักหมม
    พอหมักหมมแล้วก็จะเกิดเป็นพิษต่อเจ้าของ
    เขาเหล่านั้นจะหาหนทาง หรือหาตัวเองไม่พบ
    เนื่องจากว่า ไม่ได้เข้ามาสู่การปฏิบัติในทางพระพุทธศาสนา
    เพราะการปฏิบัติภาวนาเป็นวิถีทางที่พระอริยเจ้าทั้งหลายได้ดำเนินมา
    เราซึ่งได้ชื่อว่า เป็นลูกหลานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ก็ควรกะทำตาม ประพฤติยึดแนวตามที่เรากล่าวกันว่าเรานับถือ
    บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์นั้น

    การนับถือบูชาคือการยอมรับและนำมาปฏิบัติตาม
    พระพุทธองค์ทรงสำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณได้ก็ด้วยวิถีแห่งการบำเพ็ญสมาธิ

    เพราะเมื่อจิตสงบแล้ว ก็จะเกิดกำลังของจิตขึ้น
    เมื่อเราวิเคราะห์ไตร่ตรองได้แล้ว
    เราก็มีปัญญารู้ตามว่า สิ่งนั้นผิด สิ่งนั้นถูกโดยจิตใจของเราเอง
    หรือเรียกว่า เป็นคนที่รู้จริง ไม่ได้รู้ตามทฤษฎี
    คนที่รู้ตามทฤษฎีนั้น โอกาสที่จะทำจิตใจของตนเอง
    เพื่อที่จะค้นคว้าเข้าไปหาจิตของตนเองนั้นเป็นไปได้ยาก
    การที่เราบำเพ็ญภาวนาและกล่าวไตรสรณคมน์นั้น
    เมื่อจิตของเรายังไม่สงบนิ่ง
    ก็ให้กำหนดให้จิตเห็นเป็นตัวหนังสือปรากฎขึ้นในห้วงใจของเรา
    ที่จิตของเรา เหมือนกับเรากำลังเขียนหนังสือลงบนกระดานดำ
    หรือเขียนหนังสือฉายลงบนจอภาพ
    พอเราภาวนาว่า พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ก็ให้เขียนเป็นตัวหนังสือไปตามนั้นทั้ง ๓ อย่าง
    พอจิตของเราชำนาญก็จะทำได้ดี
    เนื่องจากว่าเราใช้จิตของเราทำงานถึง ๒ อย่างคือ


    ๑. การบริกรรมในใจ
    ๒. การกำหนดตัวหนังสือ หรือการกำหนดกสิณ

    เมื่อจิตมีงานทำทั้ง ๒ อย่าง
    การที่จิตจะส่ายก็จะลดน้อยลง
    จิตก็จะมุ่งมั่นอยู่กับการภาวนาอย่างสม่ำเสมอ
    ภาวนาไปเรื่อยๆ อย่างที่บอก ไม่ต้องรีบ
    ให้ถือ มัชฌิมา ปฏิปทา
    คือว่าในตอนแรกๆ ไม่ต้องนั่งนาน ทั้งนี้ เพราะจิตยังไม่คุ้นเคย
    ก็จะเกิดทุกขเวทนาขึ้นมา คือการปวดเมื่อยตามร่างกาย
    แรกๆ เราก็อย่าไปฝืนนั่ง
    พอจิตของเราเริ่มมีกำลังขึ้น เราก็ค่อยๆ เพิ่มทีละนิดๆ
    เพื่อให้จิตคุ้นอยู่กับคำภาวนา เมื่อจิตสงบแล้วมันจะมีตัวชี้
    ความสงบนั้นแสดงผลอยู่ที่ใจ
    คือ ใจหรือจิตของเราจะไม่ฟุ้งซ่าน
    จะมีความสบายกาย เบาเนื้อ เบาตัว เบาจิต เบาใจ
    เนื่องจาก จิตกับกายกำลังแยกออกจากกัน

    การที่จิตกับกายเริ่มแยกออกจากกันนั้น
    เกิดจากจิตที่เป็นสมาธิในขั้นหยาบ ขั้นกลาง ขั้นละเอียดเป็นลำดับๆ
    ไม่มีวิธีการใดเลย ในทางพระพุทธศาสนา ที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าการบำเพ็ญสมาธิ
    เพราะเมื่อมีสมาธิแล้ว สิ่งที่ติดตามมาก็คือ ปัญญา
    เราจึงมีปัญญาเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เนื่องจากว่าเราจะเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง
    ในขณะที่เราไม่ได้บำเพ็ญสมาธิ เข้ามาอยู่ในสายตาของเรา
    เข้ามาอยู่ในอารมณ์ของเราอยู่ตลอด
    เมื่อจิตของเราได้รับการทำสมาธิแล้ว จิตมีกำลังแล้ว
    ก็เริ่มที่จะพิจารณาความเป็นจริง
    ความเป็นจริงที่แสดงออก เมื่อแสดงออกมาแล้ว เราจะเข้าใจสิ่งเหล่านั้น
    อันนี้คือ วิถีทางหรือกระบวนการที่ทำให้จิตเกิดวิปัสสนา
    วิปัสสนาคือการพิจารณาจนเกิดปัญญา

    (จิต มีสมาธิก็สามารถเริ่มการเจริญวิปัสสนาโดยวิธีคือมีสติ สัมปชัญญะรู้กาย รู้ใจ ตามความเป็นจริงที่กำลังปรากฏในปัจจุบันด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง (คือรู้ตามความเป็นจริงในร่างกายจิตใจของเราเองซึ่ง ฐานทั้ง4 แบ่งได้ 4 หมวดใหญ่ คือ กาย เวทนา จิต ธรรม;ผู้เรียบเรียง))

    ปัญญาเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ย่อมที่จะไปคุมศีล หรือคุมสมาธิ
    คือว่าเราจะรักษาศีล ทำสมาธิโดยไม่ต้องมีใครมาบังคับ
    เพราะปัญญาเราเริ่มจะรู้แจ้งเห็นจริงแล้วว่า
    สิ่งเหล่านั้นเป็นคุณ เหมือนกับเราต้องรับประทานอาหาร หรือเราต้องหายใจ
    พอสิ่งเหล่านี้เป็นคุณ เราก็ถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งซึ่งจะประจำตัวของเรา

    การที่เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้มาพบพระพุทธศาสนา
    และได้มาปฏิบัติธรรมนั้น เป็นสิ่งที่ยากเย็นมาก
    เพราะบารมีของผู้ที่จะมาศึกษา มาปฏิบติภาวนานั้น
    เป็นบารมีขั้นสุดท้ายในการที่จะตัดภพ ตัดชาติ
    การที่จะตัดภพตัดชาติได้ บารมีของท่านผู้นั้นจะต้องเข้มข้น
    จึงสามารถจะตัดสินได้เลยว่า บุคคลนั้นมีบารมีเข้มข้นหรือยัง
    ถ้าเราเริ่มที่จะพอใจในการบำเพ็ญสมาธิ ปฏิบัติภาวนานั่นแหละ
    ขอให้รู้ว่า บารมีของเรากำลังบังเกิดขึ้น
    และกำลังจะดำเนินไปสู่ทางที่ดีงามที่สุด

    ให้บริกรรมไปเรื่อยๆ บริกรรมไป ทำจิต ทำใจ ตั้งสติให้คุมคำภาวนาไว้ตลอด
    ไม่ให้จิตส่ายโอนเอียงไปข้างหน้าไปข้างหลัง
    ให้ทำจิตใจของเราให้เหมือนเรากำลังเข้าเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    เรากำลังอยู่เบื้องพระพักตร์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    เรากำลังอยู่ในแวดวงพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย
    เมื่อเราได้บำเพ็ญมาแล้วด้วยดี
    ทุกครั้งก่อนที่เราจะเริ่มทำสมาธิหรือเริ่มภาวนา
    ให้ตั้งจิตของเราให้มีเมตตา อ้างเอาบุญญาธิการขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    พระปัจเจกพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย
    ขอบุญบารมีของหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    รวมทั้งบุญบารมีของข้าพเจ้าที่ได้กระทำมาด้วยดี
    ขอแผ่ผลบุญนี้ไปไม่มีประมาณ ณ กาลบัดนี้

    พุทธัง อนันตัง ธัมมัง จักรวาลัง สังฆัง นิพพานะปัจจะโย โหตุ

    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา
    พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพะลัง
    อะระหันตานัญจะเตเชนะรักขัง พันธามิสัพพะโส

    ขออำนาจบุญบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    จงมาสถิตติดอยู่ในใจของข้าพเจ้าตลอดไป

    พุทธังกำลังกล้า ธัมมังกำลังแกร่ง สังฆังกำลังแรง
    ด้วยฤทธิ์แห่งพระกำลัง ขอเชิญพระปัจเจกมาช่วยเสกกับพระอรหันต์
    ให้เป็นวิมานแก้วล้อมรอบครอบตัวพัวพัน คอยป้องกันภยันตราย

    พุทธัง อธิษฐามิ
    ขอการอธิษฐานของข้าพเจ้า จงสำเร็จได้ด้วยอานุภาพพระพุทธเจ้า
    ธัมมัง อธิษฐามิ
    ขอการอธิษฐานของข้าพเจ้า จงสำเร็จได้ด้วยอานุภาพพระธรรม
    สังฆัง อธิษฐามิ
    ขอการอธิษฐานของข้าพเจ้า จงสำเร็จได้ด้วยอานุภาพพระอริยสงฆ์ทั้งหลายด้วยเทอญ

    ก่อนที่เราจะลืมตาขึ้นมานั้น ให้พึงพิจารณาว่าทุกสิ่งทุกอย่าง
    พอเกิดขึ้น แล้วมาตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป
    นี่เป็นของจริงแท้แน่นอน เป็นสัจธรรมที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเล็งเห็น
    ด้วยพระญาณอันประเสริฐว่า ขึ้นชื่อว่าโลกแล้วจะต้องถึงคราวอันตรธานสูญหายวิบัติไป
    โลกภายนอกเช่น บุคคล สิ่งของทั้งหลาย
    โลกภายใน คือโลกของเราเอง เปรียบเสมือนพวกร่างกาย
    เมื่อถึงวันเวลาซึ่งเรายืมเขามา คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศธาตุ
    มาประชุมรวมกันเป็นร่างกาย โดยมีจิตปฏิสนธิวิญญาณของเราครองอยู่ สิงสถิตรวมอยู่
    จึงถือได้ว่า พ่อแม่เป็นผู้ที่ให้ร่างกายให้เรามาอาศัยอยู่
    ถึงเวลาแล้วเขาก็ต้องเรียกคืนไป โลกก็จะต้องกลับคืนไปสู่โลก
    ไม่มีคนหนึ่งคนใดจะเอาทรัพย์สมบัติอะไรไปได้ แม้แต่เพียงหยิบมือ หรือเพียงธุลีเดียว
    สิ่งที่จะติดตัวไปได้นั้นคือ บุญ บาป ชั่ว ดี เท่านั้น
    หมั่นพิจารณาอยู่เสมอๆ ว่า พอร่างกายนั้นตาย เราไม่สามารถจะนำเอาอะไรไปได้
    การที่เราได้คิดอยู่ทุกวัน คิดถึงความตายอยู่เสมอๆ
    จิตของเราก็จเป็นจิตซึ่งทรงอานุภาพ และเป็นจิตที่ไม่ประมาท
    ในการที่จะสร้างคุณงามความดียิ่งๆ ขึ้นไป
    สมดังที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสบอกกับพระอานนท์ว่า
    ตถาคตคิดถึงความตายอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก
    พระดำรัสนี้ย่อมแสดงถึงว่า
    ผู้มีสติพร้อมบริบูรณ์ก็จะระลึกความตายเหมือนสายฟ้าแลบ
    เมื่อระลึกดังนี้ได้อยู่อย่างสม่ำเสมอ จิตของเราก็จะเป็นจิตที่เมตตา
    ไม่อาฆาต ไม่พยาบาท บุคคลหนึ่งบุคคลใด

    และก่อนที่จะลืมตา ให้ทำจิตของเราให้แจ่มใส
    แผ่เมตตาและสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ
    อธิษฐานถึงความดีอันนี้ ขอให้ติดตัวตลอดไป

    ?[​IMG]
    เรียบเรียงจาก "ร่มเงาพุทธฉัตร"
    ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ศุภรัตน์ แสงจันทร์
     
  12. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747

    คุณณัฐกลับมาหรือยัง กลับมาแล้วช่วยส่งข่าวบอกด้วยนะครับ
     
  13. wvuitews

    wvuitews เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +837
    ขออนุโมทนาครับ

    นายณัฐวุฒิ พุกวงษ์
    ห้อง 415 จารุวรรณโฮมเพลส 63 ม.14 ต.สุเทพ ซ.วัดอุโมงค์ อ.เมือง
    จ.เชียงใหม่ 50200

    รายละเอียดจะส่งให้ในซองครับ

    ขอบพระคุณมากครับ
     
  14. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747

    โมทนา

    ส่งมาตามที่อยู่ด้านล่าง

    สุรชัย ศรีอรุณลักษณ์
    48/9 ม.9 ถ.บางกรวย-ไทรน้อย
    ต.บางเลน อ.บางใหญ่ นนทบุรี 11140
    โทร. 081-551-7374



    หรือ คุณฐนกร โสสาร
    ๑๓/๑ ม.๒ ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
    12150


    บุญใหญ่อานิสงส์ไม่มีประมาณ ขอเชิญร่วมบุญสร้างบันได กราบรอยพระพุทธบาท วัดลำจังหัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2012
  15. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้มอบพระผงจักรรพรรดิ์ประมาณ 70 องค์ให้ญาติธรรม พี่อภิชาติ
    (เส้นทางแห่งธรรม) เพื่อนำไปแจกในวาระต่างๆ


    -----------------------------------------------------------------------------------------------------
    บุญใหญ่อานิสงส์ไม่มีประมาณ ขอเชิญร่วมบุญสร้างบันได กราบรอยพระพุทธบาท วัดลำจังหัน

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2012
  16. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    ผมและภรรยาร่วมทำบุญถวายพระ 300 บาทครับ โอนให้แล้ววันนี้ครับ 23/1/55

    ธนาคารออมสิน(ออมทรัพย์): สาขาฟิวเจอร์พาร์ครังสิต
    ชื่อบัญชี: นายฐนกร โสสาร
    หมายเลขบัญชี: 020056381955

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะครับ ^^
     
  17. ก ฯลฯ ฮ

    ก ฯลฯ ฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    856
    ค่าพลัง:
    +1,172
    ----อนุโมทนาด้วยครับ------
     
  18. kruthaiban

    kruthaiban Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +32
    อนุโมทนาด้วยครับ ไม่ทราบว่าหมดหรือยังถ้ายังเหลือขอด้วยนะครับ
    ธีระ ไสโม้
    67 ถนนศรีจันทร์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 40000
     
  19. ก ฯลฯ ฮ

    ก ฯลฯ ฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    856
    ค่าพลัง:
    +1,172
    กติกาการรับพระ มีอยู่ที่หน้าแรกนะครับ

    ทำตามกติกา แล้วส่งซอง หรือกล่อง มาได้เลยครับ
     
  20. boydbee

    boydbee สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +4
    โอนเงินแล้วครับ 1000บาท ที่ขอพระผง1500องค์ ของหลวงพ่อณรงค์ สำนักสงฆ์เขาช่องลมสระบุรี บอย0865765333
    โอนวันที่25/01/12 เวลา08:08
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...