พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (ตามที่ท่านอาจารย์ประถม อาจสาครเป็นผู้ที่ค้นคว้ามา) ผมเปิดให้จองแล้วครับ โดยจองเล่มละ 200 บาทและค่าจัดส่งเล่มละ 50 บาท(โดยหากค่าจัดส่งมากกว่านี้ ผมจะจ่ายให้เองครับแต่หากน้อยกว่านี้ ผมจะนำไปเป็นค่าพิมพ์หนังสือครับ) และกรุณาระบุด้วยว่า จองกี่เล่ม โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
<O</O
<O</O
1.ต้องเป็นผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งเท่านั้น<O</O

2.ผมขอสงวนสิทธิ์ในการรับจองหรือไม่รับจอง ถึงแม้ว่าจะได้มาร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งแล้วก็ตาม และผมไม่แจ้งเหตุผลให้ทราบนะครับ<O</O

3.เงินค่าจองหนังสือ ผมจะแจ้งหมายเลขบัญชีให้ทราบทาง PM อีกครั้งเมื่อผมรับจองแล้ว
บัญชีที่จะให้โอนเงินค่าหนังสือนั้น เป็นบัญชีที่ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ผมเองไม่สามารถที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งได้เลย <O</O

4.เงินในส่วนต่างนั้น ผมจะนำเงินในส่วนนี้นำไปพิมพ์หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด<O</O
<O</O

ผมเริ่มให้จองตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2550 ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2550 เวลา 18.00 น. ครับ

.<O</O

 

เรียนคุณ sithiphong
ผมขอจองไว้จำนวน 1เล่มครับ
ขอบคุณครับ

 

รับทราบการจองครับ

ผมจะส่งหมายเลขบัญชีไปให้ทาง PM นะครับ หากโอนเงินแล้วผมขอความกรุณาแจ้งให้ผมทราบด้วยครับ ขอบคุณครับ

โมทนาสาธุครับ

.

 

จากกระทู้ "องค์เทพจตุคามรามเทพ"ลงรากลงฐานพระศาสนา ซื้อที่ดินถวายวัด
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=81487

รายละเอียดติดตามได้ในกระทู้นะครับ

<TABLE class=tborder id=post592482 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">07-06-2007, 05:11 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #2 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พสภัธ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_592482", true); </SCRIPT>
สมาชิก ยอดนิยม
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 04:47 AM
วันที่สมัคร: Nov 2005
สถานที่: //////////////
ข้อความ: 2,617 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 3,911 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 20,331 ครั้ง ใน 2,470 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 2409



</TD><TD class=alt1 id=td_post_592482 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->พระมหาแผนได้ปรึกษากับโตว่า..ที่ดินข้างวัดติดกับอาคารเรียนมีเนื้องที่ประมาณ 5 ไร่กว่า เจ้าของขายให้วัดไร่ละ 100,000 บ. พระมหาแผนท่านต้องการที่จะสร้างเป็น ตัวอาคารสถานที่พักอาศัยของพระภิกษุสามเณร ที่เรียนหนังสือในวันข้างหน้า..ท่านก็เลยสร้าง "จตุคารามเทพ" รุ่นโกยเงินโกยทอง เพื่อขอบารของท่านช่วย โดยท่านที่บริจาคปัจจัยซื้อที่ดิน 1 ตารางเมตร 299 บ. ก็มอบองค์จตุคามให้เป็นอนุสรณ์ 1 องค์....ถ้าใดผู้ใดจะร่วมบริจาคซื้อที่ดินถวายวัดก็จองไว้ก่อน..เพราะตอนนี้กำลังนำเอาองค์ "จตุคามรามเทพ"ไปเสกอยู่สาธุ..สาธุ..สาธุ..อนุโมทามิ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE class=tborder id=post593357 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">08-06-2007, 05:32 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #4 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พสภัธ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_593357", true); </SCRIPT>
สมาชิก ยอดนิยม
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 04:47 AM
วันที่สมัคร: Nov 2005
สถานที่: //////////////
ข้อความ: 2,617 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 3,911 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 20,331 ครั้ง ใน 2,470 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 2409



</TD><TD class=alt1 id=td_post_593357 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->



องค์เทพจตุคามรามเทพ ที่จะมอบให้เป็นอนุสรณ์แก่ท่านที่บริจาคซื้อที่ดิน ถวายเพื่อสร้างสถานที่พักอาศัยของพระภิกษุ-สามเณร และจักเป็นสถานที่สร้างอุโบสถด้วย...มวลสารที่สำคัญๆ อย่างยิ่งที่หลายท่านได้ส่งมาเพื่อจัดสร้างในครั้งนี้..โดยของคุณสิทธิพงษ์ก็ศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่งแล้ว..และก็อีกมากท่านที่ส่งมาด้วย
<!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE class=tborder id=post594202 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">09-06-2007, 05:24 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #11 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พสภัธ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_594202", true); </SCRIPT>
สมาชิก ยอดนิยม
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 04:47 AM
วันที่สมัคร: Nov 2005
สถานที่: //////////////
ข้อความ: 2,617 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 3,911 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 20,331 ครั้ง ใน 2,470 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 2409



</TD><TD class=alt1 id=td_post_594202 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->โต(กุมารน้อย) แจ้งให้ทุกท่านได้ทราบ..."องค์จตุคามรามเทพ" พระ อ. ท่านติดต่อคุณจุฑา ที่อยู่เบตง คุณโยมท่านนี้เป็นผู้ที่สนับสนุนการศึกษาพระภิกษุ-สามเณร เป็นอย่างมากช่วยหาและส่ง "องค์จตุคาม" มาให้พระ อ. ท่านไว้แจกแก่ญาติโยมที่มาทำบุญ..และยังช่วยถวายปัจจัยสนับสนุนการศึกษาอีก...คุณโยมรับปากไว้ว่า..จะช่วยติดต่อให้เพื่อนำเข้าโบดวัดพระศรีมหาธาตุ...โดยที่พระ อ. ไม่ต้องลงทุนอะไร..เพียงขอร่วมเข้าพิธีกับคณะจัดสร้างที่มีทุนทรัพย์...และเมื่อเสร็จพิธีนั้นแล้ว..คุณสิทธิพงษ์จะนำเอาไปให้พระอาจารย์ที่เป็นพระอริยเจ้า..ได้อธิฐานจิตเพื่อขอบารมีช่วยสงเคราะห์...และอย่างไรอีกนั้น..พระ อ. ท่านบอกว่าต้องปรึกษาคุณสิทธิพงษ์ก่อน...
แต่ที่พระ อ.ท่านคิดไว้และตั้งใจไว้...ขอบารมีของพระโพธิสัตว์องค์เทพจตุคาม เพื่อขอบารมีท่านเพื่อจัดซื้อที่ดินถวาย..สร้างเพียง 10,000 องค์เท่านั้น และจะสร้างครั้งเดียว...ได้ที่ดินเพื่อวันหน้าก็พอแล้ว...องค์จตุคามจะไม่ตั้งเป็นราคาที่ให้เช่า..แต่จะมอบให้เป็นอนุสรณ์แก่ผู้บริจาคซื้อที่ดิน..ตารางเมตรละ 299 บ. เพื่อถวายเป็น "ที่ดินธรณีสงฆ์"
<!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>







โมทนาสาธุครับ

.

 

จากกระทู้ เชิญร่วมบุญผ้ายันต์ครอบจักรวาลรุ่นพิเศษเพื่อแจกจ่ายผู้ปฎิบัติงานใน 3 จังหวัดภาคใต้

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=80663&page=3

เมื่อวานนี้ ท่านอาจารย์ประถม อาจสาครและคณะลูกศิษย์ ได้ร่วมกันทำบุญสร้างผ้ายันต์
ขอโมทนาสาธุกับทุกๆท่านครับ

.

 

จากกระทู้ โครงการสร้างพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมเพื่อบรรเทาภัยพิบัติ
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=595352&posted=1#post595352

เมื่อวานนี้ ผมได้ฝากไม้ครู(ของวังหน้า ซึ่งหาได้ยากมากๆ) ,พระขรรค์,กฤช และพระพิมพ์จำนวนหนึ่ง กับคุณพุทธันดร ไปเพื่อที่จะบรรจุในองค์พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม และพระพิมพ์บรรจุไว้ใต้ฐานองค์พระพุทธรูปเรียบร้อยแล้วครับ

โมทนาสาธุกับทุกๆท่านด้วยครับ

.

 

รูปเล่มนั้น ต้องยอมรับว่าสวยงามครับ อีกทั้งมีรูปพระพิมพ์อีกพอสมควร ทางคณะผู้จัดทำ จะทำให้ดีที่สุด เพื่อเทิดพระเกียรติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ที่พระองค์ได้มีความเมตตาที่มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ และอยู่ดูแลพระศาสนาไปจนครบ 5000 ปีตามพุทธดำรัสครับ

ผมจะนำรายชื่อทั้งหมด ลงไว้ท้ายเล่มด้วยนะครับ

โมทนาสาธุครับ

.

 

เมื่อวานนี้ ผมได้ฝากมวลสารไว้กับพี่ที่ผมเคารพท่านหนึ่ง ฝากให้ท่านทำลูกอมให้ (น่าจะไม่น้อยกว่า 30 องค์) ผมขอไปปรึกษากับคณะจัดทำหนังสือว่า จะแจกลูกอมนี้พร้อมกับหนังสือดีหรือไม่อย่างไรครับ

มวลสารมีดังนี้

1.ผงพระสมเด็จบางขุนพรหมผสมผงใบลานหลวงพ่ออี๋ (สัตหีบ)

2.ผงพระวังหน้า

3.มวลสาร 30 อย่าง ดังนี้
1.ผงพุทธคุณ หลวงปู่อุ้น สุขกาโม วัดตาลกง จังหวัด เพชรบุรี
2.ผงอิทธิเจ หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร จังหวัด อุบลราชธานี
3.ผงกาฝาก 108 หลวงปู่อิงโชติโญ จังหวัด บุรีรัมย์
4.ผงอิทธิเจ หลวงปู่เหมือน ฐานุตโม จังหวัด สระแก้ว
5.ผงพุทธคุณ จากวัดมณีชลขันธ์ จังหวัดลพบุรี
6.ผง 6,000 ปี ปู่ฤาษีกัมปินะ ในถ้ำ จังหวัดลพบุรี
7.ผงพุทธคุณ วิชาลบผงสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังษี
8.พระผงสมเด็จบางขุนพรหมหัก ปี 2536
9.ผงพระธาตุสิวลี หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร จังหวัดอุบลราชธานี
10.ผงงิ้วดำ ผงไพลดำ ผงใบลานเก่า ผงว่านหลวงปู่เทียม พุทธสาโร จ.สระแก้ว
11.ดินตระไคร้ นครวัดประเทศ กัมพูชา
12.ผงใบลานเก่าผงพุทธคุณจากหลวงพ่อพูนทรัพย์ วัดอ่างศิลา( มีผงหลวงปู่แก้ววัดเครือวัลย์ จ.ชลบุรี)
13.ผงคัมภีร์ใบลานหลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบ
14.พระผงเก่าหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว
15.พระผงหลวงปู่พูล วัดไผ่ล้อม
16.พระผงหลวงปู่มีวัดมารวิชัยรุ่นแช่น้ำมนต์สามไตรมาส
17.ผงหลวงปู่ทองวัดราชโยธา
18.ผงหน้าบันโบสถ์วัดธรรมธิดา จังหวัดลพบุรี
19.พระผงแตกหักหลังคาโบสถ์วัดพระแก้ว( วังหน้า)
20.พระผงหลวงปู่เทพโลกอุดร
21.พระผงสมเด็จ
22.พระผงนางพญา
23.พระผงซุ้มกอพระ
24.ผงสุพรรณ
25.พระผงพระรอด
26.พระผงพิมพ์พรหมเล็ก
27.พระผงพิมพ์จักพรรดิ์ ( หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ วัดสะแก ) จ.อยุธยา( ปี 2512 ) ที่แตกหัก
29.ผงปูนที่ห่อหุ้มองค์หลวงพ่อพุทธนิมิตร วัดหน้าพระเมรุ อายุกว่า 300 ปี
30.น้ำมนต์จากวัดประมาณ 1,000 วัดผสมเป็นมวลสาร น้ำมันเก้ากลิ่น และยังมีมวลสารจากคณะคณาจารย์เกือบทั่วประเทศเพื่อนำมาผสมเพื่อสร้าง
( มวลสารทั้ง 3 ประเภทนี้ ผมได้รับความเมตตาจาก อาจารย์จเร แห่งบ้านดวงธรรมบรรลุ มอบให้มาครับ)


4.กระทู้ มวลสารวัตถุมงคลรุ่น "สมหวัง โคตรอภิมหาเศรษฐี กินใช้ไม่หมด" เกาะยอ (ผมมีมวลสารชุดนี้อยู่ 1 ถุงและได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกในวันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2550 ซึ่งเป็นวันเสาร์5 และขออาราธนาพระบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทเจ้าพระนาม กุกกุสันโธ ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อธิษฐานจิตมวลสารให้ด้วยครับ)
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=81548

<O</O

 

การตอบคำถาม ผมจะให้ร่วมสนุกกัน อาจจะ 2 - 3 เดือนต่อ 1 ครั้ง แต่ว่าต้องเป็นผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งเท่านั้นที่มีสิทธิ์ในการตอบคำถามแสดงความคิดเห็นกันครับ ส่วนพระพิมพ์ที่ผมส่งให้นั้น ผมจำไม่ได้แล้วว่าส่งพิมพ์ไหนให้ใครบ้างครับ

.

 

รับทราบครับ

โมทนาสาธุครับ

.

 

หากคุณหนุ่มจะกรุณาบอกเนื้อหาภายในให้สมาชิกได้ทราบกันหรือไม่ครับว่า ภายในเล่มหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรนั้น มีเนื้อหาอะไรบ้างที่น่าสนใจ และจะมีเนื้อหาที่ซ้ำกับเล่มก่อนนั้นที่จัดพิมพ์เนื่องในวันคล้ายวันเกิดของอาจารย?ประถม อาจสาครหรือไม่ครับ...

 

ทุกวันนี้ ผู้ที่มีความ"รู้จริง"เกี่ยวกับพระเครื่องกรุวังหน้าวัดพระแก้ว นับว่ามีอยู่น้อยมาก อีกทั้งผู้มาเริ่มศึกษาพระกรุนี้ก็นับวันจะเพิ่มมากขึ้น การเรียนรู้พระกรุนี้หากไม่อิง หรือไม่ได้อ่านประวัติศาสตร์โดยเฉพาะในช่วงรัชกาลที่ 4- 6 ให้ละเอียดแบบถ่องแท้ การจะพิจารณาองค์พระว่าใช่ของแท้หรือไม่ ก็นับว่ายากเย็นเต็มที อีกทั้งด้วยปริมาณที่มีมากกว่า 30 ล้านองค์ อยู่ในมือพ่อค้าแม่ค้าที่ไม่ทราบความเป็นมาเป็นทอดๆ แล้วแต่งเรื่องเล่าลือกันไปกันมา จากหนังสือที่ไปค้นหาอ้างอิงกันเองก็มี ของปลอมมองว่าแท้ ของแท้มองว่าปลอม ตรวจเช็ครูปก็ไม่เป็น ตรวจทางนามก็ไม่ได้ เหล่านี้เป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งที่นักสะสมพระกรุนี้จะปวดหัว สงสัย แต่ก็เก็บ แต่สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเสน่ห์กับพระกรุนี้ เพราะหลากหลายเรียกว่าครบเครื่องดีกว่า ไม่ต้องไปยึดติดกับพิมพ์เดิมๆที่เซียนพระอาจจะชอบครับ เพราะมีจุดตายที่สังเกตได้...

สิ่งที่ผมบอกว่าหากจะศึกษาพระกรุวัดพระแก้ววังหน้านี้ ต้องรู้ประวัติศาสตร์ในช่วงรัชกาลที่ 4 - 6 ด้วยถึงจะสนุกเพราะ แต่ละช่วงปีพ.ศ.นั้นน่าสนใจมาก เช่นปี 2408 ,2411,2415,2416,2428,2451อีกมากมายเป็นต้น เพราะหากไม่ทราบคุณจะบอกได้ไม๊ล่ะว่า พระเครื่ององค์นี้สมเด็จโตท่านเสก หรือบอกว่านี่รุ่น2411 (ซึ่งชอบพูดกันมาก) แต่โห! ท่านทรงม้านะครับ ผมถามเถอะว่า ปี 2411 นั้น พระองค์ท่านขึ้นครองราชย์ครั้งที่ 1 จะไปทรงม้าได้อย่างไร?

พระกรุนี้เริ่มรู้จักกันทั่วไปในช่วงตั้งแต่ปี 2525 คราวฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี และได้มีการบูรณะวัดพระแก้ววังหลวง(พระกรุวังหน้าควรบรรจุที่พระแก้ววังหน้า แต่ไปพบบรรจุกรุที่พระแก้ววังหลวงเนื่องจากเมื่อคราวฉลองกรุงร้อยปีในปีพ.ศ.2425 นั้นท่านเจ้าคุณกรมท่ารับหน้าที่ในการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดพระแก้ววังหลวง จึงได้สันนิษฐานกันว่าน่าจะนำมาพระเครื่องวังหน้ามาบรรจุที่พระแก้ววังหลวง จากนั้นในปี พ.ศ. 2428 ก็เป็นปีที่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ หรือท่านเจ้าแห่งวังหน้าองค์ที่ 5 และเป็นองค์สุดท้ายในราชวงศ์จักรีเสด็จทิวงคต) จนช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาเริ่มมีการออกสู่ตลาดพระกันมากมายแถวท่าพระจันทร์ และอื่นๆอีกประปราย (ผมยังเคยพบจากในตลาดพระยามเช้าที่โรงงานยาสูบ คุณป้าแก่ๆคนหนึ่ง ออกวางให้บูชาเป็นพระเครื่องนางกวักคู่ ลงรัก ชาดแดง และปิดทอง ราคาองค์ละ 5 บาท เนื้อหาพิมพ์ทรงถูกต้อง กระแสพลังถือว่าดีมาก) จนบางครั้งคุณอาจจะไม่เชื่อว่าพระเครื่องตามริมทางที่คุณผ่านมาผ่านไปนี้ เป็นพระเครื่องของกรุวังหน้าจริง อันนี้ก็เป็นวาสนาบารมีที่คุณหนุ่มได้พูดถึงท้ายลายเซ็น การเทียบเคียงพิมพ์พระในมือ กับในหนังสืออาจจะเป็นทางหนึ่งที่ทำกันทั่วไป จดจำตำหนิต่างๆ เพราะไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรอีกแล้วที่ดีกว่าวิธีนี้ แต่หากลองหลับตาย้อนนึกๆดูว่า หากวันนี้ยังพอมีบุคคลซักท่านหนึ่งที่"รู้จริง"ที่พอจะถ่ายทอดเรื่องราวของพระพิมพ์กรุพระแก้ววังหน้านี้อย่างชนิดถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้(ปู่ถ่ายทอดให้พ่อ พ่อถ่ายทอดให้ลูก มีทั้งพระพิมพ์ของจริง และความรู้การวิเคราะห์พระพิมพ์ต่างๆ โอกาสพลาดมันน้อยครับ และไม่ยากที่จะแยกแยะว่า พระพิมพ์นั้นใช่ของแท้ หรือของเทียม และ"ปู่"ที่ผมหมายความถึงนั้นต้องเกิดทัน และมีส่วนร่วมในการสร้างพระพิมพ์ชุดนี้ในช่วงปีพ.ศ. 2400-2428 ) จึงไม่น่าสงสัยว่าทำไมพระเครื่องที่ทันเจ้าประคุณสมเด็จโตเสกจึงมีมากมายในคณะศิษย์หลวงปู่เทพโลกอุดรที่นำโดย"คุณหนุ่ม"กัน เหล่านี้ล้วนเป็นพระที่เซียนเมิน ซึ่งนับว่าดีครับ จะได้เอาไว้สักการะบูชากันในกลุ่มกันเอง และนำออกทำบุญด้วย พระเครื่องที่มีอยู่ในกลุ่มก็ได้รับความเมตตาจากศิษย์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรที่มีความใกล้ชิดกับหลวงปู่มากๆในการอธิษฐานจิตเชิญพระองค์ท่านมาทำซ้ำให้อีกครั้งจนพิธีใหญ่ 2 พิธีผ่านพ้นไปคือวันอาทิตย์ที่ 25 ก.พ. 2550 และวันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2550 ซึ่งเป็นวันเสาร์ 5 พิธีแรกนั้นพระอรหันต์รวม 8 พระองค์ร่วมเสก ส่วนพิธีที่ 2 พระพุทธเจ้าพระนามกุกกุสันโธ หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 5 พระองค์ และสมเด็จโต พรหมรังสีร่วมเสก มีเหตุอัศจรรย์ในวันนั้นซึ่งก็เป็นความเมตตาของพระองค์ท่านที่สงเคราะห์ให้ลูกหลานให้เห็นกันจะจะ หมดความสงสัยในคุณพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์

มีน้องคนหนึ่งเพียรพยายามจะถามผมให้ได้ว่า พี่องค์นี้หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรองค์ไหนเสก แล้งองค์นั้นองค์นี้เป็นอย่างไร เหล่านี้เป็นเครื่องแสดงว่า มีความเคารพศรัทธาหลวงปู่ฯ อยากเก็บรักษาพระหลวงปู่ และอยากทราบเรื่องราวของพระองค์ที่หลวงปู่เสก แต่ก็ไม่มีผู้ใดตอบได้ ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ ณ วันนี้จึงตอบเพียงว่า อดีตอย่าไปฝังใจจำมาก ยังมีสิ่งที่ต้องทำมากกว่าจะไปสนใจว่าองค์ไหนเสก แต่อย่างไรก็ตามวันนี้พระทุกองค์ในครอบครองนั้นมีพลังพุทธคุณ และอิทธิคุณของพระพุทธเจ้า และพระอรหันต์สาวกเป็นผู้เสก ซึ่งขององค์เดิมก็ยังมีอยู่ครบถ้วน

"หนังสือวิเคราะห์พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่า"เป็นการถ่ายทอดจาก
อาจารย์ปู่ประถม ซึ่งเป็น"รุ่นหลาน"ที่สืบความรู้ต่อจาก"รุ่นปู่"ที่ทันการสร้างพระพิมพ์กรุพระแก้ววังหน้าที่สร้างในพ.ศ.2400-2428 ครับ หลังจากอ่านทั้งหมด หรือบางส่วนแล้ว "เรา"จะตาสว่าง "รู้"ความจริงกันซะทีว่า ความจริงคืออะไร เพราะหนังสือเล่มนี้ สอนให้เราจับปลา (วิเคราะห์เองได้ว่าแท้ หรือไม่แท้) แทนที่จะรอคนจับปลาให้เรา(ไปเทียบตำหนิพิมพ์ทรงจากหนังสือแต่ไม่มีรายละเอียดอะไรให้ หรือเซียนบอกว่าแท้) และนี่คือคำว่า"รู้จริง" ในความหมายของผม ปัจจุบันนี้หนังสือเล่มนี้ท่านอาจารย์ปู่ประถมได้นำบริจาคให้กับหอสมุดแห่งชาติทั้งหมดแล้ว รอผู้ที่มีความสนใจ และความพยายามไปศึกษาและค้นคว้าต่อไป...
<!-- / message --><!-- sig -->

 

ไม้ครูนั้น ผมไม่นำออกมามอบให้ผู้ร่วมทำบุญแน่นอนครับ ผมจะเก็บไว้เพื่อบรรจุในองค์พระพุทธรูปขนาดใหญ่ๆ หรือถวายพระซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ ท่านจะได้ไว้ช่วยเหลือคนครับ

ส่วนพระขรรค์และกฤชนั้น ผมได้ยุติการมอบให้กับผู้ร่วมทำบุญแล้ว เนื่องจากว่าผมจะเก็บไว้เป็นมวลสารในการสร้างพระหรือพระบรมรูปพระมหากษัตริย์ ทั้งพระขรรค์และกฤชที่ผมมีอยู่นั้น ก็ยังมีความพิเศษมากกว่าของเดิมเนื่องจากผมได้นำพระขรรค์และกฤชบางส่วนเข้าพิธีพุทธาภิเษกการอาราธนาพระบารมีพระอนุรุทเถระเจ้า ,พระสิวลีเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า และหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ และมีพระขรรค์และกฤชบางส่วนนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกการอาราธนาพระบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกกุสันโธ ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีครับ

ส่วนพระพิมพ์ที่ผมมอบให้ผู้ร่วมทำบุญนั้น ก็ยังแตกต่างจากพระพิมพ์เดิมๆเช่นกัน เพราะว่าบางส่วนผมได้เข้าพิธีพุทธาภิเษกการอาราธนาพระบารมีพระอนุรุทเถระเจ้า ,พระสิวลีเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า และหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (ผมเรียกพระพิมพ์ในพิธีนี้ว่า พระชุดพิเศษ 2) และบางส่วนผมได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกการอาราธนาพระบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกกุสันโธ ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี (ผมเรียกพระพิมพ์ในพิธีนี้ว่า พระชุดพิเศษ 3)ครับ

โมทนาสาธุครับ

.

 

หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรนั้น เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับหลวงปู่ ส่วนหนึ่งก็จะเป็นประวัติหลวงปู่ที่ผมได้นำมาลงในกระทู้นี้ ส่วนเรื่องราวอื่นๆเป็นเรื่องราวที่ท่านอาจารย์ประถมท่านได้รับคำบอกเล่าจากพระอาจารย์ของท่านที่เป็นลูกศิษย์โดยตรงของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,จากการที่ท่านอาจารย์ประถมท่านได้ศึกษาค้นคว้าทั้งทางรูปและทางนาม ,มีบทความอีกส่วนหนึ่งเป็นของท่านพันเอกชม สุคันธรัตน์ ที่ท่านได้มอบให้กับท่านอาจารย์ประถมไว้ ,มีการบันทึกประสบการณ์ต่างๆของหลายๆท่านเกี่ยวข้องกับพระพิมพ์ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรท่านอธิษฐานจิตไว้ให้ ,มีทั้งรูปพระพิมพ์ซึ่งเป็นพระพิมพ์ที่ท่านอาจารย์ประถม ได้เก็บไว้ในช่วงแรกๆ ,มีการอธิบายพระพิมพ์ว่าชื่อพระพิมพ์อะไร อีกทั้งยังมีเรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่ รวมแล้วประมาณ 80 หน้า ผมว่างานนี้พลาดไม่ได้เลยครับ

.

 

หนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าที่ท่านอาจารย์ประถมท่านนำไปมอบให้กับหอสมุดแห่งชาติในช่วงแรก จำนวน 2 เล่มนั้น มีคนที่ไปอ่านแล้วมืออยู่ไม่สุขฉีกไปเยอะหน้า โดยเฉพาะหน้าที่มีรูปพระพิมพ์ คนเราเดี๋ยวนี้แย่จริงๆครับ

อย่างที่คุณเพชรได้บอกมานั้นถูกต้องแล้ว ผมเองก็ใช้หนังสือเล่มนี้เป็นครูในการเสาะแสวงหาพระของหลวงปู่ด้วย ส่วนอีกเล่มผมก็ใช้หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ซึ่งมีรูปพระพิมพ์(แต่เป็นรูปขาวดำ) เหมือนกันครับ

.

 

ส่วนหนังสือปู่เล่าให้ฟังที่กำลังจะตามมานั้น เป็นเรื่องราวที่ท่านอาจารย์ประถมได้เคยเขียนลงในหนังสือต่างๆ และนำมารวบรวมไว้ในเล่มเดียวกัน แต่จะมีการปรับปรุงเนื้อหาบางเรื่อง ที่ได้ความรู้ใหม่ มาเพิ่มเติมขึ้นอีก และจะแตกต่างจะหนังสือปู่เล่าให้ฟังเล่มแรกและไม่ซ้ำกับหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรครับ

.

 

ขอผมบ้าง น้องน้อยผู้มาที่หลัง
ผมเริ่มต้นจากการอ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันอาทิตย์
แล้วก็ serch ใน Internet ก็มาพบในกลุ่มนี้

ผมไม่รู้หรอกว่า จริงหรือเท็จ ครั้งแรกนั้น อยากมี
ก็ทำตามกติการมาเรื่อย จนถึงปัจจุบัน
แต่ครั้งนี้ มันไม่ใช่แล้ว และทำให้ดีดีกว่า

และก็มีหลายท่านหลายคน อยากได้ เหมือนผม ก็ทำตามกติกาที่ท่านว่า
ก็ได้ คิดว่าไม่ยาก ง่ายๆ แต่ไอ้ที่จะมาแสดงให้เห็นจริง มันก็เสียเวลาเปล่าๆ ใจท่านย่อมรู้ ย่อมเห็น ไม่ต้องใคร ลองอ่านและพิจารณาดีๆ
ก็พออนุมานได้

และสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่และไม่ใช่ สิ่งที่เราต้องนำไป ทำมาหากิน
คือ ขายต่อ ขอพูดตรงๆ หรือสร้างใหม่ แล้วว่าของจริง ขายต่อ
ผู้รับไป ก็ภาคภูมิใจ ว่าข้านี้ มีของที่ดียิ่งในปฐพีนี้ ในความคิดของผมแล้ว

เมื่อเห็นว่า ดี ไม่ได้หมายความว่า ยิง ฟัน แทงไม่เข้า หรือ มีลาภลอย
ไม่ต้องทำมาหากิน นอนอยู่เฉยๆ ก็มีกินจนอิ่มมาก ทุกวัน หรือไปสร้าง
กลอุบายหลอกกันไปเพื่อทำมาหากิน

จึงขอแสดงทัศนะที่เข้าใจดังนี้

1.พระผมเข้าใจว่าเป็นของจริง และมี Back ด้วยที่บอกไปก็ไม่เชื่อ
และในสิ่งที่ไม่เชื่อ มีทางเดียว คือ ต้องทำสมาธิเอา ไอ้ที่ไม่เห็น
ไปพูดเรื่อย จะเชื่อถือได้อย่างไร ก็ต้องกลับมา ทำสมาธิเอา
จึงจะทราบความจริง ดูแต่รูปอย่างเดียว เอาแว่นขยายส่องจนพระท่าน
ละลาย มันก็มองไม่เห็นจริง
และอันหนึ่งที่บอกได้ คือ เป็นพระเก่าครับ
ไอ้ที่ ไปจำตำนิ นั้น นี่ ผมเองไม่อยากจำ เพราะเคยอ่านหนังสือ
โอ้หน่อ ละเอียดจริงๆ ยิบๆ เลย สู้ทำสมาธิเอาเถอะ ไปต่อได้ไกล

2.ท่านที่เข้ามาอ่าน ก็บอกว่า ผมนี่ก็แท้ ก็จริง คนนั้นคนนี้ รู้จักเข้าใจ
สุดท้ายให้เช่า มันจะเข้าตำรานะ แต่ที่นี่สร้างบุญ สร้างกุศลนะครับ
มิได้ทำการค้า พาเที่ยว ร่ำสุรา นะ ผมเองก็ไม่ทำอย่างนั้น
ขืนเป็นอย่างนั้น ก็ลงนรกสถานเดียว ไปทำมาหากินดีๆ เถอะ แต่ถ้า
บางท่านทำ มีอยู่แล้วในสังคม ก็ทำบุญมากๆ นะครับ อธิฐานดีๆ
พิจารณาดีๆ ละกันครับ คนเราเดือดร้อนกันได้ และรู้จักพอ
ได้ฟัง เรื่องเล่า มาพอสมควร ของการนำไปทำไม่ดี ก็ได้ไม่ดีไป

3.เมื่อได้ไปแล้ว ก็ติดตัว ทำดี สร้างกุศล สร้างทางที่ควรไป เช่น
สวรรค์ พรหม อรูปพรหม นิพพาน แล้วแต่ ว่าง่ายก็ทำดีครับ และสมาธิ

คนนะ อายุมันไม่นานนะ เดี๋ยวก็ตาย ขนาดร่างกายเลี้ยงมันอย่างดี
มันยังป่วย ยังแก่ ยังเจ็บ และตาย

สุดท้ายนี้ ผมก็เขียนจากที่นึกเป็นอยู่นี้ มิได้คิดปรุงแต่งไปเป็นอย่างอื่นนะ
เพราะวันข้างหน้า ก็ต้องปรุงแต่งอีก มันนะจำไม่ได้หรอก เดี๋ยวตัวตนจริงๆ
ก็ออกมา มีท่านผู้เฒ่าสอนว่า

1. มาจากทางสว่าง ก็ควรไปทางสว่าง ดีเยี่ยม
2. มาจากทางมืด ก็ควรไปทางสว่าง ดี
3. มาจากทางสว่าง ดันไปทางมืด แย่นะ
4. มาจากทางมืด ก็ยังจะไปทางมืดอีก อีกกี่พบกี่ชาติละที่จะได้โอกาส
สร้างความดี เพื่อความสงบสุข
ที่แท้จริง

ขอขอบคุณครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>มานับอายุ(ขัย)ของยางกันเถอะ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 มิถุนายน 2550 17:15 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ความสำคัญของ "ยางรถยนต์" นั้นขอบอกว่าไม่แพ้กับชิ้นส่วนอื่นๆที่ประกอบขึ้นมาเป็นรถ 1 คันเลย เพราะนอกจากจะช่วยให้รถขับเคลื่อนไปได้แล้วยังช่วยในระบบการเบรกเมื่ออยู่ในถนนที่มีสภาพที่ลื่นหรือขรุขระ ยางที่ดีนั้นจะต้องมีคุณสมบัติในการช่วยให้ผู้ขับขี่มีความนั่นใจและลดการกระแทก ผู้ใช้รถหลายคนลืมที่จะให้ความสำคัญกับยางแต่กลับไปเน้นที่น้ำมันหรือเครื่องยนต์จนลืมนึกถึงความสำคัญของยางที่เรียกได้ว่าจะต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายตลอดเวลาการใช้งาน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=430 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=430> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ผลการวิจัยพบว่าเนื้อยางนั้นจะมีการยืดตัวไปมานับเป็นล้านๆครั้งขณะที่กลิ้งตัวไปตามถนนจนกว่าจะหมดสภาพการใช้งาน ตัวอย่างเช่นยางขนาด 185/70 R13 หากวิ่งด้วยความเร็ว 130 กม./ชม. จะต้องหมุนถึง 20 รอบ/วินาที นั่นแสดงว่าการออกแบบและการผลิตยางแต่ละเส้นนั้นได้มีการนำองค์ประกอบต่างๆโดยเฉพาะเรื่องความทนทานและอายุการใช้งานเข้ามาเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วย

โดยทั่วไปแล้ว อายุของยางรถยนต์จะเริ่มตั้งแต่วันแรกที่ไปใช้งานจริงหรือติดล้อวิ่งไม่ใช่จากวันเดือนปีที่ผลิตเหมือนอย่างอาหารหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆและหากพิจารณาถึงการสิ้นสุดของการใช้งานแล้วล่ะก็ ให้พิจารณาจากความสึกหรอของดอกยาง ซึ่งดูจากสะพานยางที่อยู่ระหว่างร่องดอกยาง ที่มีควาสูงประมาณ 1.6 มิลลิเมตร หากพบว่าดอกยางมีอัตราการสึกจนถึงระดับนี้แล้วแสดงว่ายางเส้นนั้นหมดอายุและควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่เพื่อความปลอดภัยอย่างไรก็ดี หากคุณต้องการให้การขับขี่อย่างมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น ในสภาพการขับขี่ที่มีฝน ขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนยางเส้นใหม่ทุกครั้งเมื่อ ตรวจสอบพบว่าการสึกหรอ ลึกประมาณ 3.5 มิลลิเมตร

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=240 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=240> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> สำหรับยางที่ยังไม่ได้ถูกนำไปใช้งานนั้น สามารถเก็บได้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเก็บรักษาจากคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิต) ก่อนนำไปติดล้อวิ่งจริงซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมากจนกระทั่งผู้ขับขี่ไม่จำเป็นที่ต้องให้ความสนใจในการตัดสินใจซื้อยาง แต่ก็ควรให้ความสำคัญกับการเลือกยางรถยนต์ให้ถูกกับการใช้งาน ยี่ห้อที่ไว้ใจได้และมีการดูแลยางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอเพื่อความปลอดภัยที่แท้จริง

นอกจากนี้หากว่าต้องการยืดอายุการใช้งานของยางให้มากขึ้นเราก็มีเคล็ดลับมาให้ท่านผู้อ่านลองทำตามดู

1 ควรตรวจสอบลมยางเป็นประจำทุก 2 สัปดาห์ หรือทุกครั้งก่อนการเดินทางไกลให้มีความดันลมยางที่เหมาะสม (ควรทำเมื่อยางอยู่ในอุณหภูมิปกติ) นอกจากนั้นควรตรวจสอบความดันลมยางของยางอะไหล่ และควรอ้างอิงความดันลมยางจากคู่มือของบริษัทนั้นๆ
2 ควรเปลี่ยนวาล์วทุกครั้งที่เปลี่ยนยางเส้นใหม่ เนื่องจากความกดดันจากแรงหนีศูนย์อาจทำให้ยางลมอ่อน ส่งผลให้ยางเกิดความเสียหายได้
3 การตั้งศูนย์ ถ่วงล้อ เพื่อปกป้องช่วงล่าง ช่วยลดการสั่นสะเทือน รองรับแรงกระแทกรวมถึงระบบพวงมาลัยทำให้ยางใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น
4 ลักษณะการทรงตัวของรถเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีผลต่อการสึกหรอของยางการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอจะช่วยไม่ให้ลมยางอ่อน เสื่อมสภาพเร็วและสึก

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=420 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=420> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เก็บรักษายางอย่างไรดี?

1 การเก็บรักษายางของคุณให้อยู่ในสภาพที่ดีพร้อมสำหรับการใช้งานอยู่เสมอ คุณควรทำความสะอาดยางด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้ง แกะเอากรวดและก้อนหินต่างๆ ซึ่งอาจติดอยู่ที่ดอกยางออกเสมอ

2 การเก็บรักษาที่ดี ช่วยให้การใช้งานยางของคุณยาวนานมากยิ่งขึ้น
- หากใส่ยางเข้ากับล้อแล้ว ควรเก็บโดยการวางราบลงกับพื้น หรือหาที่แขวน
- หากยังไม่ได้ยางใส่เข้ากับล้อ ให้เก็บยางโดยการตั้งยางไว้กับพื้น

3 ขอแนะนำให้ให้คุณเก็บรักษายางไว้ในที่เย็น ไม่ควรเก็บยางไว้ในที่ที่ถูกแสงแดดโดยตรง เมื่อทำการเปลี่ยนยาง หรือสลับยางระหว่างล้อ ควรจดจำตำแหน่งในการใส่ให้ถูกต้อง อาทิเช่น ควรทำเครื่องหมาย FL แทนสำหรับ ยางล้อหน้าด้านซ้าย

4 ในกรณีที่คุณมีรถพ่วง หรือยานยนต์ที่มักต้องทิ้งให้จอดอยู่ในโรงรถเป็นเวลานานๆ ขอแนะนำให้คุณเพิ่มแรงดันยางมากกว่าปกติ อย่างน้อย 7 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (0.5 บาร์)

**ขอบคุณข้อมูลจาก มิชลิน**
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (ตามที่ท่านอาจารย์ประถม อาจสาครเป็นผู้ที่ค้นคว้ามา) ผมเปิดให้จองแล้วครับ โดยจองเล่มละ 200 บาทและค่าจัดส่งเล่มละ 50 บาท(โดยหากค่าจัดส่งมากกว่านี้ ผมจะจ่ายให้เองครับแต่หากน้อยกว่านี้ ผมจะนำไปเป็นค่าพิมพ์หนังสือครับ) และกรุณาระบุด้วยว่า จองกี่เล่ม โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
<O</O
<O</O
1.ต้องเป็นผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งเท่านั้น<O</O

2.ผมขอสงวนสิทธิ์ในการรับจองหรือไม่รับจอง ถึงแม้ว่าจะได้มาร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งแล้วก็ตาม และผมไม่แจ้งเหตุผลให้ทราบนะครับ<O</O

3.เงินค่าจองหนังสือ ผมจะแจ้งหมายเลขบัญชีให้ทราบทาง PM อีกครั้งเมื่อผมรับจองแล้ว
บัญชีที่จะให้โอนเงินค่าหนังสือนั้น เป็นบัญชีที่ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ผมเองไม่สามารถที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งได้เลย <O</O

4.เงินในส่วนต่างนั้น ผมจะนำเงินในส่วนนี้นำไปพิมพ์หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด<O</O
<O</O

ผมเริ่มให้จองตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2550 ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2550 เวลา 18.00 น. ครับ

.<O</O
</TD></TR></TBODY></TABLE>
รูปเล่มนั้น ต้องยอมรับว่าสวยงามครับ อีกทั้งมีรูปพระพิมพ์อีกพอสมควร ทางคณะผู้จัดทำ จะทำให้ดีที่สุด เพื่อเทิดพระเกียรติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ที่พระองค์ได้มีความเมตตาที่มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ และอยู่ดูแลพระศาสนาไปจนครบ 5000 ปีตามพุทธดำรัสครับ

ผมจะนำรายชื่อทั้งหมด ลงไว้ท้ายเล่มด้วยนะครับ

ผมเองก็ใช้หนังสือเล่มนี้เป็นครูในการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรและเป็นส่วนหนึ่งในการเสาะแสวงหาพระของหลวงปู่ และอีกเล่มก็คือหนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าครับ

ส่วนหนังสือปู่เล่าให้ฟังที่กำลังจะตามมานั้น เป็นเรื่องราวที่ท่านอาจารย์ประถมได้เคยเขียนลงในหนังสือต่างๆ และนำมารวบรวมไว้ในเล่มเดียวกัน แต่จะมีการปรับปรุงเนื้อหาบางเรื่อง ที่ได้ความรู้ใหม่ มาเพิ่มเติมขึ้นอีก และจะแตกต่างจะหนังสือปู่เล่าให้ฟังเล่มแรกและไม่ซ้ำกับหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรครับ

.<!-- / message --><!-- sig -->

 

หนังสือพระพิมพ์สมเด็จโตที่ผมเคยเห็นในร้านขายหนังสือเก่า เคยถามราคา ผมแทบตกเก้าอี้ เล่มถึงเขาขายกันเกือบ 50,000 บาท(ห้าหมื่นบาท) นั่นแสดงว่าคนอ่านต้องอยากได้พระสมเด็จของท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตอย่างแน่นอน หากเป็นเช่นนั้น ผมอยากให้ราคาหนังสือวิเคราะห์พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่านี้เป็นหนึ่งแสนบาทนะครับ มันมีค่ามาก อาจารย์ประถมช่วงนั้นใจดีมากครับ เพียง 500 บาท ถูกแสนถูกกับกระดาษปอนด์อย่างดี ภาพสีทั้งเล่มอีกต่างหาก นอกจากได้ปัญญาที่จะใช้ในการหาพระเครื่องของแท้แล้ว ยังเบาราคาอีกอย่างน่าใจหาย เสียดายที่อาจารย์ปู่ประถมไม่ทำอีกแล้ว ยิ่งพักหลังๆนี้ท่านไม่ค่อยแยแสกับพระเครื่องเท่าไหร่ด้วย จิตของท่านนิ่ง และเป็นอุเบกขา และอนัตตาจริงๆครับ...