พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.thaihealth.or.th/cms/detail.php?key=todayupdate&id=7236

    ปลุกกระแสคนไทย ใส่ใจการดื่มนม

    เสริมสร้างกระดูกแข็งแรง เพิ่มการเจริญเติบโต<O:p</O:p
    <O:p [​IMG]</O:p
    มีรายงานผลการวิจัยระบุว่าออกมาว่า คนไทยและคนเอเชียร้อยละ 90 ดื่มนมแล้วท้องเสีย บางกระแสถึงกับออกมาฟันธงสรุปว่าคนไทยไม่ควรดื่มนมวัวด้วยเหตุผลต่างๆ หนึ่งในนั้นบอกว่าคนไทยไม่มีน้ำย่อยน้ำตาลในนม การรายงานและสรุปเช่นนั้น สร้างความสับสนและตกใจให้กับสังคมไทยไม่น้อย เพราะปัจจุบันมีคนไทยจำนวนมากดื่มนมกันเป็นประจำ อีกทั้งหน่วยงานของรัฐและเอกชนก็ได้รณรงค์ให้คนไทยดื่มนมมาโดยตลอด โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    นม ถือว่าเป็นอาหารจากธรรมชาติที่มีความสมบูรณ์ในแง่ของการให้สารอาหารที่สำคัญแก่มนุษย์ โดยเริ่มตั้งแต่น้ำนมแม่ ทั่วโลกยอมรับกันมานมนานแล้วว่า เป็นอาหารดีและวิเศษที่สุดของทารก ซึ่งนมวัวไม่สามารถทดแทนนมแม่ได้หลายประการ พ้นระยะการกินนมแม่ นมวัวถือว่าเป็นอาหารเสริมสุขภาพที่ดี จึงควรกินนมจนกระทั่งโตเป็นผู้ใหญ่ เพราะนมไม่ใช่อาหารของวัยเด็กอย่างเดียว<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    แต่มีหลายคนเลิกกินนมมาเป็นระยะเวลายาวนาน พอกลับไปกินนมใหม่มักจะเกิดปัญหาท้องอืด ไม่สบายท้องบางรายถึงกับท้องเดิน เหตุผลเพราะการหยุดกินนมมาเป็นระยะเวลานานๆ และไม่เคยดื่มนม จะทำให้น้ำย่อยเลคเตสที่จะช่วยย่อยน้ำตาลแลคโตสที่มีในนมนั้นลดลงหรือหมดไป เมื่อกลับมาดื่มนม น้ำนมไม่ถูกย่อย จะค้างอยู่ในระบบทางเดินอาหารและบูดเน่าเพราะถูกย่อยด้วยจุลินทรีย์เกิดเป็นกรดและแก๊ส ซึ่งทำให้เกิดอาการดังกล่าว<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ณ วันนี้ปัญหาดังกล่าวไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะมีทางออกให้กับผู้ที่ดื่มนมแล้วท้องเสีย โดยเริ่มจากการดื่มนมในปริมาณที่น้อยๆ ก่อน เช่น เศษ 1 ส่วน 4 แก้ว แล้วค่อยๆ เพิ่มเป็นครั่งแก้วและเต็มแก้วในที่สุด แต่ที่สำคัญไม่ควรดื่มนมในขณะที่ท้องยังว่าง ควรหัดดื่มหลังการกินอาหารมื้อหลัก หรือไม่ก็กินไปพร้อมๆ กับอาหารว่าง และควรเป็นนมรสจืดและเป็นนมที่อุ่นๆ ส่วนมากจะใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ กระเพาะจึงจะเคยชิน ขึ้นอยู่กับภาวะของแต่ละคน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    แต่ถ้าหากยังเกิดอาการไม่สบายท้องหรือท้องเสียอีก ก็ควรจะหยุดดื่มนมสดชั่วคราว แล้วหันมากินโยเกิร์ตแทน เพราะในโยเกิร์ตได้ใส่เชื้อจุลินทรีย์ลงไปย่อยน้ำตาลแล้ว โยเกิร์ตและนมสดมีคุณค่าทางอาหารใกล้เคียงกัน เพียงแต่โยเกิร์ตจะราคาแพงกว่า หากเป็นผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุ ควรดื่มนมถั่วเหลืองสลับกันไป<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ดื่มนมแล้วท้องเสียอย่าเพิ่งระเหี่ยใจ คนไทยดื่มนมได้ หากแก้ไขให้ถูกทาง<O:p</O:p<O:p</O:p<O:p</O:p

    โดย : อาจารย์สง่า ดามาพงษ์<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    Update <?XML:NAMESPACE PREFIX = ST1 /><ST1:DATE Month="6" Day="12" Year="1950">12-06-50</ST1:DATE>​


    ที่มา :<O:p</O:p
    ข้อมูลจาก : หนังสือฉลาดกิน <O:p</O:p
    ภาพประกอบ : www.thaihealth.or.th<O:p</O:p

    <O:p[​IMG]</O:p
    <TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD height=20>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</TD></TR><TR><TD bgColor=#990000 height=3></TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left>[​IMG] เตือนดื่มนมมากเกินวันละ 2 กล่อง กระตุ้นสลายกระดูกในผู้ใหญ่</TD></TR><TR><TD align=left>[​IMG] แนะ
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.thaihealth.or.th/cms/detail.php?key=todayupdate&id=7244

    อุบัติเหตุ! เรื่องใกล้ตัวที่ทุกคนควรระวัง
    <O:p</O:p
    เกิดขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว แต่...เราสามารถป้องกันได้หากเราไม่ประมาท<O:p</O:p
    <O:p</O:p</O:p</O:p
    [​IMG]

    อย่างที่รู้ๆ กันอุบัติเหตุเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินได้ในชั่วพริบตาเดียวท่านสามารถป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุได้ ถ้าท่านคิดถึงความปลอดภัยไว้ในใจเสมอไม่ว่าท่านกำลังจะทำกิจกรรมใดก็ตาม เหมือนคำว่า "คิดถึงความปลอดภัยไว้ก่อน หรือภาษาอังกฤษที่ว่า "Safety First" นั่นเอง <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ถ้าท่านเดินไปตามท้องถนน ท่านจะต้องระมัดระวังหลุมบ่อต่าง ๆ ที่อาจขุดและกลบไม่เรียบร้อย การข้ามถนนควรข้ามบนทางม้าลาย หรือใช้สะพานลอยเท่านั้น การข้ามถนนบนทางม้าลาย ขอให้แน่ใจก่อนว่าคนขับรถที่กำลังผ่านมามองเห็นท่านและจะหยุดให้ท่านข้าม<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    สำหรับการข้ามถนนบริเวณด้านหน้ารถ หรือท้ายรถขนาดใหญ่ เช่น รถเมล์ ท่านต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะรถที่มาอาจไม่เห็นท่านและทางที่ดีคือ ปล่อยให้รถใหญ่นั้นผ่านพ้นไปก่อนจะดีกว่า ท่านจะปลอดภัยกว่า<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    นอกจากนี้การขับขี่และการซ้อนมอเตอร์ไซด์ ท่านควรสวมหมวกกันน็อคทุกครั้งเพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุมอเตอร์ไซด์เฉี่ยวชนกัน เมื่อใด ท่านจะปลอดภัยกว่าและกรณีที่ค่ำมืด ถ้าท่านต้องเดินตามท้องถนนที่มืด ท่านควรต้องมีไฟฉาย หรืออาจสวมเสื้อผ้าที่มีสีสะท้อนแสงอยู่ด้วยและควรที่จะเดินริมถนนในด้านที่เดินสวนกับทิศทางของรถที่กำลังมา<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ส่วนกรณีที่ท่านสงสัยในพฤติกรรมของคนหรือกลุ่มคนที่อยู่ข้างหน้าที่ท่านจะต้องเดินผ่านท่านอาจใช้วิธีการเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่งของถนน และเดินต่อไปได้ด้วยความปลอดภัย ถ้าท่านขับรถยนต์ ท่านต้องหมั่นตรวจสอบรถยนต์ที่ใช้งานอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเวลาเดินทางไกล ควรตรวจสอบยางรถยนต์ให้มั่นใจเสมอ อย่าดื่มสุราหรือของมึนเมาก่อนขับรถยนต์ควรให้ทุกคนใส่เข็มขัดนิรภัย รวมทั้งเด็กเล็กก็ควรนั่งบนเบาะที่นั่งเฉพาะไม่ควรอุ้มอยู่กับตัวเองเพราะจากสถิติอุบัติเหตุในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า เวลาเกิดอุบัติเหตุ เด็กที่นั่งอยู่บนเบาะที่นั่งเฉพาะจะมีความปลอดภัยมากกว่าเด็กที่ถูกอุ้มอยู่ ท่านควรขับรถให้อยู่ในความเร็วที่กำหนด<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ถ้าท่านรู้สึกเหนื่อยล้าและง่วงนอนควรจะจอดรถข้างทางหาที่ปลอดภัยเพื่อพักผ่อนให้หายง่วงก่อน ที่จะขับรถต่อไปการจอดรถข้างทางในถนนต่างจังหวัด ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้นควรจะให้สัญญาณฉุกเฉิน และแอบชิดข้างทางให้มากเท่าที่จะมากได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างจังหวัดรถที่จอดอยู่โดยไม่ให้สัญญาณและจอดไม่ชิดไหล่ทางมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้สูงและรุนแรงมาก <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    การป้องกันอุบัติเหตุ <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    1. ควรตรวจสอบสภาพของพาหนะที่ใช้ให้อยู่ในสภาพพร้อมก่อนใช้ทุกครั้ง ตรวจระบบไฟ น้ำมันหล่อลื่นตามจุดต่าง ๆ ระบบเบรก ลมยาง ยางอะไหล่ และอุปกรณ์เปลี่ยนยางเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับยามฉุกเฉิน<O:p</O:p
    2. สภาพของผู้ขับขี่ควรพร้อมพักผ่อนให้พอเพียงโดยเฉพาะเมื่อรู้ตัวต้องเดินทางไกล ไม่ควรดื่มสุรา ก่อนการขับขี่หากรู้สึกว่าง่วงควรหยุดพักซะก่อนแล้วค่อยเดินทางต่อ<O:p</O:p
    3. ตรวจสอบสภาพอากาศและเส้นทางก่อนเดินทางทุกครั้ง และเตือนตัวเองเสมอว่าความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นนั้นมันไม่คุ้มค่าเลยกับความประมาทของคุณเอง <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อุบัติเหตุทางรถยนต์ <O:p</O:p
    สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อุบัติเหตุทางรถยนต์เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยเป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน สาเหตุหลักคือ <O:p</O:p
    1. ความประมาทของผู้ใช้รถใช้ถนน<O:p</O:p
    2. ความไม่พร้อมของสภาพยานพาหนะที่ใช้ เช่น สภาพเครื่องยนต์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ของพาหนะที่อาจหมดอายุการใช้งานหรือชำรุด <O:p</O:p
    3. ความไม่พร้อมของผู้ขับขี่เช่นพักผ่อนไม่เพียงพออยู่ในอาการมึนเมาจากการดื่มสุราหรือรับประทานยาที่อาจทำให้เกิดการง่วงซึม<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    วิธีช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    1. รีบจอดรถให้ห่างจากสถานที่เกิดเหตุพอสมควร เปิดไฟกระพริบไว้<O:p</O:p
    2. ปิดสวิตช์รถที่เกิดเหตุทิ้งกุนแจลงที่พื้นรถ ดับบุหรี่ถ้ามี สำรวจอาการของคนเจ็บแต่ละคน<O:p</O:p
    3. รีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ<O:p</O:p
    4. ทำสัญญาณเตือนภัยอุบัติเหตุ เช่น กิ่งไม้ หรือไฟกระพริบ อย่าเคลื่อนย้ายคนเจ็บเว้นแต่ว่ารถจะเกิดไฟลุกไหม้<O:p</O:p
    5. เช็ดเลือดออกจากปากคนเจ็บเพื่อให้ทางเดินหายใจโล่ง คลายเสื้อผ้าส่วนที่รัดรึงออก<O:p</O:p
    6. แนะนำคนเจ็บที่พอจะช่วยเหลือตัวเองได้ให้ปฐมพยาบาลตัวเอง เช่น ห้ามเลือด<O:p</O:p
    7. ช่วยคนเจ็บตามลำดับก่อนหลังดังนี้<O:p</O:p
    - คนหมดสติและหายใจไม่ออก<O:p</O:p
    - คนที่เลือดออกมาก<O:p</O:p
    - คนหมดสติแต่ยังหายใจได้เอง<O:p</O:p
    8. ปลอบใจคนเจ็บให้หายกังวล และแจ้งว่ารถพยาบาลกำลังมา จัดระเบียบการจราจร เพื่อคุณภาพชีวิตคนบนท้องถนน <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    16 มกราคม 2545เริ่มยึด และบันทึกคะแนน อบรม ทดสอบ หรือพักใช้ใบขับขี่<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ความผิดที่ถูกบันทึกครั้งละ 10 คะแนน (A) <O:p</O:p
    1. ขับรถกีดขวง<O:p</O:p
    2. ขับรถบนทางเท้า <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ความผิดที่ถูกบันทึกครั้งละ 20 คะแนน (B) <O:p</O:p
    1. แซงรถด้านซ้ายไม่ปลอดภัย<O:p</O:p
    2. แซงรถในที่คับขัน<O:p</O:p
    3. จอดรถในทางไม่เปิดไฟ<O:p</O:p
    4. แท็กซี่ไม่รับผู้โดยสาร<O:p</O:p
    5. แท็กซี่ทอดทิ้งผู้โดยสาร <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ความผิดที่ถูกบันทึกครั้งละ 30 คะแนน (C) <O:p</O:p
    1. ขับรถขณะหย่อนความสามารถ<O:p</O:p
    2. ขับรถประมาทหน้าหวาดเสียว<O:p</O:p
    3. ขับรถผิดปกติวินัย<O:p</O:p
    4. ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น<O:p</O:p
    5. ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ความผิดที่ถูกบันทึกครั้งละ 40 คะแนน (D) <O:p</O:p
    1. ไม่หยุดรถหลังเส้นให้หยุดตามสัญญาณไฟแดง<O:p</O:p
    2. ขับรถขณะเมาสุรา<O:p</O:p
    3. ขับรถ รถชนแล้วไม่ช่วยเหลือ หรือไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงาน<O:p</O:p
    4. แข่งรถในทาง <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p
    <O:p[​IMG]</O:p

    ที่มา<O:p</O:p
    ข้อมูลจาก : กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ<O:p</O:p
    ภาพประกอบ: www.thaihealth.or.th<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    Update ffice:smarttags" /><ST1:date Month="6" Day="12" Year="1950">12-06-50</ST1:date<O:p</O:p


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD background=/images2/line02.gif height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="50%"><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD height=20>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</TD></TR><TR><TD bgColor=#990000 height=3></TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left>[​IMG] มาหลีกเลี่ยง! เส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ กันดีกว่า...</TD></TR><TR><TD align=left>[​IMG] เยาวชนผนึกกำลัง ผลิต "สื่อดี" ต้าน "กลุ่มทุน"</TD></TR><TR><TD align=left>[​IMG] เปิดประตู่สู่งานสร้างสุขภาคกลาง</TD></TR><TR><TD align=left>[​IMG] ขอเชิญร่วมกิจกรรมดีๆ เพื่อพัฒนาเด็กและครอบครัว</TD></TR><TR><TD align=left>[​IMG] ชี้ 5 วิธีแต่งกายต้องห้ามของคุณผู้ชาย</TD></TR><TR><TD align=left>[​IMG] ปลุกกระแสคนไทย ใส่ใจการดื่มนม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.matichon.co.th/khaosod/k...g=03bud08170650&day=2007/06/17&sectionid=0307


    วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6044​

    ดีตลอดไป


    คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด



    บุคคลบางคนเกิดมาเพียบพร้อมด้วยทรัพย์สินเงินทอง โภคสมบัติ บริวารสมบัติ เป็นคนมีชาติตระกูล ผู้คนเคารพนับถือมากมาย เพราะในอดีตชาติได้ประกอบกุศลคุณงามความดีไว้ จึงส่งผลให้มาเกิดเป็นมนุษย์ มีความสุข สะดวกสบาย

    การดำเนินชีวิตของคนประเภทนี้มักไม่นิ่งดูดาย มีความขยัน หมั่นประกอบอาชีพ และประกอบคุณงามความดี ด้วยคิดว่าที่ตนเองเกิดมามีทั้งโภคสมบัติ ทั้งบริวารสมบัตินั้น เป็นเพราะได้ทำบุญ ให้ทานมาแต่ก่อน ในชาตินี้เมื่อมีโอกาสจึงทำบุญให้ทาน ทำแต่กรรมดี สั่งสมบุญกุศลเพิ่มขึ้นอีก ประพฤติแต่สุจริตคือทำกรรมดี อันเป็นทางนำไปสู่ทางที่ดีมีความสุข

    ทำความดีทางกาย เช่น ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักขโมยทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่ประพฤติผิดในกาม ทำความดีทางวาจา เช่น ไม่พูดโกหกหลอกลวงผู้อื่น ไม่พูดส่อเสียดให้ผู้อื่นเจ็บใจ ไม่พูดจาหยาบคาย ไม่พูดคำพูดเพ้อเจ้อที่ไม่มีประโยชน์ และทำความดีทางใจ เช่น ไม่มีความโลภอยากได้ของผู้อื่น ไม่คิดพยาบาทเบียดเบียนผู้อื่น มีความเห็นชอบคือ ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม เช่น เห็นว่าทำดีได้ดี เป็นต้น

    บุคคลผู้ประพฤติเช่นนี้ เมื่อตายแล้วย่อมเข้าถึงสุคติ โลกสวรรค์ อันมีแต่ความสุขความเจริญอย่างเดียว พระพุทธเจ้าทรงยกย่องสรรเสริญว่า เป็นบุคคลผู้มีชีวิตสว่างมา สว่างไป

    ตัวอย่างเรื่องอุบาสกคนหนึ่งเป็นผู้มีจิตศรัทธาอย่างแรงกล้าในพระพุทธศาสนา ได้ทำบุญด้วยวิธีต่างๆ เช่น ให้ทาน รักษาศีล เป็นต้น ต่อมาได้สร้างศาลาจัตุรมุขขึ้นหลังหนึ่ง ถวายไว้ในพระพุทธศาสนา ในขณะที่พระพุทธองค์กล่าวอนุโมทนาจบลง วิมานจัตุรมุขได้ผุดขึ้นในเทวโลก เพื่อต้อนรับอุบาสกนั้น

    พระมหาโมคคัลลานะไปเยี่ยมเทวโลก เห็นวิมานนั้นว่างเปล่า ไม่มีเทพบุตรหรือเทพธิดาประจำอยู่ จึงไต่ถามเทพบุตรในวิมานใกล้เคียงแล้วทราบว่า เป็นวิมานที่ผุดขึ้นเพื่อต้อนรับนันทิยอุบาสก ซึ่งยังมีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์ พระมหาโมคคัลลานะจึงนำข่าวมาแจ้งแก่นันทิยอุบาสก เมื่อเขาได้ฟังแล้วเกิดปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ได้สละทรัพย์บำเพ็ญกุศลในพระพุทธศาสนาอีกเป็นจำนวนมาก เมื่อเขาสิ้นชีวิตแล้วได้ไปบังเกิดในวิมานนั้น

    บุคคลผู้ที่ทำดีและสามารถรักษาความดีไว้เป็นประจำ จึงนำให้ชีวิตมีความสุขทั้งปัจจุบันและภายภาคหน้า เปรียบเหมือนบุคคลผู้มีชีวิตที่รุ่งเรือง

    แล้วมีความรุ่งเรืองอีกต่อไป
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01bud01170650&day=2007/06/17&sectionid=0121


    วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10690​

    นักบริหารลิง


    คอลัมน์ รื่นร่มรมเยศ

    โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก



    มีผู้ให้คำจำกัดความของคำว่า "นักบริหาร" ว่าได้แก่ "ผู้มีศิลปะแห่งการทำงานให้สำเร็จ โดยอาศัยผู้อื่น"

    ถ้าตามนัยนี้ นักบริหารไม่จำเป็นต้องเป็นคนเก่งกาจไปทุกด้าน ขอเพียงแต่มีศิลปะในการใช้คนให้เหมาะกับงานก็เป็นพอ เมื่อใช้คนเหมาะกับงาน งานที่ทำร่วมกันก็สำเร็จได้ด้วยดี

    ขงจื๊อ นักปราชญ์คนสำคัญของจีนได้ชื่อว่าเป็นนักวิชาการและนักบริหารผู้ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง ขงจื๊อเองก็ถ่อมตัวว่า มิได้เก่งกาจอะไรมากมายดังที่คนทั่วไปสรรเสริญเยินยอ ท่านมีศิษย์หลายคนและแต่ละคนล้วนเก่งกว่าท่านทั้งนั้น

    มีคนถามท่านขงจื๊อว่า "เย็นหุยเป็นคนอย่างไร"

    "ถ้าพูดในแง่เมตตา เย็นหุยมีมากกว่าข้าพเจ้า" ปรมาจารย์ตอบ

    "จื้อกุง เป็นเช่นไร"

    "จื้อกุง พูดเก่งกว่าข้าพเจ้า"

    "แล้ว จื้อลู่ล่ะ"

    "จื้อลู่มีความกล้ากว่าข้าพเจ้า"

    "จื้อฉ่าง ล่ะ"

    "จื้อฉ่างมีท่าทางสง่างามกว่าข้าพเจ้า"

    ผู้ถามแสดงความไม่พอใจในคำตอบกล่าวขึ้นว่า "เมื่อแต่ละคนเก่งกว่าท่าน ทำไมพวกเขาจึงยอมตนเป็นศิษย์ของท่านเล่า"

    ขงจื้อตอบว่า "เย็นหุยนั้น มีเมตตามากจริง แต่บางครั้งก็เมตตาเลยเถิด จนสร้างความเดือดร้อนแก่ตัว จื้อกุงพูดเก่งจริง แต่ไม่รู้จักสำรวมปาก จื้อลู่ก็กล้าเสียจนบ้าบิ่น จื้อฉ่างก็วางท่าสง่างามเสียจนไม่รู้จักถ่อมตน ถ้าจะยกสิ่งที่คนทั้งสี่มีมารวมกันให้ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่ขอรับ เพราะสิ่งที่พวกเขาขาดมีอยู่ในตัวข้าพเจ้า เพราะเหตุนี้พวกเขาจึงยอมเป็นศิษย์รับใช้ข้าพเจ้า"

    คำอธิบายของปรมาจารย์ขงจื๊อก็คือ ตัวท่านมิได้เก่งกาจไปกว่าศิษย์เอกทั้งสี่ในด้านต่างๆ ที่พวกเขามี แต่ท่านมีในสิ่งที่พวกเขาไม่มี คือการรู้จักใช้ความเก่งความสามารถนั้นให้ถูกต้องเหมาะสม พูดนัยหนึ่งก็คือ ท่านขงจื๊อรู้จุดด้อย และจุดเด่นของศิษย์ทั้งสี่และใช้พวกเขาให้ถูกกับงานและถูกกับกาลเทศะนั้นเอง

    อย่างนี้จะไม่ให้เรียกว่า เป็นนักบริหารชั้นยอดได้อย่างไร

    จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ใครๆ ก็ว่าเป็นจอมเผด็จการ เป็นใหญ่ขึ้นมาได้เพราะใช้อำนาจปฏิวัติ ฝีไม้ลายมือการบริหารประเทศก็คงยังงั้นๆ แหละ โชคดีที่มีคนดีมีฝีมือคอยช่วยเหลือ จึงบริหารประเทศรุดหน้าพัฒนามาพอสมควร แต่ถ้าดูให้ดีแล้ว จอมพลสฤษดิ์ก็นับเป็นนักบริหารตามคำจำกัดความข้างต้นแท้ทีเดียว

    คือท่านรู้จักใช้คนเหมาะกับงาน

    เล่ากันว่า ตอนท่านไปผ่าตัดใหญ่ที่ต่างประเทศ ได้คัมภีร์ปฏิวัติเขียนเป็นภาษาฝรั่งเศสมาเล่มหนึ่ง ท่านอยากรู้ว่าเขาเขียนว่าอย่างไรบ้าง ถามหาคนที่รู้ภาษาฝรั่งเศสดี มีคนแนะหลวงวิจิตรวาทการ จึงตามหลวงวิจิตรฯ มามอบคัมภีร์ให้ไปช่วยแปลให้ฟัง

    หลวงวิจิตรฯ ไม่แปลเฉยๆ สรุปและเสนอแนะมาด้วยว่า ทฤษฎีอย่างนี้ๆ ใช้กับเมืองไทยไม่ได้ เมืองไทยควรจะใช้อย่างนี้ๆ

    ท่าน จอมพลผ้าขะม้าแดง (สมญานามที่คนสมัยนี้คงไม่รู้จัก) เรียกตัวมาพบชวนปฏิบัติเลยมอบให้คุณหลวงเป็นคนวางแผน เขียนคำประกาศและคำขวัญ คุณหลวงก็ยินดีช่วย จึงปรากฏว่า เมื่อท่านจอมพลปฏิวัติเสร็จนั้น มีคำแถลงการณ์ และคำขวัญออกมาเป็นระยะๆ ระยะไหนควรจะพูดเรื่องอะไร ดูเป็นระบบไปหมด ถ้อยคำสำนวนก็สละสลวยไพเราะ

    ต่างจากการปฏิวัติสมัยต่อมาบางครั้ง (ไม่ได้บอกนะครับว่าว่าครั้งไหน) ว่ากันว่ายึดอำนาจ จับตัวนายกฯ ได้แล้ว ก็เปิดเพลงแอ่ดี้แอ แออี้แอ อยู่เป็นชั่วโมงๆ กว่าจะออกคำแถลงการณ์ บอกเหตุผลการปฏิวัติออกมาได้

    และที่น่าขายหน้า ก็คือมาสารภาพภายหลังว่า ปฏิวัติครั้งนั้นเตรียมวางแผนล่วงหน้าเพียงหนึ่งชั่วโมง ที่ต้องทำเพราะกลัวนายกฯ ปลดจากตำแหน่ง พอจับนายกฯ ได้ ดันหาคำสั่งปลดไม่พบ เลยงงเป็นไก่ตาแตก

    คุณหลวงวิจิตรฯ มีความเก่งกาจทางด้านไหน จอมพลสฤษดิ์ท่านใช้ให้เหมาะกับงานแผนการสร้างชาติของท่านจึงลุล่วงไปได้ ถึงจะไม่วิเศษเลิศเลอนัก ก็ไม่ถึงกับทำให้เศรษฐกิจประเทศชาติเกือบพังดังการปฏิวัติในระยะหลังๆ

    ที่เขียนนี้มิได้หมายความว่า ผมเห็นดีเห็นงามด้วยกับการปฏิวัติ หากเห็นว่าการปฏิวัติรัฐประหารเป็นการถอยหลังเข้าคลอง หรือทำให้การพัฒนาประชาธิปไตยชะงักงันอย่างยิ่ง ที่ชมท่านจอมพลสฤษดิ์มิได้ชมการทำปฏิวัติของท่าน แต่ชมตัวท่านว่า มีความเก่งในการเลือกคนเหมาะกับงาน ดังกรณีเลือกหลวงวิจิตรวาทการมาวางแผน ร่างคำประกาศและคำขวัญดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น

    ผมจำได้จนบัดนี้ว่า เมื่อครั้งเสียเขาพระวิหารให้แก่เขมร เพราะศาลโลกพิพากษาให้ไทยแพ้เขมรนั้น ประชาชนก่นด่าจอมพลสฤษดิ์หัวหน้ารัฐบาลกันทั่วประเทศ หาว่าเป็นตัวการทำให้เสียโบราณสถานที่สำคัญของไทย ท่านจอมพลได้ออกทีวี กล่าวคำปราศรัยแก่ประชาชนทั้งประเทศ

    ถ้อยคำแต่ละคำในประโยคที่เปล่งออกจากปากท่านจอมพล ประกอบกับสีหน้าท่าทางที่แสดงออกหน้าจอทีวี ตรึงผู้ดูผู้ชมอยู่กับที่ ประชาชนต่างคล้อยตามและเห็นอกเห็นใจท่านจอมพล จนกระทั่งลืมความเกลียดชังท่านหมดสิ้น

    ท่านจอมพล อ่านไปร้องไห้ไป อย่างนี้จะโกรธลงคอหรือครับ

    ความสำเร็จครั้งใหญ่หลวงนี้ เป็นฝีมือคุณหลวงวิจิตรฯ ร่างคำแถลงให้ และแนะนำจังหวะจะโคน ในการอ่านและการแสดงสีหน้าประกอบด้วย ว่ากันอย่างนั้น

    ยกท่านจอมพล "ผ้าขะม้าแดง" มาเป็นตัวอย่าง ก็เพื่อจะสรุปว่า นักบริหารที่ดีนั้น ต้อง "รู้จักใช้คนให้เหมาะกับงาน" คนที่ทำได้อย่างนี้ อย่างน้อยต้องมีคุณสมบัติ 2 ประการคือ

    1.มีสติปัญญา โดยเฉพาะสติปัญญาที่ดูคนออก ดูคนเป็นว่า ใครมีความสามารถเฉพาะตัวด้านไหน เหมาะกับงานชนิดไหน สติปัญญาที่สามารถจัดวางคนถูกต้องเหมาะสมกับงาน

    2.มีใจกว้างยอมรับความสำคัญของคนอื่น ไม่คิดว่าตนเก่งอยู่คนเดียว ไม่หวงงานไว้ทำคนเดียวจนไม่รู้จักปล่อย ไม่รู้จักวางสิ่งควรปล่อยควรวาง

    นักบริหารที่ขาดคุณสมบัติข้อที่ 1 มีลักษณะคล้าย "ลิงรดต้นไม้" ดังนิทานเล่าว่า เจ้าของสวนปลูกต้นไม้ใหม่ๆ แล้วสั่งหัวหน้าลิงให้พาฝูงลิงช่วยรดน้ำต้นไม้ให้ด้วยในขณะที่ตนไม่อยู่ หัวหน้าลิงก็พาลูกน้องรดน้ำต้นไม้ทุกวัน โดยเทน้ำรดแล้วก็ถอนรากขึ้นมาดูเพื่อให้แน่ใจว่า รากชุ่มน้ำแล้วยัดลงหลุมใหม่ ทำอย่างนี้ทุกวัน ไม่ช้าไม่นาน ต้นไม้ก็ตายเกลี้ยงสวน นักบริหารที่สักแต่ว่า ใช้คนให้ทำงาน โดยไม่ดูว่าคนที่ตนมอบงานให้นั้น มันโง่หรือฉลาดแค่ไหน เหมาะกับงานนั้นๆ หรือไม่ เรียกว่า "นักบริหารลิงรดต้นไม้"

    นักบริหารที่ขาดคุณสมบัติข้อที่ 2 มีลักษณะคล้าย "ลิงติดตัง" ดังนิทานเล่าว่า ลิงตัวหนึ่งเห็น "ตัง" ที่เขาวางดักไม้ ถือตัวว่าแน่ อยากลอง เอามือจับ มือติดหมับเขาให้ เอาอีกมือจับก็ติดอีก เอาเท้าขวาถีบ เท้าขวาก็ติด เอาเท้าซ้ายถีบ เท้าซ้ายก็ติดอีก เลยดิ้นกลิ้งหลุนๆ ยังกับลูกบอลถูกเตะ นักบริหารที่ไม่รู้จักประมาณตน นึกว่าตัวเก่ง ตัวแน่อยู่ตัวเดียว ไม่เห็นความสำคัญของเพื่อนร่วมงาน หอบงานไว้คนเดียว ไม่ปรึกษาหารือใคร และไม่รับคำแนะนำจากใคร ยิ่งทำงานก็ยิ่งผิดพลาด สร้างปัญหาพัวพันตัวเองจนดิ้นไม่หลุด นักบริหารประเภทนี้เรียกว่า "นักบริหารลิงติดตัง"

    หัวหน้าลิงที่ใช้ลูกน้องรดน้ำต้นไม้เป็นลิงโง่ ใช้ลูกน้องทำงานไม่เหมาะกับลักษณะของงาน เพราะลูกน้องก็โง่ไม่แพ้กัน ผลที่สุดต้นไม้ที่ทั้งหัวหน้าและลูกน้อยช่วยกันรดน้ำอย่างขยันขันแข็งก็ตายเรียบ

    ลิงอีกตัวโง่ไม่แพ้ลิงตัวแรก แถมยังไม่รู้และไม่ยอมรับว่าตัวโง่ ชอบลองดีลองทำให้สิ่งที่ตนขาดประสบการณ์ เพราะถือว่าเก่งพอแล้ว ผลที่สุดก็ติดตังดิ้นทุรนทุรายอย่างน่าสงสาร

    นักบริหารที่มีลักษณะคล้ายกับลิงสองตัวนี้ เรียกว่านักบริหารลิง หน่วยงานที่มีนักบริหารลิงๆ เช่นนี้ รับประกันได้เลยว่า ฉิบหายลูกเดียว!
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.cheewajit.com/highlight.asp

    นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 208
    [​IMG] มหัศจรรย์พลังของถั่ว
    พืชตระกูลถั่ว (Legumes) ทั้งหมด จัดแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มคือ
    • บีน (Bean) เป็นถั่วฝักที่มีเมล็ดไม่กลม กินได้ทั้งฝัก เช่น ถั่วแขก ถั่วพู ถั่วฝักยาว หรือกินเฉพาะเมล็ด เช่น ถั่วเหลือง ถั่วปากอ้า
    • พี (Pea) เป็นถั่วกินฝักสด แต่เมล็ดมีลักษณะกลม บางครั้งเรียกว่า Green Pea เช่น ถั่วลันเตา ถั่วชิกพี เลนเทิล (Lentils) ลักษณะเมล็ดแบนเล็ก เหมือนนัยน์ตาคน มีหลายสี เช่น เขียว น้ำตาล
    • นัต (Nut) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไม้ยืนต้น ลำต้นสูง มีเปลือกผลแข็งมาก เช่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์ อัลมอนด์ พิสตาชิโอ วอลนัต แมกคาเดเมีย แม้ “นัต” จะมีโปรตีนน้อยกว่าถั่วเมล็ดแห้ง แต่นัตเกือบทุกชนิด โดยเฉพาะอัลมอนด์ อุดมไปด้วยแมกนีเซียมปริมาณสูง ซึ่งในถั่วเมล็ดแห้งนั้นมีเพียงน้อยนิด จึงควรทานถั่วและนัตควบคู่กัน
    นอกจากนี้เมล็ดของถั่วทั้ง 3 กลุ่ม ยังแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ
    1. ถั่วน้ำมัน (Oilseed legumes) คือ ชนิดที่มีโปรตีนและไขมันสูง ซึ่งจะสะสมพลังงานในรูปไขมัน ได้แก่ ถั่วเหลือง ถั่วลิสง
    2. ถั่ว Pulses คือ ชนิดที่มีโปรตีนสูงและไขมันต่ำ ซึ่งสะสมพลังงานในรูปของคาร์โบไฮเดรต และเมล็ดมีแป้งสูง เช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่งแดงหลวง ถั่วพุ่ม ถั่วลาย ถั่วปากอ้า ฯลฯ
    คลังอาหารของถั่วเพื่อคน
    • เปลือกหุ้มเมล็ด ซึ่งมีหลากสี เช่น เขียว ดำ แดง น้ำตาลส้ม ขึ้นกับชนิดพันธุ์ โครงสร้างของเปลือกถั่วและเนื้อในเมล็ด มีใยอาหารปริมาณสูง ซึ่งมีทั้งแบบที่ละลายน้ำได้ และละลายน้ำไม่ได้
      - ชนิดไม่ละลายในน้ำ จะช่วยเพิ่มกากใยและอุ้มน้ำ ทำให้อุจจาระนิ่ม และขับถ่ายเป็นปกติ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และริดสีดวงทวาร
      - ชนิดละลายในน้ำ ช่วยลดคอเลสตอรอลในเลือด ทั้งนี้อาจเป็นเพราะใยอาหารชนิดนี้จับตัวกับน้ำดี ซึ่งมีคอเลสเตอรอลเป็นส่วนประกอบ แล้วขับออกจากร่างกายมากขึ้น ทำให้ร่างกายต้องใช้คอเลสเตอรอลที่มีอยู่มาสร้างน้ำดีเพื่อทดแทน ผลคือจะไปช่วยลดระดับคอเลสตอรอลในเลือด ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดในสมองแตก
    • endosperm คืออาหารสะสมที่อยู่ในเมล็ดถั่ว เป็นส่วนสำคัญในการงอกของเมล็ดเป็นต้นอ่อน ซึ่งบรรจุสารอาหารที่มีคุณค่าไว้มากมาย อาทิ

      คาร์โบไฮเดรต - จะสะสมอยู่ในรูปของแป้ง เมื่อรับประทานถั่วร่างกายจะย่อยแป้งที่มีอยู่ในถั่วและดูดซึมน้ำตาลที่ได้ไปใช้อย่างช้าๆ ทำให้มีกลูโคสลำเลียงเข้าไปในเลือดอย่างสม่ำเสมอ การกินถั่วเมล็ดแห้งจึงเป็นผลดีต่อผู้ที่เป็นเบาหวาน เพราะทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดียิ่งขึ้น

      ไขมัน - ในถั่วค่อนข้างมีไขมันต่ำ ยกเว้นถั่วเหลืองที่มีไขมันสูงถึง 30-35 เปอร์เซ็นต์ แต่ไขมันดังกล่าวจะมีปริมาณของไขมันคุณภาพดี เช่น ไขมันไม่อิ่มตัวค่อนข้างสูง ซึ่งได้แก่ กรดไลโนเลอิก กรดไลโนเลนิก และกรดโอลีอิก ล้วนแต่มีความสำคัญต่อร่างกาย เช่น ช่วยสร้างความสมบูรณ์ให้แก่ผิวหนัง ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด และจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารกและเด็ก

      โปรตีน - อย่างที่รู้กันว่าโปรตีนเป็นส่วนประกอบสำคัญของเอนไซม์ ฮอร์โมน โลหิต และของเหลวที่อยู่ภายในเซลล์ คุณภาพของโปรตีนจึงต้องเลือกสรรอย่างพิถีพิถัน ในเมล็ดถั่วเป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญ ร่างกายคนเราต้องการโปรตีน ที่ประกอบด้วย กรดอะมิโนที่จำเป็นอยู่ 10 ชนิด เพราะเป็นชนิดที่ร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ และพบว่าในเมล็ดถั่วนั้นมีกรดอะมิโนที่จำเป็นอยู่ครบทั้ง 10 ชนิด ไม่แตกต่างจากเนื้อสัตว์ เพียงแต่ปริมาณของกรดอะมิโนบางชนิดจะมีปริมาณน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการ ดังนั้น การบริโภคโปรตีนจากถั่วจึงอาจทำให้ร่างกายได้รับกรดอะมิโนไม่ครบถ้วน การรับประทานธัญพืชอย่างอื่นเสริมจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนตามต้องการ ซึ่งหากเทียบกับการรับประทานโปรตีนจากสัตว์นั้น จะพบว่าในเนื้อสัตว์นอกจากมีโปรตีนแล้ว ยังมีไขมันอิ่มตัวแทรกอยู่ในปริมาณสูง ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้มีคอเลสเตอรอลสูง รวมถึงวิธีการปรุงอาหารด้วย การปรุงอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ส่วนใหญ่ใช้วิธีปิ้งย่าง ซึ่งทำให้เกิดสารก่อมะเร็งขึ้นได้ ต่างจากการปรุงอาหารจากถั่วที่ใช้การนึ่ง อบ ต้ม ก็จะมีความปลอดภัยมากกว่า

    [​IMG] มหัศจรรย์พลังของถั่ว
    • เอนไซม์และแร่ธาตุ เอนไซม์ที่อยู่ในถั่วเมล็ดแห้งจะเป็นเอนไซม์ที่ยังไม่ทำงาน กระทั่งเมื่อได้รับน้ำและออกซิเจนก็จะเริ่มทำงาน ช่วยให้เมล็ดถั่วงอกเป็นต้นอ่อน ซึ่งกลายเป็นต้นถั่วงอกต่างๆที่เรารับประทานกัน นอกจากนี้เมล็ดถั่วยังมีแร่ธาตุต่างๆ อาทิ แคลเซียมที่พบมากในถั่วเหลืองเป็นต้น
    สารพันถั่วและนัต
    • ถั่วลันเตา
      รสชาติและสรรพคุณ : รสหวาน ช่วยขับของเหลวในร่างกาย ถอนพิษ มักใช้บำบัดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นตะคริว เหน็บชา ปัสสาวะขัด เพิ่มน้ำนม
      คุณค่า : มีอะกลูทินินและจิบเบอเรลลิน โปรตีน ไขมัน แคโรทีน และวิตามินบี 2
      ข้อพึงสังเกต : ถั่วลันเตาทำเป็นกับข้าว จะมีรสชาติอร่อย ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรกินเป็นประจำ
    • ถั่วลิสง
      รสชาติและสรรพคุณ : รสหวาน ช่วยบำรุงปอด และกระเพาะอาหาร แก้ไอ ขับปัสสาวะ กระตุ้นน้ำนมเหมาะกับผู้ที่มีอาการไอแห้ง ร่างกายอ่อนแอ
      คุณค่า : มีน้ำมันถั่ว โปรตีน วิตามิน ชะลอความเสื่อมสภาพของร่างกาย บำรุงสมอง เสริมความจำ
      ข้อพึงสังเกต : ผู้ที่เป็นเชื้อราตามมือและเท้า หรือมีอาการท้องร่วงไม่ควรกิน
    • ถั่วแดง
      รสชาติและสรรพคุณ : รสหวาน เปรี้ยว ช่วยขับปัสสาวะ บรรเทาอาการปวดบวม ปวดข้อต่อ ปรับสภาพเลือด กำจัดหนอง ขับพิษ บำบัดอาการประจำเดือนผิดปกติ ลดอาการผื่นคัน
      คุณค่า : มีโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต ขี้เถ้า แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก วิตามินบี 1 และบี 2 กรดแอสคอร์บิก
    • ถั่วเขียว
      รสชาติและสรรพคุณ : รสหวาน ช่วยขับร้อน ถอนพิษ ขับของเหลวในร่างกาย บำรุงตา ลดความดันโลหิตสูง มีประโยชน์ต่อลำคอและผิวหนัง รักษาอาการกระหายน้ำ ไตอักเสบ หรือลำไส้อักเสบ ไข้หวัด ผื่นคัน เบาหวาน พิษจากพืชและสารหนู
      คุณค่า : ช่วยกระตุ้นประสาท เจริญอาหาร มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และแคโรทีน
      ข้อพึงสังเกต : ถั่วเขียวได้รับสมญาวา “ธัญพืชพิทักษ์โลก” มักทำเป็นเครื่องดื่มแก้ร้อนในและแก้พิษในฤดูร้อน ผู้ที่ร่างกายเย็น-พร่องไม่ควรกิน ผู้ที่ม้ามและกระเพาะอาหารอ่อนแอ ถ่ายอุจจาระบ่อย หรือท้องเดิน ควรกินแต่น้อย
    • ถั่วเหลือง
      รสชาติและสรรพคุณ : รสหวาน บำรุงม้าม ขับแห้ง สลายน้ำ ขับร้อน ถอนพิษ แก้ปวด มักใช้บำบัดอาการลำไส้ทำงานไม่ปกติ โรคบิด แน่นท้อง ผอมแห้ง แผลเปื่อย
      คุณค่า : มีโปรตีน เลซิทิน และกรดอะมิโน รวมทั้งมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ไนอะซิน วิตามินบี 1 และบี 2 วิตามินเอและอี ซึ่งสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูก ป้องกันการขาดแคลเซียมในกระดูก และบำรุงระบบประสาทในสมอง
      ข้อพึงสังเกต : ถั่วเหลืองได้รับการขนานนามว่า “ราชาแห่งถั่ว” หากกินเป็นประจำช่วยป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน
    • ถั่วดำ
      รสชาติและสรรพคุณ : รสหวานบำรุงเลือด ขับของเหลวในร่างกาย ขับลม ขจัดพิษ บำรุงไต ขับเหงื่อ แก้ร้อนใน บำรุงสายตา เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการบวมน้ำ เหน็บชา ดีซ่าน ไตเสื่อม ปวดเอว
      คุณค่า : มีโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แคโรทีน ไนอะซิน วิตามินบี 1 และบี 2 และสารที่ช่วยบรรเทาอาการปวดลำไส้เล็ก
    • ถั่วงอก มีทั้งเพาะด้วยถั่วเมล็ดเขียว และถั่วเมล็ดดำมีโปรตีน วิตามินบี วิตามินซี เส้นใยอาหาร (1.6 กรัมต่อ 1 ถ้วยตวง) มีวิตามินและเกลือแร่สูง มีแคลอรีต่ำ มีวิตามินซีสูง เส้นใยช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้
    • โตเหมี่ยว เพาะจากเมล็ดถั่วลันเตา รสหวานเหมือนถั่วลันเตา มีวิตามินบีและวิตามินซีสูง
    • อัลฟาฟ่า เพาะจากถั่วลันเตาชนิดหนึ่ง สรรพคุณ ช่วยขับร้อน ถอนพิษ และขับปัสสาวะ
    • ถั่วฝักพู มีคาร์โบไฮเดรต เส้นใย โปรตีน ไขมัน แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินเอ ซี อี บี 1 บี2 ไนอาซิน สรรพคุณ บำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย บรรเทาอาการปวดเมื่อย แก้ตัวร้อน ลดไข้
    • ถั่วฝักยาว มีสารอาหาร คาร์โบไฮเดรต เส้นใย โปรตีน แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินเอ ซี บี 1 บี2 ไนอาซิน สรรพคุณ บำรุงไต
    • วอลนัต วอลนัตมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก วอลนัต 50 กรัมจะให้คุณค่าทางอาหารเทียบเท่ากับนมโค 500 กรัม หรือไข่ไก่ 250 กรัม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ
    • อัลมอนด์ มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีแคลเซียม แมกนีเซียม และวิตามินบีต่างๆ
    • พิสตาชิโอ มีวิตามินเอ เมล็ดสีเขียวมีคุณภาพดีกว่าเมล็ดสีอื่นๆ
    • เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ มีวิตามินซี กินเป็นของคบเคี้ยว
    ทำไมกินถั่วมากถึงผายลม

    อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง ได้บรรยายเรื่องการผายลมเพราะกินถั่วไว้ใน หนังสือปั้นชีวิตใหม่ด้วยชีวจิตเล่ม 4 ดังนี้

    “พวกโปรตีนจากพืชกลุ่มนี้ส่วนมากไม่ย่อยในกระเพาะ แต่จะไปย่อยในลำไส้เล็ก เมื่ออาหารประเภทถั่วเคลื่อนเข้าสู่ลำไส้เล็ก น้ำย่อยจากตับ (น้ำดี) และน้ำย่อยจากตับอ่อน จะต้องถูกขับเพื่อไปย่อยถั่วเหล่านี้

    “ถ้าน้ำดีและน้ำย่อยจากตับอ่อนมีน้อยหรือถูกขับออกไปช้า พวกถั่วก็จะย่อยไม่หมด เมื่อเคลื่อนเข้าสู่ปลายลำไส้ หรือเคลื่อนเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ก็จะเป็นกากอาหาร ซึ่งไม่ย่อยอีกต่อไปแล้ว และกลายเป็นลม ที่มีทั้งเสียงทั้งกลิ่น”
    กินถั่วให้อร่อยและถูกวิธี

    เคล็ดลับที่ไม่ลับในการกินถั่วให้อร่อยและสบายท้องคือ เอาถั่วแช่น้ำไว้นานๆ อย่างน้อย 12 ชั่วโมง หรือแช่ค้างคืนแล้วจึงเอามาต้มให้เปื่อย ถั่วจะมัน หวาน อร่อย ส่วนในต่างประเทศ มีการแนะนำให้เติมเครื่องเทศที่มีสรรพคุณลดอาการไม่สบายท้องได้แก่ ใบไธม์ โรสแมรี เสจ และเฟนเนล

    นอกจากนี้การนำถั่วมาปรุงอาหารควรใช้ความร้อนสูง และทำให้สุกโดยทั่วถึง เพราะในถั่วมีสารต้านคุณค่าโภชนาการ ซึ่งถ้าถูกทำลายไม่หมด จะจับกับผนังลำไส้ ทำให้ระคายเคือง ปวดศีรษะ กระทั่งทำให้ร่างกายไม่เจริญเติบโต จึงควรบริโภคทั่วสุกจะดีที่สุด แม้แต่การทำน้ำเต้าหู้ก็ควรผ่านความร้อน 100 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15-20 นาที เป็นต้น
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=130751&NewsType=1&Template=1

    ติดประกาศเตือนภัยมิจฉาชีพตู้เอทีเอ็ม
    <TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้บริเวณตู้เอทีเอ็มและธนาคารเกือบทุกแห่งใน จ.นครศรีธรรมราช ได้ติดแผ่นประกาศเตือนภัยจากธนาคารไว้ โดยมีข้อความว่า “โปรดทราบ เนื่องจากมีกลุ่มมิจฉาชีพ โทรฯแจ้งท่านว่าท่านได้รับรางวัลและให้ท่านโอนเงินเข้าบัญชีโดยใช้บัตรเอทีเอ็ม แล้วจะบอกขั้นตอนให้ทำรายการ ท่านอย่าหลงเชื่อโดยเด็ดขาด เพราะเป็นการหลอกลวง” สร้างความแปลกใจให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก และส่วนใหญ่จะสอบถามถึงที่มาของการปิดประกาศดังกล่าวกับพนักงานธนาคาร

    เจ้าหน้าที่ธนาคารคนหนึ่ง เปิดเผยว่าสาเหตุที่ธนาคารต้องปิดประกาศข้อความดังกล่าวเนื่องจากระยะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพโทรศัพท์เข้าไปยังโทรศัพท์มือถือของประชาชนในนครศรีธรรมราช โดยวิธีการสุ่มโทรฯ จากนั้นจะอ้างว่าโทรฯมาจากบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือที่ประชาชนเป็นเจ้าของเบอร์นั้น และอ้างว่าขอแสดงความยินดีกับเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ซึ่งเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลเป็นรถยนต์ หรือสร้อยคอทอง คำหนักตั้งแต่ 10 บาทขึ้นไป

    บางรายก็อ้างว่าได้รับรางวัลเงินสด 50,000 บาทขึ้นไป จากนั้นมิจฉาชีพจะถามว่ามีบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็มหรือไม่ และใช้วิธีการพูดต่าง ๆ นานา เพื่อให้ตายใจก่อนจะหลอกล่อให้ไปตู้เอทีเอ็มแล้วให้กดทำรายการตามที่บอก มีประชาชนหลงเชื่อทำรายการตามขั้นตอนที่แก๊งมิจฉาชีพบอกแล้วสูญเสียเงินไปก้อนใหญ่โดย จุดที่น่าสังเกตคือเวลาแก๊งมิจฉาชีพโทรฯเข้ามาจะไม่โชว์เบอร์ต้นทาง โดยข้อความที่ปรากฏในโทรศัพท์คือข้อความว่า ไม่มีเบอร์หรือไม่มีข้อมูล.
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=41327&NewsType=2&Template=1

    [​IMG]
    วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2550 เวลา 10:45 น.

    วิธีล้างมู่ลี่
    <TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>บ้านใครที่มู่ลี่กำลังสกปรกบ้าง วันนี้เกร็ดความรู้มีวิธีล้างมู่ลี่มาฝากกัน...
    1. เลือกบริเวณลานบ้านที่พื้นผิวเรียบและมีความลาดเอียงเล็กน้อย (เพื่อเป็นทางน้ำไหล) และนำผ้านวมหรือผ้าห่มผืนเก่าที่ไม่ใช้แล้วเตรียมเอาไว้
    2.ปิดบานพับมู่ลี่ให้ลู่ลงตรวจดูให้แน่ใจว่าบานพับทุกซีกปิดหมดเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจึงถอดมู่ลี่ออกแล้ววางลงบนผ้านวมหรือผ้าห่มที่เตรียมไว้
    3. ผสมน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์หรือไม่ก็น้ำยาสูตรแอมโมเนียจากนั้นใช้น้ำยาที่ผสมนี้ชโลมมู่ลี่ให้ชุ่มและใช้แปรงนุ่ม ๆ ขัดโดยขัดไปในแนวเดียวกับบานมู่ลี่
    ข้อสำคัญ คือ เชือกดึงมู่ลี่จะต้องไม่โดนทับ เมื่อทำความสะอาดบานพับด้านหนึ่งเสร็จแล้วก็ปิดบานพับลู่ลงหรือลู่ขี้นไปอีกด้านหนึ่งล้างและขัดให้สะอาด
    4. ขึงมู่ลี่กับราวตากผ้าหรือขึงกับบันไดต่อขาก็ได้หรืออาจจะให้ใครอีกคนยืนถือเอาไว้แล้วก็ใช้สายยางพ่นฉีดน้ำ
    5. จากนั้นก็เขย่า ๆ และทิ้งไว้ให้แห้งแล้วจึงนำกลับไปแขวนไว้ที่เดิมแต่ถ้ามู่ลี่เป็นสีเข้มก็ควรซับหรือเช็ดมู่ลี่ให้แห้งเสียก่อนเพื่อป้องกันคราบหยดน้ำ
    ถ้าคิดจะล้างมู่ลี่คราวหน้า ก็อย่าลืมนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันดูได้.


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="VERTICAL-ALIGN: top; TEXT-ALIGN: left"><TABLE id=Table1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=message-bold>คอลัมน์ย้อนหลัง</TD></TR><TR><TD><TABLE id=ctl00_ContentPlaceHolder1_ctl00_Popup_news_15_oldcolumn1_dlsOColumn style="WIDTH: 100%; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">วิธีล้างมู่ลี่
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">อาหารกับกรุ๊ปเลือด
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ย่างมะเขือม่วงให้ลอกผิวออกง่าย ๆ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">การทำความสะอาดวอลเปเปอร์
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ผักโขมบำรุงสายตา
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ประโยชน์ของแคนตาลูป
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ทานยากับน้ำเกรปฟรุตให้โทษ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">อาการของคนนอนไม่หลับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">สารอาหารในน้ำพริก
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">น้ำผลไม้ห่างไกลไข้หวัด
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (ตามที่ท่านอาจารย์ประถม อาจสาครเป็นผู้ที่ค้นคว้ามา) ผมเปิดให้จองแล้วครับ โดยจองเล่มละ 200 บาทและค่าจัดส่งเล่มละ 50 บาท(โดยหากค่าจัดส่งมากกว่านี้ ผมจะจ่ายให้เองครับแต่หากน้อยกว่านี้ ผมจะนำไปเป็นค่าพิมพ์หนังสือครับ) และกรุณาระบุด้วยว่า จองกี่เล่ม โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    1.ต้องเป็นผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งเท่านั้น<O:p</O:p

    2.ผมขอสงวนสิทธิ์ในการรับจองหรือไม่รับจอง ถึงแม้ว่าจะได้มาร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งแล้วก็ตาม และผมไม่แจ้งเหตุผลให้ทราบนะครับ<O:p</O:p

    3.เงินค่าจองหนังสือ ผมจะแจ้งหมายเลขบัญชีให้ทราบทาง PM อีกครั้งเมื่อผมรับจองแล้ว
    บัญชีที่จะให้โอนเงินค่าหนังสือนั้น เป็นบัญชีที่ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ผมเองไม่สามารถที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งได้เลย <O:p</O:p

    4.เงินในส่วนต่างนั้น ผมจะนำเงินในส่วนนี้นำไปพิมพ์หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผมเริ่มให้จองตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2550 ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2550 เวลา 18.00 น. ครับ


    รูปเล่มนั้น ต้องยอมรับว่าสวยงามครับ อีกทั้งมีรูปพระพิมพ์อีกพอสมควร ทางคณะผู้จัดทำ จะทำให้ดีที่สุด เพื่อเทิดพระเกียรติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ที่พระองค์ได้มีความเมตตาที่มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ และอยู่ดูแลพระศาสนาไปจนครบ 5000 ปีตามพุทธดำรัสครับ

    ผมจะนำรายชื่อทั้งหมด ลงไว้ท้ายเล่มด้วยนะครับ

    ผมเองก็ใช้หนังสือเล่มนี้เป็นครูในการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรและเป็นส่วนหนึ่งในการเสาะแสวงหาพระของหลวงปู่ และอีกเล่มก็คือหนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าครับ

    ส่วนหนังสือปู่เล่าให้ฟังที่กำลังจะตามมานั้น เป็นเรื่องราวที่ท่านอาจารย์ประถมได้เคยเขียนลงในหนังสือต่างๆ และนำมารวบรวมไว้ในเล่มเดียวกัน แต่จะมีการปรับปรุงเนื้อหาบางเรื่อง ที่ได้ความรู้ใหม่ มาเพิ่มเติมขึ้นอีก และจะแตกต่างจะหนังสือปู่เล่าให้ฟังเล่มแรกและไม่ซ้ำกับหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->

    ************************************************
    ฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿

    รายละเอียดพระพิมพ์และวัตถุมงคล ที่มอบให้กับผู้ร่วมทำบุญในกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ ( http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=68899 ) จะอยู่ในหน้าแรกของกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

    ส่วนยอดคงเหลือ ผมจะแจ้งให้ทราบในกระทู้เป็นระยะครับ

    โมทนาสาธุครับ

    <!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มีน้องท่านหนึ่ง ได้pm มาหาผม จะขอมวลสารเพื่อจะไปสร้างพระ ผมมีมวลสารอยู่จำนวนหนึ่ง (ตามกระทู้ มวลสารวัตถุมงคลรุ่น "สมหวัง โคตรอภิมหาเศรษฐี กินใช้ไม่หมด" เกาะยอ http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=81548 ) ผมได้นำมวลสารชุดนี้ไปฝากพี่ที่ผมเคารพท่านหนึ่ง ฝากท่านไปกราบขอความเมตตาจากหลวงพ่อสิริ ขอให้ท่านอธิษฐานจิตมวลสารชุดนี้เพิ่มเติมให้ เมื่อหลวงพ่อสิริท่านอธิษฐานจิตเรียบร้อยแล้ว ผมจะจัดส่งมวลสารชุดนี้ไปให้เพื่อใช้ในการสร้างพระครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  11. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ธรรมที่จะทำให้ผู้ปฏิบัติบรรลุถึงธรรมทั้ง 4 ขั้นนี้ คือ

    ทาน ศีล ภาวนา เป็นมรรค

    วิถีทางเดินสู่ความหลุดพ้นจากความทุกข์

    ทานมีอยู่ 4 ประการ
    1. วัตถุทาน ให้วัตถุ
    2. วิทยาทาน ให้ความรู้
    3. อภัยทาน
    4. ธรรมทาน

    ศีล คือ
    ศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ศีล 227


    ภาวนา คือ การบำเพ็ญจิต การพัฒนาจิต ด้วยการตัดสังโยชน์ทั้ง 10 ให้ออกไปจากจิตจากใจ

    ขอขอบคุณครับ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (ตามที่ท่านอาจารย์ประถม อาจสาครเป็นผู้ที่ค้นคว้ามา) ผมเปิดให้จองแล้วครับ โดยจองเล่มละ 200 บาทและค่าจัดส่งเล่มละ 50 บาท(โดยหากค่าจัดส่งมากกว่านี้ ผมจะจ่ายให้เองครับแต่หากน้อยกว่านี้ ผมจะนำไปเป็นค่าพิมพ์หนังสือครับ) และกรุณาระบุด้วยว่า จองกี่เล่ม โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    1.ต้องเป็นผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งเท่านั้น<O:p</O:p


    2.ผมขอสงวนสิทธิ์ในการรับจองหรือไม่รับจอง ถึงแม้ว่าจะได้มาร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งแล้วก็ตาม และผมไม่แจ้งเหตุผลให้ทราบนะครับ<O:p</O:p

    3.เงินค่าจองหนังสือ ผมจะแจ้งหมายเลขบัญชีให้ทราบทาง PM อีกครั้งเมื่อผมรับจองแล้ว
    บัญชีที่จะให้โอนเงินค่าหนังสือนั้น เป็นบัญชีที่ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ผมเองไม่สามารถที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งได้เลย <O:p</O:p

    4.เงินในส่วนต่างนั้น ผมจะนำเงินในส่วนนี้นำไปพิมพ์หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผมเริ่มให้จองตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2550 ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2550 เวลา 18.00 น. ครับ


    รูปเล่มนั้น ต้องยอมรับว่าสวยงามครับ อีกทั้งมีรูปพระพิมพ์อีกพอสมควร ทางคณะผู้จัดทำ จะทำให้ดีที่สุด เพื่อเทิดพระเกียรติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ที่พระองค์ได้มีความเมตตาที่มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ และอยู่ดูแลพระศาสนาไปจนครบ 5000 ปีตามพุทธดำรัสครับ

    ผมจะนำรายชื่อทั้งหมด ลงไว้ท้ายเล่มด้วยนะครับ

    ผมเองก็ใช้หนังสือเล่มนี้เป็นครูในการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรและเป็นส่วนหนึ่งในการเสาะแสวงหาพระของหลวงปู่ และอีกเล่มก็คือหนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าครับ

    ส่วนหนังสือปู่เล่าให้ฟังที่กำลังจะตามมานั้น เป็นเรื่องราวที่ท่านอาจารย์ประถมได้เคยเขียนลงในหนังสือต่างๆ และนำมารวบรวมไว้ในเล่มเดียวกัน แต่จะมีการปรับปรุงเนื้อหาบางเรื่อง ที่ได้ความรู้ใหม่ มาเพิ่มเติมขึ้นอีก และจะแตกต่างจะหนังสือปู่เล่าให้ฟังเล่มแรกและไม่ซ้ำกับหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->

    ************************************************
    ฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿

    รายละเอียดพระพิมพ์และวัตถุมงคล ที่มอบให้กับผู้ร่วมทำบุญในกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ ( http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=68899 ) จะอยู่ในหน้าแรกของกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

    ส่วนยอดคงเหลือ ผมจะแจ้งให้ทราบในกระทู้เป็นระยะครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  15. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    การที่จะทำให้การปฏิบัติธรมม บำเพ็ญจิตตภาวนา เป็นไปได้ด้วยความก้าวหน้า เป็นมรรค เป็นผล จำเป็นต้องปัจจัยเกื้อหนุน ซึ่งมีอยู่ 4 ประการ
    1. ความวิเวก
    2. การรับประทานอาหารพอประมาณ
    3. การไม่คลุกคลีกัน
    4. การเจริญสติอย่างต่อเนื่องในสติปัฏฐาน 4

    ขอขอบคุณครับ
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ aries2947 [​IMG]
    เรียนพี่หนุ่มครับ

    วันนี้ตั้งใจจะโอนเงิน(ครั้งที่2) 2,000บาทที่ผมร่วมทำบุญชุดล็อกเกตไว้ครับ
    และอีก1,200บาทร่วมทำบุญตามที่ได้คุยไว้กับพี่หนุ่มครับ
    เมื่อผมโอนแล้วจะโพสให้ทราบอีกครั้งนะครับ

    โมทนาสาธุในทุกๆบุญครับ
    เอ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (ตามที่ท่านอาจารย์ประถม อาจสาครเป็นผู้ที่ค้นคว้ามา) ผมเปิดให้จองแล้วครับ โดยจองเล่มละ 200 บาทและค่าจัดส่งเล่มละ 50 บาท(โดยหากค่าจัดส่งมากกว่านี้ ผมจะจ่ายให้เองครับแต่หากน้อยกว่านี้ ผมจะนำไปเป็นค่าพิมพ์หนังสือครับ) และกรุณาระบุด้วยว่า จองกี่เล่ม โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    1.ต้องเป็นผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งเท่านั้น<O:p</O:p


    2.ผมขอสงวนสิทธิ์ในการรับจองหรือไม่รับจอง ถึงแม้ว่าจะได้มาร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งแล้วก็ตาม และผมไม่แจ้งเหตุผลให้ทราบนะครับ<O:p</O:p

    3.เงินค่าจองหนังสือ ผมจะแจ้งหมายเลขบัญชีให้ทราบทาง PM อีกครั้งเมื่อผมรับจองแล้ว
    บัญชีที่จะให้โอนเงินค่าหนังสือนั้น เป็นบัญชีที่ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ผมเองไม่สามารถที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งได้เลย <O:p</O:p

    4.เงินในส่วนต่างนั้น ผมจะนำเงินในส่วนนี้นำไปพิมพ์หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผมเริ่มให้จองตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2550 ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2550 เวลา 18.00 น. ครับ


    รูปเล่มนั้น ต้องยอมรับว่าสวยงามครับ อีกทั้งมีรูปพระพิมพ์อีกพอสมควร ทางคณะผู้จัดทำ จะทำให้ดีที่สุด เพื่อเทิดพระเกียรติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ที่พระองค์ได้มีความเมตตาที่มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ และอยู่ดูแลพระศาสนาไปจนครบ 5000 ปีตามพุทธดำรัสครับ

    ผมจะนำรายชื่อทั้งหมด ลงไว้ท้ายเล่มด้วยนะครับ

    ผมเองก็ใช้หนังสือเล่มนี้เป็นครูในการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรและเป็นส่วนหนึ่งในการเสาะแสวงหาพระของหลวงปู่ และอีกเล่มก็คือหนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าครับ

    ส่วนหนังสือปู่เล่าให้ฟังที่กำลังจะตามมานั้น เป็นเรื่องราวที่ท่านอาจารย์ประถมได้เคยเขียนลงในหนังสือต่างๆ และนำมารวบรวมไว้ในเล่มเดียวกัน แต่จะมีการปรับปรุงเนื้อหาบางเรื่อง ที่ได้ความรู้ใหม่ มาเพิ่มเติมขึ้นอีก และจะแตกต่างจะหนังสือปู่เล่าให้ฟังเล่มแรกและไม่ซ้ำกับหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->

    ************************************************
    ฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿

    รายละเอียดพระพิมพ์และวัตถุมงคล ที่มอบให้กับผู้ร่วมทำบุญในกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ ( http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=68899 ) จะอยู่ในหน้าแรกของกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

    ส่วนยอดคงเหลือ ผมจะแจ้งให้ทราบในกระทู้เป็นระยะครับ

    [​IMG]
    โมทนาสาธุครับ


    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  19. ksuchet

    ksuchet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2005
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +6,060
    ขอจองหนังสือประวัติหลวงปู่ ๑ เล่มครับ ส่งเงินแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกทีครับ
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

แชร์หน้านี้

Loading...