๙๙๙ รวมพระเครื่อง พุทธคุณเด่น สวยๆ ให้บูชาครับ ๙๙๙

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย น.จุลรัตน์, 18 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. น.จุลรัตน์

    น.จุลรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +761
    รวมพระเครื่อง พุทธคุณเด่น สวยๆ ให้บูชาครับ รับประกันแท้ 100% ครับ

    +++ ค่าจัดส่ง 50 บาท/ครั้ง ทั่วประเทศครับ (EMS)
    +++ กรุณาโอนเงินภายใน 7 วันหลังจากจองนะครับ โอนช้ากว่านั้นถือว่าสละสิทธิ์ครับ
    +++ โอนแล้วแจ้งรายละเอียดการโอนและที่อยู่สำหรับจัดส่งมาทางกระทู้หรือ pm ด้วยนะครับ จะจัดส่งให้ในวันรุ่งขึ้น หรืออย่างช้าสุดไม่เกินสองวันครับ

    เลขที่บัญชี 1622289117
    ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาเดอะมอลล์ บางแค
    ชื่อบัญชี นายนฤนาถ จุลรัตน์
    บัญชี ออมทรัพย์
    เบอร์โทรติดต่อ 084-905-1999 (ถ้าไม่รับอาจติดงานอยู่ จะโทรกลับครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2012
  2. น.จุลรัตน์

    น.จุลรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +761
    รายการที่ 1 เหรียญพระสิวลีลังกาวงศ์ (ขนาด 1.5 x 2 ซ.ม.) เนื้อโลหะชุบทองขัดเงาบางส่วน
    “พระสีวลี ลังกาวงศ์” ถือเป็นยอดวัตถุมงคลด้าน “โชคลาภ” ในยุคปัจจุบันที่ได้รับการยอมรับจากพุทธศาสนิกชนทั้งหลายยามนี้ ที่อยากได้ของดีรุ่นนี้ไว้บูชา “ติดกาย-คุ้มครองใจ” ด้วยวิธีการสร้างในรูปแบบของพุทธศิลป์อันโดดเด่นไม่เหมือนใคร ของเกจิดังย่านเยาวราชอย่าง “เจ้าคุณธงชัย” หรือพระเทพภาวนาวิกรม แห่งวัดไตรมิตรฯ แถมเรื่องของมวลสารศักดิ์สิทธิ์ในการนำมาผสม กอปรกับพิธีการปลุกเสกอย่างเอกอุเข้มขลัง
    “พระสีวลี” ตามตำนานเป็นหนึ่งในพระอรหันต์สมัยพุทธกาล มีบารมีมาก คือ เป็นผู้มีโภคทรัพย์อุดมไปด้วยโชคลาภ “กินไม่หมด จนไม่เป็น” สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงยกย่องพระสิวลีว่า “...เป็นเลิศทางโชคลาภ ไม่ว่าพระสีวลีจะเดินทางไปแห่งหนตำบลใด มักจะมีเทวดาคอยติดตามดูแลปรนนิบัติรับใช้อยู่ตลอดเวลา”
    พระสีวลี เป็นโอรสของพระนางสุปปวาสา ซึ่งเป็นพระราชธิดาของพระเจ้ากรุงโกลิยะ บิดาของท่านคือเจ้ามหาลิลิจฉวี ตั้งแต่ท่านถือปฏิสนธิในครรภ์ได้เกิดลาภสักการะแก่พระมารดาเป็นอันมาก มีคนเอาเครื่องบรรณาการถึง 500 อย่าง มาถวายทุกเช้าทุกเย็น จนเป็นที่เลื่องลือมากในกรุงโกลิยะ คนทั้งหลายผู้หวังในโชคลาภก็นำเอาพันธุ์ข้าวมาใส่กระเช้ามาให้พระนางจับ ปรากฏว่าข้าวนั้นเมล็ดหนึ่งๆ ได้แตกงอกออกไปเป็น 100 เมล็ด 1,000 เมล็ด เวลาหว่านลงไปในนาไร่หนึ่งๆ ก็ได้ข้าว 50-60 เกวียน เวลาขนข้าวขึ้นยุ้งก็ให้พระนางไปจับที่ประตูยุ้ง ข้าวในยุ้งนั้นก็ขนออกมาไปได้ไม่รู้จักหมด แม้กระทั่งข้าวที่อยู่ในหม้อก็เช่นกัน เมื่อพระนางจับหม้อใบใด จะมีคนตักไปกินเท่าไรก็ไม่รู้จักหมด
    นี่คือ เรื่องราวประวัติของ “พระสีวลี” อันเป็นที่มาและความหมายในการนำมาสร้างเป็นวัตถุมงคล “พระสีวลี ลังกาวงศ์” นั่นเอง หนึ่งในพระบูชามหาเศรษฐี บูชาแล้วรวยเร็ว ซึ่งได้ดลบันดาลลาภผล ความมั่งมีศรีสุข และคุ้มครองป้องกันภัยให้แก่ผู้สักการบูชาเสมอมา บรรพชนคนรุ่นเก่าจึงนิยมสร้าง พระบูชามหาเศรษฐี สืบต่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน.
    พระคาถาบูชาพระสีวลี
    สีวะลี จะ มะหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต
    โส ระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ เม สัพพะทา ฯ
    สีวะลี จะ มะหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต
    โส ระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ เม สัพพะทา ฯ
    สีวะลีเถรัสสะ เอตัง คุณัง โสตถิลาภัง ภะวันตุ เมฯ

    ให้บูชา 550 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 021.JPG
      021.JPG
      ขนาดไฟล์:
      471 KB
      เปิดดู:
      90
    • 022.JPG
      022.JPG
      ขนาดไฟล์:
      469.8 KB
      เปิดดู:
      90
  3. น.จุลรัตน์

    น.จุลรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +761
    รายการที่ 2 พระสีวลี ปางนั่งรับทรัพย์ เนื้อผง เจ้าคุณธงชัย
    พระสีวลีลังกาวงศ์ ปางนั่งรับทรัพย์ เจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตร ออกเมื่อปลายปี พ.ศ.2546-ต้นปี 2547 เพื่อจัดหาทุนถวายบาตรพระให้พระสงฆ์ในประเทศศรีลังกาจนเป็นผลสำเร็จได้จำนวนมากกว่าที่ขอมา องค์นี้เป็นพระเนื้อผงรูปพระสีวลี สำหรับเสริมโชคเสริมดวงชะตาบารมี กำลังนิยมเสาะหากันมากครับ พระมีขนาด 1.6 X 2.4 ซ.ม.
    ให้บูชา 400 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 031.JPG
      031.JPG
      ขนาดไฟล์:
      324.3 KB
      เปิดดู:
      102
    • 032.JPG
      032.JPG
      ขนาดไฟล์:
      349.7 KB
      เปิดดู:
      61
  4. น.จุลรัตน์

    น.จุลรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +761
    รายการที่ 3 พระสมเด็จปรกโพธิ์ พลิกแผ่นดิน หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน
    พุทธคุณกลับร้ายกลายเป็นดี สวยๆ ครับ
    ให้บูชา 600 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 001.JPG
      001.JPG
      ขนาดไฟล์:
      455.2 KB
      เปิดดู:
      100
    • 002.JPG
      002.JPG
      ขนาดไฟล์:
      495.7 KB
      เปิดดู:
      80
  5. น.จุลรัตน์

    น.จุลรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +761
    รายการที่ 4 เหรียญพระอาจารย์ฝั้น รุ่นร่มโพธิ์ทอง ปี2519 เหรียญกลม เนื้อทองแดง
    พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อ. พรรณานิคม จ. สกลนคร
    พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2442 ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 9 ปีกุน ที่บ้านม่วงไข่ ต.พรรณนา อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เป็นบุตรของ เจ้าไชยกุมมาร (เม้า) ในตระกูล "สุวรรณรงค์" ซึ่งเป็นตระกูลเจ้าเมืองพรรณานิคมมาก่อน มารดาของพระอาจารย์ฝั้นชื่อ "นุ้ย" บุตรของ "หลวงประชานุรักษ์" มีพี่น้องทั้งหมด 8 คน พระอาจารย์ฝั้นเป็นบุตรคนที่ 4 สมัยเป็นเด็กท่านเป็นคนอ่อนโยน เรียบร้อยนิสัยใจคอเยือกเย็น มีความขยันหมั่นเพียร และสู้งานทุกอย่าง ช่วยเหลือบิดามารดาเป็นอย่างดี การศึกษาขั้นต้น ท่านได้เรียนหนังสือที่วัดโพธิชัย ในบ้านม่วงไข่นั่นเอง ท่านเรียนหนังสือเก่งและแตกฉานมาก ต่อมาได้ไปอยู่กับนายเขียน อุปพงศ์ ผู้เป็นพี่เขย ซึ่งเป็นปลัดเมืองอยู่ที่ขอนแก่นได้เรียนหนังสือต่อจนจบการศึกษา มีความคิดว่าจะเข้ารับราชการ แต่ได้เปลี่ยนใจเสียก่อนเพราะในระหว่างที่อยู่กับพี่เขยนั้น พี่เขยได้เคยใช้ให้เอาปิ่นโตไปส่งให้นักโทษคนหนึ่งคือพระยาณรงค์ ซึ่งเป็นถึงเจ้าเมืองขอนแก่น ต้องโทษฐานฆ่าคนตาย นอกจากนี้ก็มีข้าราชการใหญ่อีกหลายคนที่ต้องติดคุกอยู่ด้วย ต่อมาเมื่อพี่เขยถูกย้ายไปจังหวัดเลย ท่านก็ไปเยี่ยม ก็ไปพบว่าพี่เขยของท่านซึ่งเป็นถึงปลัดก็เกิดไปติดคุกอยู่ที่จังหวัดเลย ในข้อหาฆ่าคนตายเหมือนกัน ท่านได้ประสบเหตุการณ์อย่างนี้เข้าก็สลดหดหู่ใจไม่ได้ คนใหญ่คนโตยังต้องติดคุกเช่นนี้จึงหมดอาลัยที่จะเข้ารับราชการตามความคิดฝันมาก่อน จากนั้นท่านก็เดินทางกลับมาพรรณานิคมแล้ว บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดโพนทอง บ้านบะทอง ในระหว่างเป็นสามเณรท่านได้เอาใจใส่ศึกษาพระธรรม และเคร่งครัดในพระธรรมวินัยเป็นอย่างยิ่ง พออายุครบ 20 ปี ก็ได้อุปสมบทที่วัดสิทธิบังคม บ้านไร่ อ.พรรณานิคม โดยมี พระครูป้อง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์สัง กับพระอาจารย์นวล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ บวชแล้วได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมอย่างเอาจริงเอาจัง ขณะเดียวกันพระครูป้องก็ได้สอนกัมมัฎฐานให้ด้วย พอออกพรรษาในปีนั้นท่านได้ออกเดินธุดงค์ติดตาม ท่านพระครูธรรม เจ้าอาวาสวัดโพนทอง เป็นการฝึกหัดกัมมัฏฐานไปด้วย พ.ศ. 2463 เดือน 3 พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ได้มาที่วัดบ้านม่วงไข่ ได้แสดงธรรมเทศนาให้ชาวบ้านฟัง พระอาจารย์ฝั้นก็ได้ไปฟังอยู่ด้วย เกิดความประทับใจในพระธรรมที่พระอาจารย์มั่นแสดง เกิดศรัทธาเลื่อมใสในพระอาจารย์มั่นเป็นอย่างที่สุด จึงขอมอบตัวเป็นศิษย์ของพระอาจารย์มั่นโดยทันที โดยมีท่านอาญาครูดี กับพระอาจารย์กู่ รวมอยู่ด้วย แต่พระอาจารย์มั่นไม่ได้รับทั้ง 3 ร่วมเดินธุดงค์ไปด้วย เพราะทั้ง 3 ยังไม่พร้อมในเครื่องบริขาร และยังไม่มั่นใจว่าทั้ง 3 จะเอาจริงๆ จึงบอกให้ติดตามไปหาภายหลัง พระอาจารย์มั่นจึงเดินธุดงค์ไปก่อน หลังจากที่ได้เตรียมเครื่องบริขารเรียบร้อยแล้ว ทั้ง 3 ก็ออกเดินติดตามพระอาจารย์มั่นไปได้ไปพบกับพระอาจารย์ดุลย์ ที่วัดโพธิ์ชัย บ้านม่วงไข่ ซึ่งก็กำลังติดตามหาพระอาจารย์มั่นเช่นกัน พระอาจารย์ฝั้นจึงได้ขอศึกษาธรรมเบื้องต้นจากพระอาจารย์ดุลย์ซึ่งได้เป็นศิษย์ของพระอาจารย์มั่นมาก่อนแล้ว จากนั้นทั้ง 4 จึงได้ออกติดตามพระอาจารย์มั่นกันต่อไป และได้ไปพบกับพระอาจารย์มั่น ที่บ้านตาลโกน อ. สว่างแดนดิน ได้ศึกษาธรรมกับพระอาจารย์มั่นเป็นครั้งแรกในวันนั้น เป็นเวลา 3 วัน หลักจากนั้นพระอาจารย์ฝั้นก็ได้ไปพบ พระอาจารย์เสาร์ กันตสีลเกระ ที่บ้านหนองดินดำซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการเผยแพร่พระธรรมร่วมกับพระอาจารย์มั่นมาตลอด พระอาจารย์ฝั้นได้รับการอบรมจากพระอาจารย์เสาร์เพิ่มเติม จากนั้นก็ได้ไปกราบ พระอาจารย์สิ่งห์ขันตยาคมโม ที่บ้านหนองวาย ได้รับการอบรมธรรมจากรพระอาจารย์สิงห์ กำลังสำคัญของพระอาจารย์มั่นท่านหนึ่ง หลังจากนั้นมา พระอาจารย์ฝั้นก็ได้มีโอกาสรับการอบรมธรรมจากพระอาจารย์มั่นเป็นประจำเสมอมา ได้ฝึกกัมมัฏฐานจนพลังจิตแก่กล้าขึ้นเรื่อยๆ และมั่นคงแน่วแน่ไม่มีอะไรเป็นอุปสรรค ในที่สุดท่านจึงได้ตัดสินใจทำการ ญัตติเป็นพระธรรมยุต เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2468 ณ วัดโพธิ์สมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมี ท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์รถ เป็นพระกรรมวาจารย์พระอาจารย์มุก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลักจากทำการญัตติกรรมแล้ว พระอาจารย์ฝั้นก็ได้เดินทางไปจำพรรษาอยู่กับพระอาจารย์มั่นที่วัดอรัญวาสี อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ร่วมกับพระอาจารย์อื่นๆ อีกหลายท่าน พอออกพรรษาพระอาจารย์มั่นก็ได้แบ่งสายกันออกเดินธุดงค์พระอาจารย์ฝั้นได้มุ่งหน้าไปทางบ้านนาบง แล้วเลียบไปกับฝั่งโขง เข้าศรีเชียงใหม่ หินหมากเป้ง บ้านผักบุ้ง พระพุทธบาทบัวบก อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี แล้วจึงกลับมายังวัดอรัญวาสี อ.ท่าบ่อ ทราบว่าพระอาจารย์มั่นไม่อยู่ ได้ออกเดินธุดงค์ไปทางวาริชภูมิ จ.สกลนคร พระอาจารย์ฝั้นก็ได้ออกติดตามไป เพราะมีความตั้งใจว่าพรรษานี้จะอยู่กับพระอาจารย์มั่นอีก จึงไปพบพระอาจารย์มั่นที่บ้านสามผง อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
    ในปี พ.ศ. 2469 พระอาจารย์ฝั้นพร้อมกับพระภิกษุอื่นๆ ทำการบัตติกรรมในโบสถ์น้ำอีกครั้งหนึ่ง ตามพระธรรมวินัย โดย ท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ฝั้นได้ไปจำพรรษาที่บ้านดอนแดงคอกช้าง อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ตามหน้าที่ที่พระอาจารย์มั่นได้มอบหมายให้ หลังจากออกพรรษาแล้วก็ได้ร่วมกันออกเผยแพร่ธรรม โดยมุ่งหน้าไปทางจังหวัดอุบลราชธานี โดยได้รับเอาโยมมารดาของพระอาจารย์มั่น(นางจันทร์)ไปอุบลราชธานีด้วย ในปีนี้พระอาจารย์ฝั้นก็ได้จำพรรษาที่บ้านบ่อชะแนง อ. หัวตะพาน จ.อุบลราชธานีช่วยพระอาจารย์กู่เทศนาสั่งสอนญาติโยม จนชาวบ้านเกิดศรัทธาเลื่อมใสแนวปฏิบัติของพระกัมมัฎฐานนี้มาก โดยปกติพระกัมมัฎฐานในสายนี้ได้รับการต่อต้านจากผู้ไม่เข้าใจในแนวปฏิบัติเป็นอย่างยิ่ง มีการขับไล่ไสส่ง หาว่าเป็นพระเถื่อนก็มี แต่ในที่สุดเมื่อรู้ความจริงก็ต่างยอมรับนับถือและเลื่อมใสไปตามๆกัน
    พ.ศ. 2471 อันเป็นพรรษาที่ 4 ของพระอาจารย์ฝั้น ท่านได้จำพรรษาที่หนองน่องบ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.นครพนม ออกพรรษาแล้วก็ได้กลับมาที่อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานีอีกครั้งร่วมกับพระอาจารย์สิงห์ พระอาจารย์มหาปิ่น ว่าจะไป จ.ขอนแก่น
    เพื่อช่วยท่านเจ้าคุณพระพิศาล เจ้าคณะธรรมยุตขอนแก่น ในการเดินทางครั้งนี้พระอาจารย์ฝั้นได้แวะเยี่ยมญาติโยมที่บ้านพรรณานิคมด้วย แล้วจึงมุ่งหน้าไปยังจังหวัดขอนแก่น พบกับพระอาจารย์สิงห์ตามที่นัดกันไว้ที่วัดเหล่าเงา (วัดวิเวกธรรม) ต.โนนทัน อ.พระลับ มีพระในคณะประมาณ 70 รูป ได้แบ่งกำลังกันออกเผยธรรม จัดตั้งสำนักสงฆ์แบบวัดป่าขึ้นในจังหวัดขอนแก่นหลายแห่ง สอบชาวบ้านให้เลิกกลัวผี และยึดเอาไตรสรณคมน์เป็นที่พึ่ง ในพรรษาปี 2472 นี้ พระอาจารย์ฝั้นจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าบ้านผือ ต. โนนทัน ได้ขจัดปัดเป่าความทุกข์ร้อนของชาวบ้านอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของภูติฝีปีศาจ ที่ชาวบ้านกลัวกันมาก พระอาจารย์ฝั้นก็ได้สอนธรรมให้จนเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านมาก พ.ศ. 2473 ก็ได้จำพรรษาที่บ้านผือ พอออกพรรษาแล้วก็ธุดงค์ไปหนองหาน จ.อุดรธานี พ.ศ. 2474 (พรรษาที่ 7 ) พระอาจารย์ฝั้นได้จำพรรษาที่ภูระงำ อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ในระหว่างพรรษานี้พระอาจารย์ฝั้นมีอาการอาพาธ ได้รับความทุกข์ทรมานมาก จึงตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะนั่งภาวนาทำความเพียรไปจนมรณภาพ ท่านนั่งภาวนาเป็นเวลานานมากกว่า 15 ชั่วโมงติดต่อกัน และเมื่อถอนจิตออกจากสมาธิแล้วก็รู้สึกตัวเขา อาการไม่สบายก็หายไป ว่ากันว่าในตอนนี้ท่านได้สำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว พอออกพรรษาพระอาจารย์ฝั้นก็ได้ออกธุดงค์ไปพบพระอาจารย์สิงห์ที่ อ.น้ำพองได้รับการขอร้องจากสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสโส) เจ้าคณะมณฑลอีสาน ให้นำคณะกัมมัฎฐานไปเผยแพร่ธรรมที่ จ.นครราชสีมา พระอาจารย์ฝั้นก็ไปในคณะนี้ด้วย ได้พักที่วัดสุทธิจินดา อ.เมือง นครราชสีมา ในโอกาสนี้ได้มีการมอบที่ดินสำหรับสร้างวัดป่าสาลวันแก่พระกัมมัฏฐานนี้ด้วย หลังจากนั้น พระอาจารย์ฝั้นก็ได้เดินทางเข้ามากรุงเทพฯ เป็นครั้งแรกโดยมากับพระอาจารย์สิงห์ และพระมหาปิ่น เพื่อเยี่ยมอาการป่วยของท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) วัดบรมนิวาส พักอยู่ได้ 3 เดือนพระอาจารย์ฝั้นก็ได้เดินทางกลับไปยังนครราชสีมาจำพรรษาที่วัดป่าศรัทธารวม ในพรรษาที่ 8 ของท่าน (พ.ศ. 2475) จากนั้นเป็นต้นมาพระอาจารย์ฝั้นได้จำพรรษาอยู่ในวัดในเขตจังหวัดนครราชสีมา โดยตลอดมา คือพรรษาที่ 9-10 (พ.ศ.2476-2477) ท่านได้สร้างสำนักสงฆ์ขึ้นที่ ต.พลสงครามในป่าช้า แล้วจำพรรษาที่นั่นและสร้างสำนักสงฆ์ขึ้นที่ปักธงไชยอีกแห่งหนึ่ง ในพรรษาที่ 10 ท่านได้จำพรรษาที่โนนสูง พอออกพรรษาแล้วก็ได้เดินธุดงค์ไปทางดงพญาเย็น ได้ผจญกับสิ่งแปลกๆ ต่างๆ นานา ปี พ.ศ. 2479 พระอาจารย์ฝั้นได้ออกเดินทางจากนครราชสีมามุ่งหน้าไปยังเชียงใหม่พร้อมกับพระอาจารย์อ่อน เพื่อจะติดตามมหาพระอาจารย์มั่น ไปพบพระอาจารย์มั่นที่วัดเจดีย์หลวงและเดินทางกลับนครราชสีมาในปีรุ่งขึ้น (2480) และได้จำพรรษาอยู่ที่นครราชสีมาตลอดมา หลังจากออกพรรษาในปี พ.ศ. 2486 พระอาจารย์ฝั้นได้ธุดงค์ออกจากวัดป่าศรัทธารวมไปเขาพนมรุ้ง อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ แล้วเดินทางต่อไปยังจังหวัดสุรินทร์ พอเข้าพรรษาปี พ.ศ. 2487 ก็ได้ไปจำพรรษาที่วัดบูรพา จ.อุบลราชธานี เพื่อช่วยรักษาพยาบาลสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสโส) ด้วยธรรมโอสถ จนสมเด็จฯ หายเป็นปกติ ได้รับคำชมเชยเป็นอย่างยิ่ง ในขณะเดียวกันก็ได้พยาบาลรักษาพระอาจารย์มหาปิ่นซึ่งอาพาธด้วยโรคปอดด้วย จนพระอาจารย์มหาปิ่นหายเป็นปกติเช่นกัน ในระยะนี้เป็นระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เครื่องบินของฝ่ายสัมพันธมิตรได้บินมาทิ้งระเบิดตามจุดต่างๆ ที่มีทหารญี่ปุ่นอยู่ ในจังหวัดอุบลราชธานี พระอาจารย์ฝั้นก็สามารถล่วงรู้ได้ว่า เวลาใดที่เครื่องบินจะมาทิ้งระเบิด ก็จะบอกให้พระเณรชาวบ้านรีบหลบภัย ยังความแปลกใจเป็นอย่างยิ่งว่า เหตุใดพระอาจารย์ฝั้นจึงมีความสามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้? ออกพรรษาปี 2487 พระอาจารย์ฝั้นได้เดินทางกลับสกลนคร ระหว่างทางได้พักที่วัดป่าเกาะแก้ว อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ได้กราบนมัสการพระธาตุพนมด้วย ออกจากธาตุพนมมุ่งหน้าไปยังนาแก พักที่วัดนาแก แล้วมาพักที่วัดป่านาโสก จากนั้นก็ออกเดินทางไปยังวัดป่าบ้านนามน อ.เมือง จ.สกลนคร แล้วไปยังวัดป่าสุทธวาส พักอยู่ 3 คืนแล้วจึงเดินทางต่อไปยังอำเภอพรรณานิคม ถึงบ้านบะทอง อันเป็นบ้านเกิดของท่าน พักที่วัดบ้านบะทอง 1 คืน รุ่งขึ้นพระอาจารย์ฝั้นก็ไปพักที่ป่าช้าใกล้ๆ กับหนองแวง ต่อมาสถานที่แห่งนี้ก็ได้กลายเป็น "วัดป่าอุดมสมพร" จนบัดนี้ ปี พ.ศ. 2488 พระอาจารย์ฝั้นจำพรรษาที่วัดป่าธาตุนาเวง สกลนคร ได้บูรณะจนดีขึ้น และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น"วัดป่าภูธรพิทักษ์" อันเป็นวัดหนึ่งที่พระอาจารย์ฝั้นเป็นเจ้าอาวาสด้วย ท่านได้จำพรรษาต่อมาหลายพรรษา ได้ถือโอกาสไปปรนนิบัติรับใช้พระอาจารย์มั่นตามโอกาส ตามวัดป่าที่พระอาจารย์มั่นไปพำนักอยู่ในละแวกนั้น ในระหว่างพรรษา ปี 2492 พระอาจารย์มั่นได้อาพาธ คณะศิษย์ได้นำท่านมารักษาที่วัดป่าสุทธาวาสในตัวเมืองสกลนคร พระอาจารย์ฝั้นก็ได้ไปคอยดูแลพระอาจารย์มั่นอยู่ด้วย พระอาจารย์มั่นได้มรณภาพในปีนี้เอง และได้ทำการประชุมเพลิงศพพระอาจารย์มั่นเรียบร้อยไปในวันที่ 31 ม.ค. 2493 หลังจากเสร็จงานศพพระอาจารย์มั่นแล้ว พระอาจารย์ฝั้น ได้เดินทางไปแสวงหาความวิเวกทางจังหวัดนครพนมอีก โดยมีจุดมั่นอยู่บนภูวัว พรรษาอยู่ที่วัดป่าภูธรพิทักษ์ ออกพรรษาแล้วได้เดินทางจากสกลนครมาอุดรธานี แล้วมากรุงเทพฯ อีกครั้ง โดยได้เดินทางต่อไปยังจังหวัดจันทบุรี พร้อมกับพระอาจารย์กงมา โดย พระอาจารย์วิริยังค์ เป็นผู้นิมนต์มาพักที่วัดดำรงธรรม อ.ขลุง จ.จัทนบุรี วัดเขาหนองชิ่ม อ.แหลมสิงห์ และวัดอื่นๆ อีกหลายวัด เป็นเวลา 3 เดือนจึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยทางเรือ ถึงกรุงเทพฯ แล้วได้พักที่วัดนรนารถฯ เทเวศ - วัดอโศการาม สมุทรปราการ พระอาจารย์ลี ได้พาพระอาจารย์ฝั้นไปลพบุรี และนมัสการพระพุทธบาทสระบุรีด้วย แล้วจึงกลับสกลนคร และนับตั้งแต่นั้นมาพระอาจารย์ฝั้นก็ได้เดินทางมากรุงเทพฯ บ่อยครั้ง ปี พ.ศ. 2495 พระอาจารย์ฝั้นได้ไปสร้างสถานวิเวกไว้ที่ถ้ำเป็ด อ.ส่องดาว ใกล้กับวัดถ้ำอภัยดำรงธรรมของพระอาจารย์วัด อุตตโม ปี พ.ศ. 2496 ได้มิมิตเห็นถ้ำอยู่แห่งหนึ่งบนภูพาน พอออกพรรษาท่านก็ได้เดินทางไปหาสถานที่แห่งนั้น และก็ได้พบตามที่ได้นิมิตไว้ สถานที่แห่งนั้นก็คือ "ถ้ำขาม" บนภูพานนั่นเอง พระอาจารย์ฝั้น ได้ขึ้นไปพักบนถ้ำขามและสร้างเป็น "วัดถ้ำขาม" ในเวลาต่อมา โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2497 เป็นต้นมา ปัจจุบันวัดถ้ำขามเป็นสถานที่วิเวกอันเพรียบพร้อมไปด้วยทุกสิ่งอย่างท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามอย่างยิ่ง นับตั้งแต่นั้นมา พระอาจารย์ฝั้น ก็มีภารกิจที่จะต้องดูอยู่ด้วยกัน 3 วัด คือวัดป่าอุดมสมพร วัดป่าภูธรพิทักษ์ และวัดถ้ำขาม โดยท่านได้ไปๆ มาๆ ทั้ง 3 วัดนี้เป็นประจำ ได้ปฏิบัติศาสนกิจด้วยความมุ่งมั่นและจริงจัง อบรมศิษย์ด้วยความเอาใจใส่ เมตตาธรรมของท่านนั้นกว้างใหญ่ไพศาล แผ่ถึงทั่วทุกคนที่ไปพบกราบท่าน พระอาจารย์ฝั้น ได้ตรากตรำงานหนักมาตลอดชีวิตของท่าน จึงเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสแก่ผู้เคยพบเห็นท่านเสมอ
    พระอาจารย์ฝั้น ได้สร้างสรรค์ถาวรวัตถุไว้มาก ไม่ใช่เพียงแต่ในด้านศาสนสถานอย่างเดียวเท่านั้น ในด้านสังคมก็ได้ช่วยสร้างไว้มาก อย่างเช่นตึกสงฆ์อาพาธของโรงพยาบาลสกลนครหรือ โรงพยาบาลพรรณานิคม ที่ได้ใช้ชื่อของท่านเป็นชื่อโรงพยาบาลด้วย ก็สำเร็จลุล่วงด้วยดี ก็ด้วยบารมีของท่าน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถพร้อมทั้งทูลกระหม่อมเจ้าฟ้าทุกพระองค์ ก็ได้เคยเสด็จฯ ไปนมัสการพระอาจารย์ฝั้นอยู่เสมอได้ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับพระอาจารย์ฝั้นอย่างใกล้ชิด ทรงสนทนาธรรมตรัสถามข้อสงสัยด้วยความสนพระทัยอย่างยิ่ง เมื่อโอกาสใดที่พระอาจารย์ฝั้นเดินทางมากรุงเทพฯ ล้นเกล้าฯ ทั้งสองพระองค์ก็เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมพระอาจารย์ฝั้นถึงวัดที่พระอาจารย์ฝั้นมาพักทุกครั้ง เดือนกันยายน 2519 พระอาจารย์ฝั้น ได้เกิดอาพาธ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจังหวัดสกลนคร แต่อาการไม่ดีขึ้นจึงได้นิมนต์ท่านเข้าการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพฯ โดยอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รักษาอยู่ระยะหนึ่งท่านก็ขอกลับวัดป่าอุดมสมพร สกลนครอาการบางอย่างก็หายเป็นปกติ แต่ก็ได้มีโรคอื่นแทรกซ้อนมา จนกระทั่งเมื่อเดือนธันวาคม 2519 อาการของโรคหัวใจของท่านก็กำเริบ วันที่ 27 ธ.ค.19 พระอาจารย์ฝั้นเกิดอาการช็อค ทางคณะแพทย์ได้นิมนต์ให้ท่านเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสกลนคร แต่ท่านไม่ยอมไป คณะแพทย์หลวงได้ทราบข่าวจึงได้ขอนิมนต์ท่านให้เข้ารับการรักษาที่กรุงเทพฯ ท่านก็ไม่ยอมเช่นกัน ยังคงพักรักษาอยู่แต่ที่วัดป่าอุดมสมพรตลอดมา โดยมีคณะแพทย์หมุนเวียนกันไปเผ้าอาการตลอดเวลา จนกระทั่งถึง วันที่ 4 มกราคม 2520 เวลา 19.50 น. พระอาจารย์ฝั้นก็ได้ละขันธ์ธาตุไปด้วยอาการสงบ ข่าวมรณภาพของพระอาจารย์ฝั้นได้แพร่หลายออกไปอย่างรวดเร็ว สาธุชนผู้มีความเคารพในตัวท่านได้หลั่งไหลไปคารวะศพท่านที่วัดอย่างเนืองแน่น ต่างอาลัยอาวรณ์ในพระอาจารย์ฝั้นเป็นอย่างมาก เพราะท่านเป็นที่รวมแห่งจิตใจของศิษย์ทุกหมู่เหล่าอย่างแท้จริง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงทราบข่าวก็ได้เสด็จฯ ไปยังวัดป่าอุดมสมพร เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 20 ทรงสรงน้ำศพและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ บำเพ็ญพระราชกุศล 7 วัน พระราชทานศพ พระราชทานหีบทองทึบประกอบศพด้วย ศพของพระอาจารย์ฝั้นได้ตั้งบำเพ็ญกุศลจากวันนั้นจนถึงบัดนี้

    ให้บูชา 4,000 บาท

    [​IMG]

    [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 011.JPG
      011.JPG
      ขนาดไฟล์:
      492.7 KB
      เปิดดู:
      869
    • 012.JPG
      012.JPG
      ขนาดไฟล์:
      451.2 KB
      เปิดดู:
      862
  6. น.จุลรัตน์

    น.จุลรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +761
    รายการที่ 5 พระผงไพรีพินาศ 5 รอบ วัดบวรนิเวศ ปี 2530
    พระผงไพรีพินาศ หลัง ภปร. จัดสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 5 รอบ 60 พรรษา จัดสร้างโดยคณะสงฆ์วัดบวรนิเวศวิหาร โดยมี สมเด็จพระญาณสังวรฯ ทรงเป็นองค์ประธานจัดสร้าง และได้เข้าพิธีพุทธาภิเษกพร้อมพระกริ่งปวเรศรุ่นดัง เมื่อปี 2530 โดยได้ทูลเกล้าถวายแล้ว ทรงประทานแจกจ่ายให้กับประชาชนที่มาเข้าเฝ้าด้วยพระองค์เอง เป็นจำนวนมากมายหลายรอบที่วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2530
    <!-- google_ad_section_end -->ให้บูชา 500 บาท มี 5 องค์นะครับ


    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 091.JPG
      091.JPG
      ขนาดไฟล์:
      407.8 KB
      เปิดดู:
      856
    • 092.JPG
      092.JPG
      ขนาดไฟล์:
      426.8 KB
      เปิดดู:
      845
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2012
  7. น.จุลรัตน์

    น.จุลรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +761
    รายการที่ 6 พระผงไพรีพินาศ
    วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2546
    <!-- google_ad_section_end -->ให้บูชา 200 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 081.JPG
      081.JPG
      ขนาดไฟล์:
      435.4 KB
      เปิดดู:
      77
    • 082.JPG
      082.JPG
      ขนาดไฟล์:
      423.1 KB
      เปิดดู:
      71
  8. น.จุลรัตน์

    น.จุลรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +761
    รายการที่ 7 หลวงพ่อโสธร พระผงกระเบื้องหลังคาโบสถ์
    <!-- google_ad_section_end -->ให้บูชา 300 บาท

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 061.JPG
      061.JPG
      ขนาดไฟล์:
      634.8 KB
      เปิดดู:
      856
  9. น.จุลรัตน์

    น.จุลรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +761
    รายการที่ 8 หลวงพ่อวัดไร่ขิง พิมพ์เล็ก
    <!-- google_ad_section_end -->
    ให้บูชา 300 บาท


    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 071.JPG
      071.JPG
      ขนาดไฟล์:
      333.7 KB
      เปิดดู:
      807
    • 072.JPG
      072.JPG
      ขนาดไฟล์:
      334.6 KB
      เปิดดู:
      817
  10. น.จุลรัตน์

    น.จุลรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +761
    รายการที่ 9 พระสมเด็จหลวงพ่อปลื้ม ครบ 7 รอบ ปี 2534
    วัดสวนหงส์ บางปลาม้า สุพรรณบุรี

    <!-- google_ad_section_end -->ให้บูชา 300 บาท<!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 051.JPG
      051.JPG
      ขนาดไฟล์:
      310.1 KB
      เปิดดู:
      67
    • 052.JPG
      052.JPG
      ขนาดไฟล์:
      402.3 KB
      เปิดดู:
      78
  11. น.จุลรัตน์

    น.จุลรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +761
    รายการที่ 10 พระกริ่งหลวงพ่อพุทธมงคลนิมิตร
    วัดประชุมราษฎร์ ปทุมธานี
    <!-- google_ad_section_end -->ให้บูชา 300 บาท


    [​IMG]<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 041.JPG
      041.JPG
      ขนาดไฟล์:
      366.1 KB
      เปิดดู:
      844
    • 042.JPG
      042.JPG
      ขนาดไฟล์:
      393.4 KB
      เปิดดู:
      72
    • 043.JPG
      043.JPG
      ขนาดไฟล์:
      302.6 KB
      เปิดดู:
      69
  12. น.จุลรัตน์

    น.จุลรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +761
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. น.จุลรัตน์

    น.จุลรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +761
    "ธรรมะแปดหมื่นสี่พันไม่ใช่อะไร รวมแล้วได้แก่พระสูตร คือ ลมหายใจเข้า พระวินัย คือ ลมหายใจออก พระปรมัตถ์ผู้รู้ที่อยู่ข้างใน"
    วาทะคำสอนหลวงปู่ฝั้น อาจาโร
     
  14. น.จุลรัตน์

    น.จุลรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +761
    "ตัวบุญคือใจสบาย เย็นอกเย็นใจ ตัวบาปคือใจไม่สบาย ใจเดือดใจร้อน"
    วาทะคำสอนหลวงปู่ฝั้น อาจาโร
     
  15. น.จุลรัตน์

    น.จุลรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +761
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • NORMAL~1.JPG
      NORMAL~1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      29.2 KB
      เปิดดู:
      620
  16. น.จุลรัตน์

    น.จุลรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +761
    ขออนุญาตดันนะครับ:cool:<!-- google_ad_section_end -->
     
  17. น.จุลรัตน์

    น.จุลรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +761
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. น.จุลรัตน์

    น.จุลรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +761
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00555.JPG
      DSC00555.JPG
      ขนาดไฟล์:
      131.7 KB
      เปิดดู:
      485
  19. น.จุลรัตน์

    น.จุลรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +761
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. น.จุลรัตน์

    น.จุลรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +761
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...