ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

ขอเชิญชวนทุกๆท่านร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง เพื่อสืบทอดอายุพระศาสนา และเพื่อไว้ให้สักการะบูชากันครับ

.

 

ตั้งใจว่าจะขอร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ตั้งแต่คุณสิทธิ์พงศ์เผยว่าจะเปิดกระทู้นี้เพื่อให้ร่วมบุญกัน จนถึงวันนี้ก็ได้มีโอกาสร่วมบุญไปสองรอบแล้ว
ต้องขอขอบคุณคุณสิทธิ์พงศ์ที่ช่วยเป็นหลัก หนักแน่นยิ่งกว่าหินผา (ยิ่งกว่าสะพรั่งอีก) ขอบคุณคุณ sira ที่คอย update ความคืบหน้าครับ
เมื่อบุญพาวาสนาส่ง จะกลับมาร่วมบุญรอบสาม และรอบต่อไปอีกเรื่อยๆ
จนกว่าองค์พระเจดีย์จะเสร็จสมบูรณ์

โมทนาสาธุกับเพื่อนบุญทุกๆท่านด้วยครับ

 

ผมขอกราบโมทนาสาธุด้วยนะครับ เพื่อพระศาสนาของพวกเราทุกคน

ผมแย้มให้นิดนึงก่อน ผมได้รับทราบจากพี่แอ๊วว่า พื้นที่หลังจากสนส.ผาผึ้งไปไม่ไกล มีท่านผู้ใจบุญบริจาคที่ดินให้สมเด็จพระเทพฯท่าน ประมาณ 2,000 ไร่ สมเด็จพระเทพฯท่านมีดำริจะสร้างวิทยาลัยสงฆ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือครับ รายละเอียดคงต้องติดตามกันอีกครั้งครับว่าวิทยาลัยสงฆ์จะดำเนินการกันอย่างไรต่อไป

ส่วนความคืบหน้าเรื่องสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ผมคงต้องยกให้เป็นหน้าที่ของน้องชา(sira) หรือบางครั้งก็อาจจะเป็นพี่แอ๊ว หรือน้องอุเทนครับ

กราบโมทนาสาธุในบุญกุศลที่ทุกๆท่านได้ร่วมกันทำด้วยครับ

.

 

ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิกันครับ ร่วมทำบุญแล้วผมมีพระพิมพ์มอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติกันครับ
บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ

 

มีผู้ร่วมถวายปัจจัยฝากทำบุญทุกอย่างสร้างพระเจดีย์ชัยผาผึ้ง เพื่อถวายพระอาจารย์นิล
คือ นางสาว ธณบดี พันธุ์สิงห์
โอนเงินแล้วนะคะวันที่ 15/05/07 13:50 A12B149
rec no. 6329
transfer 2,000 บาท
FR BBLA 0281272
TO KTBA 1890131288
รบกวนขอใบอนุโมทนาด้วยนะคะ

 

มีของดีมาฟากจาก กระโถนข้างธรรมาสน์

<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1>
<!-- / icon and title --><!-- message -->
เรื่องของเรื่องก็คือเห็นพี่ๆ หลายๆคน สามารถสัมผัสพลังจากพระพิมพ์และวัตถุมงคล
กันได้จนผมรู้สึกว่า มันเป็นอย่างไรกัน กับพลังที่ว่าแรงๆ แรงยังไง ดีทางด้านไหน
จนผมบังเอิญไปเจอบทความของหลวงพี่ เล็ก สุธมฺมปญฺโญ วัดท่าขนุน ลูกศิษย์พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง
ได้เขียนไว้ในเรื่อง ปลุกตัวเอง เป็นการปลุกตัวเองแบบทดสอบอานุภาพวัตถุมงคล...สามารถที่จะสัมผัสพลังที่ส่งผ่านมาทางวัตถุมงคลได้
<O
จาก Link นี้ครับ http://www.grathonbook.net/book/past/past9.html<O
<O
ผมลองทดสอบกับตัวเองแล้วมีผลจริงตามที่ ท่านได้กรุณาบอกไว้ใน Wep ผมลองทำอยู่
ประมาณ 3 วัน ก็เกิดผล 2 วันแรกพอผมอ่านเจอก็ลองดูที่ Office แต่ยังไม่ได้ตั้งใจจริงสักเท่าใหร่
นึกว่าตัวเองคงทำไม่ได้ กำดูสักพักภาวนาดูสักเป็ปนึงก็เลิกก็เลยมาทบทวนอ่านดูอีกทีนึง หลวงพี่เล็ก
ท่านบอกว่าใช้กำลังใจเพียงแค่ อุปจารสมาธิ เท่านั้นเอง ทำใจสบาย ๆ ว่าคาถา “สุนักขัตตัง สุมังคะลัง”
ไปเรื่อยๆ พอสมาธิถึงที่ ก็จะแสดงให้เห็นเองวันที่ 3 นี่ผมตั้งใจทำจริงๆ กลับบ้านอาบน้ำให้สบายๆก่อนนอน
สวดมนต์ว่ายพระเสร็จก็ลองเอาพระที่พี่หนุ่มแจกมาตอนไปบ้านอาจารย์ปฐม องค์พระปิดตาสีดำสองหน้า
พระพิเศษชุดที่ 2 นั่นเหละครับ แต่ผมเอาเข้าพิธีในวันที่ 7 เม.ย. ที่บอกว่าหลวงปู่โตท่านมาช่วยทำพระให้ครั้งนั้นอีกครั้งนึงครับ

ผลก็คือง่วงนอนครับ นั่งภาวนาเกือบชั่วโมง ไม่เห็นมีอะเกิดขึ้นเลย นอนดีกว่า ใจก็คิดว่าไหนๆก็ตั้งใจ
แล้วง่วงก็ง่วงอย่าฝืนมันเลย นอนมันทั้งๆที่กำพระไว้ในมือนี่แหละ ภาวนาให้มันหลับไปเลย ปรากฎว่าพอเวลา
จะหลับๆ มือข้างที่กำพระที่วางไว้อยู่ตรงหน้าอก กลับเด้งขึ้นมาตั้งเองโดยอัตโนมัต ก็เลยลืมตามาดู
ในใจก็ยังภาวนาอยู่ มันเหมือนมีพลังอะไรก็ไม่รู้มาหน่วงๆ อยู่บริเวณรอบๆมือที่กำพระไว้ สักพักก็เริ่มสั่นๆ
แล้วก็สั่นแรงขึ้นเรื่อยๆ จนผมต้องลุกขึ้นมานั่ง แล้วลองอาราธณาขอพระท่านดูว่ามีกำลังทางด้านไหน
ในใจนึกถึงพระสิวลีขึ้นมา จากมือที่สั่นๆอยู่ มือก็กับหงายขึ้นมาแล้วก็ทำท่าคล้ายกับกวักของเข้ามาหาตัวเอง
ใจก็บอกว่ากวักโชคกวักลาภ ซักพักนึง ใจก็นึกถึงพระอนุรุทท่านขึ้นมา มือก็กับหงายขึ้นมาค้างไว้อยู่เฉยๆ
ใจมันก็บอกว่าความไม่มีไม่เกิดแก่ท่าน มือจึงหงายนิ่งอยู่เฉยๆ เป็นได้สักพักนึงใจก็นึกถึง พระอุปคุตท่านขึ้นมา
มือที่อยู่นิ่งๆเมื่อกี้ก็ยกขึ้นมา แล้วก็ทำท่าปัดออกไปด้านข้างของลำตัวปัดไปปัดมา ใจก็บอกขึ้นมาว่าปัดเป่าอุปสรรค
ในใจนึกขึ้นมาอีกว่าทำไมท่านปัดเบาจัง อย่างนี้จะช่วยปัดเป่าอุปสรรคได้จริงรึ ไม่ได้นึกปรามาสท่านนะครับ
แต่ตอนนั้นมันนึกอย่างนั้นขึ้นมาเอง เทานั้นแหละครับได้เรื่องเลยปัดไปปัดมาอย่างแรงมากจนผมเหนื่อ
ต้องขอขมาเลยครับ (ตอนแรกก็ไม่ได้นึกหลอกนะครับว่าท่านทำให้ดูเฉยๆว่าดียังไงไม่ต้องแรงมากก็พอรู้แล้วจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก)
พอใจมันพอแล้วใจก็เลยนึกถึงคณะหลวงปู่โลกอุดรขึ้น มือก็ค่อยช้าลงแล้วก็เลื่อนมาอยู่ที่อกแล้วก็ค่อยๆหมุนวนรอบ
ใจมันก็บอกว่าดีทุกด้าน คราวนี้ใจก็เลยนึกถึงหลวงปู่โตขึ้นมาอีก (ก็ตอนที่ไปบ้านปู่ปฐม วันที่ 7เม.ย. ที่ผมไปร่วมพิธีด้วย
คณะอาจารย์ท่านบอกว่าหลวงปู่มาช่วยทำพระให้นี่ครับ ผมก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งตามนิสัยของผม
ถ้าไม่เห็นกับตาหรือไม่ได้สัมผัสอะไรที่พิเศษจริงกับตัวเองผมก็ไม่เชื่อ) มือก็แกว่งไปซ้ายทีขวาที
คราวนี้เหวี่ยงไปทั้งแขนเลยครับเหวี่ยงจนสุดมือไปรอบๆตัว หมุนไปมาบนหัว ซ้ายที ขวาที ตัวก็โยกไปโยกมาอย่างแรง
ตาเราก็มองดูอยู่เอนี่อะไรของมันหว่าคงไม่ใช่ฝันหรือละเมอแล้วมั้งนี่ (ไม่วายที่จะยังไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองเจออยู่ดี)
กลายเป็นตุ๊กตาล้มลุกอยู่ซักพักก็ลองทบทวนที่หลวงพี่ เล็ก ท่านบอกอีกทีนึง ตอนที่หลวงพี่ท่านทำบอกว่า
พระของหลวงปู่โตนี่จะพุ่งขึ้นฟ้าหรือชูขึ้นฟ้าทำไมของเราไม่เป็นหว่ารึว่า...... ไม่ทันจะคิดต่อมือ
ที่เคยเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาจนทำให้เราเป็นตุ๊กตาล้มลุกไปซักพักใหญ่ๆ ก็พุ่งชูขึ้นไปเหนือหัวเล่นเอาตัวเกือบลอยตามไปด้วยเชียว
เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาแล้วก็ชูขึ้นฟ้าๆ เล่นเอาผมเหนื่อยทีเดียว จนต้องนึกในใจบอกพระท่านว่า หลวงปู่พอแล้วครับๆ
เหนื่อยแล้วครับ มือก็กับมานิ่งอยู่ที่อกเหมือนตอนแรก ผมก็เลยตั้งจิตขอขมาพระรัตนตรัย แล้วว่ายพระอีกรอบนึงขอท่านนอน
แต่ใจยังเต้นอยู่เลยเพราะไม่เคยคิดว่าตัวเราเองจะสามารถสัมผัสพลังอย่างนี้ได้แล้วก็ค่อยๆหลับไป<O
พอตื่นขึ้นมายังงงกับตอนกลางคืนที่ผ่านมาอยู่เลย แต่ก็ยังแอบคิดว่าละเมอไหมเนี่ยแต่ก็ต้องไปทำงานแล้ว
มันยังคงแปลกใจค้างอยู่เป็นอาทิตย์ กลัวว่าจะอุปทานกิน หลังจากนั้น ผมยังมีโอกาสได้ลองทำดูอีก 2-3 ครั้ง
เพราะความสงสัยที่มันค้างอยู่ในใจ และเป็นการป้องกันอุปทานที่กลัวว่าจะเกิดขึ้นกับตัวผมเอง
เลยได้เจอประสบการณ์ที่แรงกว่าครั้งแรกอีก เอาไว้มีเวลาผมจะเล่าให้ฟังอีกทีครับ
<O
(แต่อย่าลืมว่าไม่มีอะไรที่จะยิ่งใหญ่เกินกว่ากฎของกรรมนะครับ)

<O</O<O
***หมายเหตุ ผมไม่ได้มาเชียร์ใคร หรือว่าของใครดีกว่าของใคร ของใครแท้ของใครไม่แท้ นะครับ
เพียงแต่จะบอกว่า สิ่งที่ดีจริงๆนั้น พระท่านได้วางวิธี ที่จะให้เราพิสูตรไว้หลายๆวิธี เราสามารถที่
จะเลือกเอามาพิสูตรด้วยตัวเราเองได้ทุกคน เพียงแต่ให้ทำจริงและตั้งใจทำ เพราะผมเองสมาธิก็ไม่ได้ฝึกมาดีสักเท่าไร
เพียงแต่ลองทำจริงๆดูซักครั้งเท่านั้นเอง (ด้วยความอยากรู้อยากเห็น) ทุกอย่างอยู่ที่เจตนาในใจ
ของแต่ละคนนะครับ วางใจเป็นกลางแล้วพิจารณากันเอาเอง เพียงแค่เราคิดขึ้นมานี่
สิ่งศักสิทธิ์ท่านก็รู้เห็นทุกซอกมุมของความคิดเราหมดแล้วครับ ผมเคยเจอกับตัวเองมาแล้วมันอายจนต้องร้องไห้เลยครับ
ยังเป็นคนอยู่มันก็ดีบ้างชั่วบ้าง แต่ก็ให้พยายามรักษาใจให้มันอยู่ในทางของความดีให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้
เมื่อมีเหตุปัจจัยพอบุญกุศลก็คงจะ ส่งเราให้ถึ้งจุดหลายปลายทางได้
<O
ขออนุโมทนากับความดีของทุกๆท่านที่ตั้งใจสืบสานงานพระศาสนา
งานของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ขอความสุขจงบังเกิดแก่ผู้ที่ทำความดี
เจตนาดีทุกๆท่านด้วยเทอญ ด้วยพุทธบารมี ธรรมบารมี สังฆบารมี
บารมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทุกท่านมีคณะหลวงปู่เทพโลกอุดรเป็นที่สุด
และบารมีพรหมเทพเวดาทุกๆท่านที่คอยช่วยเหลืองานพระศาสนา
สาธุ

 

รายนามผู้ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งครับ

 

ยอดคงเหลือครับ

 

ผมคัดลอกมาจาก wep กระโถนข้างธรรมาสน์ เผื่อพี่ๆน้องลองทำดูแล้วอาจจะได้มีประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟัง และเป็นการฝึกสมาธิอีกรูปแบบหนึ่ง หลวงพี่เล็ก ท่านบอกว่า คาถาต่างๆจะได้ผลส่วนใหญ่จะใช้กำลังสมาธิขั้น อุปจารสมาธิ ที่ใกล้จะเข้า ปฐมญาณ จึงจะเกิดผล คิดว่าเป็นการฝึกสมาธิ ได้เห็นปิติ และเป็นกำลังใจให้กับการปฎิบัติ เมื่อผ่านไปได้แล้วจะได้พิจารณาธรรมทางด้านอื่นต่อไป ถ้ามีประสบการณ์อะไรก็เล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ​

๕๕. ปลุกตัวเอง​

ตอนเด็กอยู่นั้น ทางบ้านของอาตมา เขามีการปลุกตัวเองในหลายรูปแบบ ไม่ใช่การปลุกให้ตื่นจากหลับนะจ๊ะ หากแต่เป็นการทดสอบเครื่องรางของขลังว่า มีอานุภาพเป็นประการใด และการปลุกอีกแบบหนึ่ง เป็นการกระทำเพื่อดูนรก – สวรรค์...
การทดสอบอานุภาพของขลังนั้น เขาจะให้คนที่ต้องการทดลองกำของขลังชิ้นนั้นไว้ ภาวนาคาถาอะไรก็ไม่ทราบ เห็นหลับตาเฉยไปครู่หนึ่ง แล้วร่างกายจะค่อย ๆ สั่น แรงขึ้น...แรงขึ้นเรื่อย ๆ จนบางทีกระโดดโครม ๆ เรือนแทบทรุด...!
บางรายไปสักมาจากอาจารย์ดัง ๆ มีการทดสอบด้วยการปลุกตัวบ่อย ๆ นัยว่าเพื่อเพิ่มความขลัง ก็ปลุกขึ้นดี แต่เวลามีเรื่องกัน เห็นถูกเหยียบหามมาเหมือนกัน ได้ยินว่า ถ้าไม่ใช่ครูเผลอหลับ ก็คงเป็นว่าของมันขึ้นแต่เวลาปกติจนชิน ถึงเวลาฉุกเฉินเกิดถ่านหมด เลยงอมพระรามกลับมา...!
ส่วนการปลุกตัวเพื่อดูนรก – สวรรค์นั้น เขามักจะทำกันเวลามีคนตาย และทำกันในหมู่คนจีนเป็นส่วนใหญ่ ดูวิธีการคล้ายกับการเข้าทรง พอสั่นได้ที่คราวนี้อยากรู้ว่านรก – สวรรค์ เป็นอย่างไร ญาติพี่น้องตายแล้วไปไหน เชิญถามได้เลย...
บางคนปลุกแรงไปหน่อย เอามือตีอกหรือหน้าขาตัวเองจนช้ำไปหมด มาภายหลังอาตมาเห็นการฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลังของ “หลวงพ่อ” แล้ว เหมือนกับการปลุกตัวแบบนี้เปี๊ยบเลย ของจีนกับไทยทำไมเหมือนกันได้ก็ไม่รู้...?
วันหนึ่ง...หลวงพ่อรับแขกที่ศาลานวราชบพิตร ท่านได้เล่าเรื่องที่ท่านทดลอง คาถาหัวใจปลาไหลเผือก โดยให้เด็กอายุ ๔ – ๕ ขวบภาวนาคาถา พอคาถาขึ้นก็ให้ผู้ใหญ่ช่วยกันจับ ปรากฏว่าผู้ใหญ่ ๕ – ๖ คน จับไม่ติด เด็กมันลื่นเป็นปลาไหลจริง ๆ...
เอ๊ะ...น่าเล่นนี่ อาตมาจึงกราบขอคาถานี้กับหลวงพ่อ ท่านบอกว่า “ไม่ได้...ลูกข้าหนีเขาก็ขายหน้าหมด มันต้องสู้ถึงจะใช้ได้...! เอาคาถาหัวใจหนุมาน ดีกว่าลูก ถ้าทำขึ้น ต่อให้มาเป็นร้อยก็สู้เขาได้สบาย...”
แล้วหลวงพ่อก็เล่าสรรพคุณคาถาหัวใจหนุมานว่า สมัยท่านอยู่ตลิ่งชัน ท่านกับเพื่อนเห็นกับตา หมอแผนโบราณท่านหนึ่ง รักษากำนันอิทธิพลแล้ว ค่ารักษาไม่ได้ไม่ว่า แต่ค่าบูชาครูต้องมี เมื่อกำนันไม่ให้ก็ใช้ลูกศิษย์มาทวง...
เงินบูชาครูไม่กี่สตางค์ แต่คนพาลซะอย่าง นอกจากจะไม่ให้แล้ว ยังสั่งลูกน้องรุมตีเขาอีก เปรี้ยงเดียวจากคมแฝกไม้จริง ไอ้หนุ่มลูกศิษย์คุณหมอก็ปลิวติดรั้ว พอไม้สองซ้ำตูมเข้าให้ ก็ได้เรื่องทันที...!
ร่างที่ตามปกติต้องม่อยกระรอกแน่นอน กลับหมุนควับกลับมาพร้อมกับซอไม้ไผ่ที่ถอนจากรั้ว ตะลุยเข้ากลางหมู่ศัตรู ตีกระจุยเลย ผลัวะไหนผลัวะนั้นไม่มีพลาด ฝ่ายตรงข้ามตีมาเท่าไรหลบได้หมด ลิงที่ว่าไวยังอาย...!
หลวงพ่อกับเพื่อนที่เตรียมช่วยก็เลยได้แต่ยืนดู พอนวดลูกน้อง กำนันหมอบกระแตดีแล้ว ไอ้หนุ่มก็ทวงค่าบูชาครูซะใหม่ คราวนี้กำนันรีบให้แฮะ ไม่งั้นร่างที่นอนหาระเบียบไม่ได้บนพื้น คงเพิ่มกำนันผู้ยิ่งใหญ่อีกคนแน่ ๆ ...!
พอตามไปถามดูก็ถึงบางอ้อ ไอ้หนุ่มบอกกับหลวงพ่อและเพื่อนว่า พ่อหมอทราบอยู่แล้ว ว่าถ้ามาต้องมีเรื่อง เลยให้เขาปลุกคาถาหัวใจหนุมานจนขึ้นดีแล้วค่อยมา พ่อลูกน้องกำนันรุมตี ผลก็เป็นอย่างที่เห็นนั่นแหละ...
อีกครั้งหนึ่ง...หลวงพ่อกับเพื่อนได้รับคำสั่งให้ไปปราบโจรที่ไหน อาตมาจำไม่ได้แล้ว พอดีฝนตกก็เลยเข้าไปนั่งหลบฝนในร้านกาแฟ ในนั้นมีเจ้าถิ่น ๓ – ๔ คนเมาเหล้าตาขวางอยู่ก่อนแล้ว แต่หลวงพ่อไปหลายคนเขาก็ไม่กล้าเสี่ยง...
สักครู่ก็มีหนุ่มต่างถิ่นเดินตากฝนมา ขอซื้อเหล้าดื่มแก้หนาวถ้วยหนึ่ง แล้วออกเดินทางต่อ บรรดาเจ้าถิ่นเห็นเหยื่อมาเดี่ยว ได้โอกาสระบายความคลั่งของตน ก็ถือไม้คมแฝกบ้าง ตะพดบ้าง ไล่ตี...
หนุ่มต่างถิ่นวิ่งหนีแต่ไม่พ้น โดนฟาดตูมเข้าท้ายทอยตะครุบกบแน่นิ่ง อีกรายหวดซ้ำที่กลางหลัง อย่างกับปาฏิหาริย์...ไอ้หนุ่มต่างถิ่นเด้งติดไม้ขึ้นมา หันหน้าจมูกชนกับคนตีแล้วหันหลังเดินไปหน้าตาเฉย...!
คนตีทรุดฮวบคว่ำกับพื้น เพื่อน ๆ พลิกตัวหงายขึ้นมาแล้วครางฮือ...! เก้ารูจากสะดือถึงคอหอย ไอ้หนุ่มต่างถิ่นชักมีดเหน็บแทงเอาเมื่อไรดูไม่ทัน ตายขาดชนิดไม่ได้ร้องซักแอะ ถ้าตามไปอีกก็คงตายหมดแน่ ๆ ...!
“ลักษณะโดนซ้ำแล้วสวนทันที คือลักษณะของคนเล่นคาถาหัวใจหนุมาน ถ้าซ้ำของจะขึ้น คราวนี้ทั้งไวทั้งเหนียวมาเท่าไรก็ไม่เหลือ...” “แล้วถ้าไม่ซ้ำละครับ” “ก็น้ำค้างตกนั่นแหละถึงจะฟื้น” โธ่...แบบนี้ไม่เอาละครับ...
เกิดทำคาถาขึ้นดี ถูกเพื่อนแกล้งเตะเบา ๆ ก็ไปฟื้นเอากลางดึกแบบนี้ไม่ไม่ไหวครับ...เอาคาถาอื่นดีกว่า หลวงพ่อหัวเราะชอบใจ บอกวิธีเล่นสนุกวิธีใหม่ เป็นการปลุกตัวเองแบบทดสอบอานุภาพวัตถุมงคล...
ให้เอาของกำไว้ในมือ ทำใจสบาย ๆ ว่าคาถา “สุนักขัตตัง สุมังคะลัง” ไปเรื่อย ถ้ากำลังใจได้ที่ของจะขึ้น อาการที่แสดงออกจะทราบได้ทันทีว่าของชิ้นนั้นทำมาด้านไหน จะเป็นมหาอุตม์ คงกระพันชาตรี หรือ เมตตามหานิยมก็สังเกตุเอา...
อาตมาได้คาถาและวิธีการมาแล้วก็ลองทันที เอาพระของหลวงพ่อใส่มือ ทำใจสบาย ๆ ว่า สุนักขัตตัง สุมังคะลัง ไปเรื่อยประมาณ ๓๐ นาที ก็ได้เรื่อง มือมันค่อย ๆ สั่น จากเบาเป็นแรงขึ้นเรื่อย จนตีอกตัวเองดังป้าบ ๆ เลย...!
อยากจะหยุดก็หยุดไม่ได้ พอบังคับหยุดมันเหมือนมีแรงฝืน ดึงมือเราไปเขย่าจนได้ เหนื่อยแทบขาดใจ พอดิ้นหลุดเอาพระออกก็หยุดสั่น พอจับพระใหม่ก็สั่นทันที ต้องรีบวาง กลัวจะเหนื่อยตายซะก่อน...!
พอหายเหนื่อยก็ลองใหม่ คราวนี้ใช้สมเด็จวัดระฆัง พอขึ้นปุ๊บมือทั้งสองคล้ายมีคนดึง มันค่อย ๆ พุ่งขึ้นฟ้า แทบจะฉุดเอาตัวลอยขึ้นไปทั้งตัว เอ๊ะ...? อานุภาพไปคนละทางกันจริง ๆ ลองกับพระของหลวงปู่บุดดา ปรากฏว่ามือทั้งสองค่อย ๆ แกว่งไปทางซ้าย – ขวา อย่างช้า ๆ ดูนิ่มนวลมาก ถ้าจีบมือซะหน่อยคงเป็นท่ารำไทยไปเลย แสดงออกถึงความเมตตาที่ชุ่มเย็นอย่างชัดเจน...
พอทำขึ้นคราวนี้จับองค์ไหนก็ขึ้นหมด ถึงขนาดนอนนึกก็ดิ้นโครม ๆ ซะแล้ว ใจหนึ่งอยากลองภาวนาคาถาหัวใจหนุมาน อีกใจก็ค้านว่าอย่าดีกว่า ไปนอนให้เขาหาม มันไม่เข้าท่าแน่ และที่ไม่ลืมเด็ดขาดคือ จะไม่เผลอเอาธงมหาพิชัยสงครามมาปลุกเด็ดขาดกลัวตายก่อนอายุขัย...!
นอนสั่นอยู่หลายวันจึงเข้าใจ ว่าอารมณ์ตอนนั้นเป็นแค่อุปจารฌานเท่านั้น ถ้าเรากำหนดจิตให้สูงกว่านั้น อาการสั่นก็จะหายไปเอง เฮ้อ...กว่าจะเข้าใจก็นอนดิ้นซะตึกแทบพัง เหนื่อยจะตายชัก...!

๗ พฤษภาคม ๒๕๓๓
พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ​

 

พระพิมพ์ที่ผมนำมามอบให้กับท่านที่ร่วมทำบุญในปัจจุบัน(19 พฤษภาคม 2550)ทั้ง 3 ชุดนั้น หลังจากวันออกพรรษา(วันที่ 26 ตุลาคม 2550) ผมขอเพิ่มจำนวนเงินในการร่วมทำบุญและรับพระพิมพ์ ส่วนพิมพ์ไหนเพิ่มเท่าไรนั้น ผมจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งก่อนวันที่ 26 ตุลาคม 2550 ครับ <O</O
<O</O

สาเหตุที่ผมต้องเพิ่มจำนวนเงินในการร่วมทำบุญและรับพระพิมพ์นั้น เนื่องจากสาเหตุก็คือ พระพิมพ์ของวังหน้านั้น ได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเพิ่มกัน 3 ครั้ง โดยสองครั้งแรกนั้น ได้ขอพระเมตตาจากพระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุทเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า และหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ ส่วนครั้งที่ 3 ซึ่งนำเข้าพิธีเสาร์ 5 คือวันที่ 7 เมษายน 2550 ได้ขอพระเมตตาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากุกกุสันโธ(หรือกุกุธสันโธ) ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ทั้ง 7 พระองค์ท่านได้มีพระเมตตาอธิษฐานจิตพระพิมพ์และวัตถุมงคลทุกประเภทในพิธีให้ (ส่วนหลวงปู่แจ้งฌาณ ,หลวงปู่ท่านเจ้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชา) และหลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก นั้น ทั้ง 3 พระองค์ได้มาด้วยแต่ไม่ได้อธิษฐานจิตพระพิมพ์และวัตถุมงคล) พระพิมพ์ที่ผมมีอยู่นั้น จะได้แต่ท่านที่มีวาสนาบารมีเท่านั้น พระพิมพ์ท่านเลือกคน มิใช่คนเลือกพระพิมพ์ บางคนต่อให้นำพระพิมพ์ไปวางไว้บนมือ ถ้าคนนั้นไม่มีวาสนาบารมีก็จะไม่สนใจ ผมเองเชื่ออย่างนั้น แต่ถ้าคนไหนที่มีวาสนาบารมีที่จะได้ ไม่เคยรู้จักพระวังหน้า ไม่เคยรู้จักและเข้ามาดูในกระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้..... ในเว็บไซด์พลังจิต หรือเว็บไซด์อกาลิโก แต่เป็นวาสนาบารมีของเขาที่จะได้ ก็พาเขามาได้พบกับพระอาจารย์นิล ได้เห็นพระพิมพ์ และรู้สึกว่าอยากได้มากๆๆๆ เขาเองก็ได้ไปทำผ้าป่ามาถวาย ผมเองก็ได้มอบพระพิมพ์นี้กับพระอาจารย์นิล พระอาจารย์นิลท่านก็ได้มอบให้กับบุคคลท่านนี้ อีกส่วนหนึ่งก็คือพระพิมพ์ที่ผมเองมีอยู่นั้น ก็ย่อมมีวันหมด ผมเองอาจจะมีชีวิตอยู่จนอายุ 60 หรือ 70 ปี ระยะเวลาที่ผมมีชีวิตอยู่นั้น ผมยังสามารถนำพระพิมพ์ไปใช้ประโยชน์เพื่อพระพุทธศาสนาได้อีก และผมเองก็ยังไม่รู้ว่าในอนาคตนั้น จะมีพิธีพุทธาภิเษกที่พิเศษในลักษณะนี้อีกหรือไม่ครับ<O</O
<O</O

คงมีคำถามที่จะถามผมว่า จำนวนเงินที่ให้ร่วมทำบุญและพระพิมพ์นั้น สูงเกินกว่าที่จะร่วมทำบุญได้ ผมเองขอแจ้งเลยว่า หากท่านใดมีเงินที่จะร่วมบุญและรับพระพิมพ์ไม่พอนั้น ผมให้ทำบุญไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบได้(เหมือนกับเป็นการทำบุญผ่อนส่ง) ผมว่ายิ่งทำบุญหลายๆหน ยิ่งเป็นการดี ทำบุญนั้นทำน้อยทำมากเหมือนกัน แต่ถ้าทำบ่อยๆจะดีมากกว่านะครับ <O</O
<O</O


หากท่านใดที่ร่วมทำบุญและรับพระพิมพ์ไปแล้ว ผมขอความกรุณาให้เก็บไว้ในที่สูงนะครับ ผมกลัวว่าจะเป็นการปรามาสองค์ผู้เสก และที่ผมต้องมาบอกกันนี้ ผมจะได้ไม่ต้องรับกรรมในส่วนนี้ด้วยหากว่ามีผู้ที่นำไปไว้ในที่ไม่เหมาะสมครับ

โมทนาสาธุครับ <O</O
<!-- / message --><!-- sig -->

 

ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิบมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ


พระพิมพ์ชุดพิเศษ 2 องค์ผู้อธิษฐานจิต พระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุทเถระเจ้า,พระอุปคุตเถระเจ้าและหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร อธิษฐานจิตให้ ส่วนองค์ผู้อธิษฐานจิตเดิม ผมไม่แจ้งให้ทราบ เนื่องจากองค์ผู้อธิษฐานจิตใหม่ พลังองค์ผู้อธิษฐานจิตใหม่คลุมพลังองค์ผู้อธิษฐานจิตเดิมครับ

มีพระพิมพ์ 6 พิมพ์ดังนี้


<O</O
<O</O
1.พระสมเด็จวังหน้า เนื้อขาวลงชาด(รักสีแดง) ไม่ใช่เนื้อจูซาอั้ง (สีแดง) ปิดทองร่องชาด จำนวน 20 องค์ มอบพระพิมพ์ 1 องค์ให้กับผู้ร่วมทำบุญ 1,800 บาท

<O</O

2.พระสมเด็จวังหน้า เนื้อสีขาว ปิดทองร่องชาด จำนวน 20 องค์ มอบพระพิมพ์ 1 องค์ให้กับผู้ร่วมทำบุญ 1,500 บาท

<O</O

3.สมเด็จวังหน้า เนื้อปัญจศิริ จำนวน 30 องค์ มอบพระพิมพ์ 1 องค์ให้กับผู้ร่วมทำบุญ 1,300 บาท



<O</O
4.พระพิมพ์พุทธประวัติ เนื้อสีขาว จำนวน 15 องค์ มอบพระพิมพ์ 1 องค์ให้กับผู้ร่วมทำบุญ 1,200 บาท


<O</O
5.พระพิมพ์พุทธประวัติ เนื้อสีขาวแตกลายงา จำนวน 10 องค์ มอบพระพิมพ์ 1 องค์ให้กับผู้ร่วมทำบุญ 1,100 บาท



<O</O
6.พระพิมพ์ปิดตาวังหน้าสองหน้า จำนวน 30 องค์ มอบพระพิมพ์ 1 องค์ให้กับผู้ร่วมทำบุญ 1,000 บาท



เมื่อโอนแล้วแจ้งยอดเงินและชื่อที่อยู่เพื่อจัดส่งไว้ในกระทู้ หรือส่งข้อความส่วนตัวมาที่ผม แล้วผมจะจัดส่งให้ครับ

ยอดคงเหลือพระพิมพ์ ผมจะแจ้งให้ทราบในกระทู้เป็นระยะนะครับ

ขอขอบพระคุณและโมทนาสาธุกับทุกท่านที่เมตตาครับ

 

วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2550
พระพิมพ์ชุดใหม่ที่จะมอบให้กับผู้ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ครับ
บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ



1. พระพิมพ์สมเด็จปัญจสิริพิมพ์จิ๋ว ขนาด 1 x 1.50 ซม จำนวน 10 องค์ เสกโดยหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 800 บาท




2. พระพิมพ์สมเด็จต้นรังคู่ปัญจสิริ ขนาด 1.7 x 2.7 ซม เสกโดยหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
มีจำนวน 10 องค์ มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 800 บาท
<O</O




3. พระพิมพ์อุ้มบาตรปัญจสิริสี่เหลี่ยม ขนาด 2 x 3.5 ซม เสกโดยหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
มีจำนวน 5 องค์ มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 500 บาท
<O</O




4. พระพิมพ์อุ้มบาตรปัญจสิริสามเหลี่ยม ขนาด 2 x 3.5 ซม เสกโดยหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
มีจำนวน 5 องค์ มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 500 บาท
<O</O




5. พระพิมพ์สมเด็จต้นรังคู่เนื้อขาวลงรักแดง ขนาด 2 x 3 ซม เสกโดยหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
มีจำนวน 5 องค์ มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 500 บาท
<O</O




6. พระพิมพ์วัดพลับเนื้อขาว ขนาด 2 x 2.8 ซม เสกโดยหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
มีจำนวน 10 องค์ มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 300 บาท
<O</O




7. พระพิมพ์สมเด็จจิ๋วเนื้อขาวลงรักน้ำเงิน ขนาด 1.7 x 2.4 ซม เสกโดยหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
มีจำนวน 21 องค์ มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 500 บาท
<O</O




8. พระพิมพ์โสณะอุตระเนื้อปัญจสิริ ขนาด 1.8 x 2.8 ซม
มีจำนวน 5 องค์ มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 800 บาท




9. พระพิมพ์สมเด็จจิ๋วไกเซอร์เนื้อปัญจสิริ ขนาด 2 x 3.1 ซม เสกโดยหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
มีจำนวน 15 องค์ มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 500 บาท
<O</O




10. พระพิมพ์สมเด็จสีเขียวก้านมะลิ ขนาด 2.4 x 3.6 ซม เสกโดยสมเด็จโต
มีจำนวน 7 องค์ มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 300 บาท




11. พระพิมพ์สมเด็จสีฟ้าอ่อน ขนาด 2.4 x 3.6 ซม เสกโดยสมเด็จโต
มีจำนวน 3 องค์ มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 300 บาท
<O</O




12. พระพิมพ์หลวงพ่อเงินเนื้อขาว ขนาด 2.9 x 2.5 ซม
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 500 บาท มีจำนวน 10 องค์
<O</O






เมื่อร่วมบุญและโอนเงินแล้ว ขอความกรุณาแจ้งให้ผมทราบด้วย ผมจะเป็นผู้ส่งพระพิมพ์และวัตถุมงคลให้ครับ

<!-- / message --><!-- sig -->

 

จากกระทู้ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ

พระพิมพ์ชุดพิเศษ 3<O</O
<O</O

ได้รับพระเมตตา,พระกรุณา และขอพระบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกุธสันโธ ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อธิษฐานจิตพระพิมพ์ให้ (ส่วนองค์ผู้อธิษฐานจิตพระพิมพ์เดิม ผมขอสงวนสิทธิ์ไม่แจ้งให้ทราบครับ เนื่องจากองค์ผู้อธิษฐานจิตใหม่ พลังองค์ผู้อธิษฐานจิตใหม่คลุมพลังองค์ผู้อธิษฐานจิตเดิมครับ) พลังอิทธิคุณครอบจักรวาล<O</O
<O</O


ท่านใดที่บูชาไปแล้ว ขอให้แยกเก็บจากพระพิมพ์ทั่วๆไป และเก็บไว้ในที่สูง อีกเรื่องคือให้ระวังการปรามาสให้จงหนัก กรรมเร็วและแรงมากครับ<O</O

1.สมเด็จวังหน้า (เนื้อสีแดง)<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท
<O</O
<O</O

2.สมเด็จวังหน้า (เนื้อสีเหลือง)<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท
<O</O

3.สมเด็จวังหน้า (เนื้อสีชมพู)<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท
<O</O
<O</O

4.สมเด็จวังหน้า (เนื้อสีเขียว)<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท
<O</O
<O</O

5.สมเด็จวังหน้า (เนื้อสีน้ำเงิน)<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท
<O</O



6.พระจิตรดา (ด้านบนองค์ซ้าย) (เนื้อกรมท่า)<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 800 บาท
<O</O
<O</O

7.พระจิตรดา (ด้านบนองค์ขวา) (เนื้อกรมท่า)<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 800 บาท
<O</O
<O</O

8.พระพิมพ์ไตรโลกอุดร (เนื้อกรมท่า) ด้านล่างองค์ซ๊าย<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 500 บาท
<O</O

9.สมเด็จวังหน้า (เนื้อสีขาว) ด้านล่างองค์กลางและองค์ขวา<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 400 บาท
<O</O
<O</O



10.สมเด็จเจ้าคุณกรมท่า (รักสมุ รักพม่า สีน้ำเงิน)<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 300 บาท
<O</O



11.สมเด็จเจ้าคุณกรมท่า (รักไทย สีดำ)<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 300 บาท
<O</O
<O</O



12.สมเด็จเจ้าคุณกรมท่า (ชาด รักจีน สีแดง)<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 300 บาท
<O</O



เมื่อโอนแล้วแจ้งยอดเงินและชื่อที่อยู่เพื่อจัดส่งไว้ในกระทู้ หรือส่งข้อความส่วนตัวมาที่ผม แล้วผมจะจัดส่งให้ครับ

ขอขอบพระคุณและโมทนาสาธุกับทุกท่านที่เมตตาครับ

ส่วนยอดคงเหลือพระพิมพ์ ผมจะแจ้งให้ทราบในกระทู้เป็นระยะนะครับ

โมทนาสาธุครับ
<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->

 

ยอดคงเหลือพระพิมพ์และวัตถุมงคลครับ

 

เรียน คุณ สุธิพงษ์

เรียนสอบทราบว่า พระวังหน้า สีต่างๆ (แดง,เขียว เป้นต้น) มีที่มาที่ไปไหมครับ เช่นคนเกิดวันพุทธ ควรใส่สีอะไรเป็นต้น
อนุโมทนาครับ

 

เรื่องสีของพระพิมพ์นั้น เป็นศิลปของการใช้พระเครื่องอย่างหนึ่ง ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับด้านโหราศาสตร์ด้วยครับ ผมขออนุญาตนำเรื่องศิลปการใช้พระเครื่องไปลงที่กระทู้พระวังหน้านะครับ ลงในกระทู้นี้จะยาวเกินครับ

 

เรียน คุณสุทธิพงษ์
ขอจอง พระพิมพ์พิเศษชุด 2 ครับ
1.พระสมเด็จสีเขียวก้านมะลิ 1 องค์
2.พระสมเด็จสีฟ้าอ่อน 1 องค์
จะทำการโอนให้วันศุกร์ครับ ขอขอบพระคุณครับ

 

พระสมเด็จทั้งสองเนื้อ ขณะนี้หมดแล้วครับ ต้องขอโทษด้วย

โมทนาสาธุครับ

.

 

เรียนท่านผู้ร่วมบุญทุกๆท่านครับ

ยอดคงเหลือของพระพิมพ์นั้น ผมลงให้ทราบในตารางรูปครับ ก็ขอความกรุณาดูยอดคงเหลือในตารางนะครับ

ขอบคุณและโมทนาสาธุครับ

.