พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    รายละเอียดพระพิมพ์อยู่ในหน้าแรกของกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

    ( http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=68899 )

    ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ

    ยอดคงเหลือพระพิมพ์ครับ

    [​IMG]
    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3.JPG
      3.JPG
      ขนาดไฟล์:
      642 KB
      เปิดดู:
      3,018
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มอบพระธาตุสิวลีอรหันต์เถรเจ้า
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=72693&page=52

    <TABLE class=tborder id=post590624 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 12:42 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #517 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>:::เพชร:::<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_590624", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 08:55 AM
    วันที่สมัคร: Jul 2006
    อายุ: 42 ปี
    ข้อความ: 657 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 7,516 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 5,845 ครั้ง ใน 658 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 659 [​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_590624 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->พระธาตุสิวลีที่มอบให้ในครั้งนี้พิเศษกว่าทุกครั้งแน่นอนเนื่องจากได้รับการอธิษฐานจิตอัญเชิญพระสิวลีเถรเจ้าโดยพระภิกษุผู้ทรงฌาณรูปหนึ่ง และได้รับการยืนยันจากอาจารย์หลายๆท่านว่าพระองค์ท่าน และพระอรหันต์องค์อื่นๆก็ได้เสด็จมาร่วมในพิธีดังกล่าวด้วยเช่นกันในวันอาทิตย์ที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมานี้เอง ดังนั้นจึงขอให้มั่นใจได้ว่าพระธาตุสิวลีอรหันต์เถรเจ้าที่ได้รับในครั้งนี้เป็นสิ่งสักการะแทนองค์ท่านได้อย่างแน่แท้ ขอให้ท่านที่ได้รับไปนั้นรักษาศีล และสักการะบูชาอย่างตั้งใจ ด้วยอานิสงค์จากการที่ท่านบำเพ็ญดีแล้วนี้ ย่อมเป็นปัจจัยให้ทุกท่านเจริญในโภคทรัพย์ทั้งหลายเท่าที่บุคคลหนึ่งพึงมี พึงได้ และพึงเป็น...

    และเมื่อท่านได้รับพระธาตุสิวลีอรหันต์เถรเจ้าแล้ว ขอให้ท่านเตรียมผอบใส่พระธาตุแล้วรองด้วยผ้า 2 ชั้น ชั้นละสี โดยขอให้ชั้นล่างสุด(ชั้นที่สัมผัสกับผอบ)รองด้วยผ้าสีแดง ถัดชึ้นมารองด้วยผ้าสีขาว ตัดในลักษณะวงกลมเล็กๆ เพราะสีแดงเป็นสีของเทพที่รักษาองค์พระธาตุฯ จากนั้นสักการะบูชาด้วยพระคาถาที่คุณหนุ่ม(sithiphong)ที่ได้แนะนำไว้ในกระทู้ตาม Link นี้เลยครับ...

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=22445&page=107


    ที่ต้องย้ำเตือนหลายๆครั้งๆเพื่อให้โปรดระมัดระวังการปรามาสพระอรหันต์ท่าน บุญกุศลจะไม่คุ้มบาปกรรมครับ การรับพระธาตุนั้นง่ายกว่าการรักษาครับ การรับพระธาตุอรหันต์ไปสักการะบูชานั้นเท่ากับท่านได้ถือสัจจะครองศีล 5 บริสุทธิ์แล้ว พระธาตุนี้เป็นตัวแทนของพระสีวลีอรหันต์เถรเจ้า โดยเฉพาะพระธาตุชุดนี้ นอกจากจะเป็นตัวแทนของพระสีวลีอรหันต์เถรเจ้าแล้ว ยังมีพลังของพระอุปคุตอรหันต์เถรเจ้า พระอนุรุทธอรหันต์เถรเจ้า และหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ รวมทั้งสิ้น 8 พระองค์ ดังนั้นโปรดระมัดระวังกายวาจาใจให้มาก สักการะบูชาประหนึ่งอยู่ต่อหน้าพระทั้ง 8 พระองค์ครับ...บอกได้แต่เพียงว่า หากพระธาตุสีวลีอรหันต์เถรเจ้าชุดนี้หมดลง ผมและคณะเพื่อนๆก็ไม่ทราบว่าจะสรรหาพระธาตุสีวลีอรหันต์เถรเจ้าที่ครบถ้วนในพิธีกรรมการอัญเชิญพระองค์ท่านแบบนี้มาได้อย่างไรอีก

    ผมได้แบ่งพระธาตุสีวลีอรหันต์เถรเจ้านี้ไว้ 3 ส่วน คือบรรจุพระมหาธาตุเจดีย์ พระธาตุเจดีย์ส่วนหนึ่ง ถวายวัดวาอารามส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งได้มอบให้เพื่อนๆในเวปพลังจิตนี้ที่เดียวเท่านั้นครับ กำหนดปิดการมอบคือก่อนวันเข้าพรรษาวันที่ 31 ก.ค. 2550 หนึ่งอาทิตย์เพื่อเตรียมจัดส่งให้ครบถ้วนทุกคน สรุปคือปิดการมอบสิ้นสุดเพียงวันอาทิตย์ที่ 22 ก.ค. 2550 พระท่านไม่รับกิจนิมนต์ หรือธุดงค์ในช่วงเข้าพรรษาครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --><!-- sig -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    *********************************************************

    หากท่านใดยังไม่ได้ขอรับพระธาตุพระสิวลีเถระเจ้า ให้รีบไปขอรับกันนะครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=592196#post592196
    เชิญร่วมบุญผ้ายันต์ครอบจักรวาลรุ่นพิเศษเพื่อแจกจ่ายผู้ปฎิบัติงานใน 3 จังหวัดภาคใต้

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    วันนี้ ผมได้บอกบุญกับเพื่อนๆในที่ทำงาน ก็มีผู้ที่ร่วมทำบุญเพื่อสร้างผ้ายันต์มาหลายท่าน จำนวนเงิน 740 บาท วันพรุ่งนี้ผมจะโอนเข้าบัญชี บัญชีออมทรัพย์ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาปิ่นเกล้า ชื่อบัญชี พระธวัชชัย ชาครธัมโม บัญชีเลขที่ 031-0-12436-0 ผมโอนเงินแล้วจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

    โมทนาสาธุกับทุกๆท่านครับ

    .

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    วันนี้(6/6/2550) เวลา 10.13 น. ผมได้โอนเงินจำนวน 740.00 บาทเข้าบัญชีเรียบร้อยแล้วครับ

    โมทนาสาธุกับทุกๆท่านด้วยครับ

    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากกระทู้ มวลสารวัตถุมงคลรุ่น "สมหวัง โคตรอภิมหาเศรษฐี กินใช้ไม่หมด" เกาะยอ

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=81548<!-- / message --><!-- sig -->

    ผมเองก็ได้รับมวลสารดังกล่าวมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งส่วนหนึ่งผมได้นำไปถวายหลวงพ่อแผน สนส.บ่อเงินบ่อทอง เพื่อสร้างองค์จตุคาม ในการซื้อที่ดินของ สนส.บ่อเงินบ่อทองครับ

    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, เชน </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ????????????????????????????????????????????
    !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
    ????????????????????????????????????????????
     
  6. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    วันนี้โอนเข้าเพิ่มรอบที่ 8 จำนวน 1,000.- บาท

    รวมแล้ว 15,590.- บาทครับ หลายท่าน

    รอบที่ 9 คงจะมีต่อไปครับ เข้าใจว่าอย่างนั้น เดี่ยวจะมาบอกต่อครับ

    ขออนุโมทนา สาธุครับ
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    จากกระทู้ มวลสารวัตถุมงคลรุ่น "สมหวัง โคตรอภิมหาเศรษฐี กินใช้ไม่หมด" เกาะยอ

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=81548<!-- / message --><!-- sig -->

    ผมเองก็ได้รับมวลสารดังกล่าวมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งส่วนหนึ่งผมได้นำไปถวายหลวงพ่อแผน สนส.บ่อเงินบ่อทอง เพื่อสร้างองค์จตุคาม ในการซื้อที่ดินของ สนส.บ่อเงินบ่อทองครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ก๊อปจากข้อมูลมาอีกครั้ง ไม่ได้พิมพ์เอง

    แต่ลงเรียบร้อยแล้วครับ
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอโทษพี่เรื่องอะไร ไม่เห็นมีอะไรเลย

    แต่เวลาที่ก๊อบมาลง ยังงงอยู่ว่า ตัวเลขลำดับ ทำไมไม่ตรงกับข้อมูลในword ก็ไม่รู้ ก็เลยต้องเสียเวลาแก้ไขตัวเลขลำดับก่อนที่จะส่งข้อความครับ

    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.mcot.net/lady/query.php?id=1361&type=2

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>ชวนประชาชนดาวน์โหลดเพลง “พ่อแห่งแผ่นดิน” ร่วมร้องตั้งแต่ 9 มิ.ย.นี้ เชิญชวนดาวน์โหลดเพลง “พ่อแห่งแผ่นดิน“ ที่เว็บไซต์สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ www.opm.go.th/identity เนื่องจากผลิตซีดีไม่ทันความต้องการที่มีจำนวนมาก โดยเพลงพ่อแห่งแผ่นดิน จะเริ่มเปิดพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ ตั้งแต่ 09.00 น.วันที่ 9 มิถุนายนนี้
    พล.อ.วุฒิชัย พรพิบูลย์ ประธานโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะทำงานประชาสัมพันธ์เพลงพ่อแห่งแผ่นดิน กล่าวว่า ในการจัดทำเพลง ”พ่อแห่งแผ่นดิน” ร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนี้มีความต้องการซีดีเพลงดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และไม่สามารถผลิตได้ทันและเพียงพอกับความต้องการ ดังนั้น จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมดาวน์โหลดเพลง “พ่อแห่งแผ่นดิน“ ได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ www.opm.go.th/identity เบื้องต้นการผลิตซีดีดังกล่าว ตั้งเป้าผลิตให้ได้ 80,000 แผ่น คาดว่าจะสามารถผลิตแจกจ่ายให้กับประชาชนได้ในปลายเดือนมิถุนายนนี้ โดยสามารถขอรับซีดีเพลงดังกล่าวได้ที่สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี
    สำหรับเพลง ”พ่อแห่งแผ่นดิน” สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้จัดทำขึ้น เพื่อเป็นสื่อถวายความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจะเริ่มเปิดเพลงดังกล่าวพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ ในเวลา 09.00 น. ของวันที่ 9 มิถุนายน และจะเปิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนชาวไทยร้องเพลงนี้ได้ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 80 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคมนี้ ทั้งนี้ จะมีการเผยแพร่เนื้อหาคำร้องของเพลง ในรูปแบบซีดี วีซีดี แผ่นพับ และโปสเตอร์ ในสถานที่ต่าง ๆ อาทิ สถานีรถไฟฟ้า สถาบันการศึกษา หน่วยงานส่วนท้องถิ่น และจะเปิดเผยแพร่ผ่านสื่อทั้งวิทยุ โทรทัศน์ และอินเทอร์เน็ต
    เพลง พ่อแห่งแผ่นดิน เป็นผลงานการประพันธ์คำร้องโดย ชาลี อินทรวิจิตร อาจินต์ ปัญจพรรค์ สุนทรียา ณ เวียงกาญจน์ และสุรพล โทณะวณิก ทำนองโดย เรืออากาศตรี ศ.พิเศษ ดร. แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ วิรัช อยู่ถาวร พิมพ์ปฎิพาณ พึ่งธรรมจิตต์ และจิรวุฒิ กาญจนะผลิน ส่วนผู้ขับร้องเพลง มีทั้งศิลปินแห่งชาติ นักร้องอมตะ และศิลปินจากนักร้องค่ายแกรมมี่ และอาร์เอส
    เนื้อเพลง พ่อแห่งแผ่นดิน มีดังนี้ : อัครศิลปิน กรองศาสตร์ กรองศิลป์ การดนตรี ร้อยกรอง บทกวี ซึ้งกมล ตราบฟากฟ้า ครึ้มฝน ต้นไม้ทุกต้น พลอยยินดี รู้รักสามัคคีเพื่อพ่อแห่งไทย
    เหล่าประชา คารวะ สดุดี แผ่นดินนี้ มีสุข ด้วยองค์ พระทรงชัย บรรดาชาติชน ชื่นชม สมใจ ถวายบังคม เทิดไท้ ภูมิพลมหาราชา
    *ภักดีถวาย ดวงใจ ของไทยทั้งชาติ มหาราช ปราดเปรื่อง เรื่องของกีฬา ล้ำเลิศสื่อสาร พลังงานแทนแก้ปัญหา
    ฝนหลวง ฟ้าห่วงชาวนา ชาติไทย นับว่าโชคดี

    ** ทรงนำเศรษฐกิจพอเพียง หล่อเลี้ยงชีวา เป็นปรัชญา เกริกฟ้า ก้องปฐพี ไทยทั้งผอง ภูมิใจ ไทยเป็นไทยจนวันนี้ เพราะองค์ภูมิพลที่ คุ้มครองไทย (ซ้ำ *, **)
    ไทยทั้งผอง ภูมิใจ ไทยเป็นไทยจนวันนี้ เพราะองค์ภูมิพลที่ คุ้มครองไทย

    ขอบคุณข้อมูล : สำนักข่าวไทย


    อัพเดตเมื่อ 04 มิถุนายน 2550 เวลา 16:57 น.</TD></TR><TR><TD>Lady News : เรื่องย้อนหลัง
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากกระทู้ "องค์เทพจตุคามรามเทพ"ลงรากลงฐานพระศาสนา ซื้อที่ดินถวายวัด

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=594044#post594044

    มวลสารที่ผมนำไปถวายหลวงพ่อแผน เพื่อสร้างองค์จตุคามครับ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ติดตามได้ในกระทู้ครับ

    1.ผงพระสมเด็จบางขุนพรหมผสมผงใบลานหลวงพ่ออี๋ (สัตหีบ)

    2.ผงพระวังหน้า

    3.น้ำมนต์พันวัด

    4.มวลสาร 30 อย่าง ดังนี้
    1.ผงพุทธคุณ หลวงปู่อุ้น สุขกาโม วัดตาลกง จังหวัด เพชรบุรี
    2.ผงอิทธิเจ หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร จังหวัด อุบลราชธานี
    3.ผงกาฝาก 108 หลวงปู่อิงโชติโญ จังหวัด บุรีรัมย์
    4.ผงอิทธิเจ หลวงปู่เหมือน ฐานุตโม จังหวัด สระแก้ว
    5.ผงพุทธคุณ จากวัดมณีชลขันธ์ จังหวัดลพบุรี
    6.ผง 6,000 ปี ปู่ฤาษีกัมปินะ ในถ้ำ จังหวัดลพบุรี
    7.ผงพุทธคุณ วิชาลบผงสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังษี
    8.พระผงสมเด็จบางขุนพรหมหัก ปี 2536
    9.ผงพระธาตุสิวลี หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร จังหวัดอุบลราชธานี
    10.ผงงิ้วดำ ผงไพลดำ ผงใบลานเก่า ผงว่านหลวงปู่เทียม พุทธสาโร จ.สระแก้ว
    11.ดินตระไคร้ นครวัดประเทศ กัมพูชา
    12.ผงใบลานเก่าผงพุทธคุณจากหลวงพ่อพูนทรัพย์ วัดอ่างศิลา( มีผงหลวงปู่แก้ววัดเครือวัลย์ จ.ชลบุรี)
    13.ผงคัมภีร์ใบลานหลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบ
    14.พระผงเก่าหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว
    15.พระผงหลวงปู่พูล วัดไผ่ล้อม
    16.พระผงหลวงปู่มีวัดมารวิชัยรุ่นแช่น้ำมนต์สามไตรมาส
    17.ผงหลวงปู่ทองวัดราชโยธา
    18.ผงหน้าบันโบสถ์วัดธรรมธิดา จังหวัดลพบุรี
    19.พระผงแตกหักหลังคาโบสถ์วัดพระแก้ว( วังหน้า)
    20.พระผงหลวงปู่เทพโลกอุดร
    21.พระผงสมเด็จ
    22.พระผงนางพญา
    23.พระผงซุ้มกอพระ
    24.ผงสุพรรณ
    25.พระผงพระรอด
    26.พระผงพิมพ์พรหมเล็ก
    27.พระผงพิมพ์จักพรรดิ์ ( หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ วัดสะแก ) จ.อยุธยา( ปี 2512 ) ที่แตกหัก
    29.ผงปูนที่ห่อหุ้มองค์หลวงพ่อพุทธนิมิตร วัดหน้าพระเมรุ อายุกว่า 300 ปี
    30.น้ำมนต์จากวัดประมาณ 1,000 วัดผสมเป็นมวลสาร น้ำมันเก้ากลิ่น และยังมีมวลสารจากคณะคณาจารย์เกือบทั่วประเทศเพื่อนำมาผสมเพื่อสร้าง<O:p</O:p

    *******************************************

    มาแจ้งเพิ่มเติมเกี่ยวกับมวลสารที่ได้ถวายหลวงพ่อแผน มวลสารอีกชุดที่ได้ถวายหลวงพ่อแผน เพื่อสร้างองค์จตุคามนั้น มวลสารชุดนี้มีมากถึง 1,435 ประเภท ผมได้นำลงในกระทู้ มวลสารวัตถุมงคลรุ่น "สมหวัง โคตรอภิมหาเศรษฐี กินใช้ไม่หมด" เกาะยอ ( http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=81548 ) ซึ่งเป็นมวลสารชุดเดียวกันกับที่ผมได้นำไปถวายหลวงพ่อแผนด้วยครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เดี๋ยวนี้ ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย มีสิทธิ(โดน)เท่าเทียมกันแล้ว


    ที่มา http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01lad03060650&day=2007/06/06&sectionid=0115


    วันที่ 06 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10679​

    ระวัง!!!โถสุดท้ายในห้องน้ำชาย



    [​IMG]พูดกันมานักต่อนัก ถึงการเตือนภัยให้สาวๆ ทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็ก ได้ระแวดระวังภัย "ไอ้โรคจิต" ตามสถานที่ต่างๆ ที่ชอบ "ซุ่ม", "ซ่อน" แอบถ่ายของสงวนและไม่สงวนในห้องน้ำหญิง หลากหลายกลยุทธ์ได้ถูกเปิดโปงให้คนในสังคมได้ระวัง ทั้งตามหน้าหนังสือพิมพ์ และข่าวสารในอินเตอร์เน็ต

    แต่ แต่ แต่ ...

    ขึ้นชื่อว่า "ไอ้โรคจิต" มันไม่เลือกหรอกว่าจะ "จิต" ใส่เฉพาะผู้หญิง เพราะทุกวันนี้ คุณผู้ชายทั้งหลาย ก็ต้องระวังตัว ระวังหลัง เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในห้องน้ำชายในที่สาธารณะที่ได้รับการยืนยันจาก "หนุ่มๆ" (ปกติ) ว่า

    มี "เพียบ"!!!

    ไม่ใช่ "กุ" ข่าว แต่ได้รับคำยืนยันจากปากของหนุ่มนักโฆษณาบริษัทเอเยนซี่ชื่อดังแห่งหนึ่ง อย่าง "เบส" กรชวัล น้ำใจดี วัย 26 ปี ว่า "เจอบ่อยมากๆ" เรียกว่า เข้าห้องน้ำชายแทบทุกครั้ง จะพบ "คนผิดปกติ"

    "ผมเจอบ่อยมาก วันหนึ่งไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว พอใกล้จะกลับบ้านก็ไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งเป็นช่วงที่ห้างใกล้จะปิด ในห้องน้ำจึงไม่ค่อยมีคน ก็รู้สึกดีใจที่คนน้อย แต่ก็สังเกตว่า มีผู้ชายคนหนึ่งยืนปัสสาวะ ผมไม่ได้สนใจอะไร ก็ทำธุระของผม แต่ก็เว้นที่ว่างระหว่างเขากับผม 1 โถ แต่นึกแปลกใจว่าทำไมผู้ชายคนนี้ฉี่นานจัง สักพัก เขาเปลี่ยนมายืนที่โถติดกับผมแล้วก็หันมายิ้ม เท่านั้นไม่พอ ยังยืนถอยห่างจากโถ เพื่อโชว์อวัยวะ วันนั้นผมรู้สึกแย่มาก แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร เสร็จธุระก็รีบเดินออกมา ตั้งใจว่าจะไปเรียกพนักงานแต่ไม่มี" <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    หลังจากนั้น หนุ่มเบสก็เจอเหตุการณ์ลักษณะนี้เรื่อยๆ แต่ที่ "เด็ดสุด" คงจะเป็นเหตุการณ์ในห้องน้ำที่ห้างสรรพสินค้าย่านปทุมวัน ที่ครั้งนี้ "ไอ้โรคจิต" ถึงขนาดปีนขึ้นมาแอบดูภารกิจส่วนตัวในห้องน้ำเลยทีเดียว

    "วันนั้น บริเวณโถฉี่มีคนใช้บริการเต็ม เหลือแค่ห้องน้ำ 1 ห้อง ด้วยความที่ปวดฉี่มาก ทนไม่ไหวแล้ว ผมก็ตัดสินใจเข้าห้องน้ำนั้นไป ระหว่างที่ฉี่อยู่ รู้สึกเหมือนกับว่ามีคนแอบมองอยู่ จึงเงยหน้าขึ้นตรงเพดาน ผมตกใจมากครับ เพราะเห็นหัวคนห้องข้างๆ กำลังหลบกลับไป หลังจากนั้นก็โมโห เสร็จธุระผมตะโกนเสียงดังเลยว่า ไอ้โรคจิต ชอบแอบดูคนอื่น แน่จริงออกมาสิ แล้วยืนรอสักพัก แต่ไอ้คนนั้นก็ไม่ออกมาเลย"

    จากประสบการณ์ที่ "มากพอดู" เจ้าของเรื่อง จึงมีข้อแนะนำวิธีการ "แก้เผ็ด" ว่า ถ้าพบเหตุการณ์แบบนี้ ไม่ควรอายเด็ดขาด ให้ต่อว่าแรงๆ เพราะคนโรคจิตจะอายไม่กล้าทำ และทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำควรสังเกตว่ามีบุคคลที่มีอาการผิดปกติหรือไม่ เช่น ลุกลี้ลุกลน ปัสสาวะนานผิดปกติ ไม่สนใจกิจธุระของตัวเอง แต่สนใจคนอื่น และหากต้องการเข้าห้องสุขา ควรตรวจสอบว่ามีรู หรือ มีแสงสะท้อนหรือไม่ เพราะบุคคลเหล่านี้อาจใช้กระจกเงาแอบมองจากด้านล่าง เมื่อพบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีเพื่อให้มีการตรวจสอบ ไม่ควรปล่อยเลยตามเลย เพราะนี่ถือว่าเป็นการคุกคามทางเพศลักษณะหนึ่ง

    ส่วน "ชัย" วัย 26 ปี พนักงานฝ่ายส่งเสริมการตลาด ธนาคารแห่งหนึ่ง ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เคยตกเป็นเหยื่อของ "ไอ้โรคจิต"

    ชัยเล่าถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วยหน้าตาแสนเซ็งว่า เนื่องจากที่ทำงานของเขา ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าเมื่อถึงเวลาพักเที่ยงจึงลงมารับประทานข้าวในห้าง ก่อนที่จะเข้าทำงานช่วงบ่าย รู้สึกปวดห้องน้ำ จึงเข้าห้องน้ำในห้าง ซึ่งถือว่าเป็นห้างใหญ่ ระหว่างที่เข้าห้องน้ำปฏิบัติภารกิจ (หนัก) ไม่ถึง 1 นาที ก็สังเกตที่พื้นห้องน้ำซึ่งเป็นหินอ่อนสีดำ ทำให้เห็นว่าทำอะไรอยู่ แต่ไม่ชัดมาก แล้วก็เริ่มมีมือถือกระจกเงาอันเล็กๆ โผล่มาด้านล่าง เขารู้สึกตกใจ แต่ก็หลบเฉยๆ สักพัก มือ "ปิศาจ" ก็ยิ่งยื่นเข้ามาขึ้นมากขึ้น แต่ครั้งนี้ ชัยไม่ยอมอยู่เฉยๆ

    "ผมเริ่มโมโหตั้งแต่แรกแล้ว พอยิ่งยื่นมือเข้ามาคราวนี้ผมทนไม่ไหว เลยใช้เท้ายื่นออกไปปิดกระจกไว้เลย เพราะรู้สึกว่า นี่เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลมากเกินไปแล้ว พอเขารู้ว่าผมไม่ยอม เขาก็ชักมือออกไป และไม่กล้ายื่นมองส่องกระจกอีกเลย"

    ไม่เพียงแต่เรื่องกระจกส่องเท่านั้น แต่ชัยยังเคยประสบกรณีที่ขณะที่เขายืนฉี่อยู่ ก็มีชายโรคจิต 2 คนมาขนาบข้าง ไม่พูดพร่ำทำเพลง รูดซิปแล้วลงมือช่วยตัวเอง จากนั้น ชายคนด้านขวา ก็เดินเข้าห้องน้ำ พร้อมกับเรียกให้เขาเข้าไปในห้องน้ำ ซึ่งแน่นอนว่าชัยไม่ทำตามสิ่งที่ชายคนนั้นต้องการแน่นอน

    "ปกติยืนฉี่ก็จะมีบ้างที่แอบมอง ซึ่งผมจะพยายามไม่คิดอะไร แต่ที่เรียกเข้าไปในห้องน้ำแบบนี้ ผมพูดได้เต็มปากเลยว่า กลัวมาก ไม่ใช่ว่ากลัวเขาจะทำอนาจาร แต่กลัวว่าเขาจะมีเข็มฉีดยา หรือมีอาวุธอะไรหรือเปล่า"

    ก่อนจบการสนทนา ชัยยังมีเทคนิคในการสังเกตว่า "ไอ้โรคจิต" มักจะยืนฉี่ที่โถสุดท้าย หรือรองสุดท้าย กดที่กดน้ำบ่อยผิดปกติ ยืนนานผิดปกติ หรือถ้าอยู่ในห้อง ก็จะเลือกห้องริมด้านในสุด และหากจำเป็นต้องเข้าห้องน้ำให้สังเกตภายในห้องน้ำ ควรหลีกเลี่ยงห้องน้ำที่บริเวณโถฉี่อยู่ในมุมอับด้านใน เพราะจะเป็นจุดให้เหล่าบรรดาโรคจิตซุ่มซ่อนอยู่

    เข้าห้องน้ำครั้งต่อไป หนุ่มๆ อาจต้องรอบคอบมากกว่านี้
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=40886&NewsType=2&Template=1

    เทคนิคในการเลือกซื้อลูกสุนัขพันธุ์บางแก้ว

    หลังจากที่มีข่าวเผยแพร่ถึงความสามารถของสุนัขไทยบางแก้วตัวหนึ่งได้กัดโจรที่เข้ามาขโมยของในบ้านจนโจรไม่สามารถหนีไปได้ ได้สร้างกระแสความนิยมในการเลี้ยงสุนัขพันธุ์บางแก้วเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีการปรับราคาขายลูกสุนัขไทยสายพันธุ์นี้เพิ่มขึ้น บางแห่งราคาแพงขึ้นเท่าตัว
    แต่พบปัญหาตามมาตรงที่มีลูกสุนัขส่วนหนึ่งที่นำมาจำหน่ายนั้นกลับไม่ได้มาตรฐาน ที่พบมากคือซื้อลูกสุนัขมาแล้วเป็นโรค ยิ่งไปกว่านั้นมีพ่อค้าบางรายย้อมแมวนำสายพันธุ์บางแก้วไม่แท้มาจำหน่ายให้กับผู้ที่ไม่รู้ สุดท้ายผู้ขายไม่รับผิดชอบกับลูกสุนัขที่ขายไป

    คุณสุรวุฒิ บุญสวัสดิ์ ชาวอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เป็นสมาชิกคนหนึ่งของชมรมสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว ได้เห็นถึงปัญหาในการเลือกซื้อลูกสุนัขที่ไม่ได้มาตรฐานได้บอกถึงเทคนิคในการเลือกซื้อลูกสุนัขโดยต้น จากผู้ที่คิดจะเลี้ยงจะต้องศึกษาสายพันธุ์สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วเสียก่อน
    เช่น ศึกษามาตรฐานสายพันธุ์และลักษณะต่างๆให้ดีเสียก่อน ในการเลือกซื้อลูกสุนัขจะต้องซื้อจากฟาร์มหรือคอกที่ได้มาตรฐาน ที่พร้อมจะรับผิดชอบต่อลูกสุนัขที่ซื้อไปเมื่อเกิดปัญหาต่างๆกับลูกสุนัข มีบริการหลังการขาย ไม่ควรซื้อกับพ่อค้าเร่หรือแหล่งจำหน่ายสัตว์เลี้ยงที่ไม่ได้มาตรฐานอย่างเด็ดขาด

    เนื่องจากลูกสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วมีราคาซื้อ-ขายค่อนข้างแพงเมื่อเปรียบเทียบกับลูกสุนัขต่างประเทศสายพันธุ์อื่นๆ ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ลูกสุนัขที่ซื้อมาควรจะมีใบเพ็ดดีกรีรับรองจากสมาคมหรือชมรมสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วเท่านั้น คุณสุรวุฒิบอกว่าถ้าเป็นใบเพ็ดดีกรีที่ทางผู้ขายหรือทางฟาร์มหรือคอกออกให้เองก็ไม่ควรซื้อเพราะมีโอกาสที่จะได้ลูกสุนัขที่ไม่ได้มาตรฐานเช่นกัน

    ในการซื้อลูกสุนัขมาเลี้ยงจะต้องสอบถามเรื่องการทำวัคซีนที่ทำให้ลูกสุนัข ลูกสุนัขที่ได้มาตรฐานทุกตัวจะต้องทำวัคซีนและถ่ายพยาธิแล้ว และผู้ที่ซื้อลูกสุนัขมาเลี้ยงจะต้องทำการตกลงกับผู้ขายว่าลูกสุนัขที่ซื้อมาเลี้ยงนั้นถ้าเป็นโรคติดมาจากร้าน ผู้ขายจะต้องรับผิดชอบ
    สำหรับประเด็นรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรฐานสายพันธุ์บางแก้วแท้ที่ผู้ซื้อจะต้องพิจารณาคือ ลูกสุนัขจะต้องมีโครงสร้างดี การเคลื่อนไหวดี ขนยาว ตำแหน่งมาร์คกิ้งสวย มีนิสัยร่าเริงและไม่ก้าวร้าวดุร้าย ถ้าเป็นสุนัขเพศผู้ลูกอัณฑะจะต้องมี 2 เม็ด คุณสุรวุฒิยังได้บอกว่าข้อบกพร่องของลักษณะสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วที่ไม่ควรซื้อ
    ได้แก่ มีลูกอัณฑะอันเดียว ขนเกรียน หางม้วน หลังแอ่น การเคลื่อนไหวไม่ดีและที่สำคัญคือมีนิสัยดุร้าย ประการสุดท้ายก็คือ ผู้ขายสุนัขพันธุ์บางแก้วควรจะมีความรู้และมีความจริงใจต่อผู้ซื้อ ควรจะบอกวิธีการเลี้ยงให้ถูกต้องตามหลักการ

    ปัจจุบันสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วที่คนไทยนิยมซื้อไปเลี้ยงจะมี 3 สี ได้แก่ สีขาว-เทา, สีขาว-ดำและสีขาว-น้ำตาล
    ทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE id=Table1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=message-bold>คอลัมน์ย้อนหลัง</TD></TR><TR><TD><TABLE id=ctl00_ContentPlaceHolder1_ctl00_Popup_news_15_oldcolumn1_dlsOColumn style="WIDTH: 100%; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">เทคนิคในการเลือกซื้อลูกสุนัขพันธุ์บางแก้ว
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">คนไทยสนใจเลี้ยง ‘พูเดิ้ล ทอย’
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">'ปลากัดสีทอง' ปลาแห่งสีมงคลตลาดต่างประเทศต้องการมาก
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ปลาหมอสี ‘ช็อต บอดี้’ อีกความแปลกที่หายากและมีราคา
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ศูนย์การเรียนรู้ในชุมชน ‘แมวไทยโบราณ’ จ.สมุทรสงคราม
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">กุ้งแคระต้องการอาหารไม่มากเลี้ยงไม่ยาก
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">‘นกเขาชวา’ นิยมเลี้ยงต่อเนื่อง มีประกวดทุกเดือน
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ตลาดปลาทองยังดีต่อเนื่อง
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">‘เทคซัสแดง’
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">‘เรดบี’ กุ้งแคระที่เลี้ยงยาก, ราคาแพง นิยมเลี้ยงมากที่ญี่ปุ่น
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=40871&NewsType=2&Template=1

    สารอาหารในน้ำพริก
    <TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>ใครชอบทานน้ำพริกบ้าง รู้ไหมว่าส่วนประกอบในการทำน้ำพริกแต่ละชนิดมีประโยชน์อย่างไร วันนี้เกร็ดความรู้มีเรื่องนี้มาบอกกัน...
    พริก คือ ส่วนประกอบที่สำคัญในการทำน้ำพริก พริกทุกชนิดมีสารแคปไซซิน ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการป้องกันความชรา และยังมีเบต้าแคโรทีนและวิตามินซีสูง ต้านอนุมูลอิสระ
    หอมแดง กระเทียม จะมีเซเลเนียม ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และมีโปรเตสเซียมเยอะ ทางการแพทย์ระบุว่ามีคุณสมบัติช่วยให้เซลล์แข็งแรง และยังจะได้น้ำมันจากกระเทียมซึ่งเป็นสารแอนตี้เซปติก ช่วยป้องกันการติดเชื้อและลดไขมันในเส้นเลือด
    ส่วนกุ้งแห้ง จะมีแคลเซียมสูง ช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง
    ในมะเขือพวง จะมีเส้นใยสูง ป้องกันท้องผูก และยังมี ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ส่วนประกอบของพริกแกงมีสารต้านมะเร็ง ส่วนขมิ้นมีสารเคอมิวมิน กรดเฟอลิกฟลาโรวอยด์ เป็นสารต้านมะเร็ง
    และที่ขาดไม่ได้ คือ กะปิ มีวิตามินบี 12 ช่วยสร้างเม็ดเลือด และแคลเซียมสูงกว่านมวัว 15 เท่า (น้ำพริก 1 ถ้วย ใช้กะปิ 20-30 กรัม ให้แคลเซียม 500 ม.ก.) นอกจากนี้ กะปิยังให้โซเดียมโปรเตสเซียมและไอโอดีน
    นอกเหนือจากคุณค่าทางอาหารที่ได้รับจากส่วนประกอบของน้ำพริกแล้ว ยังจะได้วิตามินและเกลือแร่จากผักต่างๆที่นำมาต้มทานแกล้มน้ำพริกอีกด้วย
    อย่าลืมหันมาทานน้ำพริกกัน แล้วจะได้สารอาหารมากกว่าที่คิด.
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="VERTICAL-ALIGN: top; TEXT-ALIGN: left"><TABLE id=Table1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=message-bold>คอลัมน์ย้อนหลัง</TD></TR><TR><TD><TABLE id=ctl00_ContentPlaceHolder1_ctl00_Popup_news_15_oldcolumn1_dlsOColumn style="WIDTH: 100%; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">สารอาหารในน้ำพริก
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">น้ำผลไม้ห่างไกลไข้หวัด
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">วิธีทาสีบ้านให้สวยทนนาน
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">บริหารเท้า
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">สปาเส้นผมด้วยมะนาว
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">การขจัดคราบเปื้อนต่าง ๆ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">การจีบสาวของหนุ่ม ๆ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ประโยชน์ของหน่อไม้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">วิธีเลือกซื้อรองเท้า
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">เชื้อโรคในธนบัตร
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.komchadluek.net/2007/06/09/s001_122115.php?news_id=122115


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ท่องไปกับใจตน-ปาฏิหาริย์อยู่ที่จิต กระบี่อยู่ที่ใจ</TD></TR><TR><TD vAlign=top>8 มิถุนายน 2550 20:46 น.</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG][/IMG] [​IMG] ระยะนี้มักจะมีภาพข่าวเกี่ยวกับการเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นที่โน่นที่นี่เสมอ เช่น ปรากฏการณ์อาทิตย์ทรงกลดเป็นแสงฉัพพรรณรังสี หรือจุดขาวๆ คล้ายดวงแก้วที่ปรากฏบนภาพขณะกำลังมีการประกอบพิธีกรรมสำคัญ บังเอิญเมื่อวันวิสาขบูชา ที่ผ่านมา
    ผมเดินทางไปกราบพระมหาเจดีย์ชเวดากอง ประเทศพม่า จึงอยากนำประสบการณ์ถ่ายภาพมาเล่าสู่กันฟัง ตามปฏิทินของพม่า วันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 7 หรือวันวิสาขบูชา ปีนี้ตรงกับวันที่ 30 พฤษภาคม หรือก่อนวันวิสาขบูชาของไทยหนึ่งวัน ประกอบกับมีฝนปรอยๆ ตอนเย็นวันที่ 31 พฤษภาคม ชเวดากองจึงดูไม่คึกคักเท่าที่ควร แต่กระนั้นก็ยังมีชาวพม่าและนักท่องเที่ยวหลายชาติหลายภาษามาสักการะไม่ขาดสาย ชาวพม่าหลายคนยังก้มกราบลงบนลานเจดีย์ที่เปียกแฉะด้วยศรัทธาแรงกล้าเหมือนปกติ ถึงราว 6 โมงครึ่ง กลางวันจะไป กลางคืนจะมา ท้องฟ้าปรากฏเป็นสีน้ำเงินอมชมพู รับกับสปอตไลท์ที่สาดส่อง หนุนส่งองค์เจดีย์ทองเปล่งปลั่งมลังเมลืองงามเหลือใจ
    พอใกล้ทุ่ม ฟ้าเริ่มมืด หลายคนไปรวมตัวกันตรงลานด้านหลังระฆังมหาคันธา ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือขององค์เจดีย์ เพื่อชมประกายเพชร 76.6 กะรัตบนยอดฉัตรชเวดากอง ความสูง 326 ฟุต เพชรขนาดมหึมาเม็ดนี้ พระเจ้ามินดงทรงถวายในโอกาสเปลี่ยนฉัตรใหม่เมื่อราวร้อยกว่าปีก่อน ซึ่งยามนั้นอังกฤษยึดครองพม่าตอนใต้ได้แล้ว พระเจ้ามินดงต้องการรวมจิตใจชาวพม่าทั้งเหนือและใต้ จึงทรงทุ่มเทพระราชทรัพย์ซื้ออัญมณีล้ำค่าประดับยอดฉัตรคิดเป็นมูลค่าในสมัยนั้นถึง 62,000 ปอนด์ โดยประดับเพชร 76.6 กะรัตไว้บนยอดสุด แล้วประกาศจะนำขบวนแห่แหนฉัตรใหม่จากราชธานีมัณฑะเลย์มายังเจดีย์ชเวดากอง กรุงย่างกุ้ง
    แต่อังกฤษอ้างว่าย่างกุ้งตกเป็นเขตยึดครองของอังกฤษแล้ว พระเจ้ามินดงจะส่งฉัตรมาก็ได้ แต่จะเสด็จฯ นำขบวนมาไม่ได้ เพราะพระองค์ไร้สิ้นซึ่งพระราชอำนาจในเขตนี้แล้ว นับเป็นสัญญาณอันตรายก่อนหน้าพม่าจะเสียเมืองให้อังกฤษเบ็ดเสร็จในปี 2428
    ขนาดของเพชร 76.6 กะรัตทำให้เรามองเห็นประกายเพชรได้ชัดเจนในยามค่ำ โดยเฉพาะที่ลานด้านหลังระฆังมหาคันธา จะเห็นประกายเพชรได้หลายสี เพียงขยับเท้าจากจุดเดิมทีละคืบ สีก็จะเปลี่ยนจากประกายเหลือง เป็นเขียว ชมพู แสด แดง น่าชมยิ่งนัก แต่เพราะผมไม่ได้ใช้ขาตั้งกล้อง ภาพที่ถ่ายจากการซูมไกลด้วยเลนส์ขนาด 300
    มิลลิเมตร จึงเกิดเป็นเส้นยึกยือตรงจุดที่ตั้งของเพชร แม้จะพยายามบังคับให้มือนิ่งเพียงใด แถมกดปุ่มกันสะเทือน (Anti Blur) ในตัวกล้องแล้วก็ตาม ผมพยายามถ่ายภาพนี้ซ้ำหลายครั้ง ก็ยังปรากฏเส้นยึกยือไปตามการเคลื่อนของมือผมทุกครั้ง จึงไม่น่าจะเป็น "ปาฏิหาริย์ในคืนเพ็ญวิสาขา" ณ ชเวดากองแต่อย่างใด
    ภาพต่อมาถ่ายที่เมืองพุกาม ราชธานีแรกของชนชาติพม่าเมื่อเกือบพันปีก่อน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนาที่มีสมญานามว่า "แดนเจดีย์สี่พันองค์" จนว่ากันว่าคุณไม่สามารถขยับกายไปทางใดโดยไม่สัมผัสเจดีย์ ซึ่งชาวพุกามถือเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า พุกามจึงเป็นดินแดนที่มีพระพุทธเจ้าอยู่ทุกหนแห่ง ผมขึ้นไปถ่ายภาพบนเจดีย์ชเวซานดอว์ ซึ่งเป็นจุดชมวิวเจดีย์ 360 องศา วันนั้นมีแดดจ้าเกือบตลอด เราจึงหวังจะได้เห็นอาทิตย์อัสดงในทะเลเจดีย์พุกาม
    แต่ปรากฏว่ามีเมฆก้อนใหญ่อยู่ตรงขอบฟ้าทิศตะวันตก ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของฤดูกาลช่วงต้นฝน ฟ้าจะไม่ใสปิ๊งเหมือนหน้าหนาว ทว่า แม้ดวงอาทิตย์จะจมหายไปในหมู่เมฆแล้ว แต่ยังโชนแสงออกมาจับขอบเมฆ กลายเป็นปรากฏการณ์ "อาทิตย์ทรงกลด" บ้างว่าเป็น "แสงฉัพพรรณรังสี" หรือแสงที่ออกมาจากพระวรกายของพระพุทธเจ้า ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาที่พบเห็นเป็นประจำในช่วงต้นฝนของทุกปี มิใช่ "กฤดาภินิหารในแดนเจดีย์สี่พันองค์" แต่อย่างใด
    ภาพต่อมา ผมบันทึกจากศาลพระพิฆเนศ ใจกลางกรุงกาฐมาณฑุ เนปาล ดินแดนแห่งศรัทธาเข้มข้นทั้งฮินดูและพุทธ ขนาดเชื่อกันว่าในหุบเขากาฐมาณฑุมีเทพเจ้า พระพุทธเจ้า และพระโพธิสัตว์ สถิตอยู่มากมายถึง 300 ล้านองค์ โดยเฉพาะพระพิฆเนศ นับเป็นเทพเจ้าที่มีคนบูชาในลำดับต้นๆ ด้วยทรงเป็นเทพผู้ขจัดสิ้นซึ่งอุปสรรคทั้งมวล ก่อนที่จะเป็นเทพแห่งศิลปวิทยาการและการช่างอย่างที่คนไทยรู้จักกันดี
    ผมถ่ายภาพนี้ตอนเช้าราว 8 โมงเศษ แต่ศาลพระคเณศองค์นี้หันไปทางทิศหรดี หรือตะวันตกเฉียงใต้ จึงเท่ากับผมถ่ายภาพย้อนแสง แม้จะโฟกัสภาพไปที่องค์พระคเณศ แต่ก็มีแสงอาทิตย์สะท้อนเข้ากล้อง เมื่อแสงทำปฏิกิริยากับเลนส์ จึงปรากฏเป็นเงาโค้งซ้อนกันสามชั้นตรงมุมล่างซ้าย และเกิดจุดสีขาวตรงมุมบนขวาของภาพ บางครั้งจะเป็นจุดสีเขียว เหลือง ส้ม ซ้อนกันก็ยังมี ซึ่งถือเป็นสิ่งปกติเมื่อเราถ่ายย้อนแสง มิใช่ "ปาฏิหาริย์แห่งเทวาธิเทพ"
    เช่นเดียวกับการถ่ายภาพโดยใช้แฟลช ในบริเวณที่มีการจุดธูปเทียนบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยธูปนั้นเมื่อเผาไหม้แล้วจะกลายเป็นผงขนาดเล็กลอยไปในอากาศ ซึ่งอาจมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่เมื่อแสงแฟลชไปกระทบผงเหล่านี้ จะปรากฏเป็นจุดกลมสีขาวคล้ายดวงแก้วในภาพของเรา ไม่น่าจะเป็นเทพประทานพร หรือเป็นเหล่าสัมภเวสีมาขอส่วนบุญอย่างที่เข้าใจกัน เล่าเรื่องนี้มิได้มีเจตนาลบหลู่ความเชื่อของใคร เพราะใครเชื่อสิ่งใดแล้วมีความสุข ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะเชื่อได้ ส่วนที่มีการนำ "ปรากฏการณ์ปาฏิหาริย์" มาโฆษณาขายวัตถุมงคล ก็เป็นสิทธิของประชาชนที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อเช่นกัน เพียงแต่อยากฝากคำของท่านพุทธทาสไว้น้อมนำใจเราชาวพุทธว่า...
    "ผลไม้ถ้าไม่มีเปลือก เนื้อในมันก็อยู่ไม่ได้ แต่เรากินเปลือกนั้นไม่ได้ ต้องรู้จักแกะเปลือกออกไป เข้าให้ถึงเนื้อในแห่งผลไม้ พระศาสนาก็เหมือนกัน ควรจะเข้าถึงหัวใจกันให้ได้"
    ....................................................

    ขอเชิญฟังรายการ "คลื่นอุษาคเนย์" สังคม ศิลปะ วัฒนธรรม ความสัมพันธ์ไทยกับเพื่อนบ้าน ทางวิทยุ อสมท เอฟเอ็ม 96.5 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 14.00-16.00 น. ธีรภาพ โลหิตกุล, กิติมาภรณ์ จิตราทร ดำเนินรายการ
    ธีรภาพ โลหิตกุล

    -->[​IMG]
    ระยะนี้มักจะมีภาพข่าวเกี่ยวกับการเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นที่โน่นที่นี่เสมอ เช่น ปรากฏการณ์อาทิตย์ทรงกลดเป็นแสงฉัพพรรณรังสี หรือจุดขาวๆ คล้ายดวงแก้วที่ปรากฏบนภาพขณะกำลังมีการประกอบพิธีกรรมสำคัญ บังเอิญเมื่อวันวิสาขบูชา ที่ผ่านมา
    ผมเดินทางไปกราบพระมหาเจดีย์ชเวดากอง ประเทศพม่า จึงอยากนำประสบการณ์ถ่ายภาพมาเล่าสู่กันฟัง ตามปฏิทินของพม่า วันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 7 หรือวันวิสาขบูชา ปีนี้ตรงกับวันที่ 30 พฤษภาคม หรือก่อนวันวิสาขบูชาของไทยหนึ่งวัน ประกอบกับมีฝนปรอยๆ ตอนเย็นวันที่ 31 พฤษภาคม ชเวดากองจึงดูไม่คึกคักเท่าที่ควร แต่กระนั้นก็ยังมีชาวพม่าและนักท่องเที่ยวหลายชาติหลายภาษามาสักการะไม่ขาดสาย ชาวพม่าหลายคนยังก้มกราบลงบนลานเจดีย์ที่เปียกแฉะด้วยศรัทธาแรงกล้าเหมือนปกติ ถึงราว 6 โมงครึ่ง กลางวันจะไป กลางคืนจะมา ท้องฟ้าปรากฏเป็นสีน้ำเงินอมชมพู รับกับสปอตไลท์ที่สาดส่อง หนุนส่งองค์เจดีย์ทองเปล่งปลั่งมลังเมลืองงามเหลือใจ
    พอใกล้ทุ่ม ฟ้าเริ่มมืด หลายคนไปรวมตัวกันตรงลานด้านหลังระฆังมหาคันธา ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือขององค์เจดีย์ เพื่อชมประกายเพชร 76.6 กะรัตบนยอดฉัตรชเวดากอง ความสูง 326 ฟุต เพชรขนาดมหึมาเม็ดนี้ พระเจ้ามินดงทรงถวายในโอกาสเปลี่ยนฉัตรใหม่เมื่อราวร้อยกว่าปีก่อน ซึ่งยามนั้นอังกฤษยึดครองพม่าตอนใต้ได้แล้ว พระเจ้ามินดงต้องการรวมจิตใจชาวพม่าทั้งเหนือและใต้ จึงทรงทุ่มเทพระราชทรัพย์ซื้ออัญมณีล้ำค่าประดับยอดฉัตรคิดเป็นมูลค่าในสมัยนั้นถึง 62,000 ปอนด์ โดยประดับเพชร 76.6 กะรัตไว้บนยอดสุด แล้วประกาศจะนำขบวนแห่แหนฉัตรใหม่จากราชธานีมัณฑะเลย์มายังเจดีย์ชเวดากอง กรุงย่างกุ้ง [​IMG]
    แต่อังกฤษอ้างว่าย่างกุ้งตกเป็นเขตยึดครองของอังกฤษแล้ว พระเจ้ามินดงจะส่งฉัตรมาก็ได้ แต่จะเสด็จฯ นำขบวนมาไม่ได้ เพราะพระองค์ไร้สิ้นซึ่งพระราชอำนาจในเขตนี้แล้ว นับเป็นสัญญาณอันตรายก่อนหน้าพม่าจะเสียเมืองให้อังกฤษเบ็ดเสร็จในปี 2428
    ขนาดของเพชร 76.6 กะรัตทำให้เรามองเห็นประกายเพชรได้ชัดเจนในยามค่ำ โดยเฉพาะที่ลานด้านหลังระฆังมหาคันธา จะเห็นประกายเพชรได้หลายสี เพียงขยับเท้าจากจุดเดิมทีละคืบ สีก็จะเปลี่ยนจากประกายเหลือง เป็นเขียว ชมพู แสด แดง น่าชมยิ่งนัก แต่เพราะผมไม่ได้ใช้ขาตั้งกล้อง ภาพที่ถ่ายจากการซูมไกลด้วยเลนส์ขนาด 300
    มิลลิเมตร จึงเกิดเป็นเส้นยึกยือตรงจุดที่ตั้งของเพชร แม้จะพยายามบังคับให้มือนิ่งเพียงใด แถมกดปุ่มกันสะเทือน (Anti Blur) ในตัวกล้องแล้วก็ตาม ผมพยายามถ่ายภาพนี้ซ้ำหลายครั้ง ก็ยังปรากฏเส้นยึกยือไปตามการเคลื่อนของมือผมทุกครั้ง จึงไม่น่าจะเป็น "ปาฏิหาริย์ในคืนเพ็ญวิสาขา" ณ ชเวดากองแต่อย่างใด [​IMG]
    ภาพต่อมาถ่ายที่เมืองพุกาม ราชธานีแรกของชนชาติพม่าเมื่อเกือบพันปีก่อน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนาที่มีสมญานามว่า "แดนเจดีย์สี่พันองค์" จนว่ากันว่าคุณไม่สามารถขยับกายไปทางใดโดยไม่สัมผัสเจดีย์ ซึ่งชาวพุกามถือเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า พุกามจึงเป็นดินแดนที่มีพระพุทธเจ้าอยู่ทุกหนแห่ง ผมขึ้นไปถ่ายภาพบนเจดีย์ชเวซานดอว์ ซึ่งเป็นจุดชมวิวเจดีย์ 360 องศา วันนั้นมีแดดจ้าเกือบตลอด เราจึงหวังจะได้เห็นอาทิตย์อัสดงในทะเลเจดีย์พุกาม
    แต่ปรากฏว่ามีเมฆก้อนใหญ่อยู่ตรงขอบฟ้าทิศตะวันตก ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของฤดูกาลช่วงต้นฝน ฟ้าจะไม่ใสปิ๊งเหมือนหน้าหนาว ทว่า แม้ดวงอาทิตย์จะจมหายไปในหมู่เมฆแล้ว แต่ยังโชนแสงออกมาจับขอบเมฆ กลายเป็นปรากฏการณ์ "อาทิตย์ทรงกลด" บ้างว่าเป็น "แสงฉัพพรรณรังสี" หรือแสงที่ออกมาจากพระวรกายของพระพุทธเจ้า ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาที่พบเห็นเป็นประจำในช่วงต้นฝนของทุกปี มิใช่ "กฤดาภินิหารในแดนเจดีย์สี่พันองค์" แต่อย่างใด
    ภาพต่อมา ผมบันทึกจากศาลพระพิฆเนศ ใจกลางกรุงกาฐมาณฑุ เนปาล ดินแดนแห่งศรัทธาเข้มข้นทั้งฮินดูและพุทธ ขนาดเชื่อกันว่าในหุบเขากาฐมาณฑุมีเทพเจ้า พระพุทธเจ้า และพระโพธิสัตว์ สถิตอยู่มากมายถึง 300 ล้านองค์ โดยเฉพาะพระพิฆเนศ นับเป็นเทพเจ้าที่มีคนบูชาในลำดับต้นๆ ด้วยทรงเป็นเทพผู้ขจัดสิ้นซึ่งอุปสรรคทั้งมวล ก่อนที่จะเป็นเทพแห่งศิลปวิทยาการและการช่างอย่างที่คนไทยรู้จักกันดี [​IMG]
    ผมถ่ายภาพนี้ตอนเช้าราว 8 โมงเศษ แต่ศาลพระคเณศองค์นี้หันไปทางทิศหรดี หรือตะวันตกเฉียงใต้ จึงเท่ากับผมถ่ายภาพย้อนแสง แม้จะโฟกัสภาพไปที่องค์พระคเณศ แต่ก็มีแสงอาทิตย์สะท้อนเข้ากล้อง เมื่อแสงทำปฏิกิริยากับเลนส์ จึงปรากฏเป็นเงาโค้งซ้อนกันสามชั้นตรงมุมล่างซ้าย และเกิดจุดสีขาวตรงมุมบนขวาของภาพ บางครั้งจะเป็นจุดสีเขียว เหลือง ส้ม ซ้อนกันก็ยังมี ซึ่งถือเป็นสิ่งปกติเมื่อเราถ่ายย้อนแสง มิใช่ "ปาฏิหาริย์แห่งเทวาธิเทพ"
    เช่นเดียวกับการถ่ายภาพโดยใช้แฟลช ในบริเวณที่มีการจุดธูปเทียนบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยธูปนั้นเมื่อเผาไหม้แล้วจะกลายเป็นผงขนาดเล็กลอยไปในอากาศ ซึ่งอาจมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่เมื่อแสงแฟลชไปกระทบผงเหล่านี้ จะปรากฏเป็นจุดกลมสีขาวคล้ายดวงแก้วในภาพของเรา ไม่น่าจะเป็นเทพประทานพร หรือเป็นเหล่าสัมภเวสีมาขอส่วนบุญอย่างที่เข้าใจกัน เล่าเรื่องนี้มิได้มีเจตนาลบหลู่ความเชื่อของใคร เพราะใครเชื่อสิ่งใดแล้วมีความสุข ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะเชื่อได้ ส่วนที่มีการนำ "ปรากฏการณ์ปาฏิหาริย์" มาโฆษณาขายวัตถุมงคล ก็เป็นสิทธิของประชาชนที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อเช่นกัน เพียงแต่อยากฝากคำของท่านพุทธทาสไว้น้อมนำใจเราชาวพุทธว่า...
    "ผลไม้ถ้าไม่มีเปลือก เนื้อในมันก็อยู่ไม่ได้ แต่เรากินเปลือกนั้นไม่ได้ ต้องรู้จักแกะเปลือกออกไป เข้าให้ถึงเนื้อในแห่งผลไม้ พระศาสนาก็เหมือนกัน ควรจะเข้าถึงหัวใจกันให้ได้"
    ....................................................

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2007
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่ผมเคยเตือนเรื่องเกี่ยวกับบัตรเอทีเอ็ม ผลของมันก็มีแบบนี้(เป็นลักษณะกลโกงประเภทหนึ่ง แต่ยังมีกลโกงอีกหลายๆประเภท) ต้องระวังกันให้มากๆนะครับ

    ที่มา http://www.rssthai.com/reader.php?t=business&r=8559
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD width=300>[​IMG]

    </TD><TD width=519><!--a href="http://www.thairath.co.th/ads.php" target="_blank">[​IMG]</a--></TD></TR><TR><TD>
    ปีที่ 58 ฉบับที่ 18036 วันเสาร์ ที่ 9 มิถุนายน 2550​



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    <TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">จับ'แก๊งต้ม' กดเอทีเอ็ม [8 มิ.ย. 50 - 03:31]

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]ตามที่มีแก๊งมิจฉาชีพใช้กลอุบายหลอกลวงเหยื่อด้วยการโทรศัพท์แจ้งว่าได้รับรางวัลใหญ่เป็นเงินสดเรือนแสน แล้วหลอกล่อให้ไปตรวจสอบเงินจากบัตรเอทีเอ็ม สุดท้ายต้องสูญเงินในบัญชีจนหมด ล่าสุด วันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา นายชัยยุทธ ศรีวิชัย อายุ 27 ปี รปภ.อาคารมาลีนนท์ ถูกคนร้ายใช้วิธีดังกล่าวหลอกจนเสียเงินไปทั้งสิ้น 31,134 บาท ต้องไปแจ้งความไว้ที่ สน.ทองหล่อ
    ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (7 มิ.ย.) พ.ต.ท.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน สว.สส.สน.ทองหล่อ สืบสวนจนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหามี 5 คน คือนายศักดิ์ชัย แจ้มกระจ่าง อายุ 34 ปี รปภ.ห้างเดอะมอลล์ บางแค นายอนิรุทต์ แจงเอี่ยมเอก อายุ 30 ปี ทำงานเป็น รปภ.อยู่ที่ห้างเดียวกัน นายอนุรักษ์ แจงเอี่ยมเอก อายุ 31 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ พี่ชายนายอนิรุทต์ นายนัทธี พิทักษ์ธรรม อายุ 44 ปี คนขับรถแท็กซี่ และนายพรรษา พัวพันธ์ อายุ 42 ปี จึงเชิญตัวทั้งหมดมาสอบปากคำ และแจ้งข้อกล่าวหาที่ สน.ทองหล่อ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ ทั้งหมดให้การปฏิเสธ
    จากนั้นชุดสืบสวนได้นำหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าตรวจค้นบริษัทจัดหางานชื่อบริษัทโคราช เอสเอส เซอร์วิส จำกัด เลขที่ 100/40 ตลาดเสริมเพิ่มพูน ซอยเปรมประชา ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. จากการตรวจค้นโต๊ะทำงานของนายพรรษา ซึ่งเป็นพนักงานในบริษัทดังกล่าว พบสมุดบัญชีธนาคารต่างๆของนายพรรษา 17 เล่ม สมุดบัญชีธนาคารของผู้อื่นอีก 18 เล่ม พร้อมบัตรเอทีเอ็มอีกจำนวนหนึ่ง ก่อนยึดมาตรวจสอบ รวมทั้งชิ้นส่วนหน่วยความจำคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงานของนายพรรษาด้วย
    พ.ต.ท.เศกสิทธิ์เผยถึงเบื้องหลังการจับกุมครั้งนี้ว่า ได้สืบสวนจนทราบว่า เงินของนายชัยยุทธ ผู้เสียหายถูกโอนไปที่บัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาย่อยเดอะมอลล์ บางแค เลขที่ 2384225153 เจ้าของบัญชีชื่อนายศักดิ์ชัย แจ้มกระจ่าง อายุ 34 ปี รปภ.ห้างเดอะมอลล์ บางแค จึงเชิญตัวมาสอบปากคำให้การอ้างว่า มีเพื่อน รปภ.ชื่อนาย อนิรุทต์ แจงเอี่ยมเอก อายุ 30 ปี มาจ้างให้เปิดบัญชี แต่นายอนิรุทต์จะเอาสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็มกลับไปด้วย เมื่อขยายผลไปเรื่อยๆ จึงทราบว่ามีนายอนุรักษ์ และนายนัทธี 2 คนขับแท็กซี่หน้าโรงแรมโนโวเทล บางนา รวมถึงนายพรรษาน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง จึงเชิญตัวทั้งหมดมาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา
    พ.ต.ท.เศกสิทธิ์กล่าวต่อว่า วิธีการของคนร้ายจะสุ่มเบอร์ผู้เสียหาย ก่อนโทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ต เมื่อเหยื่อรับสายจะใช้โปรแกรมดัดแปลงเสียงให้เป็นเสียงผู้หญิง หรือเสียงคนแก่ ออกอุบายว่าเบอร์โทรศัพท์ของเหยื่อที่ใช้ถูกรางวัลเป็นเงินสดก้อนหนึ่ง จากนั้นจะเกลี้ยกล่อมให้เหยื่อเอาบัตรเอทีเอ็มไปตรวจสอบว่าได้รับเงินรางวัลหรือยัง โดยให้กดเมนูเลือกภาษาอังกฤษ พร้อมออกคำสั่งให้กดหมายเลขต่างๆอ้างว่าเป็นรหัสผ่าน เพื่อตรวจสอบว่าเงินเข้าไปในบัญชีหรือยัง โดยเลขต่างๆที่กดไปนั้น เหยื่อจะไม่ทันรู้ตัวว่าเป็นเลขบัญชี และเงินที่โอนให้คนร้าย สำหรับกลุ่มผู้ต้องหาเชื่อว่า มีนายพรรษาเป็นหัวหน้าแก๊ง ใช้วิธีว่าจ้างบุคคลอื่นเปิดบัญชีเป็นทอดๆ
    ขณะที่นายพรรษาให้การปฏิเสธ อ้างว่ามีนายเฉิน ไม่ทราบนามสกุล ชาวไต้หวัน เป็นผู้ว่าจ้าง แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่านายพรรษาอุปโลกน์ขึ้นมา เพราะเมื่อตรวจสอบเส้นทางของเงินผู้เสียหาย ส่วนใหญ่จะมาสุดอยู่ที่นายพรรษา นอกจากนี้ ยังมีพยานระบุว่า นายพรรษาเคยว่า จ้างให้ไปกดเงินตู้เอทีเอ็มแห่งหนึ่ง โดยจะแบ่งเงินให้ 7% ของจำนวนเงินทั้งหมดที่กดมา แต่ต้องสวมหมวกอำพรางใบหน้า ไม่ให้กล้องวงจรปิดจับภาพได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่ง พ.ต.ท. คงเดช สายยางหล่อ พงส. (สบ 3) สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีต่อไป
    ต่อมามีนางบังอร รีดเดอร์ อายุ 60 ปี อาชีพแม่บ้าน 1 ในผู้เสียหาย เดินทางมาที่ สน.ทองหล่อ พร้อมแจ้งว่าถูกฉ้อโกงเงินด้วยวิธีดังกล่าว สูญเงินไปประมาณ 8 หมื่นบาท เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 12 พ.ค. แจ้งความไว้ที่ สน.พระโขนง โดยคนร้ายหลอกให้กดรหัสในเอทีเอ็ม เพื่อตรวจสอบถึง 4 ครั้ง ขณะนั้นมีเงินอยู่ในบัญชี 2 แสนกว่าบาท โชคดีที่ธนาคารพบพิรุธและอายัดไว้ได้ทัน 1.2 แสนบาท


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01col01090650&day=2007/06/09&sectionid=0116


    วันที่ 09 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10682​

    วิถี แห่ง การปฏิบัติ วิถี แห่ง พระอาจารย์มั่น วิถี แห่ง ธัมโมทยาน


    คอลัมน์ วิถีแห่งพระอาจารย์ใหญ่

    โดย ดวงเดือน ประดับดาว



    [​IMG]บังเอิญที่ได้หนังสือชื่อ "อาจาริยธัมโทยาน" มา

    น่าสนใจก็ตรงที่หนังสือนี้ตีพิมพ์เผยแพร่ โดย กลุ่มสวนปรัชญาและพุทธธรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

    ตีพิมพ์ ครั้งที่ 1 จำนวน 10,000 เล่ม เดือนตุลาคม 2536

    ตีพิมพ์ ครั้งที่ 2 จำนวน 1,800 เล่ม เดือนมกราคม 2537

    ตีพิมพ์ ครั้งที่ 3 จำนวน 4,400 เล่ม เดือนตุลาคม 2537

    ตีพิมพ์ ครั้งที่ 4 จำนวน 2,000 เล่ม เดือนกุมภาพันธ์ 2547

    ที่ได้มาเป็นจำนวนการพิมพ์ครั้งหลังสุด อันเป็นการพิมพ์ครั้งที่ 4 จำนวน 2,000 เล่ม ในเดือนกุมภาพันธ์ 2547

    คำนำในการพิมพ์ครั้งที่ 1 บอกให้รู้ว่า

    "หนังสืออาจาริยธัมโมทยาน" ซึ่งมีความหมายว่า "อุทยานธัมมะของอาจารย์" นี้ ได้รับพระเมตตาจาก สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานนาม

    จัดพิมพ์ขึ้นด้วยศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย เพื่อเผยแผ่ธรรมคำสอนของพระมหาเถระฝ่ายอรัญวาสี ผู้ละขันธ์แล้ว จำนวน 19 รูป ให้บรรดาบรรพชิตและคฤหัสถ์ได้ศึกษาและน้อมนำมาประพฤติปฏิบัติสร้างคุณงามดีให้บังเกิดขึ้นในจิตใจ

    ในจำนวนนี้มี "มุตโตทัย" อันเป็นพระธรรมเทศนา ของ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ รวมอยู่ด้วย

    แยกเป็นส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2

    เพื่อความสะดวกจะขอนำเอาท่อนต้นๆ ของส่วนที่ 1 แห่ง "มุตโตทัย" มาให้ได้อ่านและศึกษาดังนี้

    บันทึก โดย พระอาจารย์วิริยังค์ สิรินธโร ณ วัดป่าบ้านนามน กิ่ง อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร พ.ศ.2486

    การปฏิบัติ เป็นเครื่องยังพระสัทธรรมให้บริสุทธิ์

    สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงธรรมว่าธรรมของพระตถาคตเมื่อเข้าไปประดิษฐานในสันดานของปุถุชนแล้วย่อมกลายเป็นของปลอม (สัทธรรมปฏิรูป)

    แต่ถ้าเข้าไปประดิษฐานในจิตสันดานของพระอริยเจ้าแล้วไซร้ ย่อมเป็นของบริสุทธิ์แท้และเป็นของไม่ลบเลือนเสียด้วย

    เพราะฉะนั้น เมื่อยังเพียรแต่เรียนพระปริยัติถ่ายเดียวจึงยังใช้การไม่ได้ดี

    ต่อเมื่อมาฝึกหัด ปฏิบัติจิตใจ กำจัดเหล่า กะปอมก่า หรือ อุปกิเลส แล้วนั่นแหละ จึงจะยังประโยชน์ให้สำเร็จได้เต็มที่

    และทำให้พระสัทธรรมบริสุทธิ์ ไม่วิปลาสคลาดเคลื่อนจากหลักเดิมด้วย

    ฝึกตนดีแล้วจึงฝึกผู้อื่น ชื่อว่าทำตามพระพุทธเจ้า ปริสะทัมสารถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธภะคะวา

    สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทรมานฝึกหัดพระองค์จนได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ

    เป็นพุทโธ ผู้รู้ ก่อนแล้วจึงเป็น ภควา ผู้ทรงจำแนกแจกธรรมสั่งสอนไวเนยสัตย์ สัตถา

    จึงเป็นครูของเทวดาและมนุษย์ เป็นผู้ฝึกบุรุษผู้มีอุปนิสัย บารมี ควรแก่การทรมานในภายหลัง

    จึงทรงพระคุณปรากฏว่า กัลยาโณ กิตติสัทโธ อัพภุคคะโต ชื่อเสียง เกียรติศัพท์อันดีงามของพระองค์ ย่อมฟุ้งเฟื่องไปในจตุรทิศตราบเท่าทุกวันนี้

    แม้พระอริยสงฆ์สาวกเจ้าทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้วก็เช่นเดียวกัน

    ปรากฏว่า ท่านฝึกฝน ทรมานตน ได้ดีแล้ว จึงช่วยพระบรมศาสดาจำแนก แจกธรรม สั่งสอนประชุมชนในภายหลัง

    ท่านจึงมีเกียรติคุณปรากฏเช่นเดียวกับพระผู้มีพระภาคเจ้า

    ถ้าบุคคลไม่ทรมานตนให้ดีก่อนแล้ว และทำการจำแนกแจกธรรมสั่งสอนไซร้ ก็จักเป็นผู้มีโทษ

    ปรากฏว่า ปาปโก สัทโท โหติ คือ เป็นผู้มีชื่อเสียงชั่วฟุ้งไปในจตุรทิศ

    เพราะโทษที่ไม่ทำตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอริยสงฆ์เจ้า ในก่อนทั้งหลาย

    การบันทึกของ พระอาจารย์วิรังค์ สิรินธโร ถือว่าดำเนินไปอย่างเกลาเกลี้ยง

    เกลาเกลี้ยงทั้งในด้านของ การปฏิบัติเป็นเครื่องยังพระสัทธรรมให้บริสุทธิ์ และในด้านของ ฝึกตนดีแล้วจึงฝึกผู้อื่น ชื่อว่าทำตามพระพุทธเจ้า

    เป็นการบันทึกจากพระธรรมเทศนา พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.pharm.chula.ac.th/osotsala/Respiratory/flu.htm

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" border=0><CAPTION></CAPTION><TBODY><TR><TD width="34%"></TD><TD width="33%">
    [​IMG]
    </TD><TD width="33%"></TD></TR><TR><TD width="100%" colSpan=3> ไข้หวัดใหญ่จะพบได้บ่อยมากในคนทุกเพศทุกวัย เป็นมากในช่วงฤดูฝน (ก.ค. – ธ.ค.)
    <BIG>สาเหตุ</BIG>
    เกิดจากเชื้อ influenza virus (มีหลายชนิด A, B, C) ซึ่งจะพบในน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะ
    <BIG>การติดต่อ</BIG>
    ทางลมหายใจ ไอ จาม รดกัน ระยะฟักตัว 1-4 วัน นอกจากเชื้อไข้หวัดใหญ่จะมีชนิด A, B, C แล้วแต่ละชนิด ยังแบ่งเป็นพันธุ์ย่อยๆ ออกไปอีกมากมาย แต่ละครั้งที่เป็นโรค จะเกิดจากพันธุ์ย่อยเพียงพันธุ์เดียว เมื่อเป็นแล้ว ก็จะมีภูมิต้านทานต่อพันธุ์นั้น แต่ไม่สามารถต้านทานพันธุ์อื่นๆ ได้ จึงอาจติดเชื้อจากพันธุ์ใหม่ได้
    <BIG>อาการ</BIG>
    เกิดขึ้นทันทีทันใด จะมีไข้สูง หนาวๆ ร้อนๆ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ เป็นมากที่กระเบนเหน็บ ต้นแขน ต้นขา ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ขมในคอ อาจมีอาการเจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกใส ไอแห้งๆ จุกแน่นท้อง จะมีไข้อยู่ 2-4 วัน แล้วไข้จะค่อยๆ ลดลง ส่วนอาการไอ อ่อนเพลีย อาจจะเป็นอยู่ 1-4 สัปดาห์ บางคนเมื่อหายจากไข้หวัดใหญ่แล้ว อาจมีอาการวิงเวียน เหมือนเมารถเมาเรือ สาเหตุจากมีการอักเสบในหูชั้นใน ที่อวัยวะเกี่ยวกับการทรงตัว อาการจะหายเองภายใน 3-5 วัน
    <BIG>สิ่งตรวจพบ</BIG>
    ไข้ (38.5-40 องศาเซลเซียส) หน้าแดง เปลือกตาแดง น้ำมูกใส คอแดง หรือไม่แดงเลย
    <BIG>อาการแทรกซ้อน</BIG>
    ส่วนมากจะไม่มี มีบ้างที่พบ ได้แก่ ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ หูชั้นในอักเสบ หลอดลมอักเสบ และแทรกซ้อนที่สำคัญคือ ปอดอักเสบ มักจะเกิดจากแบคทีเรีย พวก นิวโมค็อกคัส หรือ สแตปฟีโลค็อกคัส ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงมักเกิดในเด็กเล็ก คนสูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน คนที่สูบบุหรี่จัด หรือผู้ป่วยที่มีโรคของปอดเรื้อรัง ส่วนการเกิดภาวะแทรกซ้อนถึงตายนั้นนับว่าน้อยมาก มักจะเกิดในเด็กเล็ก หรือคนสูงอายุที่ร่ายกายอ่อนแออยู่ก่อน
    <BIG>การปฏิบัติตัว</BIG>
    <!--msimagelist--><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><!--msimagelist--><TBODY><TR><!--msimagelist--><TD vAlign=baseline width=42>[​IMG]</TD><TD vAlign=top width="100%">นอนพักมากๆ ไม่ตรากตรำทำงานหนัก ไม่อาบน้ำเย็นเวลามีไข้สูงใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัว ไข้ลงแล้วควรอาบน้ำอุ่นอีก 5 วัน <!--msimagelist--></TD></TR><!--msimagelist--><TR><!--msimagelist--><TD vAlign=baseline width=42>[​IMG]</TD><TD vAlign=top width="100%">รับประทานอาหารอ่อน ๆ<!--msimagelist--></TD></TR><!--msimagelist--><TR><!--msimagelist--><TD vAlign=baseline width=42>[​IMG]</TD><TD vAlign=top width="100%">ดื่มน้ำและน้ำผลไม้และน้ำหวานมาก ๆ<!--msimagelist--></TD></TR><!--msimagelist--><TR><!--msimagelist--><TD vAlign=baseline width=42>[​IMG]</TD><TD vAlign=top width="100%">เวลาไอหรือจามควรใช้ผ้าปิดปากและจมูก<!--msimagelist--></TD></TR><!--msimagelist--><TR><!--msimagelist--><TD vAlign=baseline width=42>[​IMG]</TD><TD vAlign=top width="100%">หมั่นล้างมือให้สะอาด<!--msimagelist--></TD></TR><!--msimagelist--></TBODY></TABLE><BIG>การรักษา</BIG>
    <!--msimagelist--><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><!--msimagelist--><TBODY><TR><!--msimagelist--><TD vAlign=baseline width=42>[​IMG]</TD><TD vAlign=top width="100%">ใช้ยารักษาตามอาการ เช่น<BIG> ยาลดไข้แก้ปวด ยาแก้ไอ ยาแก้ไอขับเสมหะ ยาแก้แพ้ลดน้ำมูก ยาบรรเทาอาการหวัดคัดจมูก</BIG> เป็นต้น<!--msimagelist--></TD></TR><!--msimagelist--><TR><!--msimagelist--><TD vAlign=baseline width=42>[​IMG]</TD><TD vAlign=top width="100%">การใช้ <BIG>ยาปฏิชีวนะ</BIG> ไม่จำเป็นทุกราย เนืองจากโรคนี้มีสาเหตุจากเชื้อไวรัส ดังนั้นจะให้เมื่อมีภาวะแทรกซ้อนจากเชื้อแบคทีเรีย เช่น มีน้ำมูก เสลด สีเหลืองหรือเขียว หูชั้นกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบเป็นต้น<!--msimagelist--></TD></TR><!--msimagelist--><TR><!--msimagelist--><TD vAlign=baseline width=42>[​IMG]</TD><TD vAlign=top width="100%">ถ้ามีอาการหอบหรือสงสัย ปอดอักเสบ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือเด็กเล็ก อาจส่งโรงพยาบาลด่วน<!--msimagelist--></TD></TR><!--msimagelist--></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <CENTER><TABLE cellSpacing=0 width="95%" border=1><CAPTION></CAPTION><TBODY></TBODY></TABLE></CENTER>​
     

แชร์หน้านี้

Loading...