พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (ตามที่ท่านอาจารย์ประถม อาจสาครเป็นผู้ที่ค้นคว้ามา) ผมเปิดให้จองแล้วครับ โดยจองเล่มละ 200 บาทและค่าจัดส่งเล่มละ 50 บาท(โดยหากค่าจัดส่งมากกว่านี้ ผมจะจ่ายให้เองครับแต่หากน้อยกว่านี้ ผมจะนำไปเป็นค่าพิมพ์หนังสือครับ) และกรุณาระบุด้วยว่า จองกี่เล่ม โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    1.ต้องเป็นผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งเท่านั้น<O:p</O:p

    2.ผมขอสงวนสิทธิ์ในการรับจองหรือไม่รับจอง ถึงแม้ว่าจะได้มาร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งแล้วก็ตาม และผมไม่แจ้งเหตุผลให้ทราบนะครับ<O:p</O:p

    3.เงินค่าจองหนังสือ ผมจะแจ้งหมายเลขบัญชีให้ทราบทาง PM อีกครั้งเมื่อผมรับจองแล้ว

    บัญชีที่จะให้โอนเงินค่าหนังสือนั้น เป็นบัญชีที่ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ผมเองไม่สามารถที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งได้เลย <O:p</O:p

    4.เงินในส่วนต่างนั้น ผมจะนำเงินในส่วนนี้นำไปพิมพ์หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผมเริ่มให้จองตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2550 ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2550 เวลา 18.00 น. ครับ


    รูปเล่มนั้น ต้องยอมรับว่าสวยงามครับ อีกทั้งมีรูปพระพิมพ์อีกพอสมควร ทางคณะผู้จัดทำ จะทำให้ดีที่สุด เพื่อเทิดพระเกียรติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ที่พระองค์ได้มีความเมตตาที่มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ และอยู่ดูแลพระศาสนาไปจนครบ 5000 ปีตามพุทธดำรัสครับ

    ผมจะนำรายชื่อทั้งหมด ลงไว้ท้ายเล่มด้วยนะครับ

    ผมเองก็ใช้หนังสือเล่มนี้เป็นครูในการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรและเป็นส่วนหนึ่งในการเสาะแสวงหาพระของหลวงปู่ และอีกเล่มก็คือหนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าครับ

    ส่วนหนังสือปู่เล่าให้ฟังที่กำลังจะตามมานั้น เป็นเรื่องราวที่ท่านอาจารย์ประถมได้เคยเขียนลงในหนังสือต่างๆ และนำมารวบรวมไว้ในเล่มเดียวกัน แต่จะมีการปรับปรุงเนื้อหาบางเรื่อง ที่ได้ความรู้ใหม่ มาเพิ่มเติมขึ้นอีก และจะแตกต่างจะหนังสือปู่เล่าให้ฟังเล่มแรกและไม่ซ้ำกับหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
    สาเหตุที่ผมจะไม่รับจองหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    1.ผมไม่ต้องการให้หนังสือเล่มนี้ไปตกอยู่กับบุคคลที่จะนำไปหาผลประโยชน์(ไม่ว่ากรณีใดๆ)
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    2.ผมป้องกันในเรื่องของที่จะมีบุคคลที่นำข้อมูลไปทำพระปลอม เนื่องจากมีรูปสีค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าหากว่ามีการหลุดไปจริงๆ ผมถือว่าผมได้ทำหน้าที่นี้อย่างดีที่สุดแล้ว<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    3.คณะผู้จัดทำทุกๆท่าน ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และแรงเงิน ที่จะทำเพื่อเทิดพระเกียรติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    4.ผมเองตามหาเรื่องหลวงปู่มาเป็นระยะเวลา 10 ปี ถึงได้เจอ ได้พบเรื่องราวของหลวงปู่และพระพิมพ์ของท่าน ผมมีความพยายามตามหามาตลอดเวลา และที่สำคัญเมื่อผมได้พบนั้น ผมได้พบหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1 พระองค์(หลวงปู่ท่านอยู่ในห้าองค์ แต่ผมไม่บอกว่าผมได้พบองค์ไหนครับ) และหลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ด้วยตาเนื้อของผมเอง <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    5.มีวาสนาบารมีก็จะได้มีไว้ จะช้าหรือเร็วนั้นอีกเรื่องนึง แต่ถ้าไม่มีวาสนาบารมีทำอย่างไรก็จะไม่มีโอกาสมีไว้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หมายเหตุ บุคคลใดๆก็ตามทำอะไรไว้ จะได้รับผลที่ตนเองได้ทำไว้เสมอ <O:p</O:p
    <!-- / message --><!-- sig -->

    ************************************************
    ฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿

    รายละเอียดพระพิมพ์และวัตถุมงคล ที่มอบให้กับผู้ร่วมทำบุญในกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ ( http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=68899 ) จะอยู่ในหน้าแรกของกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

    ส่วนยอดคงเหลือ ผมจะแจ้งให้ทราบในกระทู้เป็นระยะครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ผมมาคุยให้ฟัง เรื่องของหนังสือ ปู่เล่าให้ฟัง เล่ม 2
    ผมเดาว่า ท่านอาจารย์ประถม ท่านน่าจะนำเรื่องนี้มามาลงในหนังสือเล่มนี้ด้วย แต่ยังไม่รู้ว่า ผมเดาถูกหรือผิด แต่จะมาลงเป็นตัวอย่างสักเล็กน้อยครับ


    กรรมวิธีการเก็บตัวยาใบไม้รู้นอน ๗ สิ่ง

    เล่าโดย ปรัศนี ประชากร
    (ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร)<O:p</O:p


    .....................ผู้เขียนเองศึกษาวิชาอิธะเจแฝดหรือปถมังอิธะเจลบต่อจากอิธะเจขาดตัว ............... เรียกว่าผงอ่อนใจรัก สร้างพระปิดตาบินเดี่ยวคุณภาพสูงเยี่ยมเท่าหลวงพ่อแก้ว วัดเคลือวัลย์ สมัยโบราณ พญามารได้กลั่นแกล้งจนล้มป่วยอาการขั้นปางตายมาแล้ว บังเกิดความเบื่อหน่ายแบ่งปันผงให้หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้งไปบ้าง ที่เหลือถวายเจ้าคุณวรพรต ปัญญาจารย์ วัดป่าอรัญญิกาวาส และท่านเจ้าคุณได้ถวายล้นเกล้ารัชกาลองค์ปัจจุบันนำไปสร้างพระสมเด็จจิตรลดาหมดไปแล้ว...................................
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผมมีคำถามมาถามทุกท่านที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งกันอีกแล้วครับ
    <O:p</O:p
    เริ่มตอบปัญหาได้ตั้งแต่บัดนี้( 22 มิถุนายน 2550) จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2550 เวลา 18.00 น.(เวลาในเว็บพลังจิต)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    โดยผมมีลูกอม(เป็นชานหมากพระอาจารย์รูปหนึ่ง ผสมกับผงต่างๆ เช่นผงอ่อนใจรักที่ท่านอาจารย์ประถม ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรัชกาลที่ 9 ,ผงหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ และผงอื่นๆอีกหลายๆอย่าง) เป็นรางวัลที่ 1 ส่วนรางวัลที่ 2 – 5 เป็นพระพิมพ์อรหังพิมพ์เล็ก จำนวน 4 รางวัล การให้คะแนน จะมีตั้งแต่ 1 – 10 โดย 10 คะแนนจะเป็นคะแนนสูงสุด , 1 จะเป็นคะแนนที่น้อยที่สุด ถ้าหากมีผู้ที่ตอบเกินกว่า 5 ท่าน ผู้ที่ได้คะแนนตั้งแต่ลำดับที่ 6 จนถึงลำดับที่ 10 ผมมีพระพิมพ์ที่เป็นพระปิดตา(ทรงชลูด) มอบให้ ถ้ามีผู้ที่ตอบคำถามมากกว่านี้คือตั้งแต่ลำดับที่ 11 เป็นต้นไป ผมมอบสมเด็จหลังเบี้ยให้ และทุกๆท่านที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งสามารถตอบได้ครับ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ส่วนรูปลูกอม และพระพิมพ์ที่ผมมอบให้นั้น ผมจะไม่ลงให้เห็น แต่จะให้รอลุ้นตอนรับนะครับ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    คำถามมีดังนี้<O:p</O:p
    1.คุณมีความคิดเห็น หรือความรู้สึกอย่างไร กับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร(ในกระทู้นี้)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    2.หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร(ในกระทู้นี้) หลวงปู่ท่านสอนอะไร<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    3.ตามเรื่องราวของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร(ในกระทู้นี้) คุณสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หรือไม่ ถ้าได้ ได้ในด้านใดบ้างและนำไปใช้ประโยชน์อย่างไร<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    4.คุณมีความคิดเห็นอย่างไร กับพระองค์ท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญที่พระองค์ท่านได้สร้างพระพิมพ์ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    5.คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับกระทู้นี้ (ตอบได้เต็มที่ทั้งด้านลบและด้านบวก ผมจะได้นำมาปรับปรุงตนเองด้วยครับ)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผมขอคำตอบไม่น้อยกว่า 5 บรรทัดครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผมขอให้คุณพันวฤทธิ์ และคุณเพชร เป็นคณะกรรมการการตัดสิน แต่หากว่าคะแนนเท่ากัน ผมขอให้คุณพันวฤทธิ์และคุณเพชร ตัดสินอีกครั้งครับ คำตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สุด ส่วนการให้คะแนนนั้น หากท่านใดตอบแล้ว ผมขอความกรุณาคณะกรรมการให้คะแนนได้เลย หรือว่าจะรวบรวมให้คะแนนครั้งเดียวก็ได้ และผมขอบพระคุณคณะกรรมการทั้งสองท่านด้วยครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    สามารถไปตอบในกระทู้ ร่วมสนุกตอบปัญหา มอบลูกอม ,สมเด็จอรหังพิมพ์เล็ก และอื่นๆ (http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=82524 ) หรือตอบในกระทู้ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้ .... ( http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=22445&page=568 ) กระทู้ใดกระทู้หนึ่งก็ได้ครับ


    มาแนะข้อมูลกันนิดนึงสำหรับประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร จะอยู่หน้าแรกในกระทุ้นี้ครับ


    ขอให้ทุกๆท่านโชคดี โมทนาสาธุครับ<O:p</O:p
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  3. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    40 ปี ลาเมื่อก่อนไก่
    50 ปี ไปนากลับมาทอดหุ่ย

    อยู่ระหว่างตรงนี้ละเรา...แต่ยังรู้สึกเหมือนตรงนี้ครับ "30 ปี เสือสู้ทุกท่า"เพราะใช้ผลิตภัณฑ์ Anti-Aging ครับ
     
  4. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    พยายามมากเลยครับ กว่าจะโพส๖เข้าได้ เป็นชั่วโมง
     
  5. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    ขอบคุณพี่พันวฤทธิ์มากครับ ทำให้มีกำลังใจเป็นกอง ตั้งแต่ผมเข้ามาพบกระทู้นี้(ยังนึกไม่ออกเลยว่ามาพบได้อย่างไร) ก็เข้ามาอ่านทุกวันทั้งวันทั้งคืนเมื่อมีเวลา จะพยายามอ่านทุกหน้านะครับ (500กว่า)ถ้าวันไหนอยู่ดึกก็อ่านได้มากหน่อยแต่ถ้ากลางวันไม่ค่อยวิ่งเลย ก็ตอบไปตามที่เข้าจิตครับ ที่สำคัญผมรู้สึกว่าโชคดีครับที่ได้พบและรู้จักพี่ๆและเพื่อนๆในเว็บนี้แม้ยังไม่เจอตัวแต่เหมือนได้ร่วมทางบุญครับ
    ขอบคุณพี่มากครับ
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มาขอเก็บรูปเอนิเมชั่นครับ

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=257 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=257> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>มาขอเก็บภาพเอนิเมชั่นครับ
    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.matichon.co.th/khaosod/k...g=03eco30230650&day=2007/06/23&sectionid=0305
    [​IMG]

    วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6050​

    ปลอมบัตรเครดิต


    คอลัมน์ เศรษฐกิจปราศรัย

    โดย ถุงแดง



    ผู้ที่ใช้บัตรเครดิตในช่วงนี้ต้องระมัดระวังให้มาก เพราะขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพออกปลอมแปลงบัตรเครดิตของประชาชนตามร้านค้า สถานที่ต่างๆ รวมถึงสถานีบริการน้ำมัน

    ซึ่งมีหลายรูปแบบ อาทิ อ้างว่าเป็นพนักงานจากธนาคารหลอกลวงให้พนักงานบริการนำเครื่องคัดลอกข้อมูลบัตรช่วยเก็บข้อมูลลูกค้า

    หรืออาจกระทำโดยการจ้างพนักงานบริการ โดยเฉพาะเด็กปั๊มให้คัดลอกข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้าแล้วนำข้อมูลดังกล่าวไปปลอมแปลงบัตรเครดิต จากนั้นนำบัตรเครดิตที่ปลอมแปลงแล้วไปรูดซื้อของหรือใช้จ่ายอย่างสนุกมือ

    ทำให้ผู้ถือบัตรเป็นหนี้โดยไม่รู้ตัว

    นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ออกมาระบุว่าปตท. ได้รับแจ้งข้อมูลจากผู้บริโภค และธนาคารพาณิชย์ ในเรื่องดังกล่าวแล้ว และยืนยันว่าปตท. มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

    อีกทั้งยังได้เพิ่มมาตรการป้องกันการกระทำของกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวให้เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยส่งหนังสือแจ้งเตือนไปยังผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ทุกแห่งทั่วประเทศให้ระมัดระวัง รวมทั้งอบรมและกำชับพนักงานบริการฯ ที่ให้บริการทุกจุดมิให้หลงเชื่อกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ

    อย่างไรก็ตาม หากผู้บริโภคให้ช่วยเป็นหูเป็นตา และดูแลการรูดบัตรชำระค่าผลิตภัณฑ์และบริการอย่างใกล้ชิด เช่น ควรจะรูดบัตรในร้านค้าหรือสถานที่ต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ หรือควรมองเห็นเครื่องรูดบัตรไม่ใช่อยู่ในที่ลับตาเกินไป

    จะช่วยป้องกันก่อนที่ความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.komchadluek.net/
    [​IMG] [​IMG]





    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ขายเบอร์ ละเมิดสิทธิ</TD></TR><TR><TD vAlign=top>21 มิถุนายน 2550 21:33 น.</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] ช่วงนี้มีพนักงานขายประกันในเครือของธนาคารกรุงไทยโทรศัพท์มาหาผมบ่อยมาก จนประสาทเสีย เห็นเบอร์โทรที่ไม่รู้จัก ถึงกับผวา ไม่อยากรับ

    ตัวแทนขายประกันจะได้ข้อมูลมาจากบัตรเครดิตของธนาคารเขาจะพูดจาอ่อนหวานมากในช่วงแรกที่พยายามชักจูงให้ทำประกัน โดยบอกว่า เป็นการออมเงินในรูปแบบมีผลคุ้มครองชีวิต แต่หลังจากให้คำตอบว่าไม่ทำ หรือช่วยส่งเอกสารมาเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อพิจารณาก่อน พนักงานก็จะแสดงกิริยาวาจาไม่พอใจ บางครั้งจะถูกกระแทกหูใส่
    ผมไม่เข้าใจว่าธนาคารให้ข้อมูลของลูกค้าไปทำธุรกิจต่อแบบนี้ได้ด้วยหรือไม่มีกฎหมายคุ้มครองหรืออย่างไร และการทำธุรกรรมทางโทรศัพท์ มีผลในทางกฎหมายหรือไม่ บริษัทประกันฯ น่าจะคิดหาวิธีอื่นที่จะหาลูกค้า โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้ลูกค้าของธนาคาร
    ถ้าผมทนไม่ไหวผมจะต้องยกเลิกบัตรเครดิตของธนาคารนี้อย่างแน่นอน แบบนี้ "ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล" ของผมหรือเปล่า
    นิพิท
    ------------
    ผมเป็นพนักงานบริษัทอยู่ในตึก4 ฤดูถนนวิทยุ มีโทรเข้ามือถือ โชว์เบอร์ว่า "private Number" ผมถามว่าได้เบอร์จากใคร ได้รับคำตอบจากเสียงผู้หญิงบอกว่า ได้จากบัตรเครดิตในฐานะผู้ถือบัตรเครดิต
    ผมจึงบอกไปว่า"คุณมาเสนอบริการโดยแสดงตนอย่างนี้เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลนะ" และไม่มีใครเชื่อคุณหรอกเพราะแค่เบอร์โทรเข้า คุณก็แสดงความไม่บริสุทธิ์ใจแล้ว ถ้าอยากติดต่อก็ให้ไปหมุนเข้ามาใหม่ โดยแสดงเบอร์ให้เห็น บอกเลขที่บัตรประจำตัวประชาชนมาด้วย จะได้นำไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจ เพื่อให้ตำรวจตรวจสอบเบอร์นี้ได้
    ปรากฏว่าไม่ติดต่อเข้ามาเลย
    สมชาย
    ตอบ
    นอกจากจะไม่โชว์เบอร์หรือโชว์เป็น "เบอร์ส่วนตัว" หรือ"private Number" ยังมีโชว์เป็นเบอร์1234 ด้วย
    ฝ่ายสื่อสารองค์กรและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี ชี้แจงว่า ท้ายใบสมัครบัตรเครดิตเคทีซีจะมีข้อความในข้อตกลงและหนังสือให้ความยินยอมระบุว่า
    "ผู้สมัครยินยอมให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลที่ผู้สมัครให้ไว้กับบริษัท เพื่อการสมัครเป็นสมาชิกบัตรเครดิต หรือการขอสินเชื่อ หรือเครดิตอื่นใด...ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของบริษัท ในการพิจารณาอนุมัติบัตร หรือการให้สินเชื่ออื่นใดแก่ผู้สมัคร รวมทั้งประโยชน์ในด้านอื่นๆ ของบริษัทได้ทุกประการ...โดยผู้สมัครยินยอมผูกพันและปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนไขต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในข้อตกลงดังกล่า..."
    และลงลายมือชื่อผู้สมัครท้ายใบสมัคร...เท่ากับเป็นการยินยอมโดยสมัครใจบริษัทมีสิทธิที่จะนำข้อมูลของลูกค้าไปเผยแพร่ได้ตามข้อตกลงและถูกต้องตามกฎหมายไม่ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิบุคคลของลูกค้า
    ส่วนเรื่องการขายประกันทางโทรศัพท์นั้นเคทีซี ชี้แจงว่า ได้รับการอนุญาตจากกรมการประกันภัย แต่ทุกครั้งที่มีการสนใจและเริ่มการขาย พนักงานขายจะต้องบันทึกเทปการสนทนาเพื่อเป็นหลักฐานยืนยัน หากลูกค้าไม่ได้รับความพึงพอใจในการสนทนาในครั้งนั้นๆ ให้ร้องเรียนไปยังบริษัทที่พนักงานคนนั้นสังกัดอยู่ เพราะจะต้องมีการบอกชื่อผู้ขายทุกครั้ง และลูกค้ามีสิทธิที่จะสอบถามชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อกลับได้ ซึ่งจะมีการว่ากล่าวตักเตือนเป็นกรณีไป โดยการเปิดเทปสนทนาครั้งนั้นๆ ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง
    ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งดูและธนาคารพาณิชย์ชี้แจ้งว่า ให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนมีสิทธิสอบถามพนักงานที่โทรเข้ามาเชิญชวนว่า ได้ชื่อและหมายเลขโทรศัพท์มาจากที่ไหน ด้วยวิธีใด และสอบถามชื่อพนักงาน บริษัทที่เขาสังกัด ขอหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อกลับ แล้วกลับไปดูใบสมัครของตัวเองว่า ในสัญญาต่อท้ายใบสมัครของสถาบันการเงิน หรือบริษัทที่แจกข้อมูลไปนั้นมีข้อความระบุไว้ในสัญญาว่า "ยินยอมให้ข้อมูล" หรือไม่
    ถ้ามี...คุณนั้นแหละเป็นผู้อนุญาตให้เขาเผยแพร่ข้อมูล
    ตอนที่ทำสัญญาทำบัตรเครดิตหรือทำสินเชื่อส่วนบุคคล สัญญาต่อท้ายใบสมัครที่มักจะเป็นตัวหนังสือเล็กๆ จนแทบอ่านไม่ออก ส่วนใหญ่จะมีข้อความอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลของผู้สมัคร "แอบซ่อน" อยู่เสมอ แต่ในส่วน พ.ร.บ.ธนาคารพาณิชย์ ไม่มีระบุไว้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
    ศูนย์ปรึกษากฎหมายชุมชนมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต บอกว่าในทางกฎหมายแพ่ง ถ้ามีการนำข้อมูลของผู้ถือบัตรเครดิตไปเปิดเผยต่อผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลก่อน ถือว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคล สามารถเอาผิดทางกฎหมายได้ แต่ส่วนใหญ่ผู้สมัครมักจะเซ็นชื่อยินยอมในใบสมัคร โดยไม่ได้อ่านข้อมูลให้ละเอียดรอบคอบก่อน
    นอกจากนี้ธนาคารแห่งชาติบอกด้วยว่า นอกจากการโทรศัพท์เชิญชวนแล้ว ยังมีการส่งอีเมลแปลกๆ เข้าไปรบกวนตามอีเมลของลูกค้า ซึ่งดูผิวเผินเหมือนอีเมล หรือเวบไซต์ของธนาคาร หากผู้ได้รับอีเมลหลงเชื่อ กรอกข้อมูลเข้าไป ก็เท่ากับว่ายินยอมให้ข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจไปแล้ว แต่ถ้าไม่แน่ใจว่าอีเมลที่ได้รับเป็นของธนาคารจริงหรือไม่ แนะนำให้โทรศัพท์ไปสอบถามธนาคารนั้นๆ ก่อน เพื่อความแน่ใจ
    อ่านให้ละเอียดก่อนเซ็นชื่อ
    ลุงแจ่ม
    -->
    ช่วงนี้มีพนักงานขายประกันในเครือของธนาคารกรุงไทยโทรศัพท์มาหาผมบ่อยมาก จนประสาทเสีย เห็นเบอร์โทรที่ไม่รู้จัก ถึงกับผวา ไม่อยากรับ

    ตัวแทนขายประกันจะได้ข้อมูลมาจากบัตรเครดิตของธนาคารเขาจะพูดจาอ่อนหวานมากในช่วงแรกที่พยายามชักจูงให้ทำประกัน โดยบอกว่า เป็นการออมเงินในรูปแบบมีผลคุ้มครองชีวิต แต่หลังจากให้คำตอบว่าไม่ทำ หรือช่วยส่งเอกสารมาเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อพิจารณาก่อน พนักงานก็จะแสดงกิริยาวาจาไม่พอใจ บางครั้งจะถูกกระแทกหูใส่
    ผมไม่เข้าใจว่าธนาคารให้ข้อมูลของลูกค้าไปทำธุรกิจต่อแบบนี้ได้ด้วยหรือไม่มีกฎหมายคุ้มครองหรืออย่างไร และการทำธุรกรรมทางโทรศัพท์ มีผลในทางกฎหมายหรือไม่ บริษัทประกันฯ น่าจะคิดหาวิธีอื่นที่จะหาลูกค้า โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้ลูกค้าของธนาคาร
    ถ้าผมทนไม่ไหวผมจะต้องยกเลิกบัตรเครดิตของธนาคารนี้อย่างแน่นอน แบบนี้ "ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล" ของผมหรือเปล่า
    นิพิท
    ------------
    ผมเป็นพนักงานบริษัทอยู่ในตึก4 ฤดูถนนวิทยุ มีโทรเข้ามือถือ โชว์เบอร์ว่า "private Number" ผมถามว่าได้เบอร์จากใคร ได้รับคำตอบจากเสียงผู้หญิงบอกว่า ได้จากบัตรเครดิตในฐานะผู้ถือบัตรเครดิต
    ผมจึงบอกไปว่า"คุณมาเสนอบริการโดยแสดงตนอย่างนี้เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลนะ" และไม่มีใครเชื่อคุณหรอกเพราะแค่เบอร์โทรเข้า คุณก็แสดงความไม่บริสุทธิ์ใจแล้ว ถ้าอยากติดต่อก็ให้ไปหมุนเข้ามาใหม่ โดยแสดงเบอร์ให้เห็น บอกเลขที่บัตรประจำตัวประชาชนมาด้วย จะได้นำไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจ เพื่อให้ตำรวจตรวจสอบเบอร์นี้ได้
    ปรากฏว่าไม่ติดต่อเข้ามาเลย
    สมชาย
    ตอบ
    นอกจากจะไม่โชว์เบอร์หรือโชว์เป็น "เบอร์ส่วนตัว" หรือ"private Number" ยังมีโชว์เป็นเบอร์1234 ด้วย

    ฝ่ายสื่อสารองค์กรและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี ชี้แจงว่า ท้ายใบสมัครบัตรเครดิตเคทีซีจะมีข้อความในข้อตกลงและหนังสือให้ความยินยอมระบุว่า"ผู้สมัครยินยอมให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลที่ผู้สมัครให้ไว้กับบริษัท เพื่อการสมัครเป็นสมาชิกบัตรเครดิต หรือการขอสินเชื่อ หรือเครดิตอื่นใด...ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของบริษัท ในการพิจารณาอนุมัติบัตร หรือการให้สินเชื่ออื่นใดแก่ผู้สมัคร รวมทั้งประโยชน์ในด้านอื่นๆ ของบริษัทได้ทุกประการ...โดยผู้สมัครยินยอมผูกพันและปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนไขต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในข้อตกลงดังกล่า..."

    และลงลายมือชื่อผู้สมัครท้ายใบสมัคร...เท่ากับเป็นการยินยอมโดยสมัครใจบริษัทมีสิทธิที่จะนำข้อมูลของลูกค้าไปเผยแพร่ได้ตามข้อตกลงและถูกต้องตามกฎหมายไม่ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิบุคคลของลูกค้าส่วนเรื่องการขายประกันทางโทรศัพท์นั้นเคทีซี ชี้แจงว่า ได้รับการอนุญาตจากกรมการประกันภัย แต่ทุกครั้งที่มีการสนใจและเริ่มการขาย พนักงานขายจะต้องบันทึกเทปการสนทนาเพื่อเป็นหลักฐานยืนยัน หากลูกค้าไม่ได้รับความพึงพอใจในการสนทนาในครั้งนั้นๆ ให้ร้องเรียนไปยังบริษัทที่พนักงานคนนั้นสังกัดอยู่ เพราะจะต้องมีการบอกชื่อผู้ขายทุกครั้ง และลูกค้ามีสิทธิที่จะสอบถามชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อกลับได้ ซึ่งจะมีการว่ากล่าวตักเตือนเป็นกรณีไป โดยการเปิดเทปสนทนาครั้งนั้นๆ ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง
    ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งดูและธนาคารพาณิชย์ชี้แจ้งว่า ให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนมีสิทธิสอบถามพนักงานที่โทรเข้ามาเชิญชวนว่า ได้ชื่อและหมายเลขโทรศัพท์มาจากที่ไหน ด้วยวิธีใด และสอบถามชื่อพนักงาน บริษัทที่เขาสังกัด ขอหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อกลับ แล้วกลับไปดูใบสมัครของตัวเองว่า ในสัญญาต่อท้ายใบสมัครของสถาบันการเงิน หรือบริษัทที่แจกข้อมูลไปนั้นมีข้อความระบุไว้ในสัญญาว่า "ยินยอมให้ข้อมูล" หรือไม่
    ถ้ามี...คุณนั้นแหละเป็นผู้อนุญาตให้เขาเผยแพร่ข้อมูล
    ตอนที่ทำสัญญาทำบัตรเครดิตหรือทำสินเชื่อส่วนบุคคล สัญญาต่อท้ายใบสมัครที่มักจะเป็นตัวหนังสือเล็กๆ จนแทบอ่านไม่ออก ส่วนใหญ่จะมีข้อความอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลของผู้สมัคร "แอบซ่อน" อยู่เสมอ แต่ในส่วน พ.ร.บ.ธนาคารพาณิชย์ ไม่มีระบุไว้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
    ศูนย์ปรึกษากฎหมายชุมชนมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต บอกว่าในทางกฎหมายแพ่ง ถ้ามีการนำข้อมูลของผู้ถือบัตรเครดิตไปเปิดเผยต่อผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลก่อน ถือว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคล สามารถเอาผิดทางกฎหมายได้ แต่ส่วนใหญ่ผู้สมัครมักจะเซ็นชื่อยินยอมในใบสมัคร โดยไม่ได้อ่านข้อมูลให้ละเอียดรอบคอบก่อน
    นอกจากนี้ธนาคารแห่งชาติบอกด้วยว่า นอกจากการโทรศัพท์เชิญชวนแล้ว ยังมีการส่งอีเมลแปลกๆ เข้าไปรบกวนตามอีเมลของลูกค้า ซึ่งดูผิวเผินเหมือนอีเมล หรือเวบไซต์ของธนาคาร หากผู้ได้รับอีเมลหลงเชื่อ กรอกข้อมูลเข้าไป ก็เท่ากับว่ายินยอมให้ข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจไปแล้ว แต่ถ้าไม่แน่ใจว่าอีเมลที่ได้รับเป็นของธนาคารจริงหรือไม่ แนะนำให้โทรศัพท์ไปสอบถามธนาคารนั้นๆ ก่อน เพื่อความแน่ใจ
    อ่านให้ละเอียดก่อนเซ็นชื่อ
    ลุงแจ่ม

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2007
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.matichon.co.th/khaosod/k...g=03bud09230650&day=2007/06/23&sectionid=0307


    วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6050​

    ทางเลือก


    คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด



    การอยู่ร่วมกับคนพาลทั้งหลาย นำทุกข์มาให้ในกาลทุกเมื่อ เหมือนการอยู่ร่วมกันกับศัตรู ส่วนการอยู่ร่วมกับคนมีปัญญา นำความสุขมาให้ เหมือนสมาคมแห่งญาติผู้เป็นที่รัก

    บุคคลผู้เกิดมาในโลกนี้ ไม่ว่ายากดีมีจน จะอยู่โดยลำพังผู้เดียวไม่ได้ ต้องมีการคบหาสมาคมอยู่ร่วมกับผู้อื่น คนที่จะคบหาสมาคมกันนั้นมีความแตกต่างกัน เป็นคนชั่วก็มี เป็นคนดีก็มี การคบหาสมาคมนั้นจึงมีผลแตกต่างกัน ถ้าคบหาสมาคมกับคนชั่ว ผลคือได้รับความทุกข์ ถ้าคบคนดี ผลคือได้รับสุข ชีวิตจะมีความทุกข์ความสุข เพราะทางเลือกนี้เอง

    คนพาล หมายถึง คนที่ดำรงชีพอยู่ด้วยอาการเพียงหายใจเข้า หายใจออกเท่านั้น ไม่ดำรงชีพอยู่ด้วยปัญญา โดยลักษณะของคนชั่ว คิดแต่ความคิดชั่ว พูดแต่คำพูดชั่ว ทำแต่กรรมชั่ว คนพาลนั้นมีความประพฤติเพื่อตัดประโยชน์ทั้งประโยชน์ในปัจจุบันและอนาคต

    บัณฑิต คือคนดี มีความประพฤติดีปฏิบัติชอบเป็นสัญลักษณ์ มีเหตุผล ความประพฤติของบัณฑิตนั้นไม่วิปริตแปรผัน บัณฑิตทั้งหลายเมื่อประสบความสุขหรือทุกข์แล้ว ย่อมไม่แสดงอาการหวั่นไหวขึ้นๆ ลงๆ บัณฑิตคือคนดีนั้น มักคิดดี พูดดีและทำดีเป็นเครื่องหมาย

    คนพาลและบัณฑิตมีอิทธิพลต่อบุคคลผู้สมาคม ซึมซับกลายเป็นคนมีนิสัยเหมือนคนพาลเพราะคนพาลนั้น ย่อมแนะนำให้ยินดีในทางทุจริตผิดศีลธรรม ส่วนคนผู้คบหาบัณฑิตคนดีด้วยการเข้าไปมอบตนเป็นศิษย์ ยอมรับโอวาทคำสอน ไต่ถามสิ่งที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์มักจะซึมซับกลายเป็นคนดีเช่นกัน เพราะคนดี มักจะแนะนำชักชวนในทางที่สุจริตถูกต้องตามทำนองคลองธรรม

    ผู้ที่คบหาสมาคมกับคนพาลตลอดกาลยาวนาน มักคุ้มครองรักษาตนไม่ได้ มีแต่จะทำตนและผู้ทำตามคำของเขาให้พินาศฉิบหาย ด้วยเหตุที่ตนถือเอาแบบอย่างที่ไม่ดี ส่วนผู้ที่คบหาสมาคมกับคนดี อยู่ร่วมกับคนดีแม้เพียงครั้งเดียว ย่อมคุ้มครองรักษาตนไว้ได้ ทั้งเป็นเหตุให้ถึงความเจริญมากมาย ด้วยเหตุที่ตนถือเอาแบบอย่างที่ดี พระพุทธองค์ตรัสว่าคบคนใดๆ เป็นคนดีหรือไม่ดีก็ตาม มีศีลหรือไร้ศีลก็ตาม เขาย่อมตกอยู่ในอำนาจของคนนั้นๆ จะคบคนเช่นใด จะเป็นมิตรสนิทสนมกับคนเช่นใด เขาย่อมเป็นคนเช่นนั้น เพราะการอยู่ร่วมกันทำให้เป็นเช่นนั้น

    ผู้หวังความสุขความเจริญรุ่งเรือง และต้องการพ้นจากภัยพิบัติต่างๆ อย่าได้คบหาสมาคมอยู่ร่วมกับคนพาล พึงหลีกเลี่ยงให้ห่างไกล แต่ควรจะคบหาสมาคมกับบัณฑิตให้ชิดใกล้ จะมีความปลอดภัยไร้ทุกข์

    มีแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ‘กลับสู่การดูแลสุขภาพพื้นฐาน-โรคความดันโลหิตสูง’
    http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=41291&NewsType=2&Template=1

    <TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>ความดันโลหิตสูง เป็นภาวะที่มีระดับความดันโลหิตซิสโตลิก (เลขตัวบน) ที่มากกว่าหรือเท่ากับ 140 มิลลิเมตรปรอท และ/หรือ ระดับความดันโลหิตไดแอสโตลิก (เลขตัวล่าง) ที่มากกว่าหรือเท่ากับ 90 มิลลิเมตรปรอท หรือเป็นผู้ที่รับประทานยาควบคุมความดันโลหิตสูง หรือเป็นผู้ที่ได้รับการบอกกล่าวจากแพทย์ผู้รักษาหรือทีมสุขภาพอย่างน้อย 2 ครั้งว่ามีภาวะความดันโลหิตสูง (American Heart Association, 2006)

    ความรู้จาก งานการพยาบาลอายุรศาสตร์ ภาควิชาพยาบาลศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เผยแพร่ออกเมื่อต้นปี 2550 นี้ได้แบ่งกลุ่มของระดับความดันโลหิตดังนี้

    HH กลุ่มนี้จะมีความเสี่ยงเป็น 2 เท่าต่อการเป็นความดันโลหิตสูงเมื่อเทียบกับกลุ่มที่มีความดันโลหิตในระดับปกติ

    ความดันโลหิตสูงบ่อยครั้งจะไม่แสดงอาการ ที่ชัดเจนให้เห็น ท่านจะทราบว่าตัวท่านเป็นความดันโลหิตสูงหรือไม่ ท่านต้องวัดระดับของความดันโลหิตของท่านเท่านั้น ความดันโลหิตสูงเป็นภาวะการเกิดที่ไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอนแต่อาจมีปัจจัยร่วมต่าง ๆ ซึ่งส่งเสริมให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง ดังนี้คือ

    1. ปัจจัยทางพันธุกรรม หรือมีประวัติของบุคคลในครอบครัวซึ่งเป็นความดันโลหิตสูง

    2. ภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน, การรับประทานอาหารที่มีรสเค็มหรือมันในปริมาณมาก

    3. การสูบบุหรี่, การดื่มสุราหรือแอลกอฮอล์

    4. อายุ, เพศ, ภาวะเครียด

    ข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นความดันโลหิตสูง

    1. ถึงแม้ว่าท่านจะไม่เป็นความดันโลหิตสูง ท่านก็ควรไปรับการตรวจระดับความดันโลหิตที่โรงพยาบาล คลินิกใกล้บ้าน หรือสถานีอนามัยอย่างน้อยทุก ๆ 2 ปี หรือมีการตรวจสุขภาพประจำปี

    2. ควรเฝ้าระวังภาวะน้ำหนักเกิน โดยการชั่งน้ำหนัก และจดบันทึกน้ำหนักของตัวท่าน

    3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาทีของแต่ละวันเป็นส่วนใหญ่ใน 1 สัปดาห์ โดยเริ่มจากการออกกำลังกายทีละน้อย จนท่านสามารถปรับตัวของท่านได้

    4. เลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง และอาหารที่มีรสเค็มในประมาณมาก
    5. ควรงดหรือเลี่ยงการสูบบุหรี่ การดื่มสุราหรือแอลกอฮอล์

    6. ทำจิตใจให้ผ่องใส สดชื่น

    ข้อควรปฏิบัติหากท่านเสี่ยงต่อการเป็นความดันโลหิตสูง

    การปฏิบัติตัวของท่านเหมือนกับผู้ที่ไม่ได้เป็นความดันโลหิตสูง แต่ท่านควรไปรับการตรวจระดับความดันโลหิตที่โรงพยาบาล คลินิกใกล้บ้าน หรือสถานีอนามัยทุกปี หากเป็นไปได้

    ข้อควรปฏิบัติเมื่อท่านทราบว่าท่านเป็นความดันโลหิตสูง

    10 วิธีการที่สามารถควบคุมระดับความดันโลหิตสูงของท่าน เมื่อท่านได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นความดันโลหิตสูง ควรปฏิบัติตนดังนี้

    1. ท่านควรทราบระดับความดันโลหิตของท่านโดยการตรวจวัด

    2. ท่านควรทราบน้ำหนักของตัวท่าน

    3. ท่านไม่ควรใช้เกลือหรือโซเดียมมากเกินไป และควรเลี่ยงการรับประทานอาหารเค็ม

    4. ท่านควรเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง ตัวอย่างสำหรับอาหารที่มีไขมันสูง สำหรับคนไทย เช่น ข้าวขาหมู อาหารที่มีส่วนผสมของกะทิ เป็นต้น

    5. งดหรือจำกัดการดื่มเหล้าหรือแอลกอ ฮอล์

    6. รับประทานยาควบคุมความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญต้องไม่ลืมรับประทานยา และท่านควรทราบชื่อยาที่รับประทาน ขนาดของยาที่รับประทาน จำนวนยาที่รับประทาน และเวลาที่รับประทานยา

    7. ไปรับการตรวจตามแพทย์นัดอย่างสม่ำเสมอ

    8. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

    9. ควรนำบุคคลในครอบครัวไปตรวจวัดระดับความดันโลหิตหากเป็นไปได้

    10. ท่านสามารถใช้ชีวิตอย่างปกติในทุก ๆ วันอย่างมีความสุข

    คำแนะนำสำหรับการปรับเปลี่ยนพฤติ กรรมการรับประทานอาหาร เพื่อควบคุมระดับความดันโลหิตสูง (National Heart Lung & Blood Institute, 2003)

    1. โดยทั่วไปเราควรได้รับพลังงานจากอาหารประมาณ 2,000 แคลอรี่ต่อวัน แต่ขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะบุคคล

    2. ในส่วนผสมอาหารให้ใช้ส่วนผสมของอาหารที่มีไขมันต่ำสำหรับการประกอบอาหาร

    3. หากท่านเคยรับประทานผักเพียงวันละ 1 มื้อก็ให้เพิ่มปริมาณผักที่รับประทานในมื้ออื่น ๆ

    4. ถ้าปกติไม่ได้รับประทานผลไม้ในมื้ออาหารก็ให้เพิ่มผลไม้ในมื้ออาหาร หรือรับประทานเป็นอาหารว่าง

    5. รับประทานผลไม้รสไม่หวานจัดแทนขนมหวาน

    6. ถ้าท่านเป็นผู้ที่ดื่มสุราหรือแอลกอฮอล์ หรือชาหวานในมื้ออาหาร ก็ให้ดื่มนมที่มีไขมันต่ำ หรือดื่มน้ำสะอาดแทน

    7. ซื้ออาหารประเภทเนื้อสัตว์ให้น้อยลง หรือรับประทานเนื้อสัตว์ให้เป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหารแทนการรับประทานเนื้อสัตว์ที่เคยเป็นอาหารหลัก โดยลดสัดส่วนของเนื้ออาหารให้เหลือเพียง 1/2 หรือ 1/3 ของมื้ออาหารนั้น ๆ

    8. อาจรวมอาหารประเภทผักในมื้ออาหารแทนเนื้อสัตว์ 2 ถึง 3 มื้อ ในแต่ละสัปดาห์

    9. อาจเพิ่มอาหารประเภทข้าวหรือถั่วบ้าง

    10. ให้รับประทานเนื้อที่ไม่ติดมันมากกว่าเนื้อที่ติดมัน

    ความดันโลหิตสูงหากเป็นแล้วไม่หาย ขาด แต่สามารถควบคุมได้โดยการรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ พบแพทย์ตามนัด ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางสุขภาพ เช่น การเลี่ยงรับประทานอาหารมันหรือเค็มจัด งดหรือเลี่ยงการสูบบุหรี่ การดื่มเหล้าหรือแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนัก และทำจิตใจให้ผ่องใส หากปฏิบัติได้เช่นนี้ท่านสามารถจะดำเนินชีวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไป.
    นายแพทย์สุรพงศ์ อำพันวงษ์

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มะเร็งลำไส้ใหญ่-มีวิธีให้รู้แต่เริ่มแรก
    http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=41263&NewsType=2&Template=1

    <TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>มะเร็งลำไส้ใหญ่ปัจจุบันได้พบมากขึ้นมาตลอด เนื่องจากวิถีชีวิตเรื่องอาหารการกินของคนในบ้านเราได้เปลี่ยนไปทางตะวันตกเพิ่มขึ้น จากอดีตที่เคยเน้นผักสมุนไพรแบบไทยเดิม มาเป็นอาหารจำพวกเนื้อ การออกกำลังกายลดน้อยลง ความเครียดเพิ่มตาม ล้วนเป็นตัวแปรให้เพิ่มทั้งสิ้น

    สถิติ เพศชายเป็นอันดับ 3 รองจากมะเร็งตับและปอด เพศหญิงราวอันดับ 5 ในบ้านเราโดยเฉลี่ยจากประชากร 100,000 คน จะพบราว 8-10 คน กรุงเทพฯ มากที่สุด ราว 14 คน รองลงไปเป็นเชียงใหม่และลำปาง 8-10 คน อีสานที่อุดรฯ 8 คน น้อยสุดทางภาคใต้ ดังนั้นในกรุงเทพฯหากมีประชากรนอกและในทะเบียนราว 10 ล้านคน จะพบถึงปีละ 1,400 คน ส่วนเรื่องอัตราการตายยังไม่มีใครรายงานไว้

    สาเหตุ พันธุกรรมยังมีส่วนเกี่ยวข้อง อายุที่พบมากจะเริ่มตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป พวกดื่มเหล้า กินอาหารไม่เลือก ประเภทเนื้อสัตว์มาก ผักเส้นใยน้อยและไขมันสูง มีแนวโน้มจะเป็นได้มากกว่าปกติ

    อาการ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงการถ่ายอุจจาระ อาจท้องผูกสลับท้องเดินบ่อย มีเลือดเก่า ๆ หรือเป็นมูกปนออกมา ท้องอืดท้องเฟ้อเรื้อรัง ไปจนถึงเบื่ออาหาร อ่อนเพลีย น้ำหนักลดลง หากคลำก้อนได้ที่หน้าท้อง อาเจียน แสดงว่าโรคได้ดำเนินไปมากแล้ว

    การรักษา ที่ปฏิบัติกันอยู่ทุกวันนี้ ได้แก่ การผ่าตัด เอาก้อนมะเร็งออก โดยเปิดผ่าตัดทางหน้าท้อง บางแห่งก็เจาะเป็นรูแล้วใส่เครื่องมือลงไปตัดออก รังสีบำบัด อาจให้ก่อนผ่าตัดเพื่อให้ก้อนเล็กลงหรือหลังผ่าตัดเพื่อควบคุมมะเร็งที่แพร่กระจายออกไป เคมีบำบัด ตัวยาจะไปทำลายเซลล์มะเร็ง ที่เหลือจากการผ่าตัด ซึ่งอาจให้ทางเส้นเลือดหรือรับประทาน ส่วน ชีว บำบัด สร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอยู่ระหว่างการวิจัย คงจะมีผลงานให้ปรากฏในอนาคตอันใกล้นี้

    การป้องกัน ควรรับประทานผักสดผลไม้มากหน่อย เนื้อน้อยลง อาหารพวกเบต้าแคโรทีน มากขึ้น คอยสังเกตดูการเปลี่ยนแปลงอุจจาระ น้ำหนักลงเมื่อใดต้องสงสัยไว้ด้วยเรื่องมะเร็งทุกชนิด

    ที่จะคุยวันนี้อยากจะบอกถึงเรื่อง วิธีการป้องกันที่จะรู้ได้เร็วที่สุด ว่าจะต้องทำอย่างไร สำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรตรวจอุจจาระ เพื่อหาเลือดปีละครั้ง หากพบเลือดต้องตรวจทางกล้องผ่านทางทวารหนักทันที มีผู้วิจัยว่าตรวจแบบนี้ถ้าพบจะลดอัตราตายลงถึง 25%

    การตรวจหาเลือดในอุจจาระ แบบใหม่กินอาหารตามปกติ ไม่ต้องงดพวกอาหารเนื้อเหมือนแบบเก่า เอาอุจจาระนิดเดียวละลายในน้ำยา แล้วหยดลงในแถบแผ่นสีขาว หากมีเลือดจะเปลี่ยนสีเป็นน้ำเงินทันที สะดวกรวดเร็วมาก ค่าน้ำยาและแถบ 35 บาท เรียกการตรวจแบบนี้ว่า Immuno chemical test

    เมื่อ 4-5 มิ.ย.นี้ ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ นำโดย นพ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ นพ.ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และ นพ.สมนึก เตมียสถิต ผอ.ศูนย์มะเร็งอุดรธานี ได้ร่วมจัดประชุมวิชาการและปฏิบัติการเรื่องมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก พร้อมจัดนิทรรศการให้ประชาชนได้ชมและเข้ามาบำบัดรักษาเพื่อตรวจหามะเร็งลำไส้ใหญ่ที่ศูนย์มะเร็งอุดรธานี จ.อุดรฯ

    ด้านวิชาการ ได้มีการบรรยายโดยแพทย์จากต่างประเทศ ส่วนกลางและท้องที่ พญ.วโรชา มหาชัย, นพ.ชวลิต เลิศบุษยานุกูล จาก รพ.จุฬาฯ พลตรี นพ.ปริญญา ทวีชัยการ รพ.พระมงกุฎฯ, นพ.บัญชา ตันชวลิต และ พญ.กฤติยา ธนศรี จันทร์ จากศูนย์มะเร็งอุดรฯ

    ด้านปฏิบัติการ จาก 5 สถาบัน ศูนย์ผ่าตัดทางกล้อง รพ.ราชวิถี, รพ.จุฬาฯ, รพ.ธรรมศาสตร์ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และศูนย์มะเร็งอุดรฯ ตรวจทางเดินอาหารส่วนบน (gastroscope) 6 เตียง ถึง 173 ราย ในวันเดียวไม่พบมะเร็ง แต่พบแผลในกระเพาะอาหารและเชื้อ H.pylori ที่ทำให้เกิดแผลหลายราย และตรวจทางเดินอาหารส่วนล่างทางกล้อง (Colonoscope) 11 ราย พบมะเร็งลำไส้ใหญ่ 2 ราย ก้อนเนื้อธรรมดา 3 ราย การปฏิบัติการครั้งนี้ช่วยวินิจฉัยโรคให้คนไข้แล้วยังได้ช่วยฝึกสอนศัลยแพทย์ละแวกนี้ให้มีความชำนาญเพิ่มขึ้นด้วย

    บ.เครื่องมือแพทย์ มาช่วย-ฟรี ได้แก่ บ.เค.เพอร์ฟอร์แมนซ์, บ.ไซแอน เอ็นจิเนียริ่ง, บ.บอสตัน ไซแอนติฟิค, บ.นิว ไลฟ์ เมด และ บ.โอลิมปัส ไทยแลนด์ เจ้าภาพขอขอบคุณที่ได้มาร่วมทำบุญกุศลกับคนไข้ร่วมกัน

    มะเร็งลำไส้ใหญ่ นับวันจะพบมากขึ้น จึงต้องระมัดระวังเรื่องอาหารการกิน และหมั่นตรวจสุขภาพดู โดยเฉพาะตรวจหาเลือดในอุจจาระเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุด ควรปรึกษาแพทย์ประจำของท่านหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านลำไส้ใหญ่ คงจะได้ความกระจ่างขึ้น.
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (ตามที่ท่านอาจารย์ประถม อาจสาครเป็นผู้ที่ค้นคว้ามา) ผมเปิดให้จองแล้วครับ โดยจองเล่มละ 200 บาทและค่าจัดส่งเล่มละ 50 บาท(โดยหากค่าจัดส่งมากกว่านี้ ผมจะจ่ายให้เองครับแต่หากน้อยกว่านี้ ผมจะนำไปเป็นค่าพิมพ์หนังสือครับ) และกรุณาระบุด้วยว่า จองกี่เล่ม โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    1.ต้องเป็นผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งเท่านั้น<O:p</O:p

    2.ผมขอสงวนสิทธิ์ในการรับจองหรือไม่รับจอง ถึงแม้ว่าจะได้มาร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งแล้วก็ตาม และผมไม่แจ้งเหตุผลให้ทราบนะครับ<O:p</O:p

    3.เงินค่าจองหนังสือ ผมจะแจ้งหมายเลขบัญชีให้ทราบทาง PM อีกครั้งเมื่อผมรับจองแล้ว
    บัญชีที่จะให้โอนเงินค่าหนังสือนั้น เป็นบัญชีที่ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ผมเองไม่สามารถที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งได้เลย <O:p</O:p


    4.เงินในส่วนต่างนั้น ผมจะนำเงินในส่วนนี้นำไปพิมพ์หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผมเริ่มให้จองตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2550 ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2550 เวลา 18.00 น. ครับ


    รูปเล่มนั้น ต้องยอมรับว่าสวยงามครับ อีกทั้งมีรูปพระพิมพ์อีกพอสมควร ทางคณะผู้จัดทำ จะทำให้ดีที่สุด เพื่อเทิดพระเกียรติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ที่พระองค์ได้มีความเมตตาที่มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ และอยู่ดูแลพระศาสนาไปจนครบ 5000 ปีตามพุทธดำรัสครับ

    ผมจะนำรายชื่อทั้งหมด ลงไว้ท้ายเล่มด้วยนะครับ

    ผมเองก็ใช้หนังสือเล่มนี้เป็นครูในการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรและเป็นส่วนหนึ่งในการเสาะแสวงหาพระของหลวงปู่ และอีกเล่มก็คือหนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าครับ

    ส่วนหนังสือปู่เล่าให้ฟังที่กำลังจะตามมานั้น เป็นเรื่องราวที่ท่านอาจารย์ประถมได้เคยเขียนลงในหนังสือต่างๆ และนำมารวบรวมไว้ในเล่มเดียวกัน แต่จะมีการปรับปรุงเนื้อหาบางเรื่อง ที่ได้ความรู้ใหม่ มาเพิ่มเติมขึ้นอีก และจะแตกต่างจะหนังสือปู่เล่าให้ฟังเล่มแรกและไม่ซ้ำกับหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
    สาเหตุที่ผมจะไม่รับจองหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    1.ผมไม่ต้องการให้หนังสือเล่มนี้ไปตกอยู่กับบุคคลที่จะนำไปหาผลประโยชน์(ไม่ว่ากรณีใดๆ)
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    2.ผมป้องกันในเรื่องของที่จะมีบุคคลที่นำข้อมูลไปทำพระปลอม เนื่องจากมีรูปสีค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าหากว่ามีการหลุดไปจริงๆ ผมถือว่าผมได้ทำหน้าที่นี้อย่างดีที่สุดแล้ว<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    3.คณะผู้จัดทำทุกๆท่าน ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และแรงเงิน ที่จะทำเพื่อเทิดพระเกียรติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    4.ผมเองตามหาเรื่องหลวงปู่มาเป็นระยะเวลา 10 ปี ถึงได้เจอ ได้พบเรื่องราวของหลวงปู่และพระพิมพ์ของท่าน ผมมีความพยายามตามหามาตลอดเวลา และที่สำคัญเมื่อผมได้พบนั้น ผมได้พบหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1 พระองค์(หลวงปู่ท่านอยู่ในห้าองค์ แต่ผมไม่บอกว่าผมได้พบองค์ไหนครับ) และหลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ด้วยตาเนื้อของผมเอง <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    5.มีวาสนาบารมีก็จะได้มีไว้ จะช้าหรือเร็วนั้นอีกเรื่องนึง แต่ถ้าไม่มีวาสนาบารมีทำอย่างไรก็จะไม่มีโอกาสมีไว้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หมายเหตุ บุคคลใดๆก็ตามทำอะไรไว้ จะได้รับผลที่ตนเองได้ทำไว้เสมอ <O:p</O:p
    <!-- / message --><!-- sig -->

    ************************************************
    ฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿

    รายละเอียดพระพิมพ์และวัตถุมงคล ที่มอบให้กับผู้ร่วมทำบุญในกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ ( http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=68899 ) จะอยู่ในหน้าแรกของกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

    ส่วนยอดคงเหลือ ผมจะแจ้งให้ทราบในกระทู้เป็นระยะครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ผมมาคุยให้ฟัง เรื่องของหนังสือ ปู่เล่าให้ฟัง เล่ม 2
    ผมเดาว่า ท่านอาจารย์ประถม ท่านน่าจะนำเรื่องนี้มามาลงในหนังสือเล่มนี้ด้วย แต่ยังไม่รู้ว่า ผมเดาถูกหรือผิด แต่จะมาลงเป็นตัวอย่างสักเล็กน้อยครับ


    กรรมวิธีการเก็บตัวยาใบไม้รู้นอน ๗ สิ่ง

    เล่าโดย ปรัศนี ประชากร
    (ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร)<O:p</O:p


    .....................ผู้เขียนเองศึกษาวิชาอิธะเจแฝดหรือปถมังอิธะเจลบต่อจากอิธะเจขาดตัว ............... เรียกว่าผงอ่อนใจรัก สร้างพระปิดตาบินเดี่ยวคุณภาพสูงเยี่ยมเท่าหลวงพ่อแก้ว วัดเคลือวัลย์ สมัยโบราณ พญามารได้กลั่นแกล้งจนล้มป่วยอาการขั้นปางตายมาแล้ว บังเกิดความเบื่อหน่ายแบ่งปันผงให้หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้งไปบ้าง ที่เหลือถวายเจ้าคุณวรพรต ปัญญาจารย์ วัดป่าอรัญญิกาวาส และท่านเจ้าคุณได้ถวายล้นเกล้ารัชกาลองค์ปัจจุบันนำไปสร้างพระสมเด็จจิตรลดาหมดไปแล้ว...................................
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผมมีคำถามมาถามทุกท่านที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งกันอีกแล้วครับ
    <O:p</O:p
    เริ่มตอบปัญหาได้ตั้งแต่บัดนี้( 22 มิถุนายน 2550) จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2550 เวลา 18.00 น.(เวลาในเว็บพลังจิต)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    โดยผมมีลูกอม(เป็นชานหมากพระอาจารย์รูปหนึ่ง ผสมกับผงต่างๆ เช่นผงอ่อนใจรักที่ท่านอาจารย์ประถม ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรัชกาลที่ 9 ,ผงหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ และผงอื่นๆอีกหลายๆอย่าง) เป็นรางวัลที่ 1 ส่วนรางวัลที่ 2 – 5 เป็นพระพิมพ์อรหังพิมพ์เล็ก จำนวน 4 รางวัล การให้คะแนน จะมีตั้งแต่ 1 – 10 โดย 10 คะแนนจะเป็นคะแนนสูงสุด , 1 จะเป็นคะแนนที่น้อยที่สุด ถ้าหากมีผู้ที่ตอบเกินกว่า 5 ท่าน ผู้ที่ได้คะแนนตั้งแต่ลำดับที่ 6 จนถึงลำดับที่ 10 ผมมีพระพิมพ์ที่เป็นพระปิดตา(ทรงชลูด) มอบให้ ถ้ามีผู้ที่ตอบคำถามมากกว่านี้คือตั้งแต่ลำดับที่ 11 เป็นต้นไป ผมมอบสมเด็จหลังเบี้ยให้ และทุกๆท่านที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งสามารถตอบได้ครับ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ส่วนรูปลูกอม และพระพิมพ์ที่ผมมอบให้นั้น ผมจะไม่ลงให้เห็น แต่จะให้รอลุ้นตอนรับนะครับ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    คำถามมีดังนี้<O:p</O:p
    1.คุณมีความคิดเห็น หรือความรู้สึกอย่างไร กับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร(ในกระทู้นี้)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    2.หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร(ในกระทู้นี้) หลวงปู่ท่านสอนอะไร<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    3.ตามเรื่องราวของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร(ในกระทู้นี้) คุณสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หรือไม่ ถ้าได้ ได้ในด้านใดบ้างและนำไปใช้ประโยชน์อย่างไร<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    4.คุณมีความคิดเห็นอย่างไร กับพระองค์ท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญที่พระองค์ท่านได้สร้างพระพิมพ์ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    5.คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับกระทู้นี้ (ตอบได้เต็มที่ทั้งด้านลบและด้านบวก ผมจะได้นำมาปรับปรุงตนเองด้วยครับ)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผมขอคำตอบไม่น้อยกว่า 5 บรรทัดครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผมขอให้คุณพันวฤทธิ์ และคุณเพชร เป็นคณะกรรมการการตัดสิน แต่หากว่าคะแนนเท่ากัน ผมขอให้คุณพันวฤทธิ์และคุณเพชร ตัดสินอีกครั้งครับ คำตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สุด ส่วนการให้คะแนนนั้น หากท่านใดตอบแล้ว ผมขอความกรุณาคณะกรรมการให้คะแนนได้เลย หรือว่าจะรวบรวมให้คะแนนครั้งเดียวก็ได้ และผมขอบพระคุณคณะกรรมการทั้งสองท่านด้วยครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    สามารถไปตอบในกระทู้ ร่วมสนุกตอบปัญหา มอบลูกอม ,สมเด็จอรหังพิมพ์เล็ก และอื่นๆ (http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=82524 ) หรือตอบในกระทู้ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้ .... ( http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=22445&page=568 ) กระทู้ใดกระทู้หนึ่งก็ได้ครับ


    มาแนะข้อมูลกันนิดนึงสำหรับประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร จะอยู่หน้าแรกในกระทุ้นี้ครับ


    ขอให้ทุกๆท่านโชคดี โมทนาสาธุครับ<O:p</O:p
    <!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ความ "เข้าใจ" ที่ไร้ประโยชน์?/อำนาจ
    http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9500000072842
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย อำนาจ เกิดเทพ</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>22 มิถุนายน 2550 19:07 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>สำหรับใครที่มีแฟนหรือเคยมีแฟน เคยมั้ยครับที่คุยกับแฟนแล้วไม่เข้าใจกันสักที ทั้งที่ในการพูดคุยนั้น ทั้งคุณและแฟนคุณเองต่างก็ยกคำว่า "เข้าใจ" มาใช้ในการสนทนา

    ที่สำคัญใช้เยอะอีกต่างหาก

    ประมาณว่า ชั้นเข้าใจนะว่าเธอ...แต่ทำไมเธอต้อง, ฉันเข้าใจดีว่ามันไม่มีอะไร...แต่, เข้าใจ เข้าใจ แต่...

    บางทีมันก็ชวนให้น่าคิด น่าสงสัยเหมือนกันนะครับว่า สรุป - ตกลงแล้วว่า ไอ้ที่ต่างฝ่ายต่างบอกว่าเข้าใจกันนั้น แท้ที่จริงต่างฝ่ายต่างเข้าใจกันจริงๆ หรือเปล่า?

    เข้าใจกันจริงๆ แต่ว่ารับไม่ได้ หรือว่าไม่เข้าใจ แต่ต้องบอกว่าเข้าใจเพื่อที่การสนทนาจะได้ดูมีเหตุผล ทั้งๆ ที่ท้ายที่สุดไอ้คำที่บอกว่าเข้าใจนั้นมันก็หามีประโยชน์อะไรไม่แต่อย่างใด ในเมื่อบทสรุปของการหยิบยกคำนี้ขึ้นมามันก็คือความไม่เข้าใจ อาการงอน หรืออาจจะเลยเถิดไปถึงการทะเลาะเบาแว้ง การไม่ยอมพูดจาต่อกันและกัน

    ตัวผมเอง มีหลายเรื่องเลยครับที่ผมเองก็คิดว่าตนเองเข้าใจ แต่เอาเข้าจริงๆ ปรากฏว่าไอ้ความเข้าใจที่ว่านี้มันมักจะทำให้ผมต้องเก็บมาคิดเล่นๆ แบบสวนทางชาวบ้านอย่างไร้สาระ หรือต้องขอแลกเปลี่ยนความเห็นจากเพื่อนๆ อยู่ตลอดเวลาว่า แท้ที่จริงแล้วผมเข้าใจในความเข้าใจของผมมากน้อยเพียงใด

    ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น กรณีเงื่อนไขในการมีความสุขของผู้เป็นพ่อ - แม่ส่วนใหญ่ซึ่งล้วนแล้วแต่มักตั้งอยู่บนเงื่อนไขที่รู้ๆ กันนั่นก็คือการได้เห็นลูกๆ มีความสุข ส่วนตนเองจะต้องมีแต่ความทุกข์ มีความยากลำบากสาหัสขนาดไหนก็ตามที

    ในขณะที่เงื่อนไขของลูกเองที่จะมีความสุขได้ก็คือการได้เห็นพ่อ - แม่ของตนเองไม่มีความลำบาก มีแต่ความสบายใจ ไม่ว่าในความเป็นจริงแล้ว ตนเองจะต้องเผชิญกับความทุกข์ ความลำบาก หรือจะต้องทนฝืนทำในอาชีพ ฝืนทำในกิจกรรมที่ตนเองอาจจะมิได้รักหรือไม่ต้องการเลย แต่ทั้งหมดก็เพื่อความสบายใจของพ่อแม่

    ถามกันแบบสนุกๆ นะครับว่า ถ้าต่างมีเงื่อนไขที่เป็นตรรกะเช่นนี้แล้ว ทั้งสองฝ่ายจะมีความสุขได้จริงๆ หรือ?
    ...
    ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันเพื่อหาบทสรุป ความเข้าใจหรือการพยายามที่จะเข้าใจในความคิดและเหตุผลของอีกฝ่ายเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่ผมว่ามันคงจะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยหากในท้ายที่สุดต่างฝ่ายต่างไร้ซึ่งการ "ยอมรับ" ด้วยความบริสุทธิ์ใจ อย่างปราศจากอคติ - ทิฐิ ต่อกันและกัน


    ตรงนี้ในโลกของความเป็นจริงถือว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะเกิดขึ้นจนบางครั้งต้องบอกว่าเป็นไปไม่ได้เสียด้วยซ้ำ ด้วยเหตุผลต่างๆ มากมาย ทั้งในสิ่งที่ตนเองเชื่อ ข่าวสารที่ได้รับรู้ หรือจะด้วยเหตุผลของเรื่องผลประโยชน์ ด้วยเหตุผลของความเห็นแก่ตัว และอื่นๆ อีกมากมาย ดูได้จากความวุ่นวายทางด้านการเมืองที่ปรากฏเป็นข่าวให้ได้รับทราบกัน

    เรื่องที่เกิดขึ้น ความไม่สงบที่เป็นอยู่ หากพิจารณาแล้วเราจะพบว่ามาจากคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่งต่างเป็นที่รับรู้กันดีว่าแทบจะไม่มีความน่าเชื่อถืออะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของคำพูด การกระทำ ประวัติ ผลงาน เกียรติยศ ฯลฯ

    จนบางครั้งบางคราผมเองก็อดมีความรู้สึกไม่ได้นะครับว่า ที่ประเทศชาติของเราบอบช้ำดูยุ่งเหยิงขนาดนี้ก็เพราะผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง(ตอนนี้ด้วยการพิจารณาจากข้อมูล ข่าวสาร การกระทำแล้ว ผมยังเข้าใจว่า "ผู้ใหญ่" ที่ว่านี้มีความ "หวังดี" ต่อประเทศจริงๆ)มัวแต่มาพยายามนั่งทำความเข้าใจกับคนเหล่านี้ว่ากระทำการต่างๆ ไปด้วยใจที่บริสุทธิ์ ด้วยเจตนาที่สูงส่ง อุดมไปด้วยอุดมการณ์หรือเปล่า?

    ทั้งๆ ที่หลายสิ่งหลายอย่างมันค่อนข้างจะประจักษ์ชัดในหลักฐาน และเหตุผลในความเป็นจริงที่ปรากฏออกมาตามข่าว

    ก่อนผลการตัดสินจะออกมา บอกว่าจะยอมรับและทำตามทุกอย่างโดยไม่มีเงื่อนไข พอมีการตัดสินออกมาจริงๆ กลับบอกว่าคนที่ทำหน้าที่ตัดสินไม่มีสิทธิ์ชอบธรรมที่จะมาทำหน้าที่ดังกล่าว, ตอนเย็นบอกเกลียด จะขอแยกทางกับเขา พอตอนค่ำแทบจะจูบปาก บอกขอตายพร้อมกัน, อยู่ข้างล่างเวทีบอกจะใช้วิธีอหิงสา จะชุมนุมกันอย่างสงบ พอขึ้นเวทีกลับปลุกเร้า ยุแยง ด้วยถ้อยคำรุนแรงหยาบคายที่มีความสุ้มเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงได้ง่าย ฯลฯ

    ดูสภาพการณ์ของสังคมที่เป็นไปแล้วมันอดรู้สึกเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ ครับ เพราะดูเหมือนว่ายังมีคนอยู่อีกจำนวนไม่น้อยทีเดียวที่เลือกจะเชื่อ เลือกที่จะคิด และเลือกที่จะกระทำโดยหามีหลักการที่เป็นเหตุเป็นผล หรือยึดเอากติกากฏหมายของบ้านเมืองที่ใช้อยู่ ณ.ช่วงเวลานี้ก็หาไม่

    หากแต่ยึดอยู่อย่างเดียวว่า ตัวเองเข้าใจถูกต้อง สิ่งที่ตนเองทำดีที่สุด ไม่จำเป็นที่จะต้องฟังใครอีกแล้ว...

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p> </o:p>
    เก็บตกมาจากเวบครับ นำมาให้อ่านขัดจังหวะแบบเข้าใจง่าย "จิตเป็นใหญ่ จิตเป็นประธาน ทุกสิ่งสำเร็จได้ด้วยจิต"
    <o:p> </o:p>
    พุทธศาสนาคือวิชาและระเบียบปฏิบัติเพื่อให้รู้ถึงสิ่งทั้งปวงถูกต้องตามความเป็นจริง
    ว่าอะไรเป็นอะไร
    สิ่งทั้งปวงนี้มีสภาพตามที่เป็นจริง คือไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา แต่สัตว์ทั้หลายหลงรักหลงยึดถือ
    สิ่งทั้งปวงเพราะอำนาจของอุปาทาน มีวิธีปฏิบัติเรียกว่า ศีล สมาธิ ปัญญา เพื่อจะตัดอุปทานนั้นเสีย
    อุปทานมีที่ลงเกาะ หรือ จับยึด ที่ขันธ์ทั้งห้า คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เมื่อรู้จักขันธ์ห้า
    ตามที่เป็นจริง ก็สามารถจะเข้าใจสิ่งทั้งปวงจนถึงกับเบื่อหน่ายคลายกำหนัด ไม่ยึดถือด้วยอุปาทาน
    และเราควรจะมีชีวิตอยู่อย่างที่เรียกว่า "เป็นอยู่ชอบ" คือให้วันคืนเต็มไปด้วยปิติและปราโมทย์
    อันเกิดจากการกระทำที่ดี ที่งาม ที่ถูกต้อง อยู่เป็นประจำ แล้วเกิดความระงับแห่งจิต เกิดสมาธิ
    เกิดความเห็นแจ้งได้เรื่อยๆไป จนกระทั่งเกิดนิพพิทา วิราคะ วิมุตติ และ นิพพาน ได้ตามความเหมาะสม
    ของสิ่งแวดล้อม หรือถ้าเราจะรีบเร่งทำให้เร็วกว่านั้น ก็มีแนวปฏิบัติที่เรียกว่า วิปัสสนาธุระ นับตั้งแต่
    มีศีลบริสุทธิ์ มีจิตบริสุทธิ์ มีทิฏฐิบริสุทธิ์ เรื่อยขึ้นไปจนถึงมีญาณทัสนะบริสุทธิ์ ในที่สุดก็จะตัดสังโยชน์
    ต่างๆได้ เรียกว่าการบรรลุมรรคผล

    (พุทธทาส อินทปัญโย)
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    พระอาทิตย์ขึ้น มันก็ต้องมีพระอาทิตย์ตก แล้ววันต่อมาพระอาทิตย์ก็ขึ้นอีก
    แล้วพระอาทิตย์ก็ตกอีก วนเวียนอยู่แบบนี้แหละครับ

    เมื่อนำมาเปรียบกับชีวิต ก็คงเป็นเรื่องของความสุข ความทุกข์
    ยังไงก็หลีกหนีไม่พ้น คนเรามีความสุข ก็ต้องมีความเศร้า คนเรามีความเศร้า ก็ต้องมีความสุข
    ขอให้เราเข้มแข็งทำใจรับกับสิ่งเหล่านั้นให้ได้ ยังไงก็หนีไม่พ้น เพราะนี่หรือคือชีวิต?<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    พันวฤทธิ์<o:p></o:p>
    23/6/50<o:p></o:p>
     
  17. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    วันนี้วันอาทิตย์ 24/6ตื่นเร็ว เพื่อเตรียมออกถวายสังฆทานต่างจังหวัดตามที่ปฏิบัติเป็๋นประจำทุกอาทิตย์นั่งจิบกาแฟไปเรื่อยๆ ก่อนออกจากบ้าน แนะนำเวบดีๆ สักเวบ เป็นเวบของคนสะเมิง เชียงใหม่ มีเพลงฟังสบายๆ เช่น lover's moon ด้วย หรือ ชุด Romance เปิดไปเข้า net ด้วย นับว่ามิเสียทีที่เป็นผู้มีอารมณ์สุนทรีย์ชะมัด ฟังยามละเลียดกาแฟ อื้อฮือ...คิดถึงตอนหนุ่มๆ

    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=auntymod&group=24
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ร่วมสนุกตอบปัญหา มอบลูกอม ,สมเด็จอรหังพิมพ์เล็ก และอื่นๆ
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=82524
    <TABLE class=tborder id=post604366 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 02:09 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#4 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>APIRAT<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_604366", true); </SCRIPT>
    สมาชิก​

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 02:16 PM
    วันที่สมัคร: Apr 2006
    ข้อความ: 51 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 357 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 567 ครั้ง ใน 50 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 77 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_604366 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->1.มีความเห็นว่าท่านมีตัวตนอยู่จริง และไม่ได้อยูไกลจากผู้ที่ศรัทธาท่านเลย แม้จะมีผู้เล่าที่มาของท่านและคณะแตกต่างกันไป หลากหลายแต่ยิ่งเพิ่มความอยากรู้อยากเห็นท่าน และรู้ว่าท่านนำศาสนาเข้ามาเผยแผ่ในดินแดนนี้และท่านก็ยังคงอยู่ดูแลศาสนาและผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตลอดเวลาไม่ทอดทิ้ง และแม้ที่สุดจะไม่ได้พบตัวตนท่านก็ตาม เพืียงขอให้้ได้ทำบุญกับท่านสักครั้งในชีวิตก็นับว่ามีความสุขใจเหมือนผมได้ร่วมสร้างเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง
    2.ก็อ่านมาเรื่อยๆ และก็มีการนำคำสอนของหลวงพ่อท่านอื่นๆมาแทรกบางกระทู้ จนจำไม่ค่อยได้แล้ว แต่เท่าที่พอจำได้ก็คือท่านไม่สอนให้ยึดถืออะไร แม้แต่ว่าท่านเป็นใคร มาจากไหน อายุเท่าไร มีกี่ชื่อ ท่านยังอยู่หรือนิพพานแล้ว เพราะไม่เป็นประโยชน์อะไร เอาเวลามารีบเร่งปฏิบัติให้หลุดพ้นจะดีกว่า
    3.การนำไปใช้เกี่ยวกับเรื่องของศรัทธาต่อพระรัตนตรัยและหลวงปู่ มีกำลังใจในการปฏิบัติธรรม สร้างบุญไม่ให้ขาดเพื่อเป็นเป็นพลังหนุนให้ชีวิตตนเองมีที่พึ่งตามแนวคำสอนของท่าน
    4.การที่ท่านสร้างพระจำนวนมากนั้น เป็นเรื่องที่ปฏิบัติสืบกันมาเพื่อสืบศาสนาให้ยืนยาวต่อยุคต่อสมัย เมื่อถึงเวลาผู้มีวาสนาย่อมได้รับพระขอท่่านมาคุ้มครอง และเป็นศิริมงคล ได้ร่วมบุญกับท่าน ส่วนเรื่องพระนั้นจะจริงหรือปลอม นั้นคิดว่าถ้าเราศรัทธาท่านแล้ว ท่านก็ย่อมประทานของจริงให้เราแน่นอน และก็เป็นการดีถ้าท่านไม่สร้างไว้ป่านนี้พวกเราก็อาจมีคนรู้จักหลวงปู่เทพโลกอุดรน้อยลง หรือเลือนหายไปจากความทรงจำ
    5.ก็ต้องขออนุโมทนา กระทู้นี้ทำให้ได้รับความรู้หลายอย่าง แม้แต่วิธีการเลี่ยมพระ ทำให้ทราบว่าพระของหลวงปู่มีอีกหลายพิมพ์ และความรู้อื่นๆ ทำให้ทราบว่าหลวงปู่และคณะกำลังปฏิบัติหน้าที่สำคัญจนกว่าพุทธศาสนาจะครบ5 พันปี เกิดความอบอุ่นใจว่าศาสนาพุทธนั้นจะดำรงอยู่คู่แผ่นดินไทยได้แน่นอน
    <!-- / message -->​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ท่านคณะกรรมการครับ

    ยังมีอีกกระทู้นะครับ ถ้าผมไม่ลืมผมจะนำมาลงในกระทู้นี้ให้ครับ

    กระทู้ ร่วมสนุกตอบปัญหา มอบลูกอม ,สมเด็จอรหังพิมพ์เล็ก และอื่นๆ
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=82524
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.matichon.co.th/khaosod/k...g=03bud05240650&day=2007/06/24&sectionid=0307
    [​IMG]

    วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6051​

    ความสงบ


    คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด



    ถ้าบุคคลมีใจผ่องใสแล้ว จะพูดก็ดี จะทำก็ดี ความสุขย่อมอำนวยผลติดตามเขาไป เหมือนเงาติดตามตน ฉะนั้น

    ใจดี ใจผ่องใส ต้องเป็นใจที่มีความสงบ สุขุม เยือกเย็นอยู่ภายใน ความสงบจึงเป็นคุณสมบัติของผู้มีปัญญา เป็นยอดปรารถนาของทุกคน ก่อให้เกิดประโยชน์สุขทั้งตนเอง และผู้อื่น ความสงบ 3 ประการ

    สงบกาย คือประพฤติดีทางกาย ไม่ทำลายทำร้ายชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น มีแต่ช่วยป้องกันรักษาชีวิตและทรัพย์สินของตนและผู้อื่น พยายามตั้งตนไว้ไม่ให้เป็นเหตุแตกแยกสามัคคี และเป็นที่รังเกียจสงสัยของคนรอบข้าง ทำหน้าที่การงานที่เป็นประโยชน์สุข ไม่มุ่งหน้าก่อความทุกข์ความเดือดร้อนให้เกิดแก่ตนและส่วนรวม

    สงบวาจา คือ ประพฤติดีทางวาจา เจรจาคำสัตย์ซึ่งเป็นถอยคำที่อมตะ ไม่สูญหายไปจากความนิยม น่าเคารพ น่านับถือ เป็นที่ไว้วางใจ ของชาวโลก ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนเพราะลมปาก เป็นคนพูดจริงทำจริง พูดอย่างไรทำได้อย่างนั้น จัดว่าเป็นคนรักศักดิ์ศรีของตัว ทำตนให้มีคุณค่าสามารถชนะใจคนพูดไม่จริงได้ พูดถ้อยคำอ่อนหวานประสานประโยชน์ พูดถ้อยคำมีหลักมีฐาน ไม่พูดถ้อยคำที่ก่อให้เกิดความแตกแยก ความทุกข์ความเดือดร้อนอันเป็นเหตุให้เสื่อมเสียแก่ตนและผู้อื่น จึงควรระวังวาจาให้ดีมีบทกวี สุนทรภู่ ประพันธ์ว่า

    ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์

    มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต

    แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร

    จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา

    สงบใจ คือประพฤติดีทางใจ เว้นจากอาฆาตพยาบาทปองร้ายกัน มีความพอใจด้วยของๆ ตน ประกอบด้วยเมตตาธรรม ปรารถนาความสุขความเจริญให้กันและกัน มีความเห็นชอบตามทำนองคลองธรรม อุปถัมภ์ใจให้บริสุทธิ์สะอาดปราศจากอุปสรรคปัญหาที่จะมากีดกั้นให้ทำความดี ความสงบใจเป็นสิ่งสำคัญ สนับสนุนให้เกิดความสงบกาย และสงบวาจา ได้ดียิ่งนัก

    เมื่อความสงบเข้าเยือน จิตใจจะตั้งมั่นไม่หวั่นไหว สงบนิ่งสามารถเข้าใจในสรรพสิ่งได้อย่างชัดเจน ดุจน้ำที่ใสและนิ่งที่อยู่ในภาชนะที่สะอาด ผู้คนสามารถมองผ่านภาชนะได้ชัดเจน พร้อมใช้สอยดื่มกินได้ตามประสงค์

    ผลดีของความสงบครบถ้วนทั้งกาย วาจา และใจ เมื่อสำรวจตนเองแล้วน่าชื่นชม ไม่มีตำหนิแม้สักนิด ผู้มีปัญญาพิจารณาแล้วยกย่องสรรเสริญ

    ชื่อเสียงกิตติศัพท์อันดีงามนี้ ย่อมฟุ้งขจรไปทั่วสารทิศ
     

แชร์หน้านี้

Loading...