ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย คุณสนุก, 4 พฤศจิกายน 2010.

  1. joke7

    joke7 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2012
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +153
    สวยงามมากครับพื่ รูปชัดมาก :cool:
     
  2. comeon

    comeon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +149
    สวยคมชัด.......
    สุดยอดดดดดดดดดดดด มากค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2012
  3. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,820
    ขอบคุณทุกคำชมครับ

    ไปนอนก่อนแล้วครับ ดึกแล้ว ฝันดีครับทุกคน..^^catt1
     
  4. จงอาง

    จงอาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +7,799
    [​IMG]


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. จงอาง

    จงอาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +7,799
    [​IMG]

    [​IMG]

    ••• พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ที่กำลังมาแรงสุดๆ ในขณะนี้อีกรุ่นหนึ่ง คือ
    รุ่น สร้างโรงพยาบาลโคกโพธิ์ ปี ๒๕๓๙

    ประวัติการสร้างมีอยู่ว่า พระครูอนุกูลปริยัติกิจ (สวัสดิ์) เจ้าอาวาสวัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมสร้าง ตึกหลวงพ่อทวด ณ โรงพยาบาลโคกโพธิ์ พร้อมทั้งจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์
    และปัจจัยอีกส่วนหนึ่งจะนำไปตั้ง มูลนิธิกองทุนคณะสงฆ์ จ.ปัตตานี

    จึงได้จัดสร้าง พระหลวงพ่อทวด หลังเตารีด ย้อนยุค ปี ๒๕๐๕ มีทั้งพิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็ก เนื้อทองคำ-นาก-เงิน-ทองทิพย์ (เนื้อสตางค์)-เนื้อนวโลหะ ผสมเหล็กน้ำพี้ นอกจากนี้ยังมี พระกริ่งเฉลิมพล ย้อนยุค ปี ๒๕๐๕

    ซึ่งครั้งนั้นจัดสร้างโดย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร โดยสร้างด้วยเนื้อเดียวกับ พระหลวงปู่ทวด รุ่นนี้ถือได้ว่าเป็น

    พระหลวงพ่อทวด หลังเตารีด รุ่น ๒ ของวัดช้างให้ ที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ทุกอย่าง โดยได้ประกอบพิธีเททองหล่อเป็นปฐมมงคลฤกษ์ เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๓๙ และเข้าพิธีปลุกเสก ณ อุโบสถวัดช้างให้ เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๐

    โดย พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว, พระอาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย และ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ พระทุกองค์ได้ตอกโค้ดไว้ด้วย (เฉพาะเนื้อทองคำและเนื้อนาก มีหมายเลขกำกับ) นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ศรัทธาเลื่อมใส พระหลวงพ่อทวด หลังเตารีด ได้มีไว้สักการบูชาแทนรุ่นปี ๒๕๐๕ ซึ่งมีราคาสูงมาก...

    ข่าวนี้ฮือฮามาหลายเดือนแล้วคมเลนส์ส่องพระ เพิ่งจะนำมาเสนอวันนี้ คงยังไม่สายจนเกินไป...องค์ในภาพนี้เป็นพระของ สุ นคร เน้นมาว่า ไม่ขาย...ขอโชว์ เท่านั้น •••
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2012
  6. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    สวัสดีเช้าวันเสาร์ครับอ.จงอาง และทุกๆท่าน^__^
     
  7. จงอาง

    จงอาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +7,799
    คร่ำหวอดในวงการพระเครื่องยาวนานกว่า ๓๐ ปี วันนี้ชื่อเสียงของ กำนันมานะ คงวุฒิปัญญา หรือ กำนันมานะ บางแค เป็นที่คุ้นเคยของเพื่อนพ้องน้องพี่นักนิยมพระ ติดทำเนียบ “เซียนใหญ่” เชี่ยวชาญพระเครื่องทุกประเภท

    กำนันมานะ เกิดที่ย่านบางแค จบปริญญาตรีสาขารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เคยเป็นกำนันในเขตภาษีเจริญ ได้รับรางวัลแหนบทองจากกระทรวงมหาดไทย และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขตพื้นที่ ๓๒ เขตบางกอกใหญ่และภาษีเจริญ พรรคไทยรักไทย ปัจจุบันเปิดบ้านย่านพุทธมณฑลสาย ๓ เป็นพิพิธภัณฑ์พระเครื่อง และเตรียมจะเปิดศูนย์พระอีกแห่งบนชั้น ๕ ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส ปิ่นเกล้า ในเร็ว ๆ นี้

    “ผมเล่นพระเพราะศรัทธา ศาสนาพุทธสอนให้คนทำความดี เชื่อในคำสั่งสอนพระพุทธเจ้า เชื่อในอำนาจพุทธคุณ เราเป็นผู้ชาย ส่วนใหญ่ผู้ชายมักจะชอบ ๒-๓ อย่าง คือ เสี่ยงโชค เล่นการพนัน ผู้หญิง และพระเครื่อง อย่างผมชอบพระ สะสมไว้เยอะ ถึงวันหนึ่งก็แบ่งให้บูชาหมุนเวียนเปลี่ยนมือ ส่วนต่างเป็นผลกำไร ซึ่งไม่มากเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับสภาพพระ”
    “การเล่นพระ มีส่วนช่วยให้พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง ทำให้คนรู้จักพระ ประวัติพระ เป็นการอนุรักษ์และเผยแพร่ศาสนา ทุกซอยมีแผงพระทั้งนั้น พระเป็นสินทรัพย์อย่างหนึ่ง ดีกว่าไปซื้ออย่างอื่น แต่พระมีจำกัด ส่วนใหญ่พระสวย ๆ เศรษฐีเช่าไปหมด คนเดินดินหมดสิทธิ จึงต้องสร้างพระใหม่ทดแทน เกิดกิจการรับหล่อพระ ปั๊มพระ เลี่ยมกรอบพระ มีการจ้างงาน สร้างรายได้ ประวัติพระเกจิอาจารย์ก็ไม่สูญหายและคนเข้าวัดเยอะขึ้น”

    กำนันมานะกล่าว
    “เดี๋ยวนี้คนชอบพระมาก ดูจากงานประกวดพระ คนมาหลาย ๆ หมื่น เพราะได้เห็นสิ่งใหม่ ๆ และมาด้วยใจ แม้แต่ต่างชาติ ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฮ่องกง ก็มา ผมว่าตอนนี้เมืองไทยเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาของโลกไปแล้ว

    ผมเชื่อ ๑๐๐% พระจะอยู่เคียงคู่สังคมไทยตลอดไป อยากฝากถึงคนรุ่นใหม่ที่จะก้าวเข้ามา อย่าลังเล เข้ามาเลย คุณมาศึกษามาเล่นพระ ช่วยกันอนุรักษ์มรดกของชาติ ทุกคนอยู่กันแบบเพื่อนแบบพี่น้อง ไม่เลือกวรรณะและสาขาอาชีพ ถ้าไม่รู้จะปรึกษาใคร ก็แวะมาหาผม หรือพี่เล็ก รูปหล่อ ที่ชั้น ๕ โลตัสปิ่นเกล้า ได้ทุกวัน”

    ก่อนอำลา กำนันมานะ ฝากพระสวยมาให้ชมกัน อาทิ พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พระกริ่งหน้าอินเดีย สมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศนฯ ปี ๒๔๘๒ หลวงปู่ทวด หลังเตารีด เนื้อเมฆพัด เหรียญพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ สิริจันโท วัดบรมนิวาส รุ่นแรก พ.ศ. ๒๔๖๗ และเหรียญหลวงพ่อพร วัดหนองแขม พ.ศ. ๒๔๖๘.

    เดลินิวส์
     
  8. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    ขอบคุณอ.จงอางที่ได้นำเรื่องราวดีๆมาให้อ่านกันครับ
     
  9. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    งามครับอาจารย์ ชอบปู่ทวดเป็นการส่วนตัวอยู่แล้วครับผม:cool:
     
  10. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    สวัสดียามสายค่ะ...
    อากาศทางใต้ (หาดใหญ่ ค่อนข้างร้อนค่ะ เมื่อวานมีฝนตกบ้าง อากาศเปลี่ยน ดูแลสุขภาพกันทุกท่านค่ะ)

    ไปเจอมา.....นำมาให้อ่านอีกเช่นเดิม:VO
    ไม่มีใครที่จะทำให้ตัวเรา "ดี" หรือ "เลว" ได้นอกจากตัวเราเอง จริงใจต่อกัน

    ข้อความคุณ วานุราธ

    วันศุกร์ ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2555
    ร่มธรรมแห่งสทิงพระ พ่อท่านแสง อาภธโร



    <TABLE class=blog_center_data><TBODY><TR><TD> [​IMG]
    หลวงปู่ทวดวัดช้างให้แห่งดินแดนลังกาสุกะ สุดยอดพระนิรันตรายแห่งเมืองใต้ตลอดถึงแผ่มหาบารมีปกคลุมไปทั่วสยามประเทศ ว่ากันว่าสักครั้งในชีวิตได้เดินทางไปกราบสักการะสัมผัสมหาบารมีที่ท่านแผ่ ซ่านออกมาสักครั้ง ที่วัดช้างให้เป็นสิ่งที่ใครหลายคนปรารถนา...ตามตำนานกล่าวว่าหลวงปู่ทวด เป็นบุตรของนายหู นางจันทร์ ซึ่งเป็นทาสในเรือนเบี้ย (ทาสทำงานใช้หนี้) ของเศรษฐีปาน เกิดในรัชกาลของสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช เมื่อ 3 มีนาคม พ.ศ. 2125 ณ บ้านสวนจันทร์ (บ้านเลียบ) ต.ดีหลวง (ปัจจุบัน เป็นตำบลชุมพล) อ.สทิงพระ(จะทิ้งพระ) จ.สงขลา แรกเกิดมีชื่อว่าปู ขณะท่านเกิดมีเหตุอัศจรรย์คือเกิดฟ้าร้อง ฟ้าผ่า แผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่น เสมือนหนึ่งว่ามีผู้มีบุญญาธิการมาเกิด เมื่อตัดรกจากสายสะดือแล้วนายหู บิดาของท่านก็นำรกของท่านไปฝังไว้ที่โคนต้น เลียบ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ต้นเลียบในปัจจุบัน

    เมื่อท่านเกิดมาแล้วก็มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นกับท่าน เรื่อยมา เป็นต้นว่า ขณะที่ท่านอยู่ในวัยแบเบาะในช่วงฤดูเกี่ยวข้าวบิดามารดาของท่านต้องออกไป เกี่ยวข้าวที่กลางทุ่งนาซึ่งเป็นนาของเศรษฐีปาน ซึ่งท้องนาแห่งนั้นห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ที่นาแห่งนั้นมีดงตาลและมะเม่าเป็นจำนวนมากครั้งนั้นจึงเรียกว่าทุ่งเม่า ปัจจุบันตั้งเป็นสำนักสงฆ์ชื่อนาเปล ในสมัยนั้นจึงมีสัตว์ป่าชุกชุมพอสมควร บิดามารดาของท่านจึงผูกเปลของท่านซึ่งเป็นเปลผ้าไว้กับต้นมะเม่าสองต้นและก็ ได้เกี่ยวข้าวอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้น พอได้ระยะเวลาที่นางจันทร์ต้องให้นมลูก นางจันทร์จึงเดินมาที่ที่ปลูกเปลของลูกน้อย และก็เห็นงูจงอางตัวใหญ่หรืองูบองหลาที่ชาวภาคใต้เรียกกันพันที่รอบเปล นางจันทร์เห็นแล้วตกใจเป็นอันมากจึงเรียกนายหูซึ่งอยู่ไม่ไกลนักมาดูและช่วย ไล่งูจงอางนั้น แต่งูจงอางนั้นก็ไม่ไปไหน นายหูและนางจันทร์จึงตั้งสัตยาธิฐานว่าขออย่าให้งูนั้นทำร้ายลูกน้อยเลย ไม่นานนักงูจงอางนั้นก็คลายวงรัดออกและเลื้อยหายไปในป่านายหูและนางจันทร์ จึงเข้าไปดูลูกน้อยเห็นว่ายังหลับอยู่และไม่เป็นอันตรายใด ๆ และปรากฏว่ามีเมือกแก้วขนาดใหญ่ที่งูจงอางคลายไว้อยู่บนอกเด็กชายปูนั้น เมือกแก้วนั้นมีแสงแวววาวและต่อมาได้แข็งตัวเป็นลูกแก้ว ปัจจุบันได้ประดิษฐานที่วัดพะโคะ เมื่อเศรษฐีปานทราบเรื่องเข้าก็บีบบังคับขอลูกแก้วเอาจากนายหูและนางจันทร์ บิดามารดาของท่านจึงจำต้องยอมให้ลูกแก้วนั้นแก่เศรษฐีปานซึ่งเป็นนายเงิน แต่ลูกแก้วนั้นเป็นของศักดิ์สิทธิประจำตัวท่าน เมื่อเศรษฐีปานเอาลูกแก้วไปแล้วก็เกิดเภทภัยในครอบครัวเกิดการเจ็บป่วยกัน บ่อย และมีฐานะยากจนลง เศรษฐีปานจึงได้เอาลูกแก้วมาคืนและขอขมาเด็กชายปู และยกหนี้สินให้แก่นายหูและนางจันทร์ ทั้งสองจึงพ้นจากการเป็นทาสและต่อมาก็มีฐานะดีขึ้น ๆ ส่วนเศรษฐีปานก็มีฐานะดีขึ้นดังเดิม เมื่อท่านมีอายุได้ประมาณ 7 ขวบ พ.ศ. 2132 บิดา มารดาของท่านจึงนำท่านไปฝากไว้เป็นศิษย์วัดเพื่อเล่าเรียนหนังสือ ที่วัดกุฎ๊หลวงหรือวัดดีหลวงในปัจจุบัน ซึ่งเป็นวัดอยู่ใกล้บ้านท่าน ขณะนั้นมีท่านสมภารจวง ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ เด็กชายปูเป็นเด็กที่หัวดีเรียนเก่งสามารถเล่าเรียนภาษาขอมและภาษาไทยได้ อย่างรวดเร็ว สมภารจวงได้บวชให้ท่านเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 15 ปี ตอนที่ท่านบวชเป็นสามเณรนี้เองบิดาของท่านจึงถวายลูกแก้วคืนให้แก่ท่านเป็น ลูกแก้วประจำตัวท่านต่อไป ด้วย ความที่เป็นคนใฝ่เรียนใฝ่รู้ตลอดเวลาของท่าน ต่อมาท่านสมภารจวงได้นำไปฝากให้เล่าเรียนหนังสือที่สูงขึ้นสมัยนั้นเรียกว่า มูลบทบรรพกิจ ปัจบันก็คือเรียนนักธรรมนั่นเอง โดยนำไปฝากเรียนไว้กับสมเด็จพระชินเสน ซึ่งเป็นพระเถระชั้นสูงที่ส่งมาจากกรุงศรีอยุธยา ให้มาครองเป็นเจ้าอาวาสวัดสีคูยังหรือวัดสีหยังในปัจจุบัน ห่างจากวัดดีหลวงไปทางเหนือประมาณ 4 กิโลเมตร ท่านได้เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและจบหลักสูตรที่วัดสีคูยังนั้น หลังจากนั้นท่านได้เดินทางเข้ามาศึกษาต่อที่เมืองนครศรีธรรมราชเพื่อเรียน หนังสือให้สูงขึ้น โดยมาพำนักอยู่ที่วัดเสมาเมือง ซึ่งเป็นสำนักเรียนและมีสมเด็จพระมหาปิยะทัสสี เป็นเจ้าอาวาส และบรรพชาอุปสมบทเป็นพระสงฆ์เมื่ออายุครบกาลอุปสมบท ท่านได้ศึกษาวิชาจากครูบาอาจารย์ต่าง ๆ จนมีความรู้และเป็นผู้ทรงอภิญญามาก และได้แสดงปาฏิหาริย์หลายครั้ง ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์จากสมเด็จพระเอกาทศรศในครั้งสุดท้ายใน ราชทินนามที่ สมเด็จเจ้าพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์ สุดท้ายเมื่อท่านมีอายุได้ 80 ปี ท่านได้กลับมาจำพรรษาที่วัดพะโคะ วัดบ้านเกิดของท่าน ต่อมาท่านได้สั่งเสียกับลูกศิษย์ว่าเมื่อท่านมรณภาพให้นำพระศพท่านไปไว้ที่ วัดช้างไห้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ต่อไปสถานที่ข้างหน้าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ให้คนมาเที่ยวและก็เป็นไป ตามที่ท่านกล่าวไว้ในทุกวันนี้ที่วัดช้างให้จะคราคร่ำไปด้วยพุทธศาสนิกชน ตลอดถึงศาสนิกชนต่างศาสนาเข้าไปสักการะกราบไหว้ขอพร ขอบารมี เยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสายกิตติคุณของท่านเกริกก้องเกรียงไกรขจรขจายไปทั่วสยาม ประเทศแผ่ซ่านไปถึงชาวต่างชาติ ต่างภาษาเรียกได้ว่าหากได้มาสักครั้งเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตยิ่งนัก จาก การบันทึกของท่านอนันต์ คณานุรักษ์ คหบดีแห่งปัตตานีผู้เป็นกำลังหลัก กำลังสำคัญบันทึกไว้ที่ปรากฏองค์ของท่านขึ้นมาในยุคนี้ได้ เพราะความฝัน คือ

    คืนวันหนึ่งในปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๕ เวลาใกล้รุ่ง ข้าพเจ้าฝันว่าได้พบกับท่าน ณ ที่แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดช้างให้มากนัก ท่านได้มอบยาชนิดหนึ่งให้ข้าพเจ้ากิน แล้วสวมมงคลรัดศีรษะให้อีก แสดงว่าท่านได้รับข้าพเจ้าไว้เป็นศิษย์ เพื่อจะให้ข้าพเจ้าได้รับใช้งานของท่านในโอกาสต่อไป เป็นการสนองคุณพระอาจารย์ เสร็จแล้วท่านเดินจากข้าพเจ้าไปทางทิศที่ตั้งของวัดช้างให้ รุ่งเช้าข้าพเจ้าคิดว่าสถูปศักดิ์สิทธิ์หน้าวัดช้างให้นี้ คงจะเป็นสถูปซึ่งได้บรรจุอัฐิของท่าน หรือสมเด็จเจ้าพะโคะ เมื่อสมัยหลายร้อยปีมาแล้วเป็นแน่ ข้าพเจ้าปรารถนาจะไปที่วัดเพื่อสืบถามดู แต่ในระยะนั้น ข้าพเจ้ามีธุระกิจจำเป็นบางประการไม่สามารถจะไปได้ตามความตั้งใจ โอกาสต่อมา เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๗ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๓ ข้าพเจ้าจึงมีโอกาสออกจากบ้านมาถึงตลาดนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จึงได้แวะชวนนายชาติ สิมศิริ กำนัน นายกวี จิตตกูล นายวิศิษฐ์ คณานุรักษ์ พากันไปวัดช้างให้

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    [​IMG]
    เมื่อพวกเราได้ทำความเคารพท่านอาจารย์ทิม ธมฺมธโร เจ้าอาวาสวัดช้างให้แล้ว ก็ได้สนทนาปราศรัยต่อกัน วันนี้เป็นวันแรกที่ข้าพเจ้าได้มาเยี่ยมวัดช้างให้ และได้รู้จักท่านอาจารย์ฯ เจ้าอาวาสวัดช้างให้ ในการสนทนากันตอนหนึ่งข้าพเจ้าได้เรียนถามท่านอาจารย์ฯ ว่าโบสถ์ที่สร้างค้างอยู่นั้น ท่านไม่คิดจะสร้างพระเครื่องไว้แจกจ่ายแก่ผู้สละทรัพย์โมทนาสร้างโบสถ์บ้าง หรือ ท่านอาจารย์ตอบว่า เคยคิดมา ๒ ปีแล้วแต่ไม่สำเร็จ ข้าพเจ้าจึงรับว่าถ้าเช่นนั้นข้าพเจ้าขอรับจัดสร้างขึ้นถวาย ท่านก็ยินดีที่ข้าพเจ้าจัดทำให้

    ข้าพเจ้าได้เรียนขอให้ท่านอาจารย์ได้เลือกแบบพระ ท่านจะเอาปางไหนตามใจท่านชอบ แต่ข้าพเจ้าขอเพียงแต่เลือกสีของพระคือสีดินแดง ทันใดนั้นข้าพเจ้าก็เกิดรู้สึกขนพองสยองเกล้าขึ้นมา ทุกคนในที่นั้นได้เห็นเป็นประจักษ์ ข้าพเจ้าจึงพูดต่อไปว่า ปรากฎการณ์เช่นนี้ที่มีต่อตัวข้าพเจ้า ก็เห็นจะเป็นเพราะหลวงพ่อทวดฯ ท่านมีความปิติยินดีที่พวกเราคิดจะสร้างพระเครื่องครั้งนี้ แต่เอาเถอะขอให้ท่านอาจารย์เลือกแบบพระก็แล้วกัน ทันใดนั้นข้าพเจ้าก็เกิดขนพองสยองเกล้าอย่างแรงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง และได้เห็นพระเครื่องลอยเด่นอยู่ตรงหน้า เป็นรูปพระภิกษุชรานั่งขัดสมาธิอยู่บนดอกบัวมีสีพระองค์ดำ ปรากฏการณ์อันมหัศจรรย์ครั้งนี้โดยหลวงพ่อทวดฯ บันดาลให้ข้าพเจ้าได้เห็นเป็นมโนภาพอย่างชัดเจนยิ่งนัก ข้าพเจ้าจึงดูนาฬิกาที่ข้อมือขณะนั้นเวลา ๑๓.๒๕ น. ข้าพเจ้าจึงได้เรียนให้ท่านอาจารย์ทราบว่า ตามนิมิตโดยอำนาจของหลวงพ่อทวดฯ ครั้งนี้ เนื่องจากท่านแนะนำให้สร้างพระเครื่องขึ้นแทนองค์ของท่านเอง จำเป็นที่เราจะต้องปฏิบัติตาม และขอให้ท่านอาจารย์เป็นสื่อการติดต่อกับวิญญาณของท่าน ในพิธีการที่จะสร้างพระเครื่องทุกๆ ระยะโดยใกล้ชิดด้วย

    ข้าพเจ้าให้ช่างแกะสลักขี้ผึ้งเหลืองทำแบบพระเครื่อง เสร็จแล้วเก็บไว้ ๓ คืน รุ่งเช้าแบบขี้ผึ้งแปรสภาพ คือในองค์พระซึ่งมีสบงจีวรคลุมอยู่ยังคงเป็นสีเหลืองตามเดิม แต่ผิวเนื้อที่อยู่นอกสบงจีวร เช่น ศอ ถึง พักตร ลำแขนถึงนิ้วมือ หน้าแข้งถึงปลายเท้า เกิดเป็นสีดำอย่างเอาหมึกทา ปรากฏการณ์อัศจรรย์นี้ ท่านพระครูฯ นั่งสมาธิถามท่านว่า ใครทำให้แบบแปรสภาพเช่นนี้ ท่านตอบว่าสมเด็จเจ้าพะโคะเอง แล้วท่านอาจารย์ฯ ถามถึงความฝันของผู้เขียนที่ว่าพบสมเด็จเจ้าฯ ทำพิธีสวมมงคลให้ ว่าใครเป็นผู้ทำให้ และทำให้เขาทำไม ท่านตอบว่าสมเด็จเจ้าฯ ทำให้เพราะเขาเป็นคนดี และชอบทางนี้ เราจะใช้เขาให้ช่วยทำงานใหญ่ (หมายถึงงานสร้างโบสถ์)

    เมื่อมีข่าวว่าวัดช้างให้จะสร้างพระเครื่องขึ้น พี่น้องชาวพุทธในแถบนั้นต่างคนต่างสนใจเป็นจำนวนมาก ได้บุกป่าขึ้นเขาชักชวนกันไปหาว่านนานาชนิด มาถวายแก่ท่านอาจารย์เป็นจำนวนมากมาย ทางวัดก็ได้เตรียมการรอวันจะทำพิธีอยู่อย่างพร้อมเพรียงและได้ปฏิบัติตาม หลวงพ่อทวดฯ แนะนำผ่านท่านอาจารย์ทุกประการ นายฮวด ผู้ใหญ่บ้านเหมืองใน ตำบลลำพยา ได้มาหาข้าพเจ้าพร้อมด้วยนายชาติ สิมศิริ กำนันโดยบังเอิญ เมื่อเขาทราบว่าข้าพเจ้ากำลังหาดินดำเพื่อสร้างพระเครื่อง นายฮวดขอรับอาสาจะขุดและขนเอาดินว่านสีดำซึ่งมีอยู่ ณ เชิงเขาแห่งหนึ่งไปส่งให้ถึงวัด โดยไม่คิดค่ารถค่าแรงแต่ประการใด ดินว่านนี้เป็นดินสีดำตามธรรมชาติ อยู่เป็นทางซึ่งจะเข้าใต้ภูเขา ชาวบ้านแถวนั้นเรียกกันว่า กากยายักษ์ หมายถึงกากยายักษ์ในเรื่องรามเกียรติ์ ชาวบ้านเอาดินดำนี้มาตากแห้ง หรือย่างไฟกินแก้โรคผอมเหลืองหรือโรคโลหิตจาง เขาว่าดีนักจึงเป็นที่หวงแหนของชาวบ้านแถวนั้นเมื่อได้เตรียมการตามคำแนะนำของหลวงพ่อทวดฯ เรียบร้อยแล้ว ถึงวันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ ตรงกับวันศุกร์ เดือน ๔ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เวลาเที่ยงตรง เป็นมงคลฤกษ์ในพิธี จึงปลุกเสกเบ้าพิมพ์ซึ่งมีอยู่ ๑๖ เบ้า เสร็จแล้วได้พิมพ์พระเครื่องเป็นต้นมา จนถึงวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๔๙๗ ได้พระเครื่องจำนวน ๖๔,๐๐๐ องค์ (จะพิมพ์ให้ได้ ๘๔,๐๐๐ องค์ แต่เวลาจำกัดในพิธีปลุกเสก) ก็ต้องหยุดลง เพื่อเอาเวลาเตรียมงานพิธีปลุกเสกพระเครื่อง ตามที่หลวงพ่อทวดฯ กำหนดให้ท่านพระครูปฏิบัติ

    ถึงวันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๗ ตรงกับวันอาทิตย์ เดือน ๕ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เวลาเที่ยงตรง ได้ฤกษ์พิธีปลุกเสกพระเครื่อง ณ เดินดินบริเวณโบสถ์เก่า โดยมีท่านพระครูวิสัยโสภณ (อาจารย์ทิม ธมฺมธโร) เจ้าอาวาสเป็นองค์ประธานในพิธีและนั่งปรก ได้อาราธนาอัญเชิญพระวิญญาณหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด พร้อมด้วยวิญญาณหลวงพ่อสี หลวงพ่อทอง และหลวงพ่อจันทร์ ซึ่งหลวงพ่อทั้งสาม องค์นี้สิงสถิตย์อยู่ร่วมกับหลวงพ่อทวดฯ ในสถูปหน้าวัด ขอให้ท่านประสิทธิ์ประสาทความศักดิ์สิทธิ์ขลังแก่พระเครื่องฯ นอกจากนั้นก็มีหลวงพ่อสง โฆสโก เจ้าอาวาสวัดพะโคะเวลานี้ พระอุปัชฌาย์ดำ เจ้าอาวาสวัดศิลาลอย (ทั้ง ๒ วัดนี้ตั้งอยู่ในอำเภอจะทิ้งพระ จังหวัดสงขลา) พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์อาวุโส ณ วัดช้างให้ ร่วมพิธีปลุกเสกพระเครื่องเสร็จลงในเวลา ๑๖.๐๐ น. ของวันนั้น ท่านพระครูฯ พร้อมด้วยพระภิกษุอาวุโสและคณะกรรมการ มีนายอนันต์ คณานุรักษ์ (ผู้เขียน) นายชาติ สิมสิริ นายกวี จิตกูล นายวิศิษฐ์ คณานุรักษ์ นายวิทยา คณานุรักษ์ นายสุนนท์ คณานุรักษ์ และนายจำรูญ คณานุรักษ์ ได้ร่วมกันทำการแจกจ่ายพระเครื่องหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ให้แก่ประชาชนผู้เลื่อมใส ซึ่งมาคอยรอรับอยู่อย่างคับคั่งจนถึงเวลาเที่ยงคืน ปรากฏว่าในวันนั้นกรรมการได้รับเงินจากผู้ใจบุญ โมทนาสมทบทุนสร้างโบสถ์เป็นจำนวน ๑๔,๐๐๐ บาท

    หลังจากนั้นมา ด้วยอำนาจบุญบารมีอภินิหารหลวงพ่อทวดฯ ดลบันดาลให้พี่น้องหลายชาติหลายภาษาร่วมสามัคคีสละทรัพย์โมทนาสมทบทุนสร้าง โบสถ์เรื่อยๆ มา งานก่อสร้างโบสถ์จึงมีกำลังดำเนินการต่อไปโดยมิได้หยุดยั้ง จนถึงวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๔๙๙ ได้จัดทำพิธียกช่อฟ้า และวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๐๑ พิธีผูกพัทธสีมา โบสถ์หลังนี้จึงสำเร็จสมบูรณ์ และพระภิกษุสงฆ์ได้อาศัยทำสังฆกรรมถึงเวลานี้ รวมค่าก่อสร้างประมาณ ๘ แสนบาท ขอให้พี่น้องทุกคนจงรับเอาส่วนกุศลจงทั่วๆ กันเทอญ..ตามที่ข้าพเจ้าได้จัดการสร้างพระเครื่องหลวงพ่อทวดเหยียบ น้ำทะเลจืดครั้งนี้ เพราะข้าพเจ้าฝันว่า สมเด็จเจ้าพะโคะมาทำพิธีสวมมงคลให้ ข้าพเจ้าปรารถนาจะตอบแทนคุณสมเด็จฯ ท่าน แต่ไม่รู้ว่าท่านสถิตย์อยู่ที่ไหน จึงเรียนถามท่านเจ้าคุณเทพญาณโมลี วัดตานีนรสโมสร ท่านเจ้าคุณกรุณาบอกว่าท่านไม่โล่ไปไหนตามข่าวลือ อัฐิของสมเด็จท่านอยู่ในเขื่อนหรือสถูปหน้าวัดช้างให้ ข้าพเจ้าจึงสร้างพระเครื่องเป็นรูปพระภิกษุชราต่างองค์สมเด็จท่านและตาม นิมิต ณ วัดช้างให้ ซึ่งปรากฏทราบกันมาดีแล้ว ข้าพเจ้าปรารภกับ ท่านพระครูวิสัยโสภณว่า พระเครื่องนี้จะให้ชื่อว่า พ่อท่านทวดตามความนิยมเรียกของคนถิ่นนั้น แต่ท่านพระครูฯ นั่งสมาธิถามท่าน ท่านว่าไม่เอา ถามต่อไปว่าจะให้ชื่อว่าสมเด็จเจ้าพะโคะหรือ ท่านว่าชื่อนี้ให้เขาเรียกกันทางโน้น (หมายถึงภูมิลำเนาเดิม หรือวัดพะโคะ) ถ้ากระนั้นจะชื่ออย่างไร? วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของท่านบอกว่า ให้ชื่อ"หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด" จึงให้ชื่อพระเครื่องแต่วันนั้นมา...
     
  12. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    [​IMG]

    จากหลักฐานการบันทึกการสร้าง ปลุกเสกปรากฏนามพระอุปัชฌาย์ดำ ติสสโร วัดศิลาลอย เจ้าอาวาสวัดศิลาลอย (กระ) ต.ชุมพล อ.สทิงพระ สงขลาปฐมบทแห่งเถราจารย์ขลังแห่งต้นสายวิชชาอาถรรพณ์พระเวทย์โบราณของพ่อ ท่านแสง อาภาธโร ประวัดศิลาลอย(กระ) ประวัติวัดศิลาลอยตั้งอยู่เลขที่ 16 หมู่ที่ 4 บ้านวัดเกาะ ต.ชุมพล อ.สทิงพระ จ.สงขลา 90190 สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ 10 ไร่ 2 งาน 88 ตารางวา วัดศิลาลอยได้สร้างขึ้นเป็นวัดเมื่อประมาณพ.ศ. 1300 สมัยพระเจ้าดูมัญญราช แห่งอาณาจักรหริภุญชัย เดิมมีนามว่าวัดยางงาม ต่อมามีพระพุทธรูปสร้างด้วยหินปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 60 นิ้ว ถูกคลื่นซัดขึ้นมาจากทะเลอ่าวไทย ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นพระพุทธรูปที่มาจากเกาะกระ ชาวบ้านและคณะศรัทธาต่างเตรียมอาราธนาอัญเชิญท่านเพื่อไปประดิษฐานที่วัดดี หลวง ก็เกิดเหตุการณ์ให้ประจักษ์แก่สายตาชาวบ้านเชือกขนาดใหญ่ที่ใช้ในการลากเกิด ขาดขึ้นมาหลายครั้งหลายคราและเมื่อเห็นเป็นเช่นนั้นชาวบ้านก็พร้อมใจกัน อาราธนาอัญเชิญท่านเพื่อไปประดิษฐานที่วัดนางเหล้าซึ่งอยู่ใกล้เคียงกันก็ เกิดเหตุการณ์เฉกเช่นเดียวกันอยู่หลายครั้งหลายครา เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวคณะศรัทธาและชาวบ้านจึงบอกกล่าวอาราธนาอัญเชิญ ท่านเพื่อมาประดิษฐานยังวัดยางงาม เป็นเหตุอัศจรรย์หรือความบังเอิญก็สุดคาดเดาการอัญเชิญท่านมาวัดยางงามไร้ ซึ่งอุปสรรคใดๆ เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจแก่ชาวบ้านยิ่งนักและชาวบ้านได้เรียกนามวัดใหม่ว่าวัด กระ ตามที่มาของพระพุทธรูปศิลาที่ท่านมาจากเกาะกระ ครั้นต่อมาวัดกระได้ว่างเว้นพระสงฆ์จำพรรษากลายเป็นวัดร้างไปในที่สุดจนถึง ปีพ.ศ.2462 ชาวบ้านวัดกระ ได้เดินทางไปนิมนต์พระดำ ติสสโร วัดดีหลวง ให้มาปกครองวัดและท่านก็ได้รับนิมนต์เดินทางมาจำพรรษาที่วัดกระ และท่านก็ได้ทำการบูรณะพัฒนาวัดพร้อมกับได้บูรณะพระพุทธรูปศิลาและถวายนาม ว่าพระศิลาลอย ในโอกาสนี้ได้เปลี่ยนนามวัดเป็นวัดศิลาลอยตั้งแต่นั้นมา,,,,,

    [​IMG]
     
  13. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    พระอุปัชฌาย์ดำ ติสสโรเป็นพระเถราจารย์ผู้ทรงเวทย์วิทยาคมเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านย่าน นั้นกิตติคุณของท่านเป็นที่เลื่องลืมไปทั่วแถบถิ่นลุ่มน้ำทะเลน้อยมีศิษย์ยา นุศิษย์ตลอดถึงชาวบ้านมากราบขอพรขอบารมีท่านอยู่เป็นเนืองนิจซึ่งท่านก็ได้ เมตตาสงเคราะห์ให้อย่างเต็มที่ ผมได้มีโอกาสกราบเรียนสนทนาธรรมตลอดถึงขอความรู้จากพ่อท่านแสง อาภาธโรอยู่บ่อยครั้งท่านเมตตาเล่าว่าพระอุปัชฌาย์ของท่านพ่อท่านแก้ว พุทธมุนี อดีตเจ้าอาวาสวัดดีหลวงเท่านเมตาเล่าให้ฟังเสมอว่าพระอุปัชฌาย์ดำ ติสสโรเป็นหนึ่งในพระเถระผู้ทรงคุณที่เป็นหนึ่งในสี่องค์ที่ประกอบพิธีปรก ปลุกเสกหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ปี2497 ท่านเดินจากวัดศิลาลอยไปสงขลาเพื่อขึ้นรถเดินทางไปวัดช้างให้เพื่อร่วม ประกอบพิธีกรรมกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว หลวงพ่อสง วัดพระโคะ นับว่าเป็นสิ่งที่เหล่าศิษย์ภาคภูมิใจยิ่งนักที่องค์ปฐมบูรพาจารย์เป็นหนึ่ง ในสององค์พระเถราจารย์แห่งเมืองสงขลาที่ได้ร่วมประกอบพิธีครั้งนี้

    [​IMG]



    พ่อท่านแสง อาภาธโร ท่านเป็นศิษย์ของท่านอุปัชฌาย์แก้ว พุทธมุนี วัดดีหลวง ท่านอุปสมบทพร้อมกันรวมสามองค์คือ1.พระครูโอภาสธรรมรัตน์ (แสง อาภาธโร) วัดศิลาลอย 2.พระครุประภัสสรขันติคุณ(ผ่อง ขันติพโล) วัดนางเหล้า(มรณะภาพแล้ว) 3.อาจารย์แดง วัดนางเหล้า(มรณะภาพแล้ว) เมื่ออุปสมบทแล้วทั้งสามองค์ได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้และศึกษาเล่าเรียนพระ ธรรมวินัยตลอดถึงศึกษาพุทธาคม เวทย์มนต์คาถาจากองค์อุปัชฌาย์ของท่านจนหมดสิ้น ท่านอยู่ศึกษาอยู่ที่วัดดีหลวงอยู่หลายพรรษาก่อนที่จะแยกย้ายกันไปโดยพ่อ ท่านผ่อง ขันติพโลและอาจารย์แดง ได้ไปจำพรรษาวัดนางเหล้า และท่านได้มาอยู่จำพรรษาที่วัดศิลาลอยและท่านก็ได้พัฒนาวัด ตลอดถึงเมตตาสั่งสอนศิษย์ สงเคราะห์ญาติโยมที่เข้ามาขอความเมตาจากท่านอย่างสุดความรู้ความสามารถเมื่อ ครั้งวัดพระโคะสร้างหลวงปู่ทวดเนื้อว่านปี2505 ท่านเป็นองค์ดำเนินการในด้านพิธีกรรมตลอดถึงมวลสารต่างๆ ท่านมีความเชี่ยวชาญในด้านว่านยาอย่างเอกอุ ท่านมีความพิถีพิถันในเรื่องพิธีกรรมและเคร่งครัดห้ามมิให้ผู้ที่ไม่เกี่ยว ข้องเข้ามาข้องแวะโดยเด็ดขาด หากมีความจำเป็นต้องมีผู้ร่วมประกอบพิธีกรรมท่านจะต้องให้ถือศิลปฏิบัติตน ให้บริสุทธิ์ตลอดระยะเวลาที่ประกอบพิธีกรรม ท่านทุ่มเทตั้งใจสร้างหลวงปู่ทวดเนื้อว่านปี05 วัดพะโคะอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง ด้วยมวลสารชั้นครู ประกอบพิธีกรรมตามตำราบูรพาจารย์

    [​IMG]

    พ่อท่านแสง ท่านทุ่มเทกำลังแรงกาย แรงใจ แรงองค์ความรู้ แรงครูในการสร้างสุดยอดพระหลวงปู่ทวดเนื้อผงว่านแห่งยุคอย่างสุดความสามารถ มีประสบการณ์มากมายเป็นที่ประจักษ์ชัดแด่ลุ่มน้ำสองทะเล ท่านเจริญรอยตามวัตรปฏิบัติครูบาอาจารย์องค์อุปัชฌาย์ของท่านอย่างเคร่งครัด กอปรกับท่านเป็นผู้ทรงภูมิรู้ภูมิธรรมท่านจึงเป็นที่เคารพของสงฆ์ตลอดถึงชาว บ้านย่านนั้นใครมีความเดือดเนื้อร้อนใจในเรื่องอะไรมาหาท่านทุกคนจะรับความ เมตตาอบรม สั่งสอนชี้แนะ ให้หลักธรรม หลักชัยนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต
     
  14. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    [​IMG]

    ในเรื่องการสร้างวัตถุมงคลท่านไม่เคยสร้างวัตถุมงคล เป็นรูปเคารพท่านเลย ท่านจะสร้างเพียงรูปเคารพหลวงปู่ทวด หรือไม่ก็เหรียญรูปอุปัชฌาย์อาจารย์ท่านเท่านั้นซึ่งการสร้างในแต่ละครั้ง ท่านจะดำเนินการอาราธนาอัญเชิญบอกกล่าวตามตำราที่ท่านได้ศึกษามาอย่างเคร่ง ครัดและสร้างเพื่อแจกจ่าย มอบให้ผู้ร่วมบุญในโอกาสต่างๆไม่ได้กำหนดราคาค่าทอน(บูชา)แต่อย่างไร วัตถุมงคลต่างๆที่ท่านสร้าง เสก แจกจ่ายมอบให้ศิษยานุศิษย์ไปนั้นก่อเกิดประสบการณ์มากมายเป็นที่เสาะแสวงหา มาบูชาติดตัว ติดบ้านเรือน ตลอดถึงร้านค้าร้านขายเพื่อความเป็นสิริมงคล

    [​IMG]

    ใครไปกราบสักการะนมัสการท่านที่วัด มักที่จะได้รับเมตตาจากท่านเสมอ ท่าน จะแจกหลวงปู่ทวดเนื้อว่านบ้าง เหรียญรูปเคารพอาจารย์ท่านบ้าง ทุกวันนี้ท่านยังเมตตาสงเคราะห์ญาติโยมในทุกเรื่องที่เข้าไปกราบขอเมตตาให้ ท่านช่วยหากไม่ผิดพระธรรมวินัยรับรองท่านเมตตาอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง วัดต่างๆในแถบถิ่นปักษ์ใต้เมื่อมีการสร้าง เสก วัตถุมงคลท่านมักได้รับอาราธนานิมนต์ให้มานั่งปรกปลุกเสกอยู่เสมอมิได้ขาด ซึ่งท่านก็เมตตารับไม่ว่าจะใกล้ไกลแค่ไหนหากท่านไม่ติดขัดภารกิจใดๆท่าน เมตตาเดินทางไปทุกงาน....

    [​IMG]

    ทุกวันนี้แม้จะล่วงเข้าสู่ปัจฉิมวัยท่าน ก็ยังคงปฏิบัติศาสนกิจของสงฆ์อย่างเคร่งครัดดำรงตนในเพศบรรพชิตสมดังสงฆ์สุ ปฏิปันโนเป็นที่เคารพรวมจิตใจของเหล่าผองศิษย์ใกล้ไกลในทุกครั้งที่ได้กราบ สักการะท่านจะรับรู้ได้ถึงกระแสแห่งความเมตตาที่แผ่ซ่านออกมาสัมผัสได้อย่าง สุขใจโดยแท้ ท่านได้บำเพ็ญเพียรปฏิบัติตามแนวทางขององค์พระอุปัชฌาย์ครูบาอาจารย์อย่าง เคร่งครัด กลิ่นศีล กลิ่นธรรมหอมหวนทวนลมขจรขจาย เวทย์วิทยาคมของท่านเข้มขลังเด็ดขาดยิ่งนักเป็นที่โจษจันกันไปทั่วหัวเมืองใต้
     
  15. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    [​IMG]

    มีโอกาสผ่านไปมาหาดใหญ่ สงขลา หรือแถบถิ่นย่านนั้นหาเวลาไปกราบสักการะขอพร ขอบารมี ขอหลักธรรมหลักคิดมาดำเนินชีวิตให้ดำเนินไปตามแนวทางของพุทธศาสนา ไปรับมงคลวัตถุที่ระลึกแห่งครูมาบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและบ้าน เรือน หาได้ยากแล้วสงฆ์สุปฏิปันโนที่ดำรงตนอยู่อย่างสมถะ เรียบง่าย สันโดษตามวีถีแห่งพุทธองค์ ท่ามกลางการดำเนินชีวิตของผู้คนยุคนี้ที่วุ่นวายกับการสร้าง สะสม สิ่งต่างๆในการดำเนินชีวิตจนบางครั้งหลงลืม ละเลยกับการปฏิบัติตามหลักศาสนา คนจำนวนไม่น้อยในยุคปัจจุบันที่"ลืม"มุ่งหน้าเข้าวัดเพื่อศึกษาคำสอนแห่ง องค์พระศาสดาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า การดำเนินชีวิตและก้าวเดินสะสมสิ่งของ เงินทองในทางโลกไม่ใช่สิ่งที่ผิด หากแต่การที่เราละเลยการปฏิบัติศึกษาตามแนวทางของพระพุทธองค์ต่างหากคือสิ่งที่ผิด

    [​IMG]

    ผมมีโอกาสได้รู้จักพ่อท่านแสง ท่านมานานนับ 10 กว่าปี ในทุกครั้งที่ไปหาท่านจะได้รับคำสอนต่างๆนำมาใช้ในการดำเนินชีวิตอยู่เสมอ ท่านมักเล่าเรื่องราวเก่าๆให้ฟังอย่างสุขใจ เล่าถึงความยากลำบากในสมัยก่อน ตลอดถึงเรื่องราวต่างๆในชีวิตท่านที่ผ่านมา ท่านให้ความเคารพองค์อุปัชฌาย์แก้ว พุทธมุนี อาจารย์ของท่านที่สุด ทุกวันนี้มีศิษย์ยานุศิษย์ต่างรบเร้าขอให้ท่านสร้างมงคลวัตถุรูปเคารพรูป ท่านเพื่อให้ศิษย์ได้บูชากันท่านก็ยังคงไม่อนูญาตให้สร้าง ท่านกล่าวว่าครูบาอาจารย์ท่านที่สุดแล้ว อย่าให้ท่านสร้างรูปท่านเลย
     
  16. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    [​IMG]

    [​IMG]

    ในยุคที่พระเกจิอาจารย์ขลังบ้าง ไม่ขลังบ้าง มากมายเกลื่อนแผงหนังสือในทุกวันนี้จึงเป็นเหตุปัจจัยให้เราศาสนิกชนทำบุญกันด้วยความเสี่ยง...ผมอยากให้ท่านลอง ไปวัดศิลาลอย(กระ) ต.ชุมพล อ.สทิงพระ สงขลา สักครั้งไปกราบขอพร ขอบารมีหลวงพ่อศิลาศักดิ์สิทธิ์ กราบพ่อท่านแสง อาภาธโร สิริอายุตม์ 94 พรรษา ไปทำบุญกับท่าน ไปร่วมกันทำบุญทำนุบำรุงเสนาสนะต่างๆภายในวัดซึ่งชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ช่วยกันสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยืนยาวสืบต่อไปดั่งที่บรรพบุรุษของเราท่านเสีย สละทรัพย์ สละแรงกำลัง เพื่อจรรโลงไว้ให้สิ่งเหล่านี้สืบทอดมาจวบจนถึงพวกเรา เหล่าสาธุชนที่เรียกตนเองว่าศาสนทายาทแห่งพุทธองค์.....สวัสดี จริงใจต่อกัน วานุราธ

    ในทุกตัวอักษรจากการเขียนเรื่องราวนี้หากพึงเกิดกุศลพึงมีพึงได้ ผมขอน้อมถวายแด่องค์หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด พระอุปัชฌาย์ดำ ติสสโร พระอุปัชฌาย์แก้ว พุทธมุนี ตลอดถึงครูบาอาจารย์สายวิชชาทุกพระองค์ของพระเดชพระคุณพ่อท่านแสง อาภาธโร หากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดผิดพลาดไปผมขอรับไว้แต่เพียงผู้เดียว สาธุ สาธุ สาธุ

    "หากท่านใดมีโอกาสมาท่องเที่ยว ทางใต้ เชิญแวะนะคะ"

    อ้างอิง...
    http://www.oknation.net/blog/siramwanurat/2012/02/17/entry-1]
     
  17. charoen.b

    charoen.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,726
    ค่าพลัง:
    +15,488
    [​IMG][​IMG]

    องค์นี้รุ่นเก่าหรือใหม่ครับคุณนวล
     
  18. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,820
    Code:
    
    
    อุเหม่....อาจารย์ ชอบสรรหาข้อมูลมายั่วกิเลสเสียจริงเลยนิ เอิ๊กๆๆ
     
  19. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,820
  20. charoen.b

    charoen.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,726
    ค่าพลัง:
    +15,488

แชร์หน้านี้

Loading...