มีวิธีดูตัวเองไหมว่าเราได้รับยันต์เกาะเพชรแล้ว

ผมตั้งใจรับยันต์วันนี้ แต่ทำเองที่หอพัก ซื้อดอกบัวมาถวาย แล้วก็มีธูปเทียนมาพนมไว้ แต่ไม่ได้จุดเพราะว่าสถานที่ไม่สามารถทำได้ ... พอเปิดถ่ายทอดสดที่วัดท่าขนุน ก็เปิดดูหลวงพี่เล็กพูดตอนบ่าย สวดมนต์ก็ทำตามไป จนถึงภาวนาพุทโธ ก็นั่งไปประมาณ 40-50 นาที ลืมตามาดู ปรากฏว่าสัญญาณมันหลุดไปแล้ว ไม่รู้ว่าหลวงพ่อท่านว่ายังไงต่อ .. ระหว่างทำสมาธิ ก็ฟุ้งซ่านตามเดิม หลังๆ เริ่มมีอาการยิบๆ ที่คอ ประมาณ 2 วินาที >.< เสร็จแล้วตัวมันโยกๆ นิดๆ แต่คุมไม่หยุด ตอนนั้นคิดว่าเป็นอาการปวดเมื่อย จะบังคับให้มันนิ่งมันก็ไม่ไหวเพราะมันปวดเมื่อยเหมือนกัน พอใกล้ๆเลือก น้ำตามันคลอ แล้วไหลออกมานิดนึง แต่ว่าสมาธิผมไม่ไปถึงไหนเลย ฟุ้งซ่านตั้งแต่ต้นจนจบเลย อยากรู้ว่าเราจะได้รับไหมครับ จะมีวิธีดูอย่างไร ถ้าเรารับแล้วสามารถร่วมพิธีครั้งต่อไปได้ใช่ไหม ขอบคุณมากครับ

 

ลองดูแบบนี้ดู

1. เวลาใครด่าแล้วเราสวนไปทันทีไหม ถ้าไม่ แสดงว่าเริ่มมี
2. เวลาใครนินทา เราไม่พอใจมากไหม ถ้าลดลงแล้วอยู่ภายในแสดงว่าเริ่มมี
3. พ่อ แม่ เรียกใช้ทำการงาน ยังขัดเกี่ยงงอนไหม ถ้าไม่มี แสดงว่าเริ่มมี
4. ทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายโดยไม่ขี้เกียจ ถ้าทำได้มากขึ้นแสดงว่าเริ่มมี
5. เริ่มเห็นสาธารณะประโยชน์มาก่อนอันดับหนึ่งมากกว่าแต่ก่อนถ้าเป็นเช่นนั้นแสดงว่าเริ่มมี
6. เริ่มมี หิริ โอตัปปะ ความเกรงกลัวละอายต่อบาปมากขึ้น แสดงว่าเริ่มมี
7. เริ่มมีกุศลที่ยังไม่เกิดแต่ก็ทำให้เกิดขึ้น แสดงว่าเริ่มมี
8. เริ่มหยุดอกุศลที่จะเกิดไม่ให้เกิดขึ้น แสดงว่าเริ่มมี
9. ความกตัญญูเริ่มมีมากกว่าแต่ก่อน แสดงว่าเริ่มมี
10. เริ่มมีตุ้มหูธรรม ไม่เอนเอียงตามลมปากแต่มีการพิจารณา แสดงว่าเริ่มมี

ลองดูครับ โชคดีครับ ^^

 

ถ้ายังไม่มี ไป เซเว่นอีเลเว่น เขามีวางจำหน่ายให้เช่า
ทั่วราชอาณาจักร ถึงแม้ไม่ซื้อ ก็ถือว่ามียันต์
คุมทั่วทุกหัวระแหงของประเทศหมดแล้วโดยละม่อม

ยันต์ แนบมากับ หนังสือประกอบประวัติ ซึ่งระบุว่า เป็นสายตรง
เจ้าต้นตำรับ

ไปหามาซะ คนทั่วประเทศเขาพร้อมมีกันหมดแล้ว

 

ยันต์เกราะเพชร นี่จริงๆแล้ว บูรพาจารย์ ท่านขีดเขียน บูชา พุทธคุณ
เมื่อเขียนบูชาเสร็จ ท่านก็ระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ขอ บารมีท่าน มาปกปักรักษา เรา

ภาษาที่ท่านเขียนไปเขียนไปเขียนมา ท่านก็โยงใยไป เผื่อว่าวันหนึ่งใครมาอ่านเจอ ทราบความหมายจริง ก็ยังจะพอรักษาพระศาสนาไว้ได้บ้าง

ก็ให้พวกชอบฤทธิ์ชอบเดช รักษาเอาไว้ด้วยวิธีนี้
พอดีแหละ พวกชอบฤทธิ์เดชก็ได้อานิสงค์ ด้านอำนาจจิตไป
พวกมีปัญญา ก็ได้ คาถา บทสวดสรรเสริญพุทธคุณไป

ถ้าวันหนึ่ง ใจความพระศาสนาหายไป ความงมงายไม่เคยหายไปจากหมู่สัตว์ และความงมงายนั่ยแหละจะดึง พุทธานุสติกลับมา

ทีนี้มาดูว่า แล้วเราได้ยัต์เกราะเพชร หรือไม่ เราต้องดูว่า เราทำจิตเป็นสมาธิแค่ไหน
เราระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ได้แน่นหนามั่นคงแค่ไหน
ถ้าทำได้แล้ว นั่นแหละ คือ ยันต์เกราะเพชรได้เป็นเกราะคุ้มกันเราจาก คุณไสย จากภัย ทั้งปวง

 

เออนะจริงด้วยครับ การสักยันต์และการทำตะกรุดหรือผ้าประเจียดก็ออกมาแนวๆนี้
สาธุอนุโมทนาครับ

 

เข้าท่ามากครับ ผมจะลองดูซักเดือนนะครับ .. ขอบคุณมากเลย...

จะอาราธนาทุกเช้า แล้วลองสังเกตุตามที่บอกครับ

 

ฮึย ทำไมจะต้องไปยุ่งยาก พิจารณาตั้งหลายข้อ

หน่า ไปเลย 7-11 ยันต์เกราะเพชร ของได้มา "ง่ายๆ"

ชาวบ้านเขาสามารถหาได้มาง่ายๆ สะดวกเช่า ไม่ยุ่งยาก

 

ผมได้รับฟังมา ดังนี้......

สตรีท่านหนึ่งได้เหรียญหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาจากวัดท่่าซุง ก็คล้องไว้ด้วยความศรัทธาในท่านหลวงพ่อ วันหนึ่งก็ได้ไปแสวงบุญต่างจังหวัด ไปพบบุคคลท่านหนึ่งที่มีวิชาใช้พลังฝ่ามือนวดแก้ปวด ถ่ายพลังทางฝ่ามือได้ ก็ขอให้นวดที่ไหล่

นวดอยู่สักพักก็ถามว่า มีของดีอะไร ถ่ายพลังไม่เข้า นวดไม่ได้เลย ก็ปรากฏว่า เป็นเหรียญหลวงพ่อที่ไปทำบุญที่วัดท่าซุงแล้วได้มา เมื่อถอดเหรียญออกแล้ว การนวดถ่ายพลังฝ่ามือก็ดำเนินไปด้วยดี

แสดงว่า เหรียญหลวงพ่อมียันต์เกราะเพชร คุ้มครองป้องกันพลังต่าง ๆ ได้แม้แ่ต่พลังฝ่ามือที่เป็นไปเพื่อความดี ยังผ่านเข้าไปในกายผู้คล้องเหรียญนี้ไม่ได้ ผู้ที่สวดมนต์ด้วยพุทธคุณ ก็จะมีเกราะเพชรคุ้มครองด้วย

ทดลองได้ด้วยตัวเอง ทำใจให้เป็นสมาธิด้วยการสวดบทพุทธคุณ แล้วไปนวด หมอที่นวดจะใช้แรงมากกว่าปกติ ยิ่งนวดแรงก็มีแรงต้านแรง จนหมอนวดบ่น ตัวนิดเดียวทำไมเนื้อแข็งจัง ....กดไม่ลง จะหมดแรงแล้ว เส้นยังไม่นิ่มเลย

เวลาถูกกดลงไปที่ร่างกาย เราก็จงปล่อยวางจิตให้สบาย อย่าส่งใจไปที่จุดที่เขากำลังนวด มิฉะนั้น .....อาการปวดมันจะไม่หาย หมอก็จะบ่น เราก็เสียเงินเปล่า เพราะ ไม่หายปวดเมื่อย.......

หรือจะลองวิชาก็.....เชิญเลยครับ ไม่ต้องใช้มีด หรือ ปืนเลย.

 

กว่าจะรับยันต์ได้ต้องรอวันเสาร์5 ซึ่งมันเกิดง่ายที่ไหนเล่า ...
ไอซื้อใครก็ซื้อได้ แต่คุณค่าทางจิตใจ ทางนามธรรม มันลึกซึ้งกว่านะ
ถ้ามียันต์ในตัว ในใจแล้ว ... มันดีกว่าไปซื้อเป็นรูปมาติดตัว แถม
ไม่เห็นคุณค่าอีก .. อย่างใครก็ไม่รู้ซื้อของราคาเป็นพันเป็นหมื่นให้
กับพ่อแม่เรา ให้ของเล็กๆน้อยๆ นานๆให้ที อะไรมันจะมีค่ากว่ากัน

มียันต์ในตัว มันทำให้เราตั้งใจรักษาไว้ตลอด พยายามระวังไม่ให้ตัวเอง
ผิดศีลธรรม เหมือนมีผู้ใหญ่ดูแลอยู่ ทำให้ระลึกถึงพระรัตนตรัยได้ทุกวัน ... ถ้าไปซื้อ 7-11
ไม่นานหรอก ไปวางทิ้งไว้ไหนก็ไม่รู้

 

ก็อย่าซื้อไปแล้ววางไว้ไหนซี่คร้าบ ถ้าไม่รู้ว่าอยู่ไหน

ไม่รู้ว่าอยู่กับตัวแล้วหรือยัง ก็ต้องนี่เลย

ไปซื้อสายโซ่เล็กๆมาสักเส้น แล้ว คล้องคอเอาไว้ รับ
รองได้เลยว่า ไม่มีลืม ไม่มีไม่รู้ว่าอยู่ที่ตัวหรือไม่อยู่ที่ตัว

 

ผู้ที่รับยันต์ไปแล้วต้องรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ หรือ อย่างน้อย ต้องไม่ดื่มเหล้า และ ไม่ลักขโมยของ

ผู้ที่รับยันต์ไปแล้ว ถ้ารักษาไว้ได้จะมีอานุภาพดังนี้

๑.จะไม่ตายโหงอย่างเด็ดขาด
๒.จะไม่ตายด้วยพิษสัตว์ทุกชนิด
๓.ปลอดภัยจากไสยศาสตร์ทุกชนิด
๔.ไสยศาสตร์ทุกประเภท จะสะท้อนกลับไปเอง

ผู้รับยันต์ไปเป็นผู้ใหญ่ ถ้ารักษาไว้ด้วยดี เมื่อตายแล้วเผา จะมียันต์ติดอยู่ที่กระดูก สำหรับเด็กในท้อง ถ้าเป็นลูกชายคนหัวปี เมื่อคลอดออกมา จะมียันต์ติดอยู่ตามตัว เป็นลวดลายต่าง ๆ กันไป…

ลูกศิษย์หลวงพ่อหลายคน เมื่อตายแล้วเผามียันต์ติดที่กระดูก บางคนกระดูกลายเป็นพระธาตุไปเลย เด็กที่เกิดมามียันต์เกราะเพชรติดตัวเป็นจำนวนมาก บางคนลายเป็นแตงไทย บางคนหูดำทั้งสองข้าง บางคนเป็นยันต์เกราะเพชรอย่างชัดเจน…

รายหนึ่งอยู่ลพบุรี ผู้เป็นแม่รับยันต์ไปแล้ว ตั้งใจรักษาศีล ๘ อย่างเคร่งครัด ลูกเกิดมามียันต์เป็นสีแดง และปรากฏขึ้นทุกวันพระ อีกรายมียันต์ติดกระหม่อมเป็นรูปกงจักร ซึ่งลวดลายยันต์เหล่านี้จะค่อย ๆ ซึมเข้าเนื้อ ไปอยู่ที่กระดูกจนหมด.

ที่มา

ผมเองได้ยันต์เกราะเพชรช่วยชีวิตไว้หลายครั้ง ถ้าไม่มียันต์เกราะเพชรนี่ผมคงตายไปเกือบสิบรอบแล้วครับ

เจริญในธรรมครับ

 

ขอบคุณครับ ^___^

 

เมื่อยันต์ เกราะเพชรเริ่มจับตัว ผู้รับจะมีอาการต่าง ๆ กัน เช่นร้อนหู ร้อนหน้า ขนลุกขนชัน หนักศีรษะ หรือ คันยุบยิบเหมือนมีตัวไรไต่ บางคนจับไข้ไปเลย อาการเหล่านี้จะทรงอยู่ไม่เกิน ๒-๓ วัน พอยันต์เข้าตัวหมดก็หายไปเอง…

ไม่ทราบไปอ่านมายังครับ กระทู้ อานุภาพยันต์เกราะเพชรของหลวงพ่อปาน

ผมมีอาการ คือ ขนลุกขนชัน คันยุบยิบเหมือนมีตัวไรไต่ แต่ผมเป็นผมภูมิแพ้ไม่แน่ใจว่าคันภูมิแพ้หรือรับยันต์

 

ยันต์เป็นอานุภาพพระพุทธเจ้าไม่ใช่ลักษณะอาการทางกาย

ขอโอกาสให้ความเห็นสักนิด.....
......การเป่ายันต์เกราะเพชรของหลวงพ่อ สมัยที่หลวงพ่อยังดำรงค์ขันธ์(อาตมาบุญทันหลวงพ่อเป่าเหมือนกัน) ก็ไม่ได้สงบพอจะเป็นสมาธิได้ เพราะจะมีคนร้องโหยหวน ร้อน.ๆๆๆๆ หลวงพ่อช้วยด้วย ๆๆๆ ดังลั่นศาลา 12 ไร่ หรือ ประจุบันจะเป่าที่วัดท่าขนุนก็คงเหมือนกัน

นอกจากรับศีล 5 และสมาทานกรรมฐาน หลวงพ่อฤษีท่านไม่เคยมีคำสั่งพิเศษว่าต้องตั้งอารมณ์ อย่างนั้นอย่างนี่ เพียงเปิดใจรับ มีศรัทธานั่งภาวนาพุทโธ ๆ
ถือว่าได้รับอานุภาพยันต์เกราะเพชรเหมือนกันหมด

เพราะบางคนเขาสมธิดี ก็อาจไม่มีอาการใด ๆ แสดง หรือมี อาการมากน้อย ก็เป้นเฉพาะบุคคล

แต่ถ้าตั้งใจรับก็ถือว่าใช้ได้ ขอให้ศรัทธาหลวงพ่อ ท่านช้วยเราแน่

เพราะบารมีพระรัตนตรัยเป็นอัปมาโน แม้นอยู่ในดาวดวงใดในแสนจักรวาล อานุภาพยันต์ย่อมตามไปคุ้มครอง





หรือมีโอกาสก็ลองนำขนมปัง 1 ปอนไปวางหน้าโบสถ์วัดท่าซุงเพิ่มได้ถ้าเป็นลูกหลานหลวงพ่อมีผลดีเช่นกัน ขอบารมีท้าวมหาราช บังคุณไสยได้เหมือนกัน อาตมาวางทุกปี ช่วงงานธุดงค์ประจำปี เป็นการป้องกันอีกชั้นหนึ่ง



เจริญพร

 

ทำไมต้องเป็นขนมปังด้วยครับหลวงพี่ มีประวัติหรือเปล่าขอรับ......

 

<CENTER>เมื่อกี้ ท่านท้าวเวสสุวรรณ ให้มาบอกว่า
"ถ้าลูกหลานคนใดไปที่วัด ให้เอาขนมปังไปคนละปอนด์
แล้วไปวางไว้ที่หน้าโบสถ์ เป็นการแก้ "วิชาและอาถรรพ์"

ถามท่านว่า "ทำที่อื่นไม่ได้หรือ"

ท่านก็บอกว่า
"เขาทำที่วัด แก้ที่อื่นมันก็ไม่ได้ ไอ้วิชาและอาถรรพ์นี่เขาทำให้ซวย
ให้ทุกคนหากินยาก มีความเป็นอยู่ยาก มีการป่วยไข้ไม่สบาย"

</CENTER>

ตัวต้นจริงๆ ก็คือฉัน เขาต้องการให้ตาย
นี่บังเอิญไม่ตาย ถ้าตายจะมีความสุขมาก

ก็รวมความว่า เขาทำมามาก เขาทำมาจริงๆ ตั้งแต่ปี ๑๗ แล้วก็ทำเพิ่มเติมทุกปี
ทุกครั้งที่มีงาน มีงานวัด พวกนักไสยศาสตร์เขาไปทุกเที่ยว
ฉันรู้หมด ทำที่ไหนก็ทราบ แต่ว่าที่ไม่พูดเพราะอะไร
เพราะเกรงว่าพวกเราบางคนจะเข้าตะรางไป
เอาแน่ เพียงได้ยินข่าวยังเอาเลย ไม่งั้นก็ขยี้ตายไปเลย
ก็เห็นว่าอันตรายมันมีไม่มาก

และต่อมาเมื่อวานซืนนี้ มีเทวดามาองค์หนึ่ง เป็นเทวดาของท้าวเวสสุวรรณ
ฉันก็นอนภาวนารอเวลารับแขก ก่อนจะรับแขกไม่รู้จะทำอะไรก็นอนภาวนาไปเรื่อยๆ

เสียงท่านพูดดังๆ ว่า
"นี่ เอาขนมปังไปวางหน้าโบสถ์สักปอนด์ไม่ได้รึ"

ก็นึกว่าเสียงใครวะ เราอยู่คนเดียวนี่ แล้วท่านก็พูดอีก
"นี่ เอาขนมปังไปวางหน้าโบสถ์ ๑ ปอนด์ไม่ได้รึ"

พอเหลียวไปดูก็เจอเทวดาลูกศิษย์ท้าวเวสสุวรรณ
"ผมอยู่ป้องกันอันตรายที่วัดนี้ประมาณ ๑๐๐๐ องค์เศษ"

ท่านก็บอกว่า
"วิชาก็ดี อาถรรพ์ก็ดี เขาทำมามากแล้ว เขาต้องการ
อย่างน้อยที่สุด ให้ท่านขยับตัวไม่ได้ คล้ายคนเป็นอัมพาต
แล้วประการที่ ๒ เขาต้องการให้ตาย"

แล้วท่านก็ให้ดูทุกจุดว่า วิชาก็ดี อาถรรพ์ก็ดี เขาทำอะไรบ้าง
ก็เลยบอกว่า
"ทั้งหมดนี้ ทราบทุกครั้งที่เขาทำ"

ท่านก็เลยบอกว่า
"ผมเองก็ทราบว่าท่านไม่เป็นไร มันเข้าไม่ได้
และลูกศิษย์ของท่าน คนที่เคารพยันต์เกราะเพชรจริงๆ มันเข้าไม่ได้เช่นกัน"

ท่านอธิบายต่อไปว่า
"สมมติเป็นกองไฟกองใหญ่ ถ้าเขาเอาท่านไปเผาได้ท่านก็ไหม้
แต่เผอิญพวกท่านไม่ได้เข้ากองไฟ พวกผมกันไว้
แล้วเปลวไฟที่แลบออกมาก็ไม่ถึงตัวท่าน

แต่อย่าลืมว่าสถานที่เดียวกัน ไอร้อนมันมี ละอองคือไอร้อนทีละน้อยๆ
มันก็สะสมในตัว อย่างนี้ก็ทำให้การคล่องตัวไม่มี
อาการที่ป่วยไข้ของท่าน ก็ด้วยเหตุนี้เช่นกัน นี่ละอองนะ ไม่ใช่เนื้อแท้
ทีนี้ลูกหลานทุกคน ที่มีความเป็นอยู่ไม่ปกติ ก็เป็นด้วยเหตุนี้เหมือนกัน เป็นละออง"

เมื่อกี้ท่านท้าวเวสสุวรรณ บอกตอนบวงสรวง บอกว่า
"ให้บอกลูกหลานทุกคน ถ้าไปวัด เอาขนมปัง ๑ ปอนด์วางที่หน้าโบสถ์"

ตอนที่เทวดามาบอกท่านย้ำว่า "หน้าโบสถ์นะ ไม่ใช่ข้างโบสถ์"
ก็เลยบอกว่า "ที่หน้าโบสถ์ วางบนพื้นสูงด้านหน้าได้ไหม"

ท่านบอกว่า "นั่นมันบนโบสถ์"
ดุด้วยนะ เขาว่าเทวดาไม่ดุ ไม่จริง
แต่เสียงเทวดาชั้นจาตุมหาราช เสียงท่านห้าวหาญ ไม่ใช่ดุนะ

เลยถามว่า "ตรงไหนล่ะ"
ท่านตอบว่า "ตรงไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่ข้างโบสถ์"

ก็ถามว่า "เวลาวางต้องทำแท่นต้องทำที่ไหม"
ท่านบอกว่า "ผมไม่ได้บอกนี่"

ถามว่า "เวลาวางทำยังไง"

ท่านบอก
"เวลาวางทุกคนให้ว่าตามนี้นะ วิชาและอาถรรพ์จงพินาศไป" เท่านี้

ถ้าเราจะเคารพในท่าน ก็จุดธุปบอกหน่อยนะ ท่านบอกว่า
"หลังจากนั้นต่อไป เป็นหน้าที่ของผม"

ต่อมาเวลา ๖ โมงเย็น ก็นอนทำกรรมฐานอยู่ ฉันหากินนอนมากกว่านั่ง
ก็เห็นลูกศิษย์ท่านท้าวเวสสุวรรณท่านมา

ท่านบอกว่า
"เวลาที่เขาทำใช้เวลามานาน
ลูกน้องผมและลูกน้องท้าวมหาราชทั้งหมดพันคนเศษ คุมวัดอยู่
ท่านรอโอกาสนี้มานานแล้ว
รอโอกาสที่อกุศลกรรมเปิดทางให้ฝ่ายที่เขาทำนะ ที่เขากลั่นแกล้ง"

ถามท่านว่า
"การกลั่นแกล้งนี้มาจากไหน เรื่องส่วนตัวรึ เรื่องส่วนตัวนี่ ไม่มีกับใคร"

ท่านบอกว่า
"ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว มันเรื่องส่วนรวมและความโลภ
เขาต้องการให้ท่านพับไป แม้ลูกหลานทั้งหมด แต่มันพับไม่ลง"

แล้วท่านก็บอกว่า
"ผมรอเวลานี้มานาน วันนี้เวลา ๑๔.๐๐ น. กรรมที่เป็นอกุศลกรรมเขาเปิด"

ท่านเลยมาบอกเวลา ๑๓.๑๒ น. ไม่ใช่ให้หวยนะ และตอนสัคเคฯ
พระพุทธเจ้าท่านเสด็จ บวงสรวงต้องนึกถึงพระพุทธเจ้าด้วยนะ
อันดับแรกก็แค่ท้าวมหาราชทั้ง ๔ ถ้าเขายืนกับที่
พระพุทธเจ้าท่านเสด็จด้วย พอมาถึงท่านก็บอกว่า
"บอกลูกหลานเขานะ ความเจริญรุ่งเรืองจะมีขึ้นตามลำดับ ถอยหลังไม่มี..."

ลงท้ายท่านก็บอกว่า
"เธอยังตายไม่ได้ตามเดิม" ......

ที่มา...Bloggang.com : zeedhama -​

 

ได้รับยันต์เกาะเพชรแล้วครับ จขกท

ถ้าเรารับแล้วสามารถร่วมพิธีครั้งต่อไปได้ครับ

 

ได้รับแล้วครับไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ.

 

ขอบพระคุณครับบ

สาธุ ครับบบ ​