หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

ในห้อง 'หลวงปู่แหวน' ตั้งกระทู้โดย psombat, 18 มีนาคม 2010.

  1. ckj_tong

    ckj_tong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +869
    สาธุ สาธุ สาธุ

    กราบ กราบ กราบ
     
  2. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    [​IMG]
    หินพระธาตุรูปหลวงปู่ทวด ฐานเป็นเกล็ดพญานาค
    ม่วนก๊า...คุณนครสบายดีน๊อ? :)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2013
  3. "นนต์"

    "นนต์" เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,157
    ขออนุโมทนากับผู้บูชาพระหลวงปู่ทวดเพื่อสร้างวัดภูดานไห

    <HR id=ecxstopSpelling>From: khunarwut@hotmail.com
    To: dr.natdhnond@hotmail.com
    Subject: สนใจบูชาหลวงปู่ทวดครับ
    Date: Mon, 20 Feb 2012 23:30:31 +0700

    <STYLE>.ExternalClass .ecxhmmessage P{padding:0px;}.ExternalClass body.ecxhmmessage{font-size:10pt;font-family:Tahoma;}</STYLE>
    เรียน ดร.นนท์

    ผมชื่อ
    อาวุธ ชินนภาแสนครับ
    เป็นนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติ
    ผมมีความประสงค์อยากบูชาหลวงปู่ทวดครับ
    ไม่ทราบว่ายังเหลืออยู่ให้บูชาไหมครับ

    ด้วยความเคารพ
    อาวุธ

    <HR id=ecxstopSpelling>
    On Feb 21, 2012, at 9:36 AM, dr.natdhnond sippaphakul <dr.natdhnond@hotmail.com> wrote:


    <STYLE>.ExternalClass .ecxhmmessage P{padding:0px;}.ExternalClass body.ecxhmmessage{font-size:10pt;font-family:Tahoma;}</STYLE>เรียนคุณอาวุธ
    ผมยินดีจะมอบพระหลวงปู่ทวดให้ท่านตามจิตศรัทธาที่ประสงค์จะร่วมทำบุญในครั้งนี้ (ยังเหลือ 7 องค์) ให้แจ้งจำนวนองค์มาด้วยนะครับ
    ขอให้แจ้งที่อยู่มานะครับ และผมจะขออนุญาตนำข้อความของคุณไปลงในเว็บพลังจิต กระทู้ "หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)" เพื่อให้ญาติธรรมได้ร่วมอนุโมทนาบุญกับท่านด้วยนะครับ

    ขอเจริญในธรรม
    ดร.นนต์

    ชื่อบัญชี นายณัฐนนต์ สิปปภากุล
    เลขบัญชี 503-269483-3
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครราชสีมา ประเภทออมทรัพย์

    <HR id=ecxstopSpelling>
    ขอบพระคุณมากครับ
    ผมจะโอนเงินให้ตอนบ่ายครับ
    ผมยินดีให้ดร.นนท์นำข้อความไปลงในเว็บครับ
    จะได้โมทนาบุญร่วมกัน


    ขอบพระคุณครับ
    ด้วยความเคารพ
    อาวุธ

    Sent from my iPhone







     
  4. nakorn_nd

    nakorn_nd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +174
    สบายดีครับ พี่สมบัติ ชีวิตทางโลกยังต้องต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคหลายๆอย่างครับ
    การปฏิบัติก็มานะพยายามต่อไปครับ มีฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา เสมอครับ
    ขอให้พี่ๆทุกท่านสุขกายสบายใจ จิตใจผ่องใสทุกท่านนะครับ

    นคร-0813198446
     
  5. สาวกธรรม1

    สาวกธรรม1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +173
    หลวงตาม้าอธิบายถึง "เรื่องความเสื่อมของโลกในอนาคตอันใกล้นี้"

    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1"> [​IMG]


    [​IMG]
    พระอาจารย์ วรงคต วิริยะธโร ( หลวงตาม้า )
    วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ)
    ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

    ศิษย์ : อย่างอายุกัปป์ อายุ ช่วงอายุขัยต่าง ๆ ของพระพุทธเจ้าแต่ละองค์เนี่ย บางครั้งพวกนักวิทยาศาสตร์เขาจะชอบบอกว่า อายุของโลกมนุษย์มันไม่มียาวขนาดตามในตำราอะไรต่าง ๆ ?

    หลวงตา : ไม่จริงหรอก ไม่จริงหรอก เขาไปไม่ถึง

    ศิษย์ : จริง ๆ มันยาวกว่าที่เขารู้ ?

    หลวงตา : ยาวมากนะ

    ศิษย์ : ก็คือโลกใบนี้เลยเหรอ ?

    หลวงตา : ใช่

    ศิษย์ : แสดงว่าเขารู้ไม่จริง ?

    หลวงตา : เขารู้ตามที่รูปลักษณ์ อย่างเขาไปเจอซากสัตว์โบราณ
    มันก็ไม่มีทุกส่วนอยู่ในโลกนี้หรอก มันมีเป็นบางที่เท่านั้นเอง ใช่มั้ย

    ศิษย์ : ครับ… เพราะของเก่ามันก็สลายไปหมด หาไม่ได้เขาก็ไม่รู้?

    หลวงตา : มันเป็นธรรมดาของโลก เพราะฉะนั้น โลกนี้เราจะเอาอะไรไป... เอาไปไม่ได้สักอย่าง เพียงแต่อาศัยเท่านั้นเอง จริงมั้ย ทุกคนอาศัยอยู่ในโลกนี้ แล้วก็ตาย แล้วก็เกิดใหม่ แล้วก็อาศัยใหม่ มันก็แย่งกัน ยิงกัน ตีกัน ด่ากัน เอารัดเอาเปรียบกันใช่มั้ย ในโลกมันมีอยู่แค่นี้ เห็นแต่ประโยชน์ตนบ้าง พรรคพวกตัวเองบ้าง ฮึ ๆ มันก็อย่างงี้แหล่ะ สังคมโลกในสภาพปัจจุบัน หลวงพ่อท่านว่าให้ดูอดีตมาเทียบปัจจุบัน มันจะเป็นอนาคตท่านว่า ท่านว่าให้ย้อนลงไปสัก ร้อยปีหลัง แล้วก็ย้อนมา 50 ปี 30 ปี 40 ปี 10 ปี แล้วก็ปีที่แล้ว ใช่มั้ย... แล้วก็ปัจจุบัน แล้วทุกคนในโลก ทำอะไรมั่ง มันทำอะไร แก้ไขอะไรพวกนี้ ถึงปัจจุบันนี้ นั่นคืออนาคต ของพวกมนุษย์ อย่างประเทศไทยเอ้า... ประเทศไทยเนี่ย ตอนเนี้ยนะ วุ่นวายนะ มีทุกอย่าง ฮึ ๆๆๆ เพราะมันเปลี่ยนแปลงมาเมื่อ เริ่มเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่ เปลี่ยนแปลงสังคมน่ะ สังคมที่ไม่ดี อารยธรรมเมืองนอกเข้ามาก่อน แล้วก็ ผู้ใหญ่เปลี่ยนแปลง สมัยก่อนหยุดวันพระ กับ วันโกน แล้วมาเอาแบบฝรั่ง...

    ศิษย์ : มาเอาเสาร์ อาทิตย์ ?

    หลวงตา : ใช่... ทีนี้คนก็ไม่เข้าวัด มันไม่ใช่วันพระ พอวันพระ มันไม่ตรงวันอาทิตย์ มันก็ไม่เข้า มันก็ห่างไปเรื่อยๆ ใช่มั้ย

    ศิษย์ : ครับ เดี๋ยวนี้ปฏิทินบางอัน ยังไม่มีวันพระเลย

    หลวงตา : แล้วอะไรจะเกิดขึ้น ถามเด็ก รู้มั้ยพระพุทธศาสนาเป็นอย่างไร
    เด็กในเมืองนะ อ่านในตำรา พระพุทธเจ้าเกิดที่นั่น...

    ศิษย์ : ท่องได้อย่างเดียว บางคนไม่รู้อะไรเลย บางคนเป็นอาจารย์สอนพุทธศาสนาก็ยังไม่รู้เลย เพราะมีหลายคนท่องได้แต่ในตำราอย่างเดียว

    หลวงตา : ไม่ แม้แต่ มหา ยังไม่รู้เลย เรียนนักธรรม

    ศิษย์ : มันต้องปฏิบัติอย่างเดียว ?

    หลวงตา : พระพุทธศาสนา ไม่ได้ มีโลก ไม่มีโลกมาเกี่ยวข้องนะ พุทธ ก็คือ พุทธ จะเอาพุทธมาเรียนทางโลก ไม่ใช่ ไม่ใช่ ฮึ ๆ คนจะบวชเรียน แต่เรียนทางโลก ไม่ใช่อีกแหล่ะ เรียนไปก็ไปไม่รอดนะ อย่างดีๆ ก็เป็นเจ้าคณะตำบล อำเภอ เจ้าคณะ เป็นสมเด็จ เป็นอะไร คุณก็ปกครองไม่ได้อีกแหล่ะ ใช่มั้ย คุณไม่รู้อะไรเนี๊ยะ ไม่รู้ฮะ กฎข้อบังคับออกมาเนี่ย ไม่รู้ทั้งนั้นแหล่ะ ไม่รู้นะ นี่ตามสภาพความเป็นจริงนะ แล้วอะไรมันจะเกิดขึ้นล่ะ

    ศิษย์ : ก็วุ่นวาย ?

    หลวงตา : วุ่นวายนะ วุ่นวายทุกส่วนในประเทศไทยตอนนี้ แม้แต่ หมู่บ้านเล็ก ๆนี่ ลองประชุมกันสิ เถียงกันนะ จริง ๆ เถียงกันนะ แค่บ้านเล็ก ๆเนี่ย ก็ยังดีนะน่ะ หมู่บ้านตรงนี้เด็กมันยังเข้าวัด ลองนึกดู นึกดู อะไรมันจะเกิดขึ้น นึกดูก็แล้วกัน ฮึ ฮึ ไม่ต้องไปดูหมอหรอก ฮึๆ ดูๆ เห็นๆ นี่แหล่ะ ไม่ต้องไปหลับตาดูก็ได้เห็น ๆ ( หัวเราะ )

    ศิษย์ : เห็นกันอยู่ทุกวัน

    หลวงตา : ถ้างั้นเอาตัวรอดก็แล้วกัน โรคก็กิน สารพัดโรคนะตอนนี้ เพราะอะไรล่ะ ที่โรคมันกินทุกวันนี้ คนแก่อายุมาก ๆ เนี่ยะ 30 40 ทุกวันนี้ เบาหวาน ความดัน มะเร็ง โรคยอดฮิต เกิดจากการดูทีวี เกิดจากสภาพของสังคม เกิดจากการด่าทอกัน เกิดจากการเอารัดเอาเปรียบ เกิดจากอาหาร เกิดจากลมหายใจ หายใจเข้า อาหารที่กิน สภาพสังคมที่อยู่ แค่ดูทีวีนี่ก็... อารมณ์มันก็ไปตามทีวีแล้ว

    ศิษย์ : มีแต่ละครตบๆ ตีๆ กัน

    หลวงตา : พอดูปั๊บ น้ำตาก็ไหลแล้วบางคนน่ะ คือสภาพร่างกาย มันอัดทุกวันน่ะ เดี๋ยวก็หัวเราะ เดี๋ยวก็น้ำตาไหล อะไรจะเกิดขึ้นล่ะ ถ้าลองให้คนแก่มา 2 คนมาเนี่ย อีกคนไปทางโน้น อีกคนมาฝึกไหว้พระสวดมนต์ ทำใจสบายทุกวัน ก่อนนอนนะไม่ต้องเอามาก หน้าตาก็ไม่เหมือนกัน แก่แล้วนี่ ความทุกข์ก็ไม่เท่ากัน ความทุกข์เท่ากัน แต่ไม่เท่ากัน

    ศิษย์ : เกิดเหมือนกัน แต่เขารับไม่เหมือนกัน?

    หลวงตา : ใช่ .. นี่เรียนปริญญาเอก พุทธศาสตร์ (หัวเราะ) เราอธิบายให้เขาไม่ได้หรอก ติดอยู่แต่ในหนังสือ ไม่มีทางหรอก แค่พูดถึงโลกวิญญาณ เขาก็ไม่เอาแล้ว

    ศิษย์ : เราก็ไม่เอาแล้ว เขาต้องถามว่าเอามาจากบทไหน ตำราไหน เอามาจากที่ไหน?

    หลวงตา : (หัวเราะ) ใช่ ก็นั่นนะสิ ไม่ได้

    ศิษย์ : แต่ทางโลก ถ้าไม่มีพวกอย่างนี้เขาก็จะไม่ยอมฟังอะไรเรา.. ก็ลำบาก ?

    หลวงตา : ทุกคนรู้นะ ตามสภาพของความเป็นจริง เขารู้ ไม่มีใครไม่รู้หรอก แต่มันทนไม่ได้เท่านั้นเอง รู้ทุกคนนะ ไม่ต้องไปถามธรรมะ เห็นๆอยู่ ธรรมะแล้ว มีคนถามเหมือนกัน “ ผมจะพิจารณาอะไร เรื่องปัญญาถึงจะเกิด ” ไม่ต้องไปพิจารณาหรอก มองก็เห็นแล้ว ถ้าคุณพิจารณาสังคมทุกวันนี้ก็เห็นแล้ว เอาแค่ครอบครัวคุณให้เห็น ตัวคุณเอง ตัวเราเอง คนอื่นใกล้ๆ ก็เห็นแล้ว ไม่ต้องอะไรมาก

    ศิษย์ : มันดูได้หมดอยู่แล้ว... แต่ไม่ค่อยชอบดู ?

    หลวงตา : หนีไปทำกรรมฐานตามสถานที่ ที่เขาอบรมกันมั่ง อะไรกันมั่ง หลวงพ่อดู่ท่านว่า “ ไม่ต้องไปไหน ดูตัวเองนี่แหล่ะ ทำใจสบาย ๆ ไหว้พระสวดมนต์อยู่บ้านนี่แหล่ะ ปรับจิตปรับใจปรับธาตุอยู่ที่บ้านนั่นแหล่ะ มันไม่ไปไหนหรอก กรรมฐานมันอยู่ที่เรานี่แหล่ะไม่ได้อยู่ที่ไหน”

    ศิษย์ : ถ้าเราทำได้ที่ไหนก็เหมือนกัน?

    หลวงตา : ไปหาครูบาอาจารย์ที่ไหน ท่านบอกว่า แม้แต่วิชาอาคมพวกนี้ เราไม่ต้องเรียนกับคนก็ได้ ไปเรียนกับพรหมก็ยังได้เลย เรียนกับเทวดาก็ได้ เพราะท่านยังเกิดอยู่น่ะ ท่านก็สอนอยู่ เพียงแต่จะไปหาท่านได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง ปัญหามันอยู่ตรงนี้ ฮึฮึ จะเรียนวิชาอะไรมีหมด

    หลวงตา : คนเราอีกหน่อยมันก็กลับไปสภาพเดิม ไม่มีอะไรเที่ยง ในสรรพสัตว์ในโลกนี้ มันก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เปลี่ยนมาก็เปลี่ยนไป ยุคนี้มันเป็นยุคที่กำลังจะเปลี่ยนแปลง สภาพของสังคมมันกำลังจะเปลี่ยน จิตมันเสื่อมไปเรื่อยๆ มันก็เปลี่ยน

    ศิษย์ : หลวงตาครับ... ถ้าน้ำท่วมจริงๆแล้ว ไทยก็ติดจีน พวกจีน ลาว พม่า นี่ไปไหนหมดครับ ?

    หลวงตา : จีนแตกนะ จีนก็จะมีความวุ่นวาย เพราะว่าวาตภัยก็เยอะกว่าประเทศอื่นนะจีนน่ะ เปลี่ยนไปหมดนะทั่วโลกน่ะ เกิดวาตภัยเกิดอุทกภัยเกิดอะไรพวกเนี้ย ต่อจานั้นก็เป็นสงครามโลก เนี่ยจากนี้ไป 10 ปีเนี่ย

    อยู่เฉยๆดีที่สุด หาที่เหมาะๆนะ 20-30ไร่ก็ปลูกกระท่อมอยู่ กินกล้วยกินเผือกดีกว่า กินมะละกอไป วงการทุกวงการน่ะเปลี่ยนแปลงหมด แม้แต่วงการพระก็ไม่มี นิกายไม่มี รวมหมด ไม่มีนิกาย มีแต่พระปริยัติกับพระปฎิบัติเท่านั้น จะเห็นว่ามันไม่เที่ยง ฮึๆๆ

    ศิษย์ : แล้วจะโดนมิสไซล์มั๊ยครับ ?

    หลวงตา : มีนะ ไม่มีประเทศไหนในโลกเขารักษาของมีพิษไว้ในประเทศเขาหรอก พออยู่นานๆมันก็เสื่อม แล้วก็ตายเอง ใช่ไหม ถ้างั้นก็ปล่อยไปที่อื่นไม่ดีกว่าเหรอ มันอยู่มากี่ปีแล้ว รักษาไว้กี่ปีแล้ว ถ้าเสื่อมเมื่อไหร่ ก็คนเฝ้านั่นแหละตาย ถ้างั้นก็ปล่อยก่อน มันก็จะปล่อยก่อน ปล่อยไปที่อื่นก่อน หมั่นไส้ที่ไหนก็ปล่อยไปที่นั่น

    [​IMG]

    ศิษย์ : หลวงตาครับ โลกเรานี่มีวิวัฒนาการเหมือนที่นักวิทยาศาสตร์เขาคิดกันมั๊ยครับ?

    หลวงตา : ไม่ใช่นะ ไม่ใช่นะ... โลกเราที่เราเห็นนี่นะ กัปป์นี้นะ ไม่พูดถึงกัปป์ที่แล้ว ไม่พูดถึง เพราะว่า กัปป์นี้ก็พระพุทธเจ้า 5 พระองค์เนี่ย จะเป็นตัวเลข เลขล้านไม่มีฮะ มันนับไม่ได้นะ 5 พระองค์เนี้ย แล้วโลกนี้ก็ยังมีมนุษย์อยู่ต่ออยู่ระหว่าง 5 องค์เนี่ยะ ยังมีอยู่นะ

    ศิษย์ : แสดงว่ามีมนุษย์ตลอด?

    หลวงตา : มีตลอดนะ

    ศิษย์ : เพียงแต่ว่าพวกนักวิทยาศาสตร์ยังค้นไม่พบ?

    หลวงตา : ไม่ฮะ… ความจริงสัตว์พวกนั้นเป็นสัตว์ ก็ใช่... แต่ว่ามันจะอยู่เป็นที่ของมัน ไม่ได้อยู่ทั่วไป มันก็สลายไป มันก็กลายพันธุ์ไป ตามสภาพของธรรมชาติ

    ศิษย์ : ศาสนาพุทธอายุ 2500 กว่าปี?

    หลวงตา : ก็จริงนะ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนี่ไง

    ศิษย์ : อ๋อ... เฉพาะองค์ปัจจุบัน ?

    หลวงตา : ใช่ องค์ก่อนโน้นก็นานแล้ว องค์ก่อนโน้น คนอายุตั้ง 3 หมื่นปี ก่อนพระพุทธเจ้าองค์นี้ พระกัสสปะ องค์แรกอายุเป็นแสนนะ องค์ที่ 2 ก็ 7 - 8 หมื่นแน่ะ องค์ที่ 3 นี่ 3 หมื่น องค์ที่ 4 นี่ประมาณร้อย ร้อยห้าสิบเนี่ย องค์ที่ 5 โน้นนะ แปดหมื่นนะ แปดหมื่นถึงแสน

    ศิษย์ : แล้วหมดภัทรกัปป์นี้แล้ว จะมีไฟล้างโลกเหมือนที่เค้าบอกกันมั๊ยครับ?

    หลวงตา : มีฮะ แต่นานนะ

    ศิษย์ : หมดยุคพระศรีฯเนี่ยนะครับ?

    หลวงตา : มีนะ

    ศิษย์ : แล้วมันก็เริ่มกัปป์ใหม่?

    หลวงตา : มันก็เริ่มกัปป์ใหม่ คือแผ่นดินโลกมันหมุนไป ใกล้ๆ ดวงอาทิตย์มันก็ไหม้หมด ดวงอาทิตย์มีถึง 7 ดวงบางครั้ง

    ศิษย์ : ที่เค้าบอกว่าไหม้ไปถึงสวรรค์?

    หลวงตา : ใช่... แล้วก็หมุนออกมา นานนะ ไม่ต้องไปพูดถึง สุญญกัปป์นี่ นานมาก แต่วิญญาณยังอยู่นะ วิญญาณยังอยู่ พลังงานก็อยู่นะ พลังงานของโพธิญาณก็ยังอยู่ ไม่ไปไหน เรื่องราวของพุทธะนี่เป็นเรื่องที่ยากที่จะเข้าใจ

    ศิษย์ : แล้วสุญญกัปป์นี่ เค้าอยู่กันยังไงครับ ?

    หลวงตา : ไม่มีมนุษย์ มีแต่พรหม ขึ้นพรหมหมด ตะเกียกตะกายขึ้นพรหมหมด มันเป็นกัปป์ที่สูญ มันมีความร้อน สุญญกัปป์นี่รู้ๆอยู่ นานนะ ไม่ใช่ว่าไม่นาน

    ศิษย์ :ถ้าขึ้นไม่ได้ก็ลงนรกไป?

    หลวงตา : ใช่... ก็อยู่ใน 2 ภูมินี่

    ศิษย์ : ไม่มีคนอยู่เลย?

    หลวงตา : ไม่มี มนุษย์ไม่มี สัตว์ไม่มี เพราะมันร้อน.... ท่านว่าไม่ให้คิด ไม่งั้นมันจะปวดหัว เรื่องโลก มันนาน ยาวนาน แค่คิดถึงเรื่องพระพุทธเจ้าแต่ละองค์ๆ ก็นาน นานมาก มัวแต่คิดถึงชาติปัจจุบันเนี่ย เราทนได้หรือเปล่า เนี่ยตรงเนี้ย เราทนทำความดี เราทนสภาพได้มั้ย ตลอดชีวิตของเราเนี่ย มีความอดทนขนาดไหน มีความอดกลั้นขนาดไหน แล้วเราติดอะไรมั่ง ท่านว่าเป็นวิปัสสนานะ...

    [​IMG]

    เราติดอะไรมั่ง เรารู้มั้ย ทุกคนรู้มั้ย ลองแกะออกดูซิ... นี่ลองถ่างดู รู้ รู้นะ รู้อยู่ ท่านว่างั้น ท่านบอกให้รู้เฉยๆ แต่อย่าไปทำ... รู้ว่ามันดี ก็อย่าทำ รู้ว่ามันไม่ดี ก็อย่าไปทำ ฮึ ฮึ... อยากทำตรงไหนก็ได้ที่มันดีน่ะ อย่างนั้น ตัวนี้คือตัวจริงๆ ตัวปัญญาจริงๆ ท่านว่านะ ส่วนมากก็จะมาหลอกกัน นักบวชก็หลอก คนก็หลอกนักบวช หลอกกันไป เหมือนผีหลอกผี ใช่มั้ย... เหมือนเราไปเที่ยวบาร์ เที่ยวคลับ เที่ยวผับ เที่ยวอะไร ไม่รู้ใครหลอกใคร มันก็ผีหลอกผีนั่นแหล่ะ ใช่มั้ย ถ้าคนด้วยกัน ไปเที่ยว ก็หลอกกันไปหลอกกันมา หลอกกันมาหลอกกันไป ก็ผีหลอกผี

    ศิษย์ : หลวงตาครับแล้วศาสนาพุทธที่เป็นนิกายอื่นๆ?

    หลวงตา : ต่อไปมันไม่มีนะ มันจะรวมกันหมด แนวนั้นก็คล้ายๆกัน รวมกัน เหมือนพระเนี่ยะ รวมหรือแยกก็เหมือนเดิมแหล่ะ สมัยพุทธกาลก็มี

    ศิษย์ : ไปๆ มาๆ พระนิกายอื่นที่เห็นเก่งๆ ก็มีอยู่หลายองค์?

    หลวงตา : มีเยอะนะ

    ศิษย์ : อย่างนี้ก็ดูเหมือนคล้ายๆ ของธิเบตเลย ที่เขาไปค้นหา ดาไลลามะตลอดเลย ตายไปแล้วก็ไปเอามาเป็นใหม่ เป็นใหม่?

    หลวงตา : ก็อย่างนั้น มันเป็นประเพณีที่ทำกันมาในอดีต การติดต่อพลังงาน การติดต่ออะไร มันอยู่ที่หัวหน้า มันอยู่ที่ผู้นำ...
    ผู้นำกับการเสื่อมสลายของบ้านเมือง

    หลวงตา : ...ถ้าผู้นำไม่ได้เรื่องได้ราวก็พังไว ถ้าผู้นำดีมีเรื่องมีราวมีสาระหน่อยก็นานหน่อย แต่มันก็ไปเหมือนกันแหล่ะ

    ศิษย์ : ยังไงก็ต้องไป?

    หลวงตา : แต่นอนนานหน่อยเท่านั้นแหล่ะ มันก็เหมือนสมัยพ่อขุนรามฯ สมัยนั้นน่ะ สมัยท่านยังไม่เจริญใช่มั้ย สมัยนั้นศีลธรรม คนมันก็... ส่วนมากเข้าวัด แก่ก็เข้าวัด ประเพณีอะไรอยู่วัดหมดเลย แม้แต่มีทุกข์ก็ตีระฆังในวัด ปรับทุกข์ปรับอะไร โจรมันก็ไม่มี คนก็เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันไป มันก็อยู่อย่างสบายในยุคนั้น มันก็เริ่มเสื่อมๆ มา สลายไป เปลี่ยนแปลงไป ตามสภาพของมนุษย์ปัจจุบัน เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ

    ศิษย์ : ไปๆ มาๆ ?

    หลวงตา : มันไม่มีอะไรในโลกมนุษย์หรอก มันก็มีอย่างนี้แหล่ะที่เราเห็นๆนี่แหล่ะ เจริญแล้วเสื่อม ไม่มีอะไรหร๊อก... คนยากจนหรือคนรวย มันก็มีสภาพเท่ากัน ไอ้คนจนที่มันอารมณ์ดี สบาย ๆ มันสบายมากกว่าคนที่เป็นเศรษฐีเป็นพันๆหมื่นๆล้าน เป็นแสนล้านนะ ใช่มั้ย... แล้วพอตายมันไปไหนล่ะ มันก็ไปด้วยกันแหล่ะ เวียนว่ายตายเกิดใน 3 ภูมิไปอยู่เรื่อย เกิดมาเป็นคน เป็นอะไร ไม่มีอะไร คนที่ปรับพวกนี้ ก็โพธิสัตว์อีกนั่นแหล่ะ พวกที่ยังคงอยู่กับสัตว์นี่แหล่ะ ถ้าเป็นพระอรหันต์นี่นะ พอปิดบัญชีปั๊บนะ ไม่สนแล้ว บางองค์นี่เฉยเลยนะ เลี้ยงธาตุขันธ์ไปวันๆ พระอรหันต์จบ ตายแล้วก็ไม่เกิด จบไป

    ศิษย์ : ไม่เหมือนโพธิสัตว์?

    หลวงตา : ใช่ ที่ต่อศาสนาทุกวันเนี่ย โพธิญาณทั้งนั้น บางองค์ก็ลา บางองค์ก็ไม่ลา พอลาหน่อยก็ต่อยาวหน่อย เพราะลูกศิษย์เยอะหน่อย

    ศิษย์ : อ้อ... เพราะต้องตามกันมา?

    หลวงตา : ฮึ ฮึ... ใช่ ฮึ ฮึ... ใช่อย่างงั้นแหล่ะ
     
  6. ckj_tong

    ckj_tong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +869

    เรียน ท่านอาจารย์ ดร.นนต์

    ผมขอร่วมทำบุญสร้างวัดกับพ่อแม่ครูอาจารย์และท่านอาจารย์ ดร.นนต์

    ด้วยคนครับ จะโอนเงินเข้าบัญชี อาจารย์ ภายในบ่ายนี้

    แล้วผมจะแจ้งรายละเอียดการโอน และที่อยู่ ทาง PM และ Mail นะครับ

    ส่วนองค์พระ ให้ท่าน อาจารย์เลือกให้นะครับ

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  7. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    ราวๆเที่ยงวันนี้
    คุณธีระยุทธ์ ญาติธรรมทางบางขุนเทียน กทม. ก็ร่วมทำบุญและขอรับพระพิมพ์หลวงปู่ทวดเป็นที่ระลึกมาด้วย 1 องค์
    ท่านนนต์รับทราบแล้ว

    ขอโมทนาในบุญกุศลนี้กับทุกๆท่านด้วยนะครับ

    ปล: ท่านนนต์ลืมบอกว่า หากเป็นไปได้ขออนุญาตเพิ่มค่ากรอบพระด้วย 30 บาทคร๊าบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2012
  8. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    ขอบคุณครับ
    นอกจากอิทธิบาท ๔ แล้ว
    ขอน้อมนำธรรมะจากองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ (โปรดพวกเราเนืองๆ)
    มาโปรดท่านนครและญาติธรรมด้วย ละ ๕ กล่าวคือ
    ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา เป็นกำลังหนุนนำฝ่าอุปสรรคสู่อริยมรรค อริยผลด้วยกันทุกท่านเด๊อ

    ขอเจริญในพระธรรม.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2012
  9. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    กัลยาณมิตรเป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์

    <!-- Main -->[​IMG]

    "กัลยาณมิตรเป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์"

    ข้างบนคือคำที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ ซึ่งคำว่า “พรหมจรรย์” หมายถึง การประพฤติธรรมอันประเสริฐ หรือ การครองชีวิตประเสริฐ ส่วน “กัลยาณมิตร” หมายถึง เพื่อนที่ดีมีคุณธรรม

    เหตุที่ทรงตรัสเช่นนั้นก็เพราะการคบหาคลุกคลีกับผู้ใดย่อมส่งผลต่อเราอย่างมาก อย่างบางคนที่เคยมีความประพฤติดี แต่เมื่อไปคบหากับคนพาล นิสัยใจคอก็ค่อยเปลี่ยนไปในทางไม่ดีโดยไม่รู้ตัว เช่น จากที่ไม่เคยดูถูกคน ก็กลายเป็นคนเย่อหยิ่งถือตัว จากไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข ก็เริ่มดื่มเหล้า เล่นการพนัน หรือเที่ยวกลางคืนเป็นต้น นอกจากนี้การคบคนพาลยังนำมาซึ่งความฉิบหาย ไม่ว่าจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เสียทรัพย์เพราะมั่วอบายมุข และที่สำคัญคือ ทำให้เรามีความเห็นผิด (มิจฉาทิฏฐิ) ซึ่งล้วนเป็นทางแห่งความเสื่อมทั้งสิ้น

    ด้วยหนทางในสังสารวัฏนั้นยาวไกลนัก การมีเพื่อนที่ดีนอกจากจะคอยช่วยเหลือเกื้อกูลเราได้แล้ว ยังสามารถช่วยตักเตือน ให้กำลังใจ ชักนำหรือแนะนำเราได้เมื่อถึงเวลาที่จำเป็นอีกด้วย

    ดังนั้นการคบเพื่อนที่ดีมีคุณธรรมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิต หน้าที่การงาน และที่สำคัญสุดคือการประพฤติธรรม เพราะจะช่วยทำให้เรามีความเห็นถูก เข้าใจถูกในสภาพธรรมตามความเป็นจริง จนกระทั่งสามารถบรรลุมรรคผลได้

    ทุกวันนี้กัลยาณมิตรอาจหาได้ยาก แต่ด้วยกุศลที่ได้ทำแล้ว ก็จะเป็นปัจจัยให้เราพบมิตรแบบนี้ได้เมื่อถึงเวลา หากไม่สามารถหากัลยาณมิตรได้ ก็ไม่ควรไปคบคนพาล ไม่มีเพื่อนเสียเลยยังดีกว่า แต่ควรให้พระธรรมเป็นกัลยาณมิตรแทน เพราะพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าก็ถือเป็นกัลยาณมิตรได้เช่นกัน

    กัลยาณมิตรสมัยพุทธกาล

    กัลยาณมิตร มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ดังเช่นในอดีตที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเกิดมาแล้วเป็นผู้มีความเห็นผิด จนเกือบจะไม่ได้พบกับหนทางของพระนิพพาน แต่เนื่องจากพระองค์ได้คบหากับบุคคลอันเป็นกัลยาณมิตร พระองค์จึงได้ก้าวเข้ามาสู่หนทางของการสร้างบารมี จนกระทั่งบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณได้

    พระองค์ทรงระลึกชาติในหนหลัง ตรัสเล่าให้พระอานนท์ฟังว่า ในสมัยนั้นเป็นสมัยของพระพุทธเจ้าพระนามว่า กัสสปะ ณ ตำบล บ้านเวภฬิคะ มีชายหนุ่ม ๒ คนเป็นเพื่อนรักกัน คนหนึ่ง ชื่อ ฆฏิการะ อีกคนหนึ่ง ชื่อ โชติปาละ ทั้งสองคนนี้แม้จะเป็นเพื่อนที่รักกันมาก แต่กลับมีอุปนิสัยในทางธรรมที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน

    ฆฏิการะนั้นเป็นผู้ที่มีความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามาก เขาได้ชื่อว่าเป็นอุปัฏฐากที่ดีเลิศของพระพุทธเจ้ากัสสปะ แต่โชติปาละเป็นผู้ที่ไม่มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาเลย เขาไม่เคยไปฟังธรรม ไม่เคยแม้แต่จะไปกราบพระพุทธเจ้า ฆฏิการะก็พยายามชักชวนอยู่เสมอ แม้ว่าความปรารถนาดีของเขาจะถูกปฏิเสธเสียทุกครั้งไป

    จนกระทั่งวันหนึ่ง ฆฏิการะจึงออกอุบายชวนโชติปาละไปอาบน้ำยังท่าน้ำ ซึ่งอยู่ใกล้กับพระอารามของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พออาบน้ำชำระกายเป็นที่เย็นกายเย็นใจแล้ว ฆฏิการะก็กล่าวชวนโชติปาละว่า "โชติปาละไปเถอะ ไปเฝ้าพระพุทธเจ้ากัน พระอารามของพระองค์ท่านอยู่ที่ตรงนี้เอง" โชติปาละกล่าวตอบว่า "อย่าเลย เราไม่เห็นประโยชน์อะไรกับการที่จะได้เห็นสมณะโล้น สู้ไปเที่ยวยังจะสนุกเสียกว่า" ฆฏิการะก็บอกว่า "มีประโยชน์สิ เพราะการเห็นสมณะนั้นเป็นมงคล ไปกันเถอะ" โชติปาละก็ปฏิเสธอีก ฆฏิการะจึงเดินเข้าไปจับมือของโชติปาละ โชติปาละสะบัดมือออก ฆฏิการะเปลี่ยนมาจับชายพกของโชติปาละ โชติปาละก็ดึงมือออกอีก ฆฏิการะไม่ละความพยายามหันมาดึงมวยผม พร้อมกับกล่าวชวนซ้ำอีก คราวนี้โชติปาละรู้สึกขัดใจขึ้นมาทันที
    "เอ๊ะ! ทำไมต้องมาดึงมวยผมกันด้วยละ สมณะโล้นน่ะ มีดีอย่างไรหรือ ท่านจึงอยากให้ข้าพเจ้าไปเฝ้านัก"

    และ ด้วยอานุภาพแห่งกัลยาณมิตร โชติปาละก็รำลึกได้ว่า โดยปกติแล้ว ฆฏิการะเป็นเพื่อนที่หวังดีกับเขาเสมอมา ไม่เคยเลยที่จะชักนำไปในทางที่เสียหาย เขาเริ่มคิดได้ว่า การที่ฆฏิการะชวนไปเฝ้าพระพุทธเจ้าอยู่เสมอนี้ ก็คงจะเป็นการชักนำไปในทางที่ดีอีกเช่นเคย ดังนั้นโชติปาละจึงยอมไปเฝ้าพระพุทธเจ้า

    เมื่อไปถึงพระอาราม ทั้งสองกราบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วก็นั่งในที่อันควรข้างหนึ่ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงปฏิสันถารด้วยพระทัยที่เปี่ยมด้วยความเมตตา แล้วพระองค์ก็ทรงแสดงพระธรรมเทศนาด้วยกระแสเสียงอันไพเราะ แสดงธรรมที่ไพเราะทั้งในเบื้องต้น ท่ามกลาง และเบื้องปลาย หลั่งธรรมธาราให้รินไหลเข้าสู่กระแสใจของโชติปาละ โชติปาละได้ฟังธรรมแล้ว ใจของเขาก็ผ่องใส เหมือนคนที่เดินหลงทางอยู่ในทะเลทรายมาเป็นเวลานาน แล้วได้พบกับบ่อน้ำที่ให้ทั้งความเย็นกายเย็นใจ ใจของเขาดื่มด่ำในรสแห่งอมตธรรมยิ่งนัก แล้วด้วยใจที่ศรัทธาตั้งมั่นไม่คลอนแคลน โชติปาละจึงขอออกบวชอุทิศตนเป็นพุทธบูชาตลอดชีวิต

    แล้วพระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงกล่าวกับพระอานนท์สืบไปว่า ดูก่อนอานนท์ เธออย่าได้พึงคิดเลยว่าเราคือ ฆฏิการะ บุรุษผู้มีความเห็นถูก แต่แท้ที่จริงแล้วเราคือ โชติปาละ บุรุษผู้มีความเห็นผิดคนนั้น แต่เนื่องจากเราได้คบหากับบุคคลอันเป็นยอดกัลยาณมิตร คือ ฆฏิการะ เราจึงได้กลับมาเป็นผู้มีความเห็นถูก ก้าวเข้ามาสู่หนทางแห่งการสร้างความดี มาสร้างบารมี จนกระทั่งบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณได้ในที่สุด

    อานนท์ แม้เราตถาคตก็ยังต้องการกัลยาณมิตร เป็นผู้ชี้หนทางแห่งความดีให้ ดังนั้น เราจึงได้กล่าวกับเธอว่า "กัลยาณมิตรนั้นเป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์"

    หมายเหตุ
    ฆฏิการะในกาลนั้น ซึ่งเป็นพระอนาคามี ได้ไปบังเกิดในสุทธาวาสภูมิชั้นที่ 5 อกนิฏฐภูมิ

    เมื่อครั้นพระมหาโพธิสัตว์เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ ทรงเปลื้องฉลองพระองค์และผ้าโพกพระเศียร โยนขึ้นไปในอากาศ ท้าวฆฏิการพรหมก็ได้รับไว้ แล้วนำพระอัฏฐบริขาร มีบาตรและจีวรเป็นต้น มาถวายแด่พระโพธิสัตว์ และรับฉลองพระองค์และผ้าโพกพระเศียรไปประดิษฐานไว้ในทุสสะเจดีย์ ที่เนรมิตสร้างไว้ในชั้นอกนิฏฐภพ นี้เอง.<!-- End main-->
     
  10. ckj_tong

    ckj_tong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +869
    เรียนท่าน อาจารย์ ดร.นนต์

    วันนี้เวลา 13.45 น.

    ผมได้โอนเงินเข้าบัญชีของท่านอาจารย์เพื่อร่วมทำบุญสร้างวัดเรียบร้อยแล้วครับ

    โอนจาก ธนาคารกรุงเทพ สาขารามคำแหง

    B 648b180
    RECORD NO.9564
    TRANSFER 1,088.00
    FR BBLA ..............
    TO SCBA 5032694833


    บุญกุศลในครั้งนี้ ผมขอถวายเป็นพุทธบูชา

    และด้วยอานิสงส์การสร้างวัดในครั้งนี้ขอให้พ่อแม่ ผู้ให้กำเนิด

    รวมถึงตัวผมและภรรยา จงประสบแต่ความสุขความเจริญ

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  11. Phoobes

    Phoobes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,181

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่มีส่วนในการกุศลนี้ครับ
     
  12. "นนต์"

    "นนต์" เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,157
    ขออนุโมทนาบุญกับท่านชูเกียรติที่ท่านได้กระทำแล้วในครั้งนี้ทุกประการครับ

    ด้วยจิตศรัทธาอันบริสุทธิ์ของคุณชูเกียรติที่มีต่อพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช ผู้ประเสริฐยิ่งนั้น ผมรู้สึกมีความซาบซึ้งและปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง

    ส่วนความศรัทธาที่คุณมีต่อตัวผมนั้น แม้นผมจักยังมิสามารถเป็นครูอาจารย์ทางธรรมผู้ใดได้ แต่ก็ขอน้อมรับไว้เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจ ให้ผมต้องเร่งปฏิบัติเพื่อให้เกิด "คุณธรรม" ขึ้นภายในตัวตน เพื่อให้สมกับมีผู้ศรัทธา "คุณธรรม" จะยั่งยืน แต่ "ตัวตน" จะเสื่อมสลาย ดังนั้น "ดร.นนต์" จึงเป็นของไม่เที่ยงครับ

    ท้ายนี้ ผมขออัญเชิญบุญบารมีทั้งหลายที่ผมได้สั่งสมไว้ตั้งแต่ต้นธาตุจนถึงปัจจุบันชาติ ไม่ว่าจะเป็นความปรารถนาพระโพธิญาณหรือสาวกญาณ ขอจงน้อมนำส่งไปถึงคุณชูเกียรติและครอบครัว จงประสบแต่ความสุข ความเจริญ สงบร่มเย็น และสว่างไสวทั้งทางโลกและทางธรรมจนกว่าจะเข้าพระนิพพานทุกท่านเทอญ

    ขอเจริญในธรรม
    ดร.นนต์
    21 กพ. 2555

    ปล. ผมจะส่งพระให้คุณได้ในวันพฤหัสบดีนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2012
  13. Indhus

    Indhus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +113
    เรียน นรธ. ทุก ๆ ท่านครับ

    พรุ่งนี้วันที่ 22 ก.พ. 2555 ผมจะพาพี่อ้อย(รัตน์ฐาภัทร) กับครอบครัวไปกราบพ่อแม่ครูอาจารย์
    เป็นการเฉพาะกิจ ก่อนจะไปอีกครั้งในวันที่ 7 มี.ค. ในการไปครั้งนี้ พี่อ้อยได้แสดงความจำนงค์
    เพื่อจะถวายปัจจัย ร่วมในการบูรณะซ่อมแซมกุฎิ ที่พักของแม่ชม แม่ชีคอย และหลังอื่น ๆ ที่ผุผัง
    ไปตามสภาพ โดยจะถวายปัจจัยเป็นจำนวน 10,000 บาท ให้ใช้เพื่อการบูรณะกุฏิเหล่านี้ ซึ่งผม
    ได้เปรยไว้เบื้องต้น และแจ้งให้แม่ชมได้กราบเรียนพ่อแม่ครูอาจารย์ว่า จะใช้ปัจจัยจำนวนนี้ จัดซื้อ
    ไพลหญ้าคา มาทำการบูรณะกุฎิ .... หากปัจจัยยังเหลือก็ขอให้นำร่วมในการบูรณะโรงครัว
    หรือลานธรรม ตามแต่พ่อแม่ครูอาจารย์เห็นสมควรครับ

    ผมจึงอยากจะเรียนเชิญทุก ๆ ท่าน ร่วมโมทนาสาธุในกุศลของพี่อ้อยในครั้งนี้ด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2012
  14. "นนต์"

    "นนต์" เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,157
    ผมขอนุโมทนากับท่านทั้งสองรวมทั้งนักศึกษาด้วยนะครับ
    ผมมีความยินดีจะมอบพระสมเด็จองค์ประดับพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า(TOP4) 1 องค์ และพระสมเด็จวังหน้าที่ได้รับความอนุเคราะห์จากท่านศรีทองอีก 1 องค์ ส่วนนักศึกษาและครูอ้านผมจะมอบพระสมเด็จวังหน้าให้คนละ 1 องค์ ขอให้ท่านแจ้งที่อยู่และจำนวนคนมานะครับ

    ขอเจริญในธรรม
    ดร.นนต์
    21 กพ. 2555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2012
  15. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    วันที่ 22 นรธ.ทางไกลคงเดินไปสมทบพอดี
    ทราบว่า...ภูดานไหกำลังจะรื้อถอนโรงครัวครับผม

    ยินดีและโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่มีโอกาสเดินทางไปทำบุญและช่วยงานทางวัด
    ตลอดทั้งทุกๆท่านที่ร่วมบุญรับพระพิมพ์เป็นที่ระลึก

    ปล: คาดว่าราวๆปลาย มี.ค. น่าถึงวาระรื้อศาลาหลวงปู่ศรีสุทโธ เพื่อวาระใหญ่
    หวังว่าคงได้ร่วมงานบุญกันอีกครานะครับ :)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2012
  16. Indhus

    Indhus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +113
    เรียน ท่าน ดร.นนต์ ครับ

    ส่วนของผมนั้นขอมอบให้ท่าน ดร.นนต์ ดำเนินการต่อเพื่อเป็นสิ่งตอบแทนให้กับญาติธรรมที่ร่วมทำบุญครับ
    เนื่องจากพระเครื่องผมก็ได้รับมาก่อนหน้าหลายองค์ ผมคิดว่าพอแล้วสำหรับผม

    สำหรับพี่อ้อยและสามี ผมคิดว่าน่าจะสามารถมอบได้
    ส่วนของนักศึกษาผมเองก็ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน แต่ประมาณเอาไว้ 7-8 คนครับ
    ตั้งใจไว้แค่อยากให้พวกเขาได้ร่วมทำบุญ แม้จะไม่มีทรัพย์ แต่อาศัยกำลังแรงกาย
    ก็ร่วมทำกุศลได้ เผื่อวันข้างหน้าพวกเขาเหล่านั้นจะได้มีเรื่องที่ดีในชีวิตบ้าง
    เพราะทุกวันนี้หลายคน ทำแต่เรื่องที่ไม่เป็นมงคลแก่ตัวเองสักเท่าไหร่
    ก่อนที่จะเรียนจบก็เลยวางแผนพาบรรดาลูก ๆ เหล่านี้ไปทำความดีสักหน่อยก็ยังดี

    ส่วนท่าน ดร.นนต์ จะมอบพระเครื่องให้ก็ขอขอบพระคุณแทนพวกเขาล่วงหน้าครับ
    ยังไงผมเองก็อยากให้รอชมผลงานกันก่อน น่าจะเหมาะสมกว่าครับ
     
  17. "นนต์"

    "นนต์" เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,157
    บ่วงนาคบาศ แสนมหัศจรรย์และลึกลับ


    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มีสตรีผู้บำเพ็ญท่านหนึ่งอยู่ที่จังหวัดหนองคาย ได้โทรมาหาผมพร้อมทั้งแจ้งรายละเอียดวัตถุประสงค์ที่โทรมาหา เธอบอกว่า เมื่อไม่นานมานี้ เธอนิมิตเห็นพญานาคและเรื่องราวเกี่ยวกับบ่วงนาคบาศ เธอจึงได้นำไปกราบเรียนถามครูอาจารย์ที่เป็นพระสงฆ์ ท่านบอกว่าให้ตามหา เพื่อจะได้นำมาบำเพ็ญบุญบารมี และไว้เพื่อการบางอย่าง เธอพยายามตามหาและสอบถามไปหลายๆแห่ง ก็ไม่ได้รับคำตอบ หรือไม่ได้บูชาบ่วงนาคบาศสักที จนเธอกำลังจะหมดความพยายาม จึงได้ตั้งจิตอธิษฐานเป็นครั้งสุดท้ายว่า หากวันนี้(20 กพ. 2555) เธอไม่ได้พบสิ่งที่เธอหวัง เธอจะละวางเสีย ปรากฏว่า ในช่วงเช้ามีน้องชายท่านหนึ่งได้โทรไปบอกเธอให้ลองติดต่อมาที่ผม เธอจึงตัดสินใจโทรมาหา เมื่อได้สนทนากันแล้ว เธอเกิดอาการปีติ จึงจะขอมาพบผมในช่วงสิ้นเดือนที่จะถึงนี้ แม้เธอจะไม่คาดหวังว่าจะได้รับบ่วงนาคบาศจากผมก็ตาม แต่ความจริงแล้ว หนึ่งในบ่วงนาคบาศที่ผมมีอยู่จะกลายเป็นของเธอทันที หากเธอมาพบผมตามที่เธอได้บอกไว้


    บ่วงนาคบาศ มีผู้กล่าวว่า เมื่อครั้งที่พระพุทธองค์เผชิญกับพญามารในขณะที่กำลังจะตรัสรู้ ได้มีพญานาคเข้ามาช่วยขัดขวางเหล่าพญามารไว้ ขดเป็นวงเหมือนห่วงนาคบาศ (ผมจำไม่ได้) ดังนั้น ในความเชื่อถือกันมาตั้งแต่โบราณว่ากันว่า บ่วงนาคบาศจะช่วยปกป้องคุ้มครองภัยทั้งหลาย(ภัยพิบัติ) และยังเป็นสิ่งที่จะช่วยปราบมารทั้งหลาย และที่สำคัญก็คือ หากผู้ใดมีบ่วงนาคบาศนี้ไว้ จะมีกินมีใช้ไม่รู้จักหมดสิ้น เหมือนดั่งที่งูหรือพญานาคสองตนกำลังกินหางซึ่งกันและกัน และเมื่อใดที่มันกินไปจนถึงหัว มันก็คลายลำตัวออกมา แล้วก็กลืนกินกันไปอยู่อย่างนั้น นอกจากนั้น บ่วงนาคบาศยังได้แสดงความมหัศจรรย์ก็คือ บ่วงนาคบาศที่มีอยู่ที่ผม (โบราณและใหม่) ทุกอันได้แสดงอภินิหาริย์ให้ผู้สัมผัสได้เห็นเหล่าพญานาคที่รักษาหรือสถิตย์อยู่ในนั้นแทบทุกคน (ปัจจัตตัง)


    ท่านทั้งหลาย กระแสบุญ และกระแสธารในสายใยเดียวกัน ย่อมส่งถึงกันเป็นอัตโนมัติ ไม่มีสิ่งบังเอิญสำหรับเหล่าพุทธวงศ์ แม้ต่างคนจะมีหน้าที่ในการจุติลงมาในช่วงกึ่งกลางพระพุทธศาสนานี้แตกต่างกันไป แม้อยู่ไกลกันแค่ไหน ท้ายสุดก็ต้องมาเจอกันจนได้ ดั่งที่พวกเรารับทราบกันอยู่นี้ มาร่วมกันสร้างบารมีจนกว่าจะเข้าสู่พระนิพพานในที่สุด


    ขอเจริญในธรรม
    ดร.นนต์
    21 กพ. 2555



    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN6795.jpg
      DSCN6795.jpg
      ขนาดไฟล์:
      539.5 KB
      เปิดดู:
      2,216
    • DSCN6796.jpg
      DSCN6796.jpg
      ขนาดไฟล์:
      390.3 KB
      เปิดดู:
      2,164
    • DSCN6800.jpg
      DSCN6800.jpg
      ขนาดไฟล์:
      451 KB
      เปิดดู:
      2,152
    • DSCN6801.jpg
      DSCN6801.jpg
      ขนาดไฟล์:
      468.8 KB
      เปิดดู:
      2,183
    • DSCN6797.jpg
      DSCN6797.jpg
      ขนาดไฟล์:
      471 KB
      เปิดดู:
      2,323
    • DSCN6799.jpg
      DSCN6799.jpg
      ขนาดไฟล์:
      344.7 KB
      เปิดดู:
      2,109
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2012
  18. "นนต์"

    "นนต์" เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,157
    ข้อความจากท่านถวัลย์
    .........................................

    เรียน อาจารย์นนต์ ที่นับถือ
    ผมรู้สึกปลื้มใจแทนท่านและท่านสุทนที่มีผู้ร่วมทำบุญบูชาหลวงปู่ทวดอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ผมชีพจรลงเท้าต้องเดินทางไปต่างประเทศพอมีเวลาก็จะเข้ามาอ่านบล๊อกของท่านเป็นประจำ และขออนุญาติโมทนาบุญกับท่านและท่านสุทนด้วยนะครับ รวมถึงผู้มีจิตศรัทธาที่ได้ทำบุญทุกท่านครับเสียดายที่วันศุกร์ที่แล้วผมมีเวลาไม่มากพอที่จะได้เรียนรู้จากท่านและท่านสุทน แต่ว่าก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะได้เข้ามาศึกษาและสัมผัสธรรมอย่างเป็นเรื่องเป็นราวครับ

    ถวัลย์
     
  19. "นนต์"

    "นนต์" เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,157
    Date: Tue, 21 Feb 2012 05:55:19 -0800
    From: jakapong_du@yahoo.com
    Subject: ร่วมทำบุญองค์หลวงปู่ทวด
    To: dr.natdhnond@hotmail.com


    เรียน ท่านอาจารย์ ดร.นนต์
    ผมมีความยินดีจะขอร่วมทำบุญกับอาจารย์ครับ ถ้ายังมีอยู่ผมขอทำบุญด้วย 1 องค์ครับ รบกวนโทรกลับมาแจ้งหรือ E-Mail จะได้โอนเงินให้
    ขอขอบคุณครับ
    จักรพงษ์ ดำรงอาภาติ
    339/448 หมู่ 5 ถ.พุทธรักษา ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 10280
    jakapong@ampasrandd.com,jakapong_du@yahoo.com
    โทร. 0852190055

    <HR id=stopSpelling>
    เรียนคุณจักรพงษ์
    ผมขออนุโมทนาในบุญที่คุณได้กระทำในครั้งนี้ทุกประการครับ
    ผมยินดีมอบพระหลวงปู่ทวดให้คุณ 1 องค์ตามความประสงค์
    ปล. ผมขอความกรุณาท่านโอนค่าส่ง EMS และค่ากรอบแสตนเลส (พระยังไม่มีกรอบ) กันการเสียหาย จำนวน 100 บาทมาด้วยนะครับ ผมจะจัดส่งให้ได้ในวันพฤหัสบดี เพราะพรุ่งนี้ผมจะพานักศึกษาไปทัวร์วัดที่อยุธยาครับ

    ขอเจริญในธรรม
    ดร.นนต์


     
  20. ckj_tong

    ckj_tong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +869
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ร่วมกันเพื่อสร้างวัดภูดานไห

    สาธุ สาธุ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...