พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

เรียนคุณ sithiphong
ผมขอร่วมทำบุญบูชาพระสมเด็จวังหน้า เนื้อขาว ปิดทองร่องชาด จำนวน 1 องค์ครับ บูชา 1,500 บาท ไม่ทราบว่ายังมีหรืออยู่อีกหรือเปล่าครับ รบกวนช่วยตอบทางเมล์ได้ไหมครับ Email. surasak.bu@rd.go.th
ขอรายละเอียดการโอนเงินด้วยนะครับ
ขออนุโมทนาด้วยคนนะครับ

 

คุณเพชร ผมไปที่วัด 2 ครั้งแต่ไม่เจอพระอาจาร์ครับก็เลยเก็บกวาดลานเองและได้นำกล้วยน้ำหว้าไปถวายที่พระเจดีย์องค์ละ 1 หวีผมไม่มีธูปไปด้วยได้แต่ยกมือบอกกล่าวแต่ก็หน้าแปลกได้มีหญิง-ชายวัยรุ่นคู่หนึ่งมีแต่ธูปมาไหว้ เราถวายกล้วยเขาไหว้ธูปแล้วปักไว้ที่กล้วยเดินตามทีละเจดีย์ เสร็จแล้วก็มาชวนกวาดลานจนเสร็จแต่ไม่ได้คุยกันได้แต่ส่งยิ้มให้กัน พอดีมีไม้กวาดไป 3 อัน

 

ต่อครับ พอกวาดเสร็จผมก็ไปล้างตัวกับเจ้า MEA.และก็เดินมองหาเพื่อจะคุยด้วย(ขอบคุณ)และจะบอกให้กวดน้ำด้วยแต่มองหาไม่พบตอนกำลังจะขึ้นรถ
กลับเหลือบมองไปด้านหลังวัดเห็นกำลังนั้งสวดอยู่บนเนินดินที่หลังวัดผมเลยเดินตามไปดูเพื่อจะขอบคุณเดินไปด้านหลังเห็นโบสถ์กำลังสร้างใหม่ใกล้เสร็จแล้วหลังใหญ่สวยครับแต่มองด้านนอกจะไม่เห็น ผมก็เลยเดินไปที่เนินดินนั้น.

 

ก็เลยเดินขึ้นเนินดินสูงยาวคอนข้างใหญ่มีต้นก้ามปู 2 ต้นใหญ่กำลังนั่งสวดมนต์อยู่ที่ต้นก้ามปู ก็ยืนคอยเขาเพื่อจะถามว่าที่นี่คือเนินอะไรเพราะมีอยู่เนินเดียวถ้ามองจากพระเจดีย์มาจะไม่เห็นเนินนี้ทั้งๆที่ก็สูงใหญ่อยู่(อาจจะรกมั้ง)
และก็ขอบคุณเขาและได้ถามว่าที่นี่คืออะไร เขาบอกว่าเนินนี้เป็นที่ปลงพระศพของพระองค์ท่าน ซึ่งแต่กอนรกร้างมากไม่มีใครรู้หรือเข้ามา แต่ตอนนี้กำลังถางทำความสะอาดใหม่ เขาบอกว่าหลวงพ่อบอกให้ขึ้นมาไหว้-สวดมนต์ถ้ามีโอกาสเลยถามว่ามาบ่อยไหม มาประจำครับแต่หน้าตาอิ่มเอิบมาก ถ้าอยู่ใกล้ๆ

 

ก็เลยขอธูปไหว้สวดมนต์ถวายพระองค์ท่านกะเขาบ้างที่ใต้ต้นกามปู(ต้นจามจุรี)
เดินทางไปไหว้พระต่อที่วัดสะแก(หลวงปู่ดู่)วัดแม่นางปลื่ม(เป็นวัดแม่นมขององค์พระนเรศวร)เท่าที่ทราบ และสุดท้ายมากราบพระจักรพรรดิ์ที่วัดหน้าพระเมรุ
ผมมีเพื่อนที่อยุธยาศิษย์สายหลวงปู่ดู่ เขาเล่านะ บอกว่าเคยมีคนที่เคยนั่งสมาธิดูญาณบอกว่าที่วัดนี้มีดวงวิญญาณของพระมหากษัติย์เยอะมากหลายพระองค์ครับ.(อ้อ เห็นบอกว่าเป็นวัดป่าแก้วเก่าครับ.) คุณเพชร พี่ๆ ลองไปดูนะครับ.

 

ขออนุญาติเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ ยาวไปหน่อยพี่หนุ่ม อิอิอิ.นานๆมาที

 

เมื่อสักครู่ให้ลูกน้องผมโทรไปที่แบงค์ครับ ทางแบงค์แจ้งว่าเป็น web จริงทั้ง 2 web ครับ ทางแบงค์จด URL ไว้หลายชื่อครับ

 

ยังมีอยู่ครับ

โมทนาสาธุครับ

.

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
ข่าวด่วนร้อนจี่

ผมได้รับเมล์จากเพื่อนแจ้งมาเรื่องเว็บไซด์ธนาคารกรุงเทพปลอมครับ


มาแล้ว Phishing web ธนาคารกรุงเทพ ระวังให้ดี
www.bangkokbank.com (http://www.bangkokbank.com/Bangkok+Bank+Thai/main.htm) ของปลอมนะ



ของจริงต้อง www.bbl.co.th (http://www.bbl.co.th/Bangkok+Bank+Thai/main.htm) ดูได้ด้านล่าง เหมือนเดะ

เข้าไปดูมาแล้ว เหมือนจริงๆ ระวังกันไว้นะครับ

.
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ขอบคุณ คุณwichitt ครับ
ผมลองโทร.ไปที่ธนาคารกรุงเทพ เบอร์โทร 0-2231-4333
ทางธนาคารได้แจ้งว่า ธนาคารจด url ไว้ 4 ชื่อครับ


ต้องช่วยๆกันดูนะครับ เดี่ยวนี้มีทั้งเว็บปลอม โดยเว็บปลอม มักจะให้เรากรอกชื่อ และรหัสผ่าน พวกนี้ก็จะเก็บข้อมูลไว้ แล้วนำไปโอนเงินออกจากบัญชีในคราวหลัง ซึ่งธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เช่น ธนาคารกสิกรไทย ,ธนาคารกรุงเทพ ,ธนาคารกรุงไทย ,ธนาคารไทยพาณิชย์ ,ธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดนกันมาพอสมควรแล้ว

และผู้ที่ไม่ประสงค์ดี เข้าไปทำธุรกรรมกับธนาคารโดยใช้ชื่อของบุคคลอื่น หรือบัตรประชาชนปลอม เมื่อเปิดบัญชีแล้ว พวกนี้มักจะทำอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้งด้วย แล้วจะใช้ประโยชน์จากการโอนเงินผ่านอินเตอร์เน็ต มีcase ที่โดนในลักษณะนี้หลายcase แล้ว และมุลค่าที่เสียหายก็เป็นเงินไม่ต่ำกว่าเลข 8 หลักครับ

.

 

ผมลองโทร.ไปที่ธนาคารกรุงเทพ เบอร์โทร 0-2231-4333
ทางธนาคารได้แจ้งว่า ธนาคารจด url ไว้ 4 ชื่อครับ

ดังนี้ครับ

http://www.bangkokbank.com/Bangkok+Bank+Thai/main.htm

http://www.bbl.co.th/Bangkok+Bank+Thai/main.htm

http://www.bangkokbank.net/Bangkok+Bank+Thai/main.htm

http://www.bangkokbank.co.th/Bangkok+Bank+Thai/main.htm

 

เรื่องของการทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารในปัจจุบัน มีช่องทางการทำธุรกรรมที่ผู้ที่ต้องการทำธุรกรรมกับธนาคาร อยู่ 2 ลักษณะใหญ่ๆ ก็คือ
<O</O
ข้อที่ 1.การติดต่อทำธุรกรรมกับธนาคาร โดยไปที่สำนักงานใหญ่หรือสาขาของธนาคาร<O</O
ข้อที่ 2.การติดต่อทำธุรกรรมกับธนาคาร โดยผ่านอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง<O</O
<O</O

ส่วนช่องทางอื่นๆในการทำธุรกรรมกับธนาคารก็มีอย่างเช่น การที่ธนาคารไปเปิดบู๊ทตามงานต่างๆเช่น money Expo เป็นต้น<O</O
<O</O

ผมขออธิบายเรื่องการทำธุรกรรมกับธนาคาร(โดยย่อ) หมายความว่า การฝากเงิน ,ถอนเงิน ,การโอนเงินไปยังบุคคลอื่น ,การขอสินเชื่อ หรืออื่นๆ<O</O
<O</O

ปัจจุบันจะมีมิจฉาชีพ ที่ใช้ช่องการการติดต่อกับธนาคาร เพื่อหาประโยชน์(หาเงิน)โดยวิธีผิดๆ ผมจะยกตัวอย่างให้ทราบเป็นตัวอย่างในลักษณะของช่องทางการติดต่อทำธุรกรรมกับธนาคารทั้ง 2 ข้อที่ผมกล่าวมาแล้ว<O</O
<O</O

ประเภทแรก (ตามข้อ 1.การติดต่อทำธุรกรรมกับธนาคาร โดยไปที่สำนักงานใหญ่หรือสาขาของธนาคาร และมีความเกี่ยวพันกับข้อที่ 2.การติดต่อทำธุรกรรมกับธนาคาร โดยผ่านอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง )<O</O
ประเภทนี้ พวกมิจฉาชีพมักจะรู้ข้อมูลว่า มีบุคคลชื่อนี้ มีเงินในบัญชีมาก(ซึ่งผมไม่ทราบว่าพวกนี้รู้ได้อย่างไร) พวกมิจฉาชีพก็จะไปหาบัตรประชาชนปลอมมา (บัตรประชาชนเป็นบัตรที่ปลอมข้อมูลมาและข้อมูลจะตรงกับบุคคลที่มีเงินในบัญชี แต่รูปนั้นจะเป็นรูปของผู้ที่มาติดต่อกับธนาคาร เป็นรูปพวกมิจฉาชีพ) แล้วนำมาเปิดบัญชีใหม่ พร้อมทั้งขอทำอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง เมื่อเปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว ก็จะไปทำการโอนเงินออกมาจากบัญชีของบุคคลที่มีเงินในบัญชี แล้วมาเข้าบัญชีที่พวกมิจฉาชีพที่เปิดไว้ใหม่ เมื่อโอนเงินแล้ว พวกนี้ก็จะใช้บัตรเอทีเอ็มกดเงินสดออกมาจนหมด บุคคลที่มีเงินและถูกพวกมิจฉาชีพที่โอนเงินออกจากบัญชี กับธนาคารมักจะได้แต่รูปของพวกมิจฉาชีพเท่านั้น ส่วนข้อมูลอื่นๆเป็นข้อมูลเท็จทั้งสิ้น <O</O
<O</O

หรืออาจจะเป็นในกรณีที่มีข่าวว่า คุณเป็นผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลใหญ่ แต่ต้องเสียภาษี หรืออะไรทำนองนี้ แล้วหลอกให้ผู้ที่เสียหายทำรายการโอนเงินโดยใช้ภาษาในตู้เอทีเอ็มเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งในกรณีนี้ก็จะมีข่าวออกมาอยู่เสมอ<O</O
<O</O

ประเภทที่ 2 (ตามข้อที่ 2.การติดต่อทำธุรกรรมกับธนาคาร โดยผ่านอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง )<O</O
ประเภทนี้ พวกมิจฉาชีพมักจะทำเว็บไซด์ปลอมขึ้นมา ผู้ที่ทำธุรกรรมกับธนาคารโดยผ่านอินเตอร์เน็ต บางครั้งหลงเข้าไปในเว็บพวกนี้ ปกติเวลาผู้ที่ทำธุรกรรมกับกับธนาคารโดยผ่านอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง ต้องใส่ข้อมูลของตนเอง คือชื่อ และรหัสผ่าน แต่เมื่อเข้าไปในเว็บไซด์ปลอมแล้ว หากกรอกชื่อ และรหัสผ่านแล้ว เว็บไซด์ปลอมพวกนี้จะเก็บข้อมูลของผู้ที่กรอกชื่อและรหัสผ่านรวมทั้งข้อมูลอื่นๆไว้ เมื่อสบโอกาส พวกมิจฉาชีพก็จะใช้ชื่อและรหัสผ่านที่เก็บไว้ นำไปเข้าเว็บไซด์จริงของธนาคาร แล้วก็ไปทำการโอนเงินออกจากบัญชีครับ<O</O
<O</O

ในเรื่องที่ผมได้อธิบายให้ฟังนั้น จะเป็นเรื่องที่ทุกๆท่านต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาแล้ว ก็จะเสียเวลา ,เสียเงิน บางครั้งต้องไปขึ้นโรงขึ้นศาลฟ้องร้องกัน แต่ถ้าหาวิธีป้องกันมิให้เกิดขึ้นจะเป็นหนทางที่ดีที่สุดครับ<O</O
<O</O

ไหนๆก็อธิบายมาพอสมควรแล้ว จะขอพูดเรื่องบัตรเอทีเอ็มอีกเรื่องก็คือ เวลาที่ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ควรสังเกตตู้เอทีเอ็มที่เรากดด้วยว่า มีสิ่งแปลกปลอมบริเวณที่สอดบัตรเอทีเอ็มหรือไม่ พวกมิจฉาชีพ มักจะเลือกตู้เอทีเอ็มที่ค่อนข้างจะไม่พลุกพล่านมาก นำเครื่องมือscan ข้อมูลบัตรเอทีเอ็ม มาติดไว้ที่บริเวณสอดบัตรเอทีเอ็ม และมักจะติดกล้อง(โดยติดไว้กับกล่องโฆษณาข้างตู้) ที่ใช้ดูรหัสผ่านของบัตรเอทีเอ็ม หรือมีคนมารอต่อคิว แล้วสักเกตุรหัสที่เรากด เมื่อพวกมิจฉาชีพได้ข้อมูลและรหัสไปแล้ว พวกนี้ก็จะไปทำบัตรปลอมและนำไปกดเงินได้ครับ

 

ภาพปริศนา ? "พระสงฆ์สอนหนังสือเด็ก" ความเข้าใจผิดอันคลาดเคลื่อน


ใครก็ตามที่ผ่านสายตาไปยังหนังสือซึ่งรวบรวมเรียบเรียงเรื่องราวของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม มาบ้างแล้ว อย่างน้อยต้องพบภาพพระสงฆ์สอนหนังสือเด็ก

ภาพที่เข้าใจกันว่าเป็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)

อันเป็นภาพที่ปรากฏบนหน้าหนังสือเกี่ยวกับอัตโนประวัติสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) อยู่บ่อยๆ จนมีบางท่านเข้าใจคลาดเคลื่อนตลอดมา แท้จริงภาพนี้มีการเข้าใจผิดมาอย่างเนิ่นนาน

ในนิตยสาร "ชุมนุมจุฬาฯ" ปีที่ 14 เล่มที่ 3 ฉบับ 23 ตุลาคม พ.ศ.2503 ปรากฏการตีพิมพ์ภาพนี้ทั้งบรรยายว่า

"พระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระปิยมหาราช เมื่อทรงพระเยาว์กำลังทรงพระอักษรกับสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (โต) วัดระฆังโฆสิตาราม

ภาพโดยความเอื้อเฟื้อของ พล.ร.ต.หลวงสุวิชาแพทย์"

หากสังเกตจะพบว่าสมณศักดิ์ของท่านนั้นผิด สมณศักดิ์ของท่านซึ่งได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะที่ "พระธรรมกิติ" ในปี พ.ศ.2395 ขณะนั้นท่านมีอายุได้ 64 ปีแล้ว

ในปี พ.ศ.2397 ทรงแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะที่ "พระเทพกวี" จนกระทั่งปี พ.ศ.2407 ทรงสถาปนาเป็น "สมเด็จพระพุฒาจารย์"

ขณะเดียวกัน ในคำแถลงจากสาราณียกรของหนังสือ "ชุมนุมจุฬาฯ" ดังกล่าว ก็ว่า "พระบรมฉายาลักษณ์ขององค์สมเด็จพระปิยมหาราชในสมัยยังทรงพระเยาว์อันเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ที่หาดูได้ยาก อัญเชิญมาประดับเป็นศรีแก่เล่ม เนื่องในวาระสำคัญนี้ด้วย" ยิ่งเสริมความเชื่อเป็นอันมากว่า คือ พระบรมฉายาลักษณ์ ร.5 ครั้งทรงพระเยาว์

แท้จริงภาพนี้มีที่มาในนิตยสาร "ศิลปวัฒนธรรม" ปีที่ 2 ฉบับที่ 7 เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2524 หน้า 33 ปรากฏการตีพิมพ์ภาพใบนี้ พร้อมคำอธิบายจาก "นิวัติ กองเพียร" ว่า รูปนี้ไม่ใช่รัชกาลที่ 5 กับสมเด็จพระพุฒาจารย์ เหตุผลประกอบดังนี้

1. รูปนี้ได้มาจากหนังสือฝรั่งชื่อ "SIAM"

2. พัดรองที่วางพิงผนังอยู่นั้น เป็นพัดที่นิยมทำก่อนสมัยรัชกาลที่ 5 ต่อมาไม่มีความนิยมในการทำพัดรองอีกเลย

3. ถ้ารูปนั้นเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์จริง ท่านต้องห่มดองและรัดประคดอก มิใช่อย่างที่เห็นในรูป แม้แต่พระรุ่นเก่าที่วัดระฆังโฆสิตาราม ที่เคยเห็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ก็ยืนยันว่ามิใช่สมเด็จแน่

4. เจ้านายหลายพระองค์ ที่เป็นพระธิดาหรือพระโอรสก็ยืนยันว่า มิใช่พระราชบิดาแน่นอน

หนังสือฝรั่ง "SIAM" ที่ว่า ก็คือ หนังสือชื่อยาวเฟื้อยว่า "TWENTIETH CENTURY IMPRESSION OF SIAM : ITS HISTORY, PEOPLE COMMERCE, INDUSTRIES, AND RESOURCES WITH WHICH IS INCORPORATED AN ABRIDGED EDITION OF TWENTIETH CENTURY IMPRESSIONS OF BRITISH MALAYA"

แปลชื่อเป็นไทยว่า "เรื่องน่ารู้ของสยามในศตวรรษที่ 20 ว่าด้วยประวัติศาสตร์ พลเมือง พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม และทรัพยากร รวมเรื่องน่ารู้ของบริติชมลายาในศตวรรษที่ 20 โดยสังเขป" อันเป็นหนังสือที่ตีพิมพ์จากลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในปี พ.ศ.2452 อันเป็นช่วงปลายรัชกาลที่ 5 ทั้งยังให้คำอธิบายรูปนี้ไว้ว่า "Buddhist Priest and Disciple"



นอกจากนี้ ในการจัดทำหนังสือเล่มดังกล่าว สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงพระกรุณาประทานภาพส่วนพระองค์ อันเกี่ยวเนื่องกับประเทศสยามให้กับผู้จัดทำหนังสือเล่มนี้ด้วย

อย่างไรก็ตามแต่ ในหนังสือที่ระลึกงานสงกรานต์ชลบุรี ประจำปี พ.ศ.2507 ในเรื่อง "สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)" อันเขียนโดย อธึก สวัสดิมงคล ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ภาพพระสงฆ์สอนหนังสือเป็นภาพที่เข้าใจผิดและคลาดเคลื่อน ดังในหน้า 11 ที่ให้ข้อมูลความเป็นมาของภาพใบนี้จากลายพระหัตถ์หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล พระธิดาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงตอบคำถามของ อธึก สวัสดิมงคล ว่า

"สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) นั้นไม่ช้าจะเป็นอะไรๆ สักร้อยอย่างเป็นเรื่องหากินทั้งนั้น เดี๋ยวนี้ใครอยากรู้อะไร ก็นั่งวิปัสสนาเอาได้ ไม่ช้าคงต้องร้อนถึงทางการเข้าเล่นด้วยเป็นแน่ มีผู้เอาภาพพระแก่กับเด็กลูกศิษย์สอนหนังสือกัน ฉันจำได้ว่า "โรเบิร์ต เลนส์" ขอประทานให้เสด็จพ่อทรงช่วยทำโปสการ์ดเผยแพร่เมืองไทย และท่านได้ถ่ายรูปฉันแต่งลาวน่าน หญิงเหลือส่องกระจก พร้อมกับทำรูปนี้ด้วย แต่บัดนี้กลายเป็นรูปสมเด็จโตสอนหนังสือพระพุทธเจ้าหลวง แย่จริงๆ น่ากลัวพงศาวดารจะเลอะเทอะกันใหญ่เสียแล้ว"

สำหรับ โรเบิร์ต เลนส์ เป็นช่างภาพชาวเยอรมัน เจ้าของห้องถ่ายรูปโรเบิร์ต เลสน์ ดำเนินธุรกิจถ่ายรูป เมื่อ พ.ศ.2437 ได้รับพระบรมราชานุญาตให้เป็นช่างภาพราชสำนักรัชกาลที่ 5

นอกจากนี้ ยังมีผู้กล่าวว่า พระภิกษุในภาพคือ พระครูวิมลคุณากร (ศุข เกสโร) วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท ซึ่งภาพดังกล่าวอาจจะไม่ได้ถ่ายที่ชัยนาท ถ้าหากเป็นหลวงปู่ศุขจริง อาจจะถ่าย ณ ตำหนักเหลืองในวังพลเรือเอกสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ก็เป็นไปได้

ทั้งนี้ เพราะหลวงปู่ศุข จะมาพำนักที่ตำหนักเหลืองเป็นประจำทุกปี เพื่อมาร่วมงานในพิธีไหว้ครูประจำปีของพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งทรงเป็นศิษย์หลวงปู่ศุข

อย่างไรก็ตาม ไม่อาจสรุปได้ว่าเป็นภาพของหลวงปู่ศุข ทั้งนี้ หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิสกุล เมื่อครั้งทรงตอบคำถามของ อธึก สวัสดิมงคล ก็มิได้เอ่ยถึงว่าเป็นพระภิกษุรูปใด

.......บทความคัดลอกจาก มติชนสุดสัปดาห์ วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 ปีที่ 25 ฉบับที่ 1302

 

ขอขอบใจน้องท่านหนึ่งมากนะครับที่ส่งเรื่องราวดีๆเช่นนี้มาฝากกันครับ

(verygood) (verygood) (verygood)

โมทนาสาธุครับ

 

ส่วนอีกเรื่อง ผมขอแจ้งสมาชิกในกลุ่ม ว่าวันที่ 30 มิถุนายน 50 นี้ จะมีการทำสังฆทานให้กับพระ(วัด)ในสี่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หากสมาชิกในกลุ่มท่านใดมีความประสงค์ที่จะทำสังฆทาน ติดต่อผมด้วยนะครับ

ท่านอื่นที่ผมไม่ได้บอก ก็อย่าน้อยใจนะครับ ผมเกรงใจทุกๆท่านครับ

โมทนาสาธุครับ

.

 

หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (ตามที่ท่านอาจารย์ประถม อาจสาครเป็นผู้ที่ค้นคว้ามา) ผมเปิดให้จองแล้วครับ โดยจองเล่มละ 200 บาทและค่าจัดส่งเล่มละ 50 บาท(โดยหากค่าจัดส่งมากกว่านี้ ผมจะจ่ายให้เองครับแต่หากน้อยกว่านี้ ผมจะนำไปเป็นค่าพิมพ์หนังสือครับ) และกรุณาระบุด้วยว่า จองกี่เล่ม โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
<O</O
<O</O
1.ต้องเป็นผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งเท่านั้น<O</O

2.ผมขอสงวนสิทธิ์ในการรับจองหรือไม่รับจอง ถึงแม้ว่าจะได้มาร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งแล้วก็ตาม และผมไม่แจ้งเหตุผลให้ทราบนะครับ<O</O

3.เงินค่าจองหนังสือ ผมจะแจ้งหมายเลขบัญชีให้ทราบทาง PM อีกครั้งเมื่อผมรับจองแล้ว
บัญชีที่จะให้โอนเงินค่าหนังสือนั้น เป็นบัญชีที่ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ผมเองไม่สามารถที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งได้เลย <O</O

4.เงินในส่วนต่างนั้น ผมจะนำเงินในส่วนนี้นำไปพิมพ์หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด<O</O
<O</O

ผมเริ่มให้จองตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2550 ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2550 เวลา 18.00 น. ครับ


รูปเล่มนั้น ต้องยอมรับว่าสวยงามครับ อีกทั้งมีรูปพระพิมพ์อีกพอสมควร ทางคณะผู้จัดทำ จะทำให้ดีที่สุด เพื่อเทิดพระเกียรติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ที่พระองค์ได้มีความเมตตาที่มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ และอยู่ดูแลพระศาสนาไปจนครบ 5000 ปีตามพุทธดำรัสครับ

ผมจะนำรายชื่อทั้งหมด ลงไว้ท้ายเล่มด้วยนะครับ

ผมเองก็ใช้หนังสือเล่มนี้เป็นครูในการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรและเป็นส่วนหนึ่งในการเสาะแสวงหาพระของหลวงปู่ และอีกเล่มก็คือหนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าครับ

ส่วนหนังสือปู่เล่าให้ฟังที่กำลังจะตามมานั้น เป็นเรื่องราวที่ท่านอาจารย์ประถมได้เคยเขียนลงในหนังสือต่างๆ และนำมารวบรวมไว้ในเล่มเดียวกัน แต่จะมีการปรับปรุงเนื้อหาบางเรื่อง ที่ได้ความรู้ใหม่ มาเพิ่มเติมขึ้นอีก และจะแตกต่างจะหนังสือปู่เล่าให้ฟังเล่มแรกและไม่ซ้ำกับหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรครับ
<!-- / message --><!-- sig -->
สาเหตุที่ผมจะไม่รับจองหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
<O</O
<O</O
1.ผมไม่ต้องการให้หนังสือเล่มนี้ไปตกอยู่กับบุคคลที่จะนำไปหาผลประโยชน์(ไม่ว่ากรณีใดๆ)
<O</O
<O</O
2.ผมป้องกันในเรื่องของที่จะมีบุคคลที่นำข้อมูลไปทำพระปลอม เนื่องจากมีรูปสีค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าหากว่ามีการหลุดไปจริงๆ ผมถือว่าผมได้ทำหน้าที่นี้อย่างดีที่สุดแล้ว<O</O
<O</O

3.คณะผู้จัดทำทุกๆท่าน ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และแรงเงิน ที่จะทำเพื่อเทิดพระเกียรติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
<O</O
<O</O
4.ผมเองตามหาเรื่องหลวงปู่มาเป็นระยะเวลา 10 ปี ถึงได้เจอ ได้พบเรื่องราวของหลวงปู่และพระพิมพ์ของท่าน ผมมีความพยายามตามหามาตลอดเวลา และที่สำคัญเมื่อผมได้พบนั้น ผมได้พบหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1 พระองค์(หลวงปู่ท่านอยู่ในห้าองค์ แต่ผมไม่บอกว่าผมได้พบองค์ไหนครับ) และหลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ด้วยตาเนื้อของผมเอง <O</O
<O</O

5.มีวาสนาบารมีก็จะได้มีไว้ จะช้าหรือเร็วนั้นอีกเรื่องนึง แต่ถ้าไม่มีวาสนาบารมีทำอย่างไรก็จะไม่มีโอกาสมีไว้<O</O
<O</O

หมายเหตุ บุคคลใดๆก็ตามทำอะไรไว้ จะได้รับผลที่ตนเองได้ทำไว้เสมอ <O</O
<!-- / message --><!-- sig -->

************************************************
฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿

รายละเอียดพระพิมพ์และวัตถุมงคล ที่มอบให้กับผู้ร่วมทำบุญในกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ ( http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=68899 ) จะอยู่ในหน้าแรกของกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

ส่วนยอดคงเหลือ ผมจะแจ้งให้ทราบในกระทู้เป็นระยะครับ

 

ที่มา http://www.thaihealth.or.th/cms/detail.php?key=todayupdate&id=7358

เผยวิธีกินอยู่อย่างประหยัด แบบไม่ขาดสารอาหาร

ช่วยลดค่าใช้จ่าย ทำให้สมาชิกในครอบครัวมีสุขภาพดี
<O</O
<O
</O
รายจ่ายของครอบครัวส่วนมาก จะใช้จ่ายไปกับค่าอาหารมากกว่าอย่างอื่น การซื้อ ปรุงและเก็บอาหารอย่างประหยัดและรอบคอบไม่เพียงแต่จะช่วยให้ลดค่าใช้จ่ายของครอบครัวเท่านั้น แต่จะทำให้สมาชิกในครอบครัวมีสุขภาพดีด้วย การกินอยู่อย่างประหยัดอาจปฏิบัติได้ดังนี้<O</O
<O</O

1. ต้องกินอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อ และครบ 5 หมู่ การประหยัดโดยงดการกินอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งหรือกินไม่ครบ 5 หมู่ จะนำไปสู่การมีสุขภาพที่ไม่ดี เจ็บป่วยบ่อย นั่นย่อมหมายถึงเราจะต้องเสียเงินทองไปกับค่ายาและค่ารักษาซึ่งมีราคาแพง<O</O
<O</O

2. กินอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ กินพอดีอิ่ม อย่ากินทิ้งกินขว้าง หากเหลือควรเก็บในที่ให้เหมาะสมสำหรับมื้อต่อไป<O</O
<O</O

3. ควรกินอาหารไทยๆ เป็นประจำ หลีกเลี่ยงการกินอาหารต่างชาติราคาแพง เพาะอาหารไทยราคาถูกและให้คุณค่าทางโภชนาการที่ดีเหมาะสมสำหรับคนไทย การกินอาหารฝรั่งประจำไมเพียงแต่จะฟุ่มเฟือยเท่านั้นแต่จะก่อให้เกิดโรคอ้วน เจ็บป่วยซึ่งตามมาด้วยค่ารักษา
<O</O
<O</O
4. หลีกเลี่ยงการกินอาหารนอกบ้าน โดยเฉพาะอาหารมื้อเย็นและในวันหยุด ถ้ามีสมาชิกในบ้านเกิด 4-5 คนขึ้นไป ควรบริหารจัดการเวลาให้ดี เพื่อปรุงอาหารกินเองในครอบครัว
<O</O
<O</O
5. หากมีความจำเป็นจะต้องกินอาหารนอกบ้านโดยเฉพาะมื้อเย็น ควรเลือกร้านอาหารที่ราคาไม่แพง สะอาดและใกล้บ้าน ส่วนอาหารมื้อเช้าและมื้อเที่ยงก็เช่นเดียวกัน ควรเป็นอาหารไทยจานเดียวที่ราคาถูกแต่ครบ 5 หมู่
<O</O
<O</O
6. การกินอาหารกึ่งสำเร็จรูปและสำเร็จรูป เช่น บะหมี่ จะต้องเติมเนื้อสัตว์หรือไข่ และผัก
<O</O
<O</O
7. ฝึกสุขนิสัยการกินที่ดีให้แก่ลูกๆ เช่น การให้เงินลูกเป็นค่าอาหารที่โรงเรียน จะต้องสอนให้ซื้ออาหารดี ราคาถูก และใช้จ่ายอย่างประหยัด สอนให้กินอาหารให้หมดจาน
<O</O
<O</O
8. การซื้ออาหารสดมาปรุงที่บ้าน แม่บ้านจะต้องใช้ความสุขุมรอบคอบในการซื้อให้มากขึ้น โดยเลือกตลาดที่มีราคาไม่แพง เลือกซื้ออาหารที่มีคุณค่าแต่ราคาถูก เช่น อาหารโปรตีนซึ่งมีราคาแพงกว่าอาหารทุกชนิด ควรซื้อโปรตีนราคาถูก ไม่ควรซื้อปลาหรือเนื้อสัตว์ที่มีราคาแพงมาก นอกจากนี้ควรเลือกซื้ออาหารที่สดสะอาด
<O</O
<O</O
9. ควรเลือกซื้อ ผัก ผลไม้ไทยๆ โดยเฉพาะ ผักพื้นบ้าน แล้วให้ซื้อตามฤดูกาล เพราะไม่เพียงแต่ราคาถูกเท่านั้นแต่จะมีคุณค่าทางอาหารมากกว่า แต่อย่าลืมล้างให้สะอาดก่อนปรุงและกิน
<O</O
<O</O
10. การเก็บอาหารสดควรเก็บในตู้เย็นที่มีอุณหภูมิเหมาะสมกับชนิดอาหาร ส่วนอาหารที่กินไม่หมด เช่น ประเภท ต้ม แกง ควรอุ่นไว้ตลอด<O</O
<O</O

กินอยู่อย่างประหยัดแต่อย่าขาดสารอาหาร<O</O
<O</O

โดย : อาจารย์สง่า ดามาพงษ์<O</O​

ที่มา :<O</O
ข้อมูลจาก : หนังสือฉลาดกิน <O</O
ภาพประกอบ : www.thaihealth.or.th<O</O

 

ที่มา http://www.thaihealth.or.th/cms/detail.php?key=todayupdate&id=7335

เริ่มต้นสุขภาพดี กินอยู่เพื่ออายุยืน

เพียงแค่ใส่ใจการกิน หมั่นออกกำลังกาย ทำอารมณ์แจ่มใส<O</O
<O </O
คนญี่ปุ่นเป็นชาติที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลก จากรายงานระบุว่า ผู้หญิงญี่ปุ่นมีอายุขัยเฉลี่ย 82 ปี ในขณะที่ผู้ชายมีอายุขัยเฉลี่ย 76 ปี ส่วนชายไทยมีอายุขัยเฉลี่ย 67 ปี ผู้หญิงอายุขัยเฉลี่ย 72 ปี ในขณะที่ผู้ชายกัมพูชามีอายุขัยเฉลี่ยเพียง 52 ปี ซึ่งสั้นมาก<O</O
<O</O

มีคนพยายามตั้งข้อสังเกตและข้อสรุปถึงสาเหตุที่ทำให้คนญี่ปุ่น มีอายุยืนยาว เพราะคนญี่ปุ่นส่วนมากกินอยู่ตาม 3 อ. คือ อาหารดี ออกกำลังกายเป็นประจำ และอารมณ์ดี โดยเฉพาะการกินอาหารของชาวญี่ปุ่น ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นชาติที่กินปลามากพอๆ กับชาวเอสกิโม เน้นการกินถั่วเมล็ดแห้ง เช่น ถั่วเหลือง กินผักเป็นประจำ และอาหารญี่ปุ่นมีไขมันน้อยกว่าอาหารตะวันตก จึงน่าจะเป็นเหตุผลบางส่วนที่สนับสนุนการมีอายุยืนยาวของชาวญี่ปุ่น<O</O
<O</O

แม้แต่ในประเทศไทยของเรา สื่อมวลชนเคยนำเรื่องราวชีวิตของคนที่มีอายุเกินร้อยปี ออกมาตีแผ่บ่อยครั้ง พบว่า ผู้มีอายุยืนเหล่านั้นส่วนมากอยู่ในเขตชนบท กินอยู่แบบไทยแท้ พึ่งพาธรรมชาติ เช่น เน้นการกินผักพื้นบ้านกับกินน้ำพริก กินปลาเป็นอาหารหลัก อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี และทำงานอยู่ตลอดเวลา<O></O>
<O</O

ปัจจัยที่ทำให้คนมีอาจุยืนนั้นมีมากมาย แต่การกินอาหารและมีหลักโภชนาการที่ดีนับเป็นปัจจัยที่สำคัญประการหนึ่ง ดังนั้น หลักสำคัญในการกินอาหารให้มีสุขภาพดี โดยใส่ใจปฏิบัติกินอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงชีวิตจะนำไปสู่การมีอายุยืน ซึ่งสรุปหลักสำคัญ ๆ ดังนี้
<O</O
<O</O
1. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ทุกวัน ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากและน้อยจนเกินไป<O</O
2. กินข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือเป็นอาหารหลัก<O</O
3. กินพืชผักผลไม้เป็นประจำ โดยเฉพาะเน้นกินผักพื้นบ้าน<O</O
4. กินปลาเป็นอาหารหลักสลับกับถั่วเมล็ดแห้ง และเนื้อสัตว์อื่นๆ <O</O
5. กินอาหารประเภทต้ม นึ่ง อบ ปิ้ง มากกว่าอาหารประเภททอดและผัด<O</O
6. กินอาหารสดจากธรรมชาติมากกว่าอาหารที่ผ่านกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรม เช่น อาหารกระป๋อง<O</O
7. กินอาหารประเภทไขมัน และน้ำตาลให้น้อย<O</O
8. กินอาหารสุกสะอาด ไม่ปนเปื้อนเชื้อโรคและสารเคมี<O</O
9. งดหรือลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และบุหรี่<O</O
10. เคลื่อนไหวร่างกายหรือออกกำลังกายเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงความเครียด<O</O
<O</O
ไม่ควรตั้งเป้าหมายในชีวิตว่าจะอยู่ให้ได้ครบ 100 ปี หรือมากกว่านั้นแต่พยายามกินอยู่ให้ดีและถูกต้องตั้งแต่วันนี้ชีวิตจะยืนยาว

<O
โดย : อาจารย์สง่า ดามาพงษ์</O
<O<O
ที่มา :<O</O
ข้อมูลจาก : หนังสือฉลาดกิน <O</O
ภาพประกอบ : www.thaihealth.or.th

<O<TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD height=20>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</TD></TR><TR><TD bgColor=#990000 height=3></TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left> กินผักผลไม้-ปลา ลดลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดดำ</TD></TR><TR><TD align=left> แนะกินมังสวิรัติอย่างฉลาด ต้องไม่ขาดสารอาหาร</TD></TR><TR><TD align=left> ชี้คนไทยยึดติดกับสีสัน ความอร่อยมากกว่าอาหารปลอดภัย</TD></TR><TR><TD align=left> ดัน! พรบ.ลดสารเคมี...สู่อาหารปลอดภัย</TD></TR><TR><TD align=left> สธ. เร่งรณรงค์ควบคุมอาหารปลอดภัยในโรงเรียน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD height=20>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</TD></TR><TR><TD bgColor=#990000 height=3></TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left> เริ่มต้นสุขภาพดี กินอยู่เพื่ออายุยืน</TD></TR><TR><TD align=left> พบ! สารไตรเตอเปนอยด์ในเปลือกแอปเปิ้ล ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง</TD></TR><TR><TD align=left> เผยกินดีตามสูตรพอเพียงด้วย

 

วันที่ 21 มิ.ย. พ.ศ.2550
เรียนคุณสิทธิพงศ์

กระผมขอจอง...หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (ตามที่ท่านอาจารย์ประถม อาจสาครเป็นผู้ที่ค้นคว้ามา)....จำนวน 1 เล่ม ครับ

ขอโมทนาในบุญกุศล ,ธรรมทานและวิทยาทานครับ

สาธุ นิพพานัง สุขขัง

 

ขอผมนำไปหารือกับคณะผู้จัดทำก่อน แล้วผมจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับ

โมทนาสาธุครับ

.

 

วิธีการใส่รูป

ให้เลือกตอบเต็มรูปแบบ

แล้วให้ไปที่ Upload รูป, เพลง และไฟล์อื่นๆได้ที่นี่ (Attach Files)
นามสกุลของไฟล์ที่อนุญาตให้ upload ได้คือ: bmp doc gif htm html jpe jpeg jpg mid mp3 pdf png psd txt wma wmv xls xml zip


<SCRIPT src="clientscript/vbulletin_attachment.js?v=362" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript> <!-- var newpost_attachmentbit = '\r\n \r\n %5$s\r\n (%6$s)\r\n
'; vB_Attachments = new vB_Attachment('attachlist', ''); document.write('<input type="button" id="manage_attachments_button" class="button" tabindex="1" style="font-weight:normal" value="Upload และ บริหารไฟล์" title="Click here to add or edit files attached to this message" onclick="vB_Attachments.open_window(\'newattachment.php?t=22445&poststarttime=1182475903&posthash=da812941fabf2bd6339c35343a24973d\', 480, 480, \'\')" />'); //--> </SCRIPT><INPUT class=button id=manage_attachments_button title="Click here to add or edit files attached to this message" style="FONT-WEIGHT: normal" onclick="vB_Attachments.open_window('newattachment.php?t=22445&poststarttime=1182475903&posthash=da812941fabf2bd6339c35343a24973d', 480, 480, '')" tabIndex=1 type=button value="Upload และ บริหารไฟล์"> <NOSCRIPT> Upload และ บริหารไฟล์ </NOSCRIPT>


กดไปที่
<INPUT class=button id=manage_attachments_button title="Click here to add or edit files attached to this message" style="FONT-WEIGHT: normal" onclick="vB_Attachments.open_window('newattachment.php?t=22445&poststarttime=1182475903&posthash=da812941fabf2bd6339c35343a24973d', 480, 480, '')" tabIndex=1 type=button value="Upload และ บริหารไฟล์"> <NOSCRIPT> Upload และ บริหารไฟล์ </NOSCRIPT>



จะปรากฎ
<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=tcat>ปิดหน้าต่างนี้ Upload และ บริหารไฟล์ </TD></TR><TR><TD class=panelsurround align=middle>

<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>Upload File จาก Computer ของคุณ</LEGEND><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD><INPUT type=hidden value=134217728 name=MAX_FILE_SIZE> <INPUT class=bginput type=file size=30 name=attachment[]>
<INPUT class=bginput type=file size=30 name=attachment[]>
<INPUT class=bginput type=file size=30 name=attachment[]>
<INPUT class=bginput type=file size=30 name=attachment[]>
<INPUT class=bginput type=file size=30 name=attachment[]>
<INPUT class=bginput type=file size=30 name=attachment[]>
<INPUT class=bginput type=file size=30 name=attachment[]>
<INPUT class=bginput type=file size=30 name=attachment[]>
<INPUT class=bginput type=file size=30 name=attachment[]>
<INPUT class=bginput type=file size=30 name=attachment[]>
</TD></TR></TBODY></TABLE></FIELDSET>​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ให้กด Browes ค้นหารูปในเครื่องคอมพิวเตอร์เรา แล้วกด upload

Upload File จาก Computer ของคุณ <TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD><INPUT type=hidden value=134217728 name=MAX_FILE_SIZE> <INPUT class=bginput type=file size=30 name=attachment[]>
<INPUT class=bginput type=file size=30 name=attachment[]>
<INPUT class=bginput type=file size=30 name=attachment[]>
<INPUT class=bginput type=file size=30 name=attachment[]>
<INPUT class=bginput type=file size=30 name=attachment[]>
<INPUT class=bginput type=file size=30 name=attachment[]>
<INPUT class=bginput type=file size=30 name=attachment[]>
<INPUT class=bginput type=file size=30 name=attachment[]>
<INPUT class=bginput type=file size=30 name=attachment[]>
<INPUT class=bginput type=file size=30 name=attachment[]>
</TD><TD align=right><INPUT class=button style="WIDTH: 70px" onclick="return verify_upload(this.form);" type=submit value=Upload name=upload></TD></TR></TBODY></TABLE>
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>Upload File จาก URL หรือ เว็ป</LEGEND><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD><INPUT class=bginput dir=ltr size=30 name=attachmenturl[]>
<INPUT class=bginput dir=ltr size=30 name=attachmenturl[]>
<INPUT class=bginput dir=ltr size=30 name=attachmenturl[]>
<INPUT class=bginput dir=ltr size=30 name=attachmenturl[]>
<INPUT class=bginput dir=ltr size=30 name=attachmenturl[]>
</TD><TD align=right><INPUT class=button style="WIDTH: 70px" onclick="return verify_upload(this.form);" type=submit value=Upload name=upload></TD></TR></TBODY></TABLE></FIELDSET>
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>ไฟล์ที่อัพโหลดทั้งหมดในขณะนี้ (39.4 KB)</LEGEND><TABLE class=fieldset cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD> 3_1127319033.jpg (39.4 KB)</TD></TR></TBODY></TABLE>
</FIELDSET>
แล้วมากด ส่งข้อความ รูปจะเข้ามาอยู่ในกระทู้ครับ
<!-- / message --><!-- sig -->