ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

​

 

สัมผัสมหัศจรรย์หลวงปู่<O</O
หลังจากนักเรียนสอบวัดผลปลายปีเสร็จแล้วคณะครูอาจารย์โรงเรียนเทศบาลวัดเสมาเมืองจะไปทัศนศึกษาและพักผ่อน ปีนี้ได้เลือกไปเที่ยวจังหวัดสตูล ชมเกาะตะรุเตา เกาะไข่ เกาะหลีเป๊ะและจะเลยไปถึงเกาะลังกาวี ซึ่งเป็นเกาะหนึ่งของประเทศมาเลเซีย<O</O
เราเตรียมตัวไปทัศนศึกษาอยู่หลายวันและจองทัวร์ไปเกาะลังกาวี เราได้วันเดินทางของเรา เริ่มตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันศุกร์ที่ 24 มีนาคม 2543 ออกจากโรงเรียนเทศบาลวัดเสมาเมือง รถได้มุ่งหน้าไปจังหวัดสตูล เวลา 10.30 น. ถึงท่าเรือปากบารา เราขนสัมภาระลงเรือเพื่อไปชมและพักแรมเกาะหลีเป๊ะ เป็นจุดมุ่งหมายแรก 1 คืน ขากลับเราจะแวะเที่ยวชม เกาะตะรุเตา เกาะไข่ ตามลำดับ เรือที่คณะของเราใช้เป็นเรือหาปลา แต่ดัดแปลงเป็นเรือนำเที่ยว 2 ชั้น บรรจุคนได้ร้อยกว่าคน แต่คณะของเรามีจำนวนเพียง 65 คนเท่านั้น จึงกว้างขวาง เมื่อเราพร้อมกันในเรือ จัดสัมภาระพร้อมเช่น อาหาร น้ำ กระเป๋าเสื้อผ้า ตามกำหนด เรานอนพักแรมที่เกาะหลีเป๊ะ 1 คืนในขณะที่เราจัดสัมภาระนั้นเรือก็ออกจากท่าปากบาราอย่างช้าๆ ลมพัดเอื่อยๆ เรามีความรู้สึกว่า เรามีความสุขกันทุกคน ฉันแอบสังเกตกริยาอาการ แววตาที่อาจารย์ทุกท่านแสดงออกมา อาจารย์บางท่านได้พาลูกมาด้วย จะชี้ชวนลูกๆดูวิวรอบๆตัว ท้องฟ้า น้ำทะเล สีฟ้าเข้ม สมกับคำกล่าวขาน “อันดามัน” ในขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 11.00 น. ถึงแม้ว่าไม่ใช่เป็นเวลา อาหารกลางวันแต่เราออกรถตั้งแต่เช้าตรู่ จะรู้สึกหิวจึงรับประทานอาหาร โดยไม่มีการชวนเชิญ แต่เมื่อทุกคนเอาอาหารออกมาร่วมรับประทานก็แลกเปลี่ยนสลับกับการพูดคุย เรารู้สึกสนุกสนานและมาพักผ่อนจริงๆ จากลมพัดแผ่วๆจะเริ่มโหมกระหน่ำแรงขึ้นๆ เสียงเรือกระทบกับคลื่นดังสนั่นเสียงพูดคุย หยอกเย้ากัน เงียบกริบทันที ปล่อยให้เสียงธรรมชาติแสดงฤทธิ์เดช ฉันก้มดูนาฬิกาข้อมือ เรือออกจากปากบาราประมาณร่วมชั่วโมงแล้ว ฉันเหลือบดูหน้าของอาจารย์ทีละคน เปลี่ยนจากมีความสุข จะมีความกังวลตกใจว้าวุ่นมาแทนที่ บ้างก็โอบกอดลุกเพื่อเป็นการปลอบประโลม ให้มีความมั่นใจ คลื่นทวีความรุนแรง อาหารที่รับประทานเสร็จใหม่ๆต้องคายออกมาโดยหาถุงที่ไม่ใช้แล้วมารองอาเจียน แต่เราก็ทำกันต่อไปไม่ได้นานจำยอมต้องทำกันเกลื่อนตามพื้นเรือ คลื่นลูกโตขึ้นๆวิ่งชนเรืออย่างหนัก ( ทราบภายหลังสูงประมาณ 2 เมตรครึ่ง ) <O</O
ฉันตกใจมากที่สุด เราจะพาเพื่อนๆมาพบกับอุบัติเหตุร้ายแรงเช่นนี้หรือ แทบทุกคนมีอาการแย่ลงแข่งกับเสียงคลื่น บางคนต้องฟุบหน้ากับเก้าอี้ บ้างต้องนอนราบกับพื้นเรือ แม่ลุกไม่มีใครช่วยใคร เพราะไม่มีแรงจะเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกันแล้ว ฉันทำอะไรไม่ถูกเลยโชคดีที่ฉันไม่มีอาการเหมือนเพื่อนๆ ฉันนั่งสงบตั้งสมาธิ ท่องคาถาหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ให้ช่วยคุ้มครองคณะของเรา<O</O
<O</O

“นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา” <O</O
<O</O
ฉันท่องในใจก่อน พายุโหมหนัก ฉันยิ่งเปล่งเสียงท่องคาถาหลวงปู่ทวดดังแข่งกับเสียงคลื่น ดังขึ้น ดังขึ้น ฉันทบทวนดูว่าตั้งแต่ฉันลงเรือ ฉันไม่ได้ท่องคาถาบทนี้เลย ฉันลืมตัวคิดแต่ความสนุก คิดแต่ทำอย่างไรที่จะให้คณะครูสนุกสนานเต็มที่ เพราะคาถาบทนี้ฉันเคยท่องตั้งแต่ ล้มตัวนอน ไปเที่ยวขึ้นรถลงเรือ ( ก่อนขึ้นรถหน้าโรงเรียนเสมาเมือง ฉันไหว้ ขอพรจากเจ้าแม่อ่างทอง พ่อเสมาชัย พระบนรถที่คณะเรานั่งมา ผ่านพระธาตุไหว้พระธาตุเท่านั้น ) แต่ลงเรือที่ปากบาราฉันไม่ได้ปฏิบัติ<O</O
ลมค่อยสงบลง สงบลง ฉันก็ยังท่องคาถาไม่ขาดปาก คาถาหลวงปู่ทวดให้ลมสงบและปลอดภัยได้ แต่ย่นระยะทางให้สัส้นเข้าไม่ได้แต่เราไม่ต้องประสบปัญหาอันเลวร้ายในชีวิต เรือฝ่าคลื่นมาด้วยความปลอดภัยถึงเกาะหลีเป๊ะเวลาประมาณ 16.00 น. กว่าๆการเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงเศษ มันไม่สนุกเลย หลายคนสงสัยว่าฉันทำไมไม่เมาคลื่นเพราะอายุก็มากที่สุดในเรือลำนั้น ) ครูผู้หญิงประมาณ 5-6 คน ครูผู้ชายทุกคนไม่เมา ) เมื่อขึ้นฝั่งฉันจึงเฉลยปัญหาว่าที่เราปลอดภัยทั้งลำเรือและตัวฉันเองไม่เมาคลื่นเลย เพราะฉันท่องคาถาหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด จังหวัดปัตตานี อาจารย์ได้ยินเกิดความศรัทธาในคาถาบทนี้ ให้ฉันบอกให้จด ฉันท่องให้ฟังดังนี้<O</O
<O</O
“นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา”<O</O
อีกครั้งฉันเล่าประสบการณ์จริงให้ฟังว่าคาถาบทนี้ช่วยเราได้ ไม่ว่าจะให้ช่วยอะไรเราก็ได้ เช่น สะกดจิตโจร หรือ ปลอดภัยจากอุบัติเหตุต่างๆได้<O</O
เช้ารุ่งขึ้นที่หลีเป๊ะคณะครูดูสดชื่นขึ้น หลังจากได้นอนพักผ่อน นอนหลับและท่องคาถาหลวงปู่ทวด ถึงเวลาที่เราจะต้องจากหลีเป๊ะที่สวยงามและบริสุทธิ์แล้วคณะครูจัดสัมภาระเตรียมตัวขึ้นเรือ เกิดความหวาดกลัวเหมือนขามาเมื่อวานนี้ “มีเฮลิคอปเตอร์หรือเครื่องบิน มารับฉันที ฉันกลัวจัง” หน้าตา เสียงที่พูดจริงจัง หวาดผวา<O</O
“ไม่ต้องกลัววันนี้ เราขึ้นเรือแล้วท่องคาถาหลวงปู่ทวดพร้อมกันนะ” ฉันชวนเพื่อนๆและมีความเชื่อมั่นว่าไม่เกิดเหตุร้ายแน่นอน ฉันมีประสบการณ์มหัศจรรย์ของคาถานี้มานับครั้งไม่ถ้วน<O</O
การเดินทางขากลับเมื่อขึ้นเรือ ฉันนำคณะครูท่องคาถาหลวงปู่ทวดเป็นที่น่ามหัศจรรย์ เรือแล่นในท้องทะเล เหมือนแล่นบนผิวกระจก เป็นเรือสำราญตรงตามที่ประสงค์ที่คณะเราคาดหวังไว้ เราร้องรำทำเพลง เล่านิทานอย่างสนุกสนานตลอดเวลา 5 ชั่วโมงขามาและขากลับมีความแตกต่างกัน ไม่เชื่อแต่ก็ต้องเชื่อ คณะเราไม่ได้แวะเกาะตะรุเตา เกาะไข่ ตามกำหนดการ เพราะมีเหตุขัดข้องในเรื่องของเวลา แต่วันรุ่งขึ้นอีกวัน เราก็จะไปซื้อของที่เหาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย ทัศนศึกษาของคณะครูโรงเรียนเทศบาลวัดเสมาเมืองปี2000 มหัศจรรย์จริงๆซึ่งเราสัมผัสได้ไม่รู้ลืม
<O</O
<O</O



ที่มา......

http://thodhuakhon.tripod.com/1myth.htm]

 

เหรียญเม็ดแตง หลวงพ่อทวดวัดช้างให้ หลวงพ่อนอง...

​

 

เมื่อเช้านี้ ได้ดูโทรทัศน์ทางช่อง 3 อุบัติเหตุ รถบรรทุกน้ำมันดีเซล สลักหลุด เสียหลักตกถนน น้ำมันไหลเต็ม ร่องถนน ชาวบ้านไปตักน้ำมันใส่กระป๋องกันสนุกสนาน โดยไม่เกรงกลัวอันตราย และรถไม่เกิดระเบิด หรือไฟไหม้ ผู้สื่อข่าวขอดูพระที่คนขับห้อยอยู่องค์เดียว ปรากฏเป็นพระหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด แต่ไม่ทราบว่าสร้างที่ไหน เพราะพระเลี่ยมกรอบ

กราบหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด หรือพระองค์ที่ ๑ พระ เถวะโรวาส กราบหนึ่ง กราบสอง กราบสาม

 

เมื่อเช้าระหว่างเตรียมรับคณะของคุณสุดารัตน์ จะมาเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่รพ. เจอน้องช่างไฟ เล่าให้ฟังว่าพี่ชาย กำลังไปซื้อโทรศัพท์ที่ในลีกาเดนส์ช่วงนั้นอยู่ที่ร้านขายโทรศัพท์ แรงระเบิด ตู้กระจกแตกและควันไฟเต็มไปหมด พี่เขาแขวนหลวงพ่อทวด และวิ่งตามแสงสว่างออกมา แต่หน้าตาดำหมด เพราะควันไฟ (ไม่เป็นอะไรเลย) เชื่อว่าบารมีของหลวงพ่อทวดถึงวิ่งออกมาได้

 

กราบ ลป.ทวด ด้วยเศียรเกล้า


Thanks: ฝากรูป

 

เมื่อเช้า ดูข่าวสรยุทธ พาไปดูคนเจ็บ ที่ยะลา และสภาพบ้านเรือน

อยากจะรู้ไอ้สัตว์นรกที่ทำกับคนอื่นได้ถึงขนาดนี้พวกมันทั้งหลายมันเกิดเป็นคนขึ้นมาได้ยังงัย

 

ผมลงใต้ไปกราบพ่อท่านนองครั้งสุดท้าย เดือนมี.ค. ก่อนท่านละสังขาร
ก็เป็นจริง ตามที่คุณแล่มเขียน

มีสายท่อออกซิเจนระโยงระยาง
ผมเห็นแล้ว ความตั้งใจรอเพื่อขอให้ท่านช่วยเป่ากระหม่อมให้ หมดลงทันที

ตอนนั้นก็มีหลายคนที่คิดเหมือนกับผม
แต่ก็ยังมีอีกหลายคน ยังคงต่อคิวกันให้ท่านเป่ากระหม่อม


ขอได้แค่กราบทันพ่อท่านนอง
มีตะกรุดนารายณ์แปลงรูปของท่านคล้องคอก็พอใจแล้วครับ

น้อมกราบหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด









น้อมกราบพ่อท่านนอง ธมมภูโต



.....
​

 

.

เหรียญหลวงพ่อทวด ธุดงค์
วัดทรายขาว เสาร์ ๕ ปี ๒๕๓๙








.....

​

 

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงพระกรุณาโปรดให้ คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นผู้แทนพระองค์ มอบทรัพย์ส่วนพระองค์และเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิด ณ โรงพยาบาลหาดใหญ่ 4 เมษายน 2555
11.00 น.

 

สวยงามมากเลย. สุดยอดดดด

 

หลวงพ่อทวด......

 

หลวงพ่อทวด 2497
ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๒เป็นต้นมา ได้ศึกษาและเก็บข้อมูลเรื่องมวลสาร การสร้าง การปลุกเสก
หลวงพ่อทวดเนื้อว่านปี ๒๔๙๗ วัดช้างให้ โดยได้ขอคำแนะนำจากครูบาอาจารย์และผู้เฒ่า
ที่ท่านนั้นมีส่วนร่วมได้เห็นการสร้างและการปลุกเสก อาทิเช่น หลวงพ่อนอง วัดทรายขาว
หลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์ หลวงพ่อสุข วัดตุยง และญาติโยมผู้เฒ่าข้างวัดอีกหลายท่าน
เพื่อเป็นข้อมูลที่จะนำมาสร้างหลวงพ่อทวด วัดเก่าเจริญธรรม ปี พ.ศ. ๒๕๓๙ ทำให้รู้ข้อมูล
เบื้องลึกเรื่องมวลสาร พิมพ์พระ การสร้าง การปลุกเสก พวกเนื้อพิเศษ พิมพ์พิเศษ ที่ทำใช้
กันเอง (เรียกว่าเนื้อแอบกด พิมพ์แอบทำ )เอามวลสารพิเศษของตนที่เก็บไว้มาผสมเสริม
กดพิมพ์ไว้ใช้เอง แกะพิมพ์เลียนแบบ เอามวลสารของวัดมากดพิมพ์เพื่อเก็บเอาไว้ใช้เอง
ส่วนการปลุกเสกนั้น เริ่มแรกเป็นการภายในใครว่างก็นิมนต์กันมา ตามวาระต่างๆที่ครูบาอาจารย์
ท่านว่างและมีเวลา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสหธรรมิกที่สนิทและคุ้นเคยของหลวงพ่อทิม วัดช้างให้
และพระในเขตจังหวัดปัตตานีที่รู้ข่าวการสร้างพระหลวงพ่อทวดมาเยี่ยมชมและช่วยสร้างช่วยทำ
จึงอาจจะพูดได้ว่า " พระที่บวชก่อนปี พ.ศ. ๒๔๙๗ ในเขตใกล้เคียงวัดช้างให้นั้น มีส่วนร่วมเกือบทุกรูป"
พระพรรษาน้อยก็ช่วยสร้าง พรรษามากขึ้นหน่อยก็ช่วยสวด พรรษามากก็ช่วยเสก สร้างกันไปเสกกันไป
และการสร้างพระเนื้อว่านตำมือกดมือนั้น จะพิเศษจากการสร้างพระเนื้ออื่น แต่ละครกเนื้อจะมีเอกลักษณ์
ที่แตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับส่วนผสม มวลสาร ระยะเวลา น้ำหนักในการตำผสม ระยะเวลาในการกดพิมพ์
ความแห้ง ความเหนียว ของลูกกระสุน (เมื่อตำผสมเสร็จแล้วจะปั้นเป็นลูกกระสุนกลมๆขนาดพอกดเต็มพิมพ์)
ปั้นกันเป็นร้อยๆลูกใส่ถาดไว้ ลูกที่เอามากดก่อนก็จะเต็มพิมพ์กดง่าย ลูกหลังๆก็จะแห้งและกดยากไม่เต็มพิมพ์
ลูกที่ตำไม่ถึงก็จะเหนียวน้อยแตกลาน ลูกที่ตำเหลวไปพิมพ์ก็จะบิดเบี้ยวเมื่อเนื้อแห้งแล้ว ลูกกระสุนที่แห้งนั้น
เวลากดพิมพ์ หน้าจะไม่เต็ม หลังจะนูน เพราะกดไม่ลงเต็มพิมพ์ จึงผิดเพี้ยนกันไปในแต่ละองค์ทั้งที่พิมพ์เดียวกัน
มวลสารครกเดียวกัน หลวงพ่อทวดเนื้อว่าน ๙๗ ทุกองค์จึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
การจะบูชาพระหลวงพ่อทวดเนื้อว่าน ปี ๒๔๙๗ นั้น ถ้าจะให้แน่นอนที่สุดก็คือที่มาที่เชื่อถือได้เป็นอันดับแรก
รองลงมาก็เรื่องความเก่า(อายุว่านถึง ความแห้งถึง) ส่วนเรื่องคราบไขนั้นขึ้นอยู่กับความชื้นในแต่ละสถานที่ที่พระ
ไปอยู่ พิมพ์พระนั้นจะใกล้เคียงกันในแต่ละบล๊อกแต่ละพิมพ์ แต่จะไม่เหมือนกัน(เดะ)ทุกอย่าง ทุกองค์จะมีเอกลักษณ์
เฉพาะตน จากประสพการณ์ที่สร้างหลวงพ่อทวดเนื้อว่านมา ๔ รุ่น ประมาณ ๓ แสนกว่าองค์ (รุ่นละ ๘๔,๐๐๐ องค์)
หามวลสาร ผสมมวลสาร ตำผสมมวลสาร กดพิมพ์ ทำมาทุกอย่างด้วยตัวเองมาแล้ว ทำให้รู้และเข้าใจในเรื่องพระเนื้อว่าน
พอสมควร และรูปเหมือนตัวแทนของหลวงพ่อทวดนั้นจะมีข้อพิเศษ คือความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง มีพลังเพราะมีเทวดารักษา
และขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้สร้างและผู้ทำที่บริสุทธิ์ เพราะหลวงพ่อทวดท่านเป็นมหาโพธิสัตย์ มีบุญฤทธิ์สำเร็จด้วยจิตอธิษฐาน
เทวดาที่เป็นบริวารจะร่วมสร้างบารมี เป็นพระที่ไม่มีคำว่าปลอม(ของปลอมนำมาปลุกเสกใหม่ก็จะกลายเป็นของจริง มีพลัง)
แต่คุณค่าในเชิงพานิชนั้น เขาจะเล่นกันตามค่านิยมของผู้ที่เรียกตนเองว่า " เซียน " เอาสิ่งที่ตนรู้และตนมีมาเป็นบรรทัดฐาน
ว่าเป็นพระแท้หรือพระปลอม หลวงพ่อทวดเนื้อวา่น ปี๒๔๙๗ นั้น ไม่มีใครเป็น "เซียน"ที่รู้จริงและชัดเจน
คนที่บอกว่าตนเองเป็น "เซียน"นั้น โดนกันมามากแล้วทุกคน (แต่ไม่ออกอาการ) กลัวเสียฟอร์ม " เซียน "
ที่กล้าพูดก็เพราะว่า เคยส่งทีมงานไปลองของ ผู้ที่เรียกตนเองว่าเป็น " เซียนหลวงพ่อทวด ๙๗ " มาแล้วเกือบทุกคน
แม้แต่ตัวผู้เขียนเอง ก็ยังไม่กล้าที่จะบอกว่าตนเองนั้นเป็นเซียน ทั้งที่ได้ศึกษามาทั้งในทางทฤษฎีและการปฏบัติมาแล้ว
จึงขอฝากไว้เป็นข้อคิดให้นำไปพิจารณาด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ เวลา ๑๑.๕๓ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย

อ้างอิง...
http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=20320

 

ชมรมคนรักษ์พระเครื่องเมืองสงขลา
..เก็บมาเล่าต่อ..







<TABLE border=1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="80%" bgColor=white align=center><TBODY><TR><TD bgColor=white>

<CENTER> </CENTER>
[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- อาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2554 00:00:05 น. [/FONT]
[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์ [/FONT]
[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]สามปีที่ผ่านมานี่ ผมและชาวคณะไทยโพสต์ ที่มีหัวหน้าคณะชื่อเถ้าแก่ เปลว สีเงินแห่ง คนปลายซอย เห็นว่าบ้านเมืองมัน วิกฤติจนแสนวิกฤตินักทางสามจังหวัดภาคใต้ หัว หน้าคณะเลยต้องออกจากปลายซอยมาเดินนำหน้า พาสมัครพรรคพวกไปยังหัวเมืองที่ไม่ค่อยจะมีใครยอมไปกันนัก ด้วยการเชิญชวนกันไปทำบุญทอดผ้าป่ากันมั่ง ทอดกฐินกันมั่ง หาเงินไปสมทบทุนเพื่อการศึกษาให้กับโรงเรียนพระปริยัติธรรมกันมั่ง ก็ต้องเสี่ยงกันไม่น้อยละครับในแต่ละครั้งที่ไปกัน...แต่พวกเราก็เต็มใจที่จะไปกันด้วยศรัทธาและความหวัง ที่อยากให้คนอื่นๆ เห็นว่า จริงๆ แล้ว อันตรายนั้นมันมีโดยปกติอยู่ในทุกๆ ที่อยู่แล้ว ไม่ว่าจะที่ไหนๆ ก็ตาม อีกอย่าง พวกเราตั้งใจไปทำความดีกัน มันจึงไม่น่า (อย่างยิ่ง) ที่จะเกิดขึ้นกับพวกเรา ที่ไม่ได้ไปเป็นพิษเป็นภัยอะไรให้กับใคร แถมยังชวนกันไปเพื่อที่จะสมานฉันท์ ทั้ง ไทยพุทธ และไทยมุสลิม ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่งด้วย [/FONT]


[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]วัดช้างให้ ตำบลโคกโพธิ์ อำเภอโคกโพธิ์นั้น เป็นวัดที่ชาวพุทธทั้งประเทศรู้จักกันดีว่า ที่วัดนี้มี หลวงปู่ทวด ที่พวกเราชาวพุทธให้ความเคารพนับถือ และยึดถือเอาเป็นที่พึ่งกันมาตลอด [/FONT]

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]สมัยก่อนๆ ที่ผมเคยไป จะเนืองแน่นไปด้วยผู้คนทุกเพศทุกวัยที่มุ่งหน้าไปกราบสักการะและขอพร ขอบารมี จากหลวงปู่ทวดกันจนเต็มวัด ขนาดที่ที่จะยืนกันก็ยังแทบจะหายากเลยเชียว [/FONT]

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]แต่ระยะหลังๆ คือ หลังจากกรณีที่มีอดีตนายกฯ ที่มีปาก (สร้างเรื่อง) ที่ไปประณามเรื่อง โจรกระจอกภาคใต้ ที่บอกว่าตัวเองจะปราบให้ดูได้ภายในเวลาไม่ กี่วัน แต่ก็ทำไม่สำเร็จ แถมพอมีกรณีฆ่ากลุ่มมุสลิมที่กำ ลังทำการละหมาดอยู่ใน มัสยิดกรือเซะ ตายลงเป็นจำ นวนมากเข้า [/FONT]

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา กลียุคก็เกิดขึ้นกับสามจังหวัดในภาคใต้ของประเทศไทยอย่างไม่หยุดหย่อน อย่างไม่เว้นแม้แต่ละวันจนถึงบัดนี้ ซึ่งก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายลงไปได้เลยแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว แม้ว่าจะได้เปลี่ยนรัฐบาลไปแล้วถึง ๕ นายกรัฐมนตรีแล้วก็ตามที [/FONT]


​

<IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 80px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/vreply.php%3fuser%3deonweerapong%26topic%3d6053&layout=standard&show_faces=true&width=450&action=like&font&colorscheme=light&height=80" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>




</TD></TR><TR><TD>[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]โดย คนดีหลวง [17 ก.พ. 2554 , 15:44:12 น.] ( IP = 122.154.16.246 : : )[/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="80%" bgColor=white align=center><TBODY><TR><TD bgColor=white>[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]ข้อความ 1[/FONT]

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]สามจังหวัดภาคใต้ ทุกอำเภอ ทุกตำบล จึงเป็น กลียุคจริงๆ เพราะไม่ว่าลามเข้ามาถึงหาดใหญ่ใครๆ แม้คนในพื้นที่เอง จนถึงพวกเราที่ทำใจกล้าลงไป แม้จะด้วยมีเจตนาดีก็ตาม ผมเชื่อในจิตสำนึกเหมือนๆ กันครับ คือ ปอด ไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวซักเท่าไร...แต่นั่นแหละครับ ก็ถ้ามัวแต่จะกลัวกัน ยอมรับเอาความหวาดกลัวกันมาครอบงำจิตสำนึกแล้ว ไม่ช้า สามจังหวัดภาคใต้ก็จะต้องกลายเป็น ป่าช้า หรือไม่อีกทีก็คงถูกลบเลือนให้หายไปจาก แผนที่ของประเทศไทย จนได้ซักวันลองหลับตานึกดูสิครับ แผนที่ประเทศไทย ของ เรา เดิมทีเป็นรูป ขวานทอง ที่สวยงามเล่มหนึ่งในแผน ที่โลก แม้เราจะได้ถูกอำนาจอันกักขฬะจากประเทศที่มี กองทัพแสนยานุภาพที่เหนือกว่ามาบดบัง ลิดรอน ข่มขืน เชือดเฉือน และหั่นเอาแผ่นดินของไทยไปเป็นอาณานิ คมของพวกมันจนขวานทองของเราต้องมีรูปให้ต้อง แหว่งเว้า จนแทบจะไม่เป็นรูปเป็นทรง แต่ก็ยังพอจะแสดงเค้าลางให้พอเห็นเป็นรูปขวานอยู่.. หากเราจะต้องมาเสียสามจังหวัดไปอีก ขวานพอมันไม่มีด้ามเข้า รูปร่างมันก็คงไม่ผิดอะไรกับกองก้อนอะไรที่ไม่น่าดู จนไม่อยากนึกถึงเอาเลยทีเดียวแหละ [/FONT]

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]จริงๆ แล้วการไปทอดผ้าป่ามั่ง ทอดกฐินมั่ง หา เงินไปถวายให้กับโรงเรียนพระปริยัติธรรมมั่ง เราก็ไม่ เคยละเลยถึงองค์กรและกิจกรรมต่างๆ ของพื้นบ้าน ตั้ง แต่ ชมรมแม่บ้านมุสลิมชมรมอุปถัมภ์เยาวชนอิสลามกำพร้า ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ตามหมู่บ้านก็มีอยู่หลายครั้งหลายแห่งจนเป็นที่รู้กันถึงกิจกรรมที่พวกเราไปทำกันนี้ [/FONT]

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]จริงๆ แล้ว (อีกที) การที่พวกเราชักชวนกันไปสร้างกิจกรรมดีๆ อย่างนี้ มันก็ไม่ได้เป็นรูปเป็นผลอะไรมากมายนัก เพียงแต่เราคิดกันว่า การที่พวกเรามีเจตนาดีๆ ให้กับท้องถิ่นที่กำลังมีเหตุร้ายๆ อันอุบัติขึ้นทุกๆ วัน ในรูปของการเป็นวิกฤตินี้ พวกเราแม้จะเป็นเพียงน้ำหยดเล็กๆ ก็ไม่ได้ตั้งความหวังจนถึงขนาดว่าจะสามารถที่จะ ไปสร้างความชุ่มชื้นให้กับผืนแผ่นดินอันแห้งผาก ที่กำลัง ขาดน้ำ (ใจ) ลงไปอยู่ทุกๆ วันอย่างในขณะนี้ เราจึงเพียง ตั้งความหวังเอาไว้แต่เพียงว่า คนเราเมื่อเกิดมามันก็ต้อง ตายลงด้วยกันทุกๆ คน ไม่ว่าเราจะอยู่ในที่ไหนก็ตาม น้ำใจที่พวกเราพอมีอยู่จึงได้ชักชวนกันมาช่วยเจียดและแบ่งปันกันไปบ้างตามกำลัง แม้จะทำได้ไม่ทั่วถึงเสียทีเดียวก็ตาม หากคนอื่นๆ คิดเหมือนอย่างพวกเรา คนละนิดคนละหน่อยตามสภาพกำลังที่พอจะหยิบยื่นเจือจุนกันได้ หลายๆ มือ หลายหนเข้า สภาพการมันน่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีบ้าง หรืออย่างน้อยคนในพื้นที่ก็คงไม่ถึงกับต้องถูกปลดปล่อยให้ตกอยู่ในความอ้างว้างว้าเหว่เดียวดาย และต้องเฉาตายลงในที่สุด [/FONT]

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]การไปกราบหลวงพ่อทวดทำให้ผมอดนึกถึงเพื่อน ร่วมอาชีพรุ่นน้องของผมคนหนึ่งขึ้นมาได้ เขาเป็นอิสลาม รับราชการเป็นทหารเรือ ชื่อ วสันต์ มูบินฮะซัน มียศเป็นจ่า เขามีความชำนาญในการเล่นตลก และคุยเก่ง ในช่วงปี ๒๔๙๘ พระหลวงพ่อทวดโด่งดังมากๆ พระปลอม เหรียญปลอม มีออกมาขายกันเกลื่อนตลาดพระทั่วประเทศ จ่าวสันต์ของผมก็เลยมองเห็นกำไรจากการขายพระและเหรียญปลอมให้กับผู้ที่ต้องการเช่าไปบูชาสบายกระเป๋าไปเลยครับ [/FONT]

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]จากคำบอกเล่าจากปากของเขาเองว่าตอนนั้นเขาทำเงินจากการปั้มเหรียญปลอมออกขายนี้มากมายทีเดียว แต่...อยู่มาวันหนึ่งขณะที่เขานอนและฝันไปว่า หลวงปู่ทวดได้มาเข้าฝันและบอกกับเขาว่า [/FONT]

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]"เออ...ถึง.เอ็งจะปลอมข้าออกมาขาย หรือ หลอกใครเขาก็ตาม ขอให้เอ็งรับรู้ไว้ด้วยว่า ถ้ามีรูปข้า ข้าก็อธิษฐานให้ศักดิ์สิทธิ์ได้ทั้งนั้น" [/FONT]

":d" หลวงปู่ทวดพูดถูกใจค่ะ

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]เขาเล่าให้ทุกๆ คนฟังในเรื่องความฝัน แล้ว เอาเหรียญและพระปลอมที่เขาเคยเอามาขายถวายวัดไปหมด แล้วบอกว่า พอตื่นขึ้นมาก็ขอสาบานว่าจะเลิกกิจกรรมนี้ เลิกอาชีพนี้ [/FONT]

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]เชื่อผมไหมครับ จ่า วสันต์ มูบินฮะซัน ได้หันมานับถือศาสนาพุทธหลังจากวันนั้นไม่นาน และวันหนึ่งเขาก็มาหาผมในลักษณะของสมณเพศ ได้ความว่า เขาไปอุปสมบทเป็นพระอยู่แถวๆ วัดทางอยุธยา ปัจจุบันนี้เขาได้กลายเป็นสมภารไปเสียแล้ว มีลูกศิษย์ลูกหาที่ให้ความเคารพนับถือไม่น้อยเชียว [/FONT]

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]หลวงพ่อทวดในปักษ์ใต้มีด้วยกันหลายแห่ง หลายวัด ตั้งแต่สงขลาไปถึงยะลา เฉพาะที่ปัตตานีเองก็มีถึงสองสามวัด พวกเรานับถือและพยายามหาเวลาไปกราบกันเสมอๆ หากมีเวลาและโอกาสด้วยความเชื่อมั่นและยึดถือว่า [/FONT]

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อทวดคงช่วยปัดเป่าความทุกข์ยาก ความวิบัติต่างๆ ที่ได้เกิดขึ้นในแผ่นดินไทยเวลานี้ให้ผ่อนคลายลง และเป็นแผ่นดินที่มีแต่ความเป็นสันติสุขได้ดุจเดิม ตามปรารถนาของทุกๆ คนในผืนแผ่นดินนี้นะครับ... [/FONT]

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]เชื่อผมเถอะ!?[/FONT]
​

</TD></TR><TR><TD>[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]โดย คนดีหลวง [17 ก.พ. 2554 , 15:45:07 น.][/FONT]
[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]( IP = 122.154.16.246 : : )[/FONT]





</TD></TR></TBODY></TABLE>

อ้างอิง
http://thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/vreply.php?user=eonweerapong&topic=6053]

 

​

สวัสดี ขอรับ คุณนวล ขอบคุณแทนเพื่อนๆ ที่นำข้อมูล มาเพิ่มเติม​

 

​

 

ฉ่อย การันตีประสบการณ์ฉ่อย การันตีประสบการณ์หลวงปูทวดรุ่นปลอดหนี้

ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- อาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2555 00:00:14 น.
<STYLE>.expanded { width: 620px; z-index: 9999 }</STYLE>หลวงพ่อทวด หนึ่งในผู้ชำนาญการพระหลวงพ่อทวดนานกว่า ฉ่อย ท่าพระจันทร์ หรือสกล ศรีหิรัญโชติ อมตะพระ50 ปี กล้าออกมาการันตีความเป็นอมตะพระหลวงพ่อทวดอย่างเปิดเผยว่า ประสบการณ์ดีมีหลายรุ่น หนึ่งในนั้นคือ รุ่นปลอดหนี้ ที่ต้องเก็บ เปิดดูตำราเล่มโตของอาจารย์ฉ่อย แม้จะผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้ว ตอนหนึ่งของคำนำท่านเขียนว่า ผมมีความสนใจพระหลวงพ่อทวด เพราะมีประสบการณ์สูง ราคามีแต่ขึ้นอนาคตความนิยมมาก ปัจจุบันแทบจะหาของแท้ดูไม่ค่อยได้ แล้วก็เป็นจริงครับ ใครมีพระเนื้อว่าน รุ่นแรก เตารีดใหญ่เล็ก แม้แต่หลังตัวหนังสือ เหรียญเกือบทุกรุ่นที่อาจารย์ทิมสร้างออกจากวัดช้างให้ ราคาต่ำกว่าหมื่นไม่มีแล้ว

สำหรับคนรักพระหลวงปู่ทวด รุ่นปลอดหนี้ อาจารย์ฉ่อย ท่าพระจันทร์ ออกมายืนยันความเป็นอมตะในด้านประสบการณ์พันเปอร์เซ็นต์ เหตุผลทั้งครอบครัวใช้ห้อยติดตัวและไว้หน้ารถ ปลอดภัยปลอดหนี้การันตีให้ ผมเจอมากับตัวหลายครั้งหลายหนจึง อยากให้คนรุ่นใหม่ๆ ได้รับรู้ อย่ามองข้ามใฝ่หาแต่รุ่นแรกราคาแสนแพงเป็นแสนเป็นล้านเชื่อผมเถอะเริ่มเก็บพระหลวงพ่อทวดชุดนี้ไว้ไม่จนแน่
พระหลวงปู่ทวด รุ่นปลอดหนี้ มีส่วนผสมของเนื้อว่านคล้ายกับหลวงปู่ทวดเนื้อว่านสมัย พ.ศ.2497 สร้างที่วัดช้างให้เมื่อปีพ.ศ.2529 พิธีใหญ่เสาร์ 5 สมัยนั้นมีพระเกจิอาจารย์ดังๆ นั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสก มีทั้งอาจารย์นอง วัดทรายขาว อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย หลวงพ่อเขียว วัดห้วยเงาะ และพระสายใต้สายเขาอ้ออีกหลายรูป
ข้าพเจ้า ฉ่อย ท่าพระจันทร์ ยืนยันว่ามีประสบการณ์ด้านพระหลวงพ่อทวดมามากต่อมาก รุ่นนี้เป็นรุ่นหนึ่งที่ข้าพเจ้าขอแนะนำให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เช่าเก็บ และท่านที่สนใจศรัทธาพระหลวงพ่อทวดไม่ควรพลาดต้องรีบเช่าเก็บนำไปใช้ก่อนที่จะหมดไปจากสนาม มีอีกหลายรุ่นที่น่าสนใจจะแนะนำในโอกาสต่อไปครับ อ.ฉ่อย กล่าว

บรรยายใต้ภาพ

ฉ่อย ท่าพระจันทร์
อ้างอิง

http://www.ryt9.com/s/bmnd/1362244]คอลัมน์:
สกู๊ปพิเศษพระเครื่อง: ฉ่อย การันตีประสบการณ์ฉ่อย การันตีประสบการณ์หลวงปูทวดรุ่นปลอดหนี้